ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ให้พลัง, -ให้พลัง- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ |
| เครื่องบิน | น. อากาศยานชนิดหนึ่งซึ่งหนักกว่าอากาศ ลอยตัวอยู่ได้ด้วยการให้พลังงานกลแก่อากาศโดยรอบก่อให้เกิดแรงพยุงขึ้นโต้ตอบกับความโน้มถ่วงของโลกและใช้เครื่องยนต์ขับเคลื่อน. | โพซิตรอน | (-ตฺรอน) น. อนุภาคมูลฐานชนิดหนึ่ง มีมวลเท่ากับอิเล็กตรอน มีประจุไฟฟ้าเท่ากับประจุไฟฟ้าของอิเล็กตรอน แต่เป็นประจุไฟฟ้าบวก เมื่อโพซิตรอนและอิเล็กตรอนอย่างละ ๑ อนุภาคมากระทบกัน ทั้งคู่จะทำลายล้างกันสูญหายไปด้วยกันทั้งสิ้น และให้พลังงานมากมายเกิดขึ้นในรูปของรังสีแกมมา, แอนติอิเล็กตรอน ก็เรียก. | ไฟฉาย | น. เครื่องทำความสว่าง ประกอบด้วยอุปกรณ์สำคัญ คือ จานฉายรูปโค้งสำหรับสะท้อนแสงและหลอดไฟฟ้า ซึ่งบรรจุอยู่ในเรือนกรอบกับสิ่งให้พลังงานที่ก่อให้เกิดแสงสว่าง มีหลายชนิด ชนิดที่ถือติดตัวไปมาได้ มักทำเป็นรูปทรงกระบอก. | ศักยภาพ | (สักกะยะพาบ) น. ภาวะแฝง, อำนาจหรือคุณสมบัติที่มีแฝงอยู่ในสิ่งต่าง ๆ อาจทำให้พัฒนาหรือให้ปรากฏเป็นสิ่งที่ประจักษ์ได้ เช่น เขามีศักยภาพในการทำงานสูง น้ำตกขนาดใหญ่มีศักยภาพในการให้พลังงานได้มาก. |
|
| Characteristic X-ray | รังสีเอกซ์ลักษณะเฉพาะ, รังสีที่เกิดจากการที่อะตอมถูกกระตุ้น ทำให้อิเล็กตรอนวงในหลุดออกไป และอิเล็กตรอนวงถัดไปเข้ามาแทนที่ แล้วให้พลังงานส่วนเกินออกมาในรูปของรังสีเอกซ์ซึ่งมีค่าพลังงานเฉพาะของธาตุที่ถูกกระตุ้น
(ดู excited state ประกอบ) [นิวเคลียร์] | Electron linear accelerator | เครื่องเร่งอิเล็กตรอนเชิงเส้น, เครื่องเร่งอิเล็กตรอน ที่อิเล็กตรอนถูกเร่งให้วิ่งเป็นเส้นตรงด้วยสนามไฟฟ้า มีสองแบบคือ แบบที่อิเล็กตรอนถูกควบคุมด้วยสนามไฟฟ้าสถิต และแบบที่ควบคุมด้วยสนามไฟฟ้าย่านความถี่คลื่นวิทยุ สามารถเร่งลำอิเล็กตรอนให้มีพลังงานระหว่าง 0.1-10 ล้านอิเล็กตรอนโวลต์ แบบแรกให้พลังงานของอิเล็กตรอนต่ำกว่าแบบหลัง
เครื่องเร่งชนิดนี้เหมาะสำหรับงานวิจัยทางฟิสิกส์ และการปรับปรุงคุณภาพวัสดุหรือผลิตภัณฑ์ เช่น งานเคลือบผิววัตถุและงานผลิตเวชภัณฑ์ปลอดเชื้อ, Example:
[นิวเคลียร์] | X-rays | รังสีเอกซ์, รังสีในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีอำนาจทะลุทะลวงสูงไม่ได้มีต้นกำเนิดจากนิวเคลียสของอะตอม แต่เกิดขึ้นเมื่ออะตอมถูกกระตุ้น ทำให้อิเล็กตรอนวงในหลุดออกไป และอิเล็กตรอนวงถัดไปเข้ามาแทนที่ แล้วให้พลังงานส่วนเกินออกมาในรูปของรังสีเอกซ์ หรือเกิดจากการระดมยิงเป้าโลหะหนักบางชนิด เช่น ทังสเตน ด้วยอิเล็กตรอนความเร็วสูง ซึ่งอิเล็กตรอนจะถูกหน่วงให้ช้าลงอย่างทันทีทันใดและปล่อยรังสีเอกซ์ออกมา
บางคน เรียกรังสีเอกซ์ว่า รังสีเรินต์เก็น ตามชื่อของ วิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เก็น นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันผู้ค้นพบรังสีนี้เมื่อ ปี พ.ศ. 2438 [นิวเคลียร์] | Van de Graaff generator | เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแวนเดอแกรฟฟ์, เครื่องผลิตประจุไฟฟ้าสถิตศักย์สูง โดยประจุไฟฟ้าจากเครื่องกำเนิดประจุถูกส่งผ่านโลหะปลายแหลมไปยังสายพานซึ่งทำหน้าที่พาประจุขึ้นไปสะสมไว้ที่ผิวทรงกลมจนได้ศักย์ไฟฟ้าสูง เครื่องนี้สามารถสะสมประจุจนกระทั่งมีศักย์ไฟฟ้าสูงถึง 20 ล้านโวลต์ เครื่องนี้สามารถใช้เป็นเครื่องเร่งอนุภาคที่มีประจุ มักใช้เร่งอนุภาคก่อนยิงเข้าสู่เครื่องเร่งอนุภาคแบบอื่นที่ให้พลังงานสูงขึ้น รอเบิร์ต แวน เดอ แกรฟฟ์ (Robert Van de Graaff) เป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องมือนี้ในปี พ.ศ. 2474, Example:
[นิวเคลียร์] | Van de Graaff accelerator | เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแวนเดอแกรฟฟ์, เครื่องผลิตประจุไฟฟ้าสถิตศักย์สูง โดยประจุไฟฟ้าจากเครื่องกำเนิดประจุถูกส่งผ่านโลหะปลายแหลมไปยังสายพานซึ่งทำหน้าที่พาประจุขึ้นไปสะสมไว้ที่ผิวทรงกลมจนได้ศักย์ไฟฟ้าสูง เครื่องนี้สามารถสะสมประจุจนกระทั่งมีศักย์ไฟฟ้าสูงถึง 20 ล้านโวลต์ เครื่องนี้สามารถใช้เป็นเครื่องเร่งอนุภาคที่มีประจุ มักใช้เร่งอนุภาคก่อนยิงเข้าสู่เครื่องเร่งอนุภาคแบบอื่นที่ให้พลังงานสูงขึ้น รอเบิร์ต แวน เดอ แกรฟฟ์ (Robert Van de Graaff) เป็นผู้ประดิษฐ์เครื่องมือนี้ในปี พ.ศ. 2474 [นิวเคลียร์] | Roentgen rays | รังสีเรินต์เก็น, รังสีในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า มีอำนาจทะลุทะลวงสูงไม่ได้มีต้นกำเนิดจากนิวเคลียสของอะตอม แต่เกิดขึ้นเมื่ออะตอมถูกกระตุ้น ทำให้อิเล็กตรอนวงในหลุดออกไป และอิเล็กตรอนวงถัดไปเข้ามาแทนที่ แล้วให้พลังงานส่วนเกินออกมาในรูปของรังสีเอกซ์ หรือเกิดจากการระดมยิงเป้าโลหะหนักบางชนิด เช่น ทังสเตน ด้วยอิเล็กตรอนความเร็วสูง ซึ่งอิเล็กตรอนจะถูกหน่วงให้ช้าลงอย่างทันทีทันใดและปล่อยรังสีเอกซ์ออกมา
บางคน เรียกรังสีเอกซ์ว่า รังสีเรินต์เก็น ตามชื่อของ วิลเฮล์ม คอนราด เรินต์เก็น นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมันผู้ค้นพบรังสีนี้เมื่อ ปี พ.ศ. 2438 [นิวเคลียร์] | Energy crops industry | อุตสาหกรรมพืชเศรษฐกิจที่ให้พลังงาน [TU Subject Heading] | International Atomic Energy Agency | สำนักพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ
ในการประชุมระหว่างประเทศ ที่ประชุมได้รับรองกฎข้อบังคับขององค์การนี้เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ค.ศ. 1956 ณ สำนักงานใหญ่ขององค์การสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก รัฐที่ร่วมลงนามเป็นสมาชิกขององค์การอย่างน้อย 18 ประเทศ รวมทั้งประเทศดังต่อไปนี้ คือ แคนาดา ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต สหราชอาณาจักร และ สหรัฐอเมริกา อย่างน้อยสามประเทศได้มอบสัตยาบันสาร ยังผลให้กฎข้อบังคับดังกล่าวมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 1956วัตถุประสงค์ขององค์การพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ คือ1. ต้องการเร่งรัดและส่งเสริมให้พลังงานปรมาณูมีส่วนเกื้อกูลมากขึ้นต่อ สันติภาพ สุขภาพ และความไพบูลย์มั่งคั่งตลอดทั่วโลก2. ทำให้เป็นที่แน่ใจว่า ความช่วยเหลือที่องค์การจัดให้หรือตามคำขอร้องขององค์การ หรือที่อยู่ใต้ความควบคุมดูแลขององค์การนั้น จะต้องไม่ถูกนำไปใช้เพื่อส่งเสริมความมุ่งหมายทางทหารแต่อย่างใดองค์การ ดำเนินงานผ่านทางองค์กรต่าง ๆ เหล่านี้ คือ1. ที่ประชุมระหว่างประเทศ (General Conference) ประกอบด้วยสมาชิกของสำนักพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศทั้งหมด มีการประชุมสมัยสามัญประจำปี และอาจมีการประชุมสมัยพิเศษเท่าที่จำเป็น ที่ประชุมจะพิจารณาแลกเปลี่ยนความเห็นในปัญหาต่าง ๆ ที่อยู่ภายในกรอบของกฎข้อบังคับ2. คณะผู้ว่าการ (Board of Governors) ประกอบด้วยประเทศสมาชิกทั้งหมด 23 ประเทศ ปฏิบัติงานตามหน้าที่ขององค์การ3. คณะเจ้าหน้าที่ขององค์การมีหัวหน้าเรียกว่าอธิบดี (Director General) ซึ่งคณะผู้ว่าการแต่งตั้งขึ้นตามความเห็นชอบของที่ประชุมใหญ่ และมีอายุอยู่ในตำแหน่ง 4 ปี ตัวอธิบดีถือเป็นหัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารขององค์การ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ในกรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย [การทูต] | Van de Graaff Generator (accelerator) | เครื่องแวนเดอกราฟ, เป็นเครื่องผลิตประจุไฟฟ้าสถิตย์ศักดาสูง ซึ่งประจุไฟฟ้าจากแหล่งกำเนิดถูกส่งผ่านโลหะปลายแหลมไปยังสายพาน ซึ่งทำหน้าที่พาประจุขึ้นไปสะสมไว้ที่ผิวทรงกลมจนได้ศักดาไฟฟ้าสูง ระบบทั้งหมดนี้อยู่ในถังความดันที่บรรจุแก๊สเฉื่อยทางไฟฟ้า เช่น ฟรีออนความดันสูงไม่น้อยกว่า 15 บรรยากาศ จะสามารถเก็บประจุซึ่งมีศักดาไฟฟ้าสูงถึงประมาณ 20 ล้านโวลต์ เครื่องนี้นำมาใช้เป็นเครื่องเร่งอนุภาคที่มีประจุไฟฟ้าได้ และมักใช้เร่งอนุภาคก่อนยิงเข้าสู่เครื่องเร่งอนุภาคแบบอื่นที่ให้พลังงานสูงขึ้น เรียกชื่อตาม Robert Van de Graaff ชาวเนเธอร์แลนด์ ซึ่งประดิษฐ์เครื่องมิอนี้ ในปี พ.ศ. 2474 [พลังงาน] | Compounds, High-Energy | ส่วนประกอบในสารที่ให้พลังงานสูง,สารประกอบที่มีพลังงานสูง [การแพทย์] | mineral salts | แร่ธาตุ, สารอาหารประเภทที่ไม่ให้พลังงานแต่มีความจำเป็นสำหรับกระบวนการเมแทบอลิซึมในร่างกาย เช่น เกลือของโซเดียม โพแทสเซียม แคลเซียม เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | carbohydrate | คาร์โบไฮเดรต, สารอาหารประเภทให้พลังงาน ประกอบด้วยธาตุคาร์บอน (C) ไฮโดรเจน (H) และออกซิเจน (O) มีสูตรทั่วไปคือ (CH2O)n พบทั่วไปในพืชและสัตว์ เช่น แป้ง น้ำตาล เซลลูโลส [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | vitamin | วิตามิน, สารอาหารที่ไม่ให้พลังงานแก่ร่างกายแต่ก็จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและความสมบูรณ์ของร่างกาย ถ้าขาดจะทำให้เกิดโรคต่าง ๆ วิตามินที่ค้นพบแล้วมีหลายชนิด เช่น วิตามิน A, B, C, D, E, K เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | exothermic change | การเปลี่ยนแปลงประเภทคายความร้อน, การเปลี่ยนแปลงของระบบที่มีพลังงานสูงกว่าสิ่งแวดล้อม เพื่อให้พลังงานเท่าเดิมระบบจึงคายพลังงานส่วนเกินออกสู่สิ่งแวดล้อม [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | fuel | เชื้อเพลิง, สารที่เมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วให้พลังงานความร้อนสูง เช่น ถ่านหิน น้ำมัน เป็นต้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | electrochemical cell [cell] | เซลล์ไฟฟ้าเคมี, ระบบที่ประกอบด้วยขั้วไฟฟ้า 2 ขั้วจุ่มอยู่ในอิเล็กโทรไลต์ ซึ่งเมื่อเกิดปฏิกิริยารีดอกซ์จะให้พลังงานไฟฟ้าออกมา เซลล์ไฟฟ้าเคมีแบ่งเป็น 2 ชนิด คือ เซลล์ไฟฟ้าปฐมภูมิและเซลล์ไฟฟ้าทุติยภูมิ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | charge | การประจุไฟ, การผ่านไฟฟ้ากระแสตรงเข้าไปในเซลล์ไฟฟ้าแบบทุติยภูมิเพื่อทำให้แผ่นโลหะที่ใช้เป็นขั้วไฟฟ้าอยู่ในสภาพที่จะสามารถเกิดปฏิกิริยาเคมีได้เองและให้พลังงานไฟฟ้าออกมาได้ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | phosphorescence | การเรืองแสง, การปล่อยแสงจากสารบางชนิดโดยไม่อาศัยความร้อน แต่อาศัยพลังงานรูปอื่น เช่น รังสีเอกซ์ รังสีอัลตราไวโอเลต เป็นต้น เมื่อหยุดการให้พลังงาน สารก็ยังคงเปล่งแสงอยู่ชั่วระยะหนึ่ง ซึ่งแตกต่างกับการวาวแสง เมื่อหยุดให้พลังงานสารก็จะหยุดเปล่งแสงทันที [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | fluorescence | การวาวแสง, การเกิดแสงของสารบางชนิดโดยไม่อาศัยความร้อน แต่อาศัยพลังงานรูปอื่น เช่น รังสีเอกซ์ รังสีอัลตราไวโอเลต เป็นต้น สารจะหยุดการเปล่งแสงทันทีเมื่อหยุดการให้พลังงาน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | protein | โปรตีน, สารอาหารประเภทที่ให้พลังงาน เป็นพอลิเพปไทด์ที่ประกอบด้วยกรดอะมิโนจำนวนมากเรียงต่อกัน สารอาหารชนิดนี้จำเป็นต่อสิ่งมีชีวิต คือช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตและเสริมสร้างซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอให้คงสภาพปกติ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | anthracite | แอนทราไซต์, ถ่านหินที่เกิดจากการทับถมของซากพืชเป็นเวลานาน มีปริมาณของคาร์บอนมากมีคุณภาพดีและให้พลังงานสูง [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
| เครื่องดื่มให้พลังงาน | [khreūangdeūm hai phalang-nagn] (n, exp) EN: energy drink ; energy-boosting drink ; stimulative drink FR: boisson énergisante [f] |
| gorp | (n) อาหารเสริมที่ช่วยให้พลังงาน (ประกอบด้วยถั่ว ผลไม้แห้งและอื่นๆ) | light | (adj) ที่ให้พลังงานต่ำ (อาหาร) | power | (vt) เติมพลัง, See also: เพิ่มพลัง, ทำให้ทำงาน, ให้พลังงาน | revitalise | (vt) ให้ชีวิตใหม่, See also: ให้พลังใหม่, Syn. renew, revive | revitalization | (n) การให้พลังงานใหม่, See also: การทำให้มีชีวิตชีวาใหม่, Syn. renewal, rejuvenation | revitalize | (vt) ให้ชีวิตใหม่, See also: ให้พลังใหม่, Syn. renew, revive | strengthen | (vt) ทำให้แข็งแรง, See also: ให้พลัง, เพิ่มกำลัง, Syn. harden, invigorate, toughen | vitalize | (vt) ทำให้มีชีวิต, See also: ให้พลัง, Syn. invigorate, Ant. let down, deaden, kill |
| energise | (เอน'เนอไจซ) v. กระตุ้นการทำให้,ให้พลังงาน., See also: energiser n. ดูenergize energizer n. ดูenergize, Syn. activate | energize | (เอน'เนอไจซ) v. กระตุ้นการทำให้,ให้พลังงาน., See also: energiser n. ดูenergize energizer n. ดูenergize, Syn. activate | revitalise | (รีไว'ทะไลซ) vt. ให้ชีวิตใหม่แก่,ให้พลังใหม่,ให้กำลังใหม่,ทำให้สดชื่นอีก,ฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิม, See also: revitalisation n. revitalization n., Syn. revive | revitalize | (รีไว'ทะไลซ) vt. ให้ชีวิตใหม่แก่,ให้พลังใหม่,ให้กำลังใหม่,ทำให้สดชื่นอีก,ฟื้นฟูกลับสู่สภาพเดิม, See also: revitalisation n. revitalization n., Syn. revive | vitalise | (ไว'ทะไลซ) vt. ให้ชีวิตแก่,ทำให้มีชีวิต,ให้พลัง,ให้กำลัง,ทำให้มีชีวิตชีวา., See also: vitalisation n. vitalization n. | vitalize | (ไว'ทะไลซ) vt. ให้ชีวิตแก่,ทำให้มีชีวิต,ให้พลัง,ให้กำลัง,ทำให้มีชีวิตชีวา., See also: vitalisation n. vitalization n. |
| energize | (vt) ทำให้เกิดกำลัง,ให้พลัง,ทำให้ขะมักเขม้น,กระตุ้น | strengthen | (vt) เพิ่มประสิทธิภาพ,ทำให้แข็งแรงขึ้น,ให้พลัง |
| inulin | (n) สารอินูลิน (สารที่ช่วยให้แบคทีเรียที่มีประโยชน์ในลำไส้เพิ่มจำนวนมากขึ้น และยับยั้งการเพิ่มจำนวนของแบคทีเรียสาเหตุโรคท้องร่วง ใช้เป็นสารทดแทนไขมันในครีม เนยแข็ง และไอศกรีม เพิ่มใยอาหารในผลิตภัณฑ์นม เป็นสารที่ให้ความหวานแต่ไม่ให้พลังงาน) |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |