ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*เรียกร้อง*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: เรียกร้อง, -เรียกร้อง-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
เรียกร้อง(v) call for, See also: demand, cry out for, make a demand for, require, Example: คนกรุงเทพฯ เรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาจราจร, Thai Definition: แสดงความต้องการให้ให้หรือให้กระทำ
คำเรียกร้อง(n) request, See also: claim, demand, call, appeal, Syn. ข้อเรียกร้อง, ข้อกำหนด
ข้อเรียกร้อง(n) demand, See also: request, requirement, claim, Syn. คำเรียกร้อง, Example: ผู้ประท้วงได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ, Count Unit: ประการ, ข้อ, Thai Definition: คำกล่าวเพื่อแสดงความต้องการต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
ผู้เรียกร้อง(n) one who demands, See also: claimant, Syn. คนเรียกร้อง, Ant. ผู้ให้, Example: ไม่มีใครเชื่อว่าเขาคือผู้เรียกร้อง ให้นายกรัฐมนตรีปลดรองอธิบดีออกจากตำแหน่ง, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้แสดงความต้องการให้ผู้อื่นให้สิ่งของหรือให้กระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง
กลุ่มเรียกร้อง(n) demanding group, Example: กลุ่มเรียกร้องต้องการให้สมาชิกทำตามกลุ่มเพื่อเสถียรภาพและความมั่นคงของกลุ่ม, Count Unit: กลุ่ม
ร้องเรียกร้องหา(v) call, See also: cry out for, shout or yell after, call out

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ร้องเรียกร้องหาก. ต้องการตัว.
เรียกร้องก. ร้องขอแกมบังคับให้ทำหรือให้งดการกระทำ เช่น เรียกร้องขอความเป็นธรรม เรียกร้องขอความเห็นใจ.
สิทธิเรียกร้องน. สิทธิที่จะเรียกให้ชำระหนี้หรือเรียกทรัพย์สิน.
กระบวนกระบิดน. แสร้งทำชั้นเชิงเพื่อถ่วงเวลาหรือเรียกร้องความสนใจเป็นต้น เช่น ทั้งกระบวนกระบิดติดปั้นปึ่ง (ไกรทอง), กระบิดกระบวน ก็ว่า.
กระบิดกระบวนก. แสร้งทำชั้นเชิงเพื่อถ่วงเวลาหรือเรียกร้องความสนใจเป็นต้น เช่น ทำจริตกระบิดกระบวนสะบิ้งสะบัด (ม. ร่ายยาว ชูชก), กระเบ็ดกระบวน ก็ใช้ เช่น อย่ากระเบ็ดกระบวนนักเลย.
กรีดกราด(-กฺราด) ว. อาการที่ร้องอุทานเพื่อเรียกร้องความสนใจเป็นต้น.
กินตามน้ำก. รับของสมนาคุณที่เขาเอามาให้โดยไม่ได้เรียกร้อง (มักใช้แก่เจ้าพนักงานผู้มีอำนาจ).
แกนนำน. ผู้ที่เป็นหลักหรือหัวหน้าของกลุ่มที่ชุมนุมเพื่อเรียกร้องหรือประท้วงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง เช่น กลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องให้เพิ่มค่าแรงในครั้งนี้มีแกนนำอยู่ ๒-๓ คน
เจ้าหนี้ร่วมน. บุคคลหลายคนซึ่งมีสิทธิเรียกร้องการชำระหนี้โดยแต่ละคนอาจจะเรียกให้ชำระหนี้โดยสิ้นเชิงได้.
ชม้อย(ชะ-) ก. ช้อนตาชำเลืองดูเพื่อเรียกร้องให้สนใจ.
ทวงก. เรียกเอาสิ่งที่เป็นของตนหรือที่ติดค้างกลับคืน เช่น ทวงหนี้ ทวงเงิน ทวงค่าเช่า, เรียกร้องเอาสิ่งที่จะพึงมีพึงได้ เช่น ทวงสิทธิ ทวงบุญทวงคุณ.
ทุนทรัพย์จำนวนเงินหรือราคาทรัพย์ที่เรียกร้องกันในคดี
บุริมสิทธิสามัญน. บุริมสิทธิของเจ้าหนี้ผู้ทรงสิทธิเรียกร้องในมูลหนี้อย่างหนึ่งอย่างใดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายเพื่อประโยชน์อันร่วมกัน ค่าปลงศพ ค่าภาษีอากร และเงินที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเพื่อการงานที่ได้ทำให้แก่ลูกหนี้ซึ่งเป็นนายจ้าง ค่าเครื่องอุปโภคบริโภคอันจำเป็นประจำวัน ในอันที่จะได้รับชำระหนี้ที่ค้างชำระแก่ตนจากทรัพย์สินทั้งหมดของลูกหนี้.
ปฏิกรรมสงครามน. การชดใช้ค่าเสียหายที่ฝ่ายชนะสงครามเรียกร้องเอาจากฝ่ายแพ้.
ปราชาปัตยวิวาหะ(ปฺราชาปัดตะยะ-) น. การสมรสวิธีหนึ่งที่บิดายกลูกสาวให้เจ้าบ่าวโดยปราศจากการเรียกร้องอย่างใดอย่างหนึ่งจากเจ้าบ่าว.
ปวารณา(ปะวาระนา) ก. ยอมให้ภิกษุสามเณรขอหรือเรียกร้องเอาได้ เช่น ขอของจากผู้ปวารณา ใบปวารณา
ไล่เบี้ยเรียกร้องให้รับผิดในการชำระหนี้ย้อนขึ้นไปเป็นลำดับ, การที่บุคคลซึ่งชำระหนี้ไปก่อนแล้วเรียกให้ลูกหนี้ที่แท้จริงชดใช้คืน.
วิรวะ, วิราวะเสียงเกรียวกราว, เสียงเรียกร้อง.
ใส่จริตก. แสร้งทำกิริยาท่าทางหรือวาจาให้ดูน่ารักเพื่อเรียกร้องความสนใจเป็นต้น (มักใช้แก่หญิง).
อายัดก. ห้ามจำหน่ายจ่ายโอนทรัพย์สินหรือสิทธิเรียกร้อง.
อายุความน. ระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดให้ใช้บังคับสิทธิเรียกร้อง บังคับคดี ฟ้องหรือร้องทุกข์ในคดีอาญา.
อื้นก. พูด, เรียก, เรียกร้อง, กล่าวถ้อยคำ, เอิ้น หรือ เอื้อน ก็ว่า.
อุลปนะ(อุนละปะ-) น. การกล่าวอ้าง, การเรียกร้อง.
เอิ้นก. พูด, เรียก, เรียกร้อง, กล่าวถ้อยคำ, อื้น หรือ เอื้อน ก็ว่า.
เอื้อน ๑ก. พูด, เรียก, เรียกร้อง, กล่าวถ้อยคำ, อื้น หรือ เอิ้น ก็ว่า.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
lawful damagesค่าเสียหายที่เรียกร้องได้ตามกฎหมาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
lay damagesค่าเสียหายที่โจทก์เรียกร้อง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
revendicationการเรียกร้องคืน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
recovery agentตัวแทนเรียกร้องส่วนรับคืน [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
right of claimสิทธิเรียกร้อง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
reclaimเรียกร้องคืน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
return for no claimเบี้ยประกันภัยจ่ายคืนเมื่อไม่มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
small claimข้อเรียกร้องรายย่อย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
suffragetteสตรีที่เรียกร้องสิทธิเลือกตั้ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
suffragistผู้เรียกร้องสิทธิเลือกตั้ง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
subordination๑. การอยู่ใต้บังคับ, การอยู่ใต้บังคับบัญชา๒. สิทธิหรือข้อเรียกร้องชั้นรอง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
occupying claimantผู้เรียกร้องในฐานะผู้ครอบครองทรัพย์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
amount claimedจำนวนเงินที่เรียกร้อง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
attachment of a claimการอายัดสิทธิเรียกร้อง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
joinder of claimsการรวมข้อเรียกร้อง, การรวมประเด็นฟ้อง [ ดู joinder of causes of action ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
quitclaimการสละสิทธิเรียกร้อง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
matured claimสิทธิเรียกร้องที่ถึงกำหนด [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
menaces, demand withเรียกร้องโดยข่มขู่ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
cross-claimข้อเรียกร้องกลับ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
claim๑. ข้อเรียกร้อง๒. การใช้สิทธิเรียกร้อง๓. การอ้างสิทธิ์ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
claim๑. การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน๒. ค่าสินไหมทดแทน [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
claimข้อเรียกร้อง, การใช้สิทธิเรียกร้อง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
claim adjusterผู้ไกล่เกลี่ยข้อเรียกร้อง (ในการประกันภัย) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
claim and deliveryสิทธิติดตามและเอาคืนซึ่งทรัพย์, การเรียกร้องเอาทรัพย์คืน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
claimantผู้เรียกร้อง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
court of claims; claims, court ofศาลพิจารณาข้อเรียกร้องจากรัฐ (อเมริกัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
Court of Claimsศาลพิจารณาข้อเรียกร้องจากรัฐ (อเมริกัน) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
claims conditionเงื่อนไขเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
claims, court of; court of claimsศาลพิจารณาข้อเรียกร้องจากรัฐ (อเมริกัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
chose in action๑. สิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับทรัพย์๒. ทรัพย์พิพาทในคดี [ ดู thing in action ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
disclaimerการบอกเลิกข้อเรียกร้อง, การไม่ยอมรับสิทธิ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
demandเรียกร้อง, ทวงถาม, เรียกให้ (กระทำการ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
disallowance๑. การไม่ยอมรับกฎหมาย (ที่ออกโดยอาณานิคมหรือเขตสังกัด)๒. การบอกปัด (ข้อเรียกร้อง) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
demand with menacesเรียกร้องโดยข่มขู่ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
demandantผู้เรียกร้อง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
forbearanceการงดใช้สิทธิเรียกร้อง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
irredentismอุดมการณ์เรียกร้องดินแดนของชนชาติเดียวกัน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
thing in action๑. สิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับทรัพย์๒. ทรัพย์พิพาทในคดี [ ดู chose in action ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
knock-for-knock agreementข้อตกลงไม่เรียกร้องต่อกัน [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
non-claimไม่ได้ใช้สิทธิเรียกร้อง (ภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
no claim for accident reportedการไม่เรียกร้องค่าสินไหมทดแทนสำหรับอุบัติเหตุที่ได้รับแจ้งแล้ว [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
nature of claimสภาพแห่งสิทธิเรียกร้อง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
unliquidated claimข้อเรียกร้องที่ยังกำหนดค่าเสียหายมิได้ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
underwriting and claims control clauseข้อกำหนดการควบคุมการรับประกันภัยและการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
waiver of claimsการสละสิทธิ์เรียกร้อง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Property and loan fund “Type 4 Fund”กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้อง (กอง 4) , กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิเรียกร้อง (กอง 4), Example: กองทุนรวมที่ บลจ. จัดตั้งขึ้นเพื่อจำหน่ายหน่วยลงทุนแก่ผู้ลงทุนสถาบันโดยมีวัตถุประสงค์หลักในการนำเงินที่ได้รับจากการจำหน่ายหน่วยลงทุนไปซื้อหรือเช่าอสังหาริมทรัพย์ และจัดหาประโยชน์จากอสังหาริมทรัพย์ดังกล่าว หรือลงทุนในสิทธิเรียกร้องหรือในทรัพย์สินอื่นเพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน [ตลาดทุน]
Workers' compensation claimsข้อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนสำหรับลูกจ้าง [TU Subject Heading]
Automobile insurance claimsข้อเรียกร้องจากประกันรถยนต์ [TU Subject Heading]
Choses in actionสิทธิเรียกร้องเกี่ยวกับทรัพย์ [TU Subject Heading]
Claim vs [ name of country or party agiant which claim are brought ]ข้อเรียกร้องต่อ [ ชื่อประเทศหรือคู่กรณี ] [TU Subject Heading]
Claimsข้อเรียกร้อง [TU Subject Heading]
Convention on limitation of liability for Maritime Claims (1976)อนุสัญญาว่าด้วยการจำกัดความรับผิดสำหรับสิทธิเรียกร้องทางทะเล (ค.ศ. 1976) [TU Subject Heading]
Disability insurance cliamsข้อเรียกร้องจากประกันทุพพลภาพ [TU Subject Heading]
Unemployment insurance claimantsผู้เรียกร้องสิทธิประกันสังคมการว่างงาน [TU Subject Heading]
Amendments to the Charter of the United Nationsการแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติ กฎบัตรของสหประชาชาตินั้น เปิดโอกาสให้มีการแก้ไขได้โดยสมัชชาสหประชาชาติหรือโดยที่ประชุมใหญ่ (General Conference) ของสมาชิกสหประชาชาติ ซึ่งอาจจะประชุมกัน ณ วันเวลาและสถานที่ตามแต่จะมีการตกลงกัน โดยคะแนนเสียง 2 ใน 3 ส่วนของสมัชชาใหญ่ และโดยคะแนนเสียงของสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงใด ๆ 7 เสียง ในที่ประชุมใหญ่นั้น สมาชิกแต่ละประเทศของสหประชาชาติจะมีเสียงลงคะแนน 1 เสียงการที่จะแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติให้เป็นผลสำเร็จ จะต้องได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกเป็นจำนวน 2 ใน 3 ส่วนของสมาชิกทั้งหมดในสมัชชาหรือจากที่ประชุมใหญ่ เมื่อการแก้ไขกฎบัตรเป็นที่รับรองแล้ว จะมีผลบังคับต่อสมาชิกทั้งหมดของสหประชาชาติ ก็ต่อเมื่อได้รับการสัตยาบันจากสมาชิก 2 ใน 3 ส่วนของจำนวนทั้งหมด รวมทั้งการรับรองจากสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงด้วยอาทิเช่น ในสมัยประชุมที่ 18 ของสมัชชาใหญ่ การแก้ไขกฎบัตรได้รับการรับรองเห็นชอบด้วย โดยผ่านข้อมติที่ 1991 (XVII) ในการแก้ไขครั้งนี้ได้เพิ่มจำนวนสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงจาก 11 เป็น 15 คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมจาก 18 เป็น 27 ประเทศ การแก้ไขดังกล่าวได้รับการลงมติรับรองเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1963 ในปัจจุบันนี้ ประเทศสมาชิกเป็นจำนวนมากกำลังเรียกร้องให้มีการปรับจำนวนสมาชิกถาวรของคณะ มนตรีความมั่นคงเสียใหม่ [การทูต]
Conselho Nacional da Resistencia Timorense (National Council of Timorese Resistance)" เป็นองค์กรที่ต่อสู้เพื่อเรียกร้องเอกราชของชาวติมอร์ตะวันออกจาก อินโดนีเซีย โดยมีนายซานานา กุสเมา (Xanana Gusmao) เป็นผู้นำคนสำคัญ " [การทูต]
Gerakan Aceh Merdeka (Free Aceh Movement)ขบวนการอาเจห์เสรี " เป็นกลุ่มเคลื่อนไหวเรียกร้องเอกราชจากอินโดนีเซีย ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2519 มี นาย Hasan Tiro เป็นหัวหน้า " [การทูต]
Generalized System of Preferencesระบบการให้สิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรเป็นการทั่วไป " มีที่มาจากการประชุมว่าด้วยการค้าและการพัฒนาขององค์การ สหประชาชาติ (UNCTAD) เมื่อปี พ.ศ. 2510 ภายใต้ระบบนี้ประเทศที่พัฒนาแล้วจะเปิดโอกาสให้ประเทศกำลังพัฒนาสามารถส่ง สินค้าไปขายแข่งขันในประเทศพัฒนา โดยการยกเว้นหรือลดหย่อนอัตราภาษีขาเข้าให้แก่สินค้าที่อยู่ในข่ายได้รับ สิทธิพิเศษ โดยไม่เรียกร้อง ผลประโยชน์ตอบแทนใด ๆ " [การทูต]
New Diplomacyการทูตแบบใหม่ ภายหลังสงครามโลกครั้งแรก หรือตั้งแต่ ค.ศ. 1918 เป็นต้นมา ได้เกิดการทูตแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างไปจาการทูตแบบเก่า อันได้ปฏิบัติกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี นักวิชาการบางท่านมีความเอนเอียงที่จะตำหนิว่า การที่เกิดสงครามโลกขึ้นนั้น เป็นเพราะการทูตประสบความล้มเหลวมากกว่าอย่างไรก็ดี บางท่านเห็นว่าแม้ส่วนประกอบของการทูตจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่เนื้อหาหรือสาระสำคัญของการทูตยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เป็นการผสมผสานเข้าด้วยกันระหว่างการทูตแบบเก่ากับการทูตแบบใหม่อาจกล่าวได้ ว่า มีปัจจัยสำคัญ ๆ อยู่สามประการ ที่มีอิทธิพลหรือบังเกิดผลโดยเฉพาะต่อวิธีการหรือทฤษฎีของการเจรจาระหว่าง ประเทศ กล่าวคือ ข้อแรก ชุมชนนานาชาติทั้งหลายเกิดการตื่นตัวมากขึ้น ข้อที่สอง ได้มีการเล็งเห็นความสำคัญของมติสาธารณะ ( Public Opinion) มากขึ้น และประการสุดท้าย เป็นเพราะการสื่อสารคมนาคมได้เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วอดีตนักการทูตผู้มี ชื่อเสียงคนหนึ่งของอินเดีย ได้แสดงความไม่พอใจและรังเกียจความหยาบอย่างปราศจากหน่วยก้านของการดำเนิน การทูตแบบใหม่ เช่น การโฆษณาชวนเชื่อเข้าใส่กัน การใช้ถ้อยคำในเชิงผรุสวาทต่อกัน การเรียกร้องกันอย่างดื้อ ๆ ขาดความละมุนละไมและประณีต อาทิเช่น การเรียกร้องข้ามหัวรัฐบาลไปยังประชาชนโดยตรงในค่ายของฝ่ายตรงกันข้ามการ กระทำต่าง ๆ ที่จะให้รัฐบาลต้องเสียชื่อหรือขาดความน่าเชื่อถือ ตลอดจนการใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ห้ามไม่ให้ประชาชนติดต่อกันทางสังคม และอื่น ๆ เป็นต้น [การทูต]
Pacific Settlement of International Disputesหมายถึง การระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี คงจะจำกันได้ว่า ในตอนเสร็จสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศในโลกฝ่ายเสรีซึ่งเป็นผู้ชนะ ต่างมีเจตนาอันแน่วแน่ที่จะหาทางมิให้เกิดสงครามขึ้นอีกในโลก จึงตกลงร่วมกันก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ (Charter of the United Nations)ดังนั้น ข้อ 2 ของกฎบัตรสหประชาชาติจึงได้กำหนดให้ประเทศสมาชิกมีพันธกรณีที่จะต้องหาทางระ งังกรณีพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี และข้อ 33 ของกฎบัตรก็ได้บัญญัติไว้ว่า ?1. ผู้เป็นคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในกรณีพิพาทใด ๆ ซึ่งหากดำเนินอยู่ต่อไป น่าจะเป็นอันตรายแก่การธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ก่อนอื่นจักต้องแสวงหาการแก้ไขโดยการเจรจา ไต่สวน ไกล่เกลี่ย ประนีประนอม อนุญาโตตุลาการ การระงับโดยทางศาล การหันเข้าอาศัยทบวงการตัวแทน การตกลงส่วนภูมิภาค หรือสันติวิธีประการอื่นใดที่คู่กรณีจะพึงเลือก 2. เมื่อเห็นว่าจำเป็น คณะมนตรีความมั่นคงจักเรียกร้องให้คู่พิพาทระงับกรณีพิพาทของตนโดยวิธีเช่น ว่านั้น? [การทูต]
Potsdam Proclamationคือคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดม ออกเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ค.ศ. 1945 โดยหัวหน้าคณะรัฐบาลของประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และจีน ลงนามโดยประธานาธิบดีของรัฐบาลจีนคณะชาติ เป็นคำประกาศเมื่อตอนใกล้จะเสร็จสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง โดยฝ่ายสัมพันธมิตรดังกล่าวกำลังทำสงครามขับเคี่ยวอยู่กับฝ่ายญี่ปุ่น พึงสังเกตว่า สหภาพโซเวียต ในตอนนั้นมิได้มีส่วนร่วมในการออกคำประกาศ ณ เมืองปอตสแดมแต่อย่างใดโดยแท้จริงแล้ว คำประกาศนี้เท่ากับเป็นการยื่นคำขาดให้ฝ่ายญี่ปุ่นตัดสินใจเลือกเอาว่าจะทำ การสู้รบต่อไป หรือจะยอมจำนนเพื่อยุติสงคราม คำประกาศได้เตือนอย่างหนักแน่นว่า หากญี่ปุ่นตัดสินใจที่จะสู้รบต่อไป แสนยานุภาพอันมหาศาลของสัมพันธมิตรก็จะมุ่งหน้าโจมตีบดขยี้กองทัพและประเทศ ญี่ปุ่นให้แหลกลาญ แต่หากว่าญี่ปุ่นยอมโดยคำนึงถึงเหตุผล ฝ่ายสัมพันธมิตรก็ได้ตั้งเงื่อนไขไว้หลายข้อ สรุปแล้วก็คือ ลัทธิถืออำนาจทหารเป็นใหญ่จะต้องถูกกำจัดให้สูญสิ้นไปจากโลกอำนาจและอิทธิพล ของบรรดาผู้ที่ชักนำให้พลเมืองญี่ปุ่นหลงผิด โดยกระโจนเข้าสู่สงครามเพื่อครองโลกนั้น จะต้องถูกทำลายให้สิ้นซาก รวมทั้งพลังอำนาจในการก่อสงครามของญี่ปุ่นด้วยจุดต่าง ๆ ในประเทศญี่ปุ่น ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด จะต้องถูกยึดครองไว้จนกระทั่งได้ปฏิบัติตามจุดมุ่งหมายของสัมพันธมิตรเป็นผล สำเร็จแล้ว อำนาจอธิปไตยของญี่ปุ่นให้จำกัดอยู่เฉพาะภายในเกาะฮอนซู ฮ็อกไกโด กิวชู ชิโกกุ และเกาะเล็กน้อยอื่น ๆ ตามที่ฝ่ายสัมพันธมิตรจะกำหนด อาชญากรสงครามทุกคนจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาล รวมทั้งที่ทำทารุณโหดร้ายต่อเชลยศึกของสัมพันธมิตร รัฐบาลญี่ปุ่นจะต้องกำจัดสิ่งต่าง ๆ ทั้งหมดที่เป็นอุปสรรคต่อการรื้อฟื้น และเสริมสร้างความเชื่อถือในหลักประชาธิปไตยในระหว่างพลเมืองญี่ปุ่น และจัดให้มีเสรีภาพในการพูด การนับถือศาสนา และในการแสดงความคิดเห็น ตลอดจนการเคารพสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อย่างไรก็ดี ญี่ปุ่นจะได้รับอนุญาตให้ดำเนินกิจการด้านอุตสาหกรรมที่จะเกื้อกูลต่อภาวะ เศรษฐกิจของประเทศ และความสามารถที่จะชำระค่าปฏิกรรมสงคราม แต่จะไม่ยอมให้คงไว้ซึ่งกิจการอุตสาหกรรมชนิดที่จะช่วยให้ญี่ปุ่นสร้างสม อาวุธเพื่อทำสงครามขึ้นมาอีก ในทีสุด กำลังทหารสัมพันธมิตรจะถอนตัวออกจากประเทศญี่ปุ่นในทันทีที่จุดประสงค์ต่าง ๆ ได้บรรลุผลเรียบร้อยแล้ว ในตอนท้ายของเงื่อนไข สัมพันธมิตรได้เรียกร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข เสียโดยไว [การทูต]
receivablesสิทธิเรียกร้องทางการเงิน [การทูต]
Sanctionsการบังคับตามกฎระหว่างประเทศ หมายถึงการที่หลาย ๆ ชาติได้ลงมติใช้มาตรการบังคับหรือจูงใจพร้อม ๆกันเพื่อบังคับให้ชาติหนึ่งที่ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ทำการยับยั้ง (Desist) หรือยินยอมให้มีการชี้ขาดตัดสิน (Adjudication) หรือกล่าวอย่างสั้น ๆ แซ็งชั่นก็คือ หนทางที่บังคับพันธกรณีทางกฎหมายให้เป็นไปตามกฎหมายเรื่องแซ็งชั่นนี้ กฎบัตรสหประชาชาติได้กล่าวไว้ในบทที่ 7 ข้อ 41 และ 42 มีข้อความดังนี้ ?ข้อ 41 คณะมนตรีความมั่นคงอาจวินิจฉัยว่า จะต้องใช้มาตรการอันใดอันไม่มีการใช้กำลังอาวุธ เพื่อยังผลให้เกิดแก่คำวินิจฉัยของคณะมนตรี และอาจเรียกร้องให้สมาชิกแห่งสหประชาชาติใช้มาตรการเช่นว่านั้น มาตรการเหล่านี้อาจรวมถึงการตัดสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และการคมนาคมทางรถไฟ ทางทะเล ทางอากาศ ทางไปรษณีย์โทรเลข ทางวิทยุ และวิถีทางคมนาคมอย่างอื่นโดยสิ้นเชิงหรือแต่บางส่วน และการตัดความสัมพันธ์ทางการทูต ข้อ 42 หากคณะมนตรีความมั่นคงพิจารณาเห็นว่ามาตรการที่บัญญัติไว้ในข้อ 41 น่าจะไม่เพียงพอ หรือได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เพียงพอ คณะมนตรีก็อาจดำเนินการใช้กำลังทางอากาศ ทางทะเล หรือทางพื้นดินเช่นที่เห็นจำเป็น เพื่อธำรงไว้ หรือสถาปนากลับคืนมาซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ การดำเนินการเช่นว่านี้ อาจรวมถึงการแสดงแสนยานุภาพ การปิดล้อม และการปฏิบัติอย่างอื่นโดยกำลังทางอากาศ ทางทะเล หรือทางพื้นดินของบรรดาสมาชิกแห่งสหประชาชาติ [การทูต]
Security Council of the United Nationsคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีนี้ประกอบด้วยสมาชิกถาวร (Permanent members) 5 ประเทศ คือ จีน ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต อังกฤษ และสหรัฐฯ และมีสมาชิกไม่ถาวร (Non-permanent members) อีก 10 ประเทศ ซึ่งสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเป็นผู้เลือกตั้ง และให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งประเทศละ 2 ปี สมาชิกประเภทนี้ไม่มีสิทธิรับเลือกตั้งใหม่ในทันที และในการเลือกตั้งจะคำนึงส่วนเกื้อกูลหรือบทบาทของประเทศผู้สมัครที่มีต่อ การธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งที่มีต่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ขององค์การสหประชาชาติด้วย ในการเลือกตั้ง จะคำนึงถึงการแบ่งกลุ่มประเทศสมาชิกดังนี้คือ ก. 5 ประเทศจากแอฟริกาและเอเชียข. 1 ประเทศจากยุโรปตะวันออกค. 2 ประเทศจากละตินอเมริกาง. 2 ประเทศจากยุโรปตะวันตก และประเทศอื่น ๆหน้าที่ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีดังนี้1. ธำรงรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ2. สอบสวนเกี่ยวกับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งระหว่างประเทศ3. เสนอแนะวิธีที่จะใช้กรณีพิพาทเช่นว่านั้น หรือ เงื่อนไขที่ให้มีการตกลงปรองดองกัน4. วางแผนเพื่อสถาปนาระบบการควบคุมกำลังอาวุธ5. ค้นหาและวินิจฉัยว่ามีภัยคุกคามต่อสันติภาพ หรือ เป็นการกระทำที่รุกรานหรือไม่ แล้วเสนอแนะว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร 6. เรียกร้องให้สมาชิกประเทศที่ทำการลงโทษในทางเศรษฐกิจ และใช้มาตรการอื่น ๆ ที่ไม่ถึงขั้นทำสงคราม เพื่อป้องกันมิให้เกิดหรือหยุดยั้งการรุกราน7. ดำเนินการทางทหารตอบโต้ฝ่ายที่รุกราน8. เสนอให้รับประเทศสมาชิกใหม่ รวมทั้งเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ ในการที่จะเข้าเป็นภาคีตามกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ 9. ทำหน้าที่ให้ภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ ในเขตที่ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์10. เสนอแนะให้สมัชชาสหประชาชาติ แต่งตั้งตัวเลขาธิการและร่วมกับสมัชชาในการเลือกตั้งผู้พิพากษาศาลโลก11. ส่งรายงานประจำปีและรายงานพิเศษต่อสมัชชาสหประชาชาติบรรดาประเทศสมาชิกของสห ประชาชาติ ต่างตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อมติใด ๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง ทั้งยังรับรองที่จะจัดกำลังกองทัพของตนให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงหากขอร้อง รวมทั้งความช่วยเหลือและและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ [การทูต]
Size of Staff of Diplomatic Missionขนาดของคณะผู้แทนทางการทูต โดยพฤตินัย จำนวนคณะผู้แทนทางการทูตจะมีตั้งแต่แห่งละหนึ่งหรือสองคนขึ้นไป จนถึงแห่งละ 100 กว่าคนได้ แต่โดยส่วนเฉลี่ย คณะผู้แทนทางการทูต จะมีจำนวนระหว่าง 12 ถึง 24 คน สำหรับคณะผู้แทนทางการทูตที่ประจำอยู่ในนครหลวงของประเทศใหญ่ๆ เช่น ที่กรุงวอชิงตันดีซี กรุงลอนดอน กรุงปารีส กรุงมอสโก กรุงปักกิ่ง และกรุงโตเกียว เป็นต้น จะมีเจ้าหน้าที่ทูตมากกว่าปกติอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทาง การทูตได้บัญญัติอยู่ในมาตรา 11 ว่า ?1. เมื่อไม่มีความตกลงเฉพาะในเรื่องขนาดของคณะผู้แทน รัฐผู้รับอาจเรียกร้องให้ขนาดของคณะผู้แทนอยู่ในจำนวนจำกัดตามที่ตนเห็นว่า เหมาะหรือเป็นปกติได้ ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงพฤติการณ์หรือสภาวการณ์ในรัฐผู้รับ และความจำเป็นของคณะผู้แทนเฉพาะราย 2. ภายในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน และบนมูลฐานที่ไม่เลือกปฏิบัติ รัฐผู้รับอาจปฏิเสธได้เช่นเดียวกัน ที่จะยอมรับพนักงานเฉพาะรายประเภทหนึ่งประเภทใดก็ได้? [การทูต]
Waiver of Immunityการสละความคุ้มกันทางการทูต ในเรื่องนี้บางประเทศออกกฎไว้ว่า ความคุ้มกันจากอำนาจทั้งทางแพ่งหรืออาญาของผู้แทนทางการทูตที่ประจำอยู่ใน ประเทศผู้รับ ตามที่กฎหมายระหว่างประเทศได้มอบให้ รวมทั้งคณะเจ้าหน้าที่ทางการทูตและบุคคลในครอบครัวของเขานั้น ย่อมสละมิได้ นอกจากจะได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่าง ประเทศของผู้นั้น เหตุผลของการออกกฎข้อนี้เป็นเพราะเขาถือว่า ความคุ้มกันนั้นมิได้เกี่ยวกับตัวเจ้าหน้าที่โดยตรงหากแต่เกี่ยวกับตำแหน่ง หน้าที่ของเขามากกว่าเรื่องการสละความคุ้มกันข้างต้น อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตรา 32 ว่า?1. ความคุ้มกันจากอำนาจศาลของตัวแทนทางการทูตและของบุคคลที่อุปโภคความคุ้มกัน ภายใต้ขอ้ 37 อาจสละได้โดรัฐผู้ส่ง 2. การสละต้องเป็นที่ชัดแจ้งเสมอ 3. การริเริ่มคดีโดยตัวแทนทางการทูต หรือโดยบุคคลที่อุปโภคความคุ้มกันจากอำนาจศาลภายใต้ข้อ 37 จะกันตัวแทนทางการทูตหรือบุคคลนั้นจากการอ้างความคุ้มกันของอำนาจศาล ในส่วนที่เกี่ยวกับการฟ้องแย้งที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเรียกร้องสิทธิ สำคัญนั้น 4. การสละความคุ้มกันจากอำนาจศาลในส่วนที่เกี่ยวกับคดีแพ่งหรือคดีปกครอง ไม่ให้ถือว่ามีนัยเป็นการสละความคุ้มกันในส่วนที่เกี่ยวกับการบังคับคดีตาม คำพิพากษา ซึ่งจำเป็นต้องมีการสละต่างหากอีก? [การทูต]
Work of the United Nations for the Independence of Colonial Peoplesงานขององค์การสหประชาชาติ ในการช่วยให้ชาติอาณานิคมทั้งหลายได้รับความเป็นเอกราช นับตั้งแต่เริ่มตั้งองค์การสหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ.1945 เป็นต้นมา มีชนชาติของดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเอง รวมทั้งดินแดนในภาวะทรัสตีตามส่วนต่าง ๆ ของโลก ได้รับความเป็นเอกราชไปแล้วไม่น้อยกว่า 170 ล้านคน ดินแดนที่แต่ก่อนยังไม่มีฐานะปกครองตนเองราว 50 แห่งได้กลายฐานะเป็นรัฐเอกราช มีอธิปไตยไปแล้ว ขณะนี้ยังเหลือดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเองอีกไม่มาก กำลังจะได้รับฐานะเป็นประเทศเอกราชต่อไปแม้ว่าปัจจัยสำคัญที่สุดซึ่งทำให้ เกิดวิวัฒนาการอันมีความสำคคัญทางประวัติศาสตร์ จะได้แก่ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของประชาชนในดินแดนเมืองขึ้นทั้งหลาย แต่องค์การสหประชาชาติก็ได้แสดงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนชนชาติ ที่ยังมิได้เป็นเอกราช และชาติที่ยังปกครองดินแดนเหล่านั้นอยู่ ให้รีบเร่งที่จะให้ชาชาติในดินแดนเหล่านั้นได้รับฐานะเป็นเอกราชโดยเร็วที่ สุดเท่าที่จะเป็นไปได้การที่องค์การสหประชาชาติมีบทบาทหน้าที่ดังกล่าวเพราะ ถือตามหลักแห่งความเชื่อศรัทธาที่ว่า มนุษย์ไม่ว่าชายหรือหญิง และชาติทั้งหลายไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกัน และได้ยืนยันความตั้งใจอันแน่วแน่ของประเทศสมาชิกที่จะใช้กลไกระหว่างประเทศ ส่งเสริมให้ชนชาติทั้งหลายในโลกได้ประสบความก้าวหน้าทั้งในทางเศรษฐกิจและ สังคมนอกจากนั้น เพื่อเร่งรัดให้ชนชาติที่ยังอยูใต้การปกครองแบบอาณานิคมได้ก้าวหน้าไปสู่ เอกราช สมัชชาของสหประชาชาติ (General Assembly of the United Nations) ก็ได้ออกปฏิญญา (Declaration) เกี่ยวกับการให้ความเป็นเอกราชแก่ประเทศและชนชาติอาณานิคม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 ซึ่งในปฏิญญานั้น ได้ประกาศยืนยันความจำเป็นที่จะให้ลัทธิอาณานิคมไม่ว่าในรูปใด สิ้นสุดลงโดยเร็วและปราศจากเงื่อนไขใด ๆ สมัชชายังได้ประกาศด้วยว่า การที่บังคับชนชาติอื่นให้ตกอยู่ใต้อำนาจการปกครอง แล้วเรียกร้องประโยชน์จากชนชาติเหล่านั้น ถือว่าเป็นการปฏิเสธไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชนขั้นมูลฐาน เป็นการขัดกับกฎบัตรของสหประชาชาติ เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือของโลกสมัชชาสหประชาชาติ ยังได้ประกาศต่อไปว่า จะต้องมีการดำเนินการโดยด่วนที่สุด โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อสงวนใด ๆ ตามเจตนารมณ์ ซึ่งแสดงออกอย่างเสรี โดยไม่จำกัดความแตกต่างในเรื่องเชื้อชาติ หลักความเชื่อถือ หรือผิว เพื่อให้ดินแดนทั้งหลายที่ยังไม่ได้มีการปกครองของตนเองเหล่านั้นได้รับความ เป็นเอกราชและอิสรภาพโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1961 สมัชชาสหประชาชาติก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อตรวจดูและให้มีการปฏิบัติให้เป็นตามคำปฏิญญาของสหประชาชาติ และถึงสิ้นปี ค.ศ. 1962 คณะกรรมการดังกล่าวได้ประชุมกันหลายต่อหลายครั้งทั้งในและนอกสำนักงานใหญ่ ขององค์การสหประชาชาติ แล้วรวบรวมเรื่องราวหลักฐานจากบรรดาตัวแทนของพรรคการเมืองทั้งหลาย จากดินแดนที่ยังไม่ได้รับการปกครองตนเอง แล้วคณะกรรมการได้ตั้งข้อเสนอแนะต่าง ๆ โดยมุ่งจะเร่งรัดให้การปกครองอาณานิคมสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ [การทูต]
Work of the United Nations on Human Rightsงานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต]
Demand, Consciousการเรียกร้องบางอย่างโดยรู้ตัว [การแพทย์]
Demand, Subconsciousการเรียกร้องบางอย่างโดยไม่รู้ตัว [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
This calls for a celebration!นี้เรียกร้องให้การเฉลิมฉลอง! Pinocchio (1940)
I have a proposition to make to all of you. I'm going to call for another vote.ผมมีข้อเสนอที่จะทำให้ทุกท่าน ฉันจะเรียกร้องให้มีการลงคะแนนเสียงอีก 12 Angry Men (1957)
Another vote called for.เสียงเรียกร้องให้อีก 12 Angry Men (1957)
In the name of science I demand that ring.ในนามของวิทยาศาสตร์ ฉันเรียกร้อง แหวนนั้น มันคือของคุณ มันคือของคุณ Help! (1965)
Netting call, net now.ได้ยินการเรียกร้องตาข่ายสุทธิ ในขณะนี้ How I Won the War (1967)
But any one of you might be called upon to be conversant with the triangle.แต่หนึ่งของคุณใด ๆ ที่อาจจะมี การเรียกร้อง ที่จะคุ้นเคยกับตามบัญชีและ การแสดงของสามเหลี่ยม ดังกล่าวข้างต้น How I Won the War (1967)
You all heard her call on Godท่านได้ยินเรียกร้องพระเจ้า Salò, or the 120 Days of Sodom (1975)
If no one makes a claim to it, I say we can forget it.ถ้าไม่มีใครทำให้การเรียกร้อง ให้มัน ฉันบอกว่าเราสามารถลืมมัน Mad Max (1979)
It would be wrong of us to make it one, now that we....มันไม่ถูกต้อง ถ้าเราจะเรียกร้องในตอนนี้ Gandhi (1982)
And our first act should be to convene a congress party convention and demand independence.งานชิ้นแรกของเราน่าจะเป็น จัดประชุมพรรคชาตินิยม และเรียกร้องการเป็นเอกราช Gandhi (1982)
India demands home rule!อินเดีย เรียกร้องการปกครองตัวเอง Gandhi (1982)
What do they want?พวกเขาเรียกร้องอะไร Gandhi (1982)
As soon as he got out, he was back tramping the countryside preaching nonviolence and demanding a free india.ทันทีที่ออกมา เขาก็จะไปตามชนบท เทศน์เรื่องอหิงสาและ เรียกร้องเอกราชให้อินเดีย Gandhi (1982)
Tomorrow, 5000 Muslim students of all ages are marching here, in Calcutta, for peace.พรุ่งนี้ นักเรียนมุสลิมห้าพันคน ในทุกๆ วัย จะเดินขบวนเรียกร้อง ความสงบที่นี่ ในกัลกัตตา Gandhi (1982)
Science demands it.เรียกร้องวิทยาศาสตร์มัน Greystoke: The Legend of Tarzan, Lord of the Apes (1984)
It is with great pleasure that I call upon his grandson... the present earl, to declare the Greystoke Gallery open.มันมีความยินดีอย่างยิ่งที่จะ เรียกร้องให้หลานชายของเขา ... เอิร์ลปัจจุบันจะประกาศ โตแกลเลอรี่เปิด Greystoke: The Legend of Tarzan, Lord of the Apes (1984)
history demonstrates conclusively that naive wishing for peace is the surest possible way to encourage an aggressor.ประวัติศาสตร์ชี้ชัดว่า พวกโลกสวยที่เรียกร้องสันติภาพ มีทางเดียวที่เป็นไปได้ นั่นคือ ยอมสยบแก่ผู้รุกราน Spies Like Us (1985)
They'll demand we go to war.พวกเขาจะเรียกร้องสงคราม The Princess Bride (1987)
This is her time. If she doesn't get out there, she's dead.เวลาของเธอ ถ้าไม่ออกไปตามคำเรียกร้อง.. The Bodyguard (1992)
Call to meการเรียกร้องให้ฉัน In the Name of the Father (1993)
And we are expected to believe a man who claims he stole from a prostitute... before we would believe ten police officers who stood here on oath... and called you a liar?และเราคาดว่าจะเชื่อคน การเรียกร้องเขาขโมยมาจากหญิง? ก่อนที่เราจะเชื่อสิบตำรวจ เจ้าหน้าที่ผู้ที่ยืนอยู่? และเรียกเธอว่าคนโกหกหรือไม่ In the Name of the Father (1993)
Calling for work on the threes.เรียกร้องให้มีการทำงาน ใน threes In the Name of the Father (1993)
London and Liverpool today in demonstrations... demanding the release of the Guildford Four.ลอนดอนและลิเวอร์พูลในวันนี้ ในการสาธิต ... เรียกร้องปล่อย ของ Guildford Four In the Name of the Father (1993)
But listen carefully to what is calling.แต่ฟังเอาไว้ให้ดีนะในสิ่งที่เรียกร้อง The Joy Luck Club (1993)
That calls out forมันเรียกร้อง The Nightmare Before Christmas (1993)
Call for...เรียกร้องให้ ... Pulp Fiction (1994)
Or at least I was going to make people believe that I would kill myself kill myself so I could get some attention, or something.หรืออย่างน้อยก็ทำให้คนอื่นเชื่อว่า ผมจะฆ่าตัวตาย ดังนั้นผมจึงเรียกร้องความสนใจ Don Juan DeMarco (1994)
We're here at what they're calling Camp Keeley... waiting for the senator to put in an appearance.เราอยู่ที่นี่ในสิ่งที่พวกเขากำลังเรียกร้องค่ายคีเลย์ ... รอให้สมาชิกวุฒิสภาที่จะนำในลักษณะที่ปรากฏ The Birdcage (1996)
How do you feel about that call today?คุณรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับการเรียกร้องในวันนี้ว่า? The Birdcage (1996)
We're here at what they're calling Camp Keeley...เราอยู่ที่นี่ในสิ่งที่พวกเขากำลังเรียกร้องค่ายคีเลย์ ... The Birdcage (1996)
But I want you to understand if the time comes to call for an alert...แต่ฉันต้องการให้คุณเข้าใจ ถ้าถึงเวลาที่จะเรียกร้องให้การแจ้งเตือน ... Dante's Peak (1997)
Seeing as you're intent on breaking my balls, เดี๋ยวนี้คุณชักเรียกร้องมากไปแล้วนะ Good Will Hunting (1997)
I tried to get Latin canceled for five years.ฉันเรียกร้องให้เลิกสอนลาตินมา5ปี Rushmore (1998)
Signora Malena, a more capable person than me wrote that the only true love is unrequited love.ซิญญอร่ามาเลน่ามีคนที่เก่งกว่าผม... เขียนไว้ว่ารักแท้คือรักที่ไม่เรียกร้องสิ่งใด Malèna (2000)
Why now?เขาก็ไม่ได้เรียกร้องเป็นพ่อแม่บังเกิดเกล้าด้วยซ้ำไป Legally Blonde (2001)
Why this sperm?แล้วทีอย่างนี้ทำไมจะมาเรียกร้องกับการหลั่งสเปิร์มครั้งนี้ล่ะ Legally Blonde (2001)
We reach you with a finger and you take the whole hand.ถ้าลองให้ยิว มันได้คืบนึง มันก็เรียกร้องจะเอาศอก The Pianist (2002)
I am here at your request.ข้ามาตามคําเรียกร้องของท่าน The Scorpion King (2002)
I'm runnin' behind... and I really need to make a call.ฉัน runnin 'ที่อยู่เบื้องหลัง ... และผมต้องการที่จะทำให้การเรียกร้อง Wrong Turn (2003)
I didn't realize that by demanding excellence I would be challenging....ฉันไม่รู้เลยว่า การที่ฉันเรียกร้องความเป็นเลิศ ฉันจะถูกท้าทายว่า... Mona Lisa Smile (2003)
I had fun, and I'm not looking for anything serious.ฉันสนุก และฉันก็ไม่ได้ เรียกร้องอะไรจริงจัง Mona Lisa Smile (2003)
We're willing to consider... all legitimate demands."เราจะรับพิจารณา... เฉพาะข้อเรียกร้องที่ถูกกฎหมาย" The Dreamers (2003)
Please don't interfere. My manhood is crying out to meet this supreme challenge.อย่าเข้ามายุ่งน่า ความเป็นผู้ชายของผม มันเรียกร้องให้ทำการท้าทายนี้ให้สำเร็จ Hope Springs (2003)
There's a number screaming to tell us something.-ตัวเลขที่เรียกร้องที่จะบอกเรา 21 Grams (2003)
Due to the gangsters who fought for us since Japan's occupation, หากไม่มี วีรบุรุษ ผู้เรียกร้องเอกราช จากญี่ป่น My Tutor Friend (2003)
600000 people were killed to get rights for people and then with strokes of the pen over the next 30years judges applied those rights to capital and property while stripping them from people.มีคนถึง 600, 000 คนต้องตายเพื่อเรียกร้องสิทธิให้ประชาชน แต่เพียงแค่ปลายปากกาตวัดไม่กี่ครั้งตลอด 30 ปีต่อมา ผู้พิพากษาก็ยกสิทธินี้ให้ทุนและกรรมสิทธิ์เอกชน The Corporation (2003)
The market requires them to be there.ตลาดเรียกร้องให้พวกเขาออกมา The Corporation (2003)
We are calling upon State Attorney General Dan Lungren to comply with California law and to revoke the corporate charter of the Union Oil Company of California for its repeated and grievous offences.เรากำลังเรียกร้องให้ รมต.ยุติธรรม แดน ลันเกรน ปฏิบัติตามกฎหมายแคลิฟอร์เนีย และเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการ The Corporation (2003)
- is to my heart.- ทำในสิ่งที่หัวใจของข้าเรียกร้อง Mulan 2: The Final War (2004)
"My duty is to my heart?""ข้ากำลังทำหน้าที่ตามที่หัวใจเรียกร้อง" Mulan 2: The Final War (2004)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
การเรียกร้อง[kān rīekrøng] (n) EN: claim
การเรียกร้องค่าเสียหาย[kān rīekrøng khāsīahāi] (n, exp) EN: claim for damages
การสละสิทธิ์เรียกร้อง[kān sala sit rīekrøng] (n, exp) EN: waiver of claims
คำเรียกร้อง[kham rīek-røng] (n) EN: request ; claim ; demand ; call ; appeal  FR: requête [ f ]
ข้อเรียกร้อง[khørīekrøng] (n) EN: demand ; claim
ข้อเรียกร้องที่ไม่มีเหตุผล[khørīekrøng thī mai mī hētphon] (n, exp) EN: unfounded claim
กลุ่มเรียกร้อง[klum rīekrøng] (n, exp) EN: demanding group
หนังสือเรียกร้องค่าเสียหาย[nangseū rīekrøng khāsīahāi] (n, exp) EN: claim for reimbursement
ปฏิเสธข้อเรียกร้อง[patisēt khørīekrøng] (v, exp) EN: repudiate a claim
ปฏิเสธข้อเรียกร้องที่ไม่มีเหตุผล[patisēt khørīekrøng thī mai mī hētphon] (v, exp) EN: repudiate an unfounded claim
ผู้เรียกร้อง[phū rīekrøng] (n, exp) EN: claimant
เรียกร้อง[rīekrøng] (v) EN: call for ; demand ; cry out for ; make a demand for ; require  FR: réclamer ; requérir ; exiger ; demander ; ancer un appel
เรียกร้องความสนใจ[rīekrøng khwām sonjai] (v, exp) EN: get attention  FR: attirer l'attention
สิทธิเรียกร้อง[sitthi rīekrøng] (n, exp) EN: legal claim
สิทธิเรียกร้องค่าเสียหาย[sitthi rīekrøng khāsīahāi] (n, exp) EN: claim for damages
สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย[sitthi rīekrøng tām kotmāi] (n, exp) EN: legal title

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
agitate for(phrv) เรียกร้อง, See also: ปลุกระดมให้มี, Syn. campaign for
backdown(n) การยกเลิกข้อเรียกร้อง, See also: การเปลี่ยนแปลงข้อเสนอดั้งเดิม, Syn. retraction
challenge(vt) เรียกร้อง
claim(n) การเรียกร้อง, Syn. demand, request, call
claim(vt) เรียกร้อง, Syn. demand, require
claimant(n) ผู้ที่เรียกร้องสิทธิ, Syn. petitioner, claimer
cry(n) การเรียกร้องของมวลชน, See also: ความต้องการของมวลชน
call of nature(idm) อยากไปห้องน้ำ (เป็นคำกล่าวเชิงขำขัน), See also: ธรรมชาติเรียกร้อง
call something into action(idm) เรียกร้องให้เริ่มหรือทำบางสิ่ง
claim against(phrv) เรียกร้องให้จ่าย, See also: อ้างสิทธิ์ให้จ่าย
claim back(phrv) เรียกร้องเงินคืน
claim for(phrv) เรียกร้องให้จ่ายสำหรับ
claim from(phrv) เรียกร้องค่าชดเชย
clamour for(phrv) โห่ร้องแสดงความต้องการ, See also: ส่งเสียงเรียกร้อง, Syn. yammer for
demand from(phrv) เรียกร้อง, See also: ต้องการ
demand of(phrv) เรียกร้องจาก, Syn. ask of
entreat of(phrv) ร้องขอ, See also: เรียกร้อง
demand(vt) ต้องการ, See also: ประสงค์, ปรารถนา, เรียกร้อง, ถาม, สอบถาม, สั่งซื้อ, Syn. require, sue for, call for, ask for
encore(n) การแสดงซ้ำอีกครั้งตามคำเรียกร้องของผู้ชม, See also: การแสดงเพื่อตามคำเรียกร้องของผู้ชม
encore(int) คำที่ใช้เพื่อเรียกร้องให้มีการแสดงเพิ่ม, Syn. again
encore(vt) แสดงซ้ำอีกครั้งตามคำเรียกร้องของผู้ชม, See also: แสดงเพิ่มตามคำเรียกร้องของผู้ชม
encore(vi) แสดงซ้ำอีกครั้งตามคำเรียกร้องของผู้ชม, See also: แสดงเพิ่มตามคำเรียกร้องของผู้ชม
exhibitionist(n) ผู้ที่ชอบเรียกร้องความสนใจ
hang out for(phrv) เรียกร้อง, Syn. hold out of, stand out for, stick out for
heigh(int) คำอุทานเพื่อเรียกร้องความสนใจ แสดงความพอใจ หรือแปลกใจ ฯลฯ
hist(int) คำอุทานเพื่อเรียกร้องความสนใจหรือขอร้องให้คนเงียบ
ho(int) คำอุทานแสดงความประหลาดใจ ดีใจ เรียกร้องความสนใจ
pull a stunt(idm) แสดงโชว์เพื่อเป็นจุดเด่น, See also: แสดงโชว์เพื่อเรียกร้องความสนใจ
importunate(adj) ที่เรียกร้อง, See also: ซึ่งรบเร้า
importunity(n) การรบเร้า (คำทางการ), See also: การเรียกร้องไม่หยุด, การเซ้าซี้, Syn. persistence, petition, request
irredentism(n) ลัทธิสนับสนุนการเรียกร้องดินแดนคืน (ในอิตาลีปีค.ศ.1878)
lay claim to(phrv) เรียกร้อง, See also: อ้างสิทธิ
martyr(n) ผู้แสร้งทำเป็นทุกข์ทรมานเพื่อให้คนอื่นเห็นใจ, See also: ผู้เรียกร้องความสนใจ
postulator(n) ผู้ขอร้อง, See also: ผู้เรียกร้อง
press(vt) เรียกร้อง
pretension(n) การเรียกร้อง, Syn. demand, declaration
put in for(phrv) เรียกร้อง, See also: อ้างสิทธิ์, Syn. put in
put in(phrv) เรียกร้อง, See also: อ้างสิทธิ, Syn. put in for
quitclaim(vt) ยกเลิกข้อเรียกร้อง, See also: สละสิทธิ์เรียกร้อง
razzmatazz(n) การกระทำที่ส่งเสียงดังเพื่อเรียกร้องความสนใจผู้คน
request(vt) ขอร้อง, See also: ขอ, เรียกร้อง, Syn. ask for, demand, desire
request(n) การขอร้อง, See also: การขอ, คำขอร้อง, การเรียกร้อง, Syn. asking, appeal
require(vt) เรียกร้อง, Syn. insist on, demand
requisition(n) คำร้อง, See also: คำเรียกร้อง, Syn. request
requisition(vt) เรียกร้อง, Syn. call for, request
requisition from(phrv) เรียกร้องจาก
show-off(n) คนชอบกระทำในสิ่งที่ดึงดูดความสนใจผู้อื่น, See also: คนชอบเรียกร้องความสนใจ, Syn. boaster, exhibitionist, egotist
sigh(vi) โหยหา, See also: เรียกร้อง, คร่ำครวญ, Syn. groan, lament
sigh(vt) โหยหา, See also: เรียกร้อง, คร่ำครวญ, Syn. groan, lament
solicit(vi) เรียกร้อง, Syn. beg, entreat, beseech, request

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
appeal(อะพีล') n., vi. อุทธรณ์, ร้องขอ, อ้อนวอน, เรียกร้อง, ใช้, อาศัย, ดึงดูดใจ, ซาบซึ้ง. -appealer n., Syn. request, call
boon(บูน) n. ผลประโยชน์ที่ได้รับ, บุญคุณ, คุณานุปการ, สิ่งที่เรียกร้องหรือต้องการ, เพื่อนร่วมสนุก adj. สนุกสนาน, สนุกเฮฮา, กรุณา, โอบอ้อมอารี, Syn. windfall, blessing
caller(คอล'เลอะ) n. คนร้องเรียก, สิ่งเรียก, สิ่งที่เรียกร้อง, ผู้ไปเยี่ยม, ผู้โทรศัพท์, ผู้เรียกประชุม
calling(คอล'ลิง) n. การเรียกร้อง, อาชีพ, การเยี่ยม, สิ่งดลใจ, การประชุม, Syn. vocation
challenge(แชล'ลินจฺ) v., n. (การ) ท้า, ท้าทาย, ท้าดวล, ขอประลองฝีมือ, เรียกร้อง, แสดงข้อคิดเห็นขัดแย้ง
claim(เคลม) vt., n. (การ) เรียกร้อง, อ้างสิทธิ, อ้าง, สิทธิเรียกร้อง, สิทธิ, สิทธิเรียกร้อง, สิ่งที่เรียกร้อง
claimant(เคล'เมินทฺ) n. ผู้เรียกร้อง, ผู้อ้างสิทธิ
counterclaim(เคา'เทอะเคลม) vt., vi., n. (การ) เรียกร้องแย้ง, อ้างสิทธิแย้ง, แย้งสิทธิ., See also: counterclaimant n. ดูcounterclaim
crying(ไคร'อิง) adj. เกี่ยวกับการร้องไห้, เกี่ยวกับการร้องหา, เกี่ยวกับการแผดเสียงร้อง, ซึ่งดึงดูดความสนใจ, ซึ่งเรียกร้องความสนใจ, Syn. pressing
demand(ดีมานดฺ') n. ความต้องการ, อุปสงค์ vt. ต้องการ, เรียกร้อง, ถาม, ขอทราบ
demandant(ดิมาน'ดันทฺ) n. โจทก์, ผู้เรียกร้อง
demanding(ดิมาน'ดิง) adj. เรียกร้องมากเกินควร
encore(เอนคอร์') interj. อีก! เอาอีก! -n. ความต้องการอีกเช่นโดยการตบมือเรียกร้อง, การแสดงอีกครั้งตามคำเรียกร้อง vt. เรียกร้องให้แสดงอีก
encumbrance(เอนคัม'บรันซฺ) n. สิ่งกีดขวาง, เครื่องถ่วงความเจริญ, ผู้ที่ต้องพึ่งพาคนอื่น , การเรียกร้องสิทธิในทรัพย์ สิน, การติดพัน, Syn. incumbrance
exact(อิดแซคทฺ') { exacted, exacting, exacts } adj. แน่นอน, แน่ชัด, ถูกต้อง, เที่ยง, แม่นยำ. vt. บีบบังคับ, เรียกร้อง, ต้องการ., See also: exactable adj. ดูexact exacter n. ดูexact exactor n. ดูexact exactness n. ดูexact -S...
exacting(อิคแซค'ทิง) adj. ซึ่งเข้มงวดมาก, ซึ่งเรียกร้องความต้องการมาก, เกรี้ยวกราด, พิถีพิถันมาก., See also: exactingness n. ดูexacting, Syn. strict
exaction(อิคแซค'เชิน) n. การบีบบังคับ, การเรียกร้องความต้องการ, สิ่งที่เรียกร้อง
hist(ฮิสท) interj. คำอุทาน "ฮือ!" (เรียกร้องความสนใจหรือขอร้องให้คนเงียบ)
implore(อิมพลอร์') vt. ขอร้อง, เรียกร้อง, วิงวอน, อ้อนวอน., See also: implorer n. imploringly adv., Syn. beseech, entreat
importunate(อิมพอ' ชะนิท) adj. รีบด่วน, เร่งด่วน, รบเร้า, เรียกร้อง, พร่ำ, รบกวน., See also: importunately adv. importunateness n., Syn. insistent, persistent, eager
importune(อิมพอร์ทูน') vt. รบเร้า, เรียกร้อง, พร่ำ, รบกวน. -vt. รบเร้าไม่หยุด, เรียกร้องไม่หยุด, See also: importunely adv. importuner n.
importunity(อิมพอร์ทู' นิที) n. การรบเร้า, การเรียกร้อง, การพร่ำ, การขอร้องอย่างไม่หยุด
impose(อิมโพซ') vt. จัดเก็บภาษี, กำหนด, กำหนดให้มี, กำหนดโทษ, บังคับเอา, นำไปใส่, ยัดเยียดให้, เรียกร้อง, รบกวน, หลอกลวง, เอาเปรียบ. -vi. ประทับใจ, รบกวน, ยัดเยียดให้., See also: imposer n., Syn. place, intrude
insist(อินซิสทฺ') vi., vt. ยืนยัน, ยืนกราน, ยืนหยัด, เรียกร้อง., See also: insister n. insistly adv., Syn. urge, maintain, assert
magnific(แมกนิฟ'ฟิค) adj. งดงาม, สง่า, เรียกร้อง, กำหนดให้มี.
martyr(มาร์'เทอะ) n. ผู้ยอมรับการทรมานจากความตายแต่ไม่ยอมละทิ้งซึ่งศาสนา ความเชื่อหรืออุดมการณ์ของตัว, ผู้ได้รับการทรมานอย่างรุนแรงหรือเนืองนิจ, ผู้เรียกร้องความเห็นอกเห็นใจหรือความสนใจโดยแสร้งได้รับความทุกข์ทรมานหรืออื่น ๆ, See also: martyrly adv. adj.
pretension(พรีเทน'เชิน) n. การเรียกร้อง, การอ้างสิทธิ, ข้ออ้าง, การอวดอ้าง, มารยา
proposition(พรอพพะซิซ'เชิน) n. การสอน, ข้อเสนอ, แผน, โครงการ, หัวข้อ, ข้อวินิจฉัย, ญัตติ, เรื่องราว, ปัญหา, จุดประสงค์, ข้อเสนอเพื่อร่วมประเวณีที่ไม่ถูกกฎหมาย. vt. เสนอ, เสนอข้อเรียกร้อง, See also: propositional adj.
re-claim(รีเคลม') vi. เรียกร้องกลับ, เรียกคืน, เรียกร้องอีก
reimpose(รีอิมโพซ') vt. เก็บภาษีอีก, กำหนดอีก, เรียกร้องอีก, Syn. impose anew
request(รีเควสทฺ') n. การขอร้อง, ความต้องการ, คำขอร้อง, คำเรียกร้อง, คำอ้อนวอน, สิ่งที่ขอร้อง, ความต้องการ -Phr. (at (by) request ตามคำขอร้อง) vt. ขอร้อง, เรียกร้อง, อ้อนวอน, ขอ, ถามหา, See also: requester n., Syn. desire, wish, appeal
require(รีไคว'เออะ) vt., vi. ต้องการ, ประสงค์, ปรารถนา, ขอร้อง, เรียกร้อง, กำหนด, See also: requirable adj. requirer n., Syn. need, demand
requirement(รีไคว'เออะเมินทฺ) n. ความต้องการ, ความประสงค์, การเรียกร้อง, สิ่งที่ต้องการ, สิ่งที่เรียกร้อง, สิ่งจำเป็น, Syn. necessity, requisite
requisition(เรคควิซิช'เชิน) n. การเรียกร้อง, ความต้องการ, คำเรียกร้อง, ปัจจัยที่ต้องการ, ปัจจัยที่จำเป็น, แบบหนังสือเรียกร้อง vt. เรียกร้อง, ต้องการ, See also: requisitionary adj. requisite ist n. requisitioner n.
solicit(ซะลิส'ซิท) vt., vi. เรียกร้อง, ชักชวน, ขอร้อง, วิงวอน, เชื้อเชิญ, จูงใจ, ล่อใจ, (โสเภณี) ดึงแขก, กระตุ้นใจ., See also: solicitant n. solicitation n.
solicitor(ซะลิส'ซิเทอะ) n. ผู้เรียกร้อง, (ชักชวน, ขอร้อง, วิงวอน, เชื้อเชิญ, จูงใจ, ล่อใจ, กระตุ้นใจ) , (ในอังกฤษ) ทนายความชั้นรองลงมาจากbarrister, อัยการ., See also: solictorship n.
spotlight(สพอท'ไลทฺ) n. ไฟฉายสว่างจ้า, แสงสว่างจ้าจากไฟฉายแรงสูง, จุดสนใจของประชาชน. vt. ฉายส่องด้วยไฟฉายแรงสูง, ทำให้เห็นชัด, ทำให้เด่นชัด, เรียกร้องความสนใจ, ย้ำ, เน้น, Syn. highlijght, accent, feature
stale(สเทล) adj., vt., vi. (ทำให้) ไม่สด, เก่า, เก่าคร่ำครึ, เหม็นอับ, เน่าเปื่อย, ค้าง, ราขึ้น, มีรสเปลี่ยน, เหี่ยวย่น, จืดชืด, น่าเบื่อ, ล้าสมัย, นิ่งเฉย, ไม่ไหล, ไร้ผล (เนื่องจากการไม่เรียกร้อง), Syn. old, trite, rusty, insipid
subrogate(ซับ'ระเกท) vt. แทนที่, ทำแทน, สวมรอย, เรียกร้องแทน., See also: subrogation n.
summons(ซัม'เมินซ) n. การเรียกตัว, การออกหมายเรียก, การขอร้อง, การเรียกร้อง, หมายศาล, หมายเรียก, การเรียกตัวให้มาประชุมรัฐสภา. pl. summonses, Syn. subpoena, call
suppliant(ซัพ'พลิเอินทฺ) adj. อุทธรณ์, เรียกร้อง, อ้อนวอน, วิงวอน. n. ผู้อุทธรณ์, ผู้อ้อนวอน
supplicate(ซัพ'พลิเคท) vi., vt. อุทธรณ์, เรียกร้อง, อ้อนวอน, วิงวอน., See also: supplicatingly adv., Syn. beg, importune, implore
supplication(ซัพพลิเค'เชิน) n. การอุทธรณ์, การเรียกร้อง, การอ้อนวอน, การวิงวอน., See also: supplicatory adj., Syn. appeal, call
tap(แทพ) vt., vi., n. (การ, เสียง) แตะอย่างแผ่วเบา, เตะเบา ๆ , ตบเบา ๆ , เคาะตอกเบา ๆ vt., n. (การ) ทำให้ไหลออก, ลอบต่อสายโทรศัพท์ (เพื่อดักฟัง) , ใส่ก๊อก, ใส่จุก, แยกต่อ, แบ่งน้ำ, เรียกร้อง, ตอกหรือทำสลักเกลียวตัวเมีย, สูบ (ของเหลวหรือหนอง) , เบียร์ชนิดที่ไขจากถัง, บาร์, เจาะ (ต้นยาง
war cryเสียงกู่ร้องการทำสงคราม, คติพจน์หรือคำขวัญที่ใช้ในการเรียกร้องความสามัคคี

English-Thai: Nontri Dictionary
appeal(vt) ขอร้อง, อ้อนวอน, ร้องเรียน, อุทธรณ์, เรียกร้อง, ดึงดูดความสนใจ
calling(n) อาชีพ, การเรียกร้อง, การเยี่ยมเยียน, การไปมาหาสู่
challenge(vt) ท้าทาย, ท้าดวล, เรียกร้อง
claim(n) สิทธิ, คำร้อง, การเรียกร้องสิทธิ์, การอ้างสิทธิ
claim(vt) อ้างสิทธิ, เรียกร้องสิทธิ์, ยืนยัน
claimant(n) ผู้อ้างสิทธิ, ผู้เรียกร้องสิทธิ์, โจทก์
counterclaim(n) การแย้ง, การเรียกร้องแย้ง
demand(n) ความต้องการ, คำขอร้อง, อุปสงค์, การเรียกร้อง
demand(vt) ต้องการ, ขอร้อง, เรียกร้อง, ขอทราบ, ถาม
encore(n) การร้องขอให้ทำอีก, การเรียกร้องให้แสดงอีก
encore(vt) ขอให้ทำอีก, เรียกร้องให้แสดงอีก
implore(vt) วิงวอน, อ้อนวอน, ขอร้อง, เรียกร้อง
importune(vt) คะยั้นคะยอ, รบเร้า, เรียกร้อง
importunity(n) การคะยั้นคะยอ, การรบเร้า, การเรียกร้อง, การขอร้อง
impose(vt) ลงโทษ, เรียกร้อง, เอาเปรียบ, กำหนด, บังคับ
insist(vi) คะยั้นคะยอ, ยืนยัน, รบเร้า, เรียกร้อง
insistence(n) การคะยั้นคะยอ, การยืนยัน, การรบเร้า, การเรียกร้อง
overdraw(vt) ถอนเงินเกินบัญชี, เรียกร้องมากไป, ขยายความ
pretension(n) การเรียกร้องสิทธิ์, การอ้างสิทธิ์, การอวดอ้าง, มารยา
prosecute(vt) ฟ้องร้อง, ดำเนินคดี, เรียกร้องสิทธิ์
prosecution(n) การฟ้องร้อง, การดำเนินคดี, การเรียกร้องสิทธิ์
request(n) คำร้อง, การขอร้อง, คำขอ, การเรียกร้อง, ความต้องการ
request(vt) ต้องการ, ขอร้อง, ขอ, เรียกร้อง, ถามหา
require(vt) เรียกร้อง, ต้องการ, บังคับ, ปรารถนา, ประสงค์
requirement(n) ข้อกำหนด, ความต้องการ, ความจำเป็น, ข้อบังคับ, การเรียกร้อง
requisition(n) การเรียกร้อง, ปัจจัยที่จำเป็น
requisition(vt) เกณฑ์, เรียกร้อง, ต้องการ
sigh(vi) ถอนหายใจ, โหยหา, เรียกร้อง
suppliance(n) การอุทธรณ์, การขอร้อง, การเรียกร้อง
suppliant(adj) เรียกร้อง, ขอร้อง, อ้อนวอน, อุทธรณ์
supplicate(vt) เรียกร้อง, ขอร้อง, อ้อนวอน, อุทธรณ์
supplication(n) การเรียกร้อง, การขอร้อง, การอ้อนวอน, การอุทธรณ์

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
call(n) ข้อเรียกร้อง
call onเรียกร้อง เช่น He called on the government to urgently help him.
clarion call(vi) เสียงเรียกร้อง
disclaim(vi) งดใช้สิทธิ์เรียกร้อง
unsolicited[อันโซลิส'ซิทิด] (adj) ไม่ได้เรียกร้อง, ไม่ได้เชิญ
unsolicitedไม่มีการเรียกร้อง

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
叫ぶ[さけぶ, sakebu] TH: เรียกร้อง

German-Thai: Longdo Dictionary
fordern(vt) |forderte, hat gefordert| เรียกร้อง, แสดงความต้องการ เช่น Er fordert das Gehalt in einer Höhe von 2000 Euro von der Firma. เขาเรียกเงินเดือนสองพันยูโรจากบริษัท, Syn. verlangen
verlangen(vt) |verlangte, hat verlangt| เรียกร้อง, อยากได้
auffordern(vt) |forderte auf, hat aufgefordert, zu + D| ขอร้องหรือเรียกร้องให้ทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น Ich wurde am Flughafen aufgefordert, den Koffer zu öffnen. ฉันถูกขอร้องให้เปิดกระเป๋าเดินทางที่สนามบิน, See also: fordern

French-Thai: Longdo Dictionary
marchand des quatre saisons(n) |m| คนขายผักผลไม้หรือไอศครีมตามถนนหรือที่พลุกพล่าน ที่มักจะเรียกร้องความสนใจของลูกค้า เช่น ด้วยการร้องเพลง

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top