ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ตอนที่, -ตอนที่- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ |
| | กด ๒ | น. ชื่อปลาไม่มีเกล็ด มีหนวด หลายชนิด หลายขนาด ครีบหลังตอนแรกและครีบอกมีก้านครีบเป็นเงี่ยง ครีบหลังตอนที่ ๒ เป็นครีบไขมัน ส่วนใหญ่เป็นสกุล <i> Arius</i> ในวงศ์ Ariidae พบมากในเขตนํ้ากร่อย เช่น กดแดงหรือกดหัวโม่ง (<i> A. caelatus</i>Valencienne<i> s</i>) บางชนิดพบในทะเล เช่น กดทะเลหรือริวกิว [ <i> A</i>.<i> thalassinus</i> (Rüppell) ], ที่อยู่ในสกุล <i> Ketengus</i> ได้แก่ กดหัวโต (<i> K. typus</i>Bleeker), ในสกุล <i> Hemipimelodus</i> เช่น กดโป๊ะ [ <i> H. borneensis</i> (Bleeker) ]. | กราบ ๑ | (กฺราบ) น. ไม้เสริมแคมเรือให้สูงขึ้น, ส่วนของเรือตอนที่มีไม้เสริม, ไม้กระดานที่ติดตรงแคมเรือไปตามแนวนอนสำหรับเดิน, เรียกส่วนด้านข้างของเรือรบเรือสินค้าเป็นต้น. | แขยง ๑ | (ขะแหฺยง) น. ชื่อปลานํ้าจืดแทบทุกชนิดในวงศ์ Bagridae มีตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ ยาวได้ถึง ๕๐ เซนติเมตร ไม่มีเกล็ด มีหนวดยาว ๔ คู่ ส่วนหน้าสุดของครีบหลังตอนแรกและครีบอกมีก้านครีบแข็ง ๑ ก้าน หยักเป็นหนามคม ถัดไปเป็นก้านครีบอ่อน ส่วนครีบท้องตอนที่ ๒ เป็นครีบไขมันลักษณะเป็นแผ่นเนื้อขนาดเล็กหรือใหญ่ขึ้นกับชนิดของปลา ครีบก้นสั้น รูปร่างคล้ายปลากดแต่มีขนาดเล็กกว่า เช่น แขยงหินหรือกดหิน (<i> Pseudomystus siamensis</i> Regan) แขยงใบข้าว [ <i> Mystus cavasius</i> (Hamilton-Buchanan) ] แขยงธงหรือแขยงหมู (<i> M. bocourti</i> Bleeker) แขยงวังหรือแขยงหนู (<i> Bagrichthys obscures</i> Bleeker). | ไขรา | น. ส่วนของหลังคาอาคารสถาปัตยกรรมไทย เฉพาะตอนที่ยื่นพ้นผนังอาคารออกไปยังขอบหลังคา, ถ้าส่วนที่ยื่นนั้นอยู่ตรงหน้าจั่ว เรียก ไขราหน้าจั่ว, ถ้าอยู่ปลายหน้าบัน เรียก ไขราหน้าบัน, ถ้าเป็นหลังคาปีกนก เรียก ไขราปีกนก, ถ้าเป็นหลังคาบังสาดตามขนาดยาวของเต้า เรียก ไขราจันทันเต้า หรือ ไขราเต้า. | คอขวด | น. ส่วนของถนน สะพาน หรือลำน้ำตอนที่แคบเข้า. | ฉันทลักษณ์ | (ฉันทะลัก) น. ลักษณะแบบแผนคำประพันธ์ประเภทร้อยกรอง, ชื่อตำราไวยากรณ์ตอนที่ว่าด้วยลักษณะของคำประพันธ์. | ดัก ๒ | น. ชื่อปลานํ้าจืดขนาดเล็กชนิด <i> Amblyceps</i> <i> mucronatum</i> Ng & Kottelat ในวงศ์ Amblycipitidae ตาเล็กมาก มีหนวดอยู่ระหว่างรูจมูก ๔ คู่ ไม่มีเกล็ด ลำตัวยาว แบนข้าง ครีบหลังตอนแรกและครีบอกมีก้านครีบเป็นเงี่ยง มีแผ่นเนื้ออยู่ส่วนหน้าของครีบอก ครีบหลังตอนที่ ๒ เป็นแผ่นเนื้อ คอดหางกว้าง ครีบหางเป็นแฉก พบอาศัยอยู่ตามแหล่งต้นนํ้าลำธาร ขนาดยาวได้ถึง ๑๒ เซนติเมตร. | ดุกทะเล | น. ชื่อปลาทะเลหรือนํ้ากร่อยชนิด <i> Plotosus lineatus</i> (Thunberg) และ <i> P. canius</i> (Hamilton) ในวงศ์ Plotosidae มีเงี่ยงที่ครีบอกและครีบหลังตอนแรก ส่วนครีบหลังตอนที่ ๒ ต่อเนื่องกับครีบก้นและครีบหางยาว, สามแก้ว ปิ่นแก้ว หรือ เป็ดแก้ว ก็เรียก. | ตกข้าว | น. วิธีการที่นายทุนรับซื้อข้าวตามจำนวนที่กำหนดกับชาวนาตอนที่ข้าวลัดใบแล้ว โดยตกลงกันว่านายทุนจะให้เงินแก่ชาวนาก่อน แล้วชาวนาจะให้ข้าวเปลือกแก่นายทุนหลังจากนวดข้าวเสร็จแล้ว. | ตอน ๑ | น. ส่วนหนึ่ง ๆ ที่แบ่งออกจากส่วนใหญ่ (ใช้แก่สิ่งที่มีความยาว) เช่น ถนนวิภาวดีรังสิตตอนที่ผ่านดอนเมืองรถติดมาก โขนแสดงตอนหนุมานเผาลงกา ขอให้มาตอนเช้า ตอนเหนือของประเทศไทย. | ตะเข็บ ๔ | น. แนวผ้าหรือสิ่งอื่นตอนที่เย็บติดกัน, โดยปริยายหมายถึงสิ่งที่คล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น ตะเข็บรอยต่อจังหวัด. | ทุพภิกขันดร, ทุพภิกขันดรกัป | (ทุบพิกขันดอน, ทุบพิกขันดะระกับ) น. ระยะเวลาที่กำหนดไว้ว่าเป็นตอนที่ขาดแคลนอาหาร เกิดขึ้นเมื่อมนุษย์มีโลภะหนา. (ป.). <i> (ดู อันตรกัป ประกอบ)</i>. | ทู ๒ | น. ชื่อปลาทะเลชนิด <i> Rastrelliger</i> <i> brachysoma</i> (Bleeker) ในวงศ์ Scombridae หัวท้ายเรียว ลำตัวแบนข้าง เกล็ดเล็กบาง ด้านหลังสีน้ำเงินอมเขียว ปากกว้างเอียงขึ้นเล็กน้อย มีครีบหลัง ๒ ตอน ตอนที่ ๒ อยู่ตรงข้ามกับครีบก้น โดยต่างก็มีครีบย่อย ๕ อัน เรียงต่ออยู่ข้างท้าย ชิดโคนครีบหลังตอนแรกมีจุดสีดำ ๓-๖ จุด เรียงอยู่ ๑ แถว ข้างท้องสีขาวเงิน คอดหางแคบ อาศัยรวมกันเป็นฝูงใหญ่ใกล้ผิวนํ้า. | นอตหลุด | ก. คุมสติไม่อยู่ เช่น เมื่อวานฉันเกือบนอตหลุดตอนที่ทะเลาะกับเขา, หลุด ก็ว่า | บานแผละ | (-แผฺละ) น. ผนังตอนที่บานประตูหน้าต่างโบสถ์วิหารเป็นต้นเมื่อเปิดเข้าไปแล้วแปะอยู่. | บึก | น. ชื่อปลานํ้าจืดขนาดใหญ่ชนิด <i>Pangasianodon gigas</i> Chevey ในวงศ์ Pangasiidae ไม่มีเกล็ด ตัวยาว แบนข้างเล็กน้อย ท้องกลม มีหนวดสั้นมากข้างละ ๑ เส้นที่มุมปาก ไม่มีฟัน ครีบหลังตอนที่ ๒ เป็นแผ่นเนื้อขนาดเล็ก ลำตัวด้านหลังสีเทาอมนํ้าตาลแดง ด้านท้องสีขาว มีในลำแม่นํ้าโขง ขนาดยาวได้ถึง ๓ เมตร. | ใบขนุน | น. ชื่อปลาทะเลขนาดเล็กถึงขนาดกลางชนิด <i>Lactarius lactarius</i> (Bloch & Schneider) ในวงศ์ Lactariidae ลำตัวกว้าง แบนข้าง หัวโต ปากกว้างและเชิดขึ้น เกล็ดหลุดง่าย มีครีบหลัง ๒ ตอน ตอนที่ ๒ ยาวและมีลักษณะคล้ายครีบก้นซึ่งอยู่ตรงข้ามและยาวกว่าเล็กน้อย ลำตัวสีเงินตลอด ที่ขอบด้านบนของแผ่นปิดเหงือกมีจุดสีดำเด่น ครีบต่าง ๆ สีเหลืองอ่อน พบตลอดชายฝั่ง ขนาดยาวได้ถึง ๔๐ เซนติเมตร, ขนุน ญวน ซับขนุน หรือ สาบขนุน ก็เรียก. | ปลาย | (ปฺลาย) น. ตอนยอด, ตอนที่สุด. | ปาเต๊ะ ๒ | น. ชื่อผ้าโสร่งชนิดหนึ่ง ใช้เคลือบด้วยขี้ผึ้งเหลวบางตอนที่ไม่ต้องการให้มีสีสันหรือลวดลาย. | ผมนาง | น. ชื่อปลาทะเลชนิด <i> Alectis ciliaris</i> (Bloch), A. indicus (Rüppell), <i> Carangoides armatus</i> (Rüppell) และ <i> C. hedlandensis</i> (Whitley) ในวงศ์ Carangidae รูปร่างแตกต่างกัน ส่วนใหญ่ลำตัวสั้น กว้าง แบนข้างมาก คอดหางเล็ก เกล็ดละเอียด เว้นแต่ที่ส่วนปลายของเส้นข้างตัว โดยเฉพาะบริเวณคอดหางเกล็ดจะขยายใหญ่เป็นสันแข็ง มีกระดูกเป็นหนาม ๒ อัน โผล่อยู่หน้าครีบก้น และพับลงในร่องได้ ที่สำคัญคือ ต่างก็มีส่วนหน้าของทั้งครีบหลังตอนที่ ๒ และครีบก้นที่เป็นเส้นยาวมาก ลำตัวสีเงิน เฉพาะใกล้สันหลังเป็นสีฟ้าอมเทา ในระยะที่เป็นปลาขนาดเล็กจะมีลายพาดขวางเป็นบั้งสีเทาอยู่หลายแถบ เส้นครีบที่เป็นลายยาวมีสีคลํ้าหรือดำ จึงได้ชื่อว่า ผมนาง เฉพาะปลาขนาดเล็กของชนิด <i> A. indicus</i> (Rüppell) ยังมีครีบท้องยาวมากและมีขนาดยาวได้ถึง ๑๕๐ เซนติเมตร, โฉมงาม ก็เรียก. | ผ้านุ่ง | น. ผ้าสำหรับนุ่งชนิดหนึ่ง มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า เวลานุ่งม้วนให้เป็นชายกระเบนหรือหางกระเบนแล้วสอดไปใต้หว่างขา ดึงขึ้นไปเหน็บขอบผ้าด้านหลังระดับบั้นเอวตอนที่เรียกว่า กระเบนเหน็บ. | มังกง | น. ชื่อปลาชนิด <i>Mystus gulio</i> (Hamilton) ในวงศ์ Bagridae ไม่มีเกล็ด มีหนวดยาว ๔ คู่ หัวแบนลง ปากอยู่ตํ่าที่ตอนปลายของหัว ครีบหลังตอนที่ ๒ ซึ่งเป็นแผ่นเนื้อมีขนาดเล็ก ลำตัวและครีบมีเพียงพื้นสีนํ้าตาลคลํ้าหรือเทาดำ มีชุกชุมทั่วไปตามแหล่งนํ้าจืดใกล้ทะเล บางครั้งจับได้ในนํ้ากร่อย ขนาดยาวได้ถึง ๒๕ เซนติเมตร, แขยงหนู ก็เรียก. | แม่ลาย | น. ลายตอนที่เป็นประธานมีซํ้า ๆ กันเป็นแถวไป. | รักแร้ | เรียกส่วนของสิ่งก่อสร้างตอนที่ผนังกับผนังจดกันเป็นมุมฉากทั้งด้านในและด้านนอก เช่น รักแร้ปราสาท รักแร้กำแพงแก้ว รักแร้โบสถ์. | ไรฟัน | น. แนวฟันตอนที่เหงือกหุ้ม. | เลี้ยว | น. ทางตอนที่โค้งหรือคดไปจากแนวตรง เช่น เลยเลี้ยวแรกไป ๕๐ เมตรก็ถึงที่พัก, หัวเลี้ยว ก็ว่า. | วจีวิภาค | น. ชื่อตำราไวยากรณ์ตอนที่ว่าด้วยคำและหน้าที่ของคำ. | วากยสัมพันธ์ | น. ชื่อตำราไวยากรณ์ตอนที่แยกความออกเป็นประโยค ๆ และบอกความเกี่ยวข้องของคำในประโยค. | สะดือทะเล ๑ | น. บริเวณทะเลตอนที่มีน้ำไหลวนเป็นเกลียวลึกลงไปซึ่งถือกันว่าเป็นศูนย์กลางของทะเล. | เสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย | ก. เสียเพียงเล็กน้อยไม่ยอมเสีย ทำให้ต้องเสียมากกว่าเดิม เช่น ตอนที่เบรกรถยนต์เริ่มไม่ดี ก็ไม่รีบไปซ่อม พอเบรกแตกไปชนต้นไม้เข้า เลยต้องเสียค่าซ่อมมาก เข้าทำนองเสียน้อยเสียยาก เสียมากเสียง่าย. | หลุด | คุมสติไม่อยู่ เช่น เมื่อวานฉันเกือบหลุดตอนที่ทะเลาะกับเขา, นอตหลุด ก็ว่า | ห้วงน้ำ | น. ทะเลหรือแม่นํ้าตอนที่กว้างใหญ่. | หัว ๑ | ส่วนของพืชพันธุ์บางอย่างตอนที่อยู่ใต้ดิน เช่น หัวหอม หัวผักกาด, ส่วนที่อยู่ใต้ดินของพืชบางชนิด เป็นที่เกิดต้นอ่อน | หัวเลี้ยว | น. ทางตอนที่โค้งหรือคดไปจากแนวตรง, เลี้ยว ก็ว่า. | หัวหมู | น. ส่วนของไถตอนที่ปลายสอดติดผาล. | หางยาม | น. หางคันไถตอนที่มือถือ. | ไหล่ | น. ส่วนของบ่าตอนที่ติดกับต้นแขน. | ออกแขก | น. การแสดงลิเกตอนที่มีตัวแขกออกมาบอกเรื่องที่จะแสดง. | อักขรวิธี | น. วิธีเขียนและอ่านหนังสือให้ถูกต้อง, ชื่อตำราไวยากรณ์ตอนที่ว่าด้วยตัวอักษร การอ่าน การเขียน และการใช้ตัวอักษร. |
| Compton scattering | การกระเจิงแบบคอมป์ตัน, ปรากฏการณ์เมื่อโฟตอนวิ่งชนอิเล็กตรอนของอะตอม แล้วเกิดการกระเจิง โฟตอนที่กระเจิงออกไปจะมีพลังงานลดลงจากเดิม ซึ่งขึ้นอยู่กับมุมของการกระเจิงและมวลของอนุภาคที่ถูกชน ปรากฏการณ์นี้ตั้งชื่อตามผู้ค้นพบ คือ อาร์เทอร์ ฮอลลี คอมป์ตัน (Arthur Holly Compton) ซึ่งได้รับรางวัลโนเบลในปี พ.ศ.2470 [นิวเคลียร์] | Nuclear fuel cycle | วัฏจักรเชื้อเพลิงนิวเคลียร์, การปฏิบัติการทุกขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ เริ่มตั้งแต่การทำเหมืองแร่ยูเรเนียมหรือทอเรียม ผ่านกระบวนการทางเคมีเพื่อให้มีความบริสุทธิ์ และการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม การประกอบชุดเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ การใช้ในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ การแปรสภาพเชื้อเพลิงใช้แล้ว การวิจัยและพัฒนาใดๆ ที่เกี่ยวข้อง และการจัดการกากกัมมันตรังสี รวมถึงการเลิกดำเนินงานด้วย [นิวเคลียร์] | Ionizing radiation | รังสีชนิดก่อไอออน, รังสีหรืออนุภาคใดๆ ที่สามารถก่อให้เกิดการแตกตัวเป็นไอออนได้ทั้งโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมในตัวกลางที่ผ่านไป เช่น รังสีแอลฟา รังสีบีตา รังสีแกมมา รังสีเอกซ์ อนุภาคนิวตรอน อิเล็กตรอนที่มีความเร็วสูง โปรตอนที่มีความเร็วสูง รังสีเหล่านี้อาจทำให้เกิดอันตรายต่อเนื้อเยื่อของสิ่งมีชีวิต <br>(ดู beta particle ประกอบ)</br> [นิวเคลียร์] | Fuel cycle | วัฏจักรเชื้อเพลิงนิวเคลียร์, การปฏิบัติการทุกขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ เริ่มตั้งแต่การทำเหมืองแร่ยูเรเนียมหรือทอเรียม ผ่านกระบวนการทางเคมีเพื่อให้มีความบริสุทธิ์ และการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม การประกอบชุดเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ การใช้ในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ การแปรสภาพเชื้อเพลิงใช้แล้ว การวิจัยและพัฒนาใดๆ ที่เกี่ยวข้อง และการจัดการกากกัมมันตรังสี รวมถึงการเลิกดำเนินงานด้วย [นิวเคลียร์] | Nuclear fuel cycle | วัฏจักรเชื้อเพลิงนิวเคลียร์, การปฏิบัติการทุกขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ เริ่มตั้งแต่การทำเหมืองแร่ยูเรเนียมหรือทอเรียม ผ่านกระบวนการทางเคมีเพื่อให้มีความบริสุทธิ์ และการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม การประกอบชุดเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ การใช้ในเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ การแปรสภาพเชื้อเพลิงใช้แล้ว การวิจัยและพัฒนาใดๆ ที่เกี่ยวข้อง และการจัดการกากกัมมันตรังสี รวมถึงการเลิกดำเนินงานด้วย [นิวเคลียร์] | Break of Diplomatic Relations | การตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อสองรัฐตัดความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งกันและกัน เพราะมีการไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรง หรือเพราะเกิดสงคราม จึงไม่มีหนทางติดต่อกันได้โดยตรง ดังนั้น แต่ละรัฐมักจะขอให้มิตรประเทศที่เป็นกลางแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐอีกฝ่ายหนึ่ง ช่วยทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในอีกรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ช่วยดูแลคนชาติของรัฐนั้น ตัวอย่างเช่น ในตอนที่สหรัฐอเมริกากับคิวบาได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกดัน สหรัฐอเมริกาได้ขอให้คณะผู้แทนทางการทูตของสวิส ณ กรุงฮาวานา ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเทศคิวบา ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเช็คโกสโลวาเกียในกรุงวอชิงตัน ก็ได้รับการขอจากประเทศคิวบา ให้ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในสหรัฐอเมริกาถึงสังเกตว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกงสุลจะต้องตัดขาดไปด้วย มาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า ?ถ้าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองรัฐขาดลง หรือถ้าคณะผู้แทนถูกเรียกกลับเป็นการถาวรหรือชั่วคราวก. แม้ในกรณีการขัดแย้งกันด้วยอาวุธ รัฐผู้รับจะต้องเคารพและคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทนด้วยข. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการพิทักษ์สถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทน ให้แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับแก่รัฐผู้รับก็ได้ค. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการอารักขาผลประโยชน์ของคนและคนชาติของตน แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แก่รัฐผู้รับก็ได้ [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | Government in Exile | รัฐบาลพลัดถิ่น คือระหว่างที่สงครามยังดำเนินอยู่ ประเทศคู่สงครามหนึ่งอาจถูกกองทัพของประเทศฝ่ายศัตรูเข้ายึดครอง ในสถานการณ์เช่นนั้น ตัวหัวหน้าของรัฐบาลหรือรัฐมนตรีของประเทศที่ถูกยึดครองอำนาจอาจไปตั้ง รรัฐบาลขึ้นชั่วคราวในดินแดนของประเทศพันธมิตรหนึ่ง ซึ่งยินยอมให้ทำเช่นนั้น รัฐบาลที่ตั้งขึ้นเป็นการชั่วคราวดังกล่าวเรียกว่า รัฐบาลพลัดถิ่น ตราบใดที่รัฐบาลพลัดถิ่นได้รับการรับรองฐานะเป็นตัวแทนของประเทศตน ย่อมดำเนินกิจการหน้าที่ของประเทศในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศอื่นๆ ได้ รัฐบาลพลัดถิ่นจะยังคงสถานภาพของตนไว้ตราบเท่าที่ยังไม่มีความพยายามต่อไป ที่จะยึดเอาดินแดนของตนที่ข้าศึกครองอยู่กลับคืนมาให้ได้ ตัวอย่างของรัฐบาลพลัดถิ่นที่เคยมีมาแล้วคือ รัฐบาลของประเทศโปแลนด์ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ กรีซ และยูโกสลาเวีย ซึ่งได้ไปตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ เมื่อระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ตอนที่ดินแดนของประเทศเหล่านี้ได้ถูกกองทัพของเยอรมนีเข้ายึดครอง [การทูต] | secondary use | secondary use, การใช้เนื้อเยื่อเพื่อวัตถุประสงค์ต่อเนื่องเพิ่มเติมไปจากตอนที่ทำการเก็บรวบรวมเนื้อเยื่อในตอนต้นหรือเพิ่อวัตถุประสงค์อื่นที่ต่างไปจากวัตถุประสงค์ตอนต้นโดยสิ้นเชิง (tissues are used for purpose that either extend beyond or are totally different from the primary purpose [ชีวจริยธรรม] | Maneuver, First | ขั้นตอนที่ 1, วิธีทำขั้นที่ 1 [การแพทย์] |
| He had already stopped breathing by the time you drove off the road. | เขาได้หยุดหายใจไปก่อนแล้ว ตอนที่คุณขับรถออกมา Basic Instinct (1992) | He was breathing when we went off the road. | เขายังหายใจอยู่ ตอนที่ฉันขับรถ Basic Instinct (1992) | No, not even when they're dead. | ไม่ แม้แต่ตอนที่เขาตายแล้ว Basic Instinct (1992) | And then we can talk about this when we're not so rushed. | และเราก็จะคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ตอนที่เราไม่รีบร้อน Basic Instinct (1992) | The veins on his arms bulged as he roughly drew her onto him. | เส้นเลือดบนแขนของเขานูน เมื่อตอนที่เขาดึงเธอเข้าสู่เขา Basic Instinct (1992) | But, if I was with him when he died.... | แต่ถ้าฉันอยู่กับเขาตอนที่เขาตาย... Basic Instinct (1992) | Were you ever with anyone when they died? | คุณเคยอยู่กับใคร ตอนที่เขาตายไหม? Basic Instinct (1992) | When you think about fucking me and I know you do how do you picture it, doctor? | ตอนที่คุณคิดว่าเอากับฉัน... ...และฉันรู้ว่าคุณคิด... ...คุณวาดภาพมันยังไงคะ คุณหมอ? Basic Instinct (1992) | She ever tell you about them when she's chatting on the couch? | เธอเคยบอกคุณเกี่ยวกับมัน ตอนที่เธอคุยกับคุณบนโซฟารึเปล่า? Basic Instinct (1992) | When I did Catherine Tramell's assessment, I read that report. | ตอนที่ผมประเมินแคทเธอรีน ทราเมล ผมได้อ่านสำนวน Basic Instinct (1992) | If you have five seconds when you're not dizzy with the smell of her pussy, ask yourself: | ถ้าคุณมีเวลาซัก 5 วินาที ตอนที่คุณไม่เวียนหัว... ...ไปกับกลิ่นสวาทของเธอ ถามตัวเองว่า : Basic Instinct (1992) | Did she mean it when she told him she wanted help? | เธอหมายความว่าอย่างนั้นรึเปล่า ตอนที่เธอบอกเขาว่าต้องการความช่วยเหลือ? Basic Instinct (1992) | She liked to be well-dressed when she killed. | เธอชอบแต่งตัวดี ตอนที่เธอจะฆ่า Basic Instinct (1992) | What do you think Adam Towers was writing about when he was killed? | คุณคิดว่าอดัมทาวเวอร์กำลังเขียนอะไรล่ะ ตอนที่เขาถูกฆ่า? Basic Instinct (1992) | The letters came first. I don't know who's writing them. | ตอนที่จดหมายมา ฉันไม่รู้ว่าใครเป็นคนส่ง.. The Bodyguard (1992) | If, when you open your eyes, the day is sunny and bright, so shall your future be. | ถ้า ตอนที่เธอลืมตา ท้องฟ้ามีแสงแดดและส่องสว่าง อนาคตเธอก็จะเป็นเช่นนั้น Wuthering Heights (1992) | I think he heard up until the bit where you said it would degrade you to marry him. | ฉันว่าเขาได้ยินถึง ตอนที่คุณบอกว่า มันจะลดเกียรติ หากคุณแต่งงานกับเขาค่ะ Wuthering Heights (1992) | It was you that brought her back before, sir, when Heathcliff ran. | ท่านเป็นคนทำให้ หล่อนกลับมาเป็นเหมือนเดิม ตอนที่ฮีธคลิฟฟ์หนีไป Wuthering Heights (1992) | I remember when this house was full of the sound of laughter, Mr. Hindley. | ดิฉันยังจำได้ตอนที่บ้านหัลงนี้ เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ คุณฮินด์ลีย์ Wuthering Heights (1992) | Come on! | คือผมแค่อยากทำเงินให้มันงอกขึ้นมาตอนที่พี่ไม่อยู่ Hero (1992) | -A million dollars? | -อะไรจะเกิดขึ้นถ้าตอนที่พวกเธอเดินอยู่แล้ว.. Hero (1992) | When it rains in the winter, we'll just say "The hell with going to work," | ตอนที่ฝนตกในฤดูหนาว เราจะไม่ไปทำงาน Of Mice and Men (1992) | When she was shoving her legs around, you weren't looking the other way neither. | ไม่ แต่ตอนที่่เธอกวาดขาไปรอบ ๆ นายก็ไม่ได้มองไปทางอื่นเลย Of Mice and Men (1992) | You have a few pigeons that fly around the windmill, like they done when I was a kid. | มีนกพิราบสองสามตัว บินรอบกังหันลม เหมือนที่มันทำตอนที่ฉันเป็นเด็ก Of Mice and Men (1992) | I wish somebody'd shoot me when I ain't no good, but they won't do that. | ฉันหวังว่าจะมีใครยิงฉันทิ้ง ตอนที่ฉันหมดประโยชน์ แต่พวกเขาจะไม่ทำ Of Mice and Men (1992) | I sure will. I'll have 30 more dollars the time you guys is ready to quit. | แน่นอน ฉันยังมีเงินอีก 30 ดอลลาร์ ตอนที่พวกนายพร้อมจะออกจากงาน Of Mice and Men (1992) | Sometimes when I'm doing my hair, I just sit and stroke it cos it's so soft. | บางครั้งตอนที่ฉันทำผมมา ฉันจะนั่งลูบผมเล่นเพราะมันนิ่มมาก Of Mice and Men (1992) | When you all were downstairs. | ตอนที่พวกเธอลงมาข้างล่างแล้ว The Cement Garden (1993) | You know, she was from outer space and we were scientists examining her. | ก็ตอนที่... เธอเป็นมนุษย์ต่างดาว แล้วเราก็จับเธอไปทดลอง The Cement Garden (1993) | Wait a minute, Roger. | เดี๋ยวนะ โรเจอร์ จำตอนที่นายหมดหวัง... Cool Runnings (1993) | Step over | ขั้นตอนที่มากกว่า In the Name of the Father (1993) | It was when I was healthy, before you were born. | มันเป็นตอนที่ผมมีสุขภาพแข็งแรง ก่อนที่คุณเกิด In the Name of the Father (1993) | You will look like me when you get older. You promise? | - ลูกจะต้องดูเหมือนแม่ตอนที่ลูกแก่แล้ว The Joy Luck Club (1993) | When I was nine years old, my mother's version of believing in me was believing that I could be anything, anything she wanted, the best piano prodigy this side of China. | ตอนที่ฉันอายุ 9 ขวบ แบบการเชื่อของแม่ฉันในตัวฉัน... ก็คือการเชื่อว่าฉันสามารถเป็นได้ทุกอย่าง ทุกอย่างที่เธอต้องการ The Joy Luck Club (1993) | When I was young, Auntie Lindo was my mother's best friend and arch enemy. | ตอนที่ฉันยังเด็ก คุณป้าลินโดเป็นทั้งเพื่อนสนิท... และศัตรูตัวฉกาจของแม่ฉัน The Joy Luck Club (1993) | That's when I remembered what we could never talk about. | นั่นเป็นตอนที่ฉันจำในสิ่งที่เราไม่เคยพูดถึงได้ The Joy Luck Club (1993) | How sad they must've been when you told them Mom died. | พวกเขาจะเศร้าขนาดไหน เมื่อตอนที่พวกป้าบอกเขาว่าแม่เสียแล้ว The Joy Luck Club (1993) | That day, when I was only four years old, | วันนั้น เมื่อตอนที่ฉันอายุแค่สี่ขวบ The Joy Luck Club (1993) | I didn't know it, but that day my mother made a promise, that when I became 15, I would go live in this woman's house... | ฉันไม่รู้ แต่ในวันนั้น แม่ฉันได้ทำสัญญา ว่าเมื่อตอนที่ฉันอายุครบ 15 The Joy Luck Club (1993) | When we got divorced, she got all upset like it was my fault. | ตอนที่เราหย่ากัน เธอก็โมโหอย่างกับว่ามันเป็นความผิดของฉัน The Joy Luck Club (1993) | And when I finally started dating again, when I tried to hint to her about Rich, that we were living together... | - เดินระวังนะคะ... - แล้วพอตอนที่ฉันเริ่มออกเดทอีกครั้ง ตอนที่ฉันพยายามบอกใบ้เธอเรื่องของริช The Joy Luck Club (1993) | But the worst was when Rich criticized my mother's cooking, and he didn't even know what he had done. | แต่ที่แย่ที่สุด... ก็คือตอนที่ริชวิจารณ์อาหารของแม่ฉัน แล้วเขาก็ไม่รู้ตัวเลยว่าเขาทำอะไรลงไป The Joy Luck Club (1993) | That was our cue to eat some and proclaim it the best she'd ever made. | นั่นเป็นตอนที่ถึงคิวของพวกเราที่จะชิม... แล้วก็ชมว่ามันเป็นจานที่ยอดที่สุดที่แม่ทำมา The Joy Luck Club (1993) | So, how'd your mom react when you told her about the wedding? | แล้วแม่ของคุณมีปฏิกิริยายังไง ตอนที่คุณบอกเรื่องงานแต่งงานของเรา The Joy Luck Club (1993) | Happiest when he was cruel. | เขามีความสุขที่สุดตอนที่เขาโหดร้าย The Joy Luck Club (1993) | In time, I remarried and I had a daughter. | ในตอนที่ฉันแต่งงานอีกครั้ง... แล้วฉันก็มีลูกสาว The Joy Luck Club (1993) | And then last year, when we finally decided to get married, we agreed, love, yes, false dependencies, no. | แล้วเมื่อปีที่แล้ว ตอนที่เราตัดสินใจแต่งงานกัน เราตกลงกัน ความรัก... ใช่ การพึ่งพาที่ผิด... The Joy Luck Club (1993) | Lena, when you buy charcoal, you have to buy lighter fluid. | ลีน่า ตอนที่คุณซื้อถ่านไม้ คุณต้องซื้อน้ำมันจุดไฟมาด้วย The Joy Luck Club (1993) | Harold made it back in college. | ฮาร์โรลเป็นคนทำเองตอนที่อยู่มหาวิทยาลัย The Joy Luck Club (1993) | As a little girl, I wondered every day. | ตอนที่ยังเป็นเด็ก ฉันสงสัยอยู่ทุกวัน The Joy Luck Club (1993) |
| | algorism | (แอล' กะริสซึม) n. ระบบเครื่องหมายทางคณิตศาสตร์ของอาหรับ (โดยใช้ตัวเลข 1, 2, 3.......) วิธีการคำนวณด้วเลขอาหรับ, ลำดับขึ้นตอนที่แน่นอนซึ่งใช้ในการแก้ปัญหา, ขั้นตอนวิธี, ชุดของคำสั่งที่กำหนดไว้อย่างมีขั้นตอนเพื่อใช้แก้ปัญหาใดปัญหาหนึ่ง -algorismic adj. | sequence | (ซี'เควินซฺ) n. การต่อเนื่องกัน, ตอนที่ต่อเนื่องกัน, ลำดับเหตุการณ์, ลำ ดับ, ขั้นตอน, การเรียงลำดับ, ไพ่ที่เรียงแต้มกัน, เพลงสวดที่ต่อเนื่องกัน. vt. เรียงตามลำดับ, Syn. order, Ant. discontinuity | syllogism | (ซิล'ละจิสซึม) n. การอ้างเหตุผลหรืออนุมานตามลำดับขั้นตอนที่ตบตา, ประกอบด้วย2หลักคือหลักใหญ่ (major premise) กับหลักเล็ก |
| Cyst aspiration | เป็นขั้นตอนที่ใช้ในการระบายน้ำของเหลวจากถุงเต้านม. ส่วนใหญ่ของซีสต์ที่ไม่เป็นอันตราย (ไม่เป็นมะเร็ง) | Papanicolaou (Pap) | ขั้นตอนที่แปรงขนาดเล็กหรือไม้พายที่ใช้ในการกำจัดเซลล์จากปากมดลูกอย่างเบาๆเพื่อให้สามารถตรวจสอบได้ภายใต้กล้องจุลทรรศน์สำหรับมะเร็งปากมดลูกหรือการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ที่อาจนำไปสู่มะเร็งปากมดลูก | Removal of endometrial tissue | เป็นขั้นตอนที่จะเอาชิ้นเนื่้อเยื่อบางของเยื่อบุของมดลูกที่จะหยุดหรือลดการตกเลือดที่มากเกินไปหรือผิดปกติในผู้หญิงที่เจริญจะเสร็จสมบูรณ์. เยื่อบุโพรงมดลูกผ่าอาจจะไปทำให้เกิดการทำลายเยื่อบุของมดลูก เป็นขั้นตอนที่จะลบออกอย่างถาวรชั้นเนื้อเยื่อบางของเยื่อบุของมดลูกที่จะหยุดหรือลดการตกเลือดที่มากเกินไปหรือผิดปกติในผู้หญิงที่เจริญจะเสร็จสมบูรณ์. เยื่อบุโพรงมดลูกผ่าอาจจะแนะนำให้ทำลายเยื่อบุของมดลูก | sorry sorry | [sor-ry sor-ry] (n) ชื่อเพลงไตเติ้ลในอัลบั้มที่3ของศิลปินกลุ่มวงซุเปอร์จูเนียร์ ในตอนที่ปล่อยเพลงออกมานั้นได้รับความสนใจจากแฟนๆเป็นอย่างมาก และยังขึ้นชาร์ตหลายๆชาร์ตอีกด้วย |
| Unkosten | (n) |nur Pl.| รายจ่ายหรือค่าใช้จ่ายข้างเคียง (ที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับค่ารายจ่ายปกติในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง) เช่น Bei unserer Japan-Reise entstanden uns neben den Ausgaen für den Flug Unkosten in Höhe von 1000 Euro. ตอนที่ไปเที่ยวที่ญี่ปุ่น เราใช้จ่ายไปหนึ่งพันยูโรนอกเหนือจากค่าเครื่องบิน, See also: Related: Ausgaben, Kosten | verblüfft | (adj) ตกตะลึง, งงงัน เช่น Ich war höchst verblüfft, als ich ihn sagen hörte. ฉันตะลึงงันตอนที่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด, Syn. erstaunt |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |