ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ห้าม, -ห้าม- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ คำต้องห้าม | คำด่าเหล่านี้ผู้ใช้อาจมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 393 ฐานดูุหมิ่นผู้อื่นซึ่งหน้า: อีดอก,
อีเหี้ย,
อีสัตว์,
อีควาย,
อีตอแหล,
ไอ้ระยำ,
ไอ้เบื๊อก,
ไอ้ตัวแสบ,
เฮงซวย,
ผู้หญิงต่ำๆ,
พระหน้าผี,
พระหน้าเปรต,
มารศาสนา,
ไอ้หน้าโง่,
อีร้อย...(ตามด้วยคำลามก),
อีดอกทอง
ที่มา: http://www.komchadluek.net/news/scoop/287099 |
| |
| ห้าม | (v) forbid, See also: prohibit, disallow, ban, Thai Definition: ให้เว้นกระทำ,
ไม่ให้ทำตามที่กำหนดไว้ | ห้ามใจ | (v) restrain oneself, See also: suppress/control one's feeling, Syn. ระงับใจ, ข่มใจ, ยับยั้งใจ, Ant. ปล่อยใจ, ตามใจ, Example: เธอควรห้ามใจตัวเองเสียบ้าง ไม่ใช่ตามใจตัวเองแบบนี้ | ข้อห้าม | (n) prohibition, See also: ban, taboo, forbiddance, Syn. ข้อจำกัด, ข้อละเว้น, ข้อกำหนด, ข้อบังคับ, Example: ศาสนาแต่ละศาสนาต่างก็มีข้อห้ามที่เป็นไปในทางเดียวกันคือไม่ให้ทำความชั่ว, Count Unit: ข้อ,
ประการ, Thai Definition: สิ่งที่ให้เว้นกระทำหรือไม่ให้ทำตามที่กำหนดไว้ | นางห้าม | (n) royal concubine, See also: prince's concubine, Syn. นางสนม, หม่อมห้าม, Example: เธอถูกเลือกเข้าไปเป็นนางห้ามอยู่ในวัง, Count Unit: คน, Thai Definition: หญิงสามัญที่เป็นภรรยาของเจ้านายที่ไม่ใช่สะใภ้หลวง | หวงห้าม | (v) forbid, See also: restrict, prohibit, Syn. ห้าม, Ant. อนุญาต, Example: ผู้ใหญ่แสนจะหวงห้ามไม่ให้ลูกหลานผู้หญิงออกจากบ้าน ยามตะวันลับดวงไปแล้ว, Thai Definition: ห้ามกันไว้ | หวงห้าม | (adj) forbidden, See also: prohibited, restricted, Ant. อนุญาต, Example: กฎหมายห้ามทำการประมงในเขตหวงห้าม เพื่อสงวนไว้เป็นที่วางไข่และหลบซ่อนของลูกปลาวัยอ่อน, Thai Definition: เกี่ยวกับการห้ามกันไว้ | หักห้าม | (v) restrain, See also: suppress, repress, control, check, Syn. ยับยั้งใจ, ระงับ, อดกลั้น, หักห้ามใจ, Example: ในบางครั้งเราต้องรู้จักหักห้ามใจในสิ่งที่อยากได้ | หักห้าม | (v) restrain, See also: repress, hinder, hold, constrain, confine, Syn. ยับยั้งใจ, ระงับ, อดกลั้น, ข่มใจ, Example: การที่จะหักห้ามใจไม่ทำในสิ่งที่ตนเองปรารถนาไม่ใช่เรื่องง่าย | ห้ามทัพ | (v) try to stop people from quarreling, Syn. ยับยั้งศึก, ห้ามศึก, Example: บ่อยๆ ครั้งที่เขาต้องคอยห้ามทัพศึกตีฝีปากระหว่างพนักงานด้วยกัน | ห้ามล้อ | (n) brake, Syn. เบรก, Example: รถยนต์สมัยก่อนห้ามล้อไม่ค่อยจะทนทานนัก, Thai Definition: กลอุปกรณ์ชนิดหนึ่งใช้สำหรับลดความเร็วแห่งการหมุนของล้อรถ | ห้ามล้อ | (v) brake, See also: stop, cease, Syn. เบรก, Example: คนขี่จักรยานห้ามล้อเกือบไม่ทัน | ต้องห้าม | (adj) forbidding, See also: prohibitive, contraband, Ant. อนุญาต, Example: สินค้าต้องห้ามในการนำเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาคือยาเสพติดและงาช้าง, Thai Definition: แตะต้องไม่ได้,
ยุ่งเกี่ยวไม่ได้ | สั่งห้าม | (v) prohibit, See also: forbid, interdict, obstruct, prevent, ban, Example: นายกฯ สั่งห้ามเกษตรฯ โยกย้ายระดับ 10 ก่อนปรับโครงสร้างกระทรวงเสร็จ, Thai Definition: ชี้แจ้งไว้เพื่อห้ามปฏิบัติ | ห้ามญาติ | (n) style of Buddha image, Syn. ปางห้ามญาติ, Example: พระปางห้ามญาติมีอยู่แทบทุกวัด, Thai Definition: พระพุทธรูปปางหนึ่ง อยู่ในพระอิริยาบถยืน พระหัตถ์ซ้ายห้อยลงข้างพระกาย พระหัตถ์ขวาแบตั้งขึ้นเสมอพระอุระ เป็นกิริยาห้าม | ห้ามปราม | (v) dissuade, See also: warn, discourage, deter, Syn. ห้าม, Example: ลูกชายกับลูกสะใภ้ทะเลาะตบตีแล้วร้องไห้เสียงลั่นจนผู้เป็นแม่ต้องออกมาห้ามปราม, Thai Definition: สั่งไม่ให้ทำ | ห้ามเข้า | (v) no entry, See also: no admittance | หม่อมห้าม | (n) king's plebeian concubine, Example: พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์เข้าเฝ้าอาการประชวร รวมไปถึงเจ้าจอม,
หม่อมห้าม,
ขุนนางน้อยใหญ่, Count Unit: คน, Thai Definition: หญิงสามัญที่เป็นภรรยาของเจ้านาย,
ใช้คำนำหน้านามว่า หม่อม | ห้ามสมุทร | (n) style of Buddha image, Syn. ปางห้ามสมุทร, Example: พระปางห้ามสมุทรก็พอหาดูได้, Thai Definition: พระพุทธรูปปางหนึ่ง อยู่ในพระอิริยาบถยืน พระหัตถ์ทั้ง 2 แบตั้งขึ้นเสมอพระอุระ เป็นกิริยาห้าม | ห้ามเลือด | (v) stop the bleeding, See also: stanch/staunch the bleeding, Example: เราพยายามห้ามเลือดที่ไหลออกมาจากแผลของเขาไม่หยุด, Thai Definition: ทำให้เลือดหยุดไหลด้วยวิธีการต่างๆ | คำต้องห้าม | (n) taboo, See also: offensive word, prohibited word, lewd word, profanity, obscenity, obscene word, Thai Definition: คำที่ห้ามพูดเพราะมีความหมายส่อไปทางลบเช่น ทางเพศ ความชั่วร้าย | เขตหวงห้าม | (n) forbidden ground, See also: out-of-bounds area, forbidden area, Syn. พื้นที่หวงห้าม | ป้ายห้ามจอด | (n) no-parking sign, Example: ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็เจอแต่ป้ายห้ามจอดทั้งนั้น คราวหลังฉันจะไม่ขับรถมาแถวนี้อีกแล้ว, Count Unit: ป้าย, Thai Definition: แผ่นสัญลักษณ์ที่มีเครื่องหมายสื่อความว่าห้ามจอดรถ | สิ่งต้องห้าม | (n) prohibition, See also: ban, Syn. เรื่องต้องห้าม, ของต้องห้าม | สินค้าต้องห้าม | (n) prohibited goods, Example: ทางศุลกากรเริ่มจริงจังกับสินค้าต้องห้ามอย่างเคร่งครัด | ห้ามเดินลัดสนาม | (v) keep off the grass |
| ชิงสุกก่อนห่าม | ก. ทำสิ่งที่ยังไม่สมควรแก่วัยหรือยังไม่ถึงเวลา (มักหมายถึงการลักลอบได้เสียกันก่อนแต่งงาน),
ใช้เป็นคำสอนหรือเตือนสติว่า อย่าชิงสุกก่อนห่าม. | ตราภูมิคุ้มห้าม | น. หนังสือราชการประจำตัวไพร่หลวงสำหรับบางหมู่บางพวก เดิมเพื่อได้รับการลดหย่อนภาษีอากรต่าง ๆ หรือได้รับยกเว้นการเกณฑ์แรงงานตามที่กำหนดให้ ต่อมาเหลือเพียงการลดหย่อนภาษีอากร. | นางห้าม | น. สตรีผู้เนื่องในพระราชวงศ์หรือสตรีสามัญที่เป็นภรรยาของเจ้านาย,
เดิมเรียกว่า ห้าม ต่อมาเรียกว่า นางห้าม หม่อมห้าม และ หม่อม ตามลำดับ. | ไม้หวงห้าม | น. ไม้ซึ่งการทำไม้และการเคลื่อนย้ายจะต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่หรือได้รับสัมปทานตามกฎหมายป่าไม้. | สุกก่อนห่าม | ว. ที่ทำสิ่งที่ยังไม่สมควรแก่วัยหรือยังไม่ถึงเวลา (มักหมายถึงการลักลอบได้เสียกันก่อนแต่งงาน) เช่น ใครเขาจะเอาเยี่ยงอย่างอีซนซุก อีสุกก่อนห่าม มันมาอยู่สักกี่วันกี่เดือน นี่มันจะมาตั้งเตือนต่อก่อความให้ขุ่นไปทั้งบ้าน (ม. ร่ายยาว ชูชก). | หม่อมห้าม | น. สตรีผู้ที่เนื่องในพระราชวงศ์หรือสตรีสามัญที่เป็นภรรยาของเจ้านาย,
เดิมเรียกว่า ห้าม ต่อมาเรียกว่า นางห้าม หม่อมห้าม และ หม่อม ตามลำดับ. | หวงห้าม | ก. กันไว้โดยเฉพาะ เช่น ผลไม้ในสวนนี้เจ้าของไม่หวงห้าม จะเก็บไปกินก็ได้. | หวงห้าม | ว. ที่กันไว้โดยเฉพาะ เช่น เขตหวงห้าม เข้าได้เฉพาะผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง. | หักห้าม | ก. ยับยั้งใจ. | ห่าม | ว. จวนสุก (ใช้แก่ผลไม้) | ห่าม | มีนิสัยมุทะลุ ห้าวหาญบ้าบิ่น ผิดปรกติวิสัย. | ห้าม | ก. ให้เว้นกระทำ,
ไม่ให้ทำตามที่กำหนดไว้. | ห้าม | น. เรียกภรรยาของเจ้านายที่ไม่ใช่สะใภ้หลวง ว่า นางห้าม,
เรียกหญิงสามัญที่เป็นเมียของเจ้านาย ว่า หม่อมห้าม. | ห้ามเข้าเขตกำหนด | น. วิธีการเพื่อความปลอดภัยอย่างหนึ่งที่ศาลใช้ห้ามผู้ถูกลงโทษและพ้นโทษแล้วเข้าในเขตที่กำหนดได้ไม่เกิน ๕ ปี. | ห้ามญาติ | น. ชื่อพระพุทธรูปปางหนึ่ง อยู่ในพระอิริยาบถยืน พระหัตถ์ซ้ายห้อยลงข้างพระกายตามปรกติ พระหัตถ์ขวาแบตั้งขึ้นเสมอพระอุระยื่นออกไปข้างหน้า เป็นกิริยาห้าม. | ห้ามทัพ | ก. ยับยั้งศึก,
โดยปริยายหมายความว่า ยับยั้งการทะเลาะวิวาทกัน. | ห้ามปราม | ก. สั่งไม่ให้ทำ. | ห้ามพระแก่นจันทน์ | น. ชื่อพระพุทธรูปปางหนึ่ง อยู่ในพระอิริยาบถยืน พระหัตถ์ขวาห้อยลงข้างพระกาย พระหัตถ์ซ้ายแบตั้งขึ้นเสมอพระอุระ เป็นกิริยาห้าม. | ห้ามไม่ให้ | ก. เป็นการย้ำไม่ให้ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น ห้ามไม่ให้เขียน ห้ามไม่ให้พูด. | ห้ามล้อ | ก. ยั้ง. น. กลอุปกรณ์ชนิดหนึ่งใช้สำหรับลดความเร็วแห่งการหมุนของล้อรถ. | ห้ามเลือด | ก. ทำให้เลือดหยุดไหลด้วยวิธีการต่าง ๆ. | ห้ามสมุทร | น. ชื่อพระพุทธ-รูปปางหนึ่ง อยู่ในพระอิริยาบถยืน พระหัตถ์ทั้ง ๒ ข้างยกเสมอพระอุระ ตั้งฝ่าพระหัตถ์ยื่นออกไปข้างหน้า เป็นกิริยาห้าม ที่สร้างเป็นแบบพระทรงเครื่องก็มี. | กรอด ๓ | (กฺรอด) ก. บรรเลงดนตรีประเภทเครื่องตีดำเนินทำนอง โดยวิธีบังคับหรือห้ามเสียงในช่วงท้ายให้สั้นลง มักใช้ในการตีระนาด ฆ้องวง และกรับเสภา. | กระตุก | รั้งไว้,
ห้ามไว้โดยเร็ว,
เช่น เกือบจะมีเรื่องกับเขาแล้ว ดีว่าเพื่อนกระตุกไว้ | กระเห่อ | ก. เห่อ เช่น คนห่ามกระเห่อทำ อวดรู้ (พระนลคำหลวง อารัมภกถา). | กู่ไม่กลับ | ก. ไม่ฟังคำทัดทาน,
ห้ามไม่อยู่. | ขนอน ๑ | (ขะหฺนอน) น. สถานที่ซึ่งตั้งอยู่ในเส้นทางเข้าออกเมืองหรือเขตแดน เพื่อตรวจคนเข้าออก ผู้ลักลอบผ่านด่าน สิ่งของหรือสินค้าต้องห้าม และเรียกเก็บภาษีอากรสินค้า,
ที่คอยเหตุและคนแปลกปลอม. | ขยับเขยื้อน | (-ขะเยื่อน) ก. เคลื่อนที่,
เลื่อนที่,
ย้ายที่,
(มักใช้ในความปฏิเสธ) เช่น หมอห้ามไม่ให้ขยับเขยื้อนเพราะกระดูกหัก. | ขอที,
ขอเสียที | ก. ห้ามเชิงขอร้อง,
ขอให้ละเว้นการกระทำ. | ขานนาค | ก. กล่าวตอบในเวลาที่พระคู่สวดสวดถามคุณสมบัติและโรคต้องห้ามเป็นภาษาบาลีในที่ประชุมสงฆ์ แล้วนาคผู้ขอบวชเป็นภิกษุตอบรับหรือปฏิเสธเป็นภาษาบาลีเช่นกัน. | ขึงตา | ก. จ้องดูอย่างเขม็งด้วยอาการโกรธ หรือด้วยประสงค์จะห้าม. | คดีอุทลุม | น. คดีที่บุคคลฟ้องบุพการีของตนเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญา ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่า ผู้ใดจะฟ้องบุพการีของตนเป็นคดีแพ่งหรือคดีอาญาไม่ได้. | ค้นตัว | ก. ตรวจค้นตามร่างกาย เพื่อหาของกลาง ของต้องห้าม หรือของที่ผิดกฎหมาย เป็นต้น เช่น ตำรวจค้นตัวผู้ต้องสงสัย. | คร่า | (คฺร่า) ก. ฉุดลากไปอย่างไม่ปรานี เช่น ถ้าเจรจาถึง ๒ ครั้งไซ้ให้คร่ามือออกไปจากพระโรงแลให้ห้ามเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (สามดวง),
ท่านให้มาว่ากล่าวร้องฟ้องณะโรงสานตามกระบินเมืองอย่าให้ตีด่าฉุดคร่าเอาโดยกำลังเองศักอันเลย (สามดวง) | ค่าภาคหลวง | น. ค่าสิทธิซึ่งกฎหมายกำหนดให้ผู้ได้รับอนุญาตให้ทำการหาประโยชน์จากทรัพยากรของชาติต้องชำระให้แก่รัฐ เช่น ค่าภาคหลวงแร่ ค่าภาคหลวงไม้หวงห้าม. | จนได้ | ว. ในที่สุดก็เป็นเช่นนั้น เช่น ห้ามแล้วยังไปทำอีกจนได้. | จุ ๒,
จุ ๆ | ว. เสียงดังเช่นนั้นอย่างเสียงดูดลมเข้าปากเพื่อดุ ห้าม หรือเตือนเป็นต้น. | ซ้อนคัน | ก. จอดรถยนต์ขนาบข้างรถยนต์คันอื่น เป็นการกีดขวางทางจราจร เช่น ห้ามจอดรถซ้อนคัน. | ดำนาณ | น. เครื่องห้าม,
เครื่องป้องกัน,
เครื่องต้านทาน,
ที่พึ่ง,
ที่อาศัย. | ดำเนิน ๒ | ว. ห่าม,
แก่ยังไม่จัด,
(ใช้แก่ผลไม้บางชนิด),
เช่น มะม่วงดำเนิน กล้วยดำเนิน ขนุนดำเนิน,
ตำเนิน ก็ว่า. | ตัดใจ | ก. ห้ามใจไม่ให้คิดในเหตุที่เกิดขึ้น. | ตำเนิน ๑ | ว. ห่าม,
แก่ยังไม่จัด,
(ใช้แก่ผลไม้บางชนิด),
เช่น มะม่วงตำเนิน กล้วยตำเนิน ขนุนตำเนิน,
ดำเนิน ก็ว่า. | ทรธึก | ว. ใช้เรียกวันในตำราหมอดู ว่า วันทรธึก หมายความว่า วันที่ห้ามทำการมงคลต่าง ๆ. | ทัณฑ์บน | คำรับรองว่าจะไม่กระทำการที่ห้ามหรือกระทำความผิดอีกภายในเวลาที่กำหนด. | ทัดทาน | ก. กล่าวหรือแสดงออกเป็นทำนองห้ามหรือท้วงเพื่อให้งดไว้. | นาคเกี้ยวกระหวัด,
นาคบริพันธ์ ๑ | (นากบอริพัน) น. ชื่อกลอนกลบทแบบหนึ่ง กำหนดให้ ๒ คำต้นของวรรคต่อไปซ้ำกับ ๒ คำสุดท้ายของวรรคหน้า โดยให้สลับคำกัน เช่น พระปิตุรงค์ฟังบุตรเห็นสุดห้าม ห้ามสุดความคิดบุตรเห็นสุดหาญ หาญสุดไม่หยุดยั้งจะรั้งราญ ราญรั้งนานแน่วเนตรสังเวชบุตร (ศิริวิบุลกิตติ์). | น้ำตาลใกล้มดใครจะอดได้ | น. ชายหญิงที่ใกล้ชิดกันมากย่อมห้ามใจไม่ให้รักกันได้ยาก. | เนตบอล | น. กีฬาอย่างหนึ่ง คล้ายบาสเกตบอล มีผู้เล่นฝ่ายละ ๗ คน และส่งลูกบอลโดยวิธีโยนหรือขว้างเท่านั้น ห้ามเตะหรือตบลูกบอลกับพื้น. | บวรโตฎก | (บอวอระโตดก) น. ชื่อกลอนกลบทแบบหนึ่ง กำหนดให้ ๓ พยางค์ต้นวรรคแต่ละวรรคเป็นสะคณะคือพยางค์เบา ๒ พยางค์ พยางค์หนัก ๑ พยางค์ เช่น ชลเนตรไหลนองร้องร่ำรัก ชลไนยไหลหนักอาวรณ์หวาม ชนนีห้ามบุตรสุดไม่ตาม ชลนานองน้ำพระเนตรนอง (สารานุกรมศัพท์วรรณกรรมไทย ภาคฉันทลักษณ์). | บังคับใจ | ก. ห้ามใจ,
ข่มใจ,
อดกลั้น |
| proscribed organization | องค์การที่ต้องห้าม [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | pre-contract | สัญญาห้ามทำสัญญาซ้อน [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | permissions | กรณีที่ไม่มีกฎหมายห้ามไว้ [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | provisional injunction | คำสั่งห้ามชั่วคราว [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | preclude | ต้องตัดบท,
ห้ามอ้าง [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | prohibition | การห้าม,
ข้อห้าม [รัฐศาสตร์
๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | prohibition | การห้าม,
ข้อห้าม,
คำสั่งห้าม [
ดู inhibition
] [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | prohibition,
writ of | หมายห้ามของศาล [รัฐศาสตร์
๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | restrain | ๑. หน่วงเหนี่ยว,
กักขัง,
ควบคุมตัว (ก. อาญา)๒. จำกัด,
ห้ามกระทำการ (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | restraining order | คำสั่งให้งดเว้นกระทำการ,
คำสั่งห้ามกระทำการ [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | resale price maintenance | ข้อตกลงห้ามขายต่ำกว่าราคาที่กำหนด [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | suppression | ๑. การห้ามไหล๒. การกด๓. การพยายามลืม (กลไกทางจิต) [แพทยศาสตร์
๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | stop list,
trade | รายชื่อผู้ต้องห้ามติดต่อค้าขาย [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | styptic | ๑. -สมาน (แผล)๒. ยาห้ามเลือด [แพทยศาสตร์
๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | anhidrotic; antihidrotic | ๑. สารห้ามเหงื่อ๒. -ห้ามเหงื่อ [แพทยศาสตร์
๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | access denied | ข้อความห้ามเข้าถึง [คอมพิวเตอร์
๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | absolute contraband | ยุทธปัจจัยต้องห้ามเด็ดขาด [รัฐศาสตร์
๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | absolute contraband | ของต้องห้ามเด็ดขาด [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | antihidrotic; anhidrotic | ๑. สารห้ามเหงื่อ๒. -ห้ามเหงื่อ [แพทยศาสตร์
๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | brake | เบรก,
ห้ามล้อ [ยานยนต์
๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | mandatory injunction | คำสั่งศาลห้ามมิให้กระทำต่อไป [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | yellow dog contract | สัญญาที่ห้ามลูกจ้างเป็นสมาชิกสหภาพแรงงาน [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | condemnation | ๑. การพิพากษาลงโทษทางอาญา (ป. วิ. อาญา)๒. การบังคับให้บุคคลกระทำหรืองดเว้นกระทำ การตามคำพิพากษา (ป. วิ. แพ่ง)๓. การประณาม,
การพิพากษาของศาลทรัพย์เชลย (ก. ระหว่างประเทศ)๔. การเรียกเกณฑ์ทรัพย์,
การเวนคืนทรัพย์,
การสั่งห้ามใช้อาคาร (ที่ไม่ถูกต้องด้วยสุขลักษณ [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | curfew | การห้ามออกจากเคหสถานเวลาค่ำคืน [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | countermand | ๑. การยกเลิกคำสั่ง (ก. ปกครอง)๒. คำบอกห้าม (การใช้เงินตามตั๋วเงิน) (ก. พาณิชย์) [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | continence | การหักห้าม,
การกลั้น [แพทยศาสตร์
๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | contraindication | ข้อห้ามใช้ [แพทยศาสตร์
๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | condemnation | ๑. การพิพากษา (ให้ลงโทษหรือให้ริบทรัพย์สิน)๒. การสั่งห้ามใช้ (อาคารหรือยานพาหนะที่มีสภาพไม่ปลอดภัย)๓. การประณาม (ในทางการระหว่างประเทศ)๔. การพิพากษาของศาลทรัพย์เชลย๕. การเวนคืนทรัพย์ [
ดู expropriation ประกอบ
] [รัฐศาสตร์
๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | contraband | ของต้องห้าม [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | contraband of war | ของต้องห้ามยามสงคราม [รัฐศาสตร์
๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | contraband,
absolute | ยุทธปัจจัยต้องห้ามเด็ดขาด [รัฐศาสตร์
๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | dismissal with prejudice | การยกฟ้องโดยห้ามฟ้องใหม่ [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | dismissal without prejudice | การยกฟ้องโดยไม่ห้ามฟ้องใหม่ [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | disbarment | การถอนใบอนุญาตทนายความ,
การห้ามว่าความ [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | double jeopardy | การห้ามฟ้องซ้ำคดีอาญา (ในความผิดเดียวกัน) [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | denial of access | การห้ามเข้าใช้อาคาร [ประกันภัย
๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | forceps,
haemostatic; forceps,
hemostatic | คีมห้ามเลือด [แพทยศาสตร์
๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | forceps,
hemostatic; forceps,
haemostatic | คีมห้ามเลือด [แพทยศาสตร์
๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | forbidden character code | รหัสอักขระต้องห้าม [คอมพิวเตอร์
๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | extraconstitutional | ๑. นอกเหนือรัฐธรรมนูญ๒. ต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ๓. ขัดต่อรัฐธรรมนูญ [รัฐศาสตร์
๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | embargo | ๑. การห้ามเรือ (เข้าหรือออก)๒. การห้ามสินค้า (นำเข้าหรือส่งออก) [รัฐศาสตร์
๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | embargo | ๑. การกักเรือสินค้าที่อยู่ในท่า๒. การห้ามส่งสินค้า (ไปยังประเทศอื่น) [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | electrohaemostasis; electrohemostasis | การห้ามเลือดด้วยไฟฟ้า [แพทยศาสตร์
๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | electrohemostasis; electrohaemostasis | การห้ามเลือดด้วยไฟฟ้า [แพทยศาสตร์
๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | illicit | ผิดกฎหมาย,
ต้องห้ามตามกฎหมาย [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | incompatability | ๑. ความมีลักษณะต้องห้าม (ก. ปกครอง)๒. ความมีลักษณะขัดกัน,
ความเข้ากันไม่ได้ (ก. แพ่ง) [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | interdiction | การห้าม,
คำสั่งห้าม [รัฐศาสตร์
๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | incompatibility | ๑. ความมีลักษณะต้องห้าม (ตามกฎหมาย)๒. ความมีลักษณะขัดกัน,
ความเข้ากันไม่ได้ [รัฐศาสตร์
๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | incest | การร่วมประเวณีกับญาติสนิท,
การร่วมเพศกับญาติสนิท (ที่กฎหมายห้ามมิให้สมรสกัน) [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | interlocutory injunction | คำสั่งห้ามของศาลระหว่างพิจารณา [นิติศาสตร์
๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
| Banned book | หนังสือต้องห้าม [เทคโนโลยีการศึกษา] | Banned book | หนังสือต้องห้าม, Example: Banned book หมายถึง หนังสือต้องห้าม เป็นหนังสือหรือสิ่งพิมพ์ที่ถูกห้ามหรือถูกระงับโดยสถาบันทางศาสนาหรือโดยรัฐบาลด้วยเหตุผลใดเหตุผลหนึ่ง เนื่องจากมีเนื้อหาที่ต้องคัดค้านหรือเป็นอันตราย โดยทั่วไปเป็นด้วยเหตุผลทางศาสนา ทางการเมือง หรือทางสังคม (เช่น The Grapes of Wrath,
Leaves of Grass การปฏิวัติของจีน หลักลัทธิเลนิน) หนังสือต้องห้ามเป็นหนังสือที่ถูกห้ามนำเข้าไปไว้ในห้องสมุด ร้านหนังสือ หรือห้องเรียน เนื่องจากมีเนื้อหาที่ก่อให้เกิดการโต้แย้ง การท้าทายในทางการเมือง ทางศาสนา หรือทางสังคม ในอดีตหนังสือต้องห้ามหลาย ๆ เล่มถูกเผาหรือถูกปฏิเสธการพิมพ์ การครอบครองหนังสือต้องห้ามถูกมองว่าเป็นการกระทำที่เป็นกบฏ หรือเป็นผู้มีความคิดเห็นนอกรีต ซึ่งบางครั้งอาจมีโทษทางกฎหมายถ้าละเมิด อย่างไรก็ตาม บางครั้งการห้ามก็อาจได้รับการยกเลิกได้เมื่อมีการท้าทายกันในศาล และศาลมีคำสั่งให้ยกเลิกการห้าม [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] | Unrestricted area | พื้นที่ไม่หวงห้าม,
พื้นที่ใดๆ ของโรงงานนิวเคลียร์ที่ไม่ได้กำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมหรือพื้นที่หวงห้าม (ดู controlled area และ restricted area ประกอบ) [นิวเคลียร์] | Restricted area | พื้นที่หวงห้าม,
พื้นที่ที่มีการควบคุมการเข้าออกของบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการได้รับรังสี หรือสารกัมมันตรังสี [นิวเคลียร์] | Injunction | คำสั่งห้ามของศาล หรือคำสั่งให้ดำเนินการใด ๆ จากศาล [ทรัพย์สินทางปัญญา] | ็Halt trade | หลักทรัพย์ดังกล่าวอยู่ระหว่างถูกห้ามซื้อขาย, Example: เครื่องหมายนี้ย่อมาจาก halt trade ตลาดหลักทรัพย์ติดเครื่องหมายนี้ไว้บนหลักทรัพย์เพื่อแสดงให้ผู้ลงทุนทราบว่า หลักทรัพย์ดังกล่าวอยู่ระหว่างถูกห้ามซื้อขายสำหรับช่วงเวลาการซื้อขายรอบนั้น ตลาดหลักทรัพย์จะขึ้นเครื่องหมาย H แก่หลักทรัพย์ที่ปรากฏว่า มีเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นกับบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์นั้นในระหว่างเวลาซื้อขายรอบดังกล่าว และอยู่ระหว่างรอการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดเผยได้ทันที [ตลาดทุน] | Suspension | เครื่องหมายที่ตลาดหลักทรัพย์ติดบนหลักทรัพย์เพื่อแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบว่าหลักทรัพย์ดังกล่าวอยู่ในระหว่างถูกห้ามซื้อขายชั่วคราว, Example: ย่อมาจาก suspension เป็นเครื่องหมายที่ตลาดหลักทรัพย์ติดบนหลักทรัพย์เพื่อแจ้งให้ผู้ลงทุนทราบว่าหลักทรัพย์ดังกล่าวอยู่ในระหว่างถูกห้ามซื้อขายชั่วคราว ตลาดหลักทรัพย์จะสั่งห้ามการซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัทใดเป็นการชั่วคราวเมื่อ 1. บริษัทนั้นฝ่าฝืนหรือละเลยไม่ปฏิบัติตามข้อบังคับของตลาดหลักทรัพย์ 2. ปรากฏข่าวสารหรือข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินหรือผลการดำเนินงานของบริษัท ซึ่งมีผลกระทบ หรืออาจมีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงราคาหลักทรัพย์ของบริษัทอย่างรุนแรง โดยที่ข่าวสารนั้นยังไม่ได้เปิดเผยต่อ สาธารณชนผ่านตลาดหลักทรัพย์ หรืออยู่ระหว่างที่ตลาดหลักทรัพย์กำลังรอการเปิดเผยข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่สอบถามไป หรือกำ ลังรอการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมเพราะรายงานที่ได้รับยังไม่ครบถ้วนชัดเจนเพียงพอ 3. บริษัทขอให้ตลาดหลักทรัพย์สั่งพักการซื้อขายหุ้นของบริษัทเนื่องจากมีข่าวหรือข้อมูลสำคัญที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ซึ่งอาจมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของราคาหลักทรัพย์ที่อยู่บน special board (กระดานพิเศษ) ซึ่งเป็นส่วนของระบบ ARMS ที่ใช้วิธีซื้อขายแบบ Put Through เพื่อรองรับการซื้อขายตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรหุ้นกู้ หุ้นกู้แปลงสภาพ เป็นต้น ทั้งนี้แต่ละรายการซื้อขายจะต้องต่ำกว่า 1 ล้านหุ้น หรือมีมูลค่าต่ำกว่า 3 ล้านบาท(การซื้อขายตราสาร หนี้จำนวนมากดังกล่าวหรือมากกว่า จะต้องกระทำบน Big-Lot Board) การซื้อขายบนกระดานนี้ไม่นำเรื่อง Floor Price และ Ceiling Price มาใช้บังคับ [ตลาดทุน] | Silent period | ช่วงเวลาห้ามขายหุ้น, Example: ช่วงระยะเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนดห้ามผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ผู้เกี่ยวข้องกับผู้บริหารและ/หรือผู้เกี่ยวข้อง กับผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทจดทะเบียนใหม่ ในการนำหุ้นบริษัทดังกล่าวที่ตนถือครองอยู่ออกขาย โดยทั่วไปช่วงเวลาห้ามขาย หุ้นจะประมาณ 6 เดือนนับแต่วันแรกที่ให้มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ แต่ในบางกรณีอาจจะกำหนดให้นานกว่า 6 เดือนก็ได้ แต่ไม่เกิน 3 ปี [ตลาดทุน] | Convention Concerning the Prohibition and Immediate Action for the Elimination of the Worst Forms of Child Labour (1999) | อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามและการขจัดรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดของการใช้แรงงานเด็ก (ค.ศ. 1999) [TU Subject Heading] | Covenants not to compete | ข้อสัญญาห้ามการแข่งขันทางธุรกิจ [TU Subject Heading] | Curfews | การห้ามออกจากบ้านเวลากลางคืน [TU Subject Heading] | Forbidden City (Beijing,
China) | พระราชวังต้องห้าม [TU Subject Heading] | Hemostasis | การห้ามเลือด [TU Subject Heading] | Hemostatic techniques | เทคนิคการห้ามเลือด [TU Subject Heading] | Neurosurigical procedures | ศัลยกรรมประสาท,
ศัลยกรรมประสาท ใช้กับงานที่กล่างถึงวิธีหรือขั้นตอนของการดำเนินการผ่าตัดระบบประสาท หรือส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบ เป็นหัวเรื่องทางการแพทย์ที่ใช้ได้กับหัวเรื่องย่อยเฉพาะด้านในกลุ่ม E4 ยกเว้นบางคำที่ระบุคำสั่งห้ามใช้ [TU Subject Heading] | Prohibited books | หนังสือต้องห้าม [TU Subject Heading] | Usury laws | กฎหมายห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา [TU Subject Heading] | Non-Hunting Area | เขตห้ามล่าสัตว์ป่า, Example: พื้นที่คุ้มครองประเภทหนึ่ง ซึ่งรัฐได้ประกาศขึ้น ให้เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าบางชนิด หรือเป็นที่ที่สัตว์ป่าต้องการใช้สำหรับกิจกรรมบางอย่างในการดำรงชีวิต เช่น เป็นที่ผสมพันธุ์ วางไข่ เลี้ยงลูกอ่อน เป็นแหล่งอาหาร เป็นที่พักระหว่างเดินทางย้ายถิ่นฐาน เป็นต้น เพื่อคุ้มครองสัตว์ป่าบางชนิดที่กำหนด [สิ่งแวดล้อม] | Embargo | การห้ามค้าขาย, Example: มีความหมายเป็น 2 ประการ 1) คำสั่งห้ามส่งสินค้าออกไปยังประเทศหนึ่ง หรือห้ามนำสินค้าเข้าจากประเทศหนึ่งมายังประเทศ ผู้สั่งห้ามซื้อขายกับประเทศนั้นๆ โดยปกติมักเกิดจาก เหตุผลความขัดแย้งทางการเมือง 2) คำสั่งห้ามนำเรือเข้าหรือออกจากท่าเรือ โดยปกติมักใช้ก่อนการประกาศทำสงคราม [สิ่งแวดล้อม] | Disposal Bans | ของห้ามทิ้ง, Example: ของที่ใช้แล้วห้ามทิ้งปนกับขยะธรรมดา [สิ่งแวดล้อม] | Restricted Plant | พืชต้องห้าม, Example: พืชที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดให้เป็นพืชต้องห้าม [สิ่งแวดล้อม] | Convention on the Prohibition of the Development,
Production and Stockpiling of Bacteriological (Biological) and Toxin Weapon an | Convention on the Prohibition of the Development,
Production and Stockpiling of Bacteriological (Biological) and Toxin Weapon and on their Destruction = อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามพัฒนา ผลิต และสะสมอาวุธบักเตรี (ชีวะ) และอาวุธทอกซิน และว่าด้วยการทำลายอาวุธเหล่านี้
(หรือเรียกสั้น ๆ ว่า อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ) [การทูต] | Convention on Prohibitions or Restrictions on the Use od Certain Conventional Weapons Which May Be Deemed to Be Excessively Inju | Convention on Prohibitions or Restrictions on the Use od Certain Conventional Weapons Which May Be Deemed to Be Excessively Injurious or to Have Indiscriminate Effects = อนุสัญญาห้ามอาวุธตามแบบบางชนิดที่ก่อให้เกิดการบาด เจ็บร้ายแรงเกินความจำเป็นหรือก่อให้เกิดลโดยไม่จำกัดเป้าหมาย มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการห้ามหรือหารจำกัดการใช้อาวุธตามแบบบางชนิดที่ก่อให้ เกิดผลกระทบร้ายแรงด้านมนุษยธรรม โดยสาระสำคัญของการ คอบคุมอาวุธตามแบบแต่ละชนิดจะถูกกำหนดไว้ในพิธีสารแต่ละฉบับต่างหาก ซึ่งในชั้นนี้ มีพิธีสาร 5 ฉบับ และรัฐต่างๆ สามารถเลือกยอมรับพิธีสารต่อท้ายอนุสัญญาฯ ฉบับใดก็ได้อย่างน้อยจำนวน 2 ฉบับ [การทูต] | Conference on Disamament | การประชุมว่าด้วยการลดอาวุธ
จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2522 เพื่อเป็นเวทีเจรจาการลดอาวุธระหว่างประเทศ มีขอบเขตความรับผิดชอบเกี่ยวกับประเด็นด้านการลดอาวุธทุกด้าน และมีหน้าที่ รายงานต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติทุกปี ปัจจุบันมีสมาชิก 65 ประเทศ(ไทยมิได้เป็นสมาชิก) โดยที่ผ่านมาประสบผลสำเร็จในการเจรจาจัดทำความตกลงระหว่างประเทศ ด้านการลดอาวุธหลายฉบับ ที่สำคัญได้แก่ สนธิสัญญาไม่แพร่อาวุธนิวเคลียร์ อนุสัญญาห้ามเคมี อนุสัญญาห้ามอาวุธชีวภาพ และสนธิสัญญาห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ [การทูต] | Consul | ข้าราชการที่ได้รับแต่งตั้งอย่างถูกต้องและได้รับ มอบหมายให้ไปประจำยังต่างประเทศ
เพื่อทำหน้าที่ดูแลผลประโยชน์ของประเทศทั้งในด้าน พาณิชย์ การเดินเรือ คุ้มครองความเป็นอยู่อันดีของพลเมืองของประเทศตน พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่บางอย่างด้านธุรการ หรือวางระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ ตลอดจนด้านการเป็นสักขีพยานการลงนามในเอกสาร เพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทางกฎหมาย (Notary) การให้การตรวจลงตรา รวมทั้งการรับรองเอกสารที่แท้จริง (มิใช่เอกสารปลอม) และจัดการการสัตย์สาบานตนหรืออีกนัยหนึ่ง ภาระหน้าที่ของกงสุลอาจแบ่งออกได้เป็น 5 ประการ ดังต่อไปนี้1 ทำหน้าที่ส่งเสริมผลประโยชน์ในทางพาณิชย์ของประเทศที่ตนเป็นผู้แทนอยู่2 ควบคุมดูแลผลประโยชน์ด้านการเดินเรือ3 คุ้มครองผลประโยชน์ของคนชาติของประเทศที่แต่งตั้งให้ตนไปประจำอยู่4 ทำหน้าที่สักขีพยานในการลงนามในเอกสารเพื่อให้เอกสารนั้นมีผลบังคับทาง กฎหมาย5 ทำหน้าที่ธุรการเบ็ดเตล็ดอื่นๆ หรือระเบียบแบบแผนที่ใช้เป็นประจำ เช่น การออกหนังสือเดินทาง การให้การตรวจลงตรา (Visas) การจดทะเบียนคนเกิด คนตาย ฯลฯอนุสัญญากรุงเวียนนา ภาคที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลข้อที่ 5 ได้กำหนดภาระหน้าที่ของฝ่ายกงสุลไว้ดังต่อไปนี้ ก. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่ง และของคนในชาติของรัฐผู้ส่ง ทั้งเอกชนและบรรษัทในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาตข. เพิ่มพูนการพัฒนาความสัมพันธ์ทางด้านการพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาการ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ รวมทั้งส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างกันในทางอื่น ตามบทแห่งอนุสัญญานี้ค. สืบเสาะให้แน่โดยวิถีทางทั้งปวงอันชอบด้วยกฎหมายถึงภาวะและความคลี่คลายใน ทางพาณิชย์ เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและวิทยาการของรัฐผู้รับ แล้วรายงานผลของการนั้นไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่ง และให้ข้อสนเทศแก่บุคคลที่สนใจง. ออกหนังสือเดินทางและเอกสารการเดินทางให้แก่คนในชาติของรัฐผู้ส่ง ตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือออกเอกสารที่เหมาะสมให้แก่บุคคลที่ประสงค์จะเดินทางไปยังรัฐผู้ส่งจ. ช่วยเหลือคนในชาติของรัฐผู้ส่งทั้งเอกชนและบรรษัทฉ. ทำหน้าที่นิติกรและนายทะเบียนราษฎร์ และในฐานะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ปฏิบัติการหน้าที่บางประการอันมีสภาพทางธุรการ หากว่าการหน้าที่นั้นไม่ขัดกับกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับช. พิทักษ์รักษาผลประโยชน์ของผู้เยาว์ และบุคคลไร้ความสามารถ ซึ่งเป็นคนชาติของรัฐผู้ส่ง ภายในขีดจำกัดที่ได้ตั้งบังคับไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ โดยเฉพาะในกรณีที่จำเป็นต้องมีความปกครองหรือภาวะทรัสตีใดๆ ในส่วนที่เกี่ยวกับบุคคลเหล่านั้นฌ. แทนคนชาติของรัฐผู้ส่ง หรือจัดให้มีการแทนอย่างเหมาะสมในองค์กรตุลาการ และต่อเจ้าหน้าที่ที่อื่นของรัฐผู้รับ เพื่อความมุ่งประสงค์ที่จะให้ได้มา ซึ่งมาตรการชั่วคราวสำหรับการรักษาสิทธิและผลประโยชน์ของคนในชาติเหล่านี้ ไว้ตามกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ ในกรณีที่คนในชาติเหล่านี้ไม่สามารถเข้าทำการป้องกันสิทธิและผลประโยชน์ของ ตนในเวลาอันเหมาะสมได้ เพราะเหตุของการไม่อยู่หรือเหตุอื่นใด ทั้งนี้ ให้อยู่ภายในข้อบังคับแห่งทางปฏิบัติ และวิธีดำเนินการซึ่งมีอยู่ในรัฐผู้รับญ. ส่งเอกสารทางศาล หรือเอกสารที่มิใช่ทางศาล หรือปฏิบัติตาม หนังสือของศาลของรัฐผู้ส่งที่ขอให้สืบประเด็น หรือตามการมอบหมายให้สืบพยานให้แก่ศาลของรัฐผู้ส่งนั้น ตามความตกลงระหว่างประเทศที่ใช้บังคับอยู่ หรือเมื่อไม่มีความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่านั้น โดยทำนองอื่นใดที่ต้องด้วยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับด. ใช้สิทธิควบคุมดูแลและตรวจพินิจตามที่ได้บัญญัติไว้ในกฎหมายและข้อบังคับของ รัฐผู้ส่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับเรือที่มีสัญชาติของของรัฐผู้ส่ง หรืออากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐนั้น รวมทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับลูกเรือของเรือและอากาศยานดังกล่าวต. ให้ความช่วยเหลือแก่เรือและอากาศยานที่ระบุไว้ในอนุวรรค (ด) ของข้อนี้ รวมทั้งลูกเรือของเรือและอากาศยานนั้น บันทึกถ้อยคำเกี่ยวกับการเดินทางของเรือ ตรวจดูและประทับตรากระดาษเอกสารของเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใด ๆ ที่ได้เกิดขึ้นในระหว่างนายเรือ ดำเนินการสืบสวนอุบัติเหตุใดๆ ที่ได้เกิดขั้นในระหว่างนายเรือ เจ้าพนักงาน และกะลาสี ตราบเท่าที่การนี้อาจได้อนุมัติไว้โดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้ส่ง ทั้งนี้ จะต้องไม่เป็นการเสื่อมเสียแก่อำนาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้รับถ. ปฏิบัติการหน้าที่อื่นใดที่รัฐผู้ส่งมอบหมายแก่สถานีทำการทางกงสุล ซึ่งมิได้ต้องห้ามโดยกฎหมายและข้อบังคับของรัฐผู้รับ หรือซึ่งไม่มีการแสดงข้อคัดค้านโดยรัฐผู้รับ หรือซึ่งมีอ้างถึงไว้ในความตกลงระหว่างประเทศ ที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งและรัฐผู้รับ [การทูต] | Convention on Cluster Munitions | อนุสัญญาว่าด้วยระเบิดพวง
มีสาระสำคัญคือ การห้ามใช้ สะสม ผลิตและโอนรวมทั้งต้องทำลายระเบิดพวง โดยมีการยกเว้นระเบิดพวงบางประเภทที่มีความแม่นยำต่อเป้าหมายและมีอัตรา ความเสี่ยงต่ำ โดยเปิดให้ลงนามอนุสัญญาฯ เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2551 ณ กรุงออสโล ประเทศนอร์เวย์เป็นต้นไป และจะมีผลบังคับใช้วันแรก ของเดือนที่หกหลังจากที่ 30 ประเทศ ได้ให้สัตยาบัน [การทูต] | Comprehensive Nuclear ? Test ? Ban Treaty Organization | องค์การสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองอาวุธ นิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ [การทูต] | Convention on the Prohibition of the Development,
Production,
Stockpiling and Use of Chemical Weapons and on Their Destruction | อนุสัญญาว่าด้วยการห้ามพัฒนา ผลิต สะสม และใช้อาวุธเคมี และว่าด้วยการทำลายอาวุธเหล่านี้
(หรือเรียกสั้น ๆ ว่า อนุสัญญาห้ามอาวุธเคมี) [การทูต] | Dean (หรือ Doyen) of the Diplomatic Corps | หัวหน้า (Dean) ของคณะทูตานุทูตในนครหลวงของประเทศใดก็ตาม
ได้แก่ ตัวทูตที่อาวุโสที่สุด (คือเป็นทูตอยู่ในประเทศนั้นๆ เป็นเวลานานที่สุด) ตัวหัวหน้าคณะทูตานุทูตจะมีลำดับอาวุโสเหนือทุกคนในคณะทูตานุทูต ทำหน้าที่เป็นโฆษกของคณะทูตเมื่อถึงความจำเป็น และเป็นผู้ดูแลและคุ้มครองบรรดาเอกสิทธ์และความคุ้มกันทางการทูตที่คณะ ทูตานุทูตมีอยู่ แต่หน้าที่ที่แท้จริงนั้น โดยมากเกี่ยวกับเรื่องพิธีการทูตมากกว่า อาทิเช่น เมื่อถึงวันที่ระลึกครบรอบวันเกิดประมุขของรัฐ (เช่นวันเฉลิมพระชนมพรรษาในประเทศไทย) Dean ของคณะทูตจะเป็นผู้กล่าวแสดงความยินดีในโอกาสดังกล่าวในนามของคณะทูตทั้งหมด แต่การที่จะเรียกหรือขอให้บุคคลในคณะทูตไปประชุมเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง นั้น เป็นสิ่งที่ Dean ไม่พึงกระทำ อย่างไรก็ตาม จะไม่มีผู้แทนทางการทูตคนใดไปร่วมการประชุมระหว่างบุคคลในคณะทูตด้วยกัน เกี่ยวกับปัญหาระหว่างประเทศโดยมิได้รับคำสั่งโดยเฉพาะจากรัฐบาลของตนก่อน ภริยาของ Dean หรือ Doyen นั้นเรียกว่า Doyenneเมื่อหัวหน้าคณะทูตวายชนม์ขณะที่ดำรงตำแหน่งอยู่ บุคคลในคณะทูตที่มีอาวุโสรองลงมาหรือเป็นบุคคลที่สองจะเป็นผู้รับช่วงงาน ทันที และมีตำแหน่งเรียกว่า อุปทูตชั่วคราว (Chargé d?Affaires ad interim) ทั้งจะต้องดูว่า เอกสารทางราชการต่าง ๆ โดยเฉพาะเอกสารลับหรือปกปิด จะไม่ทิ้งรวมอยู่กับ เอกสารส่วนตัวของทูตผู้วายชนม์อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทาง การทูต ซึ่งได้รับการรับรองเมื่อวันที่ 18 เมษายน ค.ศ. 1961 จากการประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับการติดต่อและความคุ้มกันทางการทูต ได้บัญญัติไว้ว่า?ข้อ 39 (3) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามี สิทธิที่จะได้รับไปจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป(4) ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทนซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว ให้รัฐผู้รับอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่ส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้ามในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในคราอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดกและการรับมรดกนั้น ๆ ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับ เพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่ฝ่ายเดียวของผู้วายชนม์ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทนอนึ่ง อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล ซึ่งได้รับการรับรองจากที่ประชุมสหประชาชาติ เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางกงสุล เมื่อวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 1963 ได้บัญญัติไว้ว่า ?ข้อ 51 ในกรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล หรือของคนในครอบครัว ซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว รัฐผู้รับ(ก) จะอนุญาตให้ส่งออกซึ่งสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ โดยมีข้อยกเว้นแก่ทรัพย์สินเช่นว่า ทรัพย์ใด ๆ ที่ได้มาในรัฐผู้รับนั้น ซึ่งการส่งออกของทรัพย์ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลดังกล่าวถึงแก่มรณกรรม(ข) จะไม่เรียกเก็บอากรกองมรดก อากรสืบช่วงมรดกหรืออากรรับมรดก และอากรการโอน ไม่ว่าจะเป็นอากรของชาติ ของภูมิภาค หรือของเทศบาล จากสังหาริมทรัพย์ ซึ่งการที่สังหาริมทรัพย์นั้นอยู่ในรัฐผู้รับก็เนื่องมาแต่ฝ่ายเดียว จากการที่ผู้วายชนม์อยู่ในรัฐนั้นฐานะบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุลหรือใน ฐานะคนในครอบครัวของบุคคลในที่ทำการกงสุล? ?ข้อ 53(5) กรณีมรณกรรมของบุคคลในสถานที่ทำการทางกงสุล คนในครอบครัวซึ่งเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว จะคงได้รับอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันที่ได้ประสาทให้แก่ตนต่อไป จนกว่าตนจะออกไปจากรัฐผู้รับ หรือจนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะสามารถให้ตนกระทำดังนั้นได้ แล้วแต่ว่าเวลาไหนจะมาถึงก่อนกัน? [การทูต] | Duration of Diplomatic Privileges and Immunities | ระยะเวลาของการอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันทาง การทูต
ในเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในมาตราที่ 39 ว่า?1. บุคคลทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับเอกสิทธิ์และความคุ้มกัน ที่จะได้อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันนั้นตั้งแต่ขณะที่บุคคลนั้นเข้ามาใน อาณาเขตของรัฐผู้รับในการเดินทางไปรับตำแหน่งของตน หรือถ้าอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับแล้ว ตั้งแต่ขณะที่ได้บอกกล่าวการแต่งตั้งของตนต่อกระทรวงการต่างประเทศ หรือกระทรวงอื่นตามที่อาจจะตกลงกัน 2. เมื่อภารกิจหน้าที่ของบุคคล ซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันยุติลง เอกสิทธิ์และความคุ้มกันตามปกติให้สิ้นสุดลงขณะที่บุคคลนั้นออกไปจากประเทศ หรือเมื่อสิ้นกำหนดอันสมควรที่จะทำเช่นนั้น แต่จะยังมีอยู่จนกระทั่งเวลานั้น แม้ในกรณีของการขัดแย้งด้วยอาวุธ อย่างไรก็ดี ในส่วนที่เกี่ยวกับการกระทำที่ได้ปฏิบัติไปโดยบุคคลเช่นว่านั้น ในการปฏิบัติการหน้าที่ของตนในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน ความคุ้มกันนั้นให้มีอยู่สืบไป 3. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ให้คนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน อุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันซึ่งเขามีสิทธิที่จะได้สืบไป จนกว่าจะสิ้นกำหนดเวลาอันสมควรที่จะออกจากประเทศไป 4. ในกรณีการถึงแก่กรรมของบุคคลในคณะผู้แทน ซึ่งไม่ใช่คนชาติของรัฐผู้รับ หรือมีถิ่นอยู่ถาวรในรัฐผู้รับ หรือของคนในครอบครัว ซึ่งประกอบเป็นส่วนของครัวเรือนของบุคคลในคณะผู้แทนดังกล่าว รัฐผู้รับสามารถอนุญาตให้ถอนสังหาริมทรัพย์ของผู้วายชนม์ไป ยกเว้นแต่ทรัพย์สินใดที่ได้มาในประเทศที่การส่งออกซึ่งทรัพย์สินนั้นเป็นอัน ต้องห้าม ในเวลาที่บุคคลในคณะผู้แทน หรือคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทนนั้นถึงแก่กรรม อากรกองมรดก การสืบมรดก และการรับมรดกนั้น ไม่ให้เรียกเก็บแก่สังหาริมทรัพย์ซึ่งอยู่ในรัฐผู้รับเพราะการไปอยู่ ณ ที่นั้นแต่เพียงถ่ายเดียวของผู้วายชนม์ ในฐานะเป็นบุคคลในคณะผู้แทน หรือในฐานะเป็นคนในครอบครัวของบุคคลในคณะผู้แทน? [การทูต] | employment prohibited | ห้ามทำงาน
คนต่างด้าวที่ได้รับการตรวจลงตราประเภทเดินทางผ่าน นักท่องเที่ยว และคนอยู่ชั่วคราว (บางประเภท) จะถูกห้ามทำงานขณะพำนักในราชอาณาจักร [การทูต] | Exemption from Customs Duties and Inspection of Diplomatic Mission?s Articles | การยกเว้นจากอากรศุลกากร และการตรวจสิ่งของเครื่องใช้ของคณะผู้แทนทางการทูต
การยกเว้นดังกล่าวนี้ไม่ถือว่าเป็นสิทธิ แต่เป็นเรื่องของการแสดงอัธยาศัยไมตรีระหว่งประเทศที่ให้ต่อกันมากกว่า กฎหมายระหว่างประเทศก็มิได้กำหนดพันธะที่จะต้องให้การยกเว้นจากอากรศุลกากร อย่างไรก็ดี รัฐส่วนมากได้แสดงอัธยาศัยไมตรีโดยให้ผู้แทนทางการทูตได้รับการยกเว้นอากร ศุลกากรแก่สินค้าและเครื่องใช้ที่นำเข้ามาใช้ในส่วนตัวเองอนุสัญญากรุง เวียนนาได้ระบุไว้ในมาตรที่ 36 ว่า1. รัฐผู้รับจะอนุญาตให้นำเข้าและอำนวยให้มีการยกเว้นจากอากรศุลกากร ภาษี ตลอดจนค่าภาระที่เกี่ยวข้องทั้งมวล นอกจากค่าภาระในการเก็บรักษา การขนส่งและบริการ ให้ทำนองเดียวกันตามกฎหมายหรือข้อบังคับ ซึ่งรัฐผู้รับอาจกำหนดไว้แก่ก. สิ่งของสำหรับใช้ในทางการของคณะผู้แทนข. สิ่งของสำหรับใช้ส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต หรือคนในครอบครัวของตัวแทนทางการทูต ซึ่งประกอบเป็นส่วนครัวเรือนของตัวแทนทางการทูต รวมทั้งสิ่งของที่แสดงเจตนาสำหรับการตั้งถิ่นฐานของตัวแทนทางการทูตด้วย2. หีบห่อส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต ให้ได้รับยกเว้นจากการตรวจตรา นอกจากมีมูลเหตุอันร้ายแรงที่ทำให้สันนิษฐานได้ว่า หีบห่อส่วนตัวนั้นบรรจุสิ่งของซึ่งไม่อยู่ในข่ายแห่งการยกเว้นที่ได้ระบุไว้ ในวรรค 1 ของข้อนี้ หรือสิ่งของซึ่งการนำเข้าหรือส่งออกนั้นต้องห้ามทางกฎหมาย หรือถูกควบคุมตามข้อบังคับว่าด้วยการกักตรวจโรคของรัฐผู้รับ การตรวจตราเช่นว่านี้ให้กระทำต่อหน้าตัวแทนทางการทูต หรือต่อหน้าผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจของตัวแทนทางการทูตเท่านั้น [การทูต] | Freedom of Movement of Diplomatic Agents | เสรีภาพในการเคลื่อนย้ายและการเดินทางของผู้แทน ทางการทูต
โดยปกติ รัฐผู้รับย่อมอนุญาตโดยเสรีแก่ผู้แทนทางการทูต ที่จะเคลื่อนย้ายและเดินทางไปไหนมาไหนได้ทั่วประเทศ แต่ระหว่างสงครามเย็นที่ผ่านมา ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ตั้งข้อจำกัดการเดินทางแก่ผู้แทนทางการทูตของกลุ่ม ประเทศคอมมิวนิสต์บางแห่ง ได้แก่ สหภาพโซเวียต บัลแกเรีย เชคโกสโลวาเกีย ฮังการี รูเมเนีย และโปแลนด์ นัยว่าสหรัฐฯ ได้กำหนดเขตแขวงในดินแดนของตน 355 แห่ง หรือประมาณร้อยละ 11 ของพื้นที่ทั้งหมด เป็นเขตห้ามเข้าสำหรับผู้แทนทางการทูตของประเทศเหล่านั้นในทำนองเดียวกัน กลุ่มประเทศคอมมิวนิสต์ดังกล่าวก็ได้ตั้งข้อจำกัดการเดินทางแก่ผู้แทนทางการ ทูตของสหรัฐฯ เช่นกัน สำหรับเสรีภาพการเคลื่อนย้ายนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติในข้อ 26 ว่า?ภายในบังคับของกฎหมาย และข้อบังคับของรัฐผู้รับเกี่ยวกับการเข้าไปในเขตหวงห้ามหรือวางระเบียบไว้ โดยเหตุผลของความมั่นคงแห่งชาติ ให้รัฐผู้รับประกันแก่สมาชิกทั้งมวลของคณะเกี่ยวกับเสรีภาพในการเคลื่อนไหว และการเดินทางในอาณาเขตของตน? [การทูต] | Freedom of Movement of Member of Consular Post | เสรีภาพในการเคลื่อนไหวของบุคคลในสถานที่ทำการทาง กงสุล
เรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุล ได้บัญญัติไว้ในข้อ 34 ว่า?ภายในบังคับแห่งกฎหมาย และข้อบังคับของรัฐผู้รับเกี่ยวกับการเข้าไปในเขตซึ่งเป็นที่หวงห้าม หรือที่ได้กำหนดระเบียบไว้ เพราะเหตุผลในทางความมั่นคงแห่งชาติ ให้รัฐผู้รับประกันเสรีภาพในการเคลื่อนไหว และการเดินทางในอาณาเขตของตน แก่บุคคลทั้งปวงในสถานที่ทำการทางกงสุล? [การทูต] | Functions of Diplomatic Mission | ภาระหน้าที่ต่าง ๆ ของคณะผู้แทนทางการทูต
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่ง หน้าที่ที่ปฏิบัติเป็นประจำของผู้แทนทางการทูตนั้น ได้แก่ หน้าที่การเจรจา การสังเกต และการคุ้มครอง อย่างไรก็ดี มีบางประเทศได้มอบอำนาจให้ผู้แทนทางการทูตของตนปฏิบัติหน้าที่ทางกงสุล และกิจกรรมเบ็ดเตล็ดอื่น ๆ ด้วย ซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างสำคัญใด ๆ กับการทูตเลยเกี่ยวกับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติไว้ในมาตรา 3 ว่า1. นอกจากประการอื่นแล้ว การหน้าที่ของคณะผู้แทนทางการทูตประกอบด้วยก. ทำหน้าที่แทนรัฐผู้ส่งในรัฐผู้รับข. คุ้มครองผลประโยชน์ของรัฐผู้ส่งและของคนชาติของรัฐผู้ส่งในรัฐผู้รับ ภายในขีดจำกัดอันกฎหมายระหว่างประเทศได้อนุญาตให้ค. เจรจากับรัฐบาลของรัฐผู้รับง. สืบเสาะให้แน่ด้วยวิถีทางทั้งมวลอันชอบด้วยกฎหมายถึงสถาวะและพัฒนาการในรัฐ ผู้รับ แล้วรายงานไปยังรัฐบาลของรัฐผู้ส่งจ. ส่งเสริมความสัมพันธ์ฉันมิตรระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ ตลอดจนพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม และวิทยาศาสตร์ ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ2. ไม่มีข้อความในอนุสัญญานี้ ที่จะหมายความได้ว่าเป็นการห้ามไม่ให้คณะผู้แทนทางการทูตปฏิบัติหน้าที่ทางกงสุล [การทูต] | Geneva Conference on the Problem of Restoring Peace in Indo-China | การประชุม ณ นครเจนีวา ว่าด้วยปัญหาการนำสันติภาพกลับคืนสู่อินโดจีน
ในการประชุมนี้ มีการทำความตกลงกันเกี่ยวกับการหยุดสู้รบระหว่างกำลังทหารในประเทศเวียดนาม กัมพูชา และลาว กับกำลังทหารฝรั่งเศส ความตกลงดังกล่าวได้กระทำกันในนครเจนีวา เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ค.ศ. 1954 มีผู้แทนจากประเทศกัมพูชา สาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ฝรั่งเศส ลาว สาธารณรัฐประชาชนจีน รัฐเวียดนาม (เวียดนามใต้) สหภาพโซเวียต สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เข้าร่วมการประชุมตามข้อตกลงนี้ให้มีการยุติการสู้รบในกัมพูชา ลาว และเวียดนาม และการปฏิบัติให้เป็นไปตามบทบัญญัติในความตกลงดังกล่าว ให้อยู่ใต้ความควบคุมและดูแลระหว่างประเทศ ที่ประชุมเจนีวาได้แสดงความมั่นใจว่า ในการปฏิบัติตามข้อตกลงจะปล่อยให้กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ได้แสดงบทบาทภายใต้ความเป็นเอกราชและอำนาจอธิปไตยของตนอย่างสมบูรณ์ภายใน ประชาคมนานาชาติ สำหรับความตกลงเกี่ยวกับเวียดนามใด้ห้ามมิให้นำกองทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่าย ทหารของต่างชาติ รวมทั้งอาวุธและอุปกรณ์ทางทหารทุกชนิดเข้าไปในประเทศนั้น ที่ประชุมยังได้รับรองว่า วัตถุประสงค์สำคัญยิ่งของความตกลงเกี่ยวกับเวียดนามคือ ต้องการระงับปัญหาต่าง ๆ ทางทหาร เพื่อยุติการสู้รบ และการปักปันเส้นเขตแดนทางทหารนั้น ให้ถือเป็นการชั่วคราว มิได้หมายความว่าเป็นแนวแบ่งเขตทางการเมืองหรือทางดินแดนแต่ประการใดทั้งสิ้น [การทูต] | Mine Ban Convention | อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล [การทูต] | New Diplomacy | การทูตแบบใหม่
ภายหลังสงครามโลกครั้งแรก หรือตั้งแต่ ค.ศ. 1918 เป็นต้นมา ได้เกิดการทูตแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างไปจาการทูตแบบเก่า อันได้ปฏิบัติกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี นักวิชาการบางท่านมีความเอนเอียงที่จะตำหนิว่า การที่เกิดสงครามโลกขึ้นนั้น เป็นเพราะการทูตประสบความล้มเหลวมากกว่าอย่างไรก็ดี บางท่านเห็นว่าแม้ส่วนประกอบของการทูตจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่เนื้อหาหรือสาระสำคัญของการทูตยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เป็นการผสมผสานเข้าด้วยกันระหว่างการทูตแบบเก่ากับการทูตแบบใหม่อาจกล่าวได้ ว่า มีปัจจัยสำคัญ ๆ อยู่สามประการ ที่มีอิทธิพลหรือบังเกิดผลโดยเฉพาะต่อวิธีการหรือทฤษฎีของการเจรจาระหว่าง ประเทศ กล่าวคือ ข้อแรก ชุมชนนานาชาติทั้งหลายเกิดการตื่นตัวมากขึ้น ข้อที่สอง ได้มีการเล็งเห็นความสำคัญของมติสาธารณะ ( Public Opinion) มากขึ้น และประการสุดท้าย เป็นเพราะการสื่อสารคมนาคมได้เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วอดีตนักการทูตผู้มี ชื่อเสียงคนหนึ่งของอินเดีย ได้แสดงความไม่พอใจและรังเกียจความหยาบอย่างปราศจากหน่วยก้านของการดำเนิน การทูตแบบใหม่ เช่น การโฆษณาชวนเชื่อเข้าใส่กัน การใช้ถ้อยคำในเชิงผรุสวาทต่อกัน การเรียกร้องกันอย่างดื้อ ๆ ขาดความละมุนละไมและประณีต อาทิเช่น การเรียกร้องข้ามหัวรัฐบาลไปยังประชาชนโดยตรงในค่ายของฝ่ายตรงกันข้ามการ กระทำต่าง ๆ ที่จะให้รัฐบาลต้องเสียชื่อหรือขาดความน่าเชื่อถือ ตลอดจนการใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ห้ามไม่ให้ประชาชนติดต่อกันทางสังคม และอื่น ๆ เป็นต้น [การทูต] | Niccolo Machiavelli (1469-1527) | คือรัฐบุรุษและปรัชญาเมธีทางการเมืองของสาธารณรัฐ ฟลอเรนส์ (Florence)
ระหว่างรับราชการ ท่านดำรงตำแหน่งฝ่ายธุรการหลายตำแหน่งซึ่งไม่สู้มีความสำคัญเท่าใด แต่สิ่งที่ท่านสนใจมากที่สุดได้แก่ศิลปะของการเมือง หนังสือสำคัญ ๆ ที่ท่านประพันธ์ขึ้นไว้คือ The Prince เล่มหนึ่ง อีกเล่มหนึ่งชื่อ The Art of War และอีกเล่มหนึ่งคือ Discourses on the First Ten Books of Livyมีนักเขียนหลายคนวิพากษ์ Machiavelli ที่แสดงความเห็นสนับสนุนว่า รัฐบาลใดก็ตมที่ต้องการรักษาอำนาจการปกครองตนให้เข้มแข็งไว้ ย่อมจะใช้วิถีทางใด ๆ ก็ได้ ถึงแม้หนทางเช่นนั้นจะผิดกฎหมายหรือไร้ศีลธรรมก็ตาม และก็มีนักเขียนอีกหลายคนสนับสนุนท่าน โดยชี้ให้เห็นว่า ท่านเป็นแต่เพียงตีแผ่ให้เห็นพฤติกรรมที่แท้จริงของรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ในยุคสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่มากกว่าอย่างอื่น อาทิเช่น ในหนังสือ The Prince ของท่านตอนหนึ่งอ้างว่า การต่อสู้นั้นมีอยู่สองวิธี วิธีแรกเป็นการต่อสู้โดยวิถีทางกฎหมาย อีกวิธีหนึ่งคือการต่อสู้โดยใช้กำลัง (Force) วิธีแรกนั้นเป็นวิธีที่มนุษย์พึงใช้ ส่วนวิธีที่สองเป็นวิธีเยี่ยงสัตว์ป่า แต่การใช้วิธีแรกมักจะไม่ค่อยได้ผลเสมอไป เพราะไม่เพียงพอ ก็ย่อมจะหันเข้าใช้วิธีที่สองได้ ฉะนั้น ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้น ซึ่ง Machiavelli เรียกว่า Prince จึงจำเป็นต้องรู้ดีว่าจะใช้ทั้งวิธีที่มนุษย์จะพึงใช้ และวิธีเยี่ยงสัตว์ป่าอย่างไร ด้วยเหตุนี้ ผู้ปกครองประเทศสมัยนั้นไม่จำเป็นต้องมีสัจธรรม หากการกระทำนั้น ๆ จะทำความเสียหายแก่ผลประโยชน์ของประเทศ ท่านเห็นว่า หากมนุษย์ทุกคนเป็นคนดี กฎเช่นนี้ก็เป็นกฎที่ไม่ถูกต้อง แต่โดยที่มนุษย์ไม่ใช่คนดีทั้งหมด ในเมื่อเขาไม่ยอมให้ความศรัทธาความไว้วางใจในตัวท่าน ก็ไม่มีอะไรที่จะมาห้ามมิให้ท่านเลิกศรัทธากับเขาเหล่านั้นได้ [การทูต] | Nuclear Test Ban | หมายถึง สนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งในบรรยากาศ ในอวกาศ และใต้น้ำ
สนธิสัญญาฉบับนี้ได้มีผลบังคับเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1963 ประเทศที่ลงนามเริ่มแรกในสนธิสัญญาได้แก่ อังกฤษ สหภาพโซเวียต และ สหรัฐอเมริกา รวมสามประเทศจุดมุ่งหมายสำคัญของสนธิสัญญาคือ รัฐบาลของประเทศทั้งสาม ต้องการให้มีการทำความตกลงกันเป็นผลสำเร็จเกี่ยวกับการลดอาวุธ หรือปลดกำลังอาวุธทั้งหมดโดยสิ้นเชิง ภายใต้การควบคุมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ตามความมุ่งประสงค์ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งต้องการให้ยุติหรือเลิกการแข่งขันกันสะสมอาวุธ และกำจัดมิให้มีเหตุจูงใจที่จะผลิตและทดสอบอาวุธไม่ว่าชนิดใดทั้งหมด รวมทั้งอาวุธนิวเคลียร์ด้วย นอกจากนี้ ยังเสาะแสวงหาที่จะให้หยุดการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ไปตลอดชั่วกาลนานสนธิ สัญญานี้มีข้อความอยู่ 5 มาตรา และไม่จำกัดอายุเวลา ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประเทศอื่น ๆ ทั้งหลายเข้าร่วมลงนามเป็นภาคีได้ ในทางตรงกันข้าม ประเทศภาคีก็มีสิทธิใช้อธิปไตยแห่งชาติได้เพื่อถอนตัวจากสนธิสัญญา ถ้าหากประเทศนั้น ๆ เห็นว่า ประโยชน์อันสูงสุดของประเทศตนต้องตกอยู่ในอันตราย และแจ้งล่วงหน้าสามเดือนให้ประเทศภาคีอื่น ๆ ทั้งหมดทราบการตกลงใจนั้น [การทูต] | Organisation for the Prohibition of Chemical Weapons | องค์การห้ามอาวุธเคมี [การทูต] | sanction | การคว่ำบาตร (ในกรอบสหประชาชาติ)
" หมายถึง มาตรการลงโทษที่คณะมนตรีความมั่นคง ใช้ต่อประเทศสมาชิกที่มีการกระทำที่ละเมิดกฎบัตรสหประชาชาติ รวมทั้งเป็นภัยต่อสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศโดยการจำกัด หรือห้ามประเทศสมาชิกอื่น ๆ ติดต่อในด้านต่าง ๆ (เช่น ด้านการค้า การคมนาคมขนส่ง) อย่างเป็นทางการกับประเทศนั้น ๆ เพื่อบีบบังคับให้มีการปฏิบัติตามข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคง มาตรการห้ามการ ติดต่อเหล่านี้ บางครั้งเรียกว่า ปิดล้อม (embargo) เช่น ปิดล้อมด้านอาวุธ ปิดล้อมด้านการค้า เป็นต้น " [การทูต] | Visa | การตรวจลงตรา
กล่าวคือ เป็นเครื่องหมายแสดงการรับรองที่ประทับอยู่ในหนังสือเดินทางว่า หนังสือเดินทางฉบับนั้นได้รับการตรวจตราแล้ว ในกรณีที่ผู้ถือหนังสือดังกล่าวยื่นขอเดินทางเข้าไปในประเทศที่ให้การตรวจลง ตรา และทุกอย่างถูกต้องจึงให้ผู้นั้นเดินทางไปยังประเทศดังกล่าวได้อนุสัญญากรุง เวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางกงสุลได้บัญญัติไว้ในข้อ 5 ของวรรค D ว่า หน้าที่ทางกงสุลข้อหนึ่งคือ ?ออกหนังสือเดินทางและเอกสารเดินทางให้แก่คนชาติของรัฐผู้ส่ง และตรวจลงตราหนังสือเดินทาง หรือออกเอกสารที่เหมาะสมให้แก่บุคคลที่ประสงค์จะเดินทางไปยังรัฐผู้ส่ง?พึง เข้าใจว่า แม้หนังสือเดินทางจะได้รับการตรวจลงตราแล้วก็ตาม ก็มิได้เป็นการประกันร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า ผู้ถือหนังสือนั้นจะได้รับการยินยอมให้เดินทางเข้าไปในรัฐที่ให้การตรวจลง ตรา คือ เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองในรัฐนั้นอาจห้ามมิให้เข้าประเทศได้ ทั้ง ๆ ที่ได้รับการตรวจตราแล้วก็ตาม แต่การกระทำเช่นนี้เป็นกรณีที่เกิดขึ้นน้อยมากการตรวจลงตราหรือวีซ่านั้น แบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 3 ประเภท คือ1) การตรวจลงตราทางการทูต ซึ่งออกให้แก่บุคคลในคณะทูตและกงสุล รวมทั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ของต่างประเทศ2) การตรวจลงตราทางราชการ ออกให้แก่ข้าราชการที่ไม่รวมอยู่ในประเภทที่ 1) ซึ่งจะเดินทางไปธุระราชการ และ3) การตรวจลงตราธรรมดา ออกให้แก่บุคคลทั่วไปที่มีคุณสมบัติเหมาะสม และไม่รวมอยู่ในประเภทที่ 1) และ 2) มีหลายประเทศได้ให้การตรวจลงตราชั่วคราว การตรวจลงตราสำหรับลูกเรือเดินทะเล การตรวจลงตราสำหรับพ่อค้าต่างประเทศ การตรวจลงตราสำหรับนักศึกษา และการตรวจลงตราสำหรับผู้อพยพลี้ภัย เป็นต้น [การทูต] | Wives of Diplomats | ภรรยาของนักการทูต
ในประเทศที่มีกษัตริย์ และเอกอัครราชทูตจัดถวายพระราชสาส์นตราตั้งต่อกษัตริย์หรือราชินีในฐานะ ประมุขของรัฐนั้น มักจะให้ภรรยาเข้าเฝ้าด้วยต่างหาก แต่การเข้าเฝ้านั้นจะมีพิธีรีตองน้อยกว่าของเอกอัครราชทูตในอดีตกาล ภรรยาของเอกอัครราชทูตมักจะไม่ได้รับการพิจารณารับรองและยกย่องเหมือนกับที่ เป็นอยู่ในปัจจุบัน อาทิเช่น ที่กรุงเวนิส ตามกฎหมายปี ค.ศ. 1268 ไม่อนุญาตให้ภรรยาของเอกอัครราชทูตติดตามไปด้วย ไม่ว่าจะไปประจำแห่งไหน เพราะเกรงว่าภรรยาอาจจะปากโป้งเกี่ยวกับการงานของสามี แต่กฎหมายได้กำหนดให้เอกอัครราชทูตนำพ่อครัวของตนเองติดตามไปด้วย เพื่อกันมิให้เอกอัครราชทูตต้องถูกวางยาพิษในอาหารที่รับประทานกล่าวโดยทั่ว ไปแล้ว ทุกวันนี้ภรรยาของเอกอัครราชทูตได้อุปโภคเอกสิทธิ เกียรติ ลำดับอาวุโส และความคุ้มกันต่าง ๆ เหมือนกับสามี ถึงแม้ในบางกรณีเอกอัครราชทูตกับภรรยาอาจแยกกันอยู่ก็ตาม ภรรยาของเอกอัครราชทูตที่เพิ่งยื่นสารตราตั้ง มักจะหาโอกาสไปเยี่ยมคารวะภรรยาของเอกอัครราชทูตอื่น ๆ ด้วย แม้ว่าในทุกวันนี้ธรรมเนียมปฏิบัติดังกล่าวอาจจะไม่เคร่งครัดเหมือนกับสมัย ก่อน อนึ่ง ในบางประเทศได้มีระเบียบข้อบังคับ ห้ามมิให้ผู้แทนทางการทูตและทางการกงสุลที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ แต่งงานกับคนต่างชาติโดยมิได้รับอนุมัติจากรัฐบาลของตนก่อน [การทูต] | wetlands | พื้นที่ชุ่มน้ำ
หมายถึง พื้นที่ลุ่ม พื้นที่ราบลุ่ม พื้นที่ลุ่มชื้นแฉะ พื้นที่ฉ่ำน้ำ มีน้ำท่วม มีน้ำขัง พื้นที่พรุ พื้นที่แหล่งน้ำ ทั้งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างขึ้น โดยอาจเป็นแหล่งน้ำนิ่งและน้ำไหล ทั้งที่เป็นน้ำจืด น้ำกร่อยและน้ำเค็ม รวมไปถึงพื้นที่ชายทะเล และพื้นที่ของทะเล ในบริเวณซึ่งเมื่อน้ำลดลงต่ำสุดมีความลึกของระดับน้ำไม่เกิน 6 เมตร ซึ่งภายใต้อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำ ประเทศต่าง ๆ สามารถที่จะกำหนดให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญ ระหว่างประเทศ เช่น ประเทศไทยได้ประกาศให้บริเวณเขตพรุควนขี้เสียน และบริเวณเขตห้ามล่าสัตว์ป่าทะเลน้อย เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ นอกจากนี้ พื้นที่ชุ่มน้ำบางแห่งอาจอยู่ตามพรมแดนระหว่างประเทศด้วย [การทูต] | Abortion,
Inevitable | การแท้งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้,
แท้งหลีกไม่พ้น,
แท้งห้ามไม่หยุด [การแพทย์] | Abortion,
Inevitable | การแท้งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้,
แท้งหลีกไม่พ้น,
แท้งห้ามไม่หยุด [การแพทย์] | Anticoagulants | สิ่งกันเลือดแข็ง; การแข็งตัวของเลือด,
สารป้องกัน; สารที่ป้องกันการแข็งตัวของโลหิต; ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด; สารกันเลือดแข็ง; สารที่ป้องกันไม่ให้เลือดแข็ง; ยาพวกที่ป้องกันไม่ให้เลือดแข็งตัว; ยากันเลือดแข็ง; สารห้ามการแข็งตัวของเลือด; สารต้านการแข็งตัวของเลือด; ยาต้านการแข็งตัวของเลือด; สารป้องกันการแข็งตัวของโลหิต; ยาละลายการแข็งตัวของเลือด; แอนตีโคแอกูแลนท์; ยากันเลือดแข็งตัวในหลอดเลือด; สารกันเลือดแข็งตัว; ยาป้องกันการแข็งตัวของเลือด; สารกันการแข็งตัว; สารป้องกันการแข็งตัวของเลือด; สารกันเลือดแข็ง; ยาต่อต้านโลหิตแข็งตัว; สารป้องกันเลือดจับตัวเป็นลิ่ม; ระงับการแข็งของเลือด [การแพทย์] | Antidiuretic Hormones | ฮอร์โมนที่ต้านการขับปัสสาวะ,
ฮอร์โมนยับยั้งการขับปัสสาวะ,
ฮอร์โมนเก็บน้ำ,
ฮอร์โมนที่ห้ามปัสสาวะ,
ฮอร์โมนที่กดกั้นการขับปัสสาวะ,
ฮอร์โมนที่มีฤทธิ์ลดการขับถ่ายปัสสาวะ,
ฮอร์โมนส์ต้านการขับปัสสาวะ [การแพทย์] | Antiinflammatory | ห้ามการเกิดการอักเสบ [การแพทย์] |
| Schultz gave strict orders not to molest anyone in this court. | นี่เป็นคำสั่งของ ชูลท์ซ ห้ามยุ่งกับยิวในนี้ The Great Dictator (1940) | Don't drop the other one. | ห้ามทิ้งของแม้แต่อย่างเดียว The Great Dictator (1940) | - Not the back of his head! | - ห้ามถ่ายหัวล้าน The Great Dictator (1940) | No one is to enter the palace under any circumstances,
understand? | ห้ามใครเข้าไปในพระราชวัง ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เข้าใจไหม The Great Dictator (1940) | A nation must have no discord. | ในประเทศที่ห้ามมีผู้เห็นแย้ง Night and Fog (1956) | An abandoned village,
still heavy with peril. | หมู่บ้านที่ถูกทิ้งร้าง แต่ยังดูต้องห้าม Night and Fog (1956) | The forbidden zone was once a paradise. | เขตต้องห้ามครั้งนึงเคยเป็นสวรรค์ Beneath the Planet of the Apes (1970) | The forbidden zone has been closed for centuries,
and rightly so. | เขตต้องห้ามถูกปิดนานนับศตวรรษ Beneath the Planet of the Apes (1970) | And these grounds we can obtain in the once forbidden zone. | เเละยึดครองเขตต้องห้ามมาซะ Beneath the Planet of the Apes (1970) | Yes,
I know,
the forbidden zone. | ผมรู้จักเขตต้องห้ามนั่นแล้ว Beneath the Planet of the Apes (1970) | -lnto the forbidden zone,
with Ursus. | เข้าไปเขตต้องห้ามกับเออร์ซุส Beneath the Planet of the Apes (1970) | -Never to speak. | - ห้ามพูดเด็ดขาด Beneath the Planet of the Apes (1970) | -We're near the forbidden zone. | รู้มั้ย ฉันคิดไง เรากําลังอยู่ใกล้เขตต้องห้าม Beneath the Planet of the Apes (1970) | I see. "The only reality in the universe." Well,
that's nice to know. | เข้าใจล่ะ ความเป็นจริง สิ่งเดียวที่นี่คือห้ามซักถาม Beneath the Planet of the Apes (1970) | Taylor. | เเต่ห้ามเลีอดเอาไว้ก่อน Beneath the Planet of the Apes (1970) | No,
no,
you mustn't go! I need you! | ห้ามคุณไปนะ ฉันต้องการคุณ Blazing Saddles (1974) | "Beaches Closed. No Swimming. By order of the Amity P. D." | "หาดปิด ห้ามว่ายนํ้า โดยคําสั่งของกรมตํารวจอามิตี้" Jaws (1975) | What I need is a red zone. It's a simple thing you can take care of. | ผมว่าน่าจะทําเป็นเขตห้ามจอด คุณคงทําได้ง่ายๆ Jaws (1975) | Do not smoke in here. Thank you very much. | ห้ามสูบบุหรี่ในนี่ขอบคุณมาก Jaws (1975) | I want you to say no more about it,
like he said not to. | ฉันไม่อยากให้คุณพูดเรื่องนี้อีก อย่างที่เขาห้ามคุณ Oh,
God! (1977) | -Not even my wife? | ห้ามภรรยาผมด้วย Oh,
God! (1977) | There'll be no outside calls,
whatsoever. | ห้ามโทรศัพท์หาคนนอกเด็ดขาด Oh,
God! (1977) | And you mustn't let her have any fruit. | ห้ามให้ผลไม้ Suspiria (1977) | I told you not to be premature in your communiqué to Berlin. | ผมห้ามคุณว่า อย่าพึ่งติดต่อกับ เบอร์ลินก่อนกำหนด. Indiana Jones and the Raiders of the Lost Ark (1981) | Don't move... | ห้ามเคลื่อนย้าย First Blood (1982) | But they might also recommend that all future Indian immigration be severely restricted even stopped. | แต่เขาคงต้องมีกฎ... ให้เข้มงวดการเข้าเมือง ของคนอินเดียในอนาคต หรืออาจห้ามเข้า Gandhi (1982) | I want to stop them. | ผมวิ่งเข้าไปห้าม Gandhi (1982) | No meetings. | ห้ามชุมนุม Gandhi (1982) | You can't be like this anymore once you reach Chong Yang Palace understand? | เจ้าห้ามทำเช่นนี้อีกเมื่อเจ้าเข้าไปอยู่ในสำนักช้วนจิน เข้าใจมั้ย? Return of the Condor Heroes (1983) | Stay here,
don't leave this place. | อยู่ตรงนี้,
ห้ามไปไหน. Return of the Condor Heroes (1983) | Don't be rude! | ห้ามอยาบคายนะ! Return of the Condor Heroes (1983) | I didn't know you brought liquor on board. | ฉันไม่ทราบว่าคุณนำสุราบน กระดาน มันเป็นสิ่งต้องห้าม. 2010: The Year We Make Contact (1984) | I'm short on man power. | ผมยิ่งขาดแคลนกำลังพล ห้ามคุณเที่ยวฉีดยาคนของผม Day of the Dead (1985) | And think about this,
all of ya... from now on,
you ain't gettin' shit from me and my men. | พวกนายคิดเอาเอง จากนี้ไป ห้ามมายุ่งกับคนของฉัน Day of the Dead (1985) | I have a priority package from the nat-sat printing room. | [
ดาวเทียมพยากรณ์อากาศ ห้ามใช้ทางการทหาร
] ผมมีเอกสารลับมาส่ง เป็นภาพถ่ายจากดาวเทียมจารกรรม Spies Like Us (1985) | we must make no mistakes this time. our whole way of life hangs in the balance. | คราวนี้ห้ามพลาดเด็ดขาด ความสงบสุขของโลก ขึ้นอยู่กับพวกเขา Spies Like Us (1985) | - Come on. - Not the dog. | มานี่ / สุนัขห้ามเข้าจ้ะ Labyrinth (1986) | You can't quit. The game's not over. | ห้ามเลิกนะ เกมส์มันยังไม่จบ Labyrinth (1986) | "No Trespassing" was enforced by Milo Pressman,
the junkman and his dog,
Chopper. | "ห้ามบุกรุก" สั่งโดย ไมโล เพลสแมน พนักงานเก็บขยะ และสุนัขของเขา ช็อปเปอร์ Stand by Me (1986) | Chris,
who'd always made the best peace,
tried to break it up. | คริส ผู้ที่สร้างสันติภาพที่ดีที่สุดเสมอ พยายามที่จะห้ามพวกเขา Stand by Me (1986) | That means you keep your fingers out of the water,
hair out of the soup... and show the goddamn daughters a good time. | นั่นหมายความว่า พวกนายต้องไม่เอานิ้ว ไปโดนน้ำ ห้ามมีเส้นผมหล่นอยู่ในซุป... และบริการให้พวกเด็ก ๆ พอใจ Dirty Dancing (1987) | It's the same at all these places. Some ass in the woods,
but no conversation. | มันก็เหมือนกันทุกที่แหละ คนเจอกันในป่า แต่ห้ามคุยกัน Dirty Dancing (1987) | No guests allowed. House rules. | ห้ามแขกเข้าไป กฏของที่นี่ Dirty Dancing (1987) | You're to have nothing to do with them ever again! | ห้ามลูกไปสุงสิง กับคนพวกนั้นอีกเด็ดขาด! Dirty Dancing (1987) | And you shouldn't go in swimming after for at least... | และ ห้ามลงว่ายน้ำอย่างน้อย ... The Princess Bride (1987) | This area is off-limits! | ที่นี่เป็นเขตหวงห้าม! Akira (1988) | Hey! You can't look at this! | เฮ้ย ห้ามดูเว้ย Akira (1988) | Don't order me around! | อย่ามาห้ามฉัน! Akira (1988) | Holding meetings here is prohibited! | ห้ามจัดการชุมนุมที่นี่! Akira (1988) | But one,
you keep out of here,
and two,
they stay with me. | แต่ 1,
ห้ามเธอมาอยู่ในนี้,
และ 2,
ฟิล์มพวกนี้ต้องอยู่ที่ฉัน. Cinema Paradiso (1988) |
| บุคคลภายนอกห้ามเข้า | [bukkhon phāinøk hām khao] (xp) EN: no unauthorized entry | เดินล่วงเข้าไปในเขตหวงห้าม | [doēn lūang khao pai nai khēt hūanghām] (v, exp) EN: trespass | ห้าม | [hām] (v) EN: forbid ; prohibit ; disallow ; ban ; restrain ; proscribe FR: interdire ; défendre ; bannir ; proscrire | ห้าม... | [hām ...] (n) EN: no ... FR: interdiction de ... ; défense de ... | ห้ามบุกรุก | [hām bukruk] (v, exp) FR: défense d'entrer ; interdiction de pénétrer dans un lieu ; interdiction de circuler | ห้ามเด็ดขาด | [hām detkhāt] (v, exp) EN: be strictly prohibited (to) | ห้ามเด็ดขาด | [hām detkhāt] (adj) EN: absolutely forbidden FR: strictement interdit ; formellement interdit ; rigoureusement interdit | ห้ามใจ | [hāmjai] (v) EN: restrain oneself ; suppress one's feeling ; control one's feeling FR: se dominer ; se contenir ; se maîtriser | ห้ามจับของ | [hām jap khøng] (v, exp) FR: ne pas toucher ; ne pas toucher à la marchandise ; défense de toucher | ห้ามจอด | [hām jøt] (x) FR: défense de stationner ; interdiction de stationner | ห้ามจอดรถ | [hām jøt rot] (x) FR: défense de stationner ; interdiction de stationner | ห้ามเข้า | [hām khao] (x) EN: no entry ! ; no admittance ; Keep out ; no admittance FR: défense d'entrer ; entrée interdite ; on n'entre pas ! | ห้ามเข้า | [hām khao] (xp) EN: no entry FR: sens interdit | ห้ามเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต | [hām khao dōi mai dāirap anuyāt] (xp) EN: unauthorized entry forbidden ; no entry without authorization FR: entrée interdite sans autorisation | ห้ามเลี้ยวขวา | [hām līo khwā] (v, exp) EN: no right turn | ห้ามเลี้ยวซ้าย | [hām līo sāi] (v, exp) EN: no left turn | ห้ามล้อ | [hāmlø] (v) EN: brake ; stop ; cease FR: freiner | ห้ามปัสสาวะ | [hām patsāwa] (n, exp) FR: défense d'uriner ! | ห้ามผ่าน | [hām phān] (n, exp) FR: passage interdit ; interdiction de passer | ห้ามเปลี่ยนมือ | [hām plīenmeū] (adj) EN: not negotiable | ห้ามประกันตัว | [hām prakantūa] (v, exp) EN: deny bail | ห้ามแซงรถ | [hām saēng rot] (x) EN: no overtaking ; no passing permitted FR: interdiction de doubler | ห้ามสูบบุหรี่ | [hām sūp burī] (x) EN: no smoking FR: défense de fumer | ห้ามแตะต้อง | [hām taetøng] (v, exp) EN: do not touch ! ; don't touch ! FR: défense de toucher ! | หวงห้าม | [hūanghām] (v) EN: forbid | หวงห้าม | [hūang-hām] (adj) EN: forbidden | การห้าม | [kān hām] (n) EN: ban FR: interdiction [
f
] | การห้ามนำเข้า | [kān hām namkhao] (n, exp) EN: embargo ; import prohibition | การห้ามนำสินค้าเข้า | [kān hām nam sinkhā khao] (n, exp) EN: embargo ; import prohibition | การห้ามออกจากเคหสถานเวลาค่ำคืน | [kān hām øk jāk khēhasathān wēlā khamkheūn] (n, exp) EN: curfew FR: couvre-feu [
m
] | คำสั่งห้าม | [khamsang hām] (n, exp) EN: injunction ; restraining order FR: injonction [
f
] | คำสั่งห้ามชั่วคราว | [khamsang hām chūakhrāo] (n, exp) EN: temporary injunction FR: injonction temporaire [
f
] | ข้อห้าม | [khøhām] (n) EN: prohibition ; ban ; taboo ; forbiddance FR: interdiction [
f
] | ของต้องห้าม | [khøng tǿng hām] (n, exp) EN: prohibited goods ; prohibited articles | เครื่องห้ามล้อ | [khreūang hāmlø] (n) EN: brake FR: frein [
m
] | ความห้าม | [khwām hām] (n) FR: interdiction [
f
] | หม่อมห้าม | [mǿmhām] (n) EN: king's plebeian concubine ; royal minor wife ; royal concubine | ออกคำสั่งห้าม | [øk khamsang hām] (v, exp) EN: impose a ban | ป้ายห้ามบุกรุก | [pāi hām buk ruk] (n, exp) FR: panneau d'interdiction d'entrer [
m
] ; panneau d'interdiction de circuler [
m
] | ป้ายห้ามเลี้ยวขวา | [pāi hām līo khwā] (n, exp) EN: no-right-turn sign FR: signal d'interdiction de tourner à droite [
m
] ; panneau d'interdiction de tourner à droite [
m
] | ป้ายห้ามเลี้ยวซ้าย | [pāi hām līo sāi] (n, exp) EN: no-left-turn sign FR: signal d'interdiction de tourner à gauche [
m
] ; panneau d'interdiction de tourner à gauche [
m
] | พื้นที่หวงห้าม | [pheūnthī hūanghām] (n, exp) EN: restricted area | พระราชบัญญัติห้าม... | [phrarātchabanyat hām …] (n, exp) EN: law prohibiting … FR: loi d'interdiction de … | ผู้ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้า | [phū mai kīokhøng hām khao] (n, exp) EN: no admittance to unauthorized persons | สิ่งของต้องห้าม | [singkhøng tǿng hām] (n, exp) EN: prohibited goods | สินค้าต้องห้าม | [sinkhā tǿng hām] (n, exp) EN: prohibited goods | ถูกห้าม | [thūk hām] (v, exp) EN: be banned FR: être interdit | ต้องห้าม | [tǿng hām] (v, exp) EN: be forbidden ; be prohibited | ต้องห้าม | [tǿng hām] (adj) EN: forbidden ; prohibited ; taboo ; untouchable |
| CITES | (abbrev) CITES (อ่านว่า ไซเตส) ย่อมาจาก The Convention of International Trade in endangered spicies of Wild Fauna and Flora หมายถึง อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งห้ามการค้าชนิดสัตว์และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ | curfew | (n) ในยุโรปสมัยกลางบ้านเรือนทำมาจากท่อนซุง ตรงพื้นกลางบ้านมักจะขุดเป็นหลุมเพื่อเอาไว้ใช้เป็นเตา เพราะกลัวไฟไหม้ ตอนดึกๆ จึงต้องมียามเดินไปให้สัญญาว่าได้เวลานอนแล้ว ขอให้กลบไฟซะให้เรียบร้อยด้วย ซึ่งภาษาฝรั่งเศสว่า cuevre-feu แปลเป็นอังกฤษว่า to cover the fire เมื่อพระเจ้าวิลเลี่ยมแห่งฝรั่งเศสตีอังกฤษได้ ก็เอามาใช้ในอังกฤษ ให้ทุกบ้านดับไฟและห้ามออกจากบ้าน
Curfew ก็จึงพัฒนามาเป็นคำที่หมายถึง มาตรการห้ามออกนอกเคหสถานในเวลากำหนด |
| arse about | (phrv) ทำตัวงี่เง่า (คำต้องห้าม), See also: ทำตัวน่ารำคาญ, Syn. mess about | arse around | (phrv) ทำตัวงี่เง่า (คำต้องห้าม), See also: ทำตัวน่ารำคาญ, Syn. mess about | ban | (vt) ห้าม, See also: สั่งห้าม, Syn. veto, bar | ban | (n) คำสั่งห้าม, See also: การห้าม, Syn. taboo, prohibition | banning | (n) การสั่งห้าม, Syn. prohibition | block | (vt) หยุด, See also: ห้าม, ขวาง, Syn. prevent, stop | brake | (vt) ห้ามล้อ, See also: เบรค, หยุด, Syn. retard | brake | (n) เครื่องห้ามล้อ, See also: เบรก, สิ่งที่มีผลยับยั้งทำให้ช้า | ball up | (phrv) ทำให้เสีย (คำสแลงต้องห้าม), See also: ทำลาย, Syn. mess up | bar from | (phrv) ห้าม, See also: ขัดขวาง, ห้ามเข้า | be off the limits to | (idm) มีคำสั่งห้ามเข้า (สถานที่) (ทางทหาร) | bugger about | (phrv) ปล่อยเวลาให้เสียไปอย่างไร้ประโยชน์ (คำสแลงและคำต้องห้าม), Syn. mess about | bugger about | (phrv0) ทำให้ยุ่งยาก (คำสแลงและคำต้องห้าม), See also: ทำให้ยุ่งยาก, ทำให้ลำบาก, Syn. mess about | bugger about | (phrv) ทำให้รก (คำสแลงและคำต้องห้าม), See also: ทำให้ไม่เป็นระเบียบ, Syn. mess about | bugger about with | (phrv) ทำให้รก (คำสแลงและคำต้องห้าม), See also: ทำให้ไม่เป็นระเบียบ, Syn. mess about with | bugger around | (phrv) ปล่อยเวลาให้เสียไปอย่างไร้ประโยชน์ (คำสแลงและคำต้องห้าม), Syn. mess about | bugger around | (phrv) ทำให้ยุ่งยาก (คำสแลงและคำต้องห้าม), See also: ทำให้ยุ่งยาก, ทำให้ลำบาก, Syn. mess about | bugger around | (phrv) ทำให้รก (คำสแลงและคำต้องห้าม), See also: ทำให้ไม่เป็นระเบียบ, Syn. mess about | bugger around with | (phrv) ทำให้รก (คำสแลงและคำต้องห้าม), See also: ทำให้ไม่เป็นระเบียบ, Syn. mess about with | censor | (vt) ตัดออกด้วยอำนาจของผู้ตรวจสอบ, See also: ห้ามออกอากาศ, Syn. ban, forbid | clearway | (n) ทางด่วน (ถนนที่ห้ามจอด ยกเว้นกรณีที่รถเสียเท่านั้น) | cock | (n) อวัยวะเพศชาย (คำสแลงและคำต้องห้าม), Syn. penis | curfew | (n) การห้ามออกนอกบ้านยามวิกาล, See also: เคอร์ฟิว | curfew | (n) เวลาห้ามออกนอกบ้านยามวิกาล, See also: เวลาเคอร์ฟิว | contradiction in terms | (idm) คำพูดต้องห้าม | cool out | (phrv) ห้าม, See also: ทำให้ท้อแท้, หยุดยั้ง | debar from | (phrv) ห้ามเข้า, See also: ห้าม, กั้นไว้, ขวางไว้, Syn. disbar from | dirty word | (idm) คำสบถ, See also: คำหยาบ, คำสี่ตัวอักษร ต้องห้าม | do out of | (phrv) ป้องกันไม่ให้กระทำ, See also: ห้ามไม่ให้ทำ | fuck about | (phrv) ใช้เวลาหมดไปโดยเปล่าประโยชน์ (คำต้องห้าม), Syn. fuck off, mess about | fuck about | (phrv) ทำระยำกับคนอื่น (คำต้องห้าม), See also: ทำหยาบคายกับคนอื่น, Syn. mess about | fuck about with | (phrv) ทำให้เสีย (คำสแลงต้องห้าม), See also: ทำให้ใช้ไม่ได้, Syn. mess about with | fuck around | (phrv) ใช้เวลาหมดไปโดยเปล่าประโยชน์ (คำต้องห้าม), Syn. fuck off, mess about | fuck off | (phrv) ใช้เวลาหมดไปโดยเปล่าประโยชน์ (คำต้องห้าม) | fuck up | (phrv) ทำให้ยุ่งเหยิง (คำต้องห้าม), Syn. mess up | darkroom | (n) ห้องมืดสำหรับล้างรูปถ่าย, See also: ไอ้มืด เป็นคำต้องห้าม | dickhead | (n) คนโง่ (คำสแลงและคำต้องห้าม), See also: ไอ้โง่, Syn. idiot | dissuade | (vt) ห้ามปราม, See also: เตือน, แนะนำ, Syn. againt, deter | dissuasion | (n) การห้ามปราม, See also: การตักเตือน, การแนะนำ | dissuasive | (adj) ซึ่งห้ามปราม, See also: ที่ตักเตือน | dissuasive | (adj) ที่ห้ามปราม, See also: ที่ไม่แนะนำ, Syn. discourageable | dry | (adj) ไม่ดื่มเหล้า, See also: ห้ามขายเหล้า, ห้ามจำหน่ายสุรา, Syn. abstinent, moderate | embargo | (n) การสั่งห้าม (เรือ) เข้าออกท่าเรือ, Syn. prohibition, restriction | embargo | (vt) สั่งห้าม (เรือ) เข้าออกท่าเรือ | enjoin | (vt) ไม่อนุญาต, See also: ห้าม, Syn. forbid, prohibit | forbear | (vi) อดกลั้น, See also: อดทน, ข่มใจ, หักห้าม, บังคับใจ, Syn. tolerate, abstain, restrain, Ant. continue, proceed | forbid | (vt) ห้าม, See also: ห้ามปราม, ไม่อนุญาต, Syn. prohibit, ban, disallow, Ant. allow, permit | forbidden | (adj) ที่ไม่ได้รับอนุญาต, See also: ต้องห้าม, Syn. prohibited, banned, Ant. allowed | frig | (vi) ร่วมสังวาส (คำต้องห้าม), See also: เสพสังวาส | frig | (vt) ร่วมสังวาส (คำต้องห้าม), See also: เสพสังวาส |
| admonish | (แอดมอน' นิช) vt. ตักเตือน,
ให้สติ,
ว่ากล่าว,
ห้าม. -admonishment n. | astringent | (แอสทริน'เจินทฺ) adj. หดตัว,
รัดแน่น,
สมาน,
เฉียบขาด,
เข้มงวด,
รุนแรง -n. ยาฝาดสมาน,
ยาสมานแผล,
ยาห้ามเลือด. -astringency n., Syn. contractile, constrictive | ban | (แบน) {
banned,
banning,
bans
} vt.,
n. ห้าม,
ประกาศห้าม,
สั่งห้าม,
ขับออกนอกศาสนา,
ประณาม,
สาปแช่ง | brake | (เบรค) {
braked,
braking,
brakes
} n. เครื่องห้ามล้อ,
เบรก,
สิ่งที่ยับยั้งหรือทำให้ช้า,
เครื่องทรมาน -v. ห้ามล้อ,
ทำให้ช้า,
หยุด,
ใส่เบรก,
อดีตกาลของ break | brake pedal | (เบรคเพล'เดิล) n. คันห้ามล้อ | choke | (โชค) vt. ทำให้หายใจขัด,
ทำให้สำลัก,
สกัด,
กลั้น,
จุกแน่น,
ดับ,
ห้าม,
ยับยั้ง vi. สำลัก,
ถูกอุด,
ถูกสกัด,
ตัน -n. การสำลัก,
การอุดตัน, See also: choker n., Syn. garrotte | close | (โคลส) {
closed,
closing,
closes
} adj. ใกล้,
สนิทสนม,
รอบคอบ,
แน่นหนา,
แคบ,
คับ,
อึดอัด,
ไม่มีลมเข้า,
มิดชิด,
เป็นความลับ,
ทัดเทียมกัน,
พอ ๆ กัน,
ขี้เหนียว,
หวงแหน,
หวงห้าม -adv. ใกล้ชิด,
ใกล้ v.,
n. (การ) ปิด,
ลงเอย,
สิ้น,
ตกลง,
ปิดบัญชี,
ทำให้ติดกับ,
ทำให้ประชิดกับ,
สรุป,
สถานที่ปิด | closed | (โคซดฺ) adj. ปิด,
สรุป,
ห้ามเข้า,
สงวน (เขต) ,
ลับ | contraband | (คอน'ทระแบนดฺ) n. ของต้องห้ามตามกฎหมาย,
ของเถื่อน,
การค้าเถื่อน,
การลักลอบขนสินค้า adj. เป็นสินค้าเถื่อน,
ซึ่งห้ามไม่ให้ส่งออกหรือสั่งเข้าประเทศ, Syn. excluded | control card | บัตรควบคุมหมายถึง บัตรซึ่งบรรจุข้อความที่เป็นภาษาควบคุมงานซึ่งได้มีการกำหนดไว้เป็นรหัสเป็นการเฉพาะ เพื่อใช้ในโอกาสต่าง ๆ กัน หรือใช้กับงานชนิดต่าง ๆ เช่น บัตรควบคุม อาจจะเป็นตัวบอกว่า โปรแกรมหรือชุดคำสั่งชุดต่อไปจะเป็นภาษาฟอร์แทรน ภาษาโคบอล หรือภาษาอื่น ๅ บัตรควบคุมอาจทำให้รู้ได้ว่างานนี้เป็นงานของนิสิต หรือเป็นงานของนักวิจัยทั่วไป เพราะบางทีอาจมีการกำหนดข้อห้ามบางอย่างสำหรับงานของนิสิตไว้ในระบบ ปัจจุบัน ไม่ค่อยมีการใช้บัตรแล้ว คำนี้จึงไม่มีที่ใช้ไปด้วยดู card (บัตร) | curfew | (เคอ'ฟิว) n. การห้ามประชาชนออกนอกบ้านในระยะเวลาที่กำหนด (มักเป็นเวลากลางคืน) ,
เวลาห้ามออกนอกบ้านดังกล่าว,
ระฆังบอกเวลากลางคืน,
เสียงระฆังกลางคืน | deadline | n. กำหนดเวลา,
เส้นห้ามผ่าน,
เส้นตาย | debar | (ดิบาร'์) {
debarred,
debarring,
debars
} vt. ห้ามเข้า,
ยับยั้ง,
ป้องกัน, See also: debarment n. | dehort | (ดิฮอร์ท') vt. ห้ามปราม,
ยับยั้ง., See also: dehortation n. ดูdehort dehortative, adj. ดูdehort | disc brake | n. จานห้ามล้อ | disk brake | n. จานห้ามล้อ | dissuade | (ดิสเวด') vt. ชักชวนไม่ให้ทำ,
หน่วงเหนี่ยว,
ห้ามปราม,
ยับยั้ง., See also: dissuadable adj. ดูdissuade dissuader n. ดูdissuade, Syn. discourage, avert, warn, Ant. encourage | dissuasion | (ดิสเว'เชิน) n. การชักชวนไม่ให้ทำ,
การหน่วงเหนี่ยว,
การห้ามปราม,
การยับยั้ง | dissuasive | (ดิสเว'ซิฟว) adj. ซึ่งหน่วงเหนี่ยว,
ซึ่งห้ามปราม,
ซึ่งยับยั้ง., See also: dissuasiveness n. ดูdissuasive | don't | (โดนทฺ) do not, See also: don'ts n., pl. ข้อห้าม, เรื่องต้องห้าม | embargo | (เอมบาร์'โก) {
embargoed,
embargoing,
embargos
} n. การห้ามเรือเข้าหรือออกจากท่า,
การห้ามค้าขายระหว่างประเทศ,
การห้ามส่งสินค้าไปยังประเทศหนึ่ง,
การห้าม,
คำสั่งห้ามค้าขาย vi. สั่งห้ามเรือสินค้าเข้าหรือออกจากท่า,
สั่งห้ามค้าขายกับประเทศหนึ่ง คำที่มีความหมายเหมือ | enjoin | vt. สั่งการ,
บัญชา,
สั่ง,
กำชับ,
กำหนด,
สั่งห้าม,
ห้าม., See also: enjoiner n. ดูenjoin enjoinment n. ดูenjoin | forbear | (ฟอแบร์') v. อดีตกาลของforbid,
อดทน,
อดกลั้น,
หักห้าม,
บังคับจิตใจ,
ข่มใจ,
ละเว้น. -forbearer n. | forbid | (ฟอร์บิด') vt. ห้าม,
ยับยั้ง,
ไม่อนุญาต,
ป้องกัน,
ขัดขวาง,
ทำให้เป็นไปไม่ได้., See also: forbiddance n. -forbidder n. | forbidden | (ฟอร์บิด'เดิน) v. กริยาช่อง 3 ของ forbid adj. ต้องห้าม,
ซึ่งไม่ได้รับอนุญาต | haemostat | n. เครื่องมือหรือยาห้ามโลหิต. | hemostat | n. เครื่องมือหรือยาห้ามโลหิต. | hemostatic | (ฮีมะสแทท'ทิค) adj. ห้ามเลือด. n. ยาห้ามเลือด., Syn. haemostatic | impassable | (อิมพาส'ซะเบิล) adj. ห้ามผ่าน,
ผ่านไม่ได้,
เอาชนะไม่ได้,
หมุนเวียนไม่ได้., See also: impassability n. impassably adv. | index | (อิน' เดคซฺ) n. ดรรชนี,
เครื่องชี้,
เข็มชี้,
นิ้วชี้,
เลขกำลังในเครื่องหมายพีชคณิต,
สารบัญสิ่งตีพิมพ์ที่ต้องห้ามในศาสนาโรมันคาทอลิก (Index Librorum Prohibitorum) ,
หนังสือหรือวัตถุที่ต้องห้าม,
สารบัญ,
คำนำ. -vt. จัดให้มีสารบัญ,
จัดให้มีดรรชนี,
ใส่ดรรชนี,
เ | inhibit | (อินฮิบ'บิท) vt. ขัดขวาง,
ยับยั้ง,
สกัดกั้น,
ห้าม., See also: inhibiter n. inhibitory, inhibitive adj., Syn. hinder, restrain | inhibiter | (อินฮิบ'บิเทอะ) n. ตัวขัดขวาง,
ตัวยับยั้ง,
ตัวสกัดกั้น,
ผู้ห้าม | inhibitor | (อินฮิบ'บิเทอะ) n. ตัวขัดขวาง,
ตัวยับยั้ง,
ตัวสกัดกั้น,
ผู้ห้าม | interdict | (อินเทอไดทฺ') n. คำสั่งห้าม,
กฎหมายที่เป็นคำสั่งห้าม,
ข้อห้าม,
การห้าม. vt. ห้ามขัดขวางโดยการทิ้งระเบิดติดต่อกัน., See also: interdictor n., Syn. prohibit | interdiction | n. การห้าม,
ภาวะที่ถูกห้าม,
คำสั่งห้าม., See also: interdictory adj. | interlope | (อินเทอโลพ') vi. ดำเนินกิจการโดยไม่มีใบอนุญาต,
รุกล้ำไปในบริเวณที่หวงห้ามโดยไม่มีใบอนุญาต,
พูดสอดขึ้น,
ยุ่งเรื่องของคนอื่น., See also: interloper n., Syn. trespass | muzzle | (มัช'เซิล) n. ที่ครอบหรือสวมปากสุนัขหรือม้า,
ปากปืน,
ส่วนยื่นของศีรษะสัตว์ที่ได้แก่ ขากรรไกร ปากและจมูก. vt. ใส่ที่สวมปาก,
จำกัด,
หักห้าม, Syn. suppress | nix | (นิคซฺ) n. ความไม่มีอะไร. -adv. ไม่. interj. คำอุทานแสดงความไม่เห็น vt. คัดค้าน,
ไม่เห็นด้วย,
ห้าม | off-limits | (ออฟ'ลิม'มิทซฺ) adj. ห้ามเข้า | outlaw | (เอาทฺ'ลอ) n. คนนอกกฎหมาย,
คนร้าย,
ผู้ร้าย,
อาชญากร vt. ทำให้เป็นสิ่งผิดกฎหมาย,
คว่ำบาตร,
ประณาม,
ห้าม, Syn. law-breaker | packaged program | โปรแกรมสำเร็จในทางคอมพิวเตอร์ใช้หมายถึง application package ซึ่งก็คือ โปรแกรมสำเร็จที่มีผู้เขียนไว้จำหน่าย มีการจดลิขสิทธิ์ (ห้ามการคัดลอก) ปัจจุบันได้รับความนิยมมาก ราคาถูกกว่าการจ้างเขียน การใช้ก็ไม่ยาก ผู้ที่ซื้อไปใช้เพียงแต่อ่านคู่มือเอาเอง หรือเรียนรู้วิธีใช้คำสั่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ผู้ผลิตจะแข่งขันกันในการทำให้โปรแกรมเหล่านี้ใช้ง่าย มีทั้งโปรแกรมระบบ เช่น MS DOS และ Windows โปรแกรมตารางจัดการเช่น Excel,
Lotus โปรแกรมประมวลผลคำ เช่น Word Perfect,
MS Word,
CU Writer ฯลฯ | power brake | (เพา'เออะเบร็ค) n. ห้ามล้อพลังเครื่องยนต์ | prohibit | (โพรฮิบ'บิท) vt. ห้าม,
ป้องกัน,
ขัดขวาง., See also: prohibiter, prohibitor n. | prohibition | (โพรฮิบิช'เชิน) n. การห้าม,
ข้อห้าม,
คำสั่งห้าม,
ข้อละเว้น,
การห้ามผลิตและขายสุรา, See also: prohibitionary adj. | prohibitive | (โพรฮิบ'บิทิฟว) adj. ซึ่งห้าม,
ซึ่งขัดขวาง,
ซึ่งป้องกัน,
ซึ่งยับยั้ง., See also: prohibitiveness n. | proscribe | (โพรสไครบ') vt. ประณาม,
ห้าม,
เนรเทศ,
ไล่ออกไป,
เพิกถอนสิทธิการเป็นพลเมือง., See also: proscriber n. denounce, condemn | proscription | (โพรสคริพ'เชิน) n. การประณาม,
การห้าม,
การเนรเทศ,
การไล่ออกไป,
การเพิกถอนสิทธิการเป็นพลเมือง., See also: proscriptive adj. | reserved word | คำสงวนหมายถึง คำหรือรหัสหนึ่งรหัสใดที่กำหนดให้ใช้เพื่อการใดโดยเฉพาะแล้ว ห้ามนำไปใช้เพื่อการอื่นอีกได้ เช่น คำ copy del หรือ ren ล้วนแต่เป็นคำสั่งที่ใช้ในระบบปฏิบัติการดอสแล้ว คำเหล่านี้เป็นคำสงวนทั้งหมด จะนำไปตั้งเป็นชื่อตัวแปร หรือชื่อแฟ้มข้อมูลไม่ได้ | restrain | (รีสเทรน') vt. ยับยั้ง,
หยุดยั้ง,
หักห้าม,
อดกลั้น,
กลั้น,
ดึงบังเหียน,
รั้ง,
จำกัด,
คุม,
ควบคุม,
ข่มใจ, See also: restrainability n. restrainable adj. restrainedly adv. restrainingly adv., Syn. repress, hinder | restraint | (รีสเทรนทฺ') n. การยับยั้ง,
การหยุดยั้ง,
การหักห้าม,
การอดกลั้น,
การกลั้น,
การห้ามปราม,
การดึงบังเหียน,
การหน่วงเหนี่ยว,
วิธีการยังยั้งดังกล่าว,
การข่มใจ, Syn. constraint, rein |
| admonish | (vt) ห้าม,
ตักเตือน,
ว่ากล่าว,
ให้สติ | admonition | (n) การว่ากล่าว,
การห้าม,
การตักเตือน | AIR air brake | (n) ระบบห้ามล้อโดยการอัดลม | astringent | (n) ยาสมานแผล,
ยาห้ามเลือด | ban | (n) การห้าม,
การประกาศห้าม,
การสั่งห้าม | ban | (vt) ห้าม,
สั่งห้าม,
ประกาศห้าม | bar | (vt) สกัดกั้น,
กีดกั้น,
ขวาง,
ห้าม | boycott | (n) การคว่ำบาตร,
การห้ามติดต่อ | boycott | (vt) คว่ำบาตร,
ไม่ติดต่อด้วย,
ห้ามติดต่อ | brake | (n) ห้ามล้อรถ,
พุ่มไม้,
ป่าละเมาะ | brake | (vt) หยุด,
เบรค,
ห้ามล้อ | contraband | (adj) ต้องห้าม,
ทึ่ห้ามนำเข้ามา,
เป็นของเถื่อน | contraband | (n) ของต้องห้าม,
สินค้าต้องห้าม,
ของเถื่อน,
สินค้าเถื่อน | curfew | (n) การตีระฆัง,
การห้ามออกนอกบ้านในยามวิกาล | deadline | (n) เส้นตาย,
ขีดจำกัดเวลา,
กำหนดเวลา,
เส้นห้ามผ่าน | debar | (vt) กั้น,
กีดกั้น,
ขัดขวาง,
ห้าม,
ยับยั้ง | disqualify | (vt) ทำให้เสียสิทธ์,
ตัดสิทธิ์,
ห้าม,
ทำให้ขาดคุณสมบัติ | dissuade | (vt) ยังยั้ง,
หน่วงเหนี่ยว,
ห้ามปราม,
ปราม | dissuasion | (n) การหน่วงเหนี่ยว,
การยับยั้ง,
การห้ามปราม,
การปราม | embargo | (n) การห้ามเรือเข้าออกเมืองท่า,
การห้ามส่งสินค้า | enjoin | (vt) บัญชา,
บังคับ,
สั่งการ,
กำชับ,
ห้าม | forbear | (vi, vt) อดกลั้น,
หักห้าม,
ระงับ,
ละเว้น,
อดทน,
ข่มใจ | forbearance | (n) การข่มใจ,
การหักห้าม,
การระงับ,
ความอดทน,
การละเว้น | forbid | (vt) ขัดขวาง,
ไม่อนุญาต,
ห้าม,
ปราม,
ยับยั้ง | forbidden | (adj) ซึ่งต้องห้าม,
ซึ่งถูกห้าม,
ซึ่งไม่ได้รับอนุญาต | illicit | (adj) ต้องห้าม,
ผิดกฎหมาย,
เถื่อน | inadmissible | (adj) ต้องห้าม,
ไม่สามารถจะรับได้ | inhibit | (vt) กีดกั้น,
ขัดขวาง,
ยับยั้ง,
สกัดกั้น,
ห้าม | interdict | (n) ข้อห้าม,
คำสั่งห้าม | interdict | (vt) ห้าม,
ขัดขวาง | interdiction | (n) การห้าม,
คำสั่งห้าม | interpose | (vi, vt) สอดแทรก,
พูดสอด,
ขวาง,
ก้าวก่าย,
แทรกแซง,
กั้นกลาง,
ห้ามปราม | outlaw | (vt) หนีกฎหมาย,
ผิดกฎหมาย,
นอกกฎหมาย,
ห้าม,
ประกาศ | prohibit | (vt) ห้าม,
ปราม,
สั่งห้าม,
ขัดขวาง,
ยับยั้ง | prohibition | (n) การห้าม,
ข้อห้าม,
ข้อละเว้น,
การปราม,
คำสั่งห้าม | prohibitive | (adj) ซึ่งห้าม,
ซึ่งห้ามปราม,
ซึ่งขัดขวาง,
ซึ่งยับยั้ง | proscribe | (vt) เนรเทศ,
ไล่ออก,
ห้าม,
ประณาม,
เพิกถอนสิทธิ์ | proscription | (n) การเนรเทศ,
การไล่ออก,
การห้าม,
การเพิกถอนสิทธิ์ | restraint | (n) การยับยั้ง,
การงดเว้น,
ข้อผูกมัด,
การหักห้ามใจ | restrict | (vt) ควบคุม,
จำกัด,
หักห้าม,
ยับยั้ง | SELF-self-denial | (n) การหักห้ามใจ,
การเสียสละประโยชน์ส่วนตน | stanch | (n) คัดเลือด,
ห้ามเลือด | staunch | (n) คัดเลือด,
ห้ามเลือด | stoppage | (n) เครื่องกีดขวาง,
การหยุด,
การยุติ,
การห้าม,
การเลิก,
การอุด | stopper | (n) สิ่งกีดขวาง,
จุก,
ผู้หยุด,
ผู้ห้าม | styptic | (adj) ซึ่งห้ามเลือด | styptic | (n) สิ่งที่ใช้ห้ามเลือด | suppress | (vt) ปราบปราม,
เลิก,
กดขี่,
กลั้น,
ห้าม,
ทำลาย,
บดขยี้ | taboo | (adj) ต้องห้าม,
เป็นข้อห้าม | taboo | (n) ข้อห้าม,
สิ่งต้องห้าม,
ศีลห้าม |
| | 我慢 | [がまん,
gaman] (n, vi) อดทนอดกลั้น,
หักห้ามใจ | 禁煙 | [きんえん,
kin'en] (n, phrase) ห้ามสูบบุหรี่ |
| 駐車禁止 | [ちゅうしゃきんし,
chuushakinshi] ห้ามจอดรถ | 駄目 | [だめ,
dame] (n, adj) แย่ ไม่ดี ไม่มีผล ไม่ได้ ไม่มีหวัง อย่้า ห้าม | 禁忌 | [きんき,
kinki] ต้องห้าม,
เป็นข้อห้าม | 外出禁止令 | [かいしゅつきんしれい,
kaishutsukinshirei] (n) Curfew หรือ กฏอัยการศึก - ห้ามออกจากบ้านหลังเวลาที่กำหนด | 火気厳禁 | [かきげんきん,
kakigenkin] (n, phrase) ห้ามจุดไฟ ห้ามทำให้เกิดประกายไฟ |
| 禁じる | [きんじる,
kinjiru] TH: ห้าม EN: to prohibit |
| abraten von | (vi) |riet ab,
hat abgeraten| แนะนำไม่ให้ทำ,
ห้ามปราม เช่น Experten raten davon ab,
Weissmacherzahnpasta täglich einzusetzen. | verbieten | (vt) |verbot,
hat verboten| ห้ามไม่ให้ทำ เช่น Rauchen verboten! ห้ามสูบบุหรี่,
Betreten verboten! ห้ามเข้า, See also: A. erlauben, Syn. untersagen | verraten | (vi, vt) |verrät,
verriet,
hat verraten| เผยความลับ,
บอกความจริง,
ช่วยแนะ อธิบาย
ตัวอย่างการใช้ คำ
1° Yujin,
ich will dir verraten,
dass Junsang dich sehr mag! = นี่ ยูจิน,
เธอนะ ไม่รู้รู้เลยใช่มั้ย ว่าจุนซางเค้าชอบเธอมากเลยน้า (จาก winter love song แฮะๆ )
2° Unser Geheimnis darfst du keinem verraten! = ความลับระหว่างเรานะ เธอ ห้ามไปบอก ใครเชียวนะ! ( กรรมตรง คือ unser Geheimnis,
กรรมรอง คือ keinem,
Dativ! )
3° Können Sie mir bitte verraten,
wie ich am schnellsten zum Bahnhof komme? = เอ่อ คุณครับ กรุณาเถอะครับ ช่วยบอกทางผมไปสถานีรถไฟให้ด่วนที่สุดจะได้มั้ยครับ? ( คำว่า bitte จะช่วยให้คุณไปถึงสถานีรถไฟได้เร็ว จริงๆน้า..), See also: die Sache aufklären, A. verheimlichen, still sein, Syn. das Geheimnis sagen |
| |
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |