ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*คะ*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: คะ, -คะ-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary ภาษา สเปน (ES) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
décalage[(เด-คะ-ลาจ)] (n) ระยะทิ้งช่วง, See also: R. EVS, ear-voice-span

Longdo Dictionary ภาษา มาเลย์ (MS) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
กู[กู] (n) เพคะ หรือ กระหม่อม เป็นคำราชาศัพท์มลายูถิ่น คำรับที่ผู้ชายและผู้หญิง(สามัญ)ใช้เมื้อเจ้านายมีรับสั่ง

Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
ขค[ขะ-คะ] (n) น. ผู้ไปในอากาศ, นก, แมลงที่ไปในอากาศได้ เช่น ผึ้ง ตั๊กแตน ตะวัน, ดาวเคราะห์, อากาศ, ลม, ลูกศร, ลูกธนู.
อัครเศรษฐ์[อัก-คะ-ระ-เสด] (name) ชายผู้เป็นเศรษฐีผู้ยิ่งใหญ่

Longdo Dictionary ภาษา ไทย (ศัพท์ธรรมะ) (TH-DHAMMA) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )
**ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
คนุ[คะ นุ] คาง

Longdo Dictionary ภาษา อังกฤษ (EN) - อังกฤษ (EN) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
คะแนนดิบ(n) raw score

Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - อังกฤษ (EN) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
รูปทรงเลขาคณิต[รูบ-ซง-เล-ขา-คะ-นิด] (n, adj, uniq) Geometric shapes

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
คะ(end) particle, See also: ending word, Syn. ค่ะ, ขา, Ant. ครับ, Example: ดิฉันว่าไม่ค่อยมีนะคะพูดไปพูดมาก็คิดว่าเวลาเราคงจะเหลือน้อยในเรื่องมหาดไทย, Thai Definition: คำต่อท้ายคำเชิญชวน หรือคำแสดงความสุภาพ
แคะ(v) pick out, See also: take out, dig out, extract, Syn. แซะออก, แกะออก, แงะออก, Example: ช่างกำลังแคะก้อนกรวดออกจากท่อน้ำมัน, Thai Definition: ใช้เล็บมือหรือสิ่งมีปลายแหลมเป็นต้นทำให้สิ่งที่ติดอยู่ข้างในหรือในซอกในรูหลุดออมมา
คะมำ(v) fall, See also: tumble, topple, Syn. ล้มคว่ำ, Example: เขาคะมำลงไปในถังขยะที่วางอยู่ใกล้, Thai Definition: อาการที่หน้าคว่ำหัวปักลง
คะเน(v) estimate, See also: approximate, conjecture, speculate, guess, Syn. คาด, ประมาณ, หมาย, เดา, กะ, Example: สภาพที่อยู่อาศัยของผู้คนในแถบจังหวัดนครปฐมเป็นลักษณะเรือนแถวสองชั้น คะเนว่าน่าจะสร้างขึ้นราวๆ สมัยรัชกาลที่ 6 และ 7, Thai Definition: คำนวณเอาอย่างหยาบๆ
ราคะ(n) lust, See also: sexual desire, passion, concupiscence, Example: พระตถาคตพุทธเจ้านั้นปราศจากราคะ โทสะ และโมหะ, Thai Definition: ความกำหนัด, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
คะนอง(adv) impetuously, See also: wildly, spiritedly, dashingly, Syn. คึก, ลำพอง, Example: ชายชรานึกถึงครั้งที่เป็นหนุ่มแน่นและท่องเที่ยวอย่างคะนอง, Thai Definition: ซึ่งแสดงอาการอย่างคึกลำพอง
คะนอง(v) be impetuous, See also: be wild, be high-spirited, be dashing, be fiery, Syn. คึก, ลำพอง, Example: ตอนยังเป็นเด็กนักเรียนเขารู้กันดีว่า ผมนั้นห่ามคะนองขนาดไหน, Thai Definition: แสดงอาการร่าเริง
คะนอง(adj) impetuous, See also: wild, high-spirited, dashy, fiery, Syn. คึก, ลำพอง, Example: เด็กหนุ่มที่กำลังอยู่ในวัยคะนองพวกนี้ส่วนใหญ่มักชอบการกระทำที่รุนแรง, Thai Definition: ซึ่งแสดงอาการคึกลำพอง
คะนอง(v) thunder, See also: rumble, roll, boom, Example: ฝนยังคงเทกระหน่ำ ฟ้ายังคะนองและสว่างวูบวาบ, Thai Definition: เรียกอาการของฟ้าที่มีเสียงลั่นเปรี้ยงๆ ว่า ฟ้าคะนอง
คะนึง(v) think of, See also: consider, contemplate, reflect, Syn. คิดถึง, นึกถึง, Example: เขาหวนคะนึงถึงคนรัก
คะเยอ(adv) itchy, Example: ยุงกัดผมจนผมคันคะเยอไปทั้งตัว, Thai Definition: อาการคันมากที่ทำให้ต้องเกา, คันมาก
คะแนน(n) mark, See also: score, point, tally, Syn. แต้ม, Example: ครูบอกว่าคะแนนที่จะได้ขึ้นอยู่กับจำนวนและคุณภาพของงานที่แต่ละคนทำ, Count Unit: คะแนน, Thai Definition: เครื่องหมายในการนับ, หน่วยที่ใช้ในการกำหนดค่าในการสอบหรือแข่งขัน
ภังคะ(n) cloth woven with many kind of thread, Thai Definition: ผ้าชนิดหนึ่งทอด้วยของหลายสิ่ง เช่น ผ้าด้ายแกมไหม
ภังคะ(n) destruction, See also: ruin, Syn. การแตก, การทำลาย, Notes: (บาลี - สันสกฤต)
ระแคะ(n) hint, See also: clue, intimation, Thai Definition: เงื่อนความ
ระแคะ(n) strategy, See also: trick, artifice, subterfuge
แคะไค้(v) nag, See also: scold, find fault, criticize, Syn. ค่อนแคะ, เหน็บ, เหน็บแนม, หาเรื่อง, ถากถาง, Example: เธอเฝ้าแคะไค้เขาได้ทุกเมื่อเชื่อวัน, Thai Definition: ซอกแซกหาเรื่องขึ้นมาว่า
กามราคะ(n) sexual intercourse, Example: นวนิยายเรื่องนี้คลุ้งคาวด้วยกลิ่นไอแห่งกามราคะ, Thai Definition: ความกำหนัดด้วยอำนาจของกาม
คาดคะเน(v) estimate, See also: speculate, guess, presume, conjecture, approximate, Syn. เดา, ประมาณ, กะ, Example: ค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหาทางการเงินของเม็กซิโกทั้งหมดยังคาดคะเนไม่ได้จนกว่าการปรับโครงสร้างธนาคารทั้งระบบจะทำได้สำเร็จ
ค่อนแคะ(v) satirize, See also: carp, cavil, Example: หากเพื่อนคนไหนใส่รองเท้ามาโรงเรียนก็จะถูกค่อนแคะด้วยสำนวนว่า ผู้ดีตีนแดงตะแคงตีนเดิน, Thai Definition: ค้นหาเอาสิ่งไม่ดีขึ้นมาว่าให้เจ็บใจ
ลงคะแนน(v) vote, See also: elect, ballot, Example: ในการเลือกตั้ง ส.ข. ครั้งนี้ คนในชุมชนมาลงคะแนนแค่ร้อยละ 10 เท่านั้น
หกคะเมน(v) fall head over heels, See also: summersault, Example: ถ้าเราไปขัดขาคนอื่น เราอาจจะหกคะเมนก็ได้เหมือนกัน, Thai Definition: เอาหัวปักลงที่พื้น เอาเท้าชี้ขึ้นเบื้องบนแล้วให้เลยไปข้างหลัง
แค่นแคะ(v) pick on, See also: blame, criticize, find fault, censure, Syn. ค่อนแคะ, วิจารณ์, เหน็บ, เหน็บแนม, Ant. ชมเชย, ยกย่อง, Example: พวกหนังสือพิมพ์พยายามแค่นแคะนักการเมืองอยู่ตลอดเวลา, Thai Definition: เฟ้นหาความชั่วขึ้นมากล่าว
การแคะหู(n) ear picking, See also: picking one's ear, Example: การแคะหูแรงๆ อาจทำให้หูเกิดการอักเสบได้
คะนึงถึง(v) miss, See also: think of, yearn, Syn. คิดถึง, ระลึกถึง, Ant. ลืม, Example: มิตรไมตรีของเขาทำให้ฉันคะนึงถึงอยู่เสมอ, Thai Definition: นึกถึงด้วยใจผูกพัน
คันคะเยอ(v) itch, Syn. คะเยอ, Example: เด็กๆ คันคะเยอเพราะเป็นลมพิษ, Thai Definition: อาการที่คันทำให้ต้องเการ่ำไป
คึกคะนอง(adv) impetuously, See also: clamorously, spiritedly, wildly, animatedly, Syn. ฮึกเหิม, ลำพอง, ร่าเริง, Example: เขาคิดอย่างคึกคะนองว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในวงการผลิตแผงวงจรรวม
คึกคะนอง(v) be impetuous, See also: be clamorous, be high-spirited, be wild, be in high spirit, Syn. ฮึกเหิม, ลำพอง, ร่าเริง, Example: วัยรุ่นกำลังคึกคะนองก็ต้องออกแสวงหาของดี อาจารย์ดีเพื่อศึกษาวิชาอาคมไสยศาสตร์
คึกคะนอง(adj) impetuous, See also: clamorous, high-spirited, lively, Syn. ฮึกเหิม, ลำพอง, ร่าเริง, Example: ผมไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนวัยคึกคะนองอย่างผมจึงได้อุทิศตนให้กับศาสนา
ตลกคะนอง(adv) crack jokes, See also: wild comical, mettlesome joke, savage joke, Example: คนบางคนพูดจาตลกคะนองตามใจชอบ, Thai Definition: แสดงอาการที่พูดหรือทำให้ผู้อื่นขบขันด้วยกิริยาวาจาที่ไม่สุภาพ
ตัดคะแนน(v) cut down one's marks, See also: reduce one's marks, Syn. หักคะแนน, Example: ผู้ตัดสินหรือกรรมการมีสิทธิ์ตัดคะแนนของผู้เล่นหรือของทีมได้
นับคะแนน(v) count votes, Example: คณะกรรมกรรมเริ่มนับคะแนนหลังจากปิดหีบเลือกตั้ง
ฟ้าคะนอง(n) thunder, Example: เมฆคิวมูโลนิมบัสเป็นเมฆที่ทำให้เกิดฟ้าคะนอง กล่าวคือในระหว่างที่มีฝนตกจะมีพายุลมแรง, Thai Definition: ฟ้าลั่นทั่วๆ ไป
วัยคะนอง(n) wild age, See also: age of high-spirits years, Syn. วัยคึกคะนอง, Example: น้องๆ ที่กำลังอยู่ในวัยคะนอง อย่าเอาแบบอย่างในทีวีมาเล่นกันจนเกิดอันตราย, Count Unit: วัย, Thai Definition: ระยะของอายุที่อยู่ในช่วงกำลังคึกหรือลำพอง
หักคะแนน(v) deduct marks, See also: deduct marks for errors, Syn. ตัดคะแนน, ตัดแต้ม, Ant. เพิ่มคะแนน, Example: กรรมการจะหักคะแนนทีมที่ไม่ลงแข่งขันภายในระยะเวลาที่กำหนดทีมละ 3 คะแนน, Thai Definition: ลบจำนวนแต้มที่ทำได้ออก
หัวคะแนน(n) election canvasser, See also: election campaigner, Example: การจ่ายเงินซื้อเสียงจะจ่ายผ่านทางหัวคะแนน มักจะกระทำกันในระยะ 2-3 วันก่อนวันเลือกตั้ง, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้รับหาคะแนนเสียงให้แก่ผู้สมัครระดับเลือกตั้ง, Notes: (ปาก)
หัวคะแนน(n) election canvasser, See also: election campaigner, Example: การจ่ายเงินซื้อเสียงจะจ่ายผ่านทางหัวคะแนน มักจะกระทำกันในระยะ 2-3 วันก่อนวันเลือกตั้ง, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้รับหาคะแนนเสียงให้แก่ผู้สมัครระดับเลือกตั้ง, Notes: (ปาก)
อึงคะนึง(adj) noisy, See also: clamorous, Syn. เอะอะ, อื้ออึง, Ant. เงียบ
อึงคะนึง(adv) noisily, See also: clamorously, Syn. เอะอะ, อื้ออึง, Ant. เงียบ, Example: รถติดจนคนขับรถหัวเสียกดแตรบีบไล่กันอึงคะนึง
อึงคะนึง(v) be noisy, See also: be clamorous, Syn. เอะอะ, อื้ออึง, Ant. เงียบ, Example: ในฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เสียงลมเสียงฟ้าอึงคะนึง กิ่งใบของต้นไทรใหญ่หน้าตึกเรียนไหวยวบเหมือนถูกมือยักษ์จับ
เอตทัคคะ(n) specialist, See also: expert, master, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้ยอดเยี่ยมในทางใดทางหนึ่งเป็นพิเศษ, Notes: (บาลี)
แพ้คะแนน(v) be voted down, Syn. แพ้แต้ม, Example: นักมวยจากเกาหลีใต้แพ้คะแนนนักมวยไทยอย่างห่างชั้น, Thai Definition: มีคะแนนสู้ไม่ได้
ให้คะแนน(v) mark, See also: give credit mark, grade, Syn. ให้แต้ม, Example: ผู้ชมให้คะแนนนักร้องมือใหม่อย่างท่วมท้นจนชนะเลิศในการแข่งขัน, Thai Definition: ให้ค่าในการสอบหรือการแข่งขัน
ไม้แคะหู(n) earpick, Example: แก้วหูได้รับการกระทบกระเทือนเชื้อโรคเข้าเพราะการแคะหูด้วยไม้แคะหูที่ไม่สะอาด, Count Unit: เล่ม, อัน
ความคะนอง(n) stinginess, See also: meanness, Syn. ความคึกคะนอง, Example: จำเลยรับสารภาพว่ากระทำการปล้นเพราะความคะนอง, Thai Definition: การแสดงออกที่เกินขอบเขตด้วยการพูดหรือการทำด้วยอาการลำพอง
คะแนนนิยม(n) popularity, Syn. คะแนนเสียง, คะแนนสนับสนุน, Example: ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแทบทุกคนได้หยิบยกเอาการแก้ไขปัญหานี้เป็นนโยบายสำคัญหรือเรียกร้องคะแนนนิยมจากประชาชนชาวกรุงเทพฯ, Thai Definition: ความนิยมที่แสดงออกว่ามีมากน้อยเพียงไร
คะแนนเต็ม(n) full marks, Example: การแข่งขันรอบนี้มีคะแนนเต็มทั้งหมด 500 คะแนน, Count Unit: คะแนน, Thai Definition: จำนวนแต้มการนับสำหรับคะแนนที่ทำได้ทั้งหมด
คะยั้นคะยอ(v) urge, See also: exhort, coax, cajole, wheedle, Syn. รบเร้า, เซ้าซี้, Example: แม่เฒ่าคะยั้นคะยอให้ลูกชายกินข้าวให้มากๆ โดยเฉพาะไก่ต้มใส่ใบยา, Thai Definition: หนุนให้ทำ, ชักชวนให้ตกลงใจทำด้วยการรบเร้า
คะแนนเสียง(n) vote, See also: ballot, Example: ส่วนหนึ่งของความสำเร็จของหัวคะแนนในการชักจูงให้ชาวบ้านลงคะแนนเสียงให้แก่ผู้สมัครที่ตนสนับสนุนคือ การที่หัวคะแนนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับชาวบ้าน, Thai Definition: ความเห็นที่ลงเป็นคะแนน, คะแนนจากผู้ที่มีสิทธิ์ออกเสียง
ระแคะระคาย(n) inkling, See also: hint, trace, clue, Syn. เค้า, เค้าเงื่อน, Thai Definition: เค้าเงื่อนที่ทราบมานิดๆ หน่อยๆ แต่ยังยืนยันให้แน่นอนไม่ได้

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
กามราค, กามราคะ(กามมะราก, กามมะ-) น. ความกำหนัดในกาม.
ข่มเหงคะเนงร้ายก. รังแกเบียดเบียน.
ขรรคะ, ขรรคา(ขักคะ, ขันคา) น. แรด เช่น หนึ่งนบสิขานนนารถ เถลิงขรรคาอาศน์ แลยาตรอัมพรแผ่นพาย (ดุษฎีสังเวย).
ค่อนแคะก. ค้นหาเอาสิ่งที่ไม่ดีขึ้นมากล่าวติเตียน.
คะ ๑คำกร่อนของคำหน้าซึ่งซ้ำกับคำหลังในคำที่มี ค เป็นพยัญชนะต้นในบทกลอน เช่น ครื้นครื้น กร่อนเป็น คะครื้น โครมโครม กร่อนเป็น คะโครม มีคำแปลอย่างเดียวกับคำเดิมนั้น และมีความหมายในทางย้ำเน้นคำ.
คะ ๒ว. คำลงท้ายที่ผู้หญิงใช้ต่อจากคำถามหรือคำแสดงความสงสัยเพื่อแสดงความสุภาพ เช่น อะไรคะ กระมังคะ, คำลงท้ายที่ผู้หญิงใช้ต่อจากคำ ซิ นะ เพื่อแสดงความสุภาพ เช่น เชิญซิคะ ไปนะคะ.
คะไขว่(-ไขฺว่) ว. ขวักไขว่, สับสน, โบราณเขียนเป็น คไขว่ ก็มี เช่น ขว้างหอกซรัดคไขว่ ไล่คคลุกบุกบัน (ตะเลงพ่าย).
คะค้อยก. เดินไม่ขาดตอน, โบราณเขียนเป็น คค้อย ก็มี เช่น คค้อยไปซุ่มซ่อน ดูศึกผ่อนพลเดอร (ตะเลงพ่าย).
คะคานก. ค้านกัน, ยังตกลงกันไม่ได้, เช่น จะเอาชนะคะคานอะไรกัน.
คะคึงว. ดังสนั่น.
คะนนน. เรียกหม้อดินขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ตัวหม้อกลมป้อม ปากแคบ มีขีดเป็นรอยโดยรอบ สำหรับใส่น้ำ น้ำตาลโตนด เป็นต้น ว่า หม้อคะนน, ทะนน ก็ว่า.
คะนองก. แสดงอาการร่าเริง, คึก, ลำพอง
คะนองพูดหรือทำเกินขอบเขต เช่น คะนองปาก คะนองมือ
คะนองเรียกอาการของฟ้าที่มีเสียงลั่นเปรี้ยง ๆ ว่า ฟ้าคะนอง.
คะน้าน. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด <i> Brassica alboglabra</i> L. H. Bailey ในวงศ์ Cruciferae ใช้เป็นผัก, คาน้า ก็เรียก.
คะนึงก. คิดทบทวน, นึกตรอง, คำนึง ก็ว่า.
คะเนก. กะ, คำนวณเอาอย่างหยาบ ๆ, เช่น คะเนให้พอดี.
คะเนงร้ายใช้เข้าคู่กับคำ ข่มเหง เป็น ข่มเหงคะเนงร้าย.
คะแนนน. เครื่องหมายในการนับ, หน่วยที่ใช้กำหนดค่าในการสอบหรือแข่งขันเป็นต้น.
คะแนนนิยมน. ความนิยมที่แสดงออกว่ามีมากน้อยเพียงใด.
คะแนนเสียงน. คะแนนที่ลงในการออกเสียง.
คะในบ. ข้างใน, ในกลอนเขียนเป็น คใน เช่น ปางพระไปนอน คในพนานต์ พระเอาภูบาล ไปสมกัลยา (สมุทรโฆษ).
คะมำก. ล้มควํ่า, อาการที่หัวพุ่งไปเพราะสะดุด.
คะมึกว. แข็งแรง, ลํ่าสัน.
คะยั้นคะยอก. ชักชวนให้ตกลงใจด้วยการรบเร้า.
คะเยอว. อาการที่คันทำให้ต้องเการํ่าไป เรียกว่า เกาคะเยอ คันคะเยอ.
คุคะน. ชื่อไม้เถา ใช้ทำยาได้.
เคาะแคะก. พูดพาดพิงเชิงชู้สาว, พูดเชิงเกี้ยวพาราสี, เกาะแกะ ก็ว่า.
เคี่ยมคะนองน. ชื่อไม้ต้นขนาดใหญ่ชนิด <i> Shorea henryana</i> Pierre ในวงศ์ Dipterocarpaceae ลำต้นสูงตรงมาก มีมากตามป่าดิบทางภาคตะวันออกและภาคใต้.
แค่นแคะ, แค่นไค้ก. เฟ้นหาความชั่วขึ้นมากล่าว, เซ้าซี้จะให้ได้สมประสงค์.
แคะ ๑น. ชาวจีนพวกหนึ่งในมณฑลกวางตุ้งของประเทศจีน เรียกว่า จีนแคะ, เรียกภาษาของชาวจีนพวกนี้ ว่า ภาษาแคะ.
แคะ ๒ก. ใช้เล็บหรือสิ่งมีปลายแหลมเป็นต้นทำให้สิ่งที่ติดอยู่ข้างในหรือในซอกในรูหลุดออกมา.
แคะไค้ก. ซอกแซกหาเรื่องขึ้นมาว่า.
จาคะน. การสละ, การให้ปัน.
เจ้าคะว. คำที่ผู้หญิงใช้เรียกหรือถามผู้ใหญ่อย่างสุภาพ.
ดุรค, ดุรคะ(ดุรก, ดุระคะ) น. ม้า.
ตลกคะนองว. อาการที่พูดหรือทำให้ขบขันด้วยกิริยาวาจาที่ไม่สุภาพ.
ตุรคะ(ตุระคะ) น. ม้า.
ธรรมจาคะน. การละธรรม, การละเมิดศาสนา, การทิ้งศาสนา.
นค-, นคะ(นะคะ-) น. ภูเขา.
นัค- ๒, นัคคะ(นักคะ-) ว. เปลือยกาย เช่น นัคสมณะ ว่า ชีเปลือย.
พระคะแนนน. พระเครื่องขนาดเล็ก ใช้เป็นสิ่งกำหนดนับจำนวนพระเครื่องที่สร้างขึ้น เช่น เมื่อสร้างพระเครื่องครบ ๑๐๐ องค์ ก็มีพระคะแนน ๑ องค์.
พายุฟ้าคะนองน. พายุที่มีทั้งฟ้าแลบ ฟ้าร้อง ลมกระโชกแรง และมีฝนตกหนัก บางครั้งมีลูกเห็บตกลงมาด้วย.
เพคะว. คำรับที่ผู้หญิงใช้เมื่อพระมหากษัตริย์จนถึงพระบรม-วงศ์ชั้นพระองค์เจ้ามีพระราชดำรัสหรือมีพระดำรัสด้วยเป็นการภายใน, คำรับที่ผู้หญิงใช้เมื่อพระอนุวงศ์ชั้นพระองค์เจ้าจนถึงหม่อมเจ้ามีพระดำรัสหรือมีรับสั่งด้วย.
ฟ้าคะนองน. ฟ้าลั่นติดต่อกัน.
ภคะน. โชคดี, ความเจริญ, เกียรติ.
ภังค-, ภังคะ(พังคะ-) น. การแตก, การทำลาย
ภังค-, ภังคะความยับเยินล่มจม. (ป., ส.)
ภังค-, ภังคะผ้าชนิดหนึ่งทอด้วยของหลายสิ่งเช่นผ้าด้ายแกมไหม.
ภุชคะ, ภุชงค์, ภุชงคมะ(พุชะคะ, พุชง, พุชงคะมะ) น. งู, นาค.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
poll๑. การออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง๒. การหยั่งเสียง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
poll๑. การหยั่งเสียง (ก. ปกครอง)๒. การออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง (ก. ปกครอง)๓. การลงคะแนนลับ (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
projection periodช่วงเวลาคาดคะเน [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
popular voteคะแนนเสียงของผู้มีสิทธิเลือกตั้ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
pork barrelเงินช่วยท้องถิ่นเพื่อหาคะแนนนิยม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
political forecastingการคาดคะเนทางการเมือง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
pluralityคะแนนเสียงที่เหนือกว่า (คู่แข่งขัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
projection๑. ภาพฉาย๒. การฉาย๓. ผลการคาดคะเน [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
pooling placeที่ลงคะแนนเลือกตั้ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
protest voteการออกเสียงลงคะแนนคัดค้าน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
plural votingการออกเสียงลงคะแนนได้หลายเสียง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
population projectionการคาดคะเนประชากร [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
paradox of votingผลการออกเสียงลงคะแนนที่แย้งกันในตัว [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
long ballotการลงคะแนนเลือกตั้งหลายตำแหน่ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
limited voteการลงคะแนนเสียงแบบจำกัด [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
loss expectancyการคาดคะเนวินาศภัย [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
record vote๑. การออกเสียงลงคะแนนโดยวิธีเรียกชื่อ๒. การได้คะแนนเสียงมากเป็นประวัติการณ์ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
recountการนับคะแนนเสียงใหม่ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
retrojectionการคาดคะเนย้อนหลัง [ ดู backward projection ] [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
repeaterผู้เวียนลงคะแนนเลือกตั้ง (หลายครั้ง) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
stalking-horseผู้สมัครเพื่อดึงคะแนน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
standard scoreคะแนนมาตรฐาน [ มีความหมายเหมือนกับ z score ] [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
show of handsการลงคะแนนโดยวิธีชูมือ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
single transferable voteคะแนนเสียงที่ปัดให้ลำดับถัดไป [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
surmiseการเดา, การคาดคะเน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
secret ballotการลงคะแนนเลือกตั้งลับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
simple majorityคะแนนเสียงข้างมากปรกติ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
short ballotการลงคะแนนเลือกตั้งน้อยตำแหน่ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
still huntการใช้เล่ห์ล่าคะแนนเสียง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
speculationการคาดคะเน, การเก็งความจริง [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
score๑. คะแนน๒. ยี่สิบ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
absentee votingการลงคะแนนเสียงโดยไม่ต้องไปที่หน่วยเลือกตั้ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
absentee votingการลงคะแนนเลือกตั้งของผู้ไม่สามารถไป ณ ที่เลือกตั้ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
astraphobiaอาการกลัวฟ้าคะนอง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
absolute majorityคะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
absolute majorityคะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
advisory ballotการลงคะแนนหยั่งความนิยม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
alternative voteการออกเสียงลงคะแนนหลายรอบ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
quotient, electoral; quota, electoralเกณฑ์คะแนนเสียงอย่างน้อย (ที่จะได้รับเลือกตั้ง) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
quota, electoral; quotient, electoralเกณฑ์คะแนนเสียงอย่างน้อย (ที่จะได้รับเลือกตั้ง) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
board, countingคณะกรรมการตรวจคะแนน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ballot, advisoryการลงคะแนนหยั่งความนิยม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ballot, longการลงคะแนนเลือกตั้งหลายตำแหน่ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ballot, secretการลงคะแนนเลือกตั้งลับ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
behaviour, votingพฤติกรรมการลงคะแนนเลือกตั้ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
backward projectionการคาดคะเนย้อนหลัง [ ดู retrojection ] [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
ballot๑. บัตรเลือกตั้ง๒. การลงคะแนนโดยใช้บัตร [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
ballotการออกเสียงลงคะแนนด้วยบัตรเลือกตั้ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
barrel, porkเงินช่วยท้องถิ่นเพื่อหาคะแนนนิยม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
buying an electionการซื้อคะแนนเสียง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Agricultural projectionการคาดคะเนทางการเกษตร [เศรษฐศาสตร์]
Export projectionการคาดคะเนการส่งออก [เศรษฐศาสตร์]
Demand forecastingการคาดคะเนอุปสงค์ [เศรษฐศาสตร์]
Balance of trade projectionการคาดคะเนดุลการค้า [เศรษฐศาสตร์]
Budget projectionการคาดคะเนงบประมาณ [เศรษฐศาสตร์]
Economic forecastการคาดคะเนภาวะเศรษฐกิจ [เศรษฐศาสตร์]
Economic forecastingการคาดคะเนภาวะเศรษฐกิจ [เศรษฐศาสตร์]
Price projectionการคาดคะเนราคา [เศรษฐศาสตร์]
Economic projectionการคาดคะเนทางเศรษฐกิจ [เศรษฐศาสตร์]
Energy forecastการคาดคะเนพลังงาน [เศรษฐศาสตร์]
Stochastic effect of radiationผลไม่ชัดเจน , ผลของรังสีที่คาดคะเนจากข้อมูลทางสถิติของผู้ที่ได้รับรังสี โดยโอกาสเกิดผลกระทบจะเป็นสัดส่วนโดยตรงกับปริมาณรังสี แต่ความรุนแรงของผลกระทบไม่ขึ้นกับปริมาณรังสี เช่น โอกาสของการเกิดมะเร็งจะเพิ่มขึ้นเมื่อได้รับปริมาณรังสีสูงขึ้น [นิวเคลียร์]
Yogaโยคะ [TU Subject Heading]
Yoga, Rajaสมาธิ (โยคะ) [TU Subject Heading]
Collardsผักคะน้า [TU Subject Heading]
Credit scoring systemsระบบการให้คะแนนสินเชื่อ [TU Subject Heading]
Grading and marking (Students)การให้คะแนน (นักศึกษา) [TU Subject Heading]
Grading and marking (Students)การให้คะแนน (นักเรียน) [TU Subject Heading]
Hatha yogaโยคะ (กายบริหาร) [TU Subject Heading]
Kayah (Southeast Asian people)ชาวคะยา [TU Subject Heading]
Scoringการคิดคะแนน [TU Subject Heading]
Votingการลงคะแนนเสียง [TU Subject Heading]
Thunderstorm Turbulenceการปั่นป่วนในบริเวณพายุฟ้าคะนอง, Example: การปั่นป่วนของกระแสอากาศอย่างรุนแรงซึ่งมัก เกิดขึ้นในบริเวณข้างเคียง หรือในบริเวณที่มีเมฆพายุฟ้าคะนอง [สิ่งแวดล้อม]
Catalystคะตะลิสต์, Example: สารที่ไปเปลี่ยนอัตราปฏิกริยาโดยตัวเองไม่ เปลี่ยนแปลง คะตะลิสต์ อาจเปลี่ยนลักษณะทางกายภาพได้ [สิ่งแวดล้อม]
Thundery Showerฝนซู่ฟ้าคะนอง, Example: ฝนตกลงมาแบบฝนซู่โดยมีปรากฏการณ์ฟ้าแลบ ฟ้าร้องเกิดขึ้นด้วย [สิ่งแวดล้อม]
Thundery Rainฝนฟ้าคะนอง, Example: น้ำฟ้าซึ่งอาจเป็นฝน ลูกเห็บ หิมะ ฯลฯ ตกลงมาเป็นครั้งคราว หรือ ตกเป็นระยะๆ ประเดี๋ยวแรงประเดี๋ยวเบา โดยมากจะมีฟ้าแลบ หรือ ฟ้าคะนองด้วยแต่ไม่เสมอไป [สิ่งแวดล้อม]
Amendments to the Charter of the United Nationsการแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรของสหประชาชาตินั้น เปิดโอกาสให้มีการแก้ไขได้โดยสมัชชาสหประชาชาติหรือโดยที่ประชุมใหญ่ (General Conference) ของสมาชิกสหประชาชาติ ซึ่งอาจจะประชุมกัน ณ วันเวลาและสถานที่ตามแต่จะมีการตกลงกัน โดยคะแนนเสียง 2 ใน 3 ส่วนของสมัชชาใหญ่ และโดยคะแนนเสียงของสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงใด ๆ 7 เสียง ในที่ประชุมใหญ่นั้น สมาชิกแต่ละประเทศของสหประชาชาติจะมีเสียงลงคะแนน 1 เสียงการที่จะแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติให้เป็นผลสำเร็จ จะต้องได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกเป็นจำนวน 2 ใน 3 ส่วนของสมาชิกทั้งหมดในสมัชชาหรือจากที่ประชุมใหญ่ เมื่อการแก้ไขกฎบัตรเป็นที่รับรองแล้ว จะมีผลบังคับต่อสมาชิกทั้งหมดของสหประชาชาติ ก็ต่อเมื่อได้รับการสัตยาบันจากสมาชิก 2 ใน 3 ส่วนของจำนวนทั้งหมด รวมทั้งการรับรองจากสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงด้วยอาทิเช่น ในสมัยประชุมที่ 18 ของสมัชชาใหญ่ การแก้ไขกฎบัตรได้รับการรับรองเห็นชอบด้วย โดยผ่านข้อมติที่ 1991 (XVII) ในการแก้ไขครั้งนี้ได้เพิ่มจำนวนสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงจาก 11 เป็น 15 คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมจาก 18 เป็น 27 ประเทศ การแก้ไขดังกล่าวได้รับการลงมติรับรองเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1963 ในปัจจุบันนี้ ประเทศสมาชิกเป็นจำนวนมากกำลังเรียกร้องให้มีการปรับจำนวนสมาชิกถาวรของคณะ มนตรีความมั่นคงเสียใหม่ [การทูต]
Commission on Human Rightsคณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น [การทูต]
International Court of Justiceศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1945 ตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ กฎข้อบังคับ (Statute) ของศาลโลกนั้นได้ผนวกอยู่ท้ายกฎบัตรของสหประชาชาติ และถือเป็นส่วนสำคัญอย่างแยกจากกันมิได้ของกฎบัตร ศาลนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นองค์กรแห่งศาลหรือแห่งตุลาการสำคัญที่สุดขององค์การสหประชาชาติ ประเทศใดที่เข้าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลก ย่อมมีสิทธิที่จะส่งคดีใดก็ตามไปให้ศาลโลกพิจารณาได้ ภายใต้เงื่อนไขที่คณะมนตรีความมั่นคงได้จัดวางไว้ นอกจากนั้น คณะมนตรีความมั่นคงก็อาจจะส่งกรณีพิพาททางกฎหมายไปให้ศาลพิจารณาได้ทั้ง สมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงสามารถขอคำปรึกษาหรือความเห็นจากศาลเกี่ยวกับ ปัญหาข้อกฎหมายใดๆ และองค์กรอื่น ๆ ของสหประชาชาติ อันรวมถึงองค์การชำนัญพิเศษ ก็สามารถขอคำปรึกษา หรือความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางกฎหมายใดๆ ที่อยู่ภายในกรอบของงานที่ปฏิบัติอยู่ แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับอนุมัติเห็นชอบจากสมัชชาสหประชาชาติก่อน สมัชชาเคยมอบอำนาจเช่นนี้แก่คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะมนตรีภาวะทรัสตี คณะกรรมาธิการระหว่างกาล (Interim Committee) ของสมัชชา รวมทั้งองค์กรระหว่างรัฐบาลบางแห่งด้วยรัฐทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของสหประชา ชาติถือว่าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกไปในตัว ส่วนประเทศใดที่มิใช่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็อาจเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกได้ ตามเงื่อนไขที่สมัชชาสหประชาชาติเป็นผู้กำหนดเป็นราย ๆ ไป ตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง ศาลโลกมีอำนาจที่จะพิจารณาปัญหาทั้งหลายที่รัฐสมาชิกขอให้พิจารณา รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ทั้งหลายที่ระบุอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ และตามสนธิสัญญาหรืออนุสัญญาที่ใช้บังคับอยู่ รัฐสมาชิกย่อมยอมผูกพันตนล่วงหน้าได้ที่จะยอมรับอำนาจศาลในกรณีพิเศษต่าง ๆ โดยจะต้องลงนามในสนธิสัญญา หรืออนุสัญญาซึ่งยอมให้ส่งเรื่องไปที่ศาลได้ หรือออกประกาศเป็นพิเศษว่าจะปฏิบัติเช่นนั้น ในคำประกาศเช่นนั้นจะต้องระบุว่ายอมรับอำนาจบังคับของศาลโลก และอาจจะยกเว้นคดีบางประเภทมิให้อยู่ในอำนาจของศาลได้ ในการวินิจฉัยลงมติ ศาลโลกจะอาศัยแหล่งที่มาของกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้ คือ- สัญญาหรืออนุสัญญาระห่างประเทศซึ่งวางกฎข้อบังคับที่รัฐคู่กรณียอมรับ- ขนบธรรมเนียมระหว่างประเทศซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปตามที่ กฎหมายรับรองศาลโลกอาจจะตัดสินชี้ขาดว่าสิ่งใดยุติธรรมและดี โดยรัฐภาคีที่เกี่ยวข้องตกลงเห็นชอบด้วยคณะมนตรีความมั่นคงอาจจะรับการขอ ร้องจากรัฐภาคีหนึ่งใดในกรณีพิพาท ให้กำหนดมาตรการที่จะใช้เพื่อให้คำตัดสินของศาลมีผลบังคับ ถ้าคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใต้อำนาจศาลศาลโลก ประกอบด้วยผู้พิพากษารวม 15 ท่าน ซึ่งถือกันว่าเป็น ?สมาชิก? ของศาล และได้รับเลือกตั้งจากสมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ผู้พิพากษาเหล่านี้จะมีอำนาจออกเสียงลงคะแนนอย่างอิสระเสรีหลักเกณฑ์การคัด เลือกผู้พิพากษาศาลโลกจะถือตามคุณสมบัติขอผู้พิพากษานั้น ๆ มิใช่ถือตามสัญชาติของบุคคลดังกล่าว อย่างไรก็ดี จะมีการระมัดระวังด้วยว่า กฎหมายที่นำมาใช้ในศาลจะต้องมาจากระบบกฎหมายที่สำคัญ ๆ ของโลก ในศาลโลกจะมีผู้พิพากษาที่เป็นชาติเดียวกันมากกว่าหนึ่งคนไม่ได้ ผู้พิพากษาทั้งหลายจะมีสิทธิ์ดำรงอยู่ในตำแหน่งได้ เป็นเวลา 9 ปี มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งซ้ำได้ และระหว่างที่ดำรงอยู่ในตำแหน่ง จะต้องไม่ประกอบอาชีพการงานอื่นใดทั้งสิ้น [การทูต]
negative voteลงคะแนนเสียงคัดค้าน [การทูต]
Parliamentary Diplomacyการทูตแบบรัฐสภา หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ [การทูต]
The Foreign Officeในสมัยก่อน เมื่อสังคมนานาชาติมีสมาชิกประเทศอยู่เพียงไม่กี่แห่ง และการเจริญความสัมพันธ์ระหว่างประเทศก็ไม่มีอะไรที่ยุ่งยากซับซ้อน ดังนั้น ประมุขของรัฐหรือหัวหน้าของรัฐบาลจะเป็นผู้บริหารกิจการต่างประเทศด้วยตนเอง แต่มาในปัจจุบันเป็นไปไม่ได้ที่จะกระทำเช่นนี้ ดังนั้นทุกวันนี้ รัฐบาลของประเทศเกือบจะทุกแห่งจะมีสำนักงานในระดับกระทรวงแยกออกต่างหาก เพื่อดำเนินกิจการต่างประเทศโดยเฉพาะสำนักงานนี้จะมีชื่อเรียกแตกต่างกันใน แต่ละประเทศ เช่นเรียกว่า The Ministry of (หรือ for) Foreign Affairs, The Ministry of External Affairs, The Department of State หรือ The Department of Foreign Affairs หรือ Gaimusho เป็นต้น ส่วนหัวหน้าสำนักงานหรือเจ้ากระทรวงนั้น จะเป็นบุคคลในคณะรัฐมนตรี และเรียกชื่อตำแหน่งต่างๆ กัน เช่น The Secretary of Foreign Affairs, The Minister of External Affairs, The Secretary of State หรือ Foreign Minister หรือ Foreign Secretary ตัวรัฐมนตรีนี้จะมีผู้ช่วย ซึ่งบางตำแหน่งเรียกว่า ปลัดกระทรวง (Under-Secretaries), ผู้ช่วยปลัดกระทรวง (Assistant Under-Secretaries) พร้อมด้วยคณะเจ้าหน้าที่หรือข้าราชการที่ได้ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วงาน ของกระทรวงการต่างประเทศ โดยทั่วไปมักจะแบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายแรกเรียกว่าฝ่ายธุรการ (Home Service) ทำหน้าที่บริหารกิจการต่าง ๆ ภายในประเทศ ซึ่งเกี่ยวกันกับกิจการต่างประเทศ รวมทั้งการติดต่อเกี่ยวข้องกับคณะทูตานุทูต และฝ่ายที่สองเรียกว่า Foreign Service เป็นฝ่ายดำเนินงานเกี่ยวกับกิจการต่างประเทศ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในต่างแดน อันมีสถานทูต สถานกงสุล และสำนักงานอื่น ๆ เป็นตัวแทน ประกอบด้วยข้าราชการฝ่ายการทูตและฝ่ายวิชาการ ซึ่งประจำทำงานในสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลและสำนักงานระหว่างประเทศอื่น ๆ แต่ประเทศไทยเรายังมิได้แบ่งออกเป็นสองฝ่ายดังกล่าวตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงการต่างประเทศเป็นตัวกลาง ทำหน้าที่ติดต่อระหว่างประเทศ ส่วนหัวหน้าคณะทูตภายในนครหลวงของแต่ละประเทศจะทำการติดต่อใด ๆ ทั้งหมดกับกระทวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับงานภายในกระทรวงการต่างประเทศ โดยทั่วไปจะแบ่งออกเป็นกรม กอง โดยถือตามเขตภูมิศาสตร์ต่าง ๆ เช่น กรมหรือกองการเอเชีย กรมการแอฟริกา กรมการอเมริกัน กรมการยุโรป และอื่น ๆ เป็นต้น นอกจากนั้น ยังมีกรมกองอื่น ๆ ที่ทำหน้าที่ด้านธุรการ และด้านการสื่อสารติดต่อ การประชุม การประสานงานความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ การคลัง การบริการในต่างประเทศ การสารนิเทศ การกฎหมาย การห้องสมุด การหนังสือเดินทาง การบุคลากร การพิธีการทูต การวิจัย การสนธิสัญญา การตรวจลงตรา (Visa) และการสหประชาชาติในปัจจุบันในหลาย ๆ ประเทศ ผู้ที่สมัครขอรับราชการในกระทรวงการต่างประเทศจะต้องมีคุณวุฒิตามที่กระทรวง กำหนด เช่น จะต้องผ่านการสอบไล่ ทั้งในภาคปากเปล่า และข้อเขียน ตลอดจนจะต้องปรากฏตัวต่อหน้าคณะกรรมการสอบไล่ (Board) ซึ่งจะเป็นฝ่ายให้คะแนนบุคลิกและคุณภาพส่วนตัว แล้วนำคะแนนไปบวกกับคะแนนสอบข้อเขียน ในบางแห่งต้องการให้ผู้สมัครสอบเข้ารับการฝึกอบรม และให้อยู่ในระหว่างการทดลองดูความประพฤติ (Probationary period) อีกด้วย [การทูต]
unanimous voteคะแนนเสียงเอกฉันท์ [การทูต]
Voting Procedure in the United Nationsวิธีการลงคะแนนเสียงในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ในเรื่องนี้ สมาชิกแต่ละประเทศมีคะแนนเสียง 1 คะแนน ข้อมติของสมัชชาในปัญหาสำคัญ (Important Questions) จะกระทำโดยถือคะแนนเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ของสมาชิกที่มาประชุมและออกเสียง ที่เรียกว่าปัญหาสำคัญนั้นได้แก่ ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ การเลือกตั้งสมาชิกไม่ประจำของคณะมนตรีความมั่นคง การเลือกตั้งสมาชิกของคณะมนตรีเศรษฐกิจและการสังคม การเลือกตั้งสมาชิกของคณะมนตรีภาวะทรัสตี การรับสมาชิกใหม่ของสหประชาชาติ การงดใช้สิทธิและเอกสิทธิแห่งสมาชิกภาพ การขับไล่สมาชิก ปัญหาการดำเนินงานของระบบภาวะทรัสตี และปัญหางบประมาณ คำวินิจฉัยปัญหาอื่น ๆ รวมทั้งการกำหนดประเภทแห่งปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 2 ใน 3 เพิ่มเติมนั้น จัดกระทำโดยอาศัยคะแนนเสียงข้างมากของสมาชิกที่มาประชุมและออกเสียงอนึ่ง ในการเลือกตั้งผู้พิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจักต้องได้รับคะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด (Absolute majority) ในที่ประชุมของสมัชชาและในที่ประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงด้วย นอกจากนี้สมาชิกสหประชาชาติที่ค้างชำระค่าบำรุงแก่องค์การ ย่อมไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในสมัชชา ถ้าหากจำนวนเงินที่ค้างชำระเท่าหรือมากกว่าจำนวนเงินค่าบำรุงที่ถึงกำหนด ชำระสำหรับ 2 ปีเต็มที่ล่วงมา อย่างไรก็ตาม สมัชชาอาจอนุญาตให้สมาชิกเช่นว่านั้นลงคะแนนเสียงก็ได้ ถ้าทำให้เป็นที่พอใจได้ว่า การไม่ชำระนั้น เนื่องมาจากภาวะอันอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของสมาชิกนั้น [การทูต]
Alkaloidsแอลคาลอยด์, สาร; แอลคะลอยด์; อัลคาลอยด์; แอลคาลอยด์ [การแพทย์]
Asanaท่าบริหารของโยคะ [การแพทย์]
Assumeคาดคะเน [การแพทย์]
Base Catalyst, Generalเจนเนอรอลเบสคะตะลิสต์ [การแพทย์]
Catalyst, Negativeคะตาลิสต์ลบ [การแพทย์]
Catecholaminesแคทีโคลามีน, ฮอร์โมน;คะเตคอลอะมีน;แคเทโคลามินส์;แคทีคอลแอมีนส์;แคทีโคลามีน;แคตีโคลามีน;แคเธคอลามีนส์;แคททีโคลามีน;แคทีโคลามีน;การหลั่งแคติโคลามินส์ [การแพทย์]
Cathodeคะโทด, ขั้วลบ, แคโทด [การแพทย์]
Cathode Raysรังสีคะโทด [การแพทย์]
Distribution Curveลักษณะโค้งการแจกแจงของคะแนน [การแพทย์]
Estimatesคาดคะเน [การแพทย์]
Estimationการคาดคะเน, การกะประมาณ [การแพทย์]
Evaluation, Graphic Ratingประเมินแบบการให้คะแนนโดยตาราง [การแพทย์]
Expectationการคาดหวัง, การประมาณค่า, การคาดคะเน [การแพทย์]
Fatty Acid Catabolismคะตาบอลิสมของกรดไขมัน [การแพทย์]
Forecastingการคาดคะเนล่วงหน้า [การแพทย์]
Thundery precipitationน้ำฟ้าฟ้าคะนอง [อุตุนิยมวิทยา]
Thundery rainฝนฟ้าคะนอง [อุตุนิยมวิทยา]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
What?คะ? Never Letting Go (2011)
Mm-hmm?คะ Wuthering Heights (1992)
Ma?แม่คะ Saving Face (2004)
Maแม่คะ Saving Face (2004)
Sir?คุณคะ Spygirl (2004)
- Yes?-คะ My Little Bride (2004)
Dad!พ่อคะ! Death Note: The Last Name (2006)
Yes?คะ? The Magnificent Seven (2007)
Yes?คะ? Yobi, the Five Tailed Fox (2007)
Sorry?คะ In the Valley of Elah (2007)
- Yes.-คะ Heyy Babyy (2007)
Four?4 เหรอคะ? The Fourth Man in the Fire (2008)
Mom.แม่คะ The Serena Also Rises (2008)
Lieutenant.ผู้หมวดคะ And How Does That Make You Kill? (2008)
Hef?เฮฟคะ The House Bunny (2008)
Yes.คะ Death Note: L Change the World (2008)
Yes.ใช่คะ You Got Your Prom Date Pregnant (2009)
Yeah?- คะ? Omnivore (2009)
Yes?ใช่คะ Episode #1.17 (2009)
- McNally?- คะ? Mercury Retrograde (2010)
Look!ดูนะคะ Ghost (2010)
- Yes.-คะ Prosecutor Princess (2010)
Yes.คะ One (2010)
Excuse me?คะ? Episode #1.1 (2010)
Oppa.พี่คะ Episode #1.8 (2010)
Yes?คะ Episode #1.12 (2010)
Yes.คะ Welcome to the Occupation (2011)
Sorry.ขอโทษคะ Welcome to the Occupation (2011)
Yeah?หรอคะ Forced Family Fun: Part 1 (2011)
Yes?คะ Ghosts (2011)
Yes.คะ Episode #1.8 (2011)
How about you Ahjussi...คุณคะ Episode #1.5 (2011)
Ajusshi!คุณคะ Episode #1.6 (2011)
Yes.อ่อคะ Episode #1.7 (2011)
Yes, Ahjussi?คุณคะ! Episode #1.9 (2011)
Dad?พ่อคะ Bait (2012)
Huh?คะ Django Unchained (2012)
Mom?แม่คะ The Departed (2012)
Mom?แม่คะ Mama Said There'd Be Decades Like These (2012)
- Mom?- แม่คะ Prom (2012)
Hey...คุณคะ... The Scent (2012)
Come again?อะไรนะคะ? Devil's Cherry (2012)
Mom?-แม่คะ? August: Osage County (2013)
- Please.นะคะ The Best Offer (2013)
Yeah?คะ? Felina (2013)
A gas leak?แก๊สรั่วเหรอคะ? Marvel One-Shot: Agent Carter (2013)
Dad!พ่อคะ Beyond Redemption (2015)
Yes?คะ Absolute (2017)
No.ไม่คะ Resurrection (2008)
What?คะ? My Fair Lady (2009)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
บัตรลงคะแนน[bat long khanaēn] (n, exp) EN: ballot ; voting slip ; ballot paper  FR: bulletin de vote [ m ]
ช่วงคะแนน[chūang khanaēn] (n, exp) EN: interval
เอตทัคคะ[ētathakkha] (n) EN: specialist ; expert ; master  FR: expert [ m ] ; spécialiste [ m ]
ฟ้าคะนอง[fākhanøng] (n) EN: thunder ; thunderstorm  FR: orage [ m ]
ให้คะแนน[hai khanaēn] (v, exp) EN: mark ; rate
ให้เป็นคะแนน[hai pen khanaēn] (v, exp) FR: accorder les points ; accorder le panier
หัวคะแนน[hūakhanaēn] (n) EN: canvasser ; election canvasser ; election campaigner  FR: militant [ m ]
จำนวนคะแนน[jamnūan khanaēn] (n, exp) EN: margin
จำนวนผู้ออกมาลงคะแนน[jamnūan phū øk mā long khanaēn] (xp) EN: turnout  FR: taux de participation (électorale) [ m ]
การให้คะแนน[kān hai khanaēn] (n, exp) EN: rating
การคาดคะเน[kān khātkhanē] (n) EN: conjecture ; anticipation  FR: conjecture [ f ]
การคาดคะเนของพองกาเร[kān khātkhanē khøng Phøngkārē] (xp) EN: Poincaré conjecture
การลงคะแนนเสียง[kān long khanaēnsīeng] (n, exp) EN: voting  FR: vote
การสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนที่เพิ่งลงคะแนนเสร็จสด ๆ ร้อน ๆ[kān samrūat khwām khithen jāk prachāchon thī phoeng longkhanaēn set sot-sot røn-røn] (xp) EN: exit poll  FR: sondage effectué à la sortie des bureaux de vote [ m ]
กะเหรี่ยงคะยา[Karīeng Khayā] (n, prop) EN: Kayah Karen
คะ[kha] (x) EN: yes ; do ; would ; [ particle used by a woman after a vocative or at the end of a question ]  FR: oui ; [ formule de politesse en fin de vocatif ou de phrase interrogative ]
แคะ[khae] (v) EN: pick out; take out; dig out; extract  FR: curer ; gratter
แคะฟัน[khae fan] (v, exp) FR: se curer les dents
แคะไค้[khaekhai] (v) EN: nag ; scold ; find fault ; criticize
คะน้า[khanā] (n) EN: kale ; Chinese kale
คะแนน[khanaēn] (n) EN: mark ; score ; grade ; points ; vote ; tally  FR: point [ m ] ; note [ f ] ; voix [ f ] ; mention [ f ]
คะแนนเสียง[khanaēnsīeng] (n) EN: vote ; ballot  FR: vote [ m ] ; scrutin [ m ]
คะแนนเสียงชี้ขาด[khanaēnsīeng chīkhāt] (n, exp) EN: casting vote
คะแนนเสียงข้างมาก[khanaēnsīeng khāngmāk] (n, exp) EN: majority vote
คะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด[khanaēnsīeng khāngmāk detkhāt] (n, exp) EN: absolute majority  FR: majorité absolue [ f ]
คะแนนเสียงข้างน้อย[khanaēnsīeng khāng nøi] (n, exp) EN: minority vote
คะแนนสุดท้าย[khanaēn sutthāi] (n, exp) EN: final score  FR: score final [ m ]
คะน้าฮ่องกง[khanā Hǿng Kong] (n, exp) EN: kale
คะเน[khanē] (v) EN: estimate ; approximate ; conjecture ; speculate ; guess ; anticipate ; expect ; predict ; forecast ; reckon ; surmise   FR: supputer ; évaluer ; spéculer ; conjecturer (litt.)
คะนึง[khaneung] (v) EN: think of ; consider ; contemplate ; reflect  FR: penser à ; considérer
คะนึงถึง[khaneung theung] (v, exp) EN: miss ; think of ; yearn  FR: penser à
คาดคะเน[khātkhanē] (v) EN: estimate ; speculate ; guess ; presume ; conjecture ; approximate  FR: estimer ; présumer ; supposer ; conjecturer (litt.) ; présupposer
คะยั้นคะยอ[khayankhayø] (v) EN: urge; exhort ; coax ; cajole ; wheedle  FR: insister ; presser
ข่มเหงคะเนงร้าย[khomhēngkhanēngrāi] (v) EN: bully ; annoy ; persecute ; hector
กฎแห่งการคาดคะเน[kot haeng kān khātkhanē] (n, exp) EN: law of probability
ลงคะแนน[longkhanaēn] (v) EN: vote ; ballot ; elect ; cast a ballot  FR: voter ; élire ; exprimer son suffrage
ลงคะแนนเลือกตั้ง[longkhanaēn leūaktang] (v) EN: vote ; ballot  FR: voter
ลงคะแนนเสียง[long khanaēnsīeng] (v, exp) EN: vote for ; elect ; cast one's vote ; ballot ; opt  FR: voter pour ; élire ; choisir
ไม่ลงคะแนน[mai long khanaēn] (v, exp) EN: cast a blank vote  FR: voter blanc ; ne pas exprimer de vote
มีอะไรให้ช่วยไหมครับ/คะ[mī arai hai chūay mai khrap/kha] (xp) EN: can I help you ?  FR: puis-je vous aider ?
หมู่เกาะคะเนรี[Mūkǿ Khanērī] (n, prop) EN: Canary Islands   FR: îles Canaries [ fpl ]
นับคะแนน[nap khanaēn] (v, exp) EN: count votes  FR: dépouiller un scrutin ; faire le compte des suffrages
ออกเสียงลงคะแนน[øksīeng longkhanaēn] (v, exp) FR: voter
ออกไปลงคะแนน[pai longkhanaēn] (v, exp) EN: go to the polls  FR: aller voter ; se rendre aux urnes
แพ้คะแนน[phaē khanaēn] (v, exp) EN: lose on points
แพ้คะแนนเสียง[phaē khanaēnsīeng] (v, exp) EN: be outvoted
ผักคะน้า[phak khanā] (n, exp) EN: kale ; Chinese kale  FR: chou frisé [ m ]
ผักคะน้าหมูกรอบ[phak khanā mū krøp] (n, exp) EN: fried kale with crispy
ผู้ลงคะแนน[phū long khanaēn] (n) EN: voter  FR: électeur [ m ] ; électrice [ f ] ; votant [ m ] ; votante [ f ]
ผู้มีสิทธิ์ลงคะแนน[phū mī sit longkhanaēn] (n, exp) EN: constituent  FR: électeur [ m ] ; électrice [ f ]

English-Thai: Longdo Dictionary
ballot(n) บัตรลงคะแนน เช่น Use these ballots when students are voting in a mock election or classroom election.

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
abstain(vi) ไม่ลงคะแนนเสียง, See also: นอนหลับทับสิทธิ์
ace(n) (คะเเนนในการเล่นไพ่) หนึ่งแต้ม
ace(n) การเสิร์ฟลูกได้คะแนน (โดยที่คู่ต่อสู้ไม่มีโอกาสสัมผัสลูกบอลสำหรับกีฬาวอลเล่ย์บอลหรือเทนนิส)
anticipate(vt) ทำนาย, See also: พยากรณ์, คาดคะเน, คะเน, คาดการณ์, Syn. foresee, predict, forecast
assumption(n) การสมมติ, See also: การสันนิษฐาน, การนึกคะเน, Syn. presupposition, supposition
ballot(n) วิธีลงคะแนนเสียงแบบลับ, Syn. election
ballot(vi) ลงคะแนน, See also: ออกเสียงลงคะแนน, จับสลาก, Syn. vote
ballot box(n) หีบหรือกล่องใส่บัตรลงคะแนน, Syn. polling place, polling booth
ballot paper(n) ใบลงคะแนน
basketball(n) บาสเกตบอล, See also: กีฬาชนิดหนึ่งทำคะแนนได้โดยการโยนลูกบอลลงในตะกร้าของฝ่ายตรงข้าม
bet(n) การเดา, See also: การคาดคะเน
birdie(n) การได้คะแนนในกีฬากอล์ฟ
ballot for(phrv) ออกเสียงให้, See also: ลงคะแนนเสียงให้
card(vt) บันทึกคะแนน (ในสกอร์การ์ดในกีฬากอล์ฟ), See also: จดแต้ม
cardinal sin(n) หนึ่งในบาปที่ร้ายแรง 7 ประการในศาสนาคริสต์ (หยิ่งยโส, ราคะ, อิจฉา, โมหะ, โลภ, ตะกละ, เกียจคร้าน)
casting vote(n) การลงคะแนนตัดสินโดยผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบการประชุมเนื่องจากแต่ละฝ่ายมีคะแนนเท่ากัน
caucus(n) การประชุมของสมาชิกหรือกลุ่มผู้นำของพรรคการเมืองเพื่อลงคะแนนเลือกหรือวางแผนทางการเมือง
champion(n) ผู้ชนะเลิศ, See also: ผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดในการแข่งขัน, สิ่งที่ได้รับคะแนนสูงสุดในการแข่งขัน คน, สัตว์, พืช, Syn. conqueror, master, paragon, title holder, vanquisher, victor, winner, Ant. loser
coax(vi) เกลี้ยกล่อม, See also: คะยั้นคะยอ, ชักชวน, โน้มน้าว, Syn. blandish, urge
coax(vt) เกลี้ยกล่อม, See also: คะยั้นคะยอ, ชักชวน, โน้มน้าว, Syn. wheedle, persuade, cajole, blandish, urge, induce
cough out(phrv) เล่าอย่างไม่เต็มใจ (หลังจากถูกชักชวนหรือคะยั้นคะยอ) (คำไม่เป็นทางการ), Syn. cough up, spit up
elect with(phrv) ได้รับเลือกด้วย (คะแนนหรือคะแนนเสียง), Syn. return with
deduce(vt) ได้ข้อสรุป, See also: คาดการณ์, คะเนจาก
demerit(n) การถูกหักคะแนน, Syn. bad mark
drop(vt) ทำคะแนน, See also: ทำแต้ม
eagle(n) 2 คะแนนต่ำกว่าพาร์ในกีฬากอล์ฟ
eagle(vt) ทำ 2 คะแนนต่ำกว่าพาร์ในกีฬากอล์ฟ
electioneer(vi) ใช้อิทธิพลหรือวิธีการที่ไม่ซื่อสัตย์เพื่อได้คะแนนเสียงมา
electoral vote(n) คะแนนเสียงที่ผู้แทนรัฐลงให้เพื่อเลือกประธานาธิบดีและรองประธานาธิดีของสหรัฐอเมริกา
equalize(vi) ทำคะแนนเท่ากัน (กีฬา), See also: ทำคะแนนเสมอกัน
estimable(adj) ซึ่งสามารถประเมินได้ (คำโบราณ), See also: ซึ่งสามารถคาดคะเนได้, Syn. calculable, computable
estimate(vt) ประมาณ, See also: อนุมาน, คาดคะเน, คาด, ประเมิน, ประมาณค่า, ประมาณการ, Syn. appraise, evaluate, guess
expect(vi) คาดว่า, See also: คาดหวัง, คาดการณ์, คาดหมาย, คาดคะเน, คาดหมายว่า, หวังว่า, ปรารถนาว่า, Syn. anticipate, await
expect(vt) คาดว่า, See also: คาดหวัง, คาดการณ์, คาดหมาย, คาดคะเน, คาดหมายว่า, หวังว่า, ปรารถนาว่า, Syn. anticipate, await
figure(vt) คิดคำนวน, See also: ประเมิน, คาดคะเน, Syn. calculate, guess, reckon
flip(adj) ไม่จริงจัง, See also: เล่นๆ, ตลกคะนอง, Syn. flippant, glib, Ant. serious
flunk(vt) ให้คะแนนการสอบต่ำ, See also: กดคะแนน
flunk(vt) สอบตก, See also: ทำคะแนนไม่ผ่าน, Syn. fail, Ant. pass
flunk(n) การสอบตก, See also: การทำคะแนนไม่ผ่าน, Syn. failure
foresee(vt) รู้ล่วงหน้า, See also: รู้, หยั่งรู้, คาดคะเน, Syn. divine, envision, predict
go to the polls(idm) ลงคะแนนเสียง
graduate with(phrv) ได้รับปริญญาพร้อมกับหรือด้วย (เกียรตินิยม, คะแนน, รางวัล)
game(n) แต้มคะแนนที่ทำให้ชนะการแข่งขัน
goalless(adj) ซึ่งไม่สามารถทำประตู (คะแนน) ได้ (กีฬา)
goatish(adj) ซึ่งมีกิเลสตัณหา, See also: ตัณหา, ราคะ, Syn. lecherous
grade(n) ระดับ, See also: ระดับคะแนน, เกรด, Syn. class, category, rank, standard
grade(vt) แบ่งระดับ, See also: แบ่งชั้น, ทำเป็นชั้นๆ, ให้คะแนน, ให้ตำแหน่ง, Syn. rate, mark, score
grade point average(n) คะแนนเฉลี่ย (คำย่อคือ GPA), Syn. grade point index
grader(n) ผู้ให้คะแนนในการสอบ
guess(n) การคาดการณ์, See also: การเดา, การทาย, การคาดคะเน, Syn. supposition, prediction, estimate, Ant. fact, certainty

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
abaca(อาบา' คะ, อา' บาคะ) n. พืชจำพวก Musa textilis ในฟิลิปปินส์ ใช้ในการทำเชือก
abracadabra(แอบราคะแดบ' บระ) n. คาถายันตร์, การพูดที่ไร้ความหมาย
absentee voteการลงคะแนนของผู้ไม่อยู่ (ทางไปรษณีย์) -absentee voter., n.
abstain(แอบสเทน') vt. ละเว้น, ไม่ลงคะแนนเสียง, ไม่ฟุ่มเฟือยในการกินและดื่ม, อดเหล้า, สละสิทธิ์ -abstainer n., Syn. forbear, desist
academical(แอคคะเด็ม' มิเคิล) = academic
acaleph(แอค' คะเลฟ) n. สัตว์จำพวกแมงกะพรุน (acalephe)
acapulco(แอคคะพูล' โค) n. เมืองท่าในเม็กซิโก (a seaport)
acariasis(แอคคะไร' อะซิส) n. ภาวะที่มีแมลง 6 ขา (เช่นเห็บ, หมัด) รุกราน infestation with mites
acarid(แอค' คะริด) n. แมลงจำพวกเห็บ
acarus(แอค' คะริส) เห็บหรือหมัด (mite)
advocacy(แอด' โวคะซี) n. การเป็นทนาย, ทนาย, การสนับสนุน, ผู้สนับสนุน, การแก้ต่าง
africandist(แอฟ' iิคะดิสทฺ) n. ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรมของอาฟริกา
africanize(แอฟ' ริคะไนซ) vt. ทำให้เป็นลักษณะของอาฟริกา. -Africanization n.
agent provocateur(อะซาน' พรอวอคะเทอ') Fr., (pl. agents provocateurs) สายลับ, จารบุรุษ
alaska(อะแลส' คะ) n. มลรัฐหนึ่งของอเมริกา -Alaskan adj., n. (in NW North America)
alcahest(แอล' คะเฮสทฺ) n. = alkahest
alchemy(แอล' คะมี) n. การเล่นแปรธาตุใสยุคสมัยกลางเพื่อหากรรมวิธีเปลี่ยนโลหะให้เป็นทองและการหาน้ำอมฤต. -alchemic, alchemical, alchemistic, alchemistical adj. -alchemist n.
alcoholise(แอล' คะโฮไลซ) vt. = alcoholize
alcoholism(แอลคะฮอล' ลิสซึม) n. โรคพิษสุราเรื้อรัง
alcoholometer(แอลคะโฮลอม' มิเทอะ) n. เครื่องมือวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในของสารละลาย
alkalemia(แอลคะลี' เมีย) n. ภาวะโลหิตมีปริมาณด่างมากผิดปกติ. -alkalescence, alkalescency n.
alkali(แอล' คะไล) n., (pl. -lis, -lies) ด่าง. -alkalify vt., vi. เพิ่มด่าง, ทำให้เป็นด่าง
alkalimeter(แอลคะลิม' มิเทอะ) n. เครื่องมือวัดปริมาณคาร์บอนไดอ๊อคไซด์. -alkalimetric (al) adj. -alkalimetry n.
alkaline(แอล' คะไลนฺ, -ลิน) adj. ซึ่งประ-กอบด้วยหรือมีลักษณะเป็นด่าง (of an alkali)
alkalinise(แอล' คะนิไนซ) vt. ทำให้เป็นด่าง, เปลี่ยนให้เป็นด่าง -alkalinis (z) ation n. (make alkaline)
alkalinity(แอลคะลิน' นิที) n., Chem. ภาวะเป็นด่าง, ความเป็นด่าง
alkalise alkalize(แอค' คะไลซ) vt. ทำให้เป็นด่าง, เปลี่ยนให้เป็นด่าง -alkalization, alkalisation n.
alkaloid(แอล' คะลอยดฺ) chem. อินทรียสารประกอบชนิดหนึ่งที่มีไนโตรเจน มักพบในพืชและหลายชนิดมีประโยชน์ในทางยา-adj. มีความเป็นด่าง -alkaloidal adj.
alkalosis(แอลคะโล' ซิส) n. ภาวะที่โลหิตหรือของเหลวร่างกายมีปริมาณไบคาร์บอเนตมากผิดปกติ
alkanet(แอล' คะเนท) n. พืชจำพวก Alkanna tinctoria รากของมันใช้เป็นสีย้อมสีแดง
alpaca(แอลแพค' คะ) n. สัตว์คล้ายแกะในอเมริกาใต้ จำพวก Lama ขนของสัตว์ดังกล่าว, สิ่งทอที่ทำด้วยขนสัตว์ดังกล่าว, สิ่งทอที่ทำคล้ายหรือเลียนขนสัตว์ดังกล่าว (genus Lama)
americanise(อะเม' ริคะไนซ) vt., vi. ทำให้หรือกลายเป็นลักษณะของอเมริกา, ปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมหรือประเพณีของอเมริกา. -Americanis (z) ation n., -Americanis (z) er n..
americanize(อะเม' ริคะไนซ) vt., vi. ทำให้หรือกลายเป็นลักษณะของอเมริกา, ปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมหรือประเพณีของอเมริกา. -Americanis (z) ation n., -Americanis (z) er n..
amicable(แอม' มิคะเบิล) adj. เป็นมิตร, ฉันมิตร, รักใคร่กัน, มีไมตรีจิต. -amicability, amicableness n., Syn. friendly
amplificatory(แอมพลิฟ' ฟิคะโทรี) adj. ใช้ในการขยายใหญ่, Syn. expanding
anacoluthia(แอนนาคะลู' เธีย) n. การไร้ความต่อเนื่องหรือสัมพันธ์ทางไวยกรณ์. -anacoluthic adj.
anacoluthon(แอนนาคะลู' ธอน) n., (pl. -tha) กรณีของ anacoluthia
anasarca(แอนนะซาร์' คะ) n. ภาวะบวมน้ำทั่วไป
anchorite(แอง' คะไรทฺ) n. โยคี, ฤาษี, ผู้อยู่, อย่างสันโดษเพื่อรักษาศีล. -anchoritic adj.
anchylose(แอง' คะโลส) vt., vi. =ankylose. -anchylosis n. -anchylotic adj.
anga(อัง' กะ) n. วิธีการปฏิบัติข้อหนึ่งข้ใดของโยคะ
antarctica(แอนทาร์ค' ทิคะ) n. ทวีปที่ล้อมรอบขั้วโลกใต้ (Antarctic Continent)
anticommute(แอนทีคะมิวท') vt. ต่อต้านง่าย
anticorrosion(แอนทีคะโร' เชิน) n. การป้องกันการสึกกร่อน, การป้องกันสนิม
anticorrosive(แอนทีคะโร' ซิฟว) adj., n. ซึ่งป้องกันหรือต้านการสึกกร่อน, กันสนิม, สารที่ฤทธิ์ดังกล่าว
apocalypse(อะพอด'คะลิพซ) n. บันทึกทางศาสนาของยิวหรือคริสเตียนพบระหว่างปี 200 B.C.A.D. 350 การค้นพบ, การเปิดเผย. -apocalyptic (al) adj. (revelation; discovery)
apocopate(อะพอด'คะเพท) vt. ทำให้สั้นโดยการขาดอักษรหรือพยางค์ท้ายของคำ (shorten)
applicable(แอพ'พลิคะเบิล) adj. ใช้สอยได้, ปฏิบัติได้, เหมาะสม -applicability n.
application programโปรแกรมประยุกต์ <คำแปล>หมายถึง โปรแกรมประเภทต่าง ๆ ที่ออกแบบขึ้นเพื่อสนองความต้องการ เช่น โปรแกรมบัญชี หรือ โปรแกรมทำคะแนน
application softwareซอฟต์แวร์ประยุกต์ <คำแปล>หมายถึง โปรแกรมประเภทต่าง ๆ ที่ออกแบบขึ้นเพื่อสนองความต้องการ เช่น โปรแกรมบัญชี หรือโปรแกรมทำคะแนนมีความหมายเหมือน application program

English-Thai: Nontri Dictionary
aye(n) คะแนนเห็นด้วย
ballot(n) บัตรลงคะแนน, บัตรเลือกตั้ง, การลงคะแนนเสียง
ballot(vt) ลงคะแนน
bone(vt) แคะกระดูกออก
calculate(vt) คิดเลข, คำนวณ, คาดคะเน
calculation(n) การคำนวณ, การคิดเลข, การคาดคะเน
carp(vi) แคะไค้, บ่นว่า, จับผิด, หาเรื่อง
coax(vt) เกลี้ยกล่อม, หลอกลวง, คะยั้นคะยอ
conjectural(adj) เกี่ยวกับการคาดคะเน, เกี่ยวกับการเดา
conjecture(vt) คาดคะเน, อนุมาน, เดา, ทาย
constituency(n) ผู้ลงคะแนนเสียง, ผู้เลือกตั้ง, เขตเลือกตั้ง
desire(n) ความต้องการ, ความปรารถนา, ความประสงค์, ความอยาก, ราคะ
devise(vt) คิดค้น, วางแผน, ประดิษฐ์, คาดคะเน
egg(vt) คะยั้นคะยอ, กระตุ้น, ให้กำลังใจ, เร่งเร้า
exhort(vt) คะยั้นคะยอ, เคี่ยวเข็ญ, แนะนำ, สนับสนุน
exhortation(n) การคะยั้นคะยอ, การแนะนำ, การเคี่ยวเข็ญ
filly(n) ม้าตัวเมีย, ผู้หญิงคะนอง, สาวเปรี้ยว
flippant(adj) ห้วน, ตลกคะนอง, หน้าเป็น, เย้าหยอก, ทะเล้น, ทะลึ่ง
forecast(n) คำทำนาย, การคาดคะเน, การพยากรณ์, คำพยากรณ์
forecast(vt) ทำนาย, พยากรณ์, คาดคะเน
forerun(vt) มาก่อน, วิ่งนำ, นำหน้า, คาดคะเน, ทำนาย, บอกล่วงหน้า
franchise(n) สิทธิลงคะแนนเสียง, สัมปทาน, สิทธิพิเศษ
frivolity(n) ความเหลาะแหละ, ความตลกคะนอง, ความไม่เอาจริงเอาจัง
gauge(vt) วัดดู, คะเน, ประมาณ, ประเมิน
guess(n) การทาย, การเดา, การคาดคะเน, การเดาสุ่ม
guess(vi, vt) เดา, คาดคะเน, สุ่ม, ทาย, เข้าใจว่า, คิดว่า
HIGH-high-spirited(adj) ฉุนเฉียว, ใจกล้า, ใจแข็ง, คึกคะนอง
importunate(adj) ซึ่งคะยั้นคะยอ, รบเร้า, เร่งด่วน
importune(vt) คะยั้นคะยอ, รบเร้า, เรียกร้อง
importunity(n) การคะยั้นคะยอ, การรบเร้า, การเรียกร้อง, การขอร้อง
incise(vt) เจาะ, ขุด, แคะ, สลัก, ตัด, ผ่า, แกะสลัก
insist(vi) คะยั้นคะยอ, ยืนยัน, รบเร้า, เรียกร้อง
insistence(n) การคะยั้นคะยอ, การยืนยัน, การรบเร้า, การเรียกร้อง
insistent(adj) รบเร้า, คะยั้นคะยอ, ยืนกราน
jocose(adj) ขบขัน, ร่าเริง, ตลกคะนอง, ขี้เล่น
jocularity(n) ความขบขัน, ความรื่นเริง, ความตลกคะนอง
jocund(adj) รื่นเริง, เบิกบาน, ขบขัน, ตลกคะนอง, มีชีวิตชีวา
levity(n) ความไม่สำรวม, ความตลกคะนอง, ความไม่เอาจริงเอาจัง
lust(n) ตัณหา, ความอยาก, ราคะ, ความปรารถนา, ความต้องการทางเพศ
lustful(adj) มีตัณหา, มีความอยาก, ราคะจัด, มักมากในกาม
majority(n) หมู่มาก, คะแนนเสียงส่วนมาก, วัยผู้ใหญ่
mark(n) เครื่องหมาย, จุดหมาย, คะแนน, มาตราเงินของเยอรมัน
marker(n) คนจดคะแนน, เครื่องบ่งชี้, ผู้ทำเครื่องหมาย
passion(n) อารมณ์, ความโกรธ, ตัณหา, กิเลส, ราคะ
persist(vi) คะยั้นคะยอ, ดื้อดึง, ยืนกราน, ฝังแน่น
persistence(n) การคะยั้นคะยอ, การยืนกราน, ความดื้อดึง
plebiscite(n) การลงคะแนนเสียงทั้งประเทศ
poll(vi) ลงคะแนนเสียง, ออกเสียงเลือกตั้ง
polls(n) คอกลงคะแนน
prank(n) การเล่นตลก, ความคึกคะนอง, การเล่นพิเรน

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
apostate(adj) ธรรมจาคะ
apostate(adj) ศรัทธจาคะ
frost(n) แม่คะนิ้ง (ภาษาถิ่นทางภาคเหนือ)
pluralistic(adj) มีหลายฝ่าย, มีจำนวนมาก, มีคะแนนเหนือ
thundershower(n) พายุฝนฟ้าคะนองที่ตกปรอย ๆ สั้น ๆ
voting capitalเงินทุนที่เจ้าของมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียง
คะแนนเก็บคะแนนที่เป็นคะแนนเก็บไม่ใช่สอบใหญ่

Japanese-Thai: Longdo Dictionary
平均点[へいきんてん, heikinten] (n) คะแนนเฉลี่ย
満点[まんてん, manten] (n) คะแนนเต็ม
近畿[きんき, kinki] (n) ชื่อภูมิภาคหนึ่งทางตะวันตกของญี่ปุ่น ซึ่งประกอบด้วยจังหวัดโอซาก้า เกียวโต เฮียวโกะ นารา วะคะยะมะ ชิงะ และมิเอะ
開票[かいひょう, kaihyou] (vt) เปิดหีบนับคะแนน
関東[かんとう, kantou] (n) ภูมิภาคที่เป็นศูนย์กลางของญี่ปุ่นประกอบด้วยจังหวัดโตเกียว คะนะงะวะ ชิบะ ไซตะมะ อิบะระงิ โตะจิงิ และกุมมะ

Japanese-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
予測[よそく, yosoku] (n) การคาดคะเน, การคาดการณ์, See also: S. 予期, R. よき
情熱[じょうねつ, jounetsu] (n) อารมณ์, ความโกรธ, ตัณหา, กิเลส, ราคะ, ฮึกเหิม
皆さん 始めまして どぞよろしくね 俺毎日ゆっくり飲んで遊んで 仕事あまりしてない。 恋人探してるん[じょうねつ, minasan hajimemashite dozoyoroshikune ore mainichi yukkuri non de asonde shigoto amarishitenai . koibito sagashi terun] มีความสุขนะคะ ฉันรักเธอ

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
勧める[すすめる, susumeru] TH: คะยั้นคะยอ  EN: to offer

German-Thai: Longdo Dictionary
Punkt(n) |der, pl. Punkte| คะแนน, จุด
Stimme(n) |die, pl. Stimmen| คะแนนเสียง
frei(adj, adv) เป็นอิสระ, ว่าง, ไม่ขึ้นกับใคร เช่น Keine Sorge, er ist schon frei von Fieber. ไม่ต้องห่วง เขาไม่มีไข้แล้ว, Ist hier noch frei? ที่ตรงนี้ว่างไหมคะ, Lass den Vogel frei. Im Käfig lebt er nicht wohl. ปล่อยนกเป็นอิสระเถิด ในกรงมันไม่สบายหรอก
gleichen(vi) |glich, hat geglichen| คล้ายคลึงกันมาก, เหมือนกัน เช่น Unser Produkt gleicht ihrem Mustet. สินค้าของเราเหมือนกันกับตัวอย่างของคุณเลยนะคะ
haben(vt) |hat, hatte, hat gehabt| มี เช่น Hast du Essen übrig? เธอมีอาหารเหลือไหม, Haben Sie noch Plätze frei? คุณมีที่ว่างเหลือบ้างไหมคะ
halten(vt) |hält, hielt, hat gehalten| ถือ, จับ เช่น Kannst du bitte meine Tasche halten? คุณช่วยถือกระเป๋าให้ฉันหน่อยได้ไหมคะ, Syn. festhalten
Wie bitte?อะไรนะ(คะ) อาจถามสั้นๆ ได้ว่า Bitte?
frech(adj) คึกคะนอง
Wie heißen Sie?คุณชื่ออะไรคะ
sich(D) große Mühe gebenอุตสาหะ, พากเพียรอย่างมาก, ใช้ความพยายามอย่างมาก เช่น Sie hat sich große Mühe gegeben, um die beste Note zu bekommen. เธอพยายามอย่างมากเพื่อให้ได้คะแนนที่ดีที่สุด
Wort(n) |das, pl. Worte| คำพูด, ประโยคหรือข้อความที่พูดออกมามีความเกี่ยวเนื่องกัน เช่น Es tut mir leid, aber Ihre Worte überzeugen mich nicht. ฉันเสียใจนะคะ ฉันไม่เชื่อที่คุณพูดมา

French-Thai: Longdo Dictionary
Pardon?อะไรนะคะ/นะครับ
comprendre(vt) เข้าใจ เช่น Vous comprenez? คุณ (พวกคุณหรือพวกเธอ) เข้าใจไหมคะ, See also: prendre
être(vi) |je suis, tu es, il est, nous sommes, vous êtes, ils sont| (1) เป็น, อยู่, คือ เช่น Vous êtes Monsieur Voltaire? คุณคือคุณโวลแตร์ใช่ไหมครับ/คะ, Je suis à Bangkok. ผมอยู่ที่กรุงเทพ (2) เป็นกริยาช่วยในประโยคที่อยู่ในรูปอดีต passé composé สำหรับกริยาที่บ่งการเคลื่อนไหว เช่น Je suis venu(e) à sept heures ce matin. ผม(ดิฉัน)มาถึงตอนเจ็ดโมงเมื่อเช้านี้

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top