ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*ยอมรับ*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ยอมรับ, -ยอมรับ-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary ภาษา เกาหลี (KO) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Kim Taeyeon(n, name) ศิลปินเกาหลี หัวหน้าวงเกิลกรุ๊ปชื่อดัง Girls' Generation หรือมีอีกชื่อหนึ่งว่า So nyeo Shi Dae ทั้ง 2 ชื่อแปลว่า ยุคของหญิงสาว มีสมาชิกทั้งหมด 9 คน มีผลงานเพลงออกมาหลายอัลบั้ม คิม แทยอน เป็นนักร้องที่เสียงทรงพลังมากที่สุดในวง มีพรสวรรค์ในการร้องเพลงเป็นอย่างมาก ด้วยน้ำเสียงที่หาคนเทียบได้ยาก ได้ร้องเพลงประกอบละคร ไว้หลายเรื่อง เช่น Hong Gill Dong / Beethoven Virus / Hana sang / Atena เป็นต้น และมีรางวัลการันตีในความสามารถด้านการร้องเพลงมากมาย มีผลงานดูเอ๊ทกับศิลปินหลายๆคน รวมถึง อาจารย์ที่สอน คิม แทยอนร้องเพลง หรือที่รู้จักในนามของ The one คิม แทยอน เป็นหัวหน้าวงที่นำวงจนสามารถรับรางวัลมากมาย รวมถึงรางวัล แผ่นเสียงทองคำ (Golden Disk Daesang) ทำให้ คิม แทยอน เป็นที่ยอมรับในวงการเพลงเกาหลี เป็นคนที่มากด้วยความสามารถ

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
ยอมรับ(v) agree, See also: accept, concur, acquiesce, Syn. เห็นด้วย, Example: นักภาษาศาตร์คอมพิวเตอร์มักจะยอมรับการแก้ปัญหาแบบอนุโลม, Thai Definition: เห็นด้วยในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง, ยอมรับเอา
ยอมรับ(v) confess, See also: plead guilty, admit, Syn. สารภาพ, รับสารภาพ, รับผิด, Example: เขาไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาทำให้เกิดผลเสียขึ้นมา
ที่ยอมรับ(adj) acceptable, See also: agreeable, admissible, Syn. เป็นที่ยอมรับ
ยอมรับผิด(v) confess, See also: admit/acknowledge one's mistake, Syn. รับผิด, Ant. ปฏิเสธ, Example: เขายอมรับผิดว่าเขาได้ให้ข่าวนี้แก่ผู้สื่อข่าวคนหนึ่ง, Thai Definition: ยอมรับความผิดที่ได้กระทำไป
ไม่ยอมรับ(v) refuse to admit, See also: refuse to acknowledge, Syn. ไม่รับ, ไม่รับผิด, Example: จำเลยไม่ยอมรับว่าเป็นผู้ลงมือสังหาร, Thai Definition: ให้คำตอบปฏิเสธ, ไม่ยอมสารภาพ
เป็นที่ยอมรับ(v) be accepted, See also: be acknowledged, be admitted, approve, be acceptable, Syn. เป็นที่รับรอง, Ant. ปฏิเสธ, Thai Definition: ได้รับการพิสูจน์โดยทั่วไปว่าเป็นจริง

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
กฎหมายน. กฎเกณฑ์ที่ผู้มีอำนาจตราขึ้นเพื่อใช้บังคับบุคคลให้ปฏิบัติตามเป็นการทั่วไป ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามย่อมได้รับผลร้าย กฎหมายอาจตราขึ้นเพื่อกำหนดระเบียบแห่งความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลหรือระหว่างบุคคลกับรัฐ หรือเพื่อใช้ในการบริหารประเทศ กฎหมายอาจเกิดจากจารีตประเพณีอันเป็นที่ยอมรับนับถือกันก็ได้.
กฎหมายระหว่างประเทศน. หลักกฎหมายหรือหลักปฏิบัติที่ยอมรับกันว่าด้วยรัฐและความเกี่ยวพันระหว่างรัฐ รวมทั้งความเกี่ยวพันระหว่างรัฐกับองค์การระหว่างประเทศและประชาคมระหว่างประเทศ.
กระต่ายสามขาว. ยืนกรานไม่ยอมรับ, กระต่ายขาเดียว ก็ว่า.
กลฉ้อฉล(กน-) น. การใช้อุบายหลอกลวงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือการจงใจปิดบังซ่อนเร้นข้อความจริงเพื่อให้ผู้อื่นหลงผิดจนเข้าทำนิติกรรม หรือจนคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งยอมรับข้อกำหนดอันเป็นภาระอันหนักขึ้นกว่าที่คู่กรณีฝ่ายนั้นจะยอมรับโดยปรกติ.
ขมาการยกโทษให้เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งยอมรับผิด เช่น รับขมา.
ข้อมูลน. ข้อเท็จจริง หรือสิ่งที่ถือหรือยอมรับว่าเป็นข้อเท็จจริง สำหรับใช้เป็นหลักอนุมานหาความจริงหรือการคำนวณ.
ขี้แพ้ชวนตีก. แพ้ตามกติกาแล้วยังไม่ยอมรับว่าแพ้จะเอาชนะด้วยกำลัง, แพ้แล้วพาล.
ค้าประเวณีก. ยอมรับการกระทำชำเราหรือยอมรับการกระทำอื่นใด หรือกระทำการอื่นใด เพื่อสำเร็จความใคร่ในทางกามารมณ์ของผู้อื่น อันเป็นการสำส่อนเพื่อสินจ้างหรือประโยชน์อื่นใด ทั้งนี้ ไม่ว่าผู้ยอมรับการกระทำและผู้กระทำจะเป็นบุคคลเพศเดียวกันหรือคนละเพศ.
เครือจักรภพ, เครือรัฐ(-จักกฺระพบ, -รัด) น. กลุ่มประเทศหรือรัฐที่มีการปกครองตนเอง แต่ยอมรับนับถือประมุขร่วมกัน เช่น ประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ รัฐต่าง ๆ ในเครือรัฐออสเตรเลีย.
งมงายก. หลงเชื่อโดยไม่มีเหตุผล หรือโดยไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นหรือเหตุผลของผู้อื่น.
จารีตนครบาลน. วิธีไต่สวนพิจารณาคดีนครบาลซึ่งเป็นคดีโจรผู้ร้ายหรือคดีที่มีโทษหลวง เมื่อคนร้ายจนต่อพยานหลักฐานแล้วแต่ยังไม่ยอมรับสารภาพ โดยให้ใช้ได้ตามเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด เช่น เฆี่ยน แต่ไม่ให้ถึงแก่ชีวิต.
ซ้อมค้างก. พูดทึกทักเอาราวกับเป็นจริง เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งยอมรับ.
ฐาน ๒, ฐาน-, ฐานะหลักฐาน, ลำดับความเป็นอยู่ในสังคม เช่น ทุกคนยอมรับรู้ฐานะในสังคมของเขา.
ดุษณี, ดุษณีภาพ(ดุดสะนี-) น. อาการนิ่งซึ่งแสดงถึงการยอมรับ.
ตบหัวกลางศาลา ขอขมาที่บ้านก. ยอมรับผิดไม่สมกับความผิดที่ทำไว้, ใช้เพี้ยนว่า ตบหัวที่ศาลา ขอขมาที่บ้าน ก็มี.
ต่อรองก. ขอลดหรือเพิ่มเงื่อนไขเพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทั้ง ๒ ฝ่าย เช่น ต่อรองราคา ต่อรองเงื่อนไข.
ตามอำเภอใจว. เอาแต่ใจตัว ไม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น.
ถือว่าก. จัดว่า, นัยว่า, ยอมรับว่า
ทุเรศ ๑ว. ลักษณะที่ขัดหูขัดตา น่ารังเกียจ หรือน่าสมเพช เป็นต้น, (ปาก) คำที่เปล่งออกมาแสดงการไม่ยอมรับหรือแสดงความรังเกียจ.
นิยต, นิยต-ตระหนักแน่, เป็นที่ยอมรับ, เชิงสร้างสรรค์, ทางบวก.
นิยมก. ชมชอบ, ยอมรับนับถือ, ชื่นชมยินดี, ใช้ประกอบท้ายคำสมาสบางคำใช้เป็นชื่อลัทธิ เช่น ลัทธิชาตินิยม ลัทธิสังคมนิยม.
ปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนน. การให้คำมั่นสัญญาหรือการแสดงยืนยันถึงสิทธิหรืออำนาจอันชอบธรรมของมนุษย์ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันทั่วไป.
ปฏิเสธก. ไม่รับ, ไม่ยอมรับ, เช่น ปฏิเสธการเชิญ, ไม่ยอมรับข้อเท็จจริง เช่น ปฏิเสธข้อกล่าวหา
ปฏิเสธแสดงความหมายตรงกันข้ามกับยืนยัน รับ หรือ ยอมรับ.
ปิดหูปิดตาก. ไม่ยอมรับรู้รับฟัง, ไม่ยอมให้รู้ให้เห็น.
ผงก(ผะหฺงก) ก. ยกหัวขึ้นน้อย ๆ, ก้มหัวลงแล้วเงยขึ้นโดยเร็วแสดงอาการยอมรับหรือเห็นด้วย.
ภาระจำยอมน. ข้อผูกพันอันเป็นเหตุให้เจ้าของอสังหาริมทรัพย์จำต้องยอมรับกรรมบางอย่างซึ่งกระทบถึงทรัพย์สินของตน หรือต้องงดเว้นการใช้สิทธิบางอย่างอันมีอยู่ในกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินนั้น เพื่อประโยชน์แก่อสังหาริมทรัพย์อื่น เช่น ทางภาระจำยอม.
รับผิดก. ยอมรับว่าทำผิด.
รับผิดชอบก. ยอมรับผลทั้งที่ดีและไม่ดีในกิจการที่ตนได้ทำลงไปหรือที่อยู่ในความดูแลของตน เช่น สมุห์บัญชีรับผิดชอบเรื่องเกี่ยวกับการเงิน, รับเป็นภารธุระ เช่น งานนี้เขารับผิดชอบเรื่องอาหาร เธอจะไปไหนก็ไปเถอะ ฉันรับผิดชอบทุกอย่างในบ้านเอง.
รูปแบบน. รูปที่กำหนดขึ้นเป็นหลักหรือเป็นแนวซึ่งเป็นที่ยอมรับ เช่น รูปแบบร้อยกรอง
ล้างสมองก. ทำให้บุคคลเปลี่ยนความคิดเห็นหรือความเชื่อถือของตนโดยเฉพาะในลัทธิการเมือง สังคม หรือศาสนาไปอย่างสิ้นเชิง และยอมรับความคิดเห็นหรือความเชื่อใหม่โดยใช้วิธีการต่าง ๆ รวมทั้งอาจมีการทรมานจิตใจอย่างรุนแรง.
ศาลแพ่งน. ศาลยุติธรรมชั้นต้นซึ่งมีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีแพ่งทั้งปวงและคดีอื่นใดที่มิได้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรมชั้นต้นอื่น ศาลแพ่งมีเขตพื้นที่ตลอดท้องที่กรุงเทพมหานคร นอกจากเขตพื้นที่ที่อยู่ในเขตพื้นที่ของศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ศาลแพ่งธนบุรี ศาลจังหวัดมีนบุรี แต่คดีที่อยู่นอกเขตพื้นที่ของศาลแพ่ง ศาลแพ่งอาจใช้ดุลพินิจยอมรับไว้พิจารณาพิพากษาได้.
ศาลอาญาน. ศาลยุติธรรมชั้นต้นที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีอาญาทั้งปวงที่มิได้อยู่ในอำนาจของศาลยุติธรรมชั้นต้นอื่น ศาลอาญา มีเขตพื้นที่ตลอดท้องที่กรุงเทพมหานครนอกจากเขตพื้นที่ที่อยู่ในเขตพื้นที่ของศาลอาญากรุงเทพใต้ ศาลอาญาธนบุรี ศาลจังหวัดมีนบุรี แต่คดีที่อยู่นอกเขตพื้นที่ของศาลอาญา ศาลอาญาอาจใช้ดุลพินิจยอมรับไว้พิจารณาพิพากษาได้.
ศิลปิน, ศิลปี(สินละ-) น. ผู้มีความสามารถแสดงออกซึ่งคุณสมบัติทางศิลปะในด้านจิตรกรรมประติมากรรมเป็นต้น และมีผลงานเป็นที่ยอมรับนับถือจากสถาบันทางศิลปะแห่งชาติ.
ษมา(สะมา) น. การยกโทษให้เมื่ออีกฝ่ายหนึ่งยอมรับผิด, ขมา ก็ว่า.
สมมต, สมมติ, สมมติ-, สมมุติ, สมมุติ-(สมมด, สมมด, สมมดติ-, สมมุด, สมมุดติ-) ว. ที่ยอมรับตกลงกันเองโดยปริยาย โดยไม่คำนึงถึงสภาพที่แท้จริง เช่น สมมติเทพ.
สแลงน. ถ้อยคำหรือสำนวนที่ใช้เข้าใจกันเฉพาะกลุ่มหรือชั่วระยะเวลาหนึ่ง ไม่ใช่ภาษาที่ยอมรับกันว่าถูกต้อง.
สัจพจน์(สัดจะ-) น. ข้อความที่ยอมรับในวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ว่าจริงโดยไม่ต้องพิสูจน์.
เสาหลักน. บุคคลที่สังคมยอมรับนับถือว่าเป็นหลักของบ้านเมืองในด้านสติปัญญาหรือด้านวิทยาการต่าง ๆ เป็นต้น.
หงายบาตรน. สังฆกรรมที่คณะสงฆ์ประกาศยกโทษให้แก่คฤหัสถ์ที่เคยถูกประกาศคว่ำบาตรมาแล้ว ด้วยการยอมรับบิณฑบาตเหมือนเดิม.
หวานอมขมกลืนก. ตกอยู่ในฐานะที่จำต้องยอมรับ ไม่ว่าจะดีหรือร้าย พอใจหรือไม่พอใจก็ตาม.
ให้น. ชื่อสัญญาซึ่งบุคคลคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้ให้ โอนทรัพย์สินของตนให้โดยเสน่หาแก่บุคคลอีกคนหนึ่ง เรียกว่า ผู้รับ และผู้รับยอมรับเอาทรัพย์สินนั้น.
อดทนก. บึกบึน, ยอมรับสภาพความยากลำบาก.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
plenary confession๑. การรับสารภาพตลอดข้อหา (ป. วิ. อาญา)๒. การยอมรับเต็มตามคำฟ้อง (ป. วิ. แพ่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
policy proof of interestกรมธรรม์ยอมรับส่วนได้เสีย [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
recognitionการยอมรับ [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
recognition๑. การรับรอง (รัฐ, รัฐบาลใหม่)๒. การยอมรับนับถือ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
repudiationการปฏิเสธ, การไม่ยอมรับ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
repudiation of a childการไม่ยอมรับเด็กว่าเป็นบุตร [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
seaworthiness admittedสภาพพร้อมออกทะเลที่ยอมรับแล้ว [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
subject approval no riskการรับเสี่ยงภัยขึ้นอยู่กับการยอมรับเงื่อนไข [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
servitude, involuntaryการจำยอมรับภาระ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
standpatterผู้ยืนกราน (ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
sublimation๑. การระเหิด๒. การเปลี่ยนให้เป็นที่ยอมรับ (กลไกทางจิต) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
acceptance testการทดสอบเพื่อยอมรับ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
acceptance testการทดสอบเพื่อยอมรับ [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
acquiescenceการยอมรับโดยปริยายที่ทำให้เสียสิทธิ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
admissible; admissible evidence๑. ที่รับไว้พิจารณาได้, ที่ยอมรับได้๒. ที่อ้างเป็นพยานหลักฐานได้ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
admissible evidence; admissible๑. ที่รับไว้พิจารณาได้, ที่ยอมรับได้๒. ที่อ้างเป็นพยานหลักฐานได้ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
admissionการยอมรับเป็นสมาชิก [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
admissionsการยอมรับ (ข้อเท็จจริง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
age admittedอายุที่ยอมรับ [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
acceptance, zone ofขอบเขตการบังคับบัญชาที่ยอมรับได้ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
accepted valueมูลค่าที่ยอมรับ [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
joinder in issueการยอมรับข้อเท็จจริงของอีกฝ่ายหนึ่ง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
joinder in pleadingการยอมรับข้อเท็จจริงร่วมกัน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
judicial comityการยอมรับนับถืออำนาจของศาล (ต่างประเทศ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
qui non negat fatetur (L.)ผู้ไม่ปฏิเสธถือว่ายอมรับ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
comity, judicialการยอมรับนับถืออำนาจของศาล (ต่างประเทศ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
disclaimerการบอกเลิกข้อเรียกร้อง, การไม่ยอมรับสิทธิ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
disavowปฏิเสธ, ไม่ยอมรับ (การกระทำที่ไม่ได้รับมอบหมาย) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
disallowance๑. การไม่ยอมรับกฎหมาย (ที่ออกโดยอาณานิคมหรือเขตสังกัด)๒. การบอกปัด (ข้อเรียกร้อง) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
FAT (final acceptance test)เอฟเอที (การตรวจสอบเพื่อยอมรับขั้นสุดท้าย) [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
final acceptance test (FAT)การตรวจสอบเพื่อยอมรับขั้นสุดท้าย (เอฟเอที) [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
involuntary servitudeการจำยอมรับภาระ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
zone of acceptanceขอบเขตการบังคับบัญชาที่ยอมรับได้ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
value receivedมูลค่าที่ยอมรับ (ตั๋วแลกเงิน) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
true admissionการยอมรับพยานหลักฐานว่าเป็นจริง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
tacit acceptanceการยอมรับโดยปริยาย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
negative pregnantการภาคเสธ, การปฏิเสธที่มีผลเท่ากับการยอมรับ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
non-admissionการไม่ยอมรับ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
non placet (L.)ไม่ยอมรับ, ไม่รับรอง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
non-acceptanceการไม่รับรอง (ตั๋วแลกเงิน), การไม่ยอมรับมอบ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
notice to admitคำบอกกล่าวให้ยอมรับความถูกต้องของเอกสาร [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Innovationนวัตกรรม, นวัตกรรม หรือนวกรรม หมายถึง วิธีการปฏิบัติใหม่ๆ ที่แปลกไปจากเดิม โดยอาจจะได้มาจากการคิดค้นพบวิธีการใหม่ๆ ขึ้นมา หรือการปรุงแต่งของเก่าให้ใหม่และเหมาะสม และสิ่งทั้งหลายเหล่านี้ได้รับการทดลองพัฒนาจนเป็นที่เชื่อถือได้แล้วว่าได้ผลดีในทางปฏิบัติ ทำให้ระบบก้าวไปสู่จุดหมายปลายทางได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้น โดย มีหลักการที่สำคัญอยู่ 3 ประการ ที่จัดเป็นหลักพิจารณาว่าสิ่งใดเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาหรือไม่ คือ <ul><li>สิ่งนั้นควรเป็นสิ่งที่ค้นพบ หรือประดิษฐ์ขึ้นมาใหม่ หรือการปรับปรุงแต่งของเก่าให้ใหม่เหมาะสมกับกาลสมัยมาใช้ในวงการศึกษา เพื่อให้ระบบการศึกษาก้าวหน้าไปอย่างมีประสิทธิภาพ</li><li>ได้ผ่านการทดลอง การปรับปรุงพัฒนา จนเป็นที่ยอมรับกับอย่างแพร่หลาย</li><li>ได้มีการนำมาปฏิบัติจริงในวงการนั้น</li></ul> [เทคโนโลยีการศึกษา]
Kokokuเอกสารสิทธิบัตรยื่นต่อสำนักงานสิทธิบัตรประเทศญี่ปุ่น ที่ทำการตรวจสอบแล้วและยอมรับให้เป็นเอกสารขอรับสิทธิบัตรที่สมบูรณ์ [ทรัพย์สินทางปัญญา]
Rejectionสำนักงานสิทธิบัตรปฏิเสธ ไม่ยอมรับคำขอรับสิทธิบัตร [ทรัพย์สินทางปัญญา]
Mutant varietyพืชพันธุ์กลาย, พืชพันธุ์ใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากการใช้รังสีหรือสารเคมีเหนี่ยวนำให้เกิดการกลายพันธุ์ เป็นที่ยอมรับและมีการปลูกอย่างกว้างขวาง, Example: [นิวเคลียร์]
Mutant cultivarพืชพันธุ์กลาย, พืชพันธุ์ใหม่ที่พัฒนาขึ้นจากการใช้รังสีหรือสารเคมีเหนี่ยวนำให้เกิดการกลายพันธุ์ เป็นที่ยอมรับและมีการปลูกอย่างกว้างขวาง [นิวเคลียร์]
กฎหมายกฎที่สถาบันหรือผู้มีอำนาจสูงสุดในรัฐตราขึ้น หรือที่เกิดขึ้นจากจารีตประเพณีอันเป็นที่ยอมรับนับถือ เพื่อใช้ในการบริหารประเทศ เพื่อใช้บังคับบุคคลให้ปฏิบัติตาม, Example: คำที่มักเขียนผิด คือ กฏหมาย [คำที่มักเขียนผิด]
Acceptance samplingการสุ่มตัวอย่างเพื่อการยอมรับ [TU Subject Heading]
Admissible evidenceพยานหลักฐานที่ยอมรับได้ [TU Subject Heading]
Convention on the Recognition and Enforcement of Foreign Arbitral Award (1958)อนุสัญญาว่าด้วยการยอมรับและใช้บังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการต่างประเทศ (ค.ศ. 1958) [TU Subject Heading]
Patient acceptance of health careการยอมรับการดูแลทางการแพทย์ของผู้ป่วย [TU Subject Heading]
Receptionการยอมรับ [TU Subject Heading]
Respect for personsการยอมรับความเป็นมนุษย์ [TU Subject Heading]
Self-acceptanceการยอมรับตนเอง [TU Subject Heading]
Social acceptanceการยอมรับทางสังคม [TU Subject Heading]
Social acceptance in childrenการยอมรับทางสังคมในเด็ก [TU Subject Heading]
Accessionการภาคยานุวัติ คือการที่รัฐหนึ่งเข้าไปเป็นภาคีสนธิสัญญา ซึ่งรัฐอื่น ๆ ได้วินิจฉัยตกลงก่อนแล้วและสนธิสัญญานั้นได้มีผลใช้บังคับก่อนแล้วด้วย บางที่ใช้คำ ?accession? ซึ่งตรงกับคำในภาษาฝรั่งเศสว่า ?adhésion? รัฐจะเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาไม่ได้ นอกจากว่าในสนธิสัญญานั้นมีบทบัญญัติยอมให้รัฐอื่นเข้ามาเป็นภาคีด้วยได้ เช่น มาตรา 4 ของกฎบัตรแห่งสหประชาชาติบัญญัติไว้ว่า?(1) สมาชิกภาพในสหประชาชาติ เปิดรับบรรดารัฐอื่นๆ ทั้งหลายที่ยอมรับพันธกรณีที่ระบุไว้ในกฎบัตรปัจจุบันและองค์การสหประชาชาติ พิจารณาวินิจฉัยแล้วว่า รัฐนั้น ๆ สามารถและเต็มใจที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีเหล่านั้น??(2) การรับรัฐใดๆ ดังกล่าวเข้าเป็นสมาชิกในสหประชาชาติจะเป็นผลสำเร็จก็ต่อเมื่อสมัชชาสหประชา ชาติได้ลงมติรับรองตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง? คือ เอกสิทธิ์ทางการทูตในการที่จะได้มีถิ่นพำนัก [การทูต]
Break of Diplomatic Relationsการตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อสองรัฐตัดความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งกันและกัน เพราะมีการไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรง หรือเพราะเกิดสงคราม จึงไม่มีหนทางติดต่อกันได้โดยตรง ดังนั้น แต่ละรัฐมักจะขอให้มิตรประเทศที่เป็นกลางแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐอีกฝ่ายหนึ่ง ช่วยทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในอีกรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ช่วยดูแลคนชาติของรัฐนั้น ตัวอย่างเช่น ในตอนที่สหรัฐอเมริกากับคิวบาได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกดัน สหรัฐอเมริกาได้ขอให้คณะผู้แทนทางการทูตของสวิส ณ กรุงฮาวานา ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเทศคิวบา ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเช็คโกสโลวาเกียในกรุงวอชิงตัน ก็ได้รับการขอจากประเทศคิวบา ให้ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในสหรัฐอเมริกาถึงสังเกตว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกงสุลจะต้องตัดขาดไปด้วย มาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า ?ถ้าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองรัฐขาดลง หรือถ้าคณะผู้แทนถูกเรียกกลับเป็นการถาวรหรือชั่วคราวก. แม้ในกรณีการขัดแย้งกันด้วยอาวุธ รัฐผู้รับจะต้องเคารพและคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทนด้วยข. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการพิทักษ์สถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทน ให้แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับแก่รัฐผู้รับก็ได้ค. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการอารักขาผลประโยชน์ของคนและคนชาติของตน แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แก่รัฐผู้รับก็ได้ [การทูต]
Convention on Prohibitions or Restrictions on the Use od Certain Conventional Weapons Which May Be Deemed to Be Excessively InjuConvention on Prohibitions or Restrictions on the Use od Certain Conventional Weapons Which May Be Deemed to Be Excessively Injurious or to Have Indiscriminate Effects = อนุสัญญาห้ามอาวุธตามแบบบางชนิดที่ก่อให้เกิดการบาด เจ็บร้ายแรงเกินความจำเป็นหรือก่อให้เกิดลโดยไม่จำกัดเป้าหมาย มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการห้ามหรือหารจำกัดการใช้อาวุธตามแบบบางชนิดที่ก่อให้ เกิดผลกระทบร้ายแรงด้านมนุษยธรรม โดยสาระสำคัญของการ คอบคุมอาวุธตามแบบแต่ละชนิดจะถูกกำหนดไว้ในพิธีสารแต่ละฉบับต่างหาก ซึ่งในชั้นนี้ มีพิธีสาร 5 ฉบับ และรัฐต่างๆ สามารถเลือกยอมรับพิธีสารต่อท้ายอนุสัญญาฯ ฉบับใดก็ได้อย่างน้อยจำนวน 2 ฉบับ [การทูต]
Consular office Declared ?Non grata?เจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลจะถูกประกาศว่าไม่พึงปรารถนา หรือไม่พึงโปรดได้ ดังข้อ 23 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติไว้ด้วยข้อความดังนี้?1. รัฐผู้รับอาจบอกกล่าวแก่รัฐผู้ส่งในเวลาใดก็ได้ว่าพนักงานฝ่ายกงสุลเป็น บุคคลที่ไม่พึงโปรด หรือบุคคลอื่นใดในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลเป็นที่ไม่พึงยอมรับได้ ในกรณีนั้นรัฐผู้ส่งจะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นกลับ หรือเลิกการหน้าที่ของผู้นั้นต่อสถานที่ทำการทางกงสุล แล้วแต่กรณี2. ถ้ารัฐผู้ส่งปฏิเสธหรือไม่นำพาภายในเวลาอันสมควรที่จะปฏิบัติตามพันธกรณีของ ตนตามวรรค 1 ของข้อนี้ รัฐผู้รับอาจเพิกถอนอนุมัติบัตรจากบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้น หรือเลิกถือว่าบุคคลนั้นเป็นบุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุลก็ได้ แล้วแต่กรณี3. รัฐผู้รับอาจประกาศว่า บุคคลหนึ่งบุคคลใดซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล เป็นผู้ที่ไม่อาจยอมรับได้ ก่อนที่บุคคลนั้นจะมาถึงอาณาเขตของรัฐผู้รับ หรืออยู่ในรัฐผู้รับแล้ว แต่ก่อนเข้ารับหน้าของตนต่อสถานที่ทำการทางกงสุลก็ได้ ในกรณีใด ๆ เช่นว่านั้น รัฐผู้ส่งจะเพิกถอนการแต่งตั้งบุคคลนั้น4. ในกรณีที่ได้บ่งไว้ในวรรค 1 และ 3 ของข้อนี้ รัฐผู้รับไม่มีพันธะที่จะต้องให้เหตุผลในการวินิจฉัยของตนแก่รัฐผู้ส่ง?การ ที่รัฐผู้รับปฏิเสธที่จะออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตรหลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วนั้น เป็นสิทธิของรัฐผู้รับอันจะถูกโต้แย้งมิได้ ประเด็นที่เป็นปัญหาก็คือ รัฐผู้รับมีพันธะที่จะต้องอธิบายเหตุผลอย่างใดหรือไม่ ในการที่ปฏิเสธไม่ยอมออกอนุมัติบัตร หรือเพิกถอนอนุมัติบัตร หลังจากที่ได้ออกให้ไปแล้วข้อนี้ น้ำหนักของผู้ทรงอำนาจหน้าที่ดูแลจะเห็นคล้อยตามทรรศนะที่ว่า รัฐผู้รับไม่จำเป็นต้องแสดงเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้นในการกระทำดังกล่าวเหตุผลของการไม่ยอมออกอนุมัติบัตรให้นั้นคือว่า ผู้ที่ไม่เห็นด้วย หรือไปแสดงสุนทรพจน์อันมีข้อความเป็นที่เสื่อมเสียแก่รัฐผู้รับ หรือเคยมีส่วนร่วมในการก่อการกบฏต่อรัฐผู้รับหรือเข้าไปแทรกแซงกิจการการ เมืองภายในของรัฐผู้รับ เป็นต้น [การทูต]
exequaturอนุมัติบัตร หมายถึง การอนุมัติจากรัฐผู้รับไม่ว่าจะเป็นในรูปใดก็ตาม ยอมรับให้หัวหน้าสถานทำการทางกงสุลของรัฐผู้ส่งเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้ (อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล พ.ศ. 2506) [การทูต]
final perimeterแนวเขตที่ยอมรับกันในที่สุด [การทูต]
Good Offices และ Mediationวิธีการที่จะระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐโดยฉันมิตร คำว่า Good Offices หมายถึง การช่วยเป็นสื่อกลาง ส่วน Mediation หมายถึง การไกล่เกลี่ยศัพท์ทั้งสองนี้หมายถึงวิธีการที่จะระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐ โดยฉันมิตร กล่าวคือ ในกรณีข้อพิพาทซึ่งการเจรจากันทางการทูตไม่สามารถตกลงกันได้ง่าย ๆ ดังนั้น รัฐที่สามอาจยื่นมือเข้าช่วยเป็นสื่อกลาง หน้าที่ในการนี้มิใช่ออกความเห็นหรือวินิจฉัยชี้ขาดว่าใครถูกใครผิดในกรณี ข้อพิพาท หากเป็นแต่เพียงแสวงหาลู่ทางที่จะระงับข้อพิพาทจะต้องมีให้น้อยที่สุดเท่า ที่จะทำได้ และถือว่าเป็นกาดรกระทำฉันมิตร (Friendly act) คู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจปฏิเสธข้อเสนอได้โดยไม่ถือว่าเป็นความผิดทางการ เมือง หรือคู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจขอร้องให้ช่วยเป็นสื่อกลาง หรือให้ช่วยไกล่เกลี่ย ตามธรรมดาการช่วยเป็นสื่อกลางนั้นเป็นเพียงการเข้าช่วยงานพื้นฐาน หรือให้มีการเริ่มต้นการเจรจาเท่านั้น ส่วนงานเจรจาที่จะกระทำโดยตรงกว่าจะมีลักษณะเป็นการไกล่เกลี่ย แต่ในทางปฏิบัติไม่ค่อยมีการคำนึงกันนักถึงความแตกต่างจริงๆ ระหว่างวิธีทั้งสอง คู่พิพาทฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดอาจปฏิเสธไม่ยอมรับการไกล่เกลี่ยไม่ว่าเวลาใดก็ได้ จะเห็นได้ว่า การช่วยเป็นสื่อกลางกับการไกล่เกลี่ยนั้นแตกต่างกัน คือ ในกรณีการช่วยเป็นสื่อกลาง ฝ่ายที่สามจะกระทำแต่เพียงช่วยให้มีการหันหน้าเข้าเจรจากันระหว่างคู่พิพาท ส่วนในกรณีการไกล่เกลี่ย ฝ่ายที่สามพยายามจัดให้มีการเจรจากันจริง ๆ ตามมูลฐานข้อเสนอของตน ฝ่ายที่เสนอช่วยเป็นสื่อกลางหรือช่วยไกล่เกลี่ยนั้น อาจจะมาจากประเทศที่สาม หรือจากองค์การระหว่างประเทศ หรือจากบุคคลธรรมดาคนหนึ่งก็ได้ [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
Heads of Stateผู้แทนที่สำคัญที่สุดของรัฐ หรือประมุขของรัฐ ในบางกรณีอาจทำหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐ ในการเจริญความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ โดยมีอำนาจเต็มที่จะประกอบการใด ๆ ได้ ประมุขของรัฐนั้นอาจได้แก่ พระจักรพรรดิ (Emperor) พระเจ้าแผ่นดิน (King) พระราชินี (Queen) และประธานาธิบดี (President)ประมุขของรัฐย่อมมีสิทธิที่จะได้รับการเคารพ และการยอมรับนับถือจากประเทศอื่นๆ ในสังคมนานาประเทศ ในแง่พิธีการทูต ผู้ที่เป็นกษัตริย์อาจได้รับเกียรติแตกต่างกับผู้ที่เป็นประธานาธิบดี แต่ความแตกต่างเช่นนี้หามีความสำคัญในแง่กฎหมายอย่างใดไม่ เมื่อประมุขของรัฐเดินทางไปเยือนต่างประเทศ ตัวประมุขพร้อมด้วยบุคคลในครอบครัวและบริวารทั้งหลาย ตลอดจนถึงทรัพย์สินของประมุขจะไดรับความคุ้มกัน (Immunity) ทั้งในทางแพ่งและอาญาคำว่าประมุขของรัฐอาจหมายถึงหัวหน้าของรัฐบาลก็ได้ เช่น ในกรณีสหรัฐอเมริกา แต่ในบางประเทศ เช่น อังกฤษ ประมุขของรัฐมิได้เป็นหัวหน้าของรัฐบาล ผู้ที่เป็นหัวหน้าของรัฐบาลได้แก่ นายกรัฐมนตรี (Prime Minister) ในประเทศที่มีการปกครองในรูปสาธารณรัฐ (Republic) ถือว่าอำนาจอธิปไตยตกอยู่กับประชาชน แม้แต่ตัวประธานาธิบดีของประเทศก็ไม่มีอำนาจอธิปไตย หากแต่เป็นประชาชนพลเมืองคนหนึ่ง ซึ่งได้รับการเลือกตั้งให้เข้าไปบริหารประเทศตามกำหนดระยะเวลาหนึ่งภายใต้ รัฐธรรมนูญ และตัวประธานาธิบดี เช่น ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็อาจถูกฟ้องให้ขับออกจากตำแหน่งโดยรัฐสภา หรือสภานิติบัญญัติได้ เรียกว่า Impeachment [การทูต]
International Court of Justiceศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1945 ตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ กฎข้อบังคับ (Statute) ของศาลโลกนั้นได้ผนวกอยู่ท้ายกฎบัตรของสหประชาชาติ และถือเป็นส่วนสำคัญอย่างแยกจากกันมิได้ของกฎบัตร ศาลนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นองค์กรแห่งศาลหรือแห่งตุลาการสำคัญที่สุดขององค์การสหประชาชาติ ประเทศใดที่เข้าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลก ย่อมมีสิทธิที่จะส่งคดีใดก็ตามไปให้ศาลโลกพิจารณาได้ ภายใต้เงื่อนไขที่คณะมนตรีความมั่นคงได้จัดวางไว้ นอกจากนั้น คณะมนตรีความมั่นคงก็อาจจะส่งกรณีพิพาททางกฎหมายไปให้ศาลพิจารณาได้ทั้ง สมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงสามารถขอคำปรึกษาหรือความเห็นจากศาลเกี่ยวกับ ปัญหาข้อกฎหมายใดๆ และองค์กรอื่น ๆ ของสหประชาชาติ อันรวมถึงองค์การชำนัญพิเศษ ก็สามารถขอคำปรึกษา หรือความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางกฎหมายใดๆ ที่อยู่ภายในกรอบของงานที่ปฏิบัติอยู่ แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับอนุมัติเห็นชอบจากสมัชชาสหประชาชาติก่อน สมัชชาเคยมอบอำนาจเช่นนี้แก่คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะมนตรีภาวะทรัสตี คณะกรรมาธิการระหว่างกาล (Interim Committee) ของสมัชชา รวมทั้งองค์กรระหว่างรัฐบาลบางแห่งด้วยรัฐทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของสหประชา ชาติถือว่าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกไปในตัว ส่วนประเทศใดที่มิใช่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็อาจเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกได้ ตามเงื่อนไขที่สมัชชาสหประชาชาติเป็นผู้กำหนดเป็นราย ๆ ไป ตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง ศาลโลกมีอำนาจที่จะพิจารณาปัญหาทั้งหลายที่รัฐสมาชิกขอให้พิจารณา รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ทั้งหลายที่ระบุอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ และตามสนธิสัญญาหรืออนุสัญญาที่ใช้บังคับอยู่ รัฐสมาชิกย่อมยอมผูกพันตนล่วงหน้าได้ที่จะยอมรับอำนาจศาลในกรณีพิเศษต่าง ๆ โดยจะต้องลงนามในสนธิสัญญา หรืออนุสัญญาซึ่งยอมให้ส่งเรื่องไปที่ศาลได้ หรือออกประกาศเป็นพิเศษว่าจะปฏิบัติเช่นนั้น ในคำประกาศเช่นนั้นจะต้องระบุว่ายอมรับอำนาจบังคับของศาลโลก และอาจจะยกเว้นคดีบางประเภทมิให้อยู่ในอำนาจของศาลได้ ในการวินิจฉัยลงมติ ศาลโลกจะอาศัยแหล่งที่มาของกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้ คือ- สัญญาหรืออนุสัญญาระห่างประเทศซึ่งวางกฎข้อบังคับที่รัฐคู่กรณียอมรับ- ขนบธรรมเนียมระหว่างประเทศซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปตามที่ กฎหมายรับรองศาลโลกอาจจะตัดสินชี้ขาดว่าสิ่งใดยุติธรรมและดี โดยรัฐภาคีที่เกี่ยวข้องตกลงเห็นชอบด้วยคณะมนตรีความมั่นคงอาจจะรับการขอ ร้องจากรัฐภาคีหนึ่งใดในกรณีพิพาท ให้กำหนดมาตรการที่จะใช้เพื่อให้คำตัดสินของศาลมีผลบังคับ ถ้าคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใต้อำนาจศาลศาลโลก ประกอบด้วยผู้พิพากษารวม 15 ท่าน ซึ่งถือกันว่าเป็น ?สมาชิก? ของศาล และได้รับเลือกตั้งจากสมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ผู้พิพากษาเหล่านี้จะมีอำนาจออกเสียงลงคะแนนอย่างอิสระเสรีหลักเกณฑ์การคัด เลือกผู้พิพากษาศาลโลกจะถือตามคุณสมบัติขอผู้พิพากษานั้น ๆ มิใช่ถือตามสัญชาติของบุคคลดังกล่าว อย่างไรก็ดี จะมีการระมัดระวังด้วยว่า กฎหมายที่นำมาใช้ในศาลจะต้องมาจากระบบกฎหมายที่สำคัญ ๆ ของโลก ในศาลโลกจะมีผู้พิพากษาที่เป็นชาติเดียวกันมากกว่าหนึ่งคนไม่ได้ ผู้พิพากษาทั้งหลายจะมีสิทธิ์ดำรงอยู่ในตำแหน่งได้ เป็นเวลา 9 ปี มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งซ้ำได้ และระหว่างที่ดำรงอยู่ในตำแหน่ง จะต้องไม่ประกอบอาชีพการงานอื่นใดทั้งสิ้น [การทูต]
legalisationนิติกรณ์ " กระบวนการรับรองความถูกต้อง คำแปลหรือลายมือชื่อผู้มีอำนาจ ลงนามในเอกสาร โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ สถานทูต สถานกงสุล หรือหน่วยงานตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ได้รับการยอมรับและสามารถนำไปใช้ได้ในทางการระหว่างประเทศ " [การทูต]
Legalisation (legalization)นิติกรณ์ กระบวนการรับรองความถูกต้อง คำแปลหรือลายมือชื่อผู้มีอำนาจลงนามในเอกสาร โดยเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศ สถานฑูต สถานกงสุล หรือหน่วยงานตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ได้รับการยอมรับและสามารถนำไปใช้ได้ในทางการระหว่างประเทศ [การทูต]
Mutual Recognition Arrangementความร่วมมือเพื่อการยอมรับร่วม [การทูต]
Neutralization, Neutrality หรือ Neutralismคำว่า Neutraliza-tion หมายถึง กระบวนการซึ่งรัฐได้รับการค้ำประกันความเป็นเอกราชและบูรณภาพอย่างถาวรภาย ใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ รัฐที่ได้รับการประกันรับรองให้เป็นกลาง (Neutralized State) เช่นนี้จะผูกมัดตนว่า จะละเว้นจาการใช้อาวุธโจมตีไม่ว่าประเทศใดทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าจะถูกโจมตีก่อน ตัวอย่างอันเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความ เป็นกลางอย่างถาวร คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามปฏิญญา (Declaration) ซึ่งมีการลงนามกัน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1815 ประเทศใหญ่ ๆ ในสมัยนั้น คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษ ปรัสเซีย และรัสเซีย ได้รับรองว่า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม จึงเป็นการจำเป็นที่จะให้รัฐเฮลเวติก(Helvetic Swiss States) ได้รับการประกันความเป็นกลางตลอดไป ทั้งยังประกาศด้วยว่า รัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์ตกลงรับปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้ระบุไว้เมื่อไร ความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์ก็จะได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางในทันที และแล้วสมาพันธ์สวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประกาศยอมรับปฏิบัติตาม หรือให้ภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1815 บรรดาประเทศที่รับรองค้ำประกันความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์จึงประกาศ รับรองดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1815 อนึ่ง การค้ำประกันความเป็นกลางในลักษณะที่ครอบคลุมทั้งประเทศของรัฐใดรัฐหนึ่ง นั้น มีความแตกต่างกับการค้ำประกันเพียงดินแดนส่วนใดส่วนหนึ่งของรัฐหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าดินแดนส่วนหนึ่งของรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางจะ ไม่ยอมให้ฝ่ายใดใช้ดินแดนส่วนที่ค้ำประกันนั้นเป็นเวทีสงครามเป็นอันขาด การค้ำประกันความเป็นกลางยังมีอีกแบบหนึ่งคือ รัฐหนึ่งจะประกาศตนแต่ฝ่ายเดียวว่าจะรักษาความเป็นกลางของตนตลอดไปโดยถาวร แต่ในกรณีเช่นนี้ ความเป็นเอกราชและบูรณภาพของรัฐที่ประกาศตนเป็นกลางเพียงฝ่ายเดียว จะไม่ได้รับการค้ำประกันร่วมกันจากรัฐอื่น ๆ แต่อย่างใดส่วนคติหรือลัทธิความเป็นกลาง (Neutralism) เป็นศัพท์ที่หมายถึงสถานภาพของรัฐต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการน้ำประเทศของตนเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสงครามเย็น ( Cold War) ที่กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ระหว่างกลุ่มประเทศภาคตะวันออกกับกลุ่มประเทศภาค ตะวันตก นอกจากนี้ ผู้นำบางคนในกลุ่มของรัฐที่เป็นกลาง ไม่เห็นด้วยกีบการที่ใช้คำว่า ?Neutralism? เขาเหล่านี้เห็นว่าควรจะใช้คำว่า ?ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด? ( Uncommitted ) มากกว่าจะเห็นได้ว่า คำว่า ?ความเป็นกลาง? ( Neutrality ) นั้น หมายถึงความเป็นกลางโดยถาวร ซึ่งได้รับการค้ำประกันจากกลุ่มประเทศกลุ่มหนึ่ง เช่นในกรณีประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้หรือหมายถึงความเป็นกลางเฉพาะในดินแดน ส่วนหนึ่งของรัฐที่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปทำสงครามกันในดินแดนที่เป็นกลางส่วน นั้นเป็นอันขาดก็ได้ ดังนั้น พอจะเห็นได้ว่า แก่นแท้ในความหมายของความเป็นกลาง ( Neutrality) จึงอยู่ที่ท่าที หรือ ทัศนคติของประเทศที่ดำรงตนเป็นกลาง ไม่ต้องการเข้าข้างประเทศคู่สงครามใด ๆ ในสงคราม ในสมัยก่อนผู้คนยังไม่รู้จักความคิดเรื่องความเป็นกลางดังที่รู้จักเข้าใจ กันในปัจจุบัน ความเป็นกลางเป็นผลมาจากการทยอยวางหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของความเป็นกลาง นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน [การทูต]
pariah stateรัฐที่ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมนานาชาติ อาทิ มีรัฐบาลที่ถูกนานาชาติคว่ำบาตร [การทูต]
persona non grataบุคคลทางการทูตที่รัฐผู้รับไม่ยอมรับ เช่น กรณีนักการทูตทำผิดกฎหมายหรือข้อบังคับทางศาสนาในประเทศที่พำนักอยู่ จนทางรัฐบาลของประเทศนั้นไม่อาจยอมรับได้และต้องให้เดินทางกลับออกนอกประเทศ นั้น อย่างไรก็ตาม นักการทูตอาจถูกรัฐบาลของรัฐผู้รับให้ออกนอกประเทศเป็น persona non grata ด้วยเหตุผลของการดำเนินการโต้ตอบทางการเมืองระหว่างรัฐผู้รับและรัฐผู้ส่งก็ เป็นได้ โดยที่นักการทูตผู้นั้นมิได้กระทำผิดกฎหมายของรัฐผู้รับหรือกระทำผิดทาง ศาสนาของรัฐผู้รับแต่อย่างใด [การทูต]
Persona non grataเป็นศัพท์ที่ใช้กับนักการทูตหรือผู้แทนทางการทูต ที่ประจำอยู่ในประเทศซึ่งรัฐบาลของประเทศนั้นไม่ปรารถนาให้อยู่ต่อไปอีกแล้ว หลังจากที่ได้ไปประจำทำงานในตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้น หรือก่อนหน้าที่นักการทูตผู้นั้นจะเดินทางไปถึงดินแดนของประเทศผู้รับ (Receiving State) นักการทูตที่ถูกประกาศเป็น persona non grata หรือ บุคคลที่ไม่พึงปรารถนานั้น เป็นเพราะสาเหตุดังต่อไปนี้ คือ กล่าวคำดูหมิ่นรัฐบาลของประเทศที่ตนไปประจำอยู่ ละเมิดกฎหมายของบ้านเมืองนั้น แทรกแซงในการเมืองภายในของเขา เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในประเทศของเขา ใช้ถ้อยคำก้าวร้าวต่อประเทศนั้น วิพากษ์ประมุขแห่งประเทศของเขากระทำการอันเป็นที่เสียหายต่อประโยชน์หรือต่อ ความมั่นคงของประเทศ และกระทำการอื่น ๆ ในทำนองนั้นตามปกติรัฐบาลของประเทศเจ้าภาพที่เป็นฝ่ายเสียหายจะขอร้องให้ รัฐบาลผู้ส่ง (Sending government) เรียกตัวนักการทูตผู้กระทำผิดกลับประเทศ ซึ่งตามปกติรัฐบาลผู้ส่งมักจะปฏิบัติตาม รัฐบาลของประเทศผู้เสียหายจะแจ้งให้นักการทูตผู้นั้นทราบว่า รัฐบาลจะไม่ทำการติดต่อเกี่ยวข้องเป็นทางการกับเขาอีกต่อไป หรืออาจจะบอกให้นักการทูตผู้นั้นออกไปจากประเทศโดยไม่เกรงใจแต่อย่างใดก็ได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในข้อ 9 ดังต่อไปนี้ ?1. รัฐผู้รับอาจบอกกล่าวแก่รัฐผู้ส่งในเวลาใดก็ได้ และโดยมิต้องชี้แจงถึงการวินิจฉัยของตนว่า หัวหน้าคณะผู้แทนหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ไม่พึงโปรด หรือว่าบุคคลอื่นใดในคณะเจ้าหน้าที่ของคณะผู้แทนเป็นที่ไม่พึงยอมรับได้ ในกรณีใดเช่นว่านี้ ให้รัฐผู้ส่งเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นกลับ หรือเลิกการหน้าที่ของผู้นั้นกับคณะผู้แทนเสียก็ได้ตามที่เหมาะสมบุคคลอาจจะ ถูกประกาศให้เป็นผู้ไม่พึงโปรด หรือไม่พึงยอกรับได้ก่อนที่จะมาถึงอาณาเขตของรัฐผู้รับก็ได้ 2. ถ้ารัฐผู้ส่งปฏิเสธ หรือไม่นำพาภายในระยะเวลาอันสมควร ที่จะปฏิบัติตามข้อผูกพันของคนภายใต้วรรค 1 ของข้อนี้ รัฐผู้รับสามารถปฏิเสธที่จะยอมรับนับถือบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นว่าเป็นบุคคล ในคณะผู้แทนก็ได้? [การทูต]
protocol1. พิธีการทูต 2. พิธีสาร " 1. พิธีการทูต หมายถึง หลักปฏิบัติ หรือมารยาททางการทูต (etiquette) ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันในนานาประเทศจนกลายเป็นรูปแบบที่ใช้กันในงานพิธีการ หรือรัฐพิธีต่าง ๆ รวมถึงเรื่องเอกสิทธิ์ ความคุ้มกัน ลำดับอาวุโส ฯลฯ ทั้งนี้ บุคคลซึ่งเป็นหัวหน้ารับผิดชอบด้านพิธีการทูต เรียกว่า Chief of Protocol สำหรับประเทศไทย คือ อธิบดีกรมพิธีการทูต ส่วนเจ้าหน้าที่พิธีการทูต เรียกว่า protocol official 2. พิธีสาร เป็นความตกลงระหว่างประเทศอย่างหนึ่ง โดยมากเป็นพิธีสารต่อท้ายสนธิสัญญาหรืออนุสัญญา หรือพิธีสารแก้ไขเพิ่มเติมสนธิสัญญาหรืออนุสัญญานั้น " [การทูต]
remain open to all states for signature and acceptanceเปิดให้รัฐทั้งปวงลงนามและให้การยอมรับ [การทูต]
Schengen Statesกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปบางประเทศที่ยอมรับกันให้ประชาชนของแต่ละประเทศ สามารถเดินทางไปมาถึงกันและเข้าเมืองได้โดยไม่มีการตรวจลงตราหรือมีการควบ คุมใดๆ ระหว่างกัน และสำหรับประชาชนจากประเทศที่สาม หากได้รับอนุญาตให้เดินทางไปประเทศหนึ่งประเทศใดในกลุ่มประเทศนี้แล้ว จะสามารถเดินทางต่อไปประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มนี้ได้โดยไม่มีการควบคุม สมาชิกประกอบด้วย เบลเยี่ยม เยอรมนี ฝรั่งเศส กรีซ อิตาลี ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ ออสเตรีย โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ และสเปน [การทูต]
Secretariat of the United Nationsคือสำนักเลขาธิการสหประชาชาติ ประกอบด้วยตัวเลขาธิการ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยสมัชชาตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตามที่องค์การต้องการหน้าที่สำคัญของเลขาธิการสหประชา ชาติ คือ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารขององค์การ นำเรื่องใดก็ตามเสนอต่อคณะมนตรีความมั่นคง ซี่งตามทรรศนะของเลขาธิการเห็นว่าเป็นภัยคุกคามสันติภาพและความมั่นคง ระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่ทำรายงานประจำปี และรายงานเพิ่มเติมใด ๆ ที่จำเป็นเสนอต่อสมัชชาสหประชาชาติ เกี่ยวกับงานขององค์การ สหประชาชาติคณะเจ้าหน้าที่ที่ทำงานช่วยเหลือเลขาธิการนั้น ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระหว่างประเทศ ประกอบด้วยชนชาติต่าง ๆ ในการเกณฑ์เจ้าหน้าที่เหล่านี้เข้าทำงานกับสหประชาชาติ จะคัดแต่ผู้ที่มีประสิทธิภาพ ความสามารถ และความซื่อสัตย์ในระดับสูงสุด และคำนึงถึงเขตภูมิศาสตร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในการทำงานตามหน้าที่ ทั้งตัวเลขาธิการและคณะเจ้าหน้าที่ผู้ร่วมงาน จะต้องไม่แสวงหรือรับคำสั่งจากรัฐบาลใด ๆ หรือจากผู้มีอำนาจหน้าที่อื่นใดที่อยู่นอกเหนือองค์การสหประชาชาติ ขณะเดียวกัน สมาชิกของสหประชาชาติได้ตกลงยอมรับนับถือความรับผิดชอบที่มีลักษณะระหว่าง ประเทศของสำนักเลขาธิการ และจักไม่แสวงใช้อิทธิพลใด ๆ ต่อสำนักเลขาธิการ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบเหล่านั้น [การทูต]
Size of Staff of Diplomatic Missionขนาดของคณะผู้แทนทางการทูต โดยพฤตินัย จำนวนคณะผู้แทนทางการทูตจะมีตั้งแต่แห่งละหนึ่งหรือสองคนขึ้นไป จนถึงแห่งละ 100 กว่าคนได้ แต่โดยส่วนเฉลี่ย คณะผู้แทนทางการทูต จะมีจำนวนระหว่าง 12 ถึง 24 คน สำหรับคณะผู้แทนทางการทูตที่ประจำอยู่ในนครหลวงของประเทศใหญ่ๆ เช่น ที่กรุงวอชิงตันดีซี กรุงลอนดอน กรุงปารีส กรุงมอสโก กรุงปักกิ่ง และกรุงโตเกียว เป็นต้น จะมีเจ้าหน้าที่ทูตมากกว่าปกติอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทาง การทูตได้บัญญัติอยู่ในมาตรา 11 ว่า ?1. เมื่อไม่มีความตกลงเฉพาะในเรื่องขนาดของคณะผู้แทน รัฐผู้รับอาจเรียกร้องให้ขนาดของคณะผู้แทนอยู่ในจำนวนจำกัดตามที่ตนเห็นว่า เหมาะหรือเป็นปกติได้ ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงพฤติการณ์หรือสภาวการณ์ในรัฐผู้รับ และความจำเป็นของคณะผู้แทนเฉพาะราย 2. ภายในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน และบนมูลฐานที่ไม่เลือกปฏิบัติ รัฐผู้รับอาจปฏิเสธได้เช่นเดียวกัน ที่จะยอมรับพนักงานเฉพาะรายประเภทหนึ่งประเภทใดก็ได้? [การทูต]
Work of the United Nations for the Independence of Colonial Peoplesงานขององค์การสหประชาชาติ ในการช่วยให้ชาติอาณานิคมทั้งหลายได้รับความเป็นเอกราช นับตั้งแต่เริ่มตั้งองค์การสหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ.1945 เป็นต้นมา มีชนชาติของดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเอง รวมทั้งดินแดนในภาวะทรัสตีตามส่วนต่าง ๆ ของโลก ได้รับความเป็นเอกราชไปแล้วไม่น้อยกว่า 170 ล้านคน ดินแดนที่แต่ก่อนยังไม่มีฐานะปกครองตนเองราว 50 แห่งได้กลายฐานะเป็นรัฐเอกราช มีอธิปไตยไปแล้ว ขณะนี้ยังเหลือดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเองอีกไม่มาก กำลังจะได้รับฐานะเป็นประเทศเอกราชต่อไปแม้ว่าปัจจัยสำคัญที่สุดซึ่งทำให้ เกิดวิวัฒนาการอันมีความสำคคัญทางประวัติศาสตร์ จะได้แก่ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของประชาชนในดินแดนเมืองขึ้นทั้งหลาย แต่องค์การสหประชาชาติก็ได้แสดงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนชนชาติ ที่ยังมิได้เป็นเอกราช และชาติที่ยังปกครองดินแดนเหล่านั้นอยู่ ให้รีบเร่งที่จะให้ชาชาติในดินแดนเหล่านั้นได้รับฐานะเป็นเอกราชโดยเร็วที่ สุดเท่าที่จะเป็นไปได้การที่องค์การสหประชาชาติมีบทบาทหน้าที่ดังกล่าวเพราะ ถือตามหลักแห่งความเชื่อศรัทธาที่ว่า มนุษย์ไม่ว่าชายหรือหญิง และชาติทั้งหลายไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกัน และได้ยืนยันความตั้งใจอันแน่วแน่ของประเทศสมาชิกที่จะใช้กลไกระหว่างประเทศ ส่งเสริมให้ชนชาติทั้งหลายในโลกได้ประสบความก้าวหน้าทั้งในทางเศรษฐกิจและ สังคมนอกจากนั้น เพื่อเร่งรัดให้ชนชาติที่ยังอยูใต้การปกครองแบบอาณานิคมได้ก้าวหน้าไปสู่ เอกราช สมัชชาของสหประชาชาติ (General Assembly of the United Nations) ก็ได้ออกปฏิญญา (Declaration) เกี่ยวกับการให้ความเป็นเอกราชแก่ประเทศและชนชาติอาณานิคม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 ซึ่งในปฏิญญานั้น ได้ประกาศยืนยันความจำเป็นที่จะให้ลัทธิอาณานิคมไม่ว่าในรูปใด สิ้นสุดลงโดยเร็วและปราศจากเงื่อนไขใด ๆ สมัชชายังได้ประกาศด้วยว่า การที่บังคับชนชาติอื่นให้ตกอยู่ใต้อำนาจการปกครอง แล้วเรียกร้องประโยชน์จากชนชาติเหล่านั้น ถือว่าเป็นการปฏิเสธไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชนขั้นมูลฐาน เป็นการขัดกับกฎบัตรของสหประชาชาติ เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือของโลกสมัชชาสหประชาชาติ ยังได้ประกาศต่อไปว่า จะต้องมีการดำเนินการโดยด่วนที่สุด โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อสงวนใด ๆ ตามเจตนารมณ์ ซึ่งแสดงออกอย่างเสรี โดยไม่จำกัดความแตกต่างในเรื่องเชื้อชาติ หลักความเชื่อถือ หรือผิว เพื่อให้ดินแดนทั้งหลายที่ยังไม่ได้มีการปกครองของตนเองเหล่านั้นได้รับความ เป็นเอกราชและอิสรภาพโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1961 สมัชชาสหประชาชาติก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อตรวจดูและให้มีการปฏิบัติให้เป็นตามคำปฏิญญาของสหประชาชาติ และถึงสิ้นปี ค.ศ. 1962 คณะกรรมการดังกล่าวได้ประชุมกันหลายต่อหลายครั้งทั้งในและนอกสำนักงานใหญ่ ขององค์การสหประชาชาติ แล้วรวบรวมเรื่องราวหลักฐานจากบรรดาตัวแทนของพรรคการเมืองทั้งหลาย จากดินแดนที่ยังไม่ได้รับการปกครองตนเอง แล้วคณะกรรมการได้ตั้งข้อเสนอแนะต่าง ๆ โดยมุ่งจะเร่งรัดให้การปกครองอาณานิคมสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ [การทูต]
Work of the United Nations on Human Rightsงานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต]
Generally Accepted Accounting Principlesหลักการบัญชีที่ยอมรับทั่วไป [การบัญชี]
Acceptการยอมรับ, ยอมรับ, ได้รับ [การแพทย์]
Acceptabilityการยอมรับ, การยอมรับบริการจากประชาชน [การแพทย์]
Acceptanceยอมรับความจริง, การยอมรับ [การแพทย์]
Acceptance of a Valueการยอมรับค่านิยม [การแพทย์]
Acceptance, Region ofขอบเขตยอมรับสมมติฐาน [การแพทย์]
Acceptedเป็นที่ยอมรับ [การแพทย์]
Acceptingยอมรับ, การยอมรับ [การแพทย์]
Actualizationความต้องการการยอมรับจากผู้อื่น [การแพทย์]
Adoptionบุตรบุญธรรม, การรับ; การยอมรับ; การรับบุตรบุญธรรม [การแพทย์]
Adoption Stageระยะยอมรับเป็นนิสัย [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
I do.ยอมรับ The Story of Us (1999)
Вut you gotta admit it's good and сlean funแต่คุณต้องยอมรับว่ามันก็สนุก ดีและสะอาด Snow White and the Seven Dwarfs (1937)
She knew that I'd sacrifice everything rather than stand up in a divorce court and give her away, admit that our marriage was a rotten fraud.หล่อนรู้ดีว่าผมยอมเสียสละทุกอย่าง ดีกว่าที่จะยื่นฟ้องหย่าในศาล ปล่อยหล่อนไป เเละยอมรับว่า การแต่งงานของเราเป็นเรื่องหลอกลวง Rebecca (1940)
What about the knife this fine, upright boy admitted buying the night of the killing?สิ่งที่เกี่ยวกับดดีเด็กตรงนี้ยอมรับการซื้อคืนของการฆ่าหรือไม่ 12 Angry Men (1957)
Aren't you asking us to accept an incredible coincidence?คุณไม่ขอให้เรายอมรับเรื่องบังเอิญอย่างไม่น่าเชื่อ? 12 Angry Men (1957)
But perhaps he made himself believe he heard those words and recognised the boy's face.แต่บางทีเขาอาจจะทำให้ตัวเองเชื่อว่าเขาได้ยินคำพูดเหล่านั้น และได้รับการยอมรับใบหน้าของเด็ก 12 Angry Men (1957)
The judge won't accept a hung jury. We haven't been here long.ผู้พิพากษาจะไม่ยอมรับแขวนลูกขุน เรายังไม่ได้อยู่ที่นี่มานาน 12 Angry Men (1957)
The old man was suffering... ... although he did not admit to suffering at all.ชายชรากำลังทุกข์ทรมานแม้ว่า เขาไม่ได้ยอมรับกับความทุกข์ ทรมานที่ทุกคน The Old Man and the Sea (1958)
Of all these crimes the accused has made a full spontaneous confession.ความผิดทั้งหลายนี้ จำเลยยอมรับสารภาพหมดแต่โดยดี The Good, the Bad and the Ugly (1966)
The strange thing is, I agree, there was a good reason for fighting the war.สิ่งที่แปลกก็คือว่าจริงๆ สิ่งที่แปลกก็คือว่าฉันยอมรับว่า มี เป็นเหตุผลที่ดีสำหรับการต่อสู้ สงคราม How I Won the War (1967)
But until that day accept this justice as a gift on my daughter's wedding day.แต่จนถึงวันที่ ยอมรับความยุติธรรมนี้เป็นของขวัญในวันแต่งงานของลูกสาวของฉัน The Godfather (1972)
They're just not going to accept you.พวกเขาไม่มีวันยอมรับนาย Blazing Saddles (1974)
Like I told you, once you establish yourself, they've got to accept you.เหมือนที่บอก เมื่อคนเมืองนี้คุ้นฉันแล้ว พวกเขาจะยอมรับฉัน Blazing Saddles (1974)
Let's face it.ยอมรับเหอะ. Blazing Saddles (1974)
Vhy don't you admit it? He's too much of man for you. I know.ยอมรับเถอะ เขาเป็นชายสมชายกว่าแก Blazing Saddles (1974)
You wealthy college boys don't have the education enough to admit if you're wrong.เด็กจบมหาลัยเเพงๆ ไม่รู้จักยอมรับ เวลาเวลาเอาผิด Jaws (1975)
Ambiguously accepting social standards while transgressing themsocial standards ที่ยอมรับคลุมเครือ ขณะที่ที่ละเมิดที่มัน Salò, or the 120 Days of Sodom (1975)
He owns a house near Milan, which he uses exclusively for his pleasureเขายอมรับบ้านใกล้Milan, สิ่งที่ ใช้อย่างแต่เพียงผู้เดียวสำหรับความยินดีของเขา . Salò, or the 120 Days of Sodom (1975)
Empathy, I'm talking to you in a way you can accept.ต้องเป็นอย่างนี้ ผมคุยกับคุณอย่างที่คุณต้องยอมรับ Oh, God! (1977)
Face it, you goofed again, just like the avocado pit.ยอมรับสิ ท่านทำผิดพลาดอีกแล้ว เหมือนเรื่องเมล็ดอาโวคาโด Oh, God! (1977)
I can't seem to accept the concept of you actually having a real, honest-to-God conversation with God.ฉันไม่สามารถยอมรับความคิดของคุณ ที่ว่าคุณได้สนทนากับพระเจ้าจริง ๆ ได้ Oh, God! (1977)
I don't think that Mr. Wilson is going to take too kindly to the idea that one of his employees is claiming to have had a personal audience with the Almighty himself.ผมไม่คิดว่าคุณวิลสันเขาจะยินดี ยอมรับความคิดที่ว่า พนง.ของเขา 1 คน บอกว่าได้คุยกับท่านเป็นการส่วนตัว Oh, God! (1977)
And all over the world, it's a recognised fact.และทั่วโลก, เป็นความจริงที่ต้องยอมรับ. Suspiria (1977)
Max, you'd be the first to admit it was long overdue.แม็กซ์ ที่คุณต้องการเป็นคน แรกที่จะยอมรับมันเป็นเวลานาน ค้างชำระ. Mad Max (1979)
You gotta admit, I sounded good there for a minute?คุณต้องยอมรับฉันเป่าดีมี สำหรับนาที? Mad Max (1979)
What's hurt you the most is your record since the war - different cities, different jobs - and not one of them shows you can accept any real responsibility.สิ่งที่ทำร้ายคุณมากที่สุด คือประวัติของคุณตั้งแต่สงคราม เมืองต่างๆ งานต่างๆ ไม่มีเลยที่แสดงให้เห็นว่าคุณ ยอมรับความรับผิดชอบที่แท้จริงได้ Airplane! (1980)
Let's face a few facts. I flew with Striker during the war.ยอมรับความจริงกันเถอะ ผมบินกับสไตรค์เกอร์ในช่วงสงคราม Airplane! (1980)
You don't seem to want to accept the fact that you're dealing with an expert in guerilla warfare.คุณจะไม่ยอมรับความจริงที่ว่า คุณ การจัดการกับความเชี่ยวชาญในการรบแบบกองโจร First Blood (1982)
I suspect he meant you must show courage be willing to take a blow, several blows, to show you won't strike back, nor will you be turned aside.ท่านคงหมายถึงความกล้า เต็มใจที่จะยอมรับการทำร้าย เพื่อให้เห็นว่า เราจะไม่โต้ตอบหรือหลบหลีก Gandhi (1982)
You will respect the law?คุณจะยอมรับกฎหมายมั้ย Gandhi (1982)
How do we treat men who defy an unjust law who will not fight but will not comply?เราจะปฏิบัติต่อชายที่ฝ่าฝืน กฎหมายอยุติธรรม โดยไม่ต่อสู้ แต่ไม่ยอมรับอย่างไร Gandhi (1982)
We must never submit to such laws ever.ผมเห็นด้วยกับคุณจินนาห์ เราจะยอมรับกฎหมายใหม่ ไม่ได้ Gandhi (1982)
If we bear their blows, they are the vandals.ถ้าเรายอมรับการทำร้าย พวกเขาจะกลายเป็นคนป่าเถื่อน Gandhi (1982)
Forgive me, gentlemen, but you must understand that His Majesty's government and the British people repudiate both the massacre and the philosophy that prompted it.ขอโทษด้วย แต่พวกคุณต้องเข้าใจว่า รัฐบาลและคนอังกฤษไม่ยอมรับ การสังหารหมู่ และแนวคิดในการทำเช่นนั้น Gandhi (1982)
Mr. Kinnoch I beg you to accept that there is no people who would not prefer their own bad government to the good government of an alien power.คุณคินน็อค โปรดยอมรับเถอะว่าประชาชน อยากได้รัฐบาลที่เลวของตัวเอง Gandhi (1982)
I agree that we need more information, so that we may solve the anomalies.ฉันยอมรับว่าเราต้องการข้อมูล เพิ่มเติม เพื่อที่เราจะแก้ปัญหาความ ผิดปกติ 2010: The Year We Make Contact (1984)
Well, tell whoever it is that I can't accept that identification without proof.ก็บอกใครก็ตามที่มันคือการที่ ฉันไม่สามารถยอมรับว่า บัตรประจำตัวโดยไม่ต้อง พิสูจน์ 2010: The Year We Make Contact (1984)
Accept priority override Alpha.ยอมรับความสำคัญแทนที่ อัลฟา 2010: The Year We Make Contact (1984)
D'Arnot. Deserves recognition.ดึอาโนท สมควรได้รับการยอมรับ Greystoke: The Legend of Tarzan, Lord of the Apes (1984)
And you're just too proud to admit that you're crazy about me, Dr.Jones.และคุณเพียงแค่ความภาคภูมิใจเกินไปที่จะยอมรับ ว่าคุณกำลังบ้าเกี่ยวกับฉัน Dr.Jones Indiana Jones and the Temple of Doom (1984)
I'm afraid you gave yourself away.มันนำไปสู่การพิสูจน์ทางบวก ผมคิดว่าคุณทำตัวคุณยอมรับสารภาพเองมากกว่า Clue (1985)
Tape recordings aren't admissible evidence.การบันทึกเทปเป็นหลักฐานที่ยอมรับไม่ได้ Clue (1985)
I've admitted nothing.ฉันไม่ได้ยอมรับอะไรซักหน่อย Clue (1985)
Hey, come on. There's only one admitted killer here.ไม่เอาน่า มีเพียงคนเดียว ที่ยอมรับเรื่องการฆ่ากัน Clue (1985)
Let's get on with it.ยอมรับมันซะเถอะ Clue (1985)
We've already established that you were one of Miss Scarlet's clients.เรายอมรับความจริงกันได้แล้ว ว่าคุณเป็นหนึ่งใน ลูกค้าของคุณสการ์เล็ต Clue (1985)
I mean I admit that I'd guessed that this young singer informed on me to Mr. Boddy.ผมหมายถึง ผมฉันยอมรับนะ ว่าแม่สาวนักร้องคนนี้ เอาเรื่องไปบอกคุณบ๊อดดี้ Clue (1985)
I can't make any exceptions, Doctor. It's the law of this village.ฉันไม่ยอมรับคำค้านนั้น คุณหมอ นี่เป็นกฏของหมู่บ้าน Vampire Hunter D (1985)
I, Ramica, will never accept it!รามิก้าไม่ยอมรับ! Vampire Hunter D (1985)
Three days ago I wasn't on my knees, sifting through garbage(ฮันคยองไม่ยอมรับว่าตัวเองผิด) Full House (1987)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
การยอมรับ[kān yømrap] (n) EN: acceptance ; acknowledgement ; admission  FR: acceptation [ f ] ; admission [ f ]
การยอมรับโดยปริยาย[kān yømrap dōi pariyāi] (n, exp) EN: tacit approval
การยอมรับเป็นสมาชิก[kān yømrap pen samāchik] (n, exp) EN: admission  FR: admission [ f ]
การยอมรับสภาพ[kān yømrap saphāp] (n, exp) EN: resignation
ข้อเท็จจริงอันเป็นที่ยอมรับ[khøthetjing an pen thī yømrap] (n, exp) EN: accepted fact
ไม่ยอมรับ[mai yømrap] (v, exp) EN: refuse to admit ; refuse to acknowledge ; refuse ; reject ; disapprove  FR: refuser d'admettre ; refuser de reconnaître ; refuser d'accepter
ไม่ยอมรับความจริง[mai yømrap khwāmjing] (v, exp) FR: refuser la vérité
เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่า...[pen thī yømrap kan thūapai wā ...] (xp) EN: it is generally accepted that ...
ยอมรับ[yømrap] (v) EN: accept ; agree ; admit ; acknowledge ; recognize ; admit the existence of ; concur ; acquiesce  FR: accepter ; admettre ; acquiescer ; consentir ; avouer
ยอมรับได้[yømrap dāi] (adj) EN: acceptable  FR: acceptable
ยอมรับโดยไม่มีข้อแม้[yømrap dōi mai mī khømaē] (v, exp) EN: accept unconditionally  FR: accepter sans condition
ยอมรับคำขออภัย[yømrap kham khø aphai] (v, exp) EN: accept an apology  FR: accepter les excuses
ยอมรับความผิด[yømrap khwāmphit] (v, exp) EN: face up  FR: admettre ; accepter
ยอมรับไม่ได้[yømrap mai dāi] (adj) EN: unacceptable  FR: inacceptable
ยอมรับผิด[yømrap phit] (v, exp) EN: admit one's guilt ; admit one's mistake ; admit one's fault ; acknowledge one's mistake ; confess  FR: reconnaître ses torts
ยอมรับสารภาพ[yømrap sāraphāp] (v, exp) EN: confess

English-Thai: Longdo Dictionary
conventional wisdom(noun, phrase) ความคิดเห็นหรือคำอธิบายที่ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญทำให้เกิดความยอมรับจากสาธารณชน ซึ่ง conventional wisdom อาจถูกหรือผิดก็ได้

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
accede(vi) เห็นด้วย, See also: ยินยอม, ยอมรับ, Syn. agree, consent
accept(vt) เชื่อ, See also: ยอมรับว่าจริง, Syn. believe, trust, affirm
accept(vt) ต้อนรับ, See also: ยอมรับเข้ากลุ่ม
accept(vt) ยอมรับการตำหนิ, See also: รับผิดชอบ
accept(vt) รับ, See also: ยอมรับ, รับเอามา, Syn. take, acquire, admit, Ant. refuse, refect
accept(vt) เห็นด้วย, See also: เห็นด้วยกับ, ยอมรับ, ยินยอม
acceptable(adj) ที่ยอมรับได้, See also: สามารถรับได้, ยอมรับได้, Syn. agreeable
acceptable(adj) ี่น่าพอใจ, See also: น่ายินดี, ซึ่งเป็นที่ยอมรับ, Syn. satisfactory
acceptably(adv) ยอมรับได้, Syn. adequately
acceptance(n) การตอบรับ (เช่น ตอบรับเข้าทำงาน), See also: การยอมรับ
acceptance(n) การยอมรับเข้ากลุ่ม
acceptation(n) ความหมาย (ของคำหรือวลี) ที่เป็นที่ยอมรับทั่วกัน
accepted(adj) ซึ่งเป็นที่ยอมรับ, Syn. conventional, approved, Ant. refused, denied, nullified
acceptor(n) ผู้ที่ยอมรับใบเสร็จ (เพื่อจ่ายเมื่อถึงกำหนด)
accord(n) การตกลงร่วมกัน, See also: การยอมรับร่วมกัน, Syn. harmony
accordance(n) การยอมรับร่วมกัน, See also: การเห็นพ้องต้องกัน, Syn. agreement, conformity, harmony
according(adj) ที่ยอมรับร่วมกัน, See also: ที่เห็นด้วย, ที่เห็นพ้องต้องกัน, Syn. agreeing
accredit(vt) ให้การยอมรับนับถือ, See also: ให้เกียรติว่า
acknowledge(vi) ยอมรับ, Syn. accept, recognize
acknowledge(vt) ยอมรับ
acknowledged(adj) เป็นที่ยอมรับ, Syn. accepted, approved
acknowledgement(n) การยอมรับ, Syn. acknowledgment
acknowledgment(n) การยอมรับ, Syn. acknowledgement
acquiesce(vi) ยอมทำตาม, See also: ยอมรับ, เห็นด้วยอย่างเงียบๆ, Syn. consent, comply, submit
acquiescence(n) การยอมตาม, See also: การยอมรับ, ความเห็นพ้อง, Syn. submission, resignation
admissible(adj) ซึ่งยอมรับได้, Syn. acceptable, allowable
admission(n) การประกาศยอมรับ, See also: การยอมรับ
admission(n) คำสารภาพ, See also: คำยอมรับ
admit(vi) ยอมรับ, See also: รับ, ยอมรับความจริง, Syn. receive
admit(vt) ยอมรับ, See also: รับ, ยอมรับความจริง
admit(vt) สารภาพ, See also: รับสารภาพ, ยอมรับผิด
admit(vi) สารภาพ, See also: รับสารภาพ, ยอมรับผิด
admitted(adj) ที่ยอมรับ
admittedly(adv) เป็นที่ยอมรับกัน
adopt(vt) ลงมติยอมรับ, Syn. affirm
agree(vi) ตกลง, See also: ยอมรับ, ยินยอม
agree(vi) ยอมรับ, See also: ยอมรับความจริง
agreement(n) การเห็นพ้อง, See also: การเห็นด้วย, การเห็นชอบร่วมกัน, การยอมรับร่วมกัน, Syn. complying, accession, agreeing, Ant. disagreeing, disrupting
allow(vt) ยอมรับ, See also: รับ
assent(n) การตกลง, See also: การยินยอม, การยอมรับ, Syn. concent, agreement
assent(vi) เห็นด้วย, See also: ยอมรับ, ยินยอม, Syn. agree, concur
assume(vt) ยอมรับ, See also: รับผิดชอบ
axiom(n) กฎเกณฑ์ที่ยอมรับกันทั่วไป, See also: หลักการที่เป็นที่ยอมรับ, Syn. maxim, saying, adage
able to take something(idm) สามารถอดทนได้, See also: ยอมรับได้
accede to(phrv) ยอมทำตาม, See also: ยอมรับ, ยินยอมรับ, Syn. succeed to
accept as(phrv) ยอมรับว่า, See also: ยอมรับ, Syn. acknowledge as
acknowledge as(phrv) ยอมรับว่าเป็น, See also: ยอมรับ, Syn. accept as
admit to(phrv) สารภาพผิดกับ, See also: ยอมรับว่า ทำผิด, คิดผิด, มีความผิด, สารภาพผิด, Syn. confess to
adopt as(phrv) ยอมรับเป็นบุตรบุญธรรม, See also: ยอมรับเป็นลูก, ยอมรับ
agree to(phrv) อนุมัติ, See also: ยอมรับ, Syn. accede to, acquiesce in, assent to consent to, dissent from

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
accept(แอคเซพทฺ') vt., vi. รับ, ยอมรับ, ตกลง, สนอง, เห็นด้วย. -accepter n., Syn. agree
acceptable(แอคเซพ' ทะเบิล) adj. ซึ่งยอมรับได้, เห็นด้วย, ถูกใจ, ต้อนรับได้ -acceptability n., Syn. admissible
acceptance(แอคเซพ' เทินซฺ) n. การยอมรับ, การรับ, การตรวจรับ, การตกลงด้วย (approval)
acceptancy(แอคเซพ' เทินซี) n. (pl. -cies) การยอมรับ, การเต็มใจรับ, Syn. acceptance
acceptant(แอคเซพ' เทินทฺ) adj. เต็มใจรับ, ซึ่งยอมรับ, Syn. receptive
acceptation(แอคเซพเท' เชิน) n. การเห็นด้วย, ความเชื่อ, ความหมายที่ยอมรับกันของศัพท์หรือวลีหรืออื่น, Syn. approval, belief
accepted(แอคเซพ' ทิด) adj. ซึ่งยอมรับกันโดยทั่วไป
acknowledge(แอคนอล' เลจฺ) vt. ยอมรับ (เป็นความจริง) , รับรอง, แจ้งว่าได้รับ, เห็นคุณค่า. -acknowledgeable adj., -acknowledgment, -acknowledgement n.
acquiesce(แอค' ควิเอส) vi. ยอมรับในใจ, ยินยอม, นิ่งเฉย. -acquiescence n.,
admission(แอคมิช' เชิน) n. การรับเข้า, การยอมรับรอง, การรับสารภาพ, สิทธหรือวิธีการเข้าไป, ราคาสำหรับเข้าไป, การยอมรับข้อกล่าวหาหรือความจริง, Syn. allowance, admittance
admissive(แอดมิส' ซิฟว) adj. ยินยอมรับ
admit(แอสดมิท') vt., vi. ให้เข้า, รับเข้า, ให้สิทธิเข้าได้, ยอมให้, ยอมรับรอง, ยอมรับ, รับสารภาพ, รับ, รับรอง. -admittable, admittible adj., Syn. let in, concede
admittedly(แอดมิท' ทิดลี) adv. เป็นที่ยอมรับกัน, Syn. by acknowledgment
aestheticism(เอสเธท' ทิซิสซึม) การยอมรับความงามเป็นเอก., Syn. estheticism
agree(อะกรี') vt., vi. ตกลง, เห็นพ้อง, ยอมรับ, เห็นด้วย, ยินยอม, สนับสนุน, ตกลงกำหนด, เข้ากันได้, ลงรอย, เหมือน, เหมาะ สมกับ. -agreeingly adv., Syn. concur, comply, assent
allowance(อะเลา' เอินซฺ) n. การยินยอม, การอนุญาตให้, สิ่งที่ได้รับส่วนแบ่ง, เงินส่วนแบ่ง, เงินช่วยเหลือ, เงินค่าใช้จ่าย, ส่วนเสริม, การอดทน, การยอมรับ, การพิจารณา, การให้อภัย. vt. เพื่อให้, จัดให้, จัดสรร, Syn. share, allotment
apocrypha(อะพอค'ระฟะ) n. กลุ่ม 14 บทหนังสือของพระคัมภีร์เก่า Old Testment ของคริสเตียน, บทหนังสือศาสนาที่หาแปล่งมาไม่แน่ชัดและไม่เป็นที่ยอมรับกันมาก (shorten)
assent(อะเซนทฺ') vi. ตกลง, ยินยอม, ยอมรับ. -n. การตกลง, การยินยอม. -assentation n. -assentive adj., Syn. concur, agree, allow, Ant. dissent, disagree, denial
attorn(อะเทอร์น') vi. ยอมรับเจ้าของที่ดินคนใหม่. -vt. ย้าย. -attornment n.
avouch(อะเวาชฺ') vt. รับประกัน, รับรอง, รับผิดชอบ, ยอมรับ, สารภาพ. -avoucher n.
avow(อะเวา') vt. ประกาศ, รับรอง, ยอมรับ, รับสารภาพ, ปฏิญาณ, สบถสาบาน. -avower n., Syn. testify, avouch, Ant. deny, hide
avowal(อะเวา'เอิล) n. การรับรองอย่างเปิดเผยการประกาศ, การยอมรับ (acknowledgment)
avowed(อะเวาดฺ') adj. ยอมรับ, ปฏิญาณ, สบถสาบาน. -avowedness n., Syn. admitted, confessed, Ant. secret, private
axiom(แอค' เซียม) n. ความจริงที่ไม่ต้องพิสูจน์, ความจริงในตัวของมันเอง, กฎหรือหลักการที่ยอมรับกันทั่วไป (self-evident truth, maxim)
axiomatic(แอคซิโอแมท' ทิค) adj. เกี่ยวกับ axiom, แน่ชัดในตัวของมันเอง, เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป., Syn. axiomatical adj.
bowing(เบา'อิง) n. การคำนับ, การคารวะ, การยอมรับ
canonic(คะนอน'นิค, -เคิล) adj. เกี่ยวกับวินัยศาสนา, เป็นที่ยอมรับ, แท้จริง, เกี่ยวกับแบบที่ง่ายที่สุดหรือได้มาตรฐาน, See also: cannonicals n. เสื้อคลุมพิธีศาสนา, canonicity n. ดู canonic
canonical(คะนอน'นิค, -เคิล) adj. เกี่ยวกับวินัยศาสนา, เป็นที่ยอมรับ, แท้จริง, เกี่ยวกับแบบที่ง่ายที่สุดหรือได้มาตรฐาน, See also: cannonicals n. เสื้อคลุมพิธีศาสนา, canonicity n. ดู canonic
cognizancen. การรับรู้, การยอมรับ, การสังเกต, คำสั่งศาล, อำนาจการพิจารณาคดี, อำนาจศาล, วงความรู้, ขอบข่ายของการสังเกต, Syn. cognisance
cognovitn. การยอมรับของจำเลย, หนังสือยอมรับของจำเลย
compatibilityความเข้ากันได้ความใช้แทนกันได้การเทียบเคียงกันได้หมายถึง ความสามารถในการทำงานของอุปกรณ์หรือโปรแกรมที่สามารถเทียบแทนกันได้กับอุปกรณ์หรือโปรแกรมที่มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับอยู่แล้ว เช่น ถ้าใช้ว่า "IBM Compat" ก็แปลความได้ว่าคอมพิวเตอร์นั้นไม่ใช่ยี่ห้อไอบีเอ็ม แต่ผลิตขึ้นมาด้วยมาตรฐานเดียวกับเครื่องคอมพิวเตอร์ของไอบีเอ็ม และสามารถนำมาใช้แทนเครื่องไอบีเอ็มได้ (หมายถึง ใช้โปรแกรมหรือคำสั่งต่าง ๆ ของไอบีเอ็มได้นั่นเอง)
compromise(คอม'พระไมซ) n. การประนีประนอม, การยอมรับ, การตกลงกันได้, สิ่งที่เป็นครึ่ง ๆ กลาง ๆ vt. ประนีประนอม, ยอม, เป็นอันตราย, เป็นภัยต่อ, พัวพัน. vi. ประนีประนอม, อ่อนข้อให้อย่างเสียเกียรติ, See also: compromiser n. ดูcompromise, Syn. arra
concede(คันซีด') { conceded, conceding, concedes } vt. ยอมรับ, ยินยอม, ยอมให้, ยอมตาย. vi. ยอมอ่อนข้อให้, ยอม, See also: conceder n. ดูconcede, Syn. yield, assent, Ant. deny
condescend(คอนดิเซนดฺ') { condescended, condescending, condescends } vt. ยอมรับ, ถ่อมตัวลง, ล้มลงมา, ก้มหัวให้., See also: condescendent adj. ดูcondescend condescender n. ดูcondescend, Syn. patronize, deign
condescending(คอนดิเซน'ดิง) adj. ซึ่งยอมรับ (ความสามารถ คุณสมบัติหรืออื่น ๆ ของคนอื่น) เท่าเทียม
condescension(คอนดิเซน'เชิน) n. การยอมรับ, การถ่อมตัวลงมา, การก้มหัวลง, ท่าทีที่กรุณา, ท่าทีที่เอื้อเฟื้อ., See also: condescensive adj. ดูcondescension, Syn. condescendence
confess(คันเฟส') { confessed, confessing, confesses } vi., vt. สารภาพ, สารภาพความผิด, ยอมรับผิด., See also: confessable adj. ดูconfess confessingly adv. ดูconfess, Syn. disclose, concede, admit, Ant. deny, conceal, cover
confession(คันเฟส'เชิน) n . การสารภาพ, การยอมรับ, การสารภาพความผิด, สิ่งที่ได้สารภาพ, การประกาศความเลื่อมใสและยอมรับการปฎิบัติตามความเชื่อทางศาสนา, สุสานนักบุญ, Syn. admission, confirmation
cop-out(คอพ'เอาท) n. การไม่ยอมรับผิดชอบ, การไม่ยอมปฏิบัติตามคำมั่นหรือสัญญา, ผู้ที่ชองละทิ้ง
current(เคอ'เรินทฺ) n., adj. แพร่หลาย, เป็นที่ยอมรับโดยทั่วไป, ปัจจุบัน, ซึ่งหมุนเวียนอยู่, ทั่ว ๆ ไป n. กระแสน้ำ, กระแสลม, กระแสไฟฟ้า, ความเร็วของกระแส
denial(ดิไน'เอิล) n. การปฏิเสธ, การบอกปัด, การไม่ยอมรับ, การบังคับใจตัวเอง, การไม่ยอมตามใจตัวเอง
denier(ดิไน'เออะ) n. ผู้ปฏิเสธ, ผู้ไม่ยอมรับ
deny(ดิไน') { denied, denying, denies } vt. ปฎิเสธ, ไม่ยอมรับ, ไม่ตกลง, บังคับใจตัวเอง, Syn. dispute, Ant. affirm
disallow(ดิสอะเลา') vt. ไม่ยอม, ไม่ยอมให้มี, ไม่ยอมรับความจริง, ปฏิเสธ, ไม่อนุญาต, See also: disallowable adj. disallowance n.
disavow(ดิสอะเวา') vt. บอกปัด, ไม่ยอมรับ, ปฏิเสธ (การรับภาระ) ., See also: disavowal n. ดูdisavow
disclaim(ดิสเคลม') vt., vi. ไม่ยอมรับ, สละสิทธิ, ละทิ้ง, ปฏิเสธความเป็นเจ้าของ, ออกตัว
disclaimer(ดิสเคล'เมอะ) n. ผู้สละสิทธิ์, ผู้ไม้ยอมรับ, การไม่ยอมรับ, การสละสิทธิ์, คำพูด ข้อเขียนหรือเอกสารสละสิทธิ์
disclamation(ดิสคละเม'เชิน) n. การสละสิทธิ์, การปฏิเสธความเป็นเจ้าของ, การไม่ยอมรับ
dishonor(ดิสออน'เนอะ) n. ความเสื่อมเกียรติ, ความอัปยศอดสู, ความดูถูก, การไม่ยอมรับตั๋วเงิน, การไม่ยอมจ่ายเงินสำหรับตั๋วเงิน, Syn. disgrace
dishonour(ดิสออน'เนอะ) n. ความเสื่อมเกียรติ, ความอัปยศอดสู, ความดูถูก, การไม่ยอมรับตั๋วเงิน, การไม่ยอมจ่ายเงินสำหรับตั๋วเงิน, Syn. disgrace

English-Thai: Nontri Dictionary
accept(vt) ยอมรับ, รับ
acceptable(adj) ยอมรับได้, รับได้, เป็นที่พอใจ
acceptance(n) การยอมรับ, การรับ, การเห็นด้วย
acceptation(n) ความหมายทั่วไป, การยอมรับ, การเห็นชอบ
acceptor(n) ผู้ยอมรับ
accession(n) การยอมรับ, การเข้าถึง, การครอบครอง
acknowledge(vt) รับรอง, ยอมรับ, รับว่า
acknowledgement(n) การรับรอง, การยอมรับ, การรับ
acquiesce(vi) ยินยอม, ยอมรับ, สงบปากสงบคำ, นิ่งเฉย
acquiescence(n) การยินยอม, การยอมรับ, การสงบปากสงบคำ, การนิ่งเฉย
admission(n) การอนุญาตให้เข้า, ค่าผ่านประตู, การยอมรับ, การรับเข้า
admit(vi, vt) อนุญาตให้เข้า, ยอมรับ, รับ
admittedly(adv) เป็นที่ยอมรับ
amenable(adj) รับผิดชอบ, ยอมรับฟัง, ถือสาหาความได้
assent(n) การยินยอม, การเห็นพ้องต้องกัน, การยอมรับ, การตกลง
assent(vi) เห็นด้วย, ตกลง, ยอมรับ, ยินยอม
avouch(vt) รับผิดชอบ, ยอมรับ, รับรอง, รับประกัน
avowal(n) การยอมรับ, การสารภาพ, การรับรอง, การปฏิญาณ
avowedly(adj) อย่างเปิดเผย, อย่างยอมรับ
cognizance(n) การยอมรับ, การสังเกต, อำนาจการพิจารณาคดี
concede(vt) ยอมรับ, ยกให้, ยอมให้, ยอมตาม, ยินยอม
concession(n) การยอมให้, การยินยอม, การยอมรับ, การให้เช่าที่, สัมปทาน
condescend(vi) ถ่อมตัว, ยอมรับ, ก้มลงมา, ก้มหัวให้
condescension(n) การถ่อมตัว, การยอมรับ, การก้มลงมา
confess(vi) สารภาพ, ยอมรับ, รับ
confession(n) การสารภาพ, การยอมรับ
denial(n) การปฏิเสธ, การไม่ยอมรับ, การบอกปัด
deny(vt) ปฏิเสธ, บอกปัด, ไม่ปฏิบัติตาม, ไม่ตกลง, ไม่ยอมรับ
disavow(vt) ไม่ยอมรับ, ปฏิเสธ, บอกปัด
disbelief(n) ความไม่เชื่อ, การไม่ยอมรับ
disbelieve(vt) ไม่เชื่อ, ไม่ยอมรับ
disclaim(vt) ไม่ยอมรับ, ออกตัว, ละทิ้ง, สละสิทธิ์
disown(vt) ไม่ยอมรับ, ปฏิเสธ, บอกปัด, บอกเลิก, บอกศาลา
grant(vi, vt) ยอมรับ, อนุญาต, ยินยอม, ยอมให้, ตกลงตาม, มอบให้
impenetrable(adj) ผ่านเข้าไปไม่ได้, เข้าใจยาก, ไม่ยอมรับ
impenitent(adj) ไม่รู้สึกผิด, ดื้อดึง, ดื้อรั้น, ไม่ยอมรับ
own(vi) รับสารภาพ, ยอมรับ
passable(adj) ผ่านไปได้, พอควร, ดีปานกลาง, ยอมรับได้
profess(vi) ยอมรับ, จ้าง, แสร้งทำ, ปฏิญาณตัว
profess(vt) แสดงตัว, ประกาศ, ประกอบอาชีพ, นับถือ, ยอมรับ
profession(n) อาชีพ, วิชาชีพ, การปฏิญาณตัว, การแสดงตัว, การยอมรับ
receive(vt) ต้อนรับ, ได้รับ, ยอมรับ, ประสบ, รับฟัง
recognize(vt) จำได้, สำนึก, เอาใจใส่, รู้จัก, ทักทาย, ยอมรับ
refuse(vi, vt) บอกปัด, ปฏิเสธ, ไม่ยอมรับ
repel(vt) ขับไล่, ต้านทาน, ไม่ยอมรับ, ผลักไส, ปฏิเสธ
servility(n) การยอมรับใช้, ลักษณะเยี่ยงทาส, ความสิ้นคิด
shrift(n) การยอมรับ, การสารภาพบาป, การเปิดเผยความลับ, การล้างบาป
swallow(vt) ขยอก, กลืน, ท่วม, อดกลั้น, ยอมรับ
undertake(vi) พยายาม, อาสา, ยอมรับ, รีบทำ, รับรอง
vouchsafe(vi) ถ่อมตัวลงมา, ลดตัวลง, ยอมรับ

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
adaptogen[อะ-แด๊พ-เถอะ-เจิ่น] (n) (ในทางยาสมุนไพร) สารธรรมชาติที่ไม่มีพิษและได้รับการยอมรับว่ามีสรรพคุณในการช่วยให้ร่างกายปรับตัวหรือรับมือกับความเครียดได้ เช่น Ashwagandha แอชวากานด้า
Creative Common(n) สัญญาอนุญาตให้ผู้อื่นนำสำเนาผลงานของผู้เขียน ผู้ประพันธ์ หรือผู้สร้างไปเผยแพร่ผลงานต่อ ซึ่งมีอยู่หลายแบบ โดยผู้สร้างสามารถเลือกได้ว่าจะให้อนุญาตแบบไหน ซึ่งได้แก่ "ยอมรับสิทธิของผู้สร้าง" (Attribution) "ไม่ใช้เพื่อการค้า" (Noncommercial) "ไม่แก้ไขต้นฉบับ" (No Derivative Works) และ "ใช้สัญญาอนุญาตแบบเดียวกัน" (Share Alike), Syn. copyleft
Dominion(รัฐศาสตร์) รัฐอธิราช เป็นประเทศเอกราชซึ่งยอมรับกษัตริย์สหราชอาณาจักรเป็นประมุขแห่งรัฐ
extortionate(adj) มากเกินกว่าที่จะยอมรับได้
guilty as charged(phrase) ฉันยอมรับตามนั้น เช่น A: "Were you in that place yesterday?" B: "guilty as charged"
hail(vt) ยอมรับ เช่น he hailed the court's decision.
Inclusive Education(n) การศึกษาแบบเรียนร่วม การจัดการศึกษาให้กับกลุ่มบุคคลที่มีความต้องการพิเศษ เช่น คนพิการ คนด้อยโอกาส คนไร้สัญชาติ คนอพยพ โดยคำนึงถึงการสร้างสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ในโรงเรียน หรือระบบการศึกษาแบบปกติ มีจุดมุงหมายเพื่อสร้างความเข้าใจ และการยอมรับความแตกต่าง ความสามารถระหว่างบุคคล เพื่อให้ผู้เรียนค้นพบศักยภาพของตนเอง และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างปกติสุข
iou(n) หนังสือยอมรับสภาพหนี้
neandethal[ni:'ændə:, θɔ:l] (adj) ADJ.เกี่ยวกับมนุษย์ยุคหิน syn:(neanderthal) ADJ. ล้าสมัยมาก relate:{ ซึ่งไม่ต้องการความเปลี่ยนแปลง } syn:(neanderthal) ADJ. หยาบคาย relate:{ ซึ่งทำสิ่งที่สังคมไม่ยอมรับ } syn:(neanderthal) N. มนุษย์ยุคหิน
Pharmacopoeia[ฟามาโคเปีย] (n, pharm) หนังสือตำรายาฉบับสากล ยอมรับและใช้กันทั่วโลก บอกข้อมูลเกี่ยวกับยาและวิธีการตรวจสอบยาในหัวข้อต่างๆ หัวข้อใน pharmacopoeia เช่น Description, Purity rubric, Identification, Assay เป็นต้น Pharmacopoeia ที่ใช้กันในปัจจุบัน เช่น USP(pharmacopoeia ของUSA), BP(pharmacopoeia ของBritish) JP(pharmacopoeia ของ Japan) ปัจจุบันประเทศไทยมี pharmacopoeia เป็นของตัวเองแล้ว โดยใช้อักษรย่อว่า TP จัดพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ
plant health(n) ความสามารถในการทำหน้าที่ทางสรีระวิทยาตามปกติในระดับที่ยอมรับได้ ซึ่งสอดคล้องกับศักยภาพทางพันธุกรรม
receive with open armsยอมรับ, Syn. To welcome cordially
up to snuff[อัพ ทู สนัพ] บางคนหรือบางสิ่งที่อยู่ในเกณฑ์หรือคุณภาพที่ยอมรับได้ (โดยมากใช้ความหมายเชิงลบ)

Japanese-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
定着[ていちゃく, teichaku] (n, vt) ยึดติด, เป็นที่ยอมรับ
認識[にんしき, ninshiki] (n) การยอมรับ
納得[なっとく, nattoku] การเข้าใจยอมรับ
定評[ていひょう, teihyou] (adv) ชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับ
尊重[そんちょう, sonchou] (adj) ยอมรับ(ความคิด)
認める[みとめる, mitomeru] ยอมรับ

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
受け入れる[うけいれる, ukeireru] TH: ยอมรับ  EN: to accept

German-Thai: Longdo Dictionary
ebenเป็นคำที่ใช้เสริมเพื่อบ่งว่าต้องยอมรับเหตุการณ์นั้นๆ เช่น Er kann gar nicht schaffen. Er ist eben mein Bruder. เขาไม่เป็นโล้ไม่เป็นพาย อย่างนั้นก็เถอะเขาก็เป็นน้องชายของฉัน, Syn. halt
etw. in Kauf nehmen(phrase) ยอมรับในสิ่งนั้น (ส่วนใหญ่ทางด้านไม่ดี), See also: akzeptieren
gestehen(vi) |gestand, gestanden| ยอมรับผิด, See also: zugeben
etw. gefallen lassen(phrase) ยอมรับ หรือ ไม่ต่อต้านให้สิ่งนั้นๆ เกิดขึ้น หรือ ยอมทนให้เกิดขึ้น เช่น Demonstration gefallen lassen = ยอมให้มีการประท้วงเกิดขึ้น
annehmen(vi) |nimmt an, nahm an, hat angenommen| ยอมรับด้วยดี, เห็นด้วย เช่น eine Bedingung annehmen ยอมรับเงื่อนไข
zugeben(vi) |gab zu, hat zugegeben| ยอมรับว่าผิด, ยินยอม, ยอมรับ เช่น Ich muß zugeben, daß du viel besser kochen kannst als ich. ฉันต้องยอมรับว่าเธอสามารถทำอาหารได้ดีกว่าฉันมาก
Geständnis[เก-ฉะ-เต๊น-หนิส] (n) |das, pl. Geständnisse| การสารภาพผิด, การยอมรับผิด, Syn. das Selbstbekenntnis
Empfang|der, pl. Empfänge| การต้อนรับ, การได้รับ, การยอมรับ, Syn. Aufnahme
gestehen(vi) |gestand, hat gestanden| ยอมรับสารภาพ เช่น die Wahrheit gestehen, Der Verbrecher hat den Diebstahl gestanden., Ich bin enttäuscht; daß sehe ich, offen gestanden, nicht ein., See also: etw. bekennen, Syn. offen aussprechen

French-Thai: Longdo Dictionary
excessif(adj) |f. -ive| มากเกินไป, เกินขอบเขต, เกินไป, เกินกว่าจะยอมรับได้ เช่น Vous êtes aussi excessif(ve) dans vos élans que dans vos courroux., See also: démesuré, énorme, extrême

French-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
convenir(vt) ใช้กับ avoir แปลว่า เหมาะสม หรือ พอดี เช่น cela me convient parfaitement ใช้กับ être แปลว่า ตกลง, ยอมรับ เช่น une date a été convenue, Syn. s'accorder

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top