ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ปกครอง, -ปกครอง- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ |
| 三位一体改革 | (n) ปฏิรูปแบบตรีเอกานุภาพ(เป็นนโยบายหลักนโยบายหนึ่งของอดีตนายกรัฐมนตรีโคอิซึมิ ซึ่งเป็นแนวนโยบายเพื่อการปฏิรูปเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับสถานะทางการคลังขององค์กรปกครองท้องถิ่น ซึ่งแนวคิดของนโยบายนี้เสนอให้มีการปฏิรูปทั้งสามด้านพร้อมกันเป็นหนึ่งแพคเกจ ดังนั้นนายกรัฐมนตรีโคอิซึมิ จึงเรียกการปฏิรูปนี้ว่า"การปฏิรูปแบบตรีเอกานุภาพ สามด้านที่ต้องปฏิรูปก็คือ การปฏิรูปเรื่องภาษีของท้องถิ่น การปฏิรูปเรื่องเงินอุดหนุนแบบให้เปล่าเพื่อประกันรายได้ให้แก่องค์กรปกครองท้องถิ่นที่มีรายได้ไม่เพียงพอ และการปฏิรูปด้านการให้เงินอุดหนุนแบบมีเงื่อนไข |
|
| 행정 | (n) การบริหาร การปกครอง |
|
| ปกครอง | (v) govern, See also: rule, administer, administrate, Syn. ดูแล, คุ้มครอง, บริหาร, ดำเนินงาน, Example: กษัตริย์ปกครองประชาชนโดยใช้ระบอบประชาธิปไตย | การปกครอง | (n) administration, See also: rule, government, Example: เมื่อ พ.ศ.2475 หลังการฉลองกรุงไม่กี่วันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครองขึ้นในประเทศไทย โดยทหารและพลเรือน | ผู้ปกครอง | (n) parent, See also: guardian, Syn. ผู้ดูแล, ผู้คุ้มครอง, Example: ครูใหญ่เรียกประชุมผู้ปกครองนักเรียนในวันนี้ของทุกปี, Count Unit: คน, ท่าน, Thai Definition: ผู้ดูแลคุ้มครองผู้เยาว์ | ผู้ปกครอง | (n) ruler, See also: leader, president, Syn. ผู้บริหาร, ผู้นำประเทศ, Example: ประชาชนเรียกร้องให้ผู้ปกครองบ้านเมืองแก้ไขปัญหาความยากจน, Count Unit: คน, ท่าน | ศาลปกครอง | (n) administrative court, Thai Definition: ศาลที่มีอำนาจพิจารณาวินิจฉัยคดีปกครอง | คนในปกครอง | (n) subordinate, See also: underling, inferior, secondary, Syn. ลูกน้อง, Example: นักการเมืองบางคนมีคนในปกครองเป็นจำนวนมาก, Thai Definition: คนที่อยู่ในความปกครองหรืออยู่ใต้อำนาจของผู้อื่น | คนในปกครอง | (n) subordinate, See also: underling, inferior, secondary, Syn. ลูกน้อง, Example: นักการเมืองบางคนมีคนในปกครองเป็นจำนวนมาก, Thai Definition: คนที่อยู่ในความปกครองหรืออยู่ใต้อำนาจของผู้อื่น | ความปกครอง | (n) control, See also: governing, rule, administration, guardianship, Syn. การปกครอง, Example: นายอำเภอมีหน้าที่ดูแลอำเภอที่อยู่ในความปกครอง | ฝ่ายปกครอง | (n) administration, Example: เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครองได้รับรายงานว่า จะมีคนร้ายลักลอบข้ามชายแดนไทยเข้ามาก่อความไม่สงบในประเทศ, Thai Definition: ส่วนที่ทำหน้าที่บริหาร | กรมการปกครอง | (n) Department of Local Administration, See also: Department of the Interior, Example: กรมการปกครองขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทย, Count Unit: กรม | เขตการปกครอง | (n) administrative district, See also: administrative district, Example: ในแผ่นดินจีนก่อนสมัยใหม่จะมีการแบ่งเขตการปกครองทั้งในระดับมณฑลและอำเภออย่างชัดเจน, Count Unit: เขต | ศูนย์การปกครอง | (n) administration center | ศูนย์การปกครอง | (n) adminstration center | เขตปกครองตนเอง | (n) autonomous region, Example: ฉู่สยุงเป็นแคว้นที่มีเขตปกครองตนเอง และใช้ภาษาหยีกับภาษาจีนกลางปะปนกัน, Count Unit: เขต | เขตการปกครองท้องถิ่น | (n) township, Count Unit: เขต |
| กฎหมายปกครอง | น. กฎหมายสาขาหนึ่งของกฎหมายมหาชนที่วางหลักเกี่ยวกับการจัดระเบียบในทางปกครองของรัฐ และการดำเนินกิจกรรมของฝ่ายปกครองในการจัดทำบริการสาธารณะ รวมทั้งวางหลักความเกี่ยวพันในทางปกครองระหว่างฝ่ายปกครองกับเอกชน. | คดีปกครอง | น. คดีที่เป็นข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานทางปกครอง หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกับเอกชนหรือระหว่างหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยกัน ซึ่งเป็นข้อพิพาทอันเนื่องมาจากกระทำหรือการละเว้นการกระทำในทางปกครองของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ. | คำสั่งทางปกครอง | น. การใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่มีผลเป็นการสร้างนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลในอันที่จะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน ระงับ หรือมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการถาวรหรือชั่วคราว เช่น การสั่งการ การอนุญาต การอนุมัติ การวินิจฉัยอุทธรณ์ การรับรอง และการรับจดทะเบียน แต่ไม่หมายความรวมถึงการออกกฎ. | ปกครอง | ก. ดูแล, คุ้มครอง, ระวังรักษา | ปกครอง | บริหาร. | ผู้ใช้อำนาจปกครอง | น. บิดามารดาที่มีอำนาจปกครองบุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะ. | ผู้ปกครอง | น. ผู้ที่ทำหน้าที่ปกครองดูแล | ผู้ปกครอง | บุคคลซึ่งศาลตั้งให้ใช้อำนาจปกครองผู้เยาว์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะและไม่มีบิดามารดา หรือบิดามารดาถูกถอนอำนาจปกครอง. | พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ | น. เจ้าพนักงานซึ่งกฎหมายให้มีอำนาจและหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ซึ่งรวมถึงพัศดี เจ้าพนักงานกรมสรรพสามิต กรมศุลกากร กรมเจ้าท่า พนักงานตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าพนักงานอื่น ๆ ในเมื่อทำการอันเกี่ยวกับการจับกุมปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมาย ซึ่งตนมีหน้าที่ต้องจับกุมหรือปราบปราม. | พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ | น. ข้าราชการฝ่ายปกครองซึ่งดำรงตำแหน่งระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย ตั้งแต่นายอำเภอหรือปลัดอำเภอซึ่งเป็นหัวหน้ากิ่งอำเภอขึ้นไปถึงปลัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการตำรวจที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้ากิ่งสถานีตำรวจที่มียศตั้งแต่ชั้นร้อยตำรวจตรีขึ้นไปจนถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ. | วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง | น. การเตรียมการและการดำเนินการของเจ้าหน้าที่เพื่อจัดให้มีคำสั่งทางปกครองหรือกฎ และรวมถึงการดำเนินการใด ๆ ในทางปกครองตามกฎหมายว่าด้วยพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง. | ศาลปกครอง | น. ศาลที่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีปกครอง. | สัญญาทางปกครอง | น. สัญญาที่คู่สัญญาอย่างน้อยฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเป็นหน่วยงานทางปกครอง หรือเป็นบุคคลซึ่งกระทำการแทนรัฐและมีลักษณะเป็นสัญญาสัมปทาน สัญญาที่ให้จัดทำบริการสาธารณะ หรือจัดให้มีสิ่งสาธารณูปโภค หรือแสวงประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ. | องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | น. องค์กรของราชการบริหารส่วนท้องถิ่นที่จัดตั้งขึ้นในรูปแบบต่าง ๆ. <i> (ดู ราชการบริหารส่วนท้องถิ่น ประกอบ)</i> | กฎมนเทียรบาล | น. ข้อบัญญัติพิเศษเกี่ยวกับพระราชฐาน พระราชวงศ์ และระเบียบการปกครองในราชสำนัก, โบราณใช้ว่า กฎมณเฑียรบาล หรือ กฎมณเทียรบาล ก็มี. | กฎหมายมหาชน | น. กฎหมายที่วางระเบียบโครงสร้างและการปกครองของรัฐหรือการบริหารราชการแผ่นดิน รวมตลอดทั้งความเกี่ยวพันระหว่างรัฐกับเอกชน เช่น กฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายอาญา กฎหมายปกครอง. | กฎหมายรัฐธรรมนูญ | น. กฎหมายที่วางระเบียบการปกครองรัฐในทางการเมือง โดยกำหนดโครงสร้างของรัฐ ระบอบการปกครอง การใช้อำนาจอธิปไตย การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน และความสัมพันธ์ระหว่างสถาบันที่ใช้อำนาจอธิปไตย. | กบฏ | เป็นฐานความผิดอาญา ที่เกี่ยวกับการล้มล้างรัฐธรรมนูญ อำนาจนิติบัญญัติ อำนาจบริหาร อำนาจตุลาการ และการแบ่งแยกราชอาณาจักรหรือยึดอำนาจปกครอง. | กรม ๓ | (กฺรม) น. หมู่เหล่าอันเป็นที่รวมกำลังไพร่พลของแผ่นดินตามลักษณะปกครองสมัยโบราณ เพื่อประโยชน์ในราชการและเวลาเกิดศึกสงคราม จะได้เรียกระดมคนได้ทันท่วงที บรรดาชายฉกรรจ์ต้องเข้าอยู่ในกรมหรือในหมู่เหล่าใดเหล่าหนึ่ง เรียกว่า <b><i>สังกัดกรม </i></b> มีหัวหน้าควบคุมเป็น<b><i>เจ้ากรม ปลัดกรม </i></b> ตามลำดับ ซึ่งเมื่อพระเจ้าแผ่นดินทรงตั้งให้เจ้านายปกครองเป็นองค์ ๆ เรียกว่า<b><i>ตั้งกรม </i></b>แล้ว เจ้านายพระองค์นั้นก็ <b><i>ทรงกรม </i></b> เป็น <b><i>เจ้าต่างกรม </i></b> เพราะมีกรมขึ้นต่างหากออกไปเป็นกรมหนึ่ง มีอำนาจตั้งเจ้ากรม ปลัดกรม เป็น หมื่น ขุน หลวง พระ พระยา ได้ และเรียกชื่อกรมนั้น ๆ ตามบรรดาศักดิ์เจ้ากรมว่า <b><i>กรมหมื่น กรมขุน </i></b>กรมหมื่น กรมขุน <b><i>กรมหลวง </i></b>กรมหลวง<b><i>กรมพระ </i></b>และ<b><i>กรมพระยา </i></b>หรือ เมื่อจะทรงกรมสูงขึ้นกว่าเดิม ก็โปรดให้ <b><i>เลื่อนกรม </i></b> ขึ้น โดยเจ้ากรมมีบรรดาศักดิ์เลื่อนขึ้น เช่นจากหมื่นเป็นขุน, มาในปัจจุบันชื่อกรมเหล่านี้มีความหมายกลายเป็นพระอิสริยยศและพระนามเจ้านายเท่านั้น. | กรม ๓ | แผนกใหญ่ในราชการ ตามลักษณะปกครองในสมัยโบราณ ซึ่งในปัจจุบัน เรียกว่า กระทรวง เช่น <b><i>กรมพระกลาโหม </i></b> คือ กรมฝ่ายทหาร เป็นกระทรวงกลาโหม, <b><i>กรมมหาดไทย </i></b> คือ กรมฝ่ายพลเรือน เป็นกระทรวงมหาดไทย, <b><i>กรมเมือง </i></b> หรือ <b><i>กรมนครบาล </i></b> รวมอยู่ในกระทรวงมหาดไทย, <b><i>กรมวัง </i></b> แยกเป็นกระทรวงวัง และกระทรวงยุติธรรม (ปัจจุบันกระทรวงวังไม่มีแล้ว), <b><i>กรมพระคลัง </i></b> แยกเป็นกระทรวงการคลัง และกระทรวงการต่างประเทศ, <b><i>กรมนา </i></b> เป็นกระทรวงเกษตราธิการ (ปัจจุบัน คือ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์). | กรมการ | (กฺรมมะ-) น. ตำแหน่งพนักงานปกครองที่มีมาแต่สมัยโบราณ และได้กำหนดไว้ในข้อบังคับลักษณะการปกครองหัวเมือง ร.ศ. ๑๑๖ เรียกว่า กรมการเมือง ซึ่งแบ่งออกเป็น ๒ พวก คือ กรมการในทำเนียบ และกรมการนอกทำเนียบ. | กรมการอำเภอ | น. คณะพนักงานปกครองซึ่งประกอบด้วยนายอำเภอ ปลัดอำเภอ และสมุห์บัญชีอำเภอ มีหน้าที่ร่วมกันในการดำเนินการให้การปกครองอำเภอเรียบร้อย ในปัจจุบันอำนาจหน้าที่ของกรมการอำเภอถูกโอนไปเป็นของนายอำเภอ. | กรมท่า ๑ | (กฺรม-) น. กรมพระคลังส่วนที่ทำหน้าที่ติดต่อกับต่างชาติเรื่องการค้าขายและการต่างประเทศ ต่อมาเพิ่มหน้าที่ปกครองหัวเมืองชายทะเล, พระคลัง หรือ พระคลังกรมท่า ก็เรียก. (<i>ดู กรมพระคลัง ประกอบ</i>). | กลไก | (กน-) น. ตัวจักรต่าง ๆ, โดยปริยายหมายความว่าบุคคลผู้เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในระดับต่าง ๆ, ระบบหรือองค์การที่บุคคลผู้เป็นเจ้าหน้าที่ในระดับต่าง ๆ ปฏิบัติงานร่วมกันดุจเครื่องจักร, ระบบที่จะให้งานสำเร็จตามประสงค์, เช่น กลไกการปกครอง | กำนัน | ตำแหน่งพนักงานฝ่ายปกครองซึ่งมีอำนาจหน้าที่ปกครองราษฎรที่อยู่ในเขตตำบล. | กิ่งอำเภอ | น. ท้องที่ที่มีความจำเป็นในการปกครอง แยกมาจากอำเภอที่มีเขตท้องที่กว้างขวางแต่จำนวนประชากรไม่มาก หรือที่ที่มีชุมชนมากแต่ท้องที่ไม่กว้างขวางพอที่จะตั้งขึ้นเป็นอำเภอ มีปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอเป็นหัวหน้าปกครอง. | ขอนิสัย | ก. ขอฝากตัวอยู่ในความปกครองของพระอุปัชฌาย์ (ใช้แก่กุลบุตรในเวลาอุปสมบท). | ข้อบัญญัติ | น. กฎที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตราขึ้นเพื่อใช้บังคับในเขตขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น ๆ เช่น ข้อบัญญัติจังหวัด ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร ข้อบัญญัติเมืองพัทยา. | ขันหมาก ๑ | น. ขันใส่หมากพลูเป็นต้นซึ่งเชิญไปพร้อมกับของอื่น ๆ ในพิธีหมั้นหรือแต่งงาน เป็นเครื่องคำนับผู้ปกครองฝ่ายหญิง. | ข้าราชการ | บุคคลซึ่งรับราชการโดยได้รับเงินเดือนจากเงินงบประมาณในกระทรวง ทบวง กรม และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เช่น ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการการเมือง ข้าราชการครู ข้าราชการทหาร ข้าราชการตุลาการ ข้าราชการอัยการ. | ข้าหลวง ๒ | น. ตำแหน่งผู้ปกครองในหัวเมืองแต่ก่อนในลักษณะผู้รั้งเมืองหรือผู้รักษาเมืองเอก โท ตรี จัตวา ถ้าปกครองหลายหัวเมือง เรียกว่า ข้าหลวงใหญ่ ถ้าปกครองเมืองประเทศราช เรียกว่า ข้าหลวงรักษาราชการ | คณะกรรมการอำเภอ | น. คณะบุคคลที่มีอำนาจหน้าที่และรับผิดชอบร่วมกันในการปกครองอำเภอ ปัจจุบันได้ถูกยุบเลิกไปแล้ว โดยโอนอำนาจและหน้าที่ไปเป็นของนายอำเภอ. | คณาธิการ | น. ผู้มีอำนาจในคณะ, ผู้ปกครองคณะ, เรียกภิกษุผู้ทำหน้าที่ในด้านการปกครองคณะสงฆ์ตั้งแต่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสขึ้นไป ว่า พระคณาธิการ. | คณาธิปไตย | (คะนาทิปะไต, คะนาทิบปะไต) น. ระบอบการปกครองแบบหนึ่ง ซึ่งปกครองโดยคณะบุคคลจำนวนน้อยของสังคม มักได้แก่ กลุ่มผู้อาวุโส กลุ่มทหาร หรือ กลุ่มปฏิวัติ. | คดี | เรื่องหรือความที่ฟ้องร้องหรือกล่าวหากันในทางกฎหมาย ซึ่งต้องดำเนินการตามกระบวนวิธีพิจารณาความตามที่กฎหมายกำหนด เช่น คดีแพ่ง คดีอาญา คดีปกครอง. | ครอง | (คฺรอง) ก. ปกครองรักษาโดยความเป็นใหญ่ เช่น ครองเมือง | ครอบครอง | ก. ยึดถือไว้, มีสิทธิปกครอง | ควบคุม | การคุมหรือกักขังผู้ถูกจับโดยพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจในระหว่างสืบสวนและสอบสวน. | คำให้การ | น. ถ้อยคำหรือข้อความที่ผู้ถูกกล่าวหาหรือถูกฟ้อง รับ ภาคเสธ ปฏิเสธ หรือแก้ข้อหาในคดีที่ถูกกล่าวหาหรือถูกฟ้องในคดีอาญา หรือที่คู่ความฝ่ายหนึ่งยกเป็นข้อต่อสู้ในคดีแพ่งหรือในคดีปกครอง. | คุต | (คุด) ก. รักษา, คุ้มครอง, ปกครอง, มักใช้ประกอบท้ายศัพท์อื่น เช่น ธรรมคุต. | คุตติ | (คุดติ) น. การรักษา, การคุ้มครอง, การปกครอง. | คุป, คุปต์ | ก. รักษา, คุ้มครอง, ปกครอง. | คุปติ | (คุบติ) น. การรักษา, การคุ้มครอง, การปกครอง. | เครือจักรภพ, เครือรัฐ | (-จักกฺระพบ, -รัด) น. กลุ่มประเทศหรือรัฐที่มีการปกครองตนเอง แต่ยอมรับนับถือประมุขร่วมกัน เช่น ประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ รัฐต่าง ๆ ในเครือรัฐออสเตรเลีย. | เค้าสนามหลวง | น. สำนักผู้ปกครองบ้านเมือง, ที่ว่าราชการเมือง, คณะผู้ว่าการบ้านเมืองซึ่งประกอบด้วยเจ้าผู้ครองเมืองหรือผู้ครองเมืองข้าหลวงประจำนครหรือเมืองซึ่งต่อมาเรียกว่า ปลัดมณฑลประจำจังหวัด และข้าหลวงผู้ช่วย มีหน้าที่บังคับบัญชารับผิดชอบในกิจการทั่วไปของเมือง, เค้าสนาม ก็ว่า. | แคว้น | เดิมหมายถึงประเทศ เช่น แคว้นมคธ แคว้นโกศล ในปัจจุบันหมายถึงเขตปกครองที่เป็นส่วนย่อยของประเทศ ใหญ่กว่าจังหวัด, รัฐ, เช่น แคว้นสิบสองจุไทย. | งำ | ก. ปิด เช่น งำความ, ปกครอง เช่น งำเมือง, รักษา ในคำว่า เก็บงำ, บางทีใช้เข้าคู่กับคำ ครอบ เป็น ครอบงำ. | จักรวรรดิ | (-หฺวัด) น. รัฐหรือสหภาพของรัฐต่าง ๆ ที่มีจักรพรรดิเป็นประมุข เช่น จักรวรรดิโรมัน, อาณาเขตหรืออาณาจักรที่อยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยการปกครองอันเดียวกัน เช่น จักรวรรดิอังกฤษ. | จักรวรรดินิยม | (-หฺวัดนิยม) น. ลัทธิขยายอาณาเขตและอำนาจปกครองของรัฐ. | จังหวัด | น. หน่วยการปกครองส่วนภูมิภาคที่รวมท้องที่หลาย ๆ อำเภอเข้าด้วยกัน มีฐานะเป็นนิติบุคคล, (โบ) เมือง, หัวเมือง |
| poll | ๑. การหยั่งเสียง (ก. ปกครอง)๒. การออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง (ก. ปกครอง)๓. การลงคะแนนลับ (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | probation | ๑. การคุมประพฤติ (ก. อาญา) [ ดู controlling of behaviour ]๒. การทดลองปฏิบัติงาน (ก. ปกครอง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | parliamentary government | การปกครองระบบรัฐสภา [ ดู cabinet government ] [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | promotion | ๑. การส่งเสริม (ก. ทั่วไป)๒. การเลื่อนตำแหน่ง (ก. ปกครอง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | parental power | อำนาจปกครองของบิดามารดา [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | political subdivision | การแบ่งเขตการปกครองรัฐ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | parish | เขตการปกครองส่วนท้องถิ่น (อังกฤษ, อเมริกัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | parish | เขตการปกครองส่วนท้องถิ่น (อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา), เขตแพริช [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] | parish | ๑. เขตการปกครองทางศาสนา๒. เขตการปกครองส่วนท้องถิ่น [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | putsch | การพยายามยึดอำนาจปกครองรัฐ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | presidential government | การปกครองระบบประธานาธิบดี [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | polyarchy | การปกครองโดยคณะบุคคลบางกลุ่ม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | paternalism | ระบบพ่อปกครองลูก, ลัทธิพ่อเมือง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | promulgation | ๑. การออกประกาศ (ก. แพ่ง)๒. การประกาศใช้กฎหมาย (ก. ปกครอง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | public authorities | เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | public authority | เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, เจ้าหน้าที่ของรัฐ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | local self-government | การปกครองตนเองของท้องถิ่น [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | law, administrative | กฎหมายปกครอง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | local government | การปกครองส่วนท้องถิ่น, ราชการบริหารส่วนท้องถิ่น [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | local government | การปกครองส่วนท้องถิ่น, ราชการบริหารส่วนท้องถิ่น [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | republican form of government | การปกครองแบบสาธารณรัฐ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | recall | ๑. การถอดถอน (ก. ปกครอง)๒. การเรียกกลับ (ก. ระหว่างประเทศ) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | rule of men, the | หลักการปกครองที่ถือตัวบุคคลเป็นใหญ่ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | reinstatement | ๑. การให้กลับเข้ารับตำแหน่งเดิม (ก. ปกครอง)๒. การฟื้นสัญญา (ประกันชีวิต) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | relative autonomy | ความเป็นอิสระเชิงสัมพัทธ์ (ในการปกครอง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | re-entry | ๑. การกลับเข้าครอบครอง (ก. แพ่ง)๒. การกลับเข้าเมืองอีก (ก. ปกครอง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | region, autonomous | เขตปกครองตนเอง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | representative government | การปกครองระบบผู้แทนราษฎร [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | replacement | ๑. การปรับให้คืนสภาพเดิม (ก. แพ่ง)๒. การเข้าสวมตำแหน่งแทน (ก. ปกครอง)๓. การบรรจุกำลังพลทดแทน (ก. ปกครอง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | rule, divide and | แบ่งแยกแล้วปกครอง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | rule, home | การปกครองตนเองของท้องถิ่น [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | rule | กฎ, ข้อบังคับ, หลักเกณฑ์, การปกครอง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | sedition | การปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | sedition | การปลุกปั่นให้ขัดขืนอำนาจปกครอง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | superior administrative or police official | พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | self-governing territory | ดินแดนที่ปกครองตนเอง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | self-governing territory | ดินแดนที่ปกครองตนเอง [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] | self-government | การปกครองตนเอง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | self-determination | การกำหนดการปกครองด้วยตนเอง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | security | ๑. ความมั่นคง (ก. ปกครอง)๒. หลักประกัน, หลักทรัพย์ (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | special district | เขตพิเศษ, เขตปกครองพิเศษ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | subsidiarity | การเสริมอำนาจปกครอง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | original donation theory | ทฤษฎีต้นกำเนิดอำนาจปกครองรัฐ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | organization, administrative | การจัดระเบียบทางการปกครอง, การจัดระเบียบราชการบริหาร [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | offences relating to public administration | ความผิดเกี่ยวกับการปกครอง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | order, administrative | คำสั่งของฝ่ายปกครอง, ระเบียบของฝ่ายปกครอง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | apportionment | ๑. การจัดสรรตามสัดส่วน (ก. แพ่ง)๒. การกำหนดจำนวนผู้แทนตามสัดส่วน (ก. ปกครอง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | accession | ๑. การได้กรรมสิทธิ์ในส่วนควบของทรัพย์ (ก. แพ่ง)๒. ภาคยานุวัติ (ก. ระหว่างประเทศ)๓. การเข้าดำรงตำแหน่ง (ก. ปกครอง) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | appointment of controller of property | การตั้งผู้ปกครองทรัพย์ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | administrative law | กฎหมายปกครอง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| intelligent island | วิสัยทัศน์ของประเทศสิงคโปร์ตามแผน Vision 2000 ที่จะมีการนำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในทุกระบบทั้งที่เกี่ยวข้องกับการบริหาร การปกครอง ภาคธุรกิจ การสาธารณสุข การศึกษา และอื่นๆ ของประเทศสิงคโปร์ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Administrative acts | การกระทำในทางปกครอง [TU Subject Heading] | Administrative and political divisions | หน่วยบริหารและปกครอง [TU Subject Heading] | Administrative courts | ศาลปกครอง [TU Subject Heading] | Administrative discretion | ดุลยพินิจทางการปกครอง [TU Subject Heading] | Administrative law | กฎหมายปกครอง [TU Subject Heading] | Administrative procedure | วิธีพิจารณาคดีปกครอง [TU Subject Heading] | Administrative remedies | การอุทธรณ์ทางการปกครอง [TU Subject Heading] | Cabinet system | การปกครองระบบรัฐสภา [TU Subject Heading] | Complaints (Administrative procedure) | การร้องทุกข์ (วิธีพิจารณาคดีปกครอง) [TU Subject Heading] | Custody of children | อำนาจปกครองบุตร [TU Subject Heading] | Decentralization in government | การกระจายอำนาจปกครอง [TU Subject Heading] | Exhaustion of administrative remedies | การแก้ไขความเสียหายให้ครบขั้นตอนก่อนฟ้องคดีปกครอง [TU Subject Heading] | Government | การปกครอง [TU Subject Heading] | Joint custody of children | อำนาจปกครองบุตรร่วม [TU Subject Heading] | Judicial review of administrative acts | การควบคุมความชอบด้วยกฎหมายของการกระทำในทางปกครอง [TU Subject Heading] | Local government | การปกครองท้องถิ่น [TU Subject Heading] | Parent participation | การมีส่วนร่วมของผู้ปกครอง [TU Subject Heading] | Parent-teacher relationships | ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ปกครองกับครู [TU Subject Heading] | Parents' and teachers' associations | สมาคมผู้ปกครองและครู [TU Subject Heading] | Paternalism | ระบบพ่อปกครองลูก [TU Subject Heading] | Politics and government | การเมืองและการปกครอง [TU Subject Heading] | Representative government and representation | การปกครองระบบผู้แทนราษฏร [TU Subject Heading] | Sanctions, Administrative | ข้อบังคับทางปกครอง [TU Subject Heading] | apartheid | การปกครองประเทศแบบแบ่งแยกผิวพันธุ์ เป็นระบบปกครองที่ใช้ในสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งโดยไม่ แบ่งแยกผิวพันธุ์ครั้งแรกขึ้นระหว่างวันที่ 26-29 เมษายน 2537 ในระบบการปกครองดังกล่าว ประชาชนแอฟริกาใต้ผิวดำถูกจำกัดสิทธิต่าง ๆ เช่น สิทธิทางด้านการเมือง สิทธิการออกเสียงเลือกตั้ง สิทธิรับสมัครเลือกตั้ง การเป็นสมาชิกรัฐสภา การมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินบางพื้นที่ การเลือกที่อยู่อาศัย การใช้สถานที่พักผ่อน การรับราชการ การเข้ารับการศึกษา การประกอบอาชีพ และการใช้บริการสาธารณูปโภคจากรัฐบาล เป็นต้น [การทูต] | Consul | ข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งอย่างถูกต้องและได้รับ มอบหมายให้ไปประจำยังต่างประเทศ เพื่อทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประเทศทั้งในด้าน พาณิชย์ การเดินเรือ คุ้มครองความเป็นอยู่อันดีของพลเมืองของประเทศตน พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่บางอย่างด้านธุรการ หรือวางระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ ตลอดจนด้านการเป็นสักขีพยานการลงนามในเอกสาร เพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทางกฎหมาย (Notary) การให้การตรวจลงตรา รวมทั้งการรับรองเอกสารที่แท้จริง (มิใช่เอกสารปลอม) และจัดการการสัตย์สาบานตนหรืออีกนัยหนึ่ง ภาระหน้าที่ของกงสุลอาจแบ่งออกได้เป็น 5 ประการ ดังต่อไปนี้1 ทำหน้าที่ส่งเสริมผลประโยชน์ในทางพาณิชย์ของประเทศที่ตนเป็นผู้แทนอยู่2 ควบคุมดูแลผลประโยชน์ด้านการเดินเรือ3 คุ้มครองผลประโยชน์ของคนชาติของประเทศที่แต่งตั้งให้ตนไปประจำอยู่4 ทำหน้าที่สักขีพยานในการลงนามในเอกสารเพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทาง กฎหมาย5 ทำหน้าที่ธุรการเบ็ดเตล็ดอื่นๆ หรือระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ เช่น การออกหนังสือเดินทาง การให้การตรวจลงตรา (Visas) การจดทะเบียนคนเกิด คนตาย ฯลฯอนุสัญญากรุงเวียนนา ภาคที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลข้อที่ 5 ได้กำหนดภาระหน้าที่ของฝ่ายกงสุลไว้ดังต่อไปนี้ ก. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่ง และของคนในชาติของรัฐผู้ส่ง ทั้งเอกชนและบรรษัทในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาตข. เพิ่มพูนการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านการพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาการ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกันในทางอื่น ตามบทแห่งอนุสัญญานี้ค. สืบเสาะให้แน่โดยวิถีทางทั้งปวงอันชอบด้วยกฎหมายถึงภาวะและความคลี่คลายใน ทางพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและวิทยาการของรัฐผู้รับ แล้วรายงานผลของการนั้นไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่ง และให้ข้อสนเทศแก่บุคคลที่สนใจง. ออกหนังสือเดินทางและเอกสารการเดินทางให้แก่คนในชาติของรัฐผู้ส่ง ตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือออกเอกสารที่เหมาะสมให้แก่บุคคลที่ประสงค์จะเดินทางไปยังรัฐผู้ส่งจ. ช่วยเหลือคนในชาติของรัฐผู้ส่งทั้งเอกชนและบรรษัทฉ. ทำหน้าที่นิติกรและนายทะเบียนราษฎร์ และในฐานะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ปฏิบัติการหน้าที่บางประการอันมีสภาพทางธุรการ หากว่าการหน้าที่นั้นไม่ขัดกับกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับช. พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของผู้เยาว์ และบุคคลไร้ความสามารถ ซึ่งเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง ภายในขีดจำกัดที่ได้ตั้งบังคับไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ โดยเฉพาะในกรณีที่จำเป็นต้องมีความปกครองหรือภาวะทรัสตีใดๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลเหล่านั้นฌ. แทนคนชาติของรัฐผู้ส่ง หรือจัดให้มีการแทนอย่างเหมาะสมในองค์กรตุลาการ และต่อเจ้าหน้าที่ที่อื่นของรัฐผู้รับ เพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้ได้มา ซึ่งมาตรการชั่วคราวสำหรับการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของคนในชาติเหล่านี้ ไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ ในกรณีที่คนในชาติเหล่านี้ไม่สามารถเข้าทำการป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของ ตนในเวลาอันเหมาะสมได้ เพราะเหตุของการไม่อยู่หรือเหตุอื่นใด ทั้งนี้ ให้อยู่ภายในข้อบังคับแห่งทางปฏิบัติ และวิธีดำเนินการซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับญ. ส่งเอกสารทางศาล หรือเอกสารที่มิใช่ทางศาล หรือปฏิบัติตาม หนังสือของศาลของรัฐผู้ส่งที่ขอให้สืบประเด็น หรือตามการมอบหมายให้สืบพยานให้แก่ศาลของรัฐผู้ส่งนั้น ตามความตกลงระหว่างประเทศที่ใช้บังคับอยู่ หรือเมื่อไม่มีความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่านั้น โดยทำนองอื่นใดที่ต้องด้วยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับด. ใช้สิทธิควบคุมดูแลและตรวจพินิจตามที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของ รัฐผู้ส่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับเรือที่มีสัญชาติของของรัฐผู้ส่ง หรืออากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐนั้น รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับลูกเรือของเรือและอากาศยานดังกล่าวต. ให้ความช่วยเหลือแก่เรือและอากาศยานที่ระบุไว้ในอนุวรรค (ด) ของข้อนี้ รวมทั้งลูกเรือของเรือและอากาศยานนั้น บันทึกถ้อยคำเกี่ยวกับการเดินทางของเรือ ตรวจดูและประทับตรากระดาษเอกสารของเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใด ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในระหว่างนายเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใดๆ ที่ได้เกิดขั้นในระหว่างนายเรือ เจ้าพนักงาน และกะลาสี ตราบเท่าที่การนี้อาจได้อนุมัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง ทั้งนี้ จะต้องไม่เป็นการเสื่อมเสียแก่อำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับถ. ปฏิบัติการหน้าที่อื่นใดที่รัฐผู้ส่งมอบหมายแก่สถานีทำการทางกงสุล ซึ่งมิได้ต้องห้ามโดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ หรือซึ่งไม่มีการแสดงข้อคัดค้านโดยรัฐผู้รับ หรือซึ่งมีอ้างถึงไว้ในความตกลงระหว่างประเทศ ที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับ [การทูต] | Genocide | การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ หรือฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ค.ศ. 1946 สมัชชาสหประชาชาติได้ยืนยันเป็นเอกฉันท์ว่า การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หรือการฆ่ามนุษย์เป็นกลุ่มก้อนนั้นให้ถือเป็นอาชญากรรม ตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งโลกที่บรรลุความเจริญแล้วประณามอย่างรุนแรงอนุสัญญาว่าด้วยการป้องกัน และการลงโทษอาชญากรรมเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์นี้ สมัชชาสหประชาชาติได้ลงมติรับรองเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม ค.ศ. 1948 อนุสัญญานี้ได้นิยามคำว่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) หมายถึงการประกอบอาชญากรรมบางอย่าง โดยมีเจตนาที่จะทำลายล้างกลุ่มชนชาติ กลุ่มเผ่าพันธุ์ กลุ่มเชื้อชาติ หรือกลุ่มศาสนา ในบางส่วนหรือทั้งหมดก็ตาม การประกอบกรรมซึ่งถือเป็นการฆ่าล้างชาตินั้นได้แก่ การฆ่า การทำให้เกิดความเสียหายอย่างสาหัส ทั้งต่อร่างกายหรือจิตใจ และการบังคับให้มีสภาวะการครองชีพที่เจตนาจะให้ชีวิตร่ายกายถูกทำลาย ไม่ว่าจะเพียงส่วนหนึ่งหรือทั้งหมดก็ตาม ตลอดจนออกมาตรการกีดกันมิให้มีลูกและโยกย้ายเด็ก ๆ ไม่เพียงแต่การฆ่าล้างชาติอย่างเดียว หากแต่การคบคิดหรือการยุยงให้มีการฆ่าล้างชาติ รวมทั้งความพยายามที่จะฆ่าล้างชาติและสมรู้ร่วมคิดในอาชญากรรมดังกล่าว ย่อมถูกลงโทษได้ตามนัยแห่งอนุสัญญานี้ บรรดาผู้ที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกลงโทษไม่ว่าผู้นั้นจะเป็นผู้ ปกครอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายบ้านเมือง หรือเอกชนส่วนบุคคลที่มีหน้าที่รับผิดของตามกฎหมายก็ตามบรรดาประเทศที่ภาคี อนุสัญญานี้จำเป็นต้องออกกฎหมายของตนเพื่อรองรับ และจะต้องตกลงเรื่องส่งผู้ร้ายข้ามแดนในกรณีที่บุคคลนั้นๆ มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติ และบุคคลที่มีความผิดฐานฆ่าล้างชาติจะต้องถูกพิจารณาลงโทษในประเทศที่มีการ ประกอบอาชญากรรมดังกล่าวขึ้น หรือโดยศาลระหว่างประเทศที่มีอำนาจครอบคลุมถึงเจตนารมณ์ของสนธิสัญญานี้ เพื่อต้องการป้องกัน และลงโทษอาชญากรรมฆ่าล้างชาติ ไม่ว่าจะประกอบขึ้นในยามสงครามหรือในยามสงบก็ตามอนุสัญญาดังกล่าวได้เริ่มมี ผลบังคับเมื่อวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 1951 เป็นเวลา 90 วันหลังจากที่ 20 ประเทศได้ให้สัตยาบัน หรือให้ภาคยานุวัติตามที่ระบุอยู่ในอนุสัญญา อนุสัญญานี้จะมีผลบังคับเป็นเวลา 10 ปี และมีการต่ออายุสัญญาทุก 5 ปี สำหรับประเทศที่มิได้บอกเลิกสัญญา หากประเทศที่ยังเป็นภาคีอนุสัญญามีจำนวนเหลือไม่ถึง 16 ประเทศ อนุสัญญานี้จะเลิกมีผลบังคับทันที [การทูต] | Heads of State | ผู้แทนที่สำคัญที่สุดของรัฐ หรือประมุขของรัฐ ในบางกรณีอาจทำหน้าที่เป็นตัวแทนของรัฐ ในการเจริญความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ โดยมีอำนาจเต็มที่จะประกอบการใด ๆ ได้ ประมุขของรัฐนั้นอาจได้แก่ พระจักรพรรดิ (Emperor) พระเจ้าแผ่นดิน (King) พระราชินี (Queen) และประธานาธิบดี (President)ประมุขของรัฐย่อมมีสิทธิที่จะได้รับการเคารพ และการยอมรับนับถือจากประเทศอื่นๆ ในสังคมนานาประเทศ ในแง่พิธีการทูต ผู้ที่เป็นกษัตริย์อาจได้รับเกียรติแตกต่างกับผู้ที่เป็นประธานาธิบดี แต่ความแตกต่างเช่นนี้หามีความสำคัญในแง่กฎหมายอย่างใดไม่ เมื่อประมุขของรัฐเดินทางไปเยือนต่างประเทศ ตัวประมุขพร้อมด้วยบุคคลในครอบครัวและบริวารทั้งหลาย ตลอดจนถึงทรัพย์สินของประมุขจะไดรับความคุ้มกัน (Immunity) ทั้งในทางแพ่งและอาญาคำว่าประมุขของรัฐอาจหมายถึงหัวหน้าของรัฐบาลก็ได้ เช่น ในกรณีสหรัฐอเมริกา แต่ในบางประเทศ เช่น อังกฤษ ประมุขของรัฐมิได้เป็นหัวหน้าของรัฐบาล ผู้ที่เป็นหัวหน้าของรัฐบาลได้แก่ นายกรัฐมนตรี (Prime Minister) ในประเทศที่มีการปกครองในรูปสาธารณรัฐ (Republic) ถือว่าอำนาจอธิปไตยตกอยู่กับประชาชน แม้แต่ตัวประธานาธิบดีของประเทศก็ไม่มีอำนาจอธิปไตย หากแต่เป็นประชาชนพลเมืองคนหนึ่ง ซึ่งได้รับการเลือกตั้งให้เข้าไปบริหารประเทศตามกำหนดระยะเวลาหนึ่งภายใต้ รัฐธรรมนูญ และตัวประธานาธิบดี เช่น ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ก็อาจถูกฟ้องให้ขับออกจากตำแหน่งโดยรัฐสภา หรือสภานิติบัญญัติได้ เรียกว่า Impeachment [การทูต] | Immunity from Jurisdiction of Diplomatic Agents | ความคุ้มกันจากอำนาจศาลของตัวแทนทางการทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตรา 31 ว่า?1. ให้ตัวแทนทางการทูตได้อุปโภคความคุ้มกันจากอำนาจศาลทางอาญาของรัฐผู้รับ ตัวแทนทางการทูตยังจะได้อุปโภคความคุ้มกันจากอำนาจศาลทางแพ่ง และทางการปกครองของรัฐผู้รับด้วย เว้นแต่ในกรณีของก) การดำเนินคดีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัว ที่ตั้งอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับนอกจากตัวแทนทางการทูตครอบครองไว้ในนามของ รัฐผู้ส่งเพื่อความมุ่งประสงค์ของคณะผู้แทนข) การดำเนินคดีเกี่ยวกับการสืบมรดกซึ่งเกี่ยวพันถึงตัวแทนทางการทูตในฐานะผู้ จัดการมรดกโดยพินัยกรรม ผู้จัดการมรดกโดยศาลตั้งทายาท หรือผู้รับมรดกในฐานะเอกชน และมิใช่ในนามของรัฐผู้ส่งค) การดำเนินคดีเกี่ยวกับกิจกรรมใดในทางวิชาชีพ หรือพาณิชย์ ซึ่งตัวแทนทางการทูตได้กระทำในรัฐผู้รับ นอกเหนือจากการหน้าที่ทางการของตน 2. ตัวแทนทางการทูตไม่จำเป็นต้องให้การในฐานะพยาน 3. มาตรการบังคับคดี ไม่อาจดำเนินได้ในส่วนที่เกี่ยวกับตัวแทนทางการทูต เว้นแต่ในกรณีซึ่งอยู่ภายใต้อนุวรรค (ก) (ข) และ (ค) ของวรรค 1 ของข้อนี้ และโดยมีเงื่อนไขว่ามาตรการที่เกี่ยวข้องอาจดำเนินไปได้โดยปราศจากการละเมิด ความละเมิดมิได้ในตัวบุคคลของตัวผู้แทนทางการทูต หรือที่อยู่ของตัวแทนทางการทูต 4. ความคุ้มกันของตัวแทนทางการทูตจากอำนาจศาลของรัฐผู้รับ ไม่ยกเว้นตัวแทนทางการทูตจากอำนาจศาลของรัฐผู้ส่ง?เกี่ยวกับความคุ้มกันตัว แทนทางการทูตจากขอบเขตของอำนาจศาลทางแพ่ง อาจกล่าวได้อย่างกว้างๆ ว่า ตัวแทนทางการทูตนั้นได้รับการยกเว้นจากอำนาจของศาลแพ่งในท้องถิ่นคือตัวแทน ทางการทูตนั้นได้รับการยกเว้นจากอำนาจของศาลแพ่งในท้องถิ่นคือตัวแทนทางการ ทูตจะถูกฟ้องมิได้ และถูกจับกุมมิได้เกี่ยวกับหนี้สิน รวมทั้งทรัพย์สินของเขา เช่น เครื่องเรือน รถยนต์ ม้า และสิ่งอื่นๆ ทำนองนั้นก็จะถูกยืดเพื่อใช้หนี้มิได้ ตัวแทนทางการทูตจะถูกกีดกันมิให้ออกไปจากรัฐผู้รับในฐานะที่ยังมิได้ชดใช้ หนี้สินของเขานั้นก็มิได้เช่นกัน อนึ่ง นักกฎมายบางกลุ่มเห็นว่า ตัวแทนทางการทูตจะถูกหมายศาลเรียกตัว (Subpoenaed) ไม่ได้ หรือแม้แต่ถูกขอร้องให้ไปปรากฎตัวเป็นพยานในศาลแพ่งหรือศาลอาญาก็ไม่ได้ อย่างไรก็ดี ถ้าหากตัวแทนทางการทูตสมัครใจที่จะไปปรากฏตัวเป็นพยานในศาล ก็ย่อมจะทำได้ แต่จะต้องขออนุมัติจากรัฐบาลในประเทศของเขาก่อน [การทูต] | Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle | โครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่ายอินโดนีเซีย-มาเลเซีย-ไทย " จัดตั้งในสมัยรัฐบาลนายอานันท์ ปันยารชุน เมื่อกลางปี พ.ศ. 2535 โดยมีพื้นที่โครงการครอบคลุมพื้นที่ต่าง ๆ คือ ไทย ได้แก่ สงขลา ยะลา ปัตตานี สตูล และนราธิวาส มาเลเซีย ได้แก่ 4 รัฐทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของมาเลเซีย (เคดาห์ เปอร์ลิส เปรัก และปีนัง) อินโดนีเซีย ได้แก่ 4 จังหวัดบนเกาะสุมาตรา (เขตปกครองพิเศษอาเจ่ห์) สุมาตราเหนือ สุมาตราตะวันตก และจังหวัดเรียว (Riau) " [การทูต] | International Telecommunica-tion Union | สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1865 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในตอนนั้นมีชื่อว่าสหภาพโทรเลขระหว่างประเทศ ต่อมาในปี ค.ศ.1932 จึงมีการรับรองอนุสัญญาโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ณ กรุงมาดริด ประเทศสเปน และหลังจากนั้นอีก 2 ปี คือ ค.ศ.1934 ก็ได้มีการเปลี่ยนชื่ออนุสัญญาโทรเลขและวิทยุโทรเลข เป็นอนุสัญญาโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ต่อมาในปี ค.ศ. 1947 ได้มีการปรับปรุงใหม่ ณ เมืองแอตแลนติกซิตี้ สหรัฐอเมริกา แล้วเปลี่ยนชื่อเป็นสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ค.ศ.1954 เป็นต้นมา สหภาพดังกล่าวหรือที่เรียกโดยย่อว่า ITU อยู่ภายใต้การบริหารปกครองตามอนุสัญญา ซึ่งได้รับการรับรองจากการประชุมเต็มคณะ ณ กรุงบุเอนอสไอเรส เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม ค.ศ. 1952วัตถุประสงค์สำคัญขององค์การไอทียูคือ ต้องการวางระเบียบข้อบังคับระหว่างประเทศสำหรับโทรเลข โทรศัพท์และบริการทางวิทยุ เพื่อที่จะส่งเสริมและขยับขยายให้ประชาชนได้มีโอกาสใช้บริการเหล่านี้ให้ กว้างขวางยิ่งขึ้น โดยต้องการให้อัตราค่าบริการต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ กล่าวโดยทั่วไปองค์การไอทียูนี้มีจุดมุ่งหมายที่จะส่งเสริมความร่วมมือ ระหว่างประเทศ เพื่อปรับปรุงการใช้โทรคมนาคมทุกชนิดให้เป็นประโยชน์ก้าวหน้าขึ้น พัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือทางเทคนิคให้นำออกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้และพยายามประสานการปฏิบัติของชาติต่าง ๆ ให้กลมกลืนกันเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ร่วมกัน หัวหน้าของสหโทรคมนาคมระหว่างประเทศมีตำแหน่งเรียกว่า เลขาธิการ องค์การนี้ตั้งอยู่ในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ [การทูต] | Niccolo Machiavelli (1469-1527) | คือรัฐบุรุษและปรัชญาเมธีทางการเมืองของสาธารณรัฐ ฟลอเรนส์ (Florence) ระหว่างรับราชการ ท่านดำรงตำแหน่งฝ่ายธุรการหลายตำแหน่งซึ่งไม่สู้มีความสำคัญเท่าใด แต่สิ่งที่ท่านสนใจมากที่สุดได้แก่ศิลปะของการเมือง หนังสือสำคัญ ๆ ที่ท่านประพันธ์ขึ้นไว้คือ The Prince เล่มหนึ่ง อีกเล่มหนึ่งชื่อ The Art of War และอีกเล่มหนึ่งคือ Discourses on the First Ten Books of Livyมีนักเขียนหลายคนวิพากษ์ Machiavelli ที่แสดงความเห็นสนับสนุนว่า รัฐบาลใดก็ตมที่ต้องการรักษาอำนาจการปกครองตนให้เข้มแข็งไว้ ย่อมจะใช้วิถีทางใด ๆ ก็ได้ ถึงแม้หนทางเช่นนั้นจะผิดกฎหมายหรือไร้ศีลธรรมก็ตาม และก็มีนักเขียนอีกหลายคนสนับสนุนท่าน โดยชี้ให้เห็นว่า ท่านเป็นแต่เพียงตีแผ่ให้เห็นพฤติกรรมที่แท้จริงของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในยุคสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่มากกว่าอย่างอื่น อาทิเช่น ในหนังสือ The Prince ของท่านตอนหนึ่งอ้างว่า การต่อสู้นั้นมีอยู่สองวิธี วิธีแรกเป็นการต่อสู้โดยวิถีทางกฎหมาย อีกวิธีหนึ่งคือการต่อสู้โดยใช้กำลัง (Force) วิธีแรกนั้นเป็นวิธีที่มนุษย์พึงใช้ ส่วนวิธีที่สองเป็นวิธีเยี่ยงสัตว์ป่า แต่การใช้วิธีแรกมักจะไม่ค่อยได้ผลเสมอไป เพราะไม่เพียงพอ ก็ย่อมจะหันเข้าใช้วิธีที่สองได้ ฉะนั้น ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้น ซึ่ง Machiavelli เรียกว่า Prince จึงจำเป็นต้องรู้ดีว่าจะใช้ทั้งวิธีที่มนุษย์จะพึงใช้ และวิธีเยี่ยงสัตว์ป่าอย่างไร ด้วยเหตุนี้ ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้นไม่จำเป็นต้องมีสัจธรรม หากการกระทำนั้น ๆ จะทำความเสียหายแก่ผลประโยชน์ของประเทศ ท่านเห็นว่า หากมนุษย์ทุกคนเป็นคนดี กฎเช่นนี้ก็เป็นกฎที่ไม่ถูกต้อง แต่โดยที่มนุษย์ไม่ใช่คนดีทั้งหมด ในเมื่อเขาไม่ยอมให้ความศรัทธาความไว้วางใจในตัวท่าน ก็ไม่มีอะไรที่จะมาห้ามมิให้ท่านเลิกศรัทธากับเขาเหล่านั้นได้ [การทูต] | Palestine Question | ปัญหาปาเลสไตน์ เมื่อวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1947 ประเทศอังกฤษได้ขอให้สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ทำการประชุมสมัยพิเศษเพื่อพิจารณาปัญหาปาเลสไตน์ สมัชชาได้ประชุมกันระหว่างวันที่ 28 เมษายน ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1947 และที่ประชุมได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษเกี่ยวกับปาเลสไตน์ขึ้น ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศสมาชิกรวม 11 ประเทศ ซึ่งหลังจากที่เดินทางไปตรวจสถานการณ์ในภาคตะวันออกกลาง ก็ได้เสนอรายงานเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว รายงานนี้ได้ตั้งข้อเสนอแนะรวม 12 ข้อ รวมทั้งโครงการฝ่ายข้างมาก (Majority Plan) และโครงการฝ่ายข้างน้อย (Minority Plan) ตามโครงการข้างมาก กำหนดให้มีการแบ่งดินแดนปาเลสไตน์ออกเป็นรัฐอาหรับแห่งหนึ่ง รัฐยิวแห่งหนึ่ง และให้นครเยรูซาเล็มอยู่ภายใต้ระบบการปกครองระหว่างประเทศ รวมทั้งให้ดินแดนทั้งสามแห่งนี้มีความสัมพันธ์ร่วมกันในรูปสหภาพเศรษฐกิจ ส่วนโครงการฝ่ายข้างน้อย ได้เสนอให้ตั้งรัฐสหพันธ์ที่เป็นเอกราชขึ้น ประกอบด้วยรัฐอาหรับและรัฐยิว อันมีนครเยรูซาเล็มเป็นนครหลวงต่อมาในวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1947 สมัชชาสหประชาชาติได้ประชุมลงมติรับรองข้อเสนอของโครงการฝ่ายข้างมาก ซึ่งฝ่ายยิวได้รับรองเห็นชอบด้วย แต่ได้ถูกคณะกรรมาธิการฝ่ายอาหรับปฏิเสธไม่รับรอง โดยต้องการให้มีการจัดตั้งรัฐอาหรับแต่เพียงแห่งเดียว และทำหน้าที่คุ้มครองสิทธิของคนยิวที่เป็นชนกุล่มน้อย อนึ่ง ตามข้อมติของสมัชชาสหประชาชาติได้กำหนดให้อำนาจอาณัติเหนือดินแดนปาเลสไตน์ สิ้นสุดลงและให้กองทหารอังกฤษถอนตัวออกไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และอย่างช้าไม่เกินวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1948 นอกจากนั้นยังให้คณะมนตรีภาวะทรัสตีของสหประชาชาติจัดทำธรรมนูญการปกครองโดย ละเอียดสำหรับนครเยรูซาเล็มจากนั้น สมัชชาสหประชาชาติได้ตั้งคณะกรรมาธิการปาเลสไตน์แห่งสหประชาชาติขึ้น ประกอบด้วยประเทศโบลิเวีย เช็คโกสโลวาเกีย เดนมาร์ก ปานามา และฟิลิปปินส์ ทำหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะของสมัชชา ส่วนคณะมนตรีความมั่นคงก็ได้รับการขอร้องให้วางมาตรการที่จำเป็น เพื่อวินิจฉัยว่า สถานการณ์ในปาเลสไตน์จักถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพหรือไม่ และถ้าหากมีการพยายามที่จะใช้กำลังเพื่อเปลี่ยนแปลงความตกลงตามข้อมติของ สมัชชาเมื่อใด ให้ถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพ โดยอาศัยข้อ 39 ของกฎบัติสหประชาชาติเป็นบรรทัดฐาน [การทูต] | Persons Entitled to Diplomatic Privileges and Immunities | บุคคลทีมีสิทธิที่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้ม ครองกันทางการทูต มาตรา 37 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ว่า ?1. คนในครอบครัวของตัวแทนทางการทูต ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของตัวแทนทางการทูต ถ้าไม่ใช่คนในชาติของรัฐผู้รับ ให้ได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ระบุไวในข้อ 29 ถึง 36 2. บุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการและฝ่ายวิชาการของคณะผู้แทน รวมทั้งคนในครอบครัวของตน ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของตน ตามลำดับ ถ้าไม่ใช่คนในชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับ ให้ได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ได้ระบุไว้ในข้อ 29 ถึง 35 เว้นแต่ว่าความคุ้มกันจากอำนาจศาลทางแพ่งและทางปกครองของรัฐผู้รับ ที่ได้ระบุไว้ในวรรค 1 ของข้อ 31 นั้น ไม่ให้ขยายไปถึงการกระทำที่ได้ปฏิบัติไปเกินภารกิจหน้าที่ของตน ให้บุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรการและฝ่ายวิชาการได้อุปโภคเอกสิทธิ์ ที่ได้ระบุไว้ในข้อ 36 วรรค 1 ในส่วนที่เกี่ยวกับสิ่งของที่ได้นำเข้าเมื่อเข้ารับหน้าที่ครั้งแรกด้วย 3. บุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริการของคณะผู้แทนซึ่งไม่ใช่คนในชาติของรัฐผู้ รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับให้ได้อุปโภคความคุ้มกัน ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่ได้ปฏิบัติตามภารกิจหน้าที่ตน การยกเว้นจากค่าภาระผูกพันรวมทั้งภาษีสำหรับค่าบำเหน็จที่ตนได้รับโดยเหตุผล จากการรับจ้างของตน และการยกเว้นที่ได้บรรจุไว้ในข้อ 33 4. คนรับใช้ส่วนตัวของบุคคลในคณะผู้แทน ถ้าไม่ใช่คนในชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ประจำในรัฐผู้รับ ให้ได้รับการยกเว้นจากค่าภาระผูกพัน หรือภาษีสำหรับค่าบำเหน็จที่เขาได้รับโดยเหตุผลจากการรับจ้างของตนในส่วน อื่น คนรับใช้ส่วนตัวเช่นว่านี้ อาจได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเท่าที่รัฐผู้รับยอมให้เท่านั้น อย่างไรก็ดี รัฐผู้รับต้องใช้อำนาจของตนเหนือบุคคลเช่นว่านี้ ในการที่จะไม่แทรกสอดโดยไม่สมควรในการปฏิบัติการหน้าที่ของคณะผู้แทน [การทูต] | Political Offenses | ความผิดทางการเมือง หลักการข้อหนึ่งของการส่งตัวผู้กระทำความผิดไปให้อีก ประเทศหนึ่ง หรือที่เรียกว่าการส่งผู้ร้ายข้ามแดน คือ ผู้ที่กระทำผิดทางการเมืองจะถูกส่งข้ามแดนไปให้อีกประเทศหนึ่งไม่ได้เป็นอัน ขาด แต่อย่างไรก็ดี มีปัญหาในปฏิบัติคือว่า จะแยกความแตกต่างกันอย่างไรระหว่างความผิดทางการเมือง กับที่มิใช่ด้วยเหตุผลทางการเมือง นักวิชาการบางท่านนิยามความหมายของคำว่าความผิดทางการเมืองไว้ว่า คือ ความผิดฐานกบฏ (Treason) ซึ่งในกฎหมายของหลายประเทศหมายถึงการประทุษร้าย หรือพยายามประทุษร้ายต่อประมุขของประเทศ หรือช่วยฝ่ายศัตรูทำสงครามกับประเทศของตน ความผิดฐานปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบภายในประเทศ (Sedition) หรือการประกอบจารกรรม (Espionage) อันเป็นการคุกคามต่อความั่นคงหรือต่อระบบการปกครองของประเทศผู้ร้องขอ (หมายถึงประเทศที่ร้องขอให้ส่งตัวผู้กระทำผิดไปให้ในลักษณะผู้ร้ายข้ามแดน) ไม่ว่าจะกระทำโดยคนเดียวหรือหลายคนก็ตาม [การทูต] | self-governing country | ประเทศที่ปกครองตนเอง [การทูต] | State Peace and Development Council | สภาเพื่อสันติภาพและการพัฒนาแห่งรัฐ เป็นองค์กรปกครองสูงสุดของพม่าในปัจจุบัน เดิมมีชื่อว่าสภาฟื้นฟูกฎหมายและระเบียบแห่งรัฐ (SLORC - State Law and Order Restoration Council) อันเป็น กลุ่มทหารพม่าที่เข้ายึดอำนาจการปกครองในวันที่ 18 กันยายน 2531 ภายหลังจากที่ประชาชนชาวพม่าได้ออกมาเดินขบวนประท้วงรัฐบาลภายใต้การนำของ พรรคโครงการสังคมนิยมพม่า การเข้ายึดอำนาจรัฐในครั้งนั้นเป็นไปอย่างนองเลือดและคณะทหารดังกล่าวได้ให้ สัญญาว่าจะจัดให้มีการเลือกตั้ง แต่ภายหลังการเลือกตั้งในวันที่ 27 พฤษภาคม 2533 SLORC กลับปฏิเสธที่จะมอบอำนาจการปกครองให้แก่พรรค National League for Democracy (NLD) และเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2540 SLORC ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น SPDC [การทูต] | United Nations University | มหาวิทยาลัยสหประชาชาติ จัดตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1973 ตั้งอยู่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เป็นสถาบันอิสระที่บริหารปกครองตนเองภายในโครงร่างของสหประชาชาติ เรียกได้ว่าเป็นสถาบันการศึกษาที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือ ระหว่างประเทศในเชิงวิชาการ ในอันที่จะมีส่วนช่วยเหลือเกื้อกูลต่อการแก้ปัญหาเร่งด่วนต่าง ๆ ของโลก มหาวิทยาลัยนี้มีลักษณะไม่เหมือนกับมหาวิทยาลัยอื่นทั่ว ๆ ไป ทั้งในด้านโครางสร้างและแบบอย่างการดำเนินงาน กล่าวคือ ไม่มีนิสิตนักศึกษาของตนเอง ไม่มีคณะในมหาวิทยาลัย และไม่มีบริเวณมหาวิทยาลัย (campus) ดำเนินงานภายในเครือข่ายของสถาบันวิจัยและวิชาการต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้งศูนย์ฝึกและศูนย์วิจัยของตนเอง ทั้งยังรวมไปถึงผู้คงแก่เรียนเป็นรายบุคคลด้วย ทั้งนี้ เพื่อร่วมกันหาทางแก้ปัญหาต่าง ๆ ของโลกเป็นจุดสำคัญเรื่องที่มหาวิทยาลัยสหประชาชาติกำลังกังวลและสนใจอยู่ใน ขณะนี้ คือ เรื่องเกี่ยวกับค่านิยมของมนุษย์ทั่วโลก รวมทั้งความรับผิดชอบทั้งหลายที่มนุษย์ทั่วโลกจะพึงมี เรื่องทิศทางใหม่ ๆ ในภาวะเศรษฐกิจที่กลังปรากฏอยู่ในโลก รวมทั้งเรื่องความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และวิทยาการทางเทคโนโลยีเรื่องพลัง ที่ทำให้เกิดความผันแปรระหว่างพลเมืองของโลก ตลอดจนเรื่องสวัสดิภาพและความเป็นอยู่ของมนุษย์ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ยังมุ่งหมายที่จะช่วยเพิ่มพูนศักยภาพในการวิจัย และการฝึกในประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลายด้วย และภายในมหาวิทยาลัยเองก็กำลังสนใจด้านวิจัยและการฝึกฝนในบางเรื่องโดยเฉพาะ [การทูต] | Waiver of Immunity | การสละความคุ้มกันทางการทูต ในเรื่องนี้บางประเทศออกกฎไว้ว่า ความคุ้มกันจากอำนาจทั้งทางแพ่งหรืออาญาของผู้แทนทางการทูตที่ประจำอยู่ใน ประเทศผู้รับ ตามที่กฎหมายระหว่างประเทศได้มอบให้ รวมทั้งคณะเจ้าหน้าที่ทางการทูตและบุคคลในครอบครัวของเขานั้น ย่อมสละมิได้ นอกจากจะได้รับความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่าง ประเทศของผู้นั้น เหตุผลของการออกกฎข้อนี้เป็นเพราะเขาถือว่า ความคุ้มกันนั้นมิได้เกี่ยวกับตัวเจ้าหน้าที่โดยตรงหากแต่เกี่ยวกับตำแหน่ง หน้าที่ของเขามากกว่าเรื่องการสละความคุ้มกันข้างต้น อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตรา 32 ว่า?1. ความคุ้มกันจากอำนาจศาลของตัวแทนทางการทูตและของบุคคลที่อุปโภคความคุ้มกัน ภายใต้ขอ้ 37 อาจสละได้โดรัฐผู้ส่ง 2. การสละต้องเป็นที่ชัดแจ้งเสมอ 3. การริเริ่มคดีโดยตัวแทนทางการทูต หรือโดยบุคคลที่อุปโภคความคุ้มกันจากอำนาจศาลภายใต้ข้อ 37 จะกันตัวแทนทางการทูตหรือบุคคลนั้นจากการอ้างความคุ้มกันของอำนาจศาล ในส่วนที่เกี่ยวกับการฟ้องแย้งที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการเรียกร้องสิทธิ สำคัญนั้น 4. การสละความคุ้มกันจากอำนาจศาลในส่วนที่เกี่ยวกับคดีแพ่งหรือคดีปกครอง ไม่ให้ถือว่ามีนัยเป็นการสละความคุ้มกันในส่วนที่เกี่ยวกับการบังคับคดีตาม คำพิพากษา ซึ่งจำเป็นต้องมีการสละต่างหากอีก? [การทูต] | Work of the United Nations for the Independence of Colonial Peoples | งานขององค์การสหประชาชาติ ในการช่วยให้ชาติอาณานิคมทั้งหลายได้รับความเป็นเอกราช นับตั้งแต่เริ่มตั้งองค์การสหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ.1945 เป็นต้นมา มีชนชาติของดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเอง รวมทั้งดินแดนในภาวะทรัสตีตามส่วนต่าง ๆ ของโลก ได้รับความเป็นเอกราชไปแล้วไม่น้อยกว่า 170 ล้านคน ดินแดนที่แต่ก่อนยังไม่มีฐานะปกครองตนเองราว 50 แห่งได้กลายฐานะเป็นรัฐเอกราช มีอธิปไตยไปแล้ว ขณะนี้ยังเหลือดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเองอีกไม่มาก กำลังจะได้รับฐานะเป็นประเทศเอกราชต่อไปแม้ว่าปัจจัยสำคัญที่สุดซึ่งทำให้ เกิดวิวัฒนาการอันมีความสำคคัญทางประวัติศาสตร์ จะได้แก่ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของประชาชนในดินแดนเมืองขึ้นทั้งหลาย แต่องค์การสหประชาชาติก็ได้แสดงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนชนชาติ ที่ยังมิได้เป็นเอกราช และชาติที่ยังปกครองดินแดนเหล่านั้นอยู่ ให้รีบเร่งที่จะให้ชาชาติในดินแดนเหล่านั้นได้รับฐานะเป็นเอกราชโดยเร็วที่ สุดเท่าที่จะเป็นไปได้การที่องค์การสหประชาชาติมีบทบาทหน้าที่ดังกล่าวเพราะ ถือตามหลักแห่งความเชื่อศรัทธาที่ว่า มนุษย์ไม่ว่าชายหรือหญิง และชาติทั้งหลายไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกัน และได้ยืนยันความตั้งใจอันแน่วแน่ของประเทศสมาชิกที่จะใช้กลไกระหว่างประเทศ ส่งเสริมให้ชนชาติทั้งหลายในโลกได้ประสบความก้าวหน้าทั้งในทางเศรษฐกิจและ สังคมนอกจากนั้น เพื่อเร่งรัดให้ชนชาติที่ยังอยูใต้การปกครองแบบอาณานิคมได้ก้าวหน้าไปสู่ เอกราช สมัชชาของสหประชาชาติ (General Assembly of the United Nations) ก็ได้ออกปฏิญญา (Declaration) เกี่ยวกับการให้ความเป็นเอกราชแก่ประเทศและชนชาติอาณานิคม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 ซึ่งในปฏิญญานั้น ได้ประกาศยืนยันความจำเป็นที่จะให้ลัทธิอาณานิคมไม่ว่าในรูปใด สิ้นสุดลงโดยเร็วและปราศจากเงื่อนไขใด ๆ สมัชชายังได้ประกาศด้วยว่า การที่บังคับชนชาติอื่นให้ตกอยู่ใต้อำนาจการปกครอง แล้วเรียกร้องประโยชน์จากชนชาติเหล่านั้น ถือว่าเป็นการปฏิเสธไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชนขั้นมูลฐาน เป็นการขัดกับกฎบัตรของสหประชาชาติ เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือของโลกสมัชชาสหประชาชาติ ยังได้ประกาศต่อไปว่า จะต้องมีการดำเนินการโดยด่วนที่สุด โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อสงวนใด ๆ ตามเจตนารมณ์ ซึ่งแสดงออกอย่างเสรี โดยไม่จำกัดความแตกต่างในเรื่องเชื้อชาติ หลักความเชื่อถือ หรือผิว เพื่อให้ดินแดนทั้งหลายที่ยังไม่ได้มีการปกครองของตนเองเหล่านั้นได้รับความ เป็นเอกราชและอิสรภาพโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1961 สมัชชาสหประชาชาติก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อตรวจดูและให้มีการปฏิบัติให้เป็นตามคำปฏิญญาของสหประชาชาติ และถึงสิ้นปี ค.ศ. 1962 คณะกรรมการดังกล่าวได้ประชุมกันหลายต่อหลายครั้งทั้งในและนอกสำนักงานใหญ่ ขององค์การสหประชาชาติ แล้วรวบรวมเรื่องราวหลักฐานจากบรรดาตัวแทนของพรรคการเมืองทั้งหลาย จากดินแดนที่ยังไม่ได้รับการปกครองตนเอง แล้วคณะกรรมการได้ตั้งข้อเสนอแนะต่าง ๆ โดยมุ่งจะเร่งรัดให้การปกครองอาณานิคมสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ [การทูต] | Autonomy | ความต้องการที่จะปกครองตนเอง, การกระทำโดยอิสระ, การรู้จักควบคุมตนเอง, ความเป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเอง [การแพทย์] | Foster Home | บ้านที่มีผู้ทำหน้าที่เป็นผู้ปกครอง [การแพทย์] | สุขภาพจิตสถานศึกษา | สุขภาพจิตสถานศึกษา, การดำเนินงานสุขภาพจิตทุก ๆ มิติงาน โดยเน้นที่สถานศึกษาทั้งระดับอนุบาล ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อาชีวศึกษา อุดมศึกษา ซึ่งมีกลุ่มคนหลากหลายที่จะดำเนินงานและแตกต่างตามสถานะหรือบทบาทของกลุ่มคน นั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น เด็ก นักเรียน นักศึกษา พ่อแม่ผู้ปกครอง เป็นต้น [สุขภาพจิต] | สุขภาพจิตครอบครัว | สุขภาพจิตครอบครัว, การดำเนินงานสุขภาพจิตทุก ๆ มิติงาน โดยเน้นที่ครอบครัว ซึ่งมีกลุ่มคนหลากหลายวัยที่จะดำเนินงาน แตกต่างตามสถานะหรือบทบาทของกลุ่มคนนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น วัยเด็ก เยาวชน วัยรุ่น วัยทำงาน วัยผู้ใหญ่ วัยสูงอายุ วัยชรา หรือ ลูกหลาน พ่อแม่ ผู้ปกครอง ปู่ยาตายาย เป็น [สุขภาพจิต] | Government, Patient | กลุ่มปกครอง [การแพทย์] |
| Hynkel ruled the nation with an iron fist. | เฮนเคิลได้ปกครองประเทศ ด้วยผเด็จการ The Great Dictator (1940) | Even now my voice is reaching millions, millions of despairing men, women and children, victims of a system that makes men torture and imprison innocent people. | แม้ขณะนี้ เสียงของผมคนเพียงล้านที่ได้ยิน ล้าน ผู้ชาที่สิ้นหวัง ผู้หญิง และ เด็ก ที่ตกเป็นเหยื่อของการปกครอง ที่ทำให้ผู้คนเจ็บปวด The Great Dictator (1940) | This, I have always thought, is a remarkable thing about democracy. | นี้ผมได้คิดอยู่เสมอเป็นสิ่งที่น่าทึ่งเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตย 12 Angry Men (1957) | There it was for them, a crusade against tyranny... | รณรงค์ต่อต้านการปกครอง แบบเผด็จการ How I Won the War (1967) | I was beginning to forget what democracy means. | สิ่งที่หมายถึงการปกครอง ระบอบประชาธิปไตย มันเป็นสะพานที่ยอดเยี่ยม How I Won the War (1967) | What does a Bolshevik do when he dives into the Red Sea? | พวกสังคมนิยมที่เข้าปกครองรัสเซทำ when he ดำน้ำเข้าไปในทะเลสีแดงทำอะไร? Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | You don't know what a Bolshevik does? | คุณไม่มีอะไรรู้พวกสังคมนิยมที่เข้าปกครองรัสเซทำ? Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | In various apparel Flora reigns | ในพืชของเขตหนึ่งโดยเฉพาะเครื่องนุ่งห่มต่างๆมีการปกครองโดยกษัตริย์ Salò, or the 120 Days of Sodom (1975) | The county took a tax assessment of this property last month. | เขตปกครองทำการประเมินค่าภาษีของที่ดินผืนนี้เมื่อเดือนที่แล้ว The Blues Brothers (1980) | That money's got to be in the Cook County Assessor's Office within 11 days. | เงินนั้นจะต้องอยู่ในที่ทำงานผู้ประเมินเขตปกครองคูคภายใน11วัน The Blues Brothers (1980) | State County Municipal Offender Data System. | จังหวัด เขตปกครอง เทศบาล ผู้กระทำความผิดในระบบข้อมูล The Blues Brothers (1980) | Or that oatmeal at the Cook County slammer. | หรือข้าวโอ๊ตบดหยาบๆนั้นที่คุกเขตปกครองคูค The Blues Brothers (1980) | I want all party members in the tristate district... to monitor the city, county and state police on their CBs. | ผมต้องการสมาชิกทั้งหมดใน3จังหวัด ตรวจตำรวจในเมือง, เขตปกครองและจังหวัดกับซีบีสของพวกเขา The Blues Brothers (1980) | So far we covered Lake, McHenry... and part of Du Page County. | ถึงเวลานี้เราได้ผ่านพ้น แลยค มึคเฮมรี และส่วนของเขตปกครอง ดูเพจ The Blues Brothers (1980) | Then we gotta figure out some way to collect that gate money... get it to the County Assessor's office as soon as they open in the morning. | เราต้องกำหนดว่าจะได้เงินค่าผ่านประตูเท่าไร ให้ผู้ประเมินเขตปกครองเมื่อพวกเขาเปิดในตอนเช้า The Blues Brothers (1980) | Sir, where's the office of the assessor of Cook County? | ที่งานของผู้ประเมินของเขตปกครองคูคอยู่ที่ไหน The Blues Brothers (1980) | Warden threw a party in the county jail | พัศดีกินเลี้ยงสังสรรค์ในคุกเขตปกครอง The Blues Brothers (1980) | I am the monarch of the sea I am the ruler of the... | ฉันเป็นพระราชาแห่งทะเล ฉันเป็นเจ้าผู้ปกครอง... Indiana Jones and the Raiders of the Lost Ark (1981) | Mahatma Gandhi was not the commander of armies nor a ruler of vast lands. | มหาตมะ คานธี ไม่ใช่ผู้บัญชาการกองทัพ หรือผู้ปกครองดินแดนกว้างใหญ่ Gandhi (1982) | India wants home rule. | อินเดียต้องการ ปกครองตัวเอง Gandhi (1982) | India demands home rule! | อินเดีย เรียกร้องการปกครองตัวเอง Gandhi (1982) | If we have home rule that'll change. | ถ้าเราปกครองตัวเอง มันจะเปลี่ยนไป Gandhi (1982) | Why should the British grant us home rule? | ทำไมอังกฤษถึงจะให้เราปกครองตัวเอง Gandhi (1982) | I too have read Mr. Gandhi's writings but I'd rather be ruled by an Indian terrorist than an English one. | ผมก็ได้อ่านงานเขียนของคุณคานธีแล้ว แต่ผมยอมถูกปกครองโดย ผู้ร้ายอินเดียดีกว่าผู้ร้ายอังกฤษ Gandhi (1982) | I won't watch the mastery of the British replaced by the mastery of the Hindus. | ผมไม่ยอมทนเห็นการปกครองถูกเปลี่ยน จากอังกฤษมาเป็นฮินดู Gandhi (1982) | His Supreme Highness, guardian of Pankot tradition, the Maharaja of Pankot, | เขาศาลฎีกาเสด็จ, ผู้ปกครองของ Pankot ประเพณี มหาราชาแห่ง Pankot, Indiana Jones and the Temple of Doom (1984) | Thus, the aristocrats control the lowly humans. | เป็นความจริงที่ ราชวงศ์รัตติกาล ปกครองพวกชั้นต่ำ Vampire Hunter D (1985) | Poor humans live their small lives while aristocrats like us... rule their land. | เหล่ามนุษย์ผู้น่าสมเพช อาศัยในเมืองเล็กๆ ขณะที่ราชสกุลเช่นเรา ปกครองเมืองของเขา Vampire Hunter D (1985) | I pledge allegiance to the flag... of the United States of America... and to the Republic for which it stands, one nation... | ข้าขอแสดงความ จงรักภักดีต่อธง... แห่งประเทศ สหรัฐอเมริกา... และต่อสาธารณรัฐ ในปกครอง An American Tail (1986) | If they think you're with me, they'll be the happiest parents at Kellerman's. | ถ้าท่านรู้ว่าคุณอยู่กับผม ท่านจะเป็น ผู้ปกครองที่มีความสุขที่สุดในรีสอร์ทเลย Dirty Dancing (1987) | He thinks I'm at a P.T.A. meeting. | เขานึกว่าฉันประชุมผู้ปกครอง Punchline (1988) | Come on, honey, wash up. We got the PTA meeting after dinner. | เร็วเข้า ที่รัก เราต้องไปงานประชุมผู้ปกครอง Field of Dreams (1989) | No parent? | ในผู้ปกครองหรือไม่ Teenage Mutant Ninja Turtles (1990) | Puppet ruler want a cracker? Here's your cracker. Shove 'em all right down your throat. | ผู้ปกครองหน้าโง่อยากได้ ขนมปังกรอบรึ เอานี่ กลืนมันลงไป เอานี่ เยอะๆเลย Aladdin (1992) | For the ruler of this Christmasland | สำหรับผู้ปกครองของเมืองแห่งคริสมาสต์ The Nightmare Before Christmas (1993) | "The path of the righteous man... is beset on all sides by the inequities of the selfish... and the tyranny of evil men. | "เส้นทางของคนชอบธรรม ... จะรุมเร้าทุกด้านโดยไม่เสมอภาคของความเห็นแก่ตัว ... และการปกครองแบบเผด็จการของคนชั่ว Pulp Fiction (1994) | - and the tyranny of evil men. | - และการปกครองแบบเผด็จการของคนชั่ว Pulp Fiction (1994) | "The path of the righteous man is beset on all sides... by the inequities of the selfish... and the tyranny of evil men. | "เส้นทางของคนชอบธรรมถูกรุมเร้าทุกด้าน ... โดยไม่เสมอภาคของความเห็นแก่ตัว ... และการปกครองแบบเผด็จการของคนชั่ว Pulp Fiction (1994) | The truth is, you're the weak... and I'm the tyranny of evil men. | ความจริงก็คือ คุณอ่อนแอ ... และฉันปกครองแบบเผด็จการของคนชั่ว Pulp Fiction (1994) | I'll let you live. But we rule now! | เราเคยเป็นเพื่อนกัน ข้าจะให้แกมีชีวิตอยู่แต่เราปกครองแล้วขณะนี้ Rapa Nui (1994) | Well, the regime that took over Gavel after the revolution demands financial aid supposedly for redevelopment. | , ได้สิ, เรื่องระบอบการปกครอง ของแกเวลภายหลังการปฏิวัติด้านเศรษฐกิจ.. , ...คิดว่าคงจะเพื่อการกลับมาพัฒนากันอีกครั้ง Ghost in the Shell (1995) | You came to meet the parents of the boy Barbara wants to marry. | คุณมาเพื่อตอบสนองพ่อแม่ผู้ปกครองของเด็กบาร์บาร่าอยากจะแต่งงานกับ The Birdcage (1996) | We were celebrating the 300th anniversary of our family's rule. | เรากำลังฉลองครบรอบ 300 ปี ของการปกครอง Anastasia (1997) | ...that you are unfit guardians and he should be removed to a suitable place for his moral and educational upbringing. | ...ว่าคุณไม่ใช่ผู้ปกครองทีเหมาะสม และเขาต้องถูกส่งไปยัง ที่ๆ เหมาะสมสำหรับการอบรม จริยธรรมและเพื่อการศึกษา The Education of Little Tree (1997) | In that country, under that system, staggering. | ในประเทศนั้น ภายใต้ระบบการปกครองแบบนั้น น่าทึ่งมาก The Jackal (1997) | A huge boar-god. He ruled the forest around here. | ใหญ่หมูป่าพระเจ้า เขาปกครองป่ารอบ ๆ ที่นี่ Princess Mononoke (1997) | Watch out. Lady Eboshi wants to rule the country. | ระวัง เลดี้ Eboshi อยากจะปกครองประเทศ Princess Mononoke (1997) | "It may happen that, in Tibet, religions and government... will be attacked by outside forces. | "ศาสนาและการปกครองในทิเบต ...จะถูกโจมตีจากภายนอก... Seven Years in Tibet (1997) | Chairman Mao vowed that the first task of the Communist regime... is to reunite the Chinese motherland. | ประธานเหมากล่าวคำปฏิญาณว่างานแรก ภายใต้การปกครองระบอบสังคมนิยม คือการรวบรวมแผ่นดินจีน ทั้งหมดเข้าด้วยกัน Seven Years in Tibet (1997) | People's Republic of China is advised... the government of Tibet recognizes no foreign sovereign. | เราขอเสนอต่อ สาธารณรัฐประชาชนจีนว่า รัฐบาลทิเบตจะไม่ยอมรับ การกุมอำนาจปกครองโดยต่างชาติ Seven Years in Tibet (1997) |
| อำนาจการปกครอง | [amnāt kān pokkhrøng] (n, exp) EN: administrative power | ชนชั้นปกครอง | [chonchan pokkhrøng] (n, exp) EN: governing class; ruling class FR: classe régnante [ f ] | ฝ่ายปกครอง | [fāi pokkhrøng] (n, exp) EN: administration | การดำเนินคดีในด้านการปกครอง | [kān damnoēnkhadī nai dān kān pokkhrøng] (n, exp) EN: administrative court | การปกครอง | [kān pokkhrøng] (n) EN: administration ; rule ; government FR: administration [ f ] ; gouvernance [ f ] | การปกครองบ้านเมือง | [kān pokkhrøng bānmeūang] (n, exp) FR: administration [ f ] | การปกครองโดยเสียงข้างมาก | [kān pokkhrøng dōi sīeng khāngmāk] (n, exp) EN: majority rule | การปกครองตนเอง | [kān pokkhrøng ton-ēng] (n, exp) EN: autonomy FR: autonomie [ f ] | เขตการปกครอง | [khēt kān pokkhrøng] (n, exp) EN: administrative district | เขตปกครองตนเอง | [khēt pokkhrøng ton-ēng] (n, exp) EN: autonomous region FR: région autonome [ f ] | ความเป็นผู้ปกครอง | [khwām pen phūpokkhrøng] (n, exp) EN: guardianship | เกี่ยวกับการปกครองบ้านเมือง | [kīokap kān pokkhrøng bānmeūang] (adj) FR: administratif | กฎหมายปกครอง | [kotmāi pokkhrøng] (n, exp) EN: administrative law ; public laws FR: loi administrative [ f ] | กฎหมายปกครองเปรียบเทียบ | [kotmāi pokkhrøng prīepthīep] (n, exp) EN: comparative administrative law | หน่วยการปกครอง | [nūay kān pokkhrøng] (n, exp) EN: administrative unit FR: division administrative [ f ] | พื้นที่ปกครอง | [pheūnthī pokkhrøng] (n, exp) EN: administrative area FR: domaine administratif [ m ] | ผู้ปกครอง | [phūpokkhrøng] (n) EN: protector ; guardian ; legal guardian ; conservator | ผู้ปกครอง | [phūpokkhrøng] (n) EN: parent | ผู้ปกครอง | [phūpokkhrøng] (n) EN: ruler ; governor ; leader ; president | ผู้ปกครองเด็ก | [phūpokkhrøng dek] (n, exp) EN: parents ; guardian of a child | ผู้อยู่ในปกครอง | [phū yū nai pokkhrøng] (n, exp) EN: ward | เปลี่ยนแปลงการปกครอง | [plīenplaēng kān pokkhrøng] (n, exp) EN: change of government ; change of regime ; coup d'état ; revolution FR: changement de régime [ m ] | เปลี่ยนแปลงการปกครอง | [plīenplaēng kān pokkhrøng] (v, exp) EN: change governments FR: changer de gouvernement | ปกครอง | [pokkhrøng] (v) EN: rule ; rule over ; administer ; govern ; administrate ; dominate ; reign FR: régner ; gouverner ; administrer ; statuer | ปกครองประเทศ | [pokkhrøng prathēt] (v, exp) EN: rule a country ; sway a nation ; administer a country FR: gouverner un pays | ปกครองประเทศโดยอาศัยอำนาจกฎอัยการศึก | [pokkhrøng prathēt dōi āsai amnāt kot aiyakānseuk] (v, exp) EN: rule the country by resorting to martial law | ระบบการปกครอง | [rabop kān pokkhrøng] (n, exp) EN: system of government | ศาลปกครอง | [sān pokkhrøng] (n, exp) EN: administrative court ; administrative tribunal FR: juridiction administrative [ f ] ; tribunal administratif [ m ] | ตามลักษณะการปกครอง | [tām laksana kān pokkhrøng] (adv) FR: administrativement | ตำรวจทางปกครอง | [tamrūat thāng pokkhrøng] (n, exp) FR: police administrative [ f ] | ทางปกครอง | [thāng pokkhrøng] (adj) EN: administrative FR: administratif |
| PTA | (n) ย่อมาจาก Parents Teacher Associationแปลว่า สมาคมครูผู้ปกครอง เช่น The Bangkok PTA (Parent Teacher Association) works to help every child realize his/her full potential through programs and advocacy. | payroll tax | (n) เงิน (ภาษี) ส่วนหนึ่งที่หักได้จากเงินเดือนหรือค่าจ้าง และอีกส่วนจากนายจ้าง รัฐบาลหรือส่วนการปกครองท้องถิ่นเก็บเงิน (ภาษี) ส่วนนี้เพื่อเป็นค่าสวัสดิการสังคมสงเคราะห์ต่างๆ เช่น ค่ารักษาพยาบาล (เมื่ออายุมาก) ค่าชดเชยหรือใช้จ่ายขณะว่างงาน เป็นต้น | Good Governance | (n) ธรรมาภิบาล, หลักการที่นำมาใช้บริหารงานปกครองในปัจจุบัน เช่น We regard "good governance" as such that should help countries to achieve sustainable and self-reliant development and social justice. |
| aedile | (n) เจ้าหน้าที่ปกครอง (ในสมัยโรมัน) | aristocracy | (n) การปกครองโดยชนชั้นสูง | aristocracy | (n) ประเทศหรือรัฐที่ปกครองโดยชนชั้นสูง | aristocrat | (n) ผู้ที่สนับสนุนการปกครองโดยคนชั้นสูง | autocrat | (n) ผู้มีอำนาจเด็ดขาด, See also: ผู้ปกครองที่มีอำนาจเด็ดขาด, Syn. dictator, despot, absolute ruler | autonomous | (adj) ซึ่งปกครองตนเอง, Syn. self governing, self-ruling | autonomy | (n) การปกครองตนเอง, See also: เอกราช, Syn. self government | bishop | (n) ตำแหน่งบาทหลวงที่มีอำนาจปกครองบาทหลวงอื่นๆ, See also: แต่มีชั้นต่ำกว่า archbishop ซึ่งเป็นตำแหน่งบาทหลวงสูงสุด, Syn. prelate | borough | (n) เมืองเล็กๆ ที่ปกครองตนเอง, Syn. precinct | Caesar, Julius | (n) จักรพรรดิของอาณาจักรโรมันที่ปกครองในช่วง 100-44 ปีก่อนคริสตศักราช, Syn. Caesar, Gaius Julius | canton | (n) หน่วยการปกครองเล็กๆ หน่วยหนึ่ง (โดยเฉพาะในสวิตเซอร์แลนด์และฝรั่งเศส) | centralism | (n) การปกครองหรือควบคุมจากศูนย์กลาง | chain of command | (n) การปกครองแบบระดับขั้นลดหลั่นลงมา | commonwealth | (n) ประเทศหรือรัฐที่ปกครองตนเอง, Syn. republic, federation | county | (n) เขตปกครอง, Syn. division, admistrative | crown | (n) กษัตริย์, See also: ผู้ปกครอง | democracy | (n) การปกครองแบบประชาธิปไตย, See also: ระบอบประชาธิปไตย, ประเทศที่ปกครองด้วยระบอบประชาธปไตย, Syn. republic commonwealth | democrat | (n) นักประชาธิปไตย, See also: ผู้นิยมการปกครองในระบบประชาธิปไตย, Syn. independent, populist | dictatorship | (n) ระบบเผด็จการ, See also: การปกครองแบบเผด็จการ, Syn. despotism, autarchy | dictatorship | (n) รัฐบาลที่ปกครองแบบเผด็จการ | diocesan | (adj) เกี่ยวกับเขตการปกครองของ bishop, See also: เกี่ยวกับโบสถ์, เป็นของโบสถ์ | diocese | (n) เขตการปกครองของ bishop, See also: โบสถ์ที่อยู่ภายใต้การดูแลของพระ bishop, Syn. episcopate, prelacy, benefice, bishopric | dominance | (n) การปกครอง, See also: สภาวะการครอบครอง, อำนาจ, Syn. supermacy | dominate | (vt) ปกครอง, See also: ควบคุม, ครอบงำ, มีอิทธิพลต่อ, มีอำนาจเหนือ, Syn. govern, rule, overshadow | dominate | (vi) ปกครอง, See also: ควบคุม, ครอบงำ, มีอิทธิพลต่อ, มีอำนาจเหนือ, Syn. govern, rule, overshadow | dominion | (n) การควบคุม, See also: การปกครอง, อำนาจปกครอง, Syn. authority, control, power, rule, Ant. anarchy, bondage | dominion | (n) อาณาจักรปกครอง, See also: ดินแดนที่ครอบครอง, Syn. possession, empire, kingdom | dyarchic | (adj) ที่เกี่ยวกับการปกครองที่ใช้ 2 กฎ | dyarchy | (n) การปกครองที่ใช้ 2 กฎ | dynast | (n) ผู้ปกครอง, See also: กษัตริย์ | elitism | (n) การปกครองโดยกลุ่มคนที่ร่ำรวยและมีอภิสิทธิเหนือคนอื่น | elope | (vi) (หญิงชาย) หนีตามกันไปโดยไม่แต่งงานหรือขออนุญาตจากผู้ปกครอง, See also: หนีตามผู้ชายไป, Syn. run off, slip out | emir | (n) ผู้ปกครองในประเทศอิสลามบางประเทศ, See also: ประมุข, ผู้นำในประเทศอิสลามบางประเทศ | episcopacy | (n) การปกครองคณะสงฆ์โดยสังฆนายก เช่น ในศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก, Syn. bishopric | episcopate | (n) เขตปกครองหรือเขตรับผิดชอบของสังฆนายก, Syn. episcopacy | fasces | (n) มัดไม้ที่หุ้มขวานที่มีใบขวานโผล่ออกมา, See also: สัญลักษณ์การมีอำนาจของผู้ปกครองชั้นสูงของกรุงโรมโบราณ | govern | (vt) ปกครอง, See also: วางระเบียบ, ควบคุม, บังคับ, Syn. dominate, rule, supervise | governess | (n) นักปกครองหญิง (คำเก่า) | governing | (adj) ซึ่งมีสิทธิปกครอง | government | (n) รัฐบาล, See also: คณะผู้ปกครอง, ฝ่ายปกครอง, ฝ่ายบริหาร | governmental | (adj) แห่งการปกครอง, See also: ทางการ, ทางราชการ, เกี่ยวกับรัฐบาล | governor | (n) ผู้ว่าการรัฐ, See also: ผู้ปกครอง, ข้าหลวง, ผู้ควบคุม, เจ้าเมือง, Syn. director, officer, ruler | governorship | (n) ตำแหน่ง และอำนาจหน้าที่ของผู้ปกครอง | grand duke | (n) ผู้ปกครองเมืองรองจากพระมหากษัตริย์ | guardian | (n) ผู้ปกครอง, Syn. adoptive parent, babysitter | Hittite | (n) ชนชาติหนึ่งในเอเชียสมัยโบราณที่ปกครองดินแดนในเอเชียไมเนอร์และทางเหนือของซีเรีย | imamate | (n) อาณาเขตปกครองของอิหม่าม | imperium | (n) การปกครอง, See also: เขตการปกครอง, เขตอำนาจ, Syn. authority | in loco parentis | (adv) โดยมีอำนาจดูแลแทนพ่อแม่ (คำทางการ), See also: โดยอำนาจของผู้ปกครอง, Syn. by delegated authority | independent | (adj) ซึ่งเป็นอิสระ, See also: ซึ่งปกครองตนเอง, ซึ่งไม่อยู่ในบังคับ, ซึ่งไม่เป็นเมืองขึ้น, ซึ่งเป็นเอกราช, Syn. autonomous, self-governing, free, Ant. dependent |
| anglo-norman | (แอง' โกลนอร์' มัน) adj. เกี่ยวกับสมัย ค.ศ.1066-1155 เมื่ออังกฤษถูกปกครองโดยชาวนอร์มัน, เกี่ยวกับภาษาฝรั่งเศสที่ใช้ในอังกฤษในสมัยดังกล่าว. -n. คนหรือภาษาในสมัยดังกล่าว | archdiocese | (อาร์คได'โอซีส) n. เขตปกครองของ archbishop. -archdiocesan adj. | archduchy | (อาร์ค'ดัชซี) n. เขตปกครองของ archduke หรือ archduchess | aristocracy | (แอริสทอค'คระซี) n. พวกคนชั้นสูง, พวกขุนนาง, คณาธิปไตย, การปกครองที่ผูกขาดโดยหมู่คณะ, การปกครองของขุนนาง, Syn. gentry, nobility, Ant. proletariat | aristocrat | (อะริส'โทแครท) n. คนชั้นสูง, ขุนนาง, ผู้นิยมและสนับสนุนระบอบการปกครองแบบคณาธิปไตย, Syn. noblewoman, nobleman, peer, Ant. plebeian, commoner | aristocratic | (อะริสโทแครท'ทิค, -เคิล) adj. เกี่ยวกับการปกครองที่ผูกขาดโดยหมู่คณะ (คณาธิปไตย) , มีลักษณะของคนชั้นสูง | aristocratical | (อะริสโทแครท'ทิค, -เคิล) adj. เกี่ยวกับการปกครองที่ผูกขาดโดยหมู่คณะ (คณาธิปไตย) , มีลักษณะของคนชั้นสูง | arrondissement | (อะรอน'ดิสเมินทฺ) n., Fr. การบริหารส่วนท้องถิ่น, ท้องถิ่นการปกครอง (ในฝรั่งเศส) | autarchy | (ออ' ทะคี) n. เอกาธิปไตย, รัฐบาลที่ปกครองแบบเอกาธิปไตย. -autarchic (al) adj. -autarchist n., Syn. absolute sovereignty | autocracy | (ออทอค'คระซี) n. อัตตาธิปไตย, เอกาธิปไตย, ผู้มีอำนาจเด็ดขาด, การปกครองโดยผู้มีอำนาจเด็ดขาด, ราชาธิปไตยแบบกษัตริย์ที่มีอำนาจเด็ดขาด, ระบบเผด็จการ. autocratic (al) adj. | autocrat | (ออ'โทแครท) ผู้ปกครองด้วยอำนาจเด็ดขาด, เผด็จการ (tyrant, authoritarian) | autonomous | (ออทอน'โนมัส) adj. เป็นอิสระ, เกิดขึ้นเอง, ปกครองตนเอง, Syn. independent, free, self-reliant, Ant. dependent | autonomy | (ออทอน'โนมี) n. ความอิสระ, การปกครองตนเอง, เอกราช, สิทธิในการปกครองตัวเอง, ชุมชนที่ปกครองตัวเอง. -autonomist n., Syn. independence | bolshevik | (บอล'ชะ วิค) n. พวกสังคมนิยมที่เข้าปกครองรัสเซียตั้งแต่ปี ค.ศ.1917, สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ของรัสเซีย, สมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์, ผู้ที่มีหัวรุนแรง, See also: bolshevism n. ดูBolshevik Bolshevism n. ดูBolshevik Boshevist n. ดูBolshevik bolshevistic | bureaucracy | (บิวรอค'ระซี) n. การปกครองระบบเจ้าขุนมูลนาย, กลุ่มของข้าราชการ, กลุ่มของนักบริหาร, ระบบบริหารที่มีพิธีรีตองมากเกินไป, Syn. civil service, red tape | caliph | (แคล'ลิฟ) n. กาหลีบ, ผู้นำฝ่ายปกครองและศาสนาในประเทศอิสลาม, See also: caliphal adj. ดูcaliph, Syn. calif, kalif, khalif | canton | (แคน'เทิน) n.เขตปกครองเล็ก ๆ vt. จัดแบ่งออกเป็นเขตปกครองเล็ก ๆ, See also: cantonal adj. ดู canton, cantonalism n. ดู canton | clublaw | n. การปกครองด้วยกระบอง, การปกครองแบบใช้อำนาจ | committee | (คะมิท'ที) n. คณะกรรมการ, ผู้ปกครอง, ผู้อนุบาล, See also: committeeship n. | condominium | (คอนดะมิน'เนียม) n. การร่วมกันควบคุมหรือปกครอง, รัฐบาลร่วม, บ้านอพาร์ทเม้นท์ที่ผู้อยู่มีกรรมสิทธิส่วนตัวของแต่ละห้องอาพาร์เม้นท์, ตึกอพาร์ทเม้นท์ดังกล่าว -pl. -niums | congregation | (คองกริเก'เชิน) n. การชุมนุม, กลุ่มคน, คริสต์ศาสนิกชนที่ชุมนุมกันในโบสถ์, See also: congregational adj. ดูcongregation, Syn. assembly, union congregationalism คองกริเก'ชัน นัลลิสซึม n. รูปการปกครองของสงฆ์ที่อิสระ. คำ | constitution | (คอนสทิทิว'เชิน) n. การประกอบขึ้น, การก่อตั้ง, การสถาปนา, ร่างกาย, อุปนิสัย, สันดาน, รัฐธรรมนูญ, ระเบียบข้อบังคับ, รูปแบบการปกครอง, รากฐาน, Syn. composition | constitutional monarchy | n. การปกครองระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ, See also: constitutional monarch กษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ | custodian | (คัสโท'เดียน) n. ผู้ปกครอง, ผู้อารักขา, ผู้ที่เก็บรักษา, See also: custodianship n. ดูcustodian | custody | (คัส'โทดี) n. การอารักขา, การปกครอง, การเก็บรักษา, การควบคุม, การคุมขัง, See also: custodial adj. | cutcherry | n. สถาบันบริหารการปกครอง, สภานิติบัญญัติ | cutchery | n. สถาบันบริหารการปกครอง, สภานิติบัญญัติ | democrat | (เดม'มะแครท) n. ผู้นิยมการปกครองในระบอบประชาธิปไตย, สมาชิกพรรคเดมโมแครท | diocesan | (ไดออส'ซิชัน) adj. เกี่ยวกับเขตปกครองของbishop | diocese | (ได'อะซิส) n. เขตปกครองของbishop | domain | (โดเมน') n. อาณาเขตการปกครอง, อาณาจักร, ที่ดินขอบเขต, กลุ่มของคำ (ในทางคณิตศาสตร์) ของตัวแปรอิสระของ function, See also: domainal, domainial adj., Syn. discipline | dominance | (ดอม'มะเนินซฺ) n. การปกครอง, การมีอำนาจเหนือ, การครอบงำ, ภาวะที่ถูกครอบงำ., See also: dominancy n. ดูdominance, Syn. command, power, rule, authority | dominant | (ดอม'มะเนินทฺ) adj. ซึ่งครอบงำ, มีอำนาจเหนือ, ซึ่งเป็นส่วนสำคัญ, ซึ่งมีบทบาทสำคัญ, ซึ่งปกครอง, เด่น n. ตัวสำคัญ, Syn. superior, major | dominate | (ดอม'มะเนท) vt., vi. ครอบงำ, มีอำนาจเหนือ, มีอิทธิพลเหนือ, ปกครอง, อยู่เหนือ., See also: dominatingly adv. ดูdominate dominator n. ดูdominate | domination | (ดอมมะเน'เชิน) n. การครอบงำ, การมีอำนาจเหนือ, การมีอิทธิพลเหนือ, การปกครอง, การควบคุม, Syn. jurisdiction | domineer | (ดอมมะเนียร์') vi. ปกครองแบบเผด็จการ, ใช้อำนาจเด็ดขาด. vt. ครอบงำ, ควบคุม, Syn. bully | dominion | (ดะมิน'เยิน) n. อำนาจการปกครอง, การปกครอง, การครอบงำ, Syn. authority, government | duchy | (ดัช'ชี) n. ดินแดนในความปกครองของท่านดยุคหรือภรรยาท่านดยุค -pl. duchies | dynast | (ได'เนิสทฺ) n. ผู้ปกครอง (โดยเฉพาะที่มีการสืบทายาท) , กษัตริย์, Syn. ruler | elitism | (อีลิท'ทิสซึม) n. วิธีการปกครองของบุคคลชั้นหัวกะทิ, ความรู้สึกภาคภูมิใจที่เป็นคนชั้นยอด, See also: elitist n. ดูelitism, Syn. elitism. | emperor | (เอม'เพอเรอะ) n. จักรพรรดิ, ผู้ปกครองอาณาจักร., See also: emperorship n. ดูemperor | empery | (เอม'พะรี่) n. อาณาจักร, การปกครองอย่างเด็ดขาด | empire | (เอม'ไพเออ) n. อาณาจักร, จักรวรรดิ, อำนาจเด็ดขาด, การปกครองอย่างเฉียบขาด | father | (ฟา'เธอะ) { fathered, fathering, fathers } n. บิดา, พ่อ, ผู้ปกครอง, พระ, พ่อบุญธรรม, คำเรียกชื่อผู้อาวุโสเพื่อแสดงความเคารพ, ผู้อาวุโสที่สุดของกลุ่ม, ผู้นำของเมือง, ผู้ก่อตั้ง, ผู้มาก่อน, แบบเริ่มแรก -Phr. (the Father พระผู้เป็นเจ้า) . vt. ให้กำเนิด, ริเริ่ม, เป็นพ่อ, ยอมร | federalism | n. ระบบการปกครองแบบสหรัฐหรือสมาพันธรัฐ | federalist | (เฟด'เดอเริลลิสทฺ) n. ผู้นิยมการปกครองในรูปสหรัฐหรือสมาพันธรัฐ. -, See also: federalistic adj. | federate | (เฟด'เดอเรท) vt., vi. จัดให้มีการปกครองในรูปสหรัฐหรือสมาพันธรัฐ. adj. ซึ่งเป็นสหรัฐหรือสมาพันธรัฐ, Syn. federated | free world | n. โลกเสรี, ชาติทั้งหลายที่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์หรืออยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการ | gaddi | (กัด'ดี) n. บัลลังก์, เบาะรองเข่าเวลาสวดมนต์, สภาพของผู้ปกครอง | gadi | (กัด'ดี) n. บัลลังก์, เบาะรองเข่าเวลาสวดมนต์, สภาพของผู้ปกครอง |
| administer | (vt) จัดการ, บริหาร, ปกครอง, อำนวยการ, ให้, เป็นประโยชน์ | administration | (n) การจัดการ, การปกครอง, การบริหาร | administrator | (n) ผู้จัดการ, ผู้บริหาร, เจ้าหน้าที่ปกครอง | autarchy | (n) การปกครองแบบเอกาธิปไตย | autonomous | (adj) อิสระ, เกิดขึ้นเอง, ซึ่งปกครองตนเอง | autonomy | (n) อิสรภาพ, เอกราช, การปกครองตนเอง | bureaucracy | (n) การปกครองระบบเจ้าขุนมูลนาย | committee | (n) คณะกรรมการ, ผู้อนุบาล, ผู้ปกครอง | county | (n) มณฑล, จังหวัด, อำเภอ, เขตการปกครอง | curator | (n) ผู้ดูแล, ผู้ปกครอง, ผู้อนุบาล | custodian | (n) ผู้พิทักษ์, ผู้อารักขา, ผู้ปกครอง, ผู้ดูแล | custody | (n) การพิทักษ์, การดูแล, การอารักขา, การปกครอง | democracy | (n) การปกครองระบอบประชาธิปไตย, ความเสมอภาคทางการเมือง | dictatorship | (n) อำนาจเผด็จการ, การปกครองระบบเผด็จการ | dominance | (n) การครอบงำ, ความมีอำนาจเหนือ, การปกครอง, ความเด่น | dominate | (vt) ครอบครอง, ปกครอง, ครอบงำ, มีอำนาจเหนือ, อยู่เหนือ | domination | (n) การครอบครอง, การปกครอง, การครอบงำ, การควบคุม | domineer | (vi) กดขี่, ขู่เข็ญ, ใช้อำนาจ, บังคับ, ปกครองแบบเผด็จการ | episcopal | (adj) เกี่ยวกับบาทหลวง, ปกครองโดยบาทหลวง | father | (n) พ่อ, บิดา, ผู้ก่อตั้ง, ผู้ปกครอง, หลวงพ่อ, บาทหลวง | federate | (vt) รวมเป็นสหพันธ์, จัดการปกครองแบบสหพันธรัฐ | feudalism | (n) การปกครองระบบศักดินา | govern | (vt) ปกครอง, ดูแล, ครอบครอง, ครอบงำ, บังคับ, ควบคุม | governess | (n) หญิงสอนเด็กตามบ้าน, ผู้ปกครอง(ผู้หญิง) | government | (n) รัฐบาล, คณะปกครอง, การปกครอง, เขตปกครอง, การควบคุม | governmental | (adj) เกี่ยวกับการปกครอง, ของรัฐบาล, เกี่ยวกับรัฐบาล | governor | (n) ผู้ปกครอง, เจ้าเมือง, ข้าหลวง, ผู้ว่าราชการจังหวัด | guardian | (n) ผู้ปกครอง, ผู้คุ้มครอง, ผู้ป้องกัน, ผู้คุ้มกัน, ผู้พิทักษ์ | guardianship | (n) การปกครอง, การคุ้มครอง, การป้องกัน, การคุ้มกัน | hierarchy | (n) การปกครองระบอบเจ้าขุนมูลนาย, การปกครองเป็นลำดับชั้น | HOME home rule | (n) การปกครองตนเอง | junto | (n) พรรคการเมือง, พรรคพวก, คณะปกครอง, คณะผู้ก่อการร้าย | lord | (vt) บังคับบัญชา, ปกครอง, มีอำนาจเหนือ, มีอิทธิพล | lordship | (n) ตำแหน่งท่านลอร์ด, ความเป็นเจ้าของ, เขตการปกครอง | magistracy | (n) คณะเจ้าหน้าที่, คณะผู้พิพากษา, กลุ่มพนักงานปกครอง | magistrate | (n) เจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร, ผู้พิพากษา, นักปกครอง | manage | (vi, vt) จัดการ, ใช้, ควบคุม, ดูแล, ปกครอง, บริหาร, ดำเนินการ, พลิกแพลง | manageable | (adj) จัดการได้, ควบคุมง่าย, ปกครองได้ | management | (n) การปกครอง, การบริหาร, การจัดการ | manager | (n) ผู้จัดการ, ผู้บริหาร, ผู้ควบคุม, ผู้ปกครอง | master | (vt) เป็นนาย, ปกครอง, ควบคุม, ปราบปราม | mastership | (n) การปกครอง, ความเชี่ยวชาญ, ความเป็นนาย, ความมีอำนาจ | mastery | (n) อำนาจปกครอง, ความเชี่ยวชาญ, การบังคับบัญชา, การเรียนรู้ | misgovern | (vt) ปกครองไม่ดี, จัดการไม่ได้ | misgovernment | (n) การปกครองไม่ดี, การจัดการไม่ได้ | misrule | (n) การปกครองไม่ดี, ความไม่มีระเบียบ | misrule | (vt) ปกครองไม่ดี, จัดการไม่ดี | monarchy | (n) การปกครองระบอบราชาธิปไตย | oligarchy | (n) การปกครองลัทธิคณาธิปไตย | overrule | (vt) ปกครอง, บังคับ, ใช้อำนาจเหนือ |
| (d) administrative proceeding | การพิจารณาคดีทางปกครอง | abdicated emperor | (n) จักรพรรดิ, ผู้ปกครองอาณาจักร.-emperorship n. | cathedral | (n) วัดของคริสต์ศาสนาที่มีสังฆราช (bishop) เป็นประมุขและที่เป็นทีตั้งของ “อาสนะสังฆราช” (bishop's cathedra) เป็นสถานที่ทางศาสนาที่ใช้ในการสักการะบูชา (โดยเฉพาะสำหรับนิกายที่มีระบบฐานันดรการปกครองเช่นนิกาย นิกายโรมันคาทอลิก นิกายอีสเติร์นออร์โธด็อกซ์ นิกายอังกลิคัน และ นิกายลูเทอรัน มหาวิหารจะเป็นวัดที่เป็นที่นั่งของสังฆราช (วัดประจำตำแหน่ง) ที่ใช้เป็นศูนย์กลางของสังฆมณฑล (Diocese หรือ See) ที่อยู่ใต้การปกครองของสังฆราชที่กำหนดไว้ | Chief Secretary | (n) เสนาเอก เป็นตำแหน่งข้าราชการพลเรือนฝ่ายปกครองในอาณานิคมของสหราชอาณาจักร | Council of Ministers | "คณะมนตรีบริหาร" เป็นชื่อเรียกรัฐบาลระดับแคว้น รัฐ หรือภูมิภาค คำนี้ปรากฎในบางประเทศที่ใช้ระบอบการปกครองแบบสหพันธรัฐ หัวหน้าคณะมนตรีบริหารมักมีชื่อตำแหน่งว่า "มุขมนตรี" | Department of Provincial Administration | กรมการปกครอง | Deputy Governor | รองข้าหลวง เป็นตำแหน่งข้าราชการพลเรือนฝ่ายปกครองในดินแดนของสหราชอาณาจักร ตำแหน่งนี้ปรากฎเฉพาะอาณานิคมในทวีปอเมริกาเหนือ เทียบได้ตำแหน่งผู้ช่วยข้าหลวง (Lieutenant-Governor) ในอาณานิคมอื่นๆ | Holy see | (org) สันตะสำนัก เป็นสถาบันด้านการปกครองของนครรัฐวาติกัน มีเขตอำนาจทั่วนครรัฐวาติกันและในบางอาสนวิหารนอกวาติกัน | introject | (n) ความคิดหรือสิ่งที่ผู้ปกครองปลูกฝังให้แก่เด็ก | LANNA | (n) ล้านนา คือดินแดนที่มีจำนวนที่นานับล้าน เป็นอาณาจักรที่ตั้งอยู่ในภาคเหนือตอนบนของประเทศไทย ได้แก่จังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน แพร่ พะเยา น่าน ลำพูน และ ลำปาง โดยมีเมืองเชียงใหม่ เป็นราชธานี มีภาษาที่เรียกว่า คำเมือง หรือภาษาเหนือ ตัวหนังสือ ตัวเมือง วัฒนธรรม และ ประเพณี เป็นของตนเอง ก่อนที่จะเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง เป็นระบอบมณฑลเทศาภิบาล ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยมี พระเจ้าอินทวิชยานนท์, พระเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 7 เป็นพระเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ในฐานะราชอาณาจักรพระองค์สุดท้าย และ เจ้าแก้วนวรัฐ, เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ องค์ที่ 9 เป็นเจ้าผู้ปกครองนครองค์สุดท้าย ปัจจุบันเจ้านายฝ่ายเหนือและเชื้อสาย "ราชวงศ์ทิพย์จักราธิวงศ์ (เจ้าเจ็ดตน)" อยู่ในราชตระกูล ณ เชียงใหม่ ณ ลำพูน ณ ลำปาง และ ณ น่าน | Lieutenant-Governor | ผู้แทนข้าหลวง เป็นตำแหน่งข้าราชการพลเรือนฝ่ายปกครองในดินแดนของสหราชอาณาจักร | Lifeguard | [ชีพบาล (ชีบ-พะ-บาน)] น. ผู้ดูแลความปลอดภัยในการทำกิจกรรมนันทนาการทางน้ำ และช่วบชีวิตคนตกน้ำ life - ชีวิต หรือ ชีพ guard - ผู้ดูแล ในที่นี้ขอใช้คำว่า " บาล " ที่มี ความหมายว่าผู้ดูแล รักษา ปกครอง เช่น รัฐบาล, นครบาล, โคบาล, พยาบาล | public admistration | (n) การบริหารการปกครอง | Sovereign Prince | (n) องค์อธิปัตย์ เป็นเจ้าชายซึ่งมีอำนาจปกครองราชรัฐในขอบขัณฑสีมาของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ | theocratic | (n, name) ลัทธการปกครองโดยพระผู้เป็นเจ้า, การเมืองโดยเทพเจ้า, คณะสงฆ์ที่รวบอำนาจการปกครองแผ่นดิน | บาดาล | (adj) underwater kingdom, underworld kingdom เมืองบาบาลอยู่ใต้น้ำ มีพญานาคเป็นผู้ปกครอง |
| 委員会 | [いいんかい, iinkai] (n) การประชุม(กรรมการ)สมาคม เช่นการประชุมกรรมการสมาคมผู้ปกครองและครู การประชุมกรรมการบริหาร ก็จะใช้คำนี้ | 立憲君主政 | [りっけんくんしゅせい, rikkenkunshusei] (n) การปกครองระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ |
| 立憲君主政体 | [りっけんくんしゅせいたい, rikkenkunshuseitai] การปกครองระบอบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ | 民主改革評議会 | [みんしゅかいかくひょうぎかい, minshukaikakuhyougikai] (n) คณะปฏิรูปการปกครอง | 地方交付税 | [ちほうこうふぜい, chihoukoufuzei] (n) เงินอุดหนุนประเภทหนึ่งที่ให้แก่องค์กรปกครองท้องถิ่น เพื่อเป็นการประกันว่าองค์กรปกครองท้องถิ่นสามารถให้บริการขั้นพื้นฐานแก่ประชาชนในท้องถิ่นได้ โดยองค์กรปกครองท้องถิ่นที่มีรายได้น้อย จะได้เงินอุดหนุนประเภทนี้มากกว่าองค์กรปกครองท้องถิ่นที่มีรายได้มาก | 地方自治法 | [ちほうこうふぜい, chihoujichi hou] พระราชญัติว่าด้วยการปกครองตนเองของท้องถิ่น(พระราชบัญญัติที่ว่าด้วยการจัดตั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น ประเภทต่างๆ เช่น จังหวัด เทศบาล และบทบาทหน้าที่ขององค์กรปกครองท้องถิ่นเหล่านั้นเป็นต้น) | 一部事業組合 | [いちぶじぎょうくみあい, ichibujigyoukumiai] (n, name) สหการ (เป็นองค์กรปกครองท้องถิ่นรูปแบบหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น ที่เกิดจากการรวมตัวกันขององค์กรปกครองท้องถิ่นมากกว่าหนึ่งแห่งในการทำกิจการอย่างใดอย่างหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น สหการแข่งม้า ก็เป็นการรวมตัวขององค์กรปกครองท้องถิ่นเพื่อจัดการแข่งม้าและหารายได้เข้าสหการ จากนั้นสหการก็จะนำรายได้ที่เข้าสหการ นำไปแบ่งให้แก่เทศบาลหรือองค์กรปกครองท้องถิ่นที่เป็นสมาชิกของสหการ | 政権 | [せいけん, seiken] (n) การปกครอง, การบริหาร, ระบอบการปกครอง |
| 郡 | [ぐん, gun] TH: ชื่อเรียกเขตปกครองในญี่ปุ่น เทียบเท่ากับ อำเภอ ในเมืองไทย EN: Gun (pl) | 領土 | [りょうど, ryoudo] TH: ดินแดนที่อยู่ในอาณัติการปกครอง EN: dominion |
| Eltern | (n) |pl.| ผู้ปกครอง | Staat | (n) |der, pl. Staaten| รัฐ, ประเทศ, มลรัฐ (หรือชุมนุมชนที่มีการปกครองเดียวกัน) เช่น Die Europäische Gemeinschaft (EG) besteht aus zwölf Staaten. | Absolutismus | (n) |der| การปกครองระบบสมบูรณาญาสิทธิราชย์, ระบบเผด็จการทางการเมือง |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |