ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*สาหัส*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: สาหัส, -สาหัส-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
สาหัส(adj) severe, See also: grievous, serious, Syn. ร้ายแรง, รุนแรง, วิกฤต
สาหัส(adj) moribund, See also: almost dead, critical, Syn. ร้ายแรง, ยิ่งนัก, Example: แม้จะตกจากยอดมะพร้าวลงมามีอาการสาหัสก็ตาม ค่าของคนคนนี้คือความทนและมีกรรม, Thai Definition: รุนแรงเกินสมควร, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
สาหัส(adv) seriously, See also: fatally, bitterly, Syn. ร้ายแรง, ยิ่งนัก, Example: เขาถูกยิงจนบาดเจ็บสาหัส, Thai Definition: รุนแรงเกินสมควร
อาการสาหัส(n) coma, Syn. โคม่า
อาการสาหัส(v) be in a coma, Syn. โคม่า, Example: แม้จะตกจากยอดมะพร้าวลงมาอาการสาหัส แต่เขาก็ไม่ตาย
บาดเจ็บสาหัส(v) seriously injured, Example: นายตำรวจสองคนยิงเจ้าพ่อคนใหม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส, Thai Definition: มีบาดแผลทำให้เจ็บปวดอย่างรุนแรง
สาหัสสากรรจ์(adv) seriously, See also: very severe, grievous, severely, Syn. ร้ายแรง, รุนแรง, หนักหนา, สาหัส, Example: เกษตรกรในภาคอีสานต้องประสบกับปัญหาเรื่องน้ำอย่างสาหัสสากรรจ์ในฤดูแล้ง, Thai Definition: อย่างร้ายแรงมาก, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
สาหัสสากรรจ์(adv) seriously, See also: very severe, grievous, severely, Syn. ร้ายแรง, รุนแรง, หนักหนา, สาหัส, Example: เกษตรกรในภาคอีสานต้องประสบกับปัญหาเรื่องน้ำอย่างสาหัสสากรรจ์ในฤดูแล้ง, Thai Definition: อย่างร้ายแรงมาก, Notes: (บาลี/สันสกฤต)

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
สาหัส(-หัด) ว. ร้ายแรง เช่น บาดเจ็บสาหัส, รุนแรงเกินควร เช่น ถูกลงโทษอย่างสาหัส.
สาหัสสากรรจ์ว. แสนสาหัส, ร้ายแรงมาก, คอขาดบาดตาย, เช่น ได้รับทุกข์ทรมานอย่างสาหัสสากรรจ์, โดยปริยายหมายความว่า ลำบากยิ่ง เช่น ทางนี้ทุรกันดารสาหัสสากรรจ์ บุกป่าฝ่าดงอย่างสาหัสสากรรจ์.
กระดูกแทบออกนอกเนื้อว. เหนื่อยยากแสนสาหัส เช่น กว่าจะทำสำเร็จกระดูกแทบออกนอกเนื้อ.
กลหาย(กะละ-) ก. กระหาย เช่น อันว่าทวยท่ววทงงหลายหื่นกลหายสาหัส (ม. คำหลวง ทานกัณฑ์).
กลืนเลือดก. กล้ำกลืนความเจ็บแค้นอย่างแสนสาหัส เช่น แม้จะแค้นหัวหน้าพวกเขาก็ยอมกลืนเลือด เพราะยังต้องพึ่งพาหัวหน้าคนนี้อยู่.
ตกนรกทั้งเป็นก. ได้รับความลำบากแสนสาหัสเช่นคนที่ได้รับโทษทัณฑ์ในเรือนจำ.
เลือดตากระเด็นว. ลำบากหรือยากแค้นอย่างแสนสาหัส เช่น กว่าจะหาเงินมาซื้อบ้านได้แทบเลือดตากระเด็นทีเดียว.
เหตุในลักษณะคดีน. ข้อเท็จจริงอันเป็นเหตุที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด ซึ่งมิใช่เหตุส่วนตัวเฉพาะผู้กระทำความผิดคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเหตุที่เป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้กระทำความผิดนั้นด้วยกันทุกคน เช่น ข้อเท็จจริงที่ว่าลักษณะบาดแผลที่ถูกทำร้ายเป็นอันตรายแก่กายถึงสาหัสหรือไม่สาหัส.
เหตุบรรเทาโทษน. เหตุต่าง ๆ ที่กฎหมายกำหนดให้ศาลมีอำนาจลดโทษให้แก่ผู้กระทำความผิด เช่น ความโฉดเขลาเบาปัญญา การตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีคุณความดีมาแต่ก่อน ให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา.
อกไหม้ไส้ขมก. เป็นทุกข์อย่างแสนสาหัส.
อาวุธสิ่งซึ่งโดยสภาพได้จัดทำขึ้นเพื่อใช้ประทุษร้ายร่างกายของบุคคล และรวมถึงสิ่งซึ่งไม่เป็นอาวุธโดยสภาพแต่ซึ่งได้ใช้หรือเจตนาจะใช้ประทุษร้ายร่างกายถึงอันตรายสาหัสอย่างอาวุธ.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
aggravated assaultการทำร้ายร่างกายจนได้รับอันตรายสาหัส [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
malicious woundingการทำให้บาดเจ็บสาหัส [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
common assaultการทำร้ายร่างกายไม่สาหัส [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
grievous bodily harmบาดเจ็บสาหัส [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
wounding, maliciousการทำให้บาดเจ็บสาหัส [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Genocideการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1946 สมัชชาสหประชาชาติได้ยืนยันเป็นเอกฉันท์ว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือการฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อนนั้นให้ถือเป็นอาชญากรรม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งโลกที่บรรลุความเจริญแล้วประณามอย่างรุนแรงอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกัน และการลงโทษอาชญากรรมเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ สมัชชาสหประชาชาติได้ลงมติรับรองเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 1948 อนุสัญญานี้ได้นิยามคำว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) หมายถึงการประกอบอาชญากรรมบางอย่าง โดยมีเจตนาที่จะทำลายล้างกลุ่มชนชาติ กลุ่มเผ่าพันธุ์ กลุ่มเชื้อชาติ หรือกลุ่มศาสนา ในบางส่วนหรือทั้งหมดก็ตาม การประกอบกรรมซึ่งถือเป็นการฆ่าล้างชาตินั้นได้แก่ การฆ่า การทำให้เกิดความเสียหายอย่างสาหัส ทั้งต่อร่างกายหรือจิตใจ และการบังคับให้มีสภาวะการครองชีพที่เจตนาจะให้ชีวิตร่ายกายถูกทำลาย ไม่ว่าจะเพียงส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดก็ตาม ตลอดจนออกมาตรการกีดกันมิให้มีลูกและโยกย้ายเด็ก ๆ ไม่เพียงแต่การฆ่าล้างชาติอย่างเดียว หากแต่การคบคิดหรือการยุยงให้มีการฆ่าล้างชาติ รวมทั้งความพยายามที่จะฆ่าล้างชาติและสมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมดังกล่าว ย่อมถูกลงโทษได้ตามนัยแห่งอนุสัญญานี้ บรรดาผู้ที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกลงโทษไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้ ปกครอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง หรือเอกชนส่วนบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดของตามกฎหมายก็ตามบรรดาประเทศที่ภาคี อนุสัญญานี้จำเป็นต้องออกกฎหมายของตนเพื่อรองรับ และจะต้องตกลงเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนในกรณีที่บุคคลนั้นๆ มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติ และบุคคลที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกพิจารณาลงโทษในประเทศที่มีการ ประกอบอาชญากรรมดังกล่าวขึ้น หรือโดยศาลระหว่างประเทศที่มีอำนาจครอบคลุมถึงเจตนารมณ์ของสนธิสัญญานี้ เพื่อต้องการป้องกัน และลงโทษอาชญากรรมฆ่าล้างชาติ ไม่ว่าจะประกอบขึ้นในยามสงครามหรือในยามสงบก็ตามอนุสัญญาดังกล่าวได้เริ่มมี ผลบังคับเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1951 เป็นเวลา 90 วันหลังจากที่ 20 ประเทศได้ให้สัตยาบัน หรือให้ภาคยานุวัติตามที่ระบุอยู่ในอนุสัญญา อนุสัญญานี้จะมีผลบังคับเป็นเวลา 10 ปี และมีการต่ออายุสัญญาทุก 5 ปี สำหรับประเทศที่มิได้บอกเลิกสัญญา หากประเทศที่ยังเป็นภาคีอนุสัญญามีจำนวนเหลือไม่ถึง 16 ประเทศ อนุสัญญานี้จะเลิกมีผลบังคับทันที [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
Multiple Injuriesอันตรายต่อหลายระบบ, การบาดเจ็บหลายแห่ง, การบาดเจ็บสาหัส, บาดเจ็บหลายๆแห่ง, บาดเจ็บหลายระบบ [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
I'm exhausted. Quick, help me to my plane.ฉันบาดเจ็บสาหัส เร็ว ช่วยพาฉันไปที่เครื่องบิน The Great Dictator (1940)
Very hard!สาหัส! The Good, the Bad and the Ugly (1966)
One night, they brought in a badly wounded pilot from a raid.คืนหนึ่ง พวกเขานำนักบิน บาดเจ็บสาหัสมาจากการบุก Airplane! (1980)
That is the sound of ultimate suffering.เสียงนั่น ความทุกข์ทรมานแสนสาหัส The Princess Bride (1987)
Of course. It's the acidแน่นอน มันเจ็บสาหัส 1999 - Nen no natsu yasumi (1988)
- You don't like it?ช่วงแรกมันก็สาหัสหน่อย Big (1988)
Of course I am, I'm traumatized.แน่นอน ฉันสลดสิ แสนสาหัสเลยล่ะ Basic Instinct (1992)
Five people are dead... and 75 seriously injured as a result of the IRA 's... no-warning bomb attack on a Guildford pub.ทั้งห้าคนมีคนตาย ... และ 75 ได้รับบาดเจ็บสาหัส เป็นผลมาจากเอส, บ้านมือสอง'.. ไม่มีการเตือนโจมตีด้วยระเบิด ในผับ Guildford In the Name of the Father (1993)
These would be heavy misfortunes, indeed.นี่อาจจะเป็นโชคร้ายที่หนักหนาสาหัสจริงๆ ก็ได้ Episode #1.6 (1995)
Justin seems to have suffered massive injuries but he's still alive.จัสตินได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่ยังไม่ตาย Event Horizon (1997)
Oh, nothing serious. For her, I mean.ไม่หนักหนาสาหัสกับเธอหรอกคุณ Woman on Top (2000)
They were bad... but he made it.มันหนักหนาสาหัส แต่เขาผ่านมาได้ Unbreakable (2000)
You see, somebody I really care about got hurt very badlyเห็นมั้ย มีคนที่ฉันห่วงมาก กำลังบาดเจ็บสาหัส Spirited Away (2001)
What do you want with Haku?ต้องการอะไรจากฮากุ? เขาบาดเจ็บสาหัส Spirited Away (2001)
It is nothing serious, I hope.หวังว่าคงไม่หนักหนาสาหัส The Scorpion King (2002)
The consequences for the one responsible would be severe.ผลร้ายที่ตามมา ต่อผู้รับผิดชอบ มันหนักหนาสาหัส Harry Potter and the Chamber of Secrets (2002)
Total agony.เจ็บปวดสาหัส Love Actually (2003)
Only a few hours ago, I received word that a small group of people survived in New York City against all odds and in the face of tremendous adversity.ไม่กี่ชั่วโมงก่อนผมได้รับข่าวว่า มีคนกลุ่มเล็กๆกลุ่มหนึ่ง ...รอดอยู่ในนิวยอร์กซิตี้ ทั้งที่มีโอกาศน้อยนิด... ...และความทุกข์ยากแสนสาหัส The Day After Tomorrow (2004)
Because you'd either be in terrible agony or you'd be dead by now.เพราะคุณคงเจ็บปวดสาหัส /Nหรือไม่ก็คงตายไปแล้ว Saw (2004)
You could never imagineคุณคงนึกไม่ออก ว่ามันสาหัสขนาดไหน Spygirl (2004)
The last 20 flights are the hardest. Ahh.เดินขึ้นบันได 20 ชั้นที่สาหัสสุดๆ อ๊าก Mr. Monk and the Blackout (2004)
I think it's critical. We moved him to Platero to operate.มันสาหัสมากเลยต้องพาเค้าไปเพลตาโร่.. The Great Raid (2005)
Even sitting and sleeping will be painful.แม้แต่การนั่งและหลับก็จะเจ็บปวดแสนสาหัส Memoirs of a Geisha (2005)
- I'm in a coma, have you noticed?- ฉันกำลังสาหัสอยู่ นายไม่เห็นรึ? Just Like Heaven (2005)
, discovered three dead and one injured, ...ได้ประสบเหตุผู้เสียชีวิต 3 ราย อาการสาหัสอีก 1ราย The Fog (2005)
38-year old Lee Jo-hyung was severely burned and moved to a hospital.ลีโจยัง อายุ 38 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากไฟลวก และได้นำส่งโรงพยาบาลแล้ว Sad Movie (2005)
Hit me very hard.ทำร้ายฉันสาหัสมาก Mr. Monk and the Other Detective (2005)
It's gonna be nasty for a first-timer like you, but we'll protect you.สำหรับพวกไม่เคยอย่างนายคงสาหัสน่าดู Allen (2005)
The working class is suffering from extreme poverty!กลุ่มชนชั้นแรงงานกำลังทนทุกข์กับความยากจนแสนสาหัส Super Rookie (2005)
Dividing him from her and her from him would only be half as cruel as actually allowing them to be joined in holy matrimony.ถ้ากีดกันเขาจากหล่อน และหล่อนจากเขาได้ จะเป็นเรื่องทรมานสาหัส.. ดีกว่าปล่อยให้ทั้งคู่ เข้าพิธีแต่งงานกันสุขสันต์ .. Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest (2006)
They should have known better than to hurt her so badly.พวกเค้าควรที่จะรู้ดีกว่าที่ จะทำร้ายเธออย่างสาหัสขนาดนี้ Silent Hill (2006)
- Well, we got one deceased officer here... and another found seriously wounded there.- ตำรวจเสียชีวิต 1 นายตรงนี้... และก็บาดเจ็บสาหัส 1 นาย ตรงนั้นครับ The Marine (2006)
With 32 consecutive wins 25 contestants seriously injured (?สู้ชนะต่อเนื่องกัน 32 ครั้ง 25ครั้งที่ผู้ท้าชิงบาดเจ็บสาหัส Fearless (2006)
You know, something you learned during your ordeal, something to keep them going no matter how bad it gets?อะไรบางอย่างแสนสาหัสที่คุณเรียนรู้มา อะไรที่จะทำให้พวกเขายืนหยัด แม้ต้องเจอกับสิ่งเลวร้าย Rescue Dawn (2006)
Severe head trauma. Multiple lacerations to the face.บาดแผลสาหัสที่ศีรษะ รอยถลอกหลายที่ตามใบหน้า The Astronaut Farmer (2006)
Be careful, the consequences can be terrible.ระวังไว้ ผลที่ตามมามันแสนสาหัสยิ่งนัก Milarepa (2006)
How can you smile with your face beaten like that?คุณยิ้มได้อย่างไรกัน ด้วยใบหน้าที่ถูกทำร้ายมาแสนสาหัสเช่นนั้น Almost Love (2006)
Significant passenger, space intrusion.บาดเจ็บสาหัส ได้รับการกระทบกระเทือน In My Time of Dying (2006)
Mike Delfino had been badly injured in a hit-and-run accident, and was now in a coma at Fairview Memorial Hospital.ไมค์ เดลฟิโน บาดเจ็บสาหัส จากการถูกชนแล้วหนี และยังอยู่ในขั้นโคม่าที่ โรงพยาบาล Fairview Memorial Listen to the Rain on the Roof (2006)
Sir, They're Seeing Everyone On An Emergency Basis.คุณครับ เค้าตรวจคนไล่จากความสาหัสของอาการน่ะ Something's Coming (2007)
And Some Had Learned The Hardest Lesson Of All...และบางคนได้เรียนรู้ ถึงบทเรียนที่สาหัสที่สุด Something's Coming (2007)
Your husband's injuries are s-severe.สามีของคุณบาดเจ็บสาหัส A Change Is Gonna Come (2007)
What a burden that's got to be. No wonder he is so shut down.มันหนักหนาสาหัสขนาดนี้ มิน่าเขาถึงไม่ยอมเปิดใจ The British Invasion (2007)
I have tried that hard to have you.ผมผ่านความยากลำบากแสนสาหัส เพื่อมีคุณ Om Shanti Om (2007)
Oh, nothing too dramatic, I hope. Her line is doing very well.โอ้ว คงไม่หนักหนาสาหัสนะ ธุรกิจกำลังไปได้สวยทีเดียว The Wild Brunch (2007)
This is very serious.มันสาหัสมากๆ [ Rec ] (2007)
The dog went into a coma and a few moments later came to and was extraordinarily aggressive.สุนัขตัวนั้นอาการสาหัส ต่อมาไม่นาน มันก็มีอาการก้าวร้าว [ Rec ] (2007)
- Hasn't been an easy night for her.คุณสองคนดูแย่จัง เธอเจอมาหนักหนาสาหัส Aliens vs. Predator: Requiem (2007)
-l got him to see the therapist.- ให้ชาร์ลี แฟนเก่าท้องป่องของเฮนรี่น่ะค่ะ - โอ้ ใช่ นั่นสาหัสน่าดูนะ Betty's Baby Bump (2008)
Yeah, it's bad, ain't it?เออ สาหัสอ่ะ Escape from Dragon House (2008)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
บาดเจ็บสาหัส[bātjep sāhat] (adj) EN: seriously injured  FR: sérieusement blessé ; gravement blessé
สาหัส[sāhat] (adj) EN: severe ; grievous ; serious  FR: grave ; sérieux ; sévère
สาหัส[sāhat] (adv) EN: severely ; seriously  FR: gravement ; sérieusement

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
acute(adj) รุนแรง, See also: หนัก, ร้ายแรง, อย่างแรง, สาหัส, Syn. severe, serious
agony(n) ความทรมาน, See also: ความทุกข์, ความเจ็บปวดแสนสาหัส, ความกลัดกลุ้ม, Syn. suffering, torture, distress
maim(vt) ทำให้บาดเจ็บสาหัส, Syn. cripple, lame, disable
rack with(phrv) ทำให้ทุกข์แสนสาหัสจาก
serious(adj) สาหัส, See also: หนัก, อันตราย, ร้ายแรง, Syn. severe, pressing
seriously(adv) อย่างร้ายแรง, See also: อย่างสาหัส, Syn. dangerously, perilously, threateningly, Ant. safely, solemnly
violent(adj) รุนแรง, See also: ี่ร้ายแรง, สาหัส, Syn. brutal, saveage, Ant. peaceful, non-violent

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
bitter(บิท'เทอะ) { bittered, bittering, bitters } adj. ขม, ขมขื่น, เผ็ดร้อน, ปวดแสบ, รุนแรง, ดุเดือด, จัด, หนาวจัด, สาหัส, อาฆาต n. ความขม, สิ่งที่รสขม vt. ทำให้ขม adj. ยิ่ง, จัด, มาก, รุนแรง, See also: bitterish adj. ดูbitter -bitterness n. ดูbitter คำที่มีความหมาย
martyrdom(มาร์'เทอะดัม) n. ความทุกข์ทรมานความตาย หรือสภาวะของmartyr (ดู) , ความทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส
ordeal(ออร์เดียล') n. การทดสอบอย่างทรหดที่สุด, ประสบการณ์ที่แสนสาหัส, Syn. test
poignant(พอย'เยินทฺ, พอย'เนินทฺ) adj. เจ็บปวด, เจ็บแสบ, สาหัส, ฉุน, เผ็ดร้อน, คมกริบ, แหลม, รุนแรง, สะเทือนอารมณ์., See also: poignancy n., Syn. intense
serious(เซีย'เรียส) adj. เคร่งขรึม, ขรึม, จริงจัง, เอาจริงเอาจัง, ไม่เหลาะแหละ, ไม่ล้อเล่น, ขึงขัง, สำคัญ, สาหัส, ร้ายแรง, See also: seriousness n., Syn. grave, solemn, earnest, important, severe
severe(ซีเวียร์') adj. รุนแรง, เข้มงวด, กวดขัน, เคร่ง, เคร่งขรึม, เคร่งครัด, เอาจริงเอาจัง, เหน็บแนม, เสียดสี, หนาวจัด, ร้ายแรง, สาหัส, ดุเดือด, ยากลำบาก, แม่นยำ., See also: severely adv. severeness n., Syn. cruel, harsh
slashing(สแลช'ชิง) n. = slash (ดู) . adj. เฉียบแหลม, เจ็บแสบ, รุนแรง, ร้ายแรง, สาหัส, ดุเดือด, มากมาย, ใหญ่ยิ่ง., See also: slashingly adv.

English-Thai: Nontri Dictionary
acid(adj) เปรี้ยว, ฉุนเฉียว, สาหัส, รุนแรง
acute(adj) เก่ง, เฉียบแหลม, มีไหวพริบ, สาหัส, รุนแรง, ฉับพลัน
grievous(adj) เศร้าโศก, ทุกข์, สาหัส, มหันต์, ร้ายแรง, หนัก
grievously(adv) อย่างเศร้าโศก, อย่างสาหัส, อย่างมหันต์, อย่างร้ายแรง, อย่างหนัก
poignancy(n) ความแหลม, ความเจ็บปวด, ความสาหัส, ความรุนแรง
poignant(adj) แหลม, เจ็บปวด, สาหัส, รุนแรง, เผ็ดร้อน, ฉุน
serious(adj) สำคัญ, จริงจัง, เคร่งเครียด, เอาจริงเอาจัง, สาหัส, ร้ายแรง
seriousness(n) ความเครียด, ความเคร่งเครียด, ความร้ายแรง, ความสาหัส, ความสำคัญ
severe(adj) รุนแรง, สาหัส, เคร่งครัด, กวดขัน, เอาจริงเอาจัง, เข้มงวด

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
avalon(n) เกาะที่เชื่อว่าเป็นเกาะสวรรค์ทางตะวันตกที่กษัตริย์อาเธอร์ได้ทรงไปประทับอยู่ภายหลังจากการบาดเจ็บสาหัสจากการสู้รบและทรงสวรรคตที่นั่น บางครั้งใช้แสดงความหมายแฝงหมายความว่า เป็นที่พักพิงใจและกายเมื่อมีความทุกข์ระทม island paradise in Celtic mythology: in Celtic mythology, an island paradise in the west. King Arthur is said to have been taken to Avalon after being apparently mortally wounded. (Encarta Wold English Dictionary), Syn. แดนสุขาวดี

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top