มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ เรียกตัว | (v) summon, See also: call someone to come, Ant. ส่งตัว, Example: ป.ป.ช. เรียกตัว พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร มาให้ปากคำเรื่องหุ้น, Thai Definition: เรียกให้มา |
|
| เรียกตัว | ก. สั่งให้มาปรากฏตัว, สั่งให้มารายงานตัว, เช่น พ่อเรียกตัวให้กลับจากต่างประเทศ ศาลเรียกตัวให้ไปเป็นพยาน. | กรุ ๑ | (กฺรุ) น. ห้องที่ทำไว้ใต้ดิน ใต้พระเจดีย์ เป็นต้น สำหรับเก็บพระพุทธรูปและสิ่งมีค่าอื่น ๆ, โดยปริยายหมายถึงกระทรวง ทบวง กรม ที่ข้าราชการในสังกัดถูกเรียกตัวเข้ามาอยู่ประจำ โดยมิได้มีตำแหน่งหน้าที่ใด ๆ เพื่อเป็นการลงโทษหรือก่อนเกษียณอายุราชการ ในความว่า เรียกเก็บเข้ากรุ. | การันต์ | (การัน) น. “ที่สุดอักษร”, ตัวอักษรที่ไม่ออกเสียง ซึ่งมีไม้ทัณฑฆาตกำกับไว้ เช่นตัว “ต์” ในคำว่า “การันต์”, (ปาก) เรียกตัวอักษรที่มีไม้ทัณฑฆาตกำกับ เช่น ล์ ว่า ล การันต์ ค์ ว่า ค การันต์. | เขน ๒ | น. เรียกตัวแสดงโขนพวกหนึ่งซึ่งเป็นพลรบ มีหน้าที่ออกเต้นในเวลายกทัพ ว่า พลเขน, เรียกอาการเต้นของพลเขน ว่า เต้นเขน. | คเนจร | (คะเนจอน) น. เรียกตัวหนังใหญ่หรือภาพเขียนจิตรกรรมแบบไทยประเพณีเป็นรูปมนุษย์ รูปยักษ์ ที่อยู่ในท่าเดิน. | ง่า ๒ | น. เรียกตัวหนังใหญ่ที่สลักเป็นรูปยักษ์หรือลิงในท่าเหาะ ว่า หนังง่า. | เงาะ ๑ | น. คนป่าพวกหนึ่ง รูปร่างตํ่าเตี้ย ตัวดำ ผมหยิก ในตระกูลนิกริโต (Negrito) และตระกูลออสโตรเนเชียน (Austronesian) อยู่ในแหลมมลายู เรียกตัวเองว่า กอย ได้แก่ พวกเซมัง และซาไกหรือเซนอย, โดยปริยายเรียกคนที่มีรูปร่างเช่นนั้น. | ชอง | น. ชื่อชนกลุ่มน้อยเผ่าหนึ่งในตระกูลมอญ–เขมร มีมากทางตอนเหนือของจังหวัดจันทบุรี, เรียกตัวเองว่า สำเร หรือ ตำเหรด, เขมรเรียกว่า ปอร์. | ตัวพิมพ์ | เรียกตัวพิมพ์ใหญ่ในภาษาอังกฤษ. | ตัว ๒ | น. จำนวนเลขที่ใช้ในการคำนวณหาคำตอบตามวิธีการทางคณิตศาสตร์ เช่น ตัวบวก ตัวลบ ตัวคูณ ตัวหาร, ลักษณนามใช้เรียกตัวเลข เช่น เลขท้าย ๒ ตัว. | ตาม | เรียกตัวมา เช่น ไปตามนาย ก มา, เชิญมา เช่น ไปตามหมอ | ตุ๊ย | น. เรียกตัวตลกที่ออกมาขัดจังหวะในการสวดคฤหัสถ์ว่า ตัวตุ๊ย. | เตียว ๑ | เรียกตัวหนังใหญ่ที่สลักเป็นรูปลิงขาวจับลิงดำมัด เพื่อพาไปหาฤๅษี. | ทับหลัง | เรียกตัวไม้ที่อยู่ตอนบนหลังกรอบเช็ดหน้าของประตูหรือหน้าต่าง ใช้สอดเดือยบานประตูหรือบานหน้าต่าง เรียกว่า ทับหลังหน้าต่าง หรือ ทับหลังประตู. | บรรทัด | (บัน-) น. ข้อความที่เขียนหรือพิมพ์ต่อเนื่องกันเป็นแถวเป็นแนวแต่ละแนว เช่น ตัดบรรทัดที่ ๒๐ ออก, ลักษณนามว่า บรรทัด เช่น ให้เขียนเรียงความอย่างน้อย ๕๐ บรรทัด, เรียกตัวหนังสือที่เขียนเต็มช่วงระหว่างเส้นบรรทัด ๒ เส้น ว่า ตัวเต็มบรรทัด, เรียกตัวหนังสือที่เขียนเพียงครึ่งหนึ่งของช่วงระหว่างเส้นบรรทัด ๒ เส้น ว่า ตัวครึ่งบรรทัด, เรียกอุปกรณ์การเขียนชนิดหนึ่งทำด้วยไม้เป็นต้น สำหรับทาบเป็นแนวเพื่อขีดเส้นให้ตรง ว่า ไม้บรรทัด, เรียกเส้นที่ตีหรือพิมพ์ไว้บนกระดาษเป็นต้นเพื่อเขียนหรือพิมพ์ตัวอักษรบนเส้น ใต้เส้น หรือระหว่างเส้น ว่า เส้นบรรทัด. | ม้า ๑ | เรียกตัวหมากรุกที่แกะเป็นรูปม้า. | แม้ว | น. ชนชาวเขาพวกหนึ่งอยู่ทางเหนือของประเทศไทย เรียกตัวเองว่า ม้ง. | ยิงลม | น. เรียกตัวไม้ประกอบเครื่องบนหลังคาเรือน ทำหน้าที่ยันอยู่ข้างหลังจั่ว ตั้งทแยงปลายข้างหนึ่งยันกับขื่อเพื่อเสริมให้จั่วมั่นคง. | เย้า ๑ | น. ชนชาวเขาเผ่าหนึ่ง อยู่ในประเทศไทยตอนเหนือ เรียกตัวเองว่า เมี่ยน พูดภาษาเมี่ยนในตระกูลแม้ว–เย้า. | โลม ๑ | น. เรียกตัวหนังใหญ่ที่แสดงบทเข้าพระเข้านาง เช่น หนุมานเกี้ยวนางเบญกาย, หนังโลม ก็ว่า. | หมอน้อย ๑ | เรียกตัวปลิงที่ใช้กอกเลือด ว่า หมอน้อย. | หมาย | น. หนังสือราชการที่ใช้เกณฑ์ เกาะกุม หรือ เรียกตัว เป็นต้น เช่น หมายเกณฑ์ หมายจับ หมายศาล, (กฎ) หนังสือสั่งการของศาลหรือเจ้าพนักงานสั่งให้กระทำการหรือห้ามกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น หมายเกณฑ์ หมายจับ หมายค้น หมายเรียก. |
|
| page | เรียกตัว, ตามตัว [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | pager | วิทยุเรียกตัว, วิทยุตามตัว [ มีความหมายเหมือนกับ beeper ๒ ] [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | beeper | ๑. ตัวทำเสียงเตือน๒. วิทยุเรียกตัว, วิทยุตามตัว [ มีความหมายเหมือนกับ pager ] [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
|
| Diplomatic Privileges and Immunities | เอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูต เอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูตที่ได้ให้แก่เจ้า หน้าที่ทางการทูต โดยถือว่าบุคคลดังกล่าวเป็นผู้แทนส่วนตัวของประมุขของรัฐ เหตุผลที่ให้มีการคุ้มกันทางการทูต ก็เพราะถือว่ารัฐบาลหนึ่งใดก็ตามจะถูกกีดกันขัดขวางด้วยการจับกุม หรือกีดกันมิให้ผู้แทนของรัฐบาลนั้นปฏิบัติหน้าที่ในความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศนั้นมิได้ ถ้าหากเห็นว่าผู้แทนนั้นมีพฤติกรรมหรือพฤติการณ์ที่ก้าวร้าวซึ่งรัฐผู้รับ ไม่อาจรับได้ก็ชอบที่รัฐผู้รับจะขอร้องให้รัฐผู้ส่งเรียกตัวผู้แทนของตนกลับ ประเทศได้ อนึ่ง การที่สถานเอกอัครราชทูตได้รับความคุ้มกันจากอำนาจศาลของรัฐผู้รับ เพราะต้องการให้บรรดาผู้แทนทางการทูตเหล่านั้น รวมทั้งบุคคลในครอบครัวของเขาได้มีโอกาสมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในการปฏิบัติหน้าที่เป็นตัวแทนผลประโยชน์ของประเทศของเขาอนุสัญญากรุง เวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตมีบทบัญญัตินิยามคำว่า เอกสิทธิ์และความคุ้มกันทางการทูตในเรื่องต่างๆ ไว้มากพอสมควร เช่น เรื่องสถานที่ของคณะผู้แทนทางการทูต รวมทั้งบรรณสารและเอกสาร เรื่องการอำนวยความสะดวกให้แก่การปฏิบัติงานของคณะผู้แทน และเสรีภาพในการเคลื่อนย้ายรวมทั้งการคมนาคมติดต่อ เป็นต้น [การทูต] | Excellency | เป็นคำแสดงตำแหน่งที่ใช้เรียกตัวเอกอัครราชทูต ทั้งโดยวาจาและโดยลายลักษณ์อักษร เป็นคำที่เริ่มใช้กันตั้งแต่สมัยทำสนธิสัญญาเวสต์ฟาเลีย (Treaty of Westphalia) เมื่อ ค.ศ. 1648 และได้นำมาใช้ทั่วทวีปยุโรปหลังจากการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนา (ค.ศ. 1815) แต่ถ้าบังเอิญเอกอัครราชทูตของประเทศหนึ่งใดเป็นบุคคลเชื้อพระวงศ์ แทนที่จะเรียกเอกอัครราชทูตผู้นั้นด้วยคำว่า Excellency ก็ให้เรียกด้วยคำว่า ?Royal Highness? แทนแต่เดิมคำ ?Excellency? ซึ่งเป็นคำเติมหน้าชื่อแสดงตำแหน่งนี้ใช้เรียกเฉพาะตัวเอกอัครราชทูตเท่า นั้น แต่ในทางปฏิบัติ ทุกวันนี้ได้นิยมใช้เรียกตัวอัครราชทูต (Ministers) เช่นกัน ส่วนภริยาของเอกอัครราชทูตนั้นก็ได้รับการยกย่องโดยใช้คำ Excellency ด้วย แต่สำหรับเอกอัครราชทูตที่เป็นสตรี สามีของเธอจะไม่ได้รับเรียกเช่นนั้น นอกจากนั้น คำแสดงตำแหน่งนี้ยังใช้กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และมีหลายประเทศได้นำไปใช้เรียกประมุขของรัฐบาลหรือรัฐมนตรีด้วย แต่การปฏิบัติดังนี้ย่อมแตกต่างกันในแต่ละประเทศ ส่วนเลขาธิการสหประชาชาตินั้น ใช้เรียกกันเป็นทางการว่า Excellency และสำหรับกรณีที่ไม่เป็นทางการก็เรียกว่า Mr. Secretary-General [การทูต] | Immunity from Jurisdiction of Diplomatic Agents | ความคุ้มกันจากอำนาจศาลของตัวแทนทางการทูต ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตรา 31 ว่า?1. ให้ตัวแทนทางการทูตได้อุปโภคความคุ้มกันจากอำนาจศาลทางอาญาของรัฐผู้รับ ตัวแทนทางการทูตยังจะได้อุปโภคความคุ้มกันจากอำนาจศาลทางแพ่ง และทางการปกครองของรัฐผู้รับด้วย เว้นแต่ในกรณีของก) การดำเนินคดีกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัว ที่ตั้งอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับนอกจากตัวแทนทางการทูตครอบครองไว้ในนามของ รัฐผู้ส่งเพื่อความมุ่งประสงค์ของคณะผู้แทนข) การดำเนินคดีเกี่ยวกับการสืบมรดกซึ่งเกี่ยวพันถึงตัวแทนทางการทูตในฐานะผู้ จัดการมรดกโดยพินัยกรรม ผู้จัดการมรดกโดยศาลตั้งทายาท หรือผู้รับมรดกในฐานะเอกชน และมิใช่ในนามของรัฐผู้ส่งค) การดำเนินคดีเกี่ยวกับกิจกรรมใดในทางวิชาชีพ หรือพาณิชย์ ซึ่งตัวแทนทางการทูตได้กระทำในรัฐผู้รับ นอกเหนือจากการหน้าที่ทางการของตน 2. ตัวแทนทางการทูตไม่จำเป็นต้องให้การในฐานะพยาน 3. มาตรการบังคับคดี ไม่อาจดำเนินได้ในส่วนที่เกี่ยวกับตัวแทนทางการทูต เว้นแต่ในกรณีซึ่งอยู่ภายใต้อนุวรรค (ก) (ข) และ (ค) ของวรรค 1 ของข้อนี้ และโดยมีเงื่อนไขว่ามาตรการที่เกี่ยวข้องอาจดำเนินไปได้โดยปราศจากการละเมิด ความละเมิดมิได้ในตัวบุคคลของตัวผู้แทนทางการทูต หรือที่อยู่ของตัวแทนทางการทูต 4. ความคุ้มกันของตัวแทนทางการทูตจากอำนาจศาลของรัฐผู้รับ ไม่ยกเว้นตัวแทนทางการทูตจากอำนาจศาลของรัฐผู้ส่ง?เกี่ยวกับความคุ้มกันตัว แทนทางการทูตจากขอบเขตของอำนาจศาลทางแพ่ง อาจกล่าวได้อย่างกว้างๆ ว่า ตัวแทนทางการทูตนั้นได้รับการยกเว้นจากอำนาจของศาลแพ่งในท้องถิ่นคือตัวแทน ทางการทูตนั้นได้รับการยกเว้นจากอำนาจของศาลแพ่งในท้องถิ่นคือตัวแทนทางการ ทูตจะถูกฟ้องมิได้ และถูกจับกุมมิได้เกี่ยวกับหนี้สิน รวมทั้งทรัพย์สินของเขา เช่น เครื่องเรือน รถยนต์ ม้า และสิ่งอื่นๆ ทำนองนั้นก็จะถูกยืดเพื่อใช้หนี้มิได้ ตัวแทนทางการทูตจะถูกกีดกันมิให้ออกไปจากรัฐผู้รับในฐานะที่ยังมิได้ชดใช้ หนี้สินของเขานั้นก็มิได้เช่นกัน อนึ่ง นักกฎมายบางกลุ่มเห็นว่า ตัวแทนทางการทูตจะถูกหมายศาลเรียกตัว (Subpoenaed) ไม่ได้ หรือแม้แต่ถูกขอร้องให้ไปปรากฎตัวเป็นพยานในศาลแพ่งหรือศาลอาญาก็ไม่ได้ อย่างไรก็ดี ถ้าหากตัวแทนทางการทูตสมัครใจที่จะไปปรากฏตัวเป็นพยานในศาล ก็ย่อมจะทำได้ แต่จะต้องขออนุมัติจากรัฐบาลในประเทศของเขาก่อน [การทูต] | Persona non grata | เป็นศัพท์ที่ใช้กับนักการทูตหรือผู้แทนทางการทูต ที่ประจำอยู่ในประเทศซึ่งรัฐบาลของประเทศนั้นไม่ปรารถนาให้อยู่ต่อไปอีกแล้ว หลังจากที่ได้ไปประจำทำงานในตำแหน่งอยู่ในประเทศนั้น หรือก่อนหน้าที่นักการทูตผู้นั้นจะเดินทางไปถึงดินแดนของประเทศผู้รับ (Receiving State) นักการทูตที่ถูกประกาศเป็น persona non grata หรือ บุคคลที่ไม่พึงปรารถนานั้น เป็นเพราะสาเหตุดังต่อไปนี้ คือ กล่าวคำดูหมิ่นรัฐบาลของประเทศที่ตนไปประจำอยู่ ละเมิดกฎหมายของบ้านเมืองนั้น แทรกแซงในการเมืองภายในของเขา เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกิจการภายในประเทศของเขา ใช้ถ้อยคำก้าวร้าวต่อประเทศนั้น วิพากษ์ประมุขแห่งประเทศของเขากระทำการอันเป็นที่เสียหายต่อประโยชน์หรือต่อ ความมั่นคงของประเทศ และกระทำการอื่น ๆ ในทำนองนั้นตามปกติรัฐบาลของประเทศเจ้าภาพที่เป็นฝ่ายเสียหายจะขอร้องให้ รัฐบาลผู้ส่ง (Sending government) เรียกตัวนักการทูตผู้กระทำผิดกลับประเทศ ซึ่งตามปกติรัฐบาลผู้ส่งมักจะปฏิบัติตาม รัฐบาลของประเทศผู้เสียหายจะแจ้งให้นักการทูตผู้นั้นทราบว่า รัฐบาลจะไม่ทำการติดต่อเกี่ยวข้องเป็นทางการกับเขาอีกต่อไป หรืออาจจะบอกให้นักการทูตผู้นั้นออกไปจากประเทศโดยไม่เกรงใจแต่อย่างใดก็ได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในข้อ 9 ดังต่อไปนี้ ?1. รัฐผู้รับอาจบอกกล่าวแก่รัฐผู้ส่งในเวลาใดก็ได้ และโดยมิต้องชี้แจงถึงการวินิจฉัยของตนว่า หัวหน้าคณะผู้แทนหรือบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ไม่พึงโปรด หรือว่าบุคคลอื่นใดในคณะเจ้าหน้าที่ของคณะผู้แทนเป็นที่ไม่พึงยอมรับได้ ในกรณีใดเช่นว่านี้ ให้รัฐผู้ส่งเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นกลับ หรือเลิกการหน้าที่ของผู้นั้นกับคณะผู้แทนเสียก็ได้ตามที่เหมาะสมบุคคลอาจจะ ถูกประกาศให้เป็นผู้ไม่พึงโปรด หรือไม่พึงยอกรับได้ก่อนที่จะมาถึงอาณาเขตของรัฐผู้รับก็ได้ 2. ถ้ารัฐผู้ส่งปฏิเสธ หรือไม่นำพาภายในระยะเวลาอันสมควร ที่จะปฏิบัติตามข้อผูกพันของคนภายใต้วรรค 1 ของข้อนี้ รัฐผู้รับสามารถปฏิเสธที่จะยอมรับนับถือบุคคลที่เกี่ยวข้องนั้นว่าเป็นบุคคล ในคณะผู้แทนก็ได้? [การทูต] | Personal Inviolability of Diplomatic Agents | หมายถึง ตัวบุคคลของตัวแทนทางทูตจะถูกละเมิดมิได้ กล่าวคือ มาตรา 29 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติในเรื่องนี้ไว้ว่า ?ตัวบุคคลของตัวแทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้ ตัวแทนทางการทุตจะไม่ถูกจับกุมหรือกักขังในรูปใด ๆ ให้รัฐผู้รับปฏิบัติต่อตัวแทนทางการทูตด้วยความเคารพตามสมควร และดำเนินการที่เหมาะสมทั้งมวลที่จะป้องกันการประทุษร้ายใด ๆ ต่อตัวบุคคล เสรีภาพ หรือเกียรติของตัวแทนทางการทูต?ตัวบุคคลของตัวแทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้ นั้น ได้ถือเป็นปัจจัยหลักในการที่ให้ผู้แทนทางการทูตได้รับสิทธิและความคุ้มกัน ทั้งมวล ถึงกับมีการพูดกันว่า ผู้ใดประทุษร้ายต่อตัวเอกอัครราชทูต จักถือว่าเป็นการทำร้ายต่อประมุขของประเทศซึ่งผู้แทนทางการทูตผู้นั้นเป็น ตัวแทนอยู่ ทั้งยังถือว่าเป็นการยังผลร้ายต่อความปลอดภัยและสวัสดิภาพของประชาชาติทั้ง มวลด้วยตัวอย่างเช่น เมื่อวันที่ 24 มีนาคม ค.ศ. 1964 ชายหนุ่มญี่ปุ่นคนหนึ่งซึ่งมีจิตวิปลาส ได้ใช้มีดแทง นายเอ็ดวิน โอไรส์ชาวเออร์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศญี่ปุ่น ในเขตนอกสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงโตเกียว รัฐมนตรีว่าการกระทวงมหาดไทยญี่ปุ่นได้ลาออกจากตำแหน่งทันทีและรุ่งขึ้นใน วันที่ 25 มีนาคม ค.ศ. 1964 นายอิเคดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นในสมัยนั้น ได้ทำการขอโทษต่อประชาชนชาวอเมริกันทางวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ได้มีการดำเนินการในทำนองนี้ และการที่นายกรัฐมนตรีอิเคดะได้ปฏิบัติดังกล่าวได้แสดงให้เห็นว่า การที่ตัวบุคคลของผู้แทนทางการทูตจะถูกละเมิดมิได้นั้น มีความสำคัญมากเพียงใดตัวแทนทางการทูตจะถูกจับ ถูกฟ้องศาล หรือถูกลงโทษฐานประกอบอาชญากรรมนั้นไม่ได้ เพราะถือว่าผู้แทนทางการทูตมิได้อยู่ในอำนาจศาลของรัฐผู้รับ อย่างไรก็ดี หากผู้แทนทางการทูตกระทำความผิดอย่างโจ่งแจ้ง รัฐผู้รับอาจขอให้รัฐผู้ส่งเรียกตัวกลับไปยังประเทศของเขาได้ในทันที [การทูต] | Recall of Diplomats | การเรียกตัวนักการทูตกลับประเทศของตน คือ ผู้แทนทางการทูตอาจถูกรัฐบาลของตนริเริ่มเรียกตัวกลับประเทศได้ด้วยเหตุผล ต่าง ๆ เช่น ผู้แทนทางการทูตนั้นขอลาออก หรือลาออกจากราชการเพื่อรับบำเหน็จบำนาญ หรือถูกโยกย้ายไปประจำอีกแห่งหนึ่ง หรือเกิดความไม่พอใจอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ถ้าหากรัฐบาลปรารถนาจะเรียกหัว หน้าคณะผู้แทนทางการทูตกลับโดยถาวรเนื่องจากไม่พอใจในตัวเขา โดยมากเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกัน คือ รัฐบาลจะเปิดโอกาสให้หัวหน้าคณะทูตผู้นั้นทำหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งเสีย มากกว่าที่จะใช้วิธีสั่งปลด อันเป็นการกระทำที่รุนแรงกว่ามากนอกจากนี้ หัวหน้าคณะผู้แทนทางการทูตหรือเอกอัครราชทูตอาจถูกรัฐบาลเรียกตัวกลับตามคำ ขอร้องของรัฐบาลประเทศผู้รับ เนื่องจากกระทำตนไม่เป็นที่พึงปราถนาของประเทศผู้รับ (Persona non grata) ก็ได้ ตามปกติ คำขอร้องจากรัฐผู้รับขอให้เรียกตัวกลับนั้น มักได้รับการตอบสนองโดยดีในทันทีจากรัฐผู้ส่ง แต่ถ้าหากรัฐผู้ส่งปฏิเสธคำขอร้องดังกล่าวนั้น รัฐผู้รับอาจขับให้ออก (Dismiss) จากประเทศก็ได้ [การทูต] | Termination of Mission of Diplomatic Agent | ภารกิจของผู้แทนทางการทูตหรือหัวหน้าคณะทูตจะสิ้น สุดลง 1. ระยะเวลาที่ผู้แทนทางการทูตได้รับแต่งตั้งให้ประจำอยู่ในประเทศผู้รับได้ครบ กำหนดตามวาระ2. เมื่อวัตถุประสงค์ของภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติได้สัมฤทธิผลเรียบ ร้อยแล้ว3. ถูกเรียกตัวกลับเนื่องจากต้องโยกย้ายไปที่อื่น หรือลาออก หรือเนื่องจากครบเกษียณอายุ4. ถูกเรียกตัวกลับเนื่องจากไม่เป็นที่พอใจของรัฐบาลของตน หรือกระทำตามคำขอร้องของรัฐบาลของประเทศผู้รับ ซึ่งเขาได้รับแต่งตั้งให้ประจำทำงานอยู่5. เนื่องจากการเสด็จสวรรคตของพระมหากษัตริย์ของประเทศตน หรือประเทศที่ตนได้รับแต่งตั้งให้ประจำทำงาน6. หากตัวเขาเองได้กระทำการอันเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศบางอย่าง หรือเนื่องจากเกิดเหตุการณ์บางอย่างที่คาดไม่ถึง และมีลักษณะร้ายแรงจริง ๆ ตัวเขาเองจะต้องรับผิดชอบในการตัดความสัมพันธ์7. เมื่อรัฐบาลผู้รับ ซึ่งตัวเขาได้รับแต่งตั้งให้ประจำทำงานอยู่นั้น แล้วจะด้วยเหตุผลอย่างใดก็ตาม ได้แจ้งให้เขาเดินทางออกไปจากประเทศในทันที โดยไม่ต้องระให้รัฐบาลของตนเรียกตัวกลับ8. เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงในตำแหน่งของผู้แทนทางการทูต ดังเช่น ได้รับเลื่อนตำแหน่งจากอัครราชทูตขึ้นเป็นเอกอัครราชทูต9. เนื่องจากเกิดสงครามขึ้นระหว่างรัฐทั้งสอง10. เนื่องจากถูกถอดจากตำแหน่ง หรือสละราชบัลลังก์ของประมุขของประเทศใดประเทศหนึ่ง 11. เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงในประเทศใดประเทศหนึ่ง จากระบบพระมหากษัตริย์เป็นระบบสาธารณรัฐ หรือเป็นระบบสาธารณรัฐอันมีประมหากษัตริย์ทรงอยู่ใต้กฎหมาย12. เนื่องจากรัฐใดรัฐหนึ่งของทั้งสองรัฐต้องสูญสภาวะในการเป็นรัฐเหตุผลข้างต้น ทั้งหมดนี้ เป็นทรรศนะของเซอร์เออร์เนสท์ ซาทาว ซึ่งได้ให้ไว้ในหนังสือของท่าน ชื่อว่า ?A Guide to Diplomatic Practice? ฉบับเรียบเรียงใหม่ครั้งที่ 4 โดยเซอร์เนวิลล์ แบลนด์ [การทูต] | Termination of Consular Office | การยุติลงของการหน้าที่ทางการกงสุล กล่าวคือ หน้าที่ของหัวหน้าคณะในสถานที่ทำการทางกงสุลจะยุติลงเนื่องจาก 1. วายชนม์2. รัฐผู้ส่งเรียกตัวกลับ3. รัฐผู้รับเพิกถอนอนุมัติบัตร (Exequatur)4. การหน้าที่ของผู้นั้นได้ถึงกำหนดครบวาระหรือยุติลง5. เกิดสงครามระหว่างรัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับไม่เหมือนกับกรณีคณะผู้แทนทางการทูต สถานที่ทำการทางกงสุลนั้น ภาระหน้าที่จะไม่ยุติลงเนื่องจากมีการเปลี่ยนกษัตริย์หรือประธานาธิบดีของ รัฐผู้ส่งหรือรัฐผู้รับ ข้อ 25 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาบัญญัติไว้ว่า ?การหน้าที่ของบุคคลในสถานที่ทำการกงสุลจะยุติลงก) เมื่อรัฐผู้ส่งได้บอกกล่าวไปยังรัฐผู้รับว่า การหน้าที่ของบุคคลดังกล่าวได้ยุติลงแล้วข) เมื่อมีการเพิกถอนอนุมัติบัตรค) เมื่อรัฐผู้รับได้บอกกล่าวไปยังรัฐผู้ส่งว่า รัฐผู้รับได้เลิกถือว่าบุคคลนั้นเป็นบุคคลในคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายกงสุล [การทูต] |
| Face it, Yul Brenner. | ยอมรับเถอะ ยูล แบรนเนอร์ นายจะเรียกตัวเองว่ามาดอนน่าก็ได้ Cool Runnings (1993) | You'll write field reports on your activities and your observations on the validity of the work. | เหตุผลที่เรียกตัวคุณมาที่นี่ เพราะเราต้องการให้คุณเป็นผู้ช่วย Mulder ทำงานเกี่ยวกับ X-Files คุณต้องเขียนรายงาน ถึงงานที่คุณทำ Deep Throat (1993) | Without explanation they were called back in, the case was reclassified and buried in the X-Files until I dug it up. | เขาใช้เวลาทั้งสัปดาห์ ลิ้มรสปลาแซลมอน บีบมะนาวเล็กน้อย ปราศจากคำอธิบายใดๆ พวกเขาถูกเรียกตัวกลับ.. Deep Throat (1993) | And the marks are from some kind of tests being done on them. | นั่นเป็นเหตุผลที่ พวกเด็กเข้าไปในป่า มันควบคุมพวกเขา มันเรียกตัวพวกเขา Deep Throat (1993) | Yes! But Billy Miles took her there. | จากนั้น พลังนั้น ได้เรียกตัว Teresa Nemman เข้าไปในป่าคืนนี้ Deep Throat (1993) | You go on three auditions a month and you call yourself an actor. But Bob... | คุณไปคัดตัวแสดงแค่เดือนละ 3 ครั้ง แล้วเรียกตัวเองว่าดารา แต่บ็อบ The One with the East German Laundry Detergent (1994) | Me, I go on three auditions a month and call myself an actor, but Bob is... | ฉันไปคัดตัวแสดงเดือนละ 3 ครั้ง แล้วยังเรียกตัว้องว่าดารา แต่บ็อบ... The One with the East German Laundry Detergent (1994) | The woman who called herself Mrs. Danvers was very seriously ill. | ผู้หญิงคนที่เรียกตัวเองว่า คุณนายแดนเวอร์สนั้นป่วยหนักมาก Rebecca (1940) | That's what he calls himself now. | เขาเรียกตัวเองอย่างนั้น The Good, the Bad and the Ugly (1966) | Montazano, who called himself the Nightrider, had broken from custody and escaped in the police vehicle. | มอนทัสแอโน ที่เรียกตัวเองว่า ไนทไรเดอ ได้เสียจากการดูแล และหนีออกมาในรถตำรวจ Mad Max (1979) | So you and your friends went out at night on your bikes to visit your dying mother, and a group of hooligans called the Clowns picked a fight with you. | นายกับพวกขี่รถออกไปตอนกลางคืน เพื่อไปเยี่ยมแม่ที่กำลังจะตายงั้นเหรอ และแก๊งที่เรียกตัวเองว่า คลาวน์มาหาเรื่องก่อน Akira (1988) | He calls himself a defector. There are many like him. | เขาเรียกตัวเองว่า ผู้แปรพักตร์Nมีหลายคนเป็นแบบเขา Rambo III (1988) | Crusaders for the church. | คนจากโบสถ์ เรียกตัวเองว่าคนของพระเจ้า Snow White: A Tale of Terror (1997) | A pro. Calls himself "The Jackal". | นักฆ่ามืออาชีพ ที่เรียกตัวเองว่าแจ็คกอล The Jackal (1997) | And you call yourselves hunters? | และคุณเรียกตัวเองนักล่า? Princess Mononoke (1997) | We talked and then I got beeped and he disappeared. | เราคุยกัน... ...และจากนั้นฉันโดนเรียกตัว / แล้วเขาก็หายตัวไป City of Angels (1998) | But after that the place, the name 'Musashino' rang in me like a summons. | แต่หลังจากที่นั้น, ชื่อ 'มัทซาชิโน'... ...เหมือนมีใครสั่นกระดิ่งเรียกตัวฉัน April Story (1998) | You've stopped referring to yourself as "one." | เลิกเรียกตัวเองว่า"ตน"ได้แล้ว Bicentennial Man (1999) | - What are your people named? | อีลอยเหรอ พวกคุณเรียกตัวเองว่าอะไร The Time Machine (2002) | When the governors learned that Arthur Weasley's daughter was taken into the Chamber, they saw fit to summon me back. | พอพวกกรรมการได้ข่าวว่า ลูกสาวของอาร์เธอร์ วีสลีย์ ถูกจับไปขังในห้อง ก็เรียกตัวผมกลับมาทันที Harry Potter and the Chamber of Secrets (2002) | We could call ourselves "the g-force" | เราเรียกตัวเองว่า "จี-ฟอร์ซ"... Inspector Gadget 2 (2003) | Paul, the beeper. | พอล... สัญญานเรียกตัว 21 Grams (2003) | You call yourself a tutor? | เธอเรียกตัวเองว่าครูสอนพิเศษใช่มั้ย? My Tutor Friend (2003) | You call yourself a son? ! | คุณยังเรียกตัวเองว่าลูกอีกเหรอฮัลโหล? Sweet Sex and Love (2003) | Between that and your GI Bill, you ought to be able to get it now. | ระหว่างบ้านกับใบเรียกตัวแก/ แกน่าจะเก็บมันไว้ซะตอนนี้ The Notebook (2004) | I must report to the palace whenever summoned. | ผมต้องไปรายงานตัวที่ปราสาทเมื่อไหร่ก็ตามที่มีการเรียกตัว Howl's Moving Castle (2004) | '... the armed forces will be called in to provide backup and assistance. | '... หน่วยติดอาวุธถูกเรียกตัวเพื่อ เสริมกำลังและคอยให้ความช่วยเหลือ' Shaun of the Dead (2004) | Our first act calls himself a star on the rise. | โชว์แรก เขาเรียกตัวเองว่า ดาวรุ่ง Mean Girls (2004) | I don't understand why you did that Just forget it What if it was you laying there with your guts open! | พี่ก็ไม่ได้โดนเรียกตัวซะหน่อย แต่ดันอาสาไป Tae Guk Gi: The Brotherhood of War (2004) | He calls himself Bob and he gives me the money up front. | เขาเรียกตัวเองว่า บ็อบ แล้วเขาก็จ่ายเงินให้ผมก่อนล่วงหน้า Saw (2004) | A red card... | ใบเรียกตัว Spygirl (2004) | Following the incident they gave me a red card | แล้วก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ ผมถูกเรียกตัวให้ไปเป็นทหาร Spygirl (2004) | We'll be called back home and sent to the mines There goes our life | ทางการอาจเรียกตัวเธอกลับได้ และส่งเธอไปอยู่ที่เหมือง ไปใช้ชีวิตแบบเดิมๆ Spygirl (2004) | You call yourselves Taekwondo fighters, and can't even line up straight? | พวกแกเรียกตัวเองว่านักเทควันโด แต่แค่เข้าแถวให้ตรงยังทำไม่ได้เลย! Spin Kick (2004) | You call yourself a man? | ยังเรียกตัวเองว่าผู้ชายอีกเหรอ? Everybody Has a Little Secret (2004) | Round them all up and put them back in quarantine? | เรียกตัวพวกเขาทุกคนและกักไว้ ในที่กักกัน Pilot (2004) | She calls herself the Queen of Narnia, but she really isn't. | เธอเรียกตัวเองว่าราชินีแห่งนาร์เนีย แต่เธอไม่ใช่ The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe (2005) | Your doctor was called away on an emergency. | หมอประจำของเธอถูกเรียกตัวด่วน. Transporter 2 (2005) | My boss called and, uh, he wants me to go up the ranch. | เจ้านายเรียกตัว อืมม เขาให้ผมเข้าไปที่ฟาร์ม Brokeback Mountain (2005) | You cannot call yourself a true Geisha until you can stop a man in his tracks with a single look. | คุณไม่สามารถจะเรียกตัวเองว่า เกอิชา จนกว่าคุณจะสามารถ หยุดผู้ชายได้เพียงแค่แว๊บแรก Memoirs of a Geisha (2005) | With nothing but rubble at my feet, can I still call myself a businessman? | ถ้าไม่มีอะไรนอกจากซากหินแล้ว ผมยังเรียกตัวเองว่านักธุรกิจได้ไหมล่ะ? Memoirs of a Geisha (2005) | Any street-walker with a painted face and silk kimono could call herself a Geisha.. | พวกข้างถนนคนไหนก็สามารถทาสีเล็บ แต่งหน้าและใส่กิโมโนผ้าไหม เรียกตัวเองว่าเกอิชา Memoirs of a Geisha (2005) | They call themselves the Monicans. | พวกนั้นเรียกตัวเองว่าพวกโมนิกัน Æon Flux (2005) | Apparently, your Mr Wickham has been called on some business to town. | เห็นได้ชัดว่าคุณวิคแฮมของเธอ ถูกเรียกตัวไปทำธุระในเมือง Pride & Prejudice (2005) | She said to me, "Don't call yourself Itsuki." | หล่อนบอกกับฉัน " เลิกเรียกตัวเองว่า อามุ สักที " Initial D (2005) | "Why don't you try 'trash.'" | ทำไมไม่ลองเรียกตัวเองว่า "เศษเดน" ดูมั่งล่ะ Initial D (2005) | What do you guys call yourselves? | งั้นพวกเธอเรียกตัวเองว่าอะไรล่ะ? Fullmetal Alchemist the Movie: Conqueror of Shamballa (2005) | Both of them proudly called themselves the descendants of Balhae. | พวกเขาทั้งสองเรียกตัวเองอย่างภูมิใจที่เขาผู้สืบสกุลของ บัลเฮ Shadowless Sword (2005) | You know, I'm sorry. I realized I didn't tell you that the office called during the party. | รู้มั้ย, ขอโทษที่ไม่ได้บอกคุณ ว่าหน่วยเรียกตัว Mission: Impossible III (2006) | These so-called mutants are people just like us. | พวกที่เรียกตัวเองว่ามนุษย์กลายพันธุ์ก็เป็นคนเหมือนกับเรา X-Men: The Last Stand (2006) |
| หมายเรียกตัว | [māirīek tūa] (n, exp) EN: conscription notice | เรียกตัว | [rīek tūa] (v, exp) EN: summon ; call someone to come FR: convoquer ; mander |
| convene | (vt) เรียกตัว (ศาล) | call away | (phrv) เรียกตัวไป (ปกติใช้ทางธุรกิจ), See also: เชิญไป | habeas corpus | (n) หมายศาลที่เรียกตัวบุคคลให้มาปรากฏต่อหน้าผู้พิพากษาหรือศาล | revoke | (vt) เรียกตัวกลับ, Syn. countermand, summon back | self-proclaimed | (adj) เรียกตัวเองว่า, See also: ประกาศตัวเองเป็น, อ้างตัวว่าเป็น, ทึกทักเอา | subpoena | (vt) เรียกตัวด้วยหมายศาล, See also: เรียกตัวด้วยหมายเรียก, Syn. cite, summon | summon | (vt) เรียกประชุม, See also: เรียกตัว, Syn. call, convene, convoke, Ant. dismiss | summon to | (phrv) มีหมายเรียกตัว, See also: โดนเรียกไป | summon up | (phrv) เรียกตัว, See also: เรียกออกมา, ทำให้ออกมา, Syn. call up, raise from, raise up, rise from |
| cite | (ไซทฺ) { cited, citing, cites } vt. อ้างอิง, กล่าวอ้าง, กล่าวสนับสนุน, ออกหมายเรียกตัวมาศาล, สดุดี, ชมเชย, กระตุ้นเรียกหา., See also: citable adj. ดู citatory adj. ดูcitation citeable adj. ดู citatory adj. ดูcitation citer n. ดู citatory adj. | convene | (คัน วีน') { convened, convening, convenes } vi. รวมกัน, ชุมนุมกัน vt. ทำให้รวมกัน, เรียกประชุม, เรียกตัวมาปรากฎ, เรียกตัว, Syn. muster | convocation | (คอนวะเค'เชิน) n. การเรียกประชุม, ภาวะที่ถูกเรียกประชุม, กลุ่มคนที่ชุมนุมกันตามคำเรียกตัว, การชุมนุมทางศาสนา, Syn. assemblage, congregation | countermand | (เคาเทอะมานด'ฺ) vt. ยกเลิก, สั่งถอน, ออกคำสั่งแย้งคำสั่ง, เรียกตัวกลับ. n. คำสั่งยกเลิกคำสั่งเดิม, Syn. revoke | daughterboard | แผงวงจรตัวลูกหมายถึง แผงวงจรอีกชุดหนึ่ง ที่ทำเพิ่มไว้เผื่อให้เลือกใช้ได้ สามารถเสียบเข้าใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ควบคู่ไปกับแผงวงจรหลักได้เลย เมื่อเรียกแผงวงจรหลักว่า ตัวแม่ (motherboard) จึงได้เรียกตัวนี้ว่า ตัวลูก | habeas corpus | n. หมายศาลที่เรียกตัวบุคคลให้มาปรากฏต่อหน้าผู้พิพากษาหรือศาล | monition | (โมนิช'เชิน) n. การเตือน, ลางบอกเหตุ, หมาย, หมายเรียกตัวจากศาล | self-proclaimed | (เซลฟฺ'โพรเคลมดฺ') adj. เรียกตัวเอง, ประกาศตัวเอง | soi-disant | (สวะดี'ซาน') adj. เรียกตัวเอง, ขนานนามตัวเอง, แสร้งทำ, กำมะลอ, อุปโลกน์ | subpoena | (ซับพี'นะ) n. หมายศาล, หมายเรียก vt. เรียกตัวด้วยหมายศาลหรือหมายเรียก., Syn. subpena, summons, summon | summon | (ซัม'เมิน) vt. เรียก, เรียกตัว, เรียกประชุม, ออกหมายเรียก, ปลุกเร้า, ปลุกให้ตื่น, กระตุ้น., See also: summonable adj. summoner n., Syn. call | summons | (ซัม'เมินซ) n. การเรียกตัว, การออกหมายเรียก, การขอร้อง, การเรียกร้อง, หมายศาล, หมายเรียก, การเรียกตัวให้มาประชุมรัฐสภา. pl. summonses, Syn. subpoena, call |
| arraign | (vt) ออกหมายเรียกตัว, กล่าวหา, นำตัวมาขึ้นศาล, ฟ้องร้อง | arraignment | (n) การออกหมายเรียกตัว, การฟ้องร้อง, การกล่าวหา | convene | (vi, vt) เรียกประชุม, เรียกตัว, ทำให้รวมกัน, มาชุมนุมกัน, ประชุม | monition | (n) คำตักเตือน, หมายเรียกตัว, ลางบอกเหตุ, เครื่องเตือน | summons | (n) หมายศาล, หมายเรียกตัว, การเรียกตัว, การขอร้อง |
| recursion | (n) การเรียกตัวเองซ้ำ | talaing | (n) คำที่ใช้เรียกตัวเองของ"มอญ" แต่พม่าเรียก"มอญ"ว่า ตะเลง (Talaings) ซึ่งเพี้ยนมาจากคำว่า Talingana อันเป็นแคว้นหนึ่ง ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศอินเดีย, Syn. Mon |
| 俺 | [おれ, ore] (n, vulgar) สรรพนามใช้เรียกตัวเองของผู้ชาย ไม่สุภาพ |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |