มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ มิตรปฏิรูปก์ | (n) เพื่อนไม่แท้, เพื่อนปลอม, คนที่แสร้งเป็นมิตร |
|
| เป็นมิตร | (v) be friendly, See also: be on friendly terms, be friends, Example: หากครูเป็นมิตรกับศิษย์ได้ก็จะทำให้บรรยากาศในการเรียนดีมาก, Thai Definition: เป็นเพื่อนรักใคร่คุ้นเคย | ความเป็นมิตร | (n) friendship, See also: companionship, fellowship, Syn. มิตรภาพ, ความเป็นเพื่อน, Ant. ความเป็นศัตรู, ความเป็นอริ, Example: ชายหนุ่มเดินเข้ามาด้วยทีท่าปราศจากความเป็นมิตร |
|
| คู่มิตร | น. ผู้ที่มีชะตาถูกกัน เป็นมิตรกัน, ผู้ที่รักใคร่กัน ไม่เป็นภัยแก่กัน ตรงข้ามกับ คู่ศัตรู. | นกสองหัว | น. คนที่ทำตัวฝักใฝ่เข้าด้วยทั้ง ๒ ฝ่ายที่ไม่เป็นมิตรกันโดยหวังประโยชน์เพื่อตน. | สองตาก็ไม่แล, สองตาก็ไม่อยากแล | คำที่แสดงอาการว่าไม่แยแสหรือตัดรอนไม่เป็นมิตรไมตรีกันอีกต่อไป. | สองฝักสองฝ่าย | ว. ที่ทำตัวเข้าด้วยทั้ง ๒ ข้าง ซึ่งมักไม่เป็นมิตรกัน โดยหวังประโยชน์เพื่อตน เช่น ประเทศเล็กที่ช่วยตัวเองไม่ได้ มักต้องทำตัวสองฝักสองฝ่ายกับประเทศใหญ่เพื่อความอยู่รอดของตน. | สันถวไมตรี | น. ความเป็นมิตรสนิทสนมกัน เช่น ต้อนรับด้วยสันถวไมตรี ทูตสันถวไมตรี. | สายสัมพันธ์ | น. ความผูกพันกันมาช้านาน, ความเกี่ยวข้องเป็นมิตรไมตรีกันมานาน, เช่น ไทยกับจีนมีสายสัมพันธ์อันดีมาหลายร้อยปีแล้ว. | อบายมุข | (อะบายยะมุก) น. ทางแห่งความฉิบหาย, เหตุแห่งความฉิบหาย, มี ๒ หมวด คือ อบายมุข ๔ ได้แก่ ๑. เป็นนักเลงหญิง ๒. เป็นนักเลงสุรา ๓. เป็นนักเลงเล่นการพนัน ๔. คบคนชั่วเป็นมิตร กับ อบายมุข ๖ ได้แก่ ๑. ดื่มนํ้าเมา ๒. เที่ยวกลางคืน ๓. เที่ยวดูการเล่น ๔. เล่นการพนัน ๕. คบคนชั่วเป็นมิตร ๖. เกียจคร้านทำการงาน. |
|
| Hostile Takeover | การเข้าครอบครองกิจการอย่างไม่เป็นมิตร [ธุรกิจ] | Friendship | ความเป็นมิตร [TU Subject Heading] | Diplomatic Expressions | ถ้อยคำสำนวนที่ใช้ในวงการทูต กล่าวคือ ในวงการทูตจะมีการนิยมใช้ถ้อยคำสำนวนการทูต ถือกันว่าเป็นภาษาที่สุภาพ ซึ่งจะมีความหมายลึกซื้งเพียงใดนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะทราบกันดี อาทิเช่น?My Government views with concern หรือ with grave concern? จะแสดงถึงท่าทีที่ไม่เห็นด้วย หรือแสดงการประท้วง?My Government cannot remain indifferent to the matter? จะส่อถึงเจตนาที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปส่วนถ้อยคำสำนวนที่ว่า ?In such event my Government would feel bound to reconsider its position หรือ to consider its own interest??My Government will have to claim a free hand? หรือ ?feel obliged to formulate express reservations regarding?เหล่านี้เป็นถ้อยคำสำนวนที่เตือนให้ทราบว่า อาจเกิดการแตกร้าว หรือตัดขาดในพันธไมตรีที่มีต่อกันได้เมื่อรัฐบาลหนึ่งประกาศถือว่าการกระทำ ของอีกรัฐบาลหนึ่งเป็น ?an unfriendly act? หรือการกระทำที่ไม่เป็นมิตรเช่นนี้ ย่อมหมายถึงการเตือนให้ทราบว่า การกระทำเช่นนั้นอาจนำไปสู่สงครามได้ถ้าหากในตอนเสร็จสิ้นการประชุมกันมีการ แถลงการณ์หรือโฆษกของที่ประชุมแจ้งให้ทราบว่า ที่ประชุมได้ทำความตกลงกันโดยสมบูรณ์ (Full agreement) แต่ไม่มีการเปิดเผยให้ทราบว่ามีการตกลงอะไรกันบ้าง จะทำให้เป็นที่สงสัยกันว่าได้มีการตกลงกันโดยสมบูรณ์จริงละหรือ ถ้าหากคำประกาศนั้นใช้ถ้อยคำว่า มี ?substantial agreement? ก็พอจะอนุมานได้ว่าแท้ที่จริงยังมีเรื่องสำคัญ ๆ ที่ยังตกลงกันไม่ได้อีกบางเรื่อง อนึ่ง หากว่ามีการแถลงว่า ?there was a full exchange of views? ก็เท่ากับพูดว่า มิได้มีการตกลงกันแต่อย่างใดทั้งสิ้น [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Parliamentary Diplomacy | การทูตแบบรัฐสภา หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ [การทูต] | retortion | การตอบโต้การกระทำของรัฐอื่นซึ่งมิได้เป็นความผิดในทาง กฎหมายระหว่างประเทศ แต่มีลักษณะที่ไม่เป็นมิตร [การทูต] | Unfriendly Act | การกระทำที่ไม่เป็นมิตร กล่าวคือ เมื่อรัฐหนึ่งประกาศว่า จะถือว่าการปฏิบัติบางอย่างของอีกประเทศหนึ่งเป็นการกระทำที่ไม่เป็นมิตร นั่นหมายความว่า เป็นการเตือนว่าการกระทำเช่นนั้นอาจนำไปสู่สงครามได้ [การทูต] | reduce | ใช้น้อย, ลดการใช้, ลดการใช้ทรัพยากรและพลังงาน โดยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก่อให้เกิดขยะหรือมลพิษน้อย เช่น หลีกเลี่ยงการเลือกซื้อสินค้าชนิดที่ใช้ครั้งเดียว ผลิตภัณฑ์ที่มีอายุการใช้งานต่ำ ผลิตภัณฑ์ที่ใช้บรรจุภัณฑ์ห่อหุ้มหลายชั้น เลือกซื้อสินค้าหรื [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
| I'll be your friend, your companion. I'll be happy with that. | ฉันจะเป็นเพื่อน เป็นมิตรคู่ใจของคุณ แค่นี้ฉันก็มีความสุขแล้ว Rebecca (1940) | Friendly little argument. | อาร์กิวเมนต์น้อยที่เป็นมิตร 12 Angry Men (1957) | And of their mating too, and of their friendliness with each other, and their play. | และการผสมพันธุ์ของมันมาก ด้วย และเป็นมิตรของมันกับแต่ละ อื่น ๆ และการเล่นของมัน The Old Man and the Sea (1958) | They wouldn't be friendly long if I was involved in drugs instead of gambling, which they regard as a harmless vice, but drugs is a dirty business. | พวกเขาจะไม่เป็นมิตรนานถ้าผมมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดแทนการเล่นการพนัน ซึ่งพวกเขาถือว่าเป็นรองไม่เป็นอันตราย แต่ยาเสพติดเป็นธุรกิจที่สกปรก The Godfather (1972) | Well, look, John, we can't have you running around out there, wasting friendly civilians. | ก็ ดูสิ จอห์น เราไม่สามาร มีคุณ วิ่งไปรอบๆออกที่นั้น การสูญเสียพลเรือนที่เป็นมิตร First Blood (1982) | - There are no friendly civilians. - I'm your friend, Johnny. | ไม่มีพลเรือนที่เป็นมิตร ผมคือเพื่อนของคุณ จอห์นนี่ First Blood (1982) | You seem a decent fellow. I hate to kill you. | เหมือนนายเป็นมิตรแท้ ข้าไม่อยากฆ่านาย The Princess Bride (1987) | You seem a decent fellow. I hate to die. | เหมือนนายเป็นมิตรแท้ ข้าไม่ปรารถนาที่จะตาย The Princess Bride (1987) | And Roberts and I eventually became friends. | โรเบิร์ตกับข้ากลายเป็นมิตรกัน The Princess Bride (1987) | Some say that the path from inner turmoil begins with a friendly ear. | บางคนบอกว่าเส้นทางจากความวุ่นวายภายใน ... ... เริ่มต้นด้วยการเป็นมิตรกับหู Teenage Mutant Ninja Turtles (1990) | Everybody wanted to be nice to him. | ทุกคนเป็นมิตรกับเขา Goodfellas (1990) | I know you didn't like him, but, for my sake, you must be friends now. | ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบเขา แต่ขอเถอะคะ เห็นแก่ฉัน คุณสองคนต้องเป็นมิตรต่อกัน Wuthering Heights (1992) | Friend? | เป็นมิตรเรอะ Wuthering Heights (1992) | - Just take it to a friendly place, that's all! | - เพียงแค่เอามันไปยังสถานที่ที่เป็นมิตรที่ทุกคน! Pulp Fiction (1994) | Marsellus ain't got no friendly places in the Valley. | Marsellus จะไม่ได้ไม่สถานที่ที่เป็นมิตรในหุบเขา Pulp Fiction (1994) | Super. Take care, now. | หัวหน้าเผ่าบอกว่า "คุณเป็นมิตรของวาชูตู" Ace Ventura: When Nature Calls (1995) | Now, let's all be polite and give whatever it is up there... a nice, big Andy's-room welcome. | ตอนนี้ เราจะขึ้นไปด้วยความเป็นมิตร และ อะไรก็ตามที่อยู่บนนั้น... ใหญ่สักแค่ไหน เราต้องให้การต้อนรับห้องของ แอนดี้ Toy Story (1995) | I know this isn't as much fun as the boat house but life isn't all cowboys and Indians, is it? | แน่ล่ะ คงไม่สนุกเท่าที่บ้านเก็บเรือสินะ แต่ชีวิตคนเรา มันไม่ได้เป็นมิตร ต่อกันและกันไปหมดนี่ ใช่ไหม? Dark Harbor (1998) | Are you friendly? | คุณเป็นมิตร? eXistenZ (1999) | The only way I can tell if everything's okay is to play eXistenZ with somebody friendly. | ทางเดียวที่บอกได้ ถ้าทุกอย่างโอเค คือเล่นเอ็กซิสเทนส์ กับใครบางคนที่เป็นมิตร eXistenZ (1999) | Are you friendly or are you not? | คุณเป็นมิตรหรือเปล่า eXistenZ (1999) | They've hired this efficiency expert, this really friendly guy named Brad... | เขาจ้างผู้บริหารที่เชี่ยวชาญ และเป็นมิตรสุดๆชื่อแบรด American Beauty (1999) | What interests me is he shows a number of characteristics like creativity curiosity, friendship that, frankly, have taken us by surprise. | คือเขาแสดงลักษณะพิเศษหลายอย่างเช่น มีความคิดสร้างสรรค์ อยากรู้อยากเห็น เป็นมิตรที่... Bicentennial Man (1999) | Wait! I'm a friend! | เดี๋ยวก่อน ฉันเป็นมิตรนะ Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) | It's simple. If you are a friend, you speak the password and the doors will open. | มันง่ายมาก ถ้าเจ้าเป็นมิตร เจ้าพูดรหัสผ่าน ประตูก็จะเปิด The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001) | She's a friend to the animals as well as a philanthropist. | เธอยังเป็นมิตรกับสัตว์อีกด้วย Legally Blonde (2001) | - He's very friendly. - Sure. | มันเป็นมิตรนะ เอาสิ Legally Blonde (2001) | He's friendly. | มันเป็นมิตร. Maid in Manhattan (2002) | Are they friendly? | พวกเขาเป็นมิตรมั้ย The Time Machine (2002) | He's not very friendly. | เขาไม่ได้เป็นมิตรมาก Showtime (2002) | Perhaps it would be prudent to first teach the students to block unfriendly spells, professor. | มันคงดีกว่า ถ้าเริ่มด้วยการสอนนักเรียน ให้สกัดคาถาที่ไม่เป็นมิตร ศจ. Harry Potter and the Chamber of Secrets (2002) | - Our humble, friendly ways? | -ความเป็นมิตรและถ่อมตัวของเรารึ Hope Springs (2003) | - Not the humble, friendly ways. | -ไม่ ไม่ใช่เรื่องความเป็นมิตรและถ่อมตัว Hope Springs (2003) | I was only trying to be polite and make friends. | อย่า.. /ฉันพยายามทำตัวสุภาพ และเป็นมิตรกับคุณแล้วนะ Swimming Pool (2003) | 'True Intimacy Friendly Foe. ' | 'ศัตรูผู้เป็นมิตรสนิทสนมอย่างแท้จริง' My Tutor Friend (2003) | "Getting along with people" That's why I'm Oh Daesu | "เป็นมิตรกับผู้คน" ผมจึงชื่อ โอเทซู Oldboy (2003) | McDonald's young outgoing enthusiastic | แมคโดนัลด์ อายุน้อย เป็นมิตร กระตือรือร้น The Corporation (2003) | It was an honest question, Brad. | ฉันรู้สึกถึงความไม่เป็นมิตรนะ I Heart Huckabees (2004) | This one is friendly | (คนๆนี้เป็นมิตรมาก) Rice Rhapsody (2004) | You've now made up See how nice this is? | เธอเป็นมิตรกันแล้วนะ ดูสิ ดีจังเลย Romance of Their Own (2004) | Looks a bit nave like someone so she's probably nice. | ดูเหมือนจะเป็นมิตรนะ เหมือนจะนิสัยดีเลย Romance of Their Own (2004) | I think they'll arrest him out I think they find it was unpleasant I'll be welcomed back like a hero | ฉันว่าพวกมันจับตัวเขาไป ฉันว่าพวกมันไม่ค่อยเป็นมิตร ฉันจะต้องกลับมาเหมือนวีรบุรุษ Harry Potter and the Goblet of Fire (2005) | Look at how friendly they are here, honey. | คนแถวนี้ดูเป็นมิตรดีจังเลย / ที่รัก ! The Amityville Horror (2005) | I'm glad the house, furniture and roads are to your taste, and that Lady Catherine's behaviour is friendly and obliging. | -ฉันดีใจนะ ที่เธอชอบเฟอร์นิเจอร์และถนนหนทาง -และการฎิบัติของเลดี้แคทเธอรีน ซึ่งเป็นมิตรและมีเมตตา Pride & Prejudice (2005) | Forgive me, through the intercourse of friendship or civility. | ขอโทษนะ จากการพูดคุยกัน อย่างเพื่อนและเป็นมิตร Pride & Prejudice (2005) | On such occasions, the proud man steps forth to meet you not with cordiality, but with the suspicion of one who reconnoitres an enemy... | ในโอกาสเช่นนั้น ชายที่ทะนงตน จะกล้าเข้ามาหา ไม่ใช่อย่างเป็นมิตร แต่ด้วยความไม่ไว้วางใจของผู้ซึ่ง กำลังสำรวจศัตรู Pride & Prejudice (2005) | Might I ask why with so little civility I am thus repulsed? | บอกได้มั้ยว่าทำไมถึงพูดไม่เป็นมิตร ผมน่ารังเกียจมากนักหรือ Pride & Prejudice (2005) | It's hostile. | มันค่อนข้าง ไม่เป็นมิตร Just Like Heaven (2005) | - She's friendly, I like her. | - เธอเป็นมิตรดี ฉันชอบ Just Like Heaven (2005) | And I have a great rapport with young people... so I just stepped in and volunteered. | และฉันก็มอบความเป็นมิตรให้กับเด็กวัยกระเตาะทุกคน ฉันไปยังจุดนั้นโดยสมัครใจหน่ะ American Pie Presents: Band Camp (2005) |
| ความไม่เป็นมิตร | [khwām mai pen mit] (n, exp) EN: hostility ; animosity ; resentment | ความเป็นมิตร | [khwām pen mit] (n, exp) EN: friendship ; companionship ; fellowship FR: amitié [ f ] | เป็นมิตร | [pen mit] (v) EN: be friendly ; be on friendly terms ; be friends | เป็นมิตร | [pen mit] (adj) FR: amical ; cordial | เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม | [pen mit kap singwaētløm] (adj) EN: eco-friendly ; environment-friendly ; environmentally-friendly ; non-polluting ; ecologically sound | อย่างเป็นมิตร | [yāng pen mit] (adv) EN: friendly FR: amicalement |
| condescension | (n) การกระทำที่แสดงให้เห็นว่าผู้กระทำเชื่อว่าตนเองสำคัญหรือฉลาดกว่าผู้อื่น เช่น He gave us very friendly advice without a trace of condescension. เขาให้คำแนะนำที่เป็นมิตรมากๆ กับพวกเรา โดยไม่ได้มีท่าทีว่าเขาคิดว่าตนเองสำคัญหรือฉลาดกว่าเราแต่อย่างใด | hostile takeovers | (n) การซื้อกิจการแบบไม่เป็นมิตร | schmoozer | (n) คนที่ชอบ schmooze, ชอบพูดคุยกับผู้อื่นในลักษณะคุยเก่ง, ร่าเริง, หรือเป็นมิตรมากๆ | schmooze | (vi) การพูดคุยกับผู้อื่นในลักษณะคุยเก่ง, ร่าเริง, หรือเป็นมิตรมากๆ เช่น ในงานเลี้ยง เดิมคำนี้มักจะมีความหมายในเชิงลบ สื่อถึงคนที่คุยเก่ง แต่อาจเพื่อหาประโยชน์บางอย่างให้ตัวเอง แต่ในปัจจุบันก็มีความหมายในทางกลางๆ ไม่ได้เชิงลบเสมอไป ดูบทความอธิบายคำว่า schmooze ที่ https://dict-blog.longdo.com/whats-all-this-schmoozing-about-in-english/ |
| agreeable | (adj) เป็นมิตร | amiable | (adj) เป็นมิตร, See also: เป็นกันเอง | amiably | (adv) อย่างเป็นมิตร | amicable | (adj) เป็นมิตร, See also: เป็นกันเอง, Syn. peaceable, friendly, neighborly | approachable | (adj) ที่เข้าถึงได้ง่าย, See also: ที่เป็นมิตร, ที่สนิทได้ง่าย, Syn. friendly, receptive, sanction | alienate from | (phrv) ทำให้เหินห่าง, See also: ทำให้แตกแยก, เมินหมาง, ไม่เป็นมิตร | bantering | (adj) ซึ่งหยอกเล่นอย่างเป็นมิตร | befriend | (vt) ผูกมิตร, See also: เป็นมิตร, ตีสนิท, ทำตัวเป็นเพื่อนกับ, ตีสนิท, เข้ากับ | bluff | (adj) เป็นมิตรแต่พูดตรงโดยไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่น, See also: เป็นมิตรแต่โผงผาง, Syn. outspoken | brush-off | (n) การทำท่าทีไม่สนใจ (อย่างไม่เป็นมิตรและไม่สุภาพ) | camaraderie | (n) ความเป็นมิตร, See also: ความสัมพันธ์ที่ดี, Syn. companionship, intimacy | chilly | (adj) เย็นชา, See also: ไม่เป็นมิตร, Syn. unfriendly, hostile | conciliate | (vt) ทำให้เป็นมิตร, Syn. pacify, make friendly | conciliatory | (adj) มีแนวโน้มที่เป็นมิตร, Syn. friendly | concord | (n) ความเป็นมิตรภาพกัน, See also: ความกลมเกลียว, Syn. friendship | cool | (adj) เย็นชา, See also: ซึ่งไร้ความรู้สึก, ซึ่งไม่เป็นมิตร, Syn. unfriendly | cordial | (adj) ที่ดูอบอุ่นและเป็นมิตร, Syn. genial, warm, welcoming | chum up | (phrv) เข้ากันได้ดี, See also: เป็นมิตรกับ, Syn. pal up | cotton up to | (phrv) เริ่มเป็นมิตรกับ (คำไม่เป็นทางการ) | fraternize with | (phrv) เป็นมิตรกับ, See also: สนิทสนมกับ, มีสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ | disagreeable | (adj) หยาบคาย, See also: ไม่เป็นมิตร, Syn. unpleasant | fellowship | (n) สัมพันธภาพ, See also: มิตรภาพ, ความเป็นมิตร, การคบหาสมาคม, Syn. comradeship, sociability, intimacy, Ant. enmity, unsociability | fireside | (adj) เป็นมิตร, See also: เป็นกันเอง, Syn. friendly | forbidding | (adj) ที่ไม่เป็นมิตร, See also: ดูน่ากลัว, ดูอันตราย, Syn. threatening, hostile, Ant. friendly | friendliness | (n) ความเป็นมิตร, See also: ความมีไมตรี, ความเป็นกันเอง, ความเป็นเพื่อน, Syn. amiability, cordiality, kindliness, Ant. hostility, inimicality, unfriendliness | friendly | (adj) เป็นมิตร, See also: เป็นกันเอง, เหมือนเป็นเพื่อน, Syn. amiable, cordial, kindly, Ant. hostile, inimical, unfriendly | friendly | (adv) อย่างเป็นมิตร, See also: อย่างเป็นกันเอง, อย่างเพื่อน | friendship | (n) มิตรภาพ, See also: ความเป็นมิตร, ความเป็นเพื่อน, ความสัมพันธ์อย่างเพื่อน, Syn. camaraderie, companionship, fellowship, Ant. enmity, hostility | frosty | (adj) ซึ่งไม่เป็นมิตร, See also: เย็นชา | get along | (phrv) เป็นเพื่อนกันได้, See also: เป็นมิตร, เข้ากันได้ดี, Syn. get along with, get on, get on with | get along with | (phrv) เข้ากันได้ดี, See also: เป็นมิตรกันดีกับ, Syn. get along, get on with, go on | get in with | (phrv) คุ้นเคยกับ, See also: เป็นมิตรกับ มักเป็นคนมีตำแหน่งสูงหรือมีอำนาจ, Syn. be in with, keep in with | get on with | (phrv) เป็นมิตรกับ, See also: เข้ากันได้กับ, Syn. get along with, get on | get on | (phrv) เป็นมิตรกับ, See also: เป็นเพื่อนกับ, Syn. get along, get along with | go on | (phrv) เข้ากันได้, See also: เป็นมิตรกัน, Syn. get along, get along with | good turn | (n) การช่วยเหลือผู้อื่น, See also: การกระทำที่เป็นมิตร, การทำดีต่อผู้อื่น, Syn. kindness, indulgence, favor | goodwill | (n) ความเป็นมิตร, See also: ความหวังดี, มิตรไมตรี | hearty | (adj) ซึ่งเป็นมิตร, See also: ซึ่งมีไมตรีจิต, Syn. cordial, congenial, genial | heimish | (adj) อบอุ่นและเป็นมิตร (คำไม่เป็นทางการ) | hail-fellow-well-met | (idm) เป็นมิตรกับทุกคน | have one's nose in the air | (idm) อวดหยิ่ง, See also: หยิ่งยโส, หัวสูง, ไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนอื่น, ทำตัวเหินห่างจากคนอื่น, Syn. keep one's nose in the air, one's nose is in the air, Ant. keep one's nose in the air, one's nose is in the air | kiss and make up | (idm) ยกโทษให้และกลับมาเป็นมิตรกันอีก | strike up a friendship | (idm) เป็นมิตรกับ, See also: กลายเป็นเพื่อนกับ | icily | (adv) อย่างเย็นชา, See also: อย่างเฉยเมย, อย่างไม่ไยดี, อย่างไม่เป็นมิตร, Syn. aloofly, reservedly | icy | (adj) ซึ่งเย็นชา, See also: ซึ่งเฉยชา, ไม่เป็นมิตร, Syn. aloof, unfriendly | ill | (adj) เกลียดชัง, See also: ไม่เป็นมิตร, ไม่ชอบ, Syn. hostile, unfriendly, unkind, Ant. friendly, kind | ill feeling | (n) ความไม่เป็นมิตร, See also: การมีเจตนาไม่ดี, ความเป็นปฏิปักษ์, Syn. animosity, resentment | ill will | (n) ความรู้สึกไม่เป็นมิตร, See also: ทัศนคติที่ไม่ดี, ความมุ่งร้าย, ความเป็นปรปักษ์, Syn. hostility, unfriendliness, Ant. friendliness | ill-disposed | (adj) ซึ่งไม่เป็นมิตร, See also: ซึ่งมีเจตนาไม่ดี, Syn. hostile, unfriendly, unkind, Ant. friendly, kind | illy | (adj) คิดร้าย, See also: มุ่งร้าย, ไม่เป็นมิตร |
| affable | (แอฟ' ฟะเบิล) adj. เป็นมิตร, ง่าย , กรุณา | amicable | (แอม' มิคะเบิล) adj. เป็นมิตร, ฉันมิตร, รักใคร่กัน, มีไมตรีจิต. -amicability, amicableness n., Syn. friendly | antisocial | (แอนทีโซ' เชียล) adj. ต่อต้านสังคม, เบื่อหน่ายสังคม, เป็นปฏิปักษ์ หรือไม่เป็นมิตรกับผู้อื่น. -antisocialistic adj. | antogonistic | (แอนแทก' โกนิสทิค) adj. ซึ่งต่อต้าน, เป็นปรปักษ์, ไม่เป็นมิตร, Syn. hostile, opposed, Ant. supportive, harmonious | bad blood | n. ความเป็นศัตรู, ความไม่เป็นมิตร | chilliness | (ชิล'ลิเนส) n. ความเมินเฉย, ความเย็นชา, ความไม่เป็นมิตร | chummy | (ชัม'มี) adj. สนิทสนม, มีมิตรไมตรีจิตเป็นมิตร, เป็นเพื่อนกัน, See also: chumminess n. | fellowship | (เฟล'โลชิพ) n. ตำแหน่งผู้วิจัยในมหาวิทยาลัย, ตำแหน่งสมาชิกของสมาคมวิชาการ, ความสัมพันธ์ของมนุษย์, มิตรภาพ, การคบหา, ความเป็นมิตร, สมาคมของบุคคลที่มีอาชีพ, รสนิยม, บริษัท, กลุ่มนักวิจัยในมหาวิทยาลัย. vt. รับเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมหรือกลุ่ม. vi. ร่วมเป็นสมาชิกของสมาค | forbidding | (ฟอร์บิด'ดิง) adj. ไม่เป็นมิตร, น่ากลัว, อันตราย, มีภัยคุกคาม., See also: forbiddingly adv. forbiddingness n. | francophil | adj. ซึ่งเป็นมิตรหรือชอบฝรั่งเศส | francophile | adj. ซึ่งเป็นมิตรหรือชอบฝรั่งเศส | fremd | (เฟรมดฺ) adj. ต่างถิ่น, แปลก, ไม่เป็นมิตร | friendly | (เฟรนดฺ'ลี) adj., adv. เป็นมิตร, กรุณา, ให้ความช่วยเหลือ, ให้ความสนับสนุน, เหมาะ -friendlily adv., See also: friendliness n., Syn. helpful, kind | get | (เกท) { got, gotten, getting, gets } vt. ได้, ได้มา, ได้รับ, เอา, ไปเอามา vi. มาถึง, บรรลุ -Phr. (get along จัดการ, ก้าวหน้า, ตกลง, เป็นมิตร) . | homely | (โฮม'ลี) adj. ไม่สวย, ไม่ดึงดูดใจ, ธรรมดา ๆ , เป็นมิตรมาก., See also: homeliness n., Syn. unpretentious | hostile | (ฮอส'ไทลฺ, ฮอส'เทิล) adj. เป็นปรปักษ์, ต่อต้าน, มีเจตนาร้าย, เป็นศัตรู, ไม่เป็นมิตร, ไม่รับแขก, See also: hostility adv., Syn. contrary, antagonistic | hostility | (ฮอลทิล'ลิที) n. ความเป็นปรปักษ์, การมีเจตนาร้าย, การเป็นศัตรู, การไม่เป็นมิตร., See also: hostilities n. สงคราม, การทำสงคราม, Syn. enmity, animosity | inimical | (อินิม'มิเคิล) adj. ไม่เป็นมิตร, เป็นปฏิปักษ์, มีเจตนาร้าย, เป็นอันตราย., See also: inimically adv. inimicalness. inimicality n., Syn. inimicable, hostile, Ant. friendly | kindly | (ไคดฺ'ลี) adj., adv. เมตตา, กรุณา, ปรานี, ใจดี, หวังดี, มีใจเป็นมิตร, อ่อน, โยน., Syn. kind-hearted, benign | kindness | (ไคดฺ'นิส) n. ความกรุณา, ความเมตตา, ความปรานี, ความเป็นมิตร, ความอ่อนโยน, Syn. beneficence | obliging | (อะไบล'จิง) adj. มีน้ำใจ, จำต้องปฏิบัติ, เต็มใจหรืออยากทำบุญคุณให้, กรุณา, อยากช่วยเหลือ, เป็นมิตร., See also: obligingly adv. obligingness n., Syn. kind | palsy-walsy | (แพล'ซีแวลซี่) adj. เป็นมิตร, สนิทสนม | society | (โซไซ'อิที) n. สมาคม, มิตรไม่ตรีจิต, ความเป็นมิตร. adj. เกี่ยวกับสังคมชั้นสูง, Syn. group | surly | (เซอ'รี) adj. บูดบึ้ง, บึ้งตึง, หยาบคาย, ไร้มารยาท, ไม่เป็นมิตร, มืดมน, มืดมัว., See also: surlily adv. surliness n., Syn. insolent, rude | umbrage | (อัม'บริจฺ) n. การบุกรุก, การก้าวร้าว, การรบกวน, ความโกรธเคือง, ร่องรอยความ สงสัยหรือความไม่เป็นมิตร, เงา, เงามืด, ร่มเงา, ความสงสัย, Syn. resentment, displeasure | unfriendly | (อันเฟรนดฺ'ลี) adj., adv. ไม่เป็นมิตร, มุ่งร้าย, มีอคติ, ไม่เป็นผลดี, ไม่ราบรื่น, See also: unfriendliness n., Syn. unsociable, cold, chilly | user friendly | ใช้สะดวกหมายถึง ซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ที่ใช้ง่าย (แปลตามตัว ว่าเป็นมิตรกับผู้ใช้) แม้คนที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องคอมพิวเตอร์มากนัก ก็ยังสามารถใช้ได้ หรือถ้าต้องฝึกเรียนก็สามารถเรียนได้ โดยไม่ต้องใช้เวลามาก ระบบวินโดว์ซึ่งเป็นระบบกูอี (GUI หรือ graphical user interface) ถือว่าเป็นระบบที่ทำให้ง่ายสำหรับผู้ใช้ง่ายสำหรับผู้ใช้ระบบหนึ่ง เพราะใช้ภาพช่วย ในการสื่อความหมายแทนการจำคำสั่ง |
| affection | (n) ความรัก, ความเสน่หา, ความชอบ, ความเป็นมิตร, อารมณ์ | amicable | (adj) กลมเกลียวกัน, เป็นมิตร, ฉันมิตร, รักใคร่กัน | backyard | (n) ความเป็นศัตรู, ความเกลียดชัง, ความไม่เป็นมิตร | chillness | (n) ความเย็นชา, ความเฉยเมย, ความเยือกเย็น, ความไม่เป็นมิตร | chummy | (adj) สนิทสนม, เป็นเพื่อนกัน, เป็นมิตร | disaffected | (adj) ไม่เป็นมิตร, ไม่ซื่อสัตย์, ไม่พอใจ, เหินห่าง | disaffection | (n) ความไม่เป็นมิตร, ความไม่ซื่อสัตย์, ความไม่พอใจ, ความเหินห่าง, ความบาดหมาง | friendly | (adj) ฉันเพื่อน, ฉันมิตร, เป็นมิตร | hostile | (adj) เป็นศัตรู, มุ่งร้าย, เกลียดชัง, ไม่เป็นมิตร | hostility | (n) ความเป็นศัตรู, ความไม่เป็นมิตร, ความมุ่งร้าย, ความเกลียดชัง | unfriendly | (adj) ไม่เป็นมิตร, มุ่งร้าย |
| | 愛想 | [あいそう, aisou] 1.อัธยาศัย 2.ท่าทีเป็นมิตร 3.การต้อนรับขับสู้ |
| | |
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |