ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: กิ่ง, -กิ่ง- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ ชงโค | (name) ..............ชงโค................ ชื่อทางวิทยาศาสตร์............Bauhinia purpurea ชื่อวงศ์............................CAESALPINIACEAE ชื่อสามัญ..........................Orchid Tree, Purder ชื่ออื่นๆ............................เสี้ยวดอกแดง, เสี้ยวดอกขาว ถิ่นกำเนิด..........................ทวีปเอเซีย การขยายพันธุ์....................เพาะเมล็ด ประวัติและข้อมูลทั่วไป.........ดอกชงโคมีหลายสี เช่น ชมพู ขาว ม่วง ชาวอินเดียถือว่าเป็นไม้สวรรค์ขึ้นอยู่ในเทวโลกและถือว่าเป็นไม้ของพระลักษมี นิยมปลูกร่วมกับ กาหลง และ โยทะกา เพราะมีใบคล้ายกัน ลักษณะทางพฤกษศาสตร์......ชงโคเป็นไม้พุ่มหรือไม้ต้นผลัดใบสูงประมาณ 15 เมตร ใบเป็นรูปไข่แยกเป็น 2 แฉกลึก ช่อดอกออกตามกิ่งข้างและจำนวนดอกน้อย กลีบดอกขาวหรือม่วง ลักษณะคล้ายดอกกล้วยไม้ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เกสรตัวผู้ 5 อัน ขนาดไม่เท่ากัน มีผลเป็นฝักขนาดกว้าง 1.5-2 ซม. ยาว 15-20 ซม. การปลูกและดูแลรักษา...........ชงโคเป็นไม้ที่ชอบแดด ควรปลูกในที่ได้รับแสงแดดทั้งวัน ดินปลูกควรเป็นดินร่วนระบายน้ำดี มีความ |
|
| กิ่ง | (n) branch, See also: twig, bough, limb, Syn. แขนง, กิ่งไม้, กิ่งก้าน, Example: บริเวณนี้ร่มรื่นเพราะกิ่งไม้ใหญ่ของต้นหางนกยูงแผ่ไปกว้างทั่วบริเวณ, Count Unit: กิ่ง, Thai Definition: ส่วนที่แยกออกจากต้น | กิ่ง | (clas) classifier of ivory, Example: บ้านของกำนันมีงาช้างอยู่ 2 กิ่ง, Thai Definition: ลักษณนามเรียกงาช้าง | กิ่งไม้ | (n) branch, See also: twig, bough, limb, Syn. ก้านไม้, แขนง, กิ่งก้าน, Example: ลูกเสือทุกคนช่วยกันแบกกิ่งไม้แห้งมากองไว้ เพื่อก่อไฟทำอาหาร, Count Unit: กิ่ง | ตอนกิ่ง | (v) graft, See also: incorporate, join, Example: พ่อสอนวิธีตอนกิ่งฝรั่งให้น้อง, Thai Definition: แยกกิ่งออกจากต้นเดิมเพื่อเอาไปปลูกโดยวิธีใช้มีดควั่นเอาเปลือกออกแล้วเอาดินพอกให้ออกรากเป็นต้น | ต่อกิ่ง | (v) graft, See also: one branch in (on/upon) the other, Example: ครูต่อกิ่งมะม่วงเป็นตัวอย่างให้นักเรียนดู, Thai Definition: นำเอากิ่งของต้นไม้ต้นหนึ่งไปเสียบลงที่ตอของต้นไม้อีกต้นหนึ่งในวงศ์เดียวกัน แล้วเอาผ้ายางพันตรงที่ต่อไม่ให้น้ำซึมเข้า | ทาบกิ่ง | (v) graft, See also: engraft, ingraft, Example: เมื่อวิทยาการการเกษตรเจริญขึ้นชาวสวนก็รู้จักทาบกิ่ง ต่อตา และเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อทำให้เห็นไม้ดอกมีหลายสีหลากหลายไปจากเดิม, Thai Definition: ตอนต้นไม้โดยวิธีทาบกิ่ง | ปักกิ่ง | (n) Beijing, See also: Peking, Syn. เมืองปักกิ่ง, กรุงปักกิ่ง, Example: นายทาเกชิตะ ได้บินไปกรุงปักกิ่ง เพื่อหารือความเมืองกับนายหลี่เผิง นายกรัฐมนตรีแห่งแดนมังกร, Count Unit: เมือง, Thai Definition: ชื่อเมืองหลวงของประเทศจีน | กิ่งก้อย | (adj) little, See also: small, insignificant, negligible, trivial, Syn. เล็ก, น้อย, เล็กน้อย, Example: เรื่องกิ่งก้อยอย่าเอามาสนใจ, Thai Definition: ไม่สำคัญ, ไร้สาระ | กิ่งก้อย | (n) little finger, Syn. นิ้วเล็ก, นิ้วก้อย, Example: เขาไม่ได้แตะแม้แต่ปลายกิ่งก้อยของเธอ | กิ่งก้าน | (n) branch, See also: twig, bough, limb, Syn. กิ่ง, กิ่งไม้, แขนง, Example: กระถินณรงค์ ในสภาพพื้นที่แล้งจะมีลำต้นคดงอแตกกิ่งก้านมาก, Count Unit: กิ่ง | กิ่งอำเภอ | (n) sub-district, Example: กิ่งอำเภอ เป็นส่วนหนึ่งของอำเภอ, Count Unit: กิ่งอำเภอ, Thai Definition: ส่วนราชการที่เล็กกว่าอำเภอใหญ่ | กิ่งก้านสาขา | (n) branch, See also: twig, bough, limb, Syn. กิ่งก้าน, แขนง, กิ่งไม้, Example: ต้นโพธิ์ใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาไปถึงอีกฝั่งหนึ่งของลำธาร | กิ่งก้านสาขา | (n) branch, See also: subdivision, division, Syn. สาขา, ส่วนย่อย, Example: บริษัทขยายกิ่งก้านสาขาไปต่างประเทศ |
|
| กิ่ง | น. ส่วนที่แยกออกจากต้น, แขนง | กิ่ง | ใช้เรียกส่วนย่อยที่แยกออกไปจากส่วนใหญ่ แต่ยังขึ้นอยู่กับส่วนใหญ่ เช่น กิ่งอำเภอ กิ่งสถานีตำรวจ | กิ่ง | ลักษณนามเรียกงาช้างว่า กิ่ง | กิ่ง | ชื่อเรือชนิดหนึ่งในกระบวนพยุหยาตรา. | กิ่งก้อย | ว. เล็ก เช่น หัวเท่ากิ่งก้อย คือ หัวเล็กนิดเดียว. | กิ่งก้อย | น. นิ้วเล็ก เช่น จะชนะไม่เท่ากิ่งก้อย (สังข์ทอง). | กิ่งทองใบหยก | ว. เหมาะสมกัน (ใช้แก่หญิงกับชายที่จะแต่งงานกัน). | กิ่งอำเภอ | น. ท้องที่ที่มีความจำเป็นในการปกครอง แยกมาจากอำเภอที่มีเขตท้องที่กว้างขวางแต่จำนวนประชากรไม่มาก หรือที่ที่มีชุมชนมากแต่ท้องที่ไม่กว้างขวางพอที่จะตั้งขึ้นเป็นอำเภอ มีปลัดอำเภอผู้เป็นหัวหน้าประจำกิ่งอำเภอเป็นหัวหน้าปกครอง. | กิ้งก่า | น. ชื่อสัตว์เลื้อยคลานหลายชนิดหลายสกุล ในวงศ์ Agamidae มีขนาดลำตัวต่าง ๆ กัน สันกลางของคอถึงลำตัวมีหนามแหลมจำนวนและขนาดต่างกัน เพศผู้มีสีเข้มและปรับสีได้ดีแตกต่างจากเพศเมีย ตัวและขามีเกล็ด ขาและนิ้วเล็กเรียว เล็บแหลมคม หางยาว ส่วนใหญ่อาศัยบนต้นไม้ เช่น กิ้งก่าบ้านหัวนํ้าเงิน (<i> Calotes mystaceus</i> Dumeril & Bibron) กิ้งก่าเขา [ <i> Acanthosaura</i><i> armata</i> (Hardwicke & Gray) ], อีสานเรียก ปอม กะปอม กะทั่ง หรือ กะท้าง. | กิ้งกือ | น. ชื่อสัตว์ขาปล้อง ชั้น Diplopodae มีเปลือกตัวแข็ง ลำตัวกลมยาวแบ่งเป็นปล้อง ไม่แบ่งอกหรือท้องให้เห็น ปล้องตามลำตัวจับกันเป็นคู่ตามยาวยืดหดเข้าหากันได้ ทำให้สามารถขดตัวเป็นวงกลมได้เมื่อถูกรบกวน ปล้องแต่ละคู่จะมีขา ๒ คู่ ยกเว้นปล้องแรกไม่มีขา ปล้องที่ ๒ ถึง ๔ มีขาเพียงคู่เดียว จำนวนขาอาจมีได้ถึง ๒๔๐ คู่ ชนิดตัวโตที่พบบ่อย อยู่ในสกุล <i> Thyropygus</i>เช่น กิ้งกือกระบอก ชนิด <i> T</i>. <i> allevatus</i> (Karsch) วงศ์ Harpagophoridae ส่วนตัวขนาดย่อมอยู่ในสกุล <i> Nepalmatoiulas</i>วงศ์ Julidae. | กิ้งกือเหล็ก | น. ชื่อกิ้งกือขนาดเล็กชนิด <i> Polydesmus</i>spp. ในวงศ์ Polydesmidae โตขนาดก้านไม้ขีดไฟ ลำตัวแบนทางด้านบน ยาว ๒-๒.๕ เซนติเมตร สีดำเป็นมัน ขอบข้างลำตัวและท้องสีครีมอ่อน หากินอยู่ตามกองขยะ ปุ๋ยหมัก มักซุกอยู่ในที่มืดและชื้น. | กิ้งโครง ๑ | น. ชื่อนกขนาดเล็กถึงขนาดกลางหลายชนิด ในวงศ์ Sturnidae รูปร่างอ้วนป้อมคล้ายนกเอี้ยง หางสั้น ขาแข็งแรง กินผลไม้และแมลง ในประเทศไทยมี ๖ ชนิด ชนิดที่มีขนาดเล็ก เช่น กิ้งโครงแกลบปีกขาว [ <i> Sturnus sinensis</i> (Gmelin) ] ชนิดที่มีขนาดกลาง เช่น กิ้งโครงคอดำ (<i> S. nigricollis</i> (Paykull)), คลิ้งโคลง ก็เรียก. | กิ้งโครง ๒ | น. จั่นมะพร้าวแห้ง. | กิ่งหาย | <i>ดู หิ่งหาย</i>. | เกิ้ง | ก. กั้น, บัง, มุง, เช่น เอาผ้าเกิ้งแดด เกิ้งหลังคา. | เกิ้ง | น. ฉัตร. | ต่อกิ่ง | ก. นำเอากิ่งของต้นไม้ต้นหนึ่งไปเสียบลงที่ตอของต้นไม้อีกต้นหนึ่งในวงศ์เดียวกัน แล้วเอาแถบพลาสติกพันตรงที่ต่อไม่ให้นํ้าซึมเข้า. | ทาบกิ่ง | น. วิธีขยายพันธุ์ต้นไม้แบบหนึ่ง โดยใช้ต้นตอที่เพาะไว้ตัดให้สูงจากโคนต้นเล็กน้อยในลักษณะแฉลบ แล้วนำไปทาบที่กิ่งของอีกต้นหนึ่งซึ่งปาดให้แฉลบเช่นเดียวกับต้นตอที่จะทาบ ใช้แถบพลาสติกพันบริเวณที่ทาบให้แน่น. | ทาบกิ่ง | ก. ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเช่นนั้น. | เทียนกิ่ง | น. ชื่อไม้พุ่มหรือไม้ต้นขนาดย่อมชนิด <i> Lawsonia inermis</i> L. ในวงศ์ Lythraceae ดอกสีขาวหรือแดง ผลกลม สุกสีนํ้าตาล ใบใช้ย้อมผม ผ้าไหม และผ้าขนสัตว์ ได้สีแดงนํ้าตาล, อีสานเรียก กาว. | เรือพระที่นั่งกิ่ง | น. เรือหลวงแบบโบราณสำหรับเป็นลำทรงของพระมหากษัตริย์ เสด็จพระราชดำเนินในกระบวนพยุหยาตราทางชลมารค เช่น เรือพระที่นั่งกิ่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งกิ่งศรีสมรรถไชย เรือพระที่นั่งกิ่งไกรสรมุข. | กก ๕ | ก. ตัด, บั่น, เช่น กกกิ่ง กกยอด. | กรรมชวาต | (กำมะชะวาด) น. ลมเกิดแต่กรรม คือ ลมเกิดในครรภ์เวลาคลอดบุตร ได้แก่ ลมเบ่ง เช่น พอถึงพระหัตถ์พระราชเทวีก็ทรงจับเอากิ่งรัง พอเกิดลมกรรมชวาตหวั่นไหวประชวรพระครรภ์ (ปฐมสมโพธิกถา), เขียนเป็น กรรมัชวาต ก็มี. | กระกวด | ว. สูงชัน, กรวด, เขียนเป็น กรกวด ก็มี เช่น อยู่จอมด้วยกรกวด กิ่งก้านรวดรยงงามอยู่น้นน (ม. คำหลวง มัทรี). | กระจาบ | น. ชื่อนกขนาดเล็ก วงศ์ย่อย Ploceinae ในวงศ์ Ploceidae ปากหนารูปกรวย ปลายหางมน ขนหัวและขนตัวลาย ในฤดูผสมพันธุ์ขนหัวเพศผู้เปลี่ยนเป็นสีเหลือง มี ๓ ชนิด คือ กระจาบธรรมดาหรือกระจาบอกเรียบ[ <i> Ploceus philippinus</i> (Linn.) ] กระจาบอกลาย [ <i> P. manyar</i> (Horsfield) ] ทำรังด้วยหญ้าหรือฟางข้าวห้อยอยู่กับกิ่งไม้หรือต้นพืชน้ำเช่นกก ปากรังอยู่ด้านล่าง และกระจาบทอง [ <i> P</i>.<i> hypoxanthu</i><i> s</i> (Sparrman) ] ทำรังด้วยหญ้าหรือฟางข้าวโอบหุ้มกิ่งไม้หรือใบพืชน้ำ ปากรังอยู่ทางด้านข้าง มักอยู่รวมกันเป็นหมู่ กินเมล็ดพืช. | กระแจะ ๒ | น. ชื่อไม้ต้นขนาดเล็กชนิด <i> Naringi</i><i> crenulata</i> (Roxb.) Nicolson ในวงศ์ Rutaceae ขึ้นในป่าเบญจพรรณ ต้นและกิ่งมีหนามเปลือกขรุขระสีเทา ดอกเล็กสีขาวเป็นช่อสั้น ยาวประมาณ ๒ เซนติเมตร กลิ่นหอมอ่อน ท่อนไม้ฝนกับนํ้าใช้เป็นเครื่องประทิ่นผิว รากใช้ทำยา, กะแจะ ขะแจะ ตุมตัง หรือ พญายา ก็เรียก. | กระโฉม | น. ชื่อไม้ล้มลุกชนิด<i> Limnophila rugosa</i> (Roth) Merr. ในวงศ์ Scrophulariaceae ชอบขึ้นในที่ชื้นแฉะ ลำต้นและกิ่งอวบน้ำ สีม่วง ใบรูปไข่ ค่อนข้างหนา ด้านล่างมีขน ขอบหยักห่าง ๆ ก้านใบแบน ๆ โคนก้านโอบกิ่งหรือลำต้น ดอกเล็ก ๆ สีม่วงแกมชมพู กลางเหลือง ออกเป็นกระจุกที่ง่ามใบหรือปลายกิ่ง ทุกส่วนของไม้นี้มีกลิ่นหอม ใช้เป็นอาหาร และใช้ทำยาได้, ผักโฉม ก็เรียก เช่น ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน (เห่เรือ). | กระดูกกบ | น. ชื่อไม้พุ่มรอเลื้อยชนิด <i> Hymenopyramis</i> <i> brachiata</i> Wall. ex Schauer ในวงศ์ Labiatae กิ่งอ่อนสี่เหลี่ยม ใบออกตรงข้ามกัน ดอกเล็กสีขาวออกเป็นช่อตรงปลายกิ่ง ผลกลมมีกระเปาะหุ้ม, กระพัดแม่ม่าย ก็เรียก. | กระดูกไก่ดำ | น. ชื่อไม้พุ่ม ๒ ชนิดในสกุล <i> Justicia</i> วงศ์ Acanthaceae ได้แก่ชนิด <i> J. gendarussa</i> Burm. f. ใบยาวรี ออกตรงข้ามกัน ลำต้น กิ่ง ก้านใบ และเส้นกลางใบสีม่วงดำ ใช้ทำยาได้, กระดูกดำ เฉียงพร้ามอญ หรือ สันพร้ามอญ ก็เรียก และชนิด <i> J. grossa</i> C. B. Clarke ดอกสีขาวอมเขียว ฝักยาว เปลือกแข็งและมีขน ผลแก่แตกตามยาว. | กระโดง ๒ | น. กิ่งไม้ที่แตกออกตรงขึ้นไปจากกิ่งใหญ่ | กระไดลิง ๒ | น. ชื่อไม้เถาเนื้อแข็งชนิด <i> Bauhinia scandens</i> L. var. <i> horsfieldii</i> (Miq.) K. Larson et S.S. Larsen ในวงศ์ Leguminosae ขึ้นในป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณที่ชุ่มชื้นทั่วไป และตามริมแม่นํ้าลำคลอง เถาแบนยาว งอกลับไปกลับมาคล้ายขั้นบันได ดอกเล็ก สีขาว ออกเป็นช่อที่ปลายกิ่ง เปลือกเหนียวใช้แทนเชือก เถาใช้ทำยาได้, กระไดวอก มะลืมดำ บันไดลิง หรือ ลางลิง ก็เรียก. | กระต้อ | น. ชื่อนกชนิดหนึ่ง เช่น กระต้อพลอดกิ่งพลับ (เพชรมงกุฎ). | กระถอบ | น. แผ่นทองคำฉลุลายเป็นกิ่งต้นเครือวัลย์กระหนก สำหรับเสียบห้อยที่ชายพกลงมาในระหว่างช่องหน้าขาทั้ง ๒ สามัญเรียกว่า ช่อทับชาย เช่น ที่ประดับเทวรูปทรงเครื่องทั่วไป เรียกกันว่า สุวรรณกระถอบ หรือ สุวรรณกัญจน์ถอบ. | กระทงลาย | น. ชื่อไม้เถาเนื้อแข็งชนิด <i> Celastrus</i><i> paniculatus</i> Willd. ในวงศ์ Celastraceae ใบรูปไข่ปลายแหลม ขอบจักถี่ ดอกเล็กขาว ๆ เหลือง ๆ ออกเป็นช่ออยู่ปลายกิ่ง ผลเท่าเมล็ดถั่วลันเตา เมื่อแก่แตกเป็น ๓ กลีบ นํ้ามันจากเมล็ดใช้ทำยา ตามไฟ หรือเคลือบกระดาษกันนํ้าซึม, กระทุงลาย หรือ มะแตก ก็เรียก. | กระทุ | น. ชื่อไม้พุ่มชนิด <i> Rhodomyrtus tomentosa</i> (Aiton) Hassk. ในวงศ์ Myrtaceae ขึ้นชุมตามป่าโปร่งทางปักษ์ใต้ ใบหนา สีเขียวแก่ ออกเป็นคู่ ๆ ตามกิ่ง บางทีออกเป็น ๓ ใบจากข้อเดียวกัน ด้านล่างของใบมีขนทึบสั้น ๆ ดอกสีชมพู สัณฐานคล้ายกุหลาบลาขนาดเล็ก ๆ ออกตามง่ามใบ ดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อ ๒-๓ ดอกก็มี ผลกลม เมื่อสุกสีม่วงดำ กินได้ มีรสหอมหวาน, ทุ พรวด พรวดใหญ่ หรือ พรวดกินลูก ก็เรียก. | กระทุ่ม ๑ | น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางและขนาดใหญ่ชนิด <i> Anthocephalus chinensis</i> (Lam.) A. Rich. ex Walp. ในวงศ์ Rubiaceae ใบออกเป็นคู่ตรงข้ามกัน ตามลำกิ่งและระหว่างก้านใบมีหูใบรูปสามเหลี่ยมปลายแหลมติดกับกิ่งทั้ง ๒ ด้าน ดอกเป็นช่อกลมสีเหลืองอ่อน หอม เนื้อไม้เหลืองหรือขาว ใช้ทำเสากระดาน และเยื่อกระดาษชนิดเลวได้, กระทุ่มบก ตะกู หรือ ตะโกส้ม ก็เรียก. | กระบองเพชร ๒ | น. ชื่อไม้พุ่มชนิด <i> Cereus</i><i> hexagonus</i> (L.) Mill. ในวงศ์ Cactaceae ลำต้นสูง ๓-๕ เมตร ลำต้นและกิ่งกลม หยักเป็นร่องโดยรอบ มีหนามละเอียด ดอกใหญ่ สีขาว กลิ่นหอม บานกลางคืน มักปลูกเป็นรั้วบ้าน, ตะบองเพชร ก็เรียก, พายัพ เรียก เขียะ หรือ หนามเขียะ. | กระย่อน | ยวบยาบ, แกว่ง เช่น ลมไกวกิ่งกลฟ้อน ก็กระย่อนอยู่ยานโยน (สมุทรโฆษ) | กระสา ๑ | น. ชื่อนกขนาดใหญ่หลายชนิด ในวงศ์ Ciconiidae ปากหนาแบนข้าง ยาว ปลายแหลมตรง คอและขายาว เวลาบินคอเหยียดตรง ทำรังด้วยกิ่งไม้อยู่บนยอดไม้สูง กินปลาและสัตว์น้ำขนาดเล็ก ในประเทศไทยมีหลายชนิด เช่น กระสาคอขาว [ <i> Ciconia episcopus</i> (Boddaert) ] กระสาคอดำ [ <i> Ephippiorhynchus</i><i> asiaticus</i> (Latham) ]. | กระสา ๑ | ชื่อนกยางขนาดใหญ่ ในวงศ์ Ardeidae ปากยาว ปลายแหลม ฤดูผสมพันธุ์เพศผู้มีขนยาวบริเวณท้ายทอย ๒ เส้น คอยาว เวลาบินคอโค้งงอ ขายาว เล็บของนิ้วกลางที่หันไปข้างหน้าหยักคล้ายซี่หวี ทำรังด้วยกิ่งไม้บนยอดไม้สูงปานกลาง กินปลาและสัตว์น้ำ ในประเทศไทยมี ๓ ชนิด คือ กระสานวล (<i> Ardea</i><i> cinerea</i> Linn.) กระสาแดง (<i> A. purpurea</i> Linn.) และกระสาใหญ่ (<i> A. sumatrana</i> Raffles). | กระสุนพระอินทร์ | น. ชื่อกิ้งกือในสกุล <i> Sphaerotherium</i> วงศ์ Sphaerotheriidae ยาวประมาณ ๔ เซนติเมตร หัวแบนเล็ก ลำตัวโค้งนูน มี ๑๓ ปล้อง ผิวลำตัวเรียบมัน ด้านหลังสีน้ำตาล ดำ ครีม หรือเขียว เมื่อถูกกระทบจะม้วนเข้าสอดกับปล้องสุดท้ายจนกลมคล้ายลูกกระสุนดินปั้น พบชุกชุมช่วงต้นฤดูฝนตามพื้นที่สูงที่มีใบไม้ทับถมและชุ่มชื้น, ปักษ์ใต้เรียก มวนชิด. | กราก ๓ | เสียงอย่างเสียงลากกิ่งไม้. | กล้วยน้อย | น. ชื่อไม้ต้นขนาดกลางชนิด <i> Xylopia vielana</i> Pierre ในวงศ์ Annonaceae กิ่งสีนํ้าตาลดำ ดอกหอม รากสีดำ กลิ่นเหมือนนํ้ามันดิน เชื่อกันว่ารากใช้แก้พิษงู. | กวางป่า | น. ชื่อกวางชนิด <i> Cervus unicolor</i> Kerr ในวงศ์ Cervidae เป็นชนิดที่ใหญ่ที่สุดในหมู่กวางในประเทศไทย ขนยาวหยาบสีน้ำตาล ตัวผู้มีเขาเป็นแขนงข้างละ ๓ กิ่ง ผลัดเขาปีละครั้ง มักแยกอยู่ตามลำพังยกเว้นฤดูผสมพันธุ์จึงจะรวมกลุ่ม กินใบไม้อ่อน หญ้าอ่อน, กวางม้า ก็เรียก. | ก้อง ๒ | ก. อ่อนน้อมเจริญพระราชไมตรี เช่น พระเจ้ากรุงไทยแต่งขุนนางไปก้องกรุงปักกิ่ง (ประกาศ ร. ๔). | กะต้ำ | น. เครื่องมือจับสัตว์นํ้าตามริมฝั่งชนิดหนึ่ง ใช้เฝือกกั้นด้านข้าง ๒ ด้านเป็นคอก ด้านหน้ามีประตูผูกเชือกชักขึ้นลงได้ ด้านหลังชิดตลิ่ง ใช้ตลิ่งเป็นที่กั้น ในคอกสะด้วยกิ่งไม้และโปรยเหยื่อเพื่อล่อให้ปลาเข้าไป, ต้อน ก็เรียก. | กะทั่ง | น. กิ้งก่า. <i> (ดู กิ้งก่า)</i>. | กะท้าง | น. กิ้งก่า.<i> (ดู กิ้งก่า)</i>. | กะปอม | น. กิ้งก่า. <i> (ดู กิ้งก่า)</i>. | กะปอมขาง | น. กิ้งก่า. <i> (ดู ปอมข่าง)</i>. |
|
| principal branch | กิ่งมุขสำคัญ [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | rhizophore | กิ่งให้ราก, กิ่งค้ำ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | renal calix | กิ่งกรวยไต [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | ramate; dendritic | มีกิ่ง [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | ramicolous | อยู่บนกิ่งไม้ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | ramiform | -รูปกิ่ง, -รูปแขนง [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | ramose; ramous | แตกกิ่ง, แตกแขนง [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | ramous; ramose | แตกกิ่ง, แตกแขนง [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | scion | กิ่งพันธุ์ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | sub-dendritic drainage pattern | แบบรูปทางน้ำคล้ายกิ่งไม้ [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] | axil | ง่าม, ซอก [ กิ่ง, ใบ ] [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | brachyblast | กิ่งงัน [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | brachycladous | มีกิ่งสั้น [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | branch node | บัพกิ่ง [ มีความหมายเหมือนกับ interior node และ nonleaf node; nonterminal node ] [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | bifid | -แยกสองกิ่ง, -แยกสองแฉก [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | branch | ๑. กิ่ง๒. แตกกิ่ง, แยกสาขา๓. แยก(ทาง) [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔] | branch; twig | กิ่ง [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | branch | ๑. กิ่ง๒. แตกกิ่ง, แยกสาขา [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | branch abscission | การทิ้งกิ่ง [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | bronchial tree | กิ่งก้านหลอดลม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | bicornate; bicornuate | มีสองเขา, มีสองกิ่ง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | bicornuate; bicornate | มีสองเขา, มีสองกิ่ง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | branching diagram | แผนภาพแตกกิ่ง [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | minor calix | กิ่งน้อย (กรวยไต) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | major calix | กิ่งใหญ่ (กรวยไต) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | monopodial branching | การแตกกิ่งด้านข้าง [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | multicipital | มีกระจุกหัว, มีกระจุกกิ่ง [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | calix; calyx | กิ่ง (กรวยไต) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | calix, major | กิ่งใหญ่ (กรวยไต) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | calix, minor | กิ่งน้อย (กรวยไต) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | calix, renal | กิ่งกรวยไต [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | calyx; calix | กิ่ง (กรวยไต) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | dendriform ulcer; ulcer, dendritic | แผลกระจกตาชนิดแตกกิ่ง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | dichotomous | -แบ่งเป็นสอง (กิ่ง, แฉก, ส่วน) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | deliquescent | ๑. แตกกิ่งมาก๒. บางฉ่ำ [ กลีบดอก ] [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | dendritic; ramate | มีกิ่ง [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | dendritic drainage pattern | แบบรูปทางน้ำกิ่งไม้ [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] | dendritic ulcer; ulcer, dendriform | แผลกระจกตาชนิดแตกกิ่ง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | grafting | การติดตาต่อกิ่ง [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | fastigiate | -กิ่งตั้ง [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | excurrent | ๑. ยื่นยาว [ เส้นกลางใบ ]๒. ไม่แตกกิ่ง [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | tree, bronchial | กิ่งก้านหลอดลม [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | twig; branch | กิ่ง [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | trichotomous | -แบ่งเป็นสาม (กิ่ง, แฉก, ส่วน) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | two-branch graph | กราฟสองกิ่ง [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗] | ulcer, dendriform; ulcer, dendritic | แผลกระจกตาชนิดแตกกิ่ง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | ulcer, dendritic; ulcer, dendriform | แผลกระจกตาชนิดแตกกิ่ง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | unicornous | -เขาเดียว, -กิ่งเดียว, -นอเดียว [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
| แขนง | กิ่งไม้เล็กๆ ที่แตกใหม่จากลำของไม้พวกไม้ไผ่ ส่วนแยกที่แยกจากส่วนใหญ่, Example: คำที่มักเขียนผิด คือ ขแหนง ขะแหนง [คำที่มักเขียนผิด] | Branching processes | กระบวนการแตกกิ่ง [TU Subject Heading] | Murdannia loriformis | หญ้าปักกิ่ง [TU Subject Heading] | Pruning | การลิดกิ่ง, Example: การกำจัดกิ่งบางกิ่งออกไป ทำให้ได้ต้นไม้ที่มีลำต้นเกลี้ยงเกลา เนื้อไม้ที่ได้เมื่อแปรรูป ออกมาจะปราศจากตำหนิอันเกิดจากปุ่มหรือตา (Knot) ที่เกิดจากกิ่งที่เจริญเติบโตออกมาจากลำต้น แบ่งออกได้ 2 วิธี คือ Natural Pruning และ Artificial Pruning [สิ่งแวดล้อม] | Artificial Pruning | การลิดกิ่งโดยมนุษย์, Example: การลิดกิ่งวิธีหนึ่ง โดยการเลือกกำจัดกิ่งบางกิ่งออก จากลำต้นเพื่อเพิ่มคุณภาพและคุณค่าของเนื้อไม้ โดยการกระทำของมนุษย์ การลิดกิ่งทำให้ได้ไม้ที่มีคุณภาพดี ไร้ตำหนิ ดังนั้นการพิจารณาทำการลิดกิ่งจึงจำเป็น ต้องทำกับไม้ที่เมื่อลิดกิ่งแล้วสามารถขายได้ราคาคุ้มกับค่าใช้จ่ายของการ ลิดกิ่ง โดยปกติการทำการลิดกิ่งมักจะทำควบคู่กับการตัดสางขยายระยะ [สิ่งแวดล้อม] | Natural Pruning | การลิดกิ่งตามธรรมชาติ, Example: การลิดกิ่งวิธีหนึ่ง ซึ่งเป็นผลจากตัวการทางฟิสิกส์ และชีวะของสิ่งแวดล้อมซึ่งเกิดขึ้นเองอย่างช้าๆ ตามธรรมชาติ อาจแบ่งขั้นตอนได้ 3 ขั้น คือ การแห้งตายของกิ่ง การหลุดร่วงของกิ่งแห้งนั้น และการสมานรอยกิ่งที่หลุดไปนั้น ซึ่งทั้ง 3 ขั้นนี้จะเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน [สิ่งแวดล้อม] | ASEAN Committee in Beijing | คณะกรรมการอาเซียนประจำกรุงปักกิ่ง " ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกอาเซียนประจำกรุง ปักกิ่ง มีหน้าที่ในการประสานผลประโยชน์และเป็นกลไกกลางของ อาเซียนในการมีปฏิสัมพันธ์กับสาธารณรัฐประชาชนจีนที่กรุงปักกิ่ง [การทูต] | Size of Staff of Diplomatic Mission | ขนาดของคณะผู้แทนทางการทูต โดยพฤตินัย จำนวนคณะผู้แทนทางการทูตจะมีตั้งแต่แห่งละหนึ่งหรือสองคนขึ้นไป จนถึงแห่งละ 100 กว่าคนได้ แต่โดยส่วนเฉลี่ย คณะผู้แทนทางการทูต จะมีจำนวนระหว่าง 12 ถึง 24 คน สำหรับคณะผู้แทนทางการทูตที่ประจำอยู่ในนครหลวงของประเทศใหญ่ๆ เช่น ที่กรุงวอชิงตันดีซี กรุงลอนดอน กรุงปารีส กรุงมอสโก กรุงปักกิ่ง และกรุงโตเกียว เป็นต้น จะมีเจ้าหน้าที่ทูตมากกว่าปกติอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทาง การทูตได้บัญญัติอยู่ในมาตรา 11 ว่า ?1. เมื่อไม่มีความตกลงเฉพาะในเรื่องขนาดของคณะผู้แทน รัฐผู้รับอาจเรียกร้องให้ขนาดของคณะผู้แทนอยู่ในจำนวนจำกัดตามที่ตนเห็นว่า เหมาะหรือเป็นปกติได้ ทั้งนี้ โดยคำนึงถึงพฤติการณ์หรือสภาวการณ์ในรัฐผู้รับ และความจำเป็นของคณะผู้แทนเฉพาะราย 2. ภายในสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกัน และบนมูลฐานที่ไม่เลือกปฏิบัติ รัฐผู้รับอาจปฏิเสธได้เช่นเดียวกัน ที่จะยอมรับพนักงานเฉพาะรายประเภทหนึ่งประเภทใดก็ได้? [การทูต] | Dendrimer antibody | เดนดริเมอร์ แอนติบอดี้ คือ แอนติบอดี้ที่เชื่อมติดกับโมเลกุลพอลิเมอร์ที่มีแขนงกิ่งก้านยื่นออกมาคล้ายต้นไม้ ซึ่งเรียกว่า เดนดริเมอร์ โดย เดนดริเมอร์ แอนติบอดี้ มักใช้ในการตรวจวัดปริมาณสารแอนติเจน และถือว่าเป็นการประยุกต์ใช้เดนดริเมอร์ในการวัดสารภูมิคุ้มกันของร่างกายวิธีหนึ่ง [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Clone | โคลน , วิธีการหรือกระบวนการที่ใช้สร้างสิ่งที่เหมือนกันโดยสมบูรณ์ ซึ่งอาจจะเป็นดีเอ็นเอ ยีน เซลล์ หรือสิ่งมีชีวิตก็ได้ นอกจากนี้ยังอาจหมายถึง สิ่งที่สร้างขึ้นมาจากกระบวนการดังกล่าวได้อีกด้วย คำว่า โคลน มีที่มาจากคำในภาษากรีกที่แปลง่า กิ่งก้าน [เทคโนโลยีชีวภาพ] | Epichlorohydrin | ยางอิพิคลอโรไฮดรินเป็นยางสังเคราะห์ชนิดหนึ่งที่มีสายโซ่หลักเป็นพอลิ อีเทอร์และมีหมู่คลอโรเมทิลเป็นกิ่งก้าน แบ่งได้เป็น 3 ชนิดหลัก คือ 1.โฮโมพอลิเมอร์ของอิพิคลอโรไฮดริน (CO) ได้จากการทำปฏิกิริยาพอลิเมอไรเซชันแบบเปิดวงแหวนของอิพิคลอโรไฮดริน 2.โคพอลิเมอร์ของอิพิคลอโรไฮดรินและเอทิลีนออกไซด์ (ECO) ได้จากการนำเอทิลีนออกไซด์ไปพอลิเมอไรเซชันร่วมกับอิพิคลอโรไฮดริน 3.เทอร์พอลิเมอร์ระหว่างอิพิคลอโรไฮดริน เอทิลีนออกไซด์ และมอนอเมอร์ชนิดที่ไม่อิ่มตัว (GECO/ETER) ได้จากการเติมมอนอเมอร์ชนิดที่สามลงไปเพื่อให้ยางชนิดนี้สามารถคงรูปได้โดย ใช้ระบบกำมะถันและเพอร์ออกไซด์ ยางอิพิคลอโรไฮดรินมีสมบัติเด่นหลายประการ คือ ทนต่อน้ำมันและน้ำมันเชื้อเพลิงได้ดี ทนต่อความร้อนและโอโซนได้ดีเยี่ยม มีอัตราการซึมผ่านของก๊าซและน้ำมันเชื้อเพลิงต่ำที่สุด ทนทานต่อการติดไฟได้ดี และมีสมบัติการหักงอที่อุณหภูมิต่ำดีมากอีกด้วย ยางชนิดนี้แม้ว่าจะมีสมบัติที่ดีหลายประการ แต่ไม่นิยมนำมาใช้มากนักเนื่องจากยางชนิดนี้มีฤทธิ์กัดกร่อนโลหะและยางจะ อ่อนตัว (reversion) เมื่อใช้งานที่อุณหภูมิสูงเป็นเวลานานและมีราคาแพงมาก ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ที่ทำจากยางชนิดนี้ ได้แก่ ซีล ปะเก็น ท่อน้ำมัน ปลอกหุ้มสายเคเบิล ลูกกลิ้งในเครื่องพิมพ์ เป็นต้น [เทคโนโลยียาง] | Arborization, Terminal | การแตกแขนงย่อยแบบกิ่งไม้ [การแพทย์] | Branch Chains | ลูกโซ่กิ่ง, สาชาโซ่ [การแพทย์] | Branched Chains | สายยาวเป็นกิ่งก้าน [การแพทย์] | Branching | แตกแขนง, กิ่งก้านสาขา, เป็นเส้นแตกกิ่ง, ลักษณะเป็นกิ่งก้าน, การแตกแขนงกิ่งก้าน [การแพทย์] | Branching, True | กิ่งก้านสาขา [การแพทย์] | Calculus, Staghorn | นิ่วชนิดมีกิ่ง [การแพทย์] | Cross Bridges | สะพานเชื่อม, กิ่ง [การแพทย์] | Dichotomously | ที่ปลายจะแตกกิ่งเป็น2เสมอ [การแพทย์] | Family, Lineal | ครอบครัวแตกกิ่ง [การแพทย์] | psilotum | ไซโลตัม, หวายทะนอย, พืชพวกหนึ่งที่มีระบบท่อลำเลียงจัดอยู่ในไฟลัมเทอโรไฟตา มีไรซอยด์ทำหน้าที่แทนราก มีกิ่งแตกออกมาเป็นคู่ ๆ และมีใบเป็นเส้นเล็ก ๆ ติดอยู่ตามข้อ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | stipule | หูใบ, ส่วนที่งอกออกมาตรงโคนของก้านใบติดกับกิ่ง มีลักษณะต่าง ๆ กันในพืชแต่ละชนิด [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | tendril | มือเกาะ, อวัยวะที่เปลี่ยนแปลงมาจากใบ หูใบ หรือกิ่งของพืชจำพวกไม้เลี้อยเพื่อเกาะเกี่ยวกับวัตถุใด ๆ ทำให้ลำต้นขึ้นไปในที่สูงได้ เช่น หนวดตำลึง [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | mind map | แผนที่ความคิด, ผังที่แสดงการเชื่อมโยงของความคิดที่หลากหลาย โดยการแตกกิ่งก้านสาขาออกไปเรื่อย ๆ จากหัวข้อหลักและเขียนคำสำคัญ (key word) บนเส้นแต่ละเส้นเพื่อให้เห็นความเชื่อมโยงของแนวคิด มีการใช้สีและภาพวาดเข้ามาเกี่ยวข้องเพื่อช่วยให้สมองจดจำได้ดีขึ้น [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | Henna Leaves | ใบเทียนกิ่ง [การแพทย์] | Lawsonia Inermis | เทียนกิ่ง [การแพทย์] |
| I сhased a рoleсat uр a tree Way out uрon a limb | ฉันไล่พังพอนขึ้นต้นไม้ วิธีการออกบนกิ่งไม้ Snow White and the Seven Dwarfs (1937) | Without brutality. | โดยไม่ต้องโหด ทำความ สะอาดกิ่ง, How I Won the War (1967) | If you're in such a hurry, you could lower a rope or a tree branch, or find something useful to do. | ก็ถ้าเจ้ารีบขนาดนั้น ก็หย่อนเชือก หรือกิ่งไม้ลงมา หรือทำอะไรให้เป็นประโยชน์หน่อยสิ The Princess Bride (1987) | Look like some tree got tangled up. | ยังกะกิ่งไม้หักลงมาเสียบพลั่ว Casualties of War (1989) | From his headquarters in Peking... the Chairman, Mao Tse-tung, was triumphantly proclaimed leader... of the new People's Republic of China. | จากสำนักงานใหญ่ที่ปักกิ่ง ประธานเหมาเจ๋อตุงประกาศชัยชนะ เหนือตำแหน่งผู้นำ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนแห่งใหม่ Seven Years in Tibet (1997) | Houses lose their top floors trees lose their branches | กิ่งไม้หายไป The Legend of 1900 (1998) | Comrade Chan Gong has come from Beijing. | ท่านสหายเฉินกวงเดินทางมาจากปักกิ่ง The Red Violin (1998) | See the way the handle on those pruning shears matches her gardening clogs? | ดูว่าเธอกำลังเล็มกิ่งไม้สิ กรรไกของเธอช่างเหมาะกับเกี๊ยของเธอเสียจริง American Beauty (1999) | To Peking. | ที่ปักกิ่ง Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) | Come with me to Peking. | ไปปักกิ่งกับฉันเถอะ Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) | I can wait for you in Peking. | ฉันจะคอยคุณที่ปักกิ่ง Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) | But Peking is not like the West. | แต่ปักกิ่งไม่เหมือนทางตะวันตก Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) | I didn't think she'd dare come back to Peking! | ฉันไม่คิดว่าหล่อนจะกล้ากลับมาปักกิ่งอีก Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) | Who turned up in Peking. | ที่ไปโผล่ที่ปักกิ่ง Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) | Later, I heard you came to Peking. | แล้วฉันก็ได้ข่าวว่า คุณมาปักกิ่ง Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) | Come back to Peking with me. We'll find a solution. | กลับปักกิ่งกับฉันเถอะ แล้วค่อยหาทางแ้ก้ไข Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) | Sooner or later they'd drag you back to Peking. | ไม่ช้าก็เร็ว พวกเขาจะลากตัวคุณกลับไปปักกิ่ง Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000) | But the truth is that the two of you together... on screen, I mean, have a certain chemistry that the public adores. | แต่พอคุณสองคนอยู่ด้วยกันในจอ มันสมพงษ์กันราวกิ่งทองใบหยก ที่คนดูชอบ Woman on Top (2000) | You went out on a limb. | คุณออกไปบนกิ่งไม้ Showtime (2002) | Looked like a lumberjack chopping down a tree. | เหมือนกิ่งไม้ที่หักจากต้น Signs (2002) | Amman joins Nairobi, Beijing, and Jerusalem as the latest to confirm the appearance of lights. | อัมมาน ไนโรบี ปักกิ่ง เยรูซาเล็ม เป็นสถานที่ล่าสุดที่ยืนยันการปรากฏของแสง Signs (2002) | I went to Beijing where Accor better treatment | ชั้นต้องไปปักกิ่ง มันเป้นสถานที่รักษาที่ดีอ่า Sex Is Zero (2002) | I just cut my hand on a pricker bush. | หนูโดนกิ่งไม้ทิ่มเอาน่ะค่ะ. 11:14 (2003) | Deck the Halls with boughs of holly... fa la la la la la la la | ตกแต่งห้องโถงด้วยกิ่งฮอลลี ตา-ลา-ลา-ลา ผมไปที่เมืองลิตเติลตัน รัฐโคโลราโด The Corporation (2003) | Why, that old tree's never had so much as a blossom on it, let alone a-- | บนกิ่งไม้ ทำไม ต้นไม้แห้งๆที่ยังไม่เคยผลิดอก นับประสากับ... James and the Giant Peach (1996) | This is one stubborn branch. | มานี่สิ เจ้ากิ่งไม้ดื้อด้านเอ๊ย! Howl's Moving Castle (2004) | In research, you've got to go out on a limb. | ในการวิจัย คุณจำเป็นต้องคิดแตกกิ่งก้านออกไปบ้าง Anacondas: The Hunt for the Blood Orchid (2004) | And there's always someone waiting to chop it off. | เพราะจะมีใครบางคน คอยจ้องจะตัดเล็มกิ่งก้านให้คุณอยู่เสมอ Anacondas: The Hunt for the Blood Orchid (2004) | They're definitely a great couple, aren't they? | ทั้งคู่สมกันเหมือนกิ่งทองใบหยก จริงมั๊ย My Little Bride (2004) | - Nice stick. | - กิ่งไม้สวยนะ Tabula Rasa (2004) | Well, what'd you use, a sapling? | แล้วใช้อะไรล่ะ กิ่งไม้เหรอ Walk the Line (2005) | Of course, around the house there, them little farm ponds... you don't need nothing but a cane pole and a float... and maybe some crickets or worms, if you can dig them up. | แน่นอน, รอบๆบ้านนี้ มีบ่อฟาร์มอยู่ ไม่ต้องใช้อะไรแค่กิ่งไม้ แล้วอาจจะเป็นจิ้งหรีดหรือไส้เดือนที่ขุดได้ Walk the Line (2005) | Everything from the lamppost all the way to Castle Cair Paravel on the Eastern Ocean, every stick and stone you see, every icicle is Narnia. | ปราสาทแคร์พาราเวล... จนถึงมหาสมุทรอันกว้างใหญ่แห่งบูรพา ทุกๆ กิ่งของต้นไม้ และก้อนหินทุกก้อนที่เธอเห็น ต่างมีความพิเศษ นาร์เนียคือ... The Chronicles of Narnia: The Lion, the Witch and the Wardrobe (2005) | Together they look like the winners of a genetic lottery. Come on. | สมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก ไปกันเถอะ The Perfect Man (2005) | If a tree has no leaves or branches, can you still call that a tree? | ถ้าต้นไม้ไม่มีใบหรือกิ่งแล้ว คุณยังเรียกมันว่าต้นไม้ได้ไหม? Memoirs of a Geisha (2005) | - Those tendrils look familiar? - Yeah. | - กิ่งก้านเลื้อยเหล่านั้น ดูคุ้นเคยไหม? The Cave (2005) | That's a stick! | มันเป็นกิ่งไม้! Happily N'Ever After (2006) | He's feelin' around. That's a stick. | เขา รู้สึกเหมือนกว่า นั่นเป็นกิ่งไม้ Happily N'Ever After (2006) | Don't listen to him, Vera. You're already thin as a twig. | อย่าไปฟังเขา เวร่า คุณผอมเหมือนกิ่งไม้ Ice Age: The Meltdown (2006) | Its branches are dry, its trunk old and twisted. | กิ่งแห้งเหี่ยว, ลำต้นบิดเป็นเกลียว. Pan's Labyrinth (2006) | The area around Beijing that's home to tens of millions of people. | พื้นที่รอบปักกิ่งซึ่งเป็นบ้านของคนหลายสิบล้าน An Inconvenient Truth (2006) | That means... | ...กิ่งของต้นไม้ต้องรวมกันเป็นคู่? Yeolliji (2006) | I'll always be with you. Don't be so sad. | ฉันจะขยายกิ่งไปหาคุณแล้วก็โอบกอดตัวคุณไว้ Yeolliji (2006) | Base of skull was punctured by a broken tree branch. | บาดแผลที่ท้ายทอยซึ่งโดนกิ่งไม้แทง Chapter Four 'Collision' (2006) | He won't back off till he exposes the twisted branches of my family tree, from my father's indiscretions to my murderous brother to the root of all evil... me. | เขาจะไม่ยอมหยุดจนกว่าจะเผย กิ่งที่บิดเบี้ยวจากครอบครัวผม ตั้งแต่พ่อผู้สะเพร่า จนถึงพี่ชายตัวอันตรายของผม ลงถึงรากของปีศาจทั้งปวง That Night, a Forest Grew (2007) | Her brother lee cho's a low-level bureaucrat from beijing. | ลี โช น้องเธอ ข้าราชการระดับล่างจากปักกิ่ง Chuck Versus the Sizzling Shrimp (2007) | The chinese received a ransom call asking for the release of a triad captain in beijing. | ทางจีนได้รับโทรศัพท์เรียกค่าไถ่... แลกกับการปล่อยตัวหัวหน้าแก๊งในปักกิ่ง Chuck Versus the Sizzling Shrimp (2007) | But your girlis rigid like a twig. | แต่ลูกสาวของคุณเป็นเยือกเย็นเหมือนกิ่งไม้ Bad News Blair (2007) | Would said appendage reattach itself back onto her lizard body? | ส่วนที่ว่านั้นจะต่อกลับไป ที่ร่างของเด็กสาวกิ่งก่านั่นเองได้มั๊ย ? Chapter Three 'Kindred' (2007) | The eagle's holding a scroll instead of olive branches. | ดูนี่ นกอินทรีถือม้วนสาร ไม่ใช่กิ่งโอลีฟ National Treasure: Book of Secrets (2007) |
| จ๊อกกิ้ง | [jǿkking] (n) EN: jogging FR: jogging [ m ] (anglic.) ; course à pied [ f ] | กิ่ง | [king] (n) EN: branch ; offshoot ; twig ; bough ; limb FR: branche [ f ] ; rameau [ m ] | กิ่งอำเภอ | [king amphoē] (n) EN: subdistrict ; sub-district ; minor district FR: sous-district [ m ] ; sous-arrondissement [ m ] | กิ้งก่า | [kingkā] (n) EN: chameleon ; tree lizard FR: caméléon [ m ] | กิ้งก่า | [kingkā] (n, exp) EN: ostentatious person FR: personne prétentieuse | กิ่งก้าน | [kingkān] (n) EN: branch ; twig ; bough ; limb FR: branche [ f ] ; rameau [ m ] | กิ่งก้านสาขา | [kingkānsākhā] (n) EN: branch ; twig ; bough ; limb FR: branche [ f ] ; rameau [ m ] | กิ่งก้านสาขา | [kingkānsākhā] (n) EN: branch ; subdivision ; division FR: division [ f ] | กิ้งกือ | [kingkeū] (n) EN: millipede FR: iule [ m ] ; mille-pattes [ m ] ; myriapode [ m ] | กิ่งก้อย | [kingkøi] (n) EN: little finger FR: petit doigt [ m ] | กิ่งก้อย | [kingkøi] (n) EN: jot ; iota ; bit ; whit ; mite ; scrap FR: brin [ m ] ; iota [ m ] ; bribe [ f ] ; soupçon [ m ] | กิ่งก้อย | [kingkøi] (adj) EN: little ; small ; insignificant ; negligible ; trivial FR: petit ; bénin ; insignifiant ; négligeable | กิ่งไม้ | [kingmāi] (n, exp) EN: branch ; twig ; bough ; limb FR: branche [ f ] ; branchette [ f ] | แมลงกิ่งไม้ | [malaēng kingmāi] (n) FR: phasme [ m ] | นกเอี้ยงและนกกิ้งโครง | [nok īeng lae nok kingkhrōng] (n) EN: Sturnidae | นกกิ้งโครง | [nok kingkhrōng] (n) EN: starling | นกกิ้งโครงหัวสีนวล | [nok kingkhrōng hūa sī nūan] (n, exp) EN: Vinous-breasted Starling FR: Étourneau vineux [ m ] ; Martin de Jerdon [ m ] ; Martin de Birmanie [ m ] ; Étourneau de Birmanie [ m ] | นกกิ้งโครงแก้มขาว | [nok kingkhrōng kaem khāo] (n, exp) EN: White-cheeked Starling FR: Étourneau gris [ m ] ; Martin gris [ m ] | นกกิ้งโครงคอดำ | [nok kingkhrōng khø dam] (n, exp) EN: Black-collared Starling FR: Étourneau à cou noir [ m ] ; Martin à col noir [ m ] | นกกิ้งโครงแกลบหัวเทา | [nok kingkhrōng klaēp hūa thao] (n, exp) EN: Chestnut-tailed Starling FR: Étourneau à tête grise [ m ] ; Martin de Malabar [ m ] ; Martin à tête grise [ m ] | นกกิ้งโครงแกลบแก้มสีน้ำตาลแดง | [nok kingkhrōng klaēp kaem sī namtān daeng] (num) EN: Chestnut-cheeked Starling FR: Étourneau à joues marron [ m ] ; Martin des Philippines [ m ] ; Étourneau des Philippines [ m ] ; Étourneau philippin [ m ] | นกกิ้งโครงแกลบหลังม่วงดำ | [nok kingkhrōng klaēp lang muang dam] (n, exp) EN: Purple-backed Starling FR: Étourneau de Daourie [ m ] ; Martin à dos pourpré [ m ] ; Martin dominicain [ m ] | นกกิ้งโครงแกลบปีกขาว | [nok kingkhrōng klaēp pīk khāo] (n, exp) EN: White-shouldered starling FR: Étourneau mandarin [ m ] ; Martin de Chine [ m ] ; Martin d’orient [ m ] | นกกิ้งโครงปากแดง | [nok kingkhrōng pāk daēng] (n, exp) EN: Red-billed Starling FR: Étourneau soyeux [ m ] ; Martin à bec rouge [ m ] | นกกิ้งโครงพันธุ์ยุโรป | [nok kingkhrōng phan Yurōp] (n, exp) EN: Common Starling FR: Étourneau sansonnet [ m ] ; Sansonnet [ m ] | นกกิ้งโครงปีกลายจุด | [nok kingkhrōng pīk lāi jut] (n, exp) EN: Spot-winged Starling FR: Étourneau à ailes tachetées [ m ] ; Étourneau tacheté [ m ] ; Étourneau à gorge rousse [ m ] | นกกิ้งโครงสีกุหลาบ | [nok kingkhrōng sī kulāp] (n, exp) EN: Rosy Starling FR: Étourneau roselin [ m ] ; Martin roselin [ m ] ; Martin rose [ m ] ; Merle rose [ m ] | ปักกิ่ง | [Pakking] (n, prop) EN: Beijing FR: Pékin [ m ] | ตัดกิ่งก้าน | [tat kingkān] (v, exp) FR: ébrancher | เทียนกิ่ง | [thīenking] (n) EN: Henna tree ; Mignonotte tree | ติดตาต่อกิ่ง | [tittā tøking] (n) EN: budding ; bud grafting | ตอนกิ่ง | [tøn king] (v, exp) FR: marcotter | เหยี่ยวกิ้งก่า | [yīo kingkā] (n) EN: baza | เหยี่ยวกิ้งก่าสีดำ | [yīo kingkā sī dam] (n, exp) EN: Black Baza FR: Baza huppard [ m ] ; Baza noir [ m ] | เหยี่ยวกิ้งก่าสีน้ำตาล | [yīo kingkā sī nāmtān] (n, exp) EN: Jerdon's Baza FR: Baza de Jerdon [ m ] | ยอดของกิ่ง | [yøt khøng king] (n, exp) EN: tip of a branch FR: extrémité d'une branche [ f ] |
| axil | (n) (ชีวะ)มุมด้านบนที่กิ่งไม้ทำมุมกับลำต้น, See also: axilla |
| Beijing | (n) ปักกิ่ง, Syn. Peking | bough | (n) กิ่งต้นไม้ขนาดใหญ่ | bough | (n) กิ่ง, See also: กิ่งก้าน, กิ่งไม้, กิ่งก้านสาขา, Syn. limb | branch | (vi) แตกแขนง, See also: แตกกิ่ง, Syn. spread | branch | (n) กิ่งก้านสาขา, See also: แขน, ที่เท้าแขน | brushwood | (n) กิ่งไม้หักหรือตายแห้ง | branch out | (phrv) แตกกิ่ง (ต้นไม้) | bush out | (phrv) (ต้นไม้) แผ่กิ่งก้านสาขา, See also: ต้นไม้แผ่ขยาย | cutting | (n) กิ่งตอน | engraft into | (phrv) ทาบกิ่งต้นไม้เข้ากับ, Syn. graft into | engraft onto | (phrv) ทาบกิ่งต้นไม้เข้ากับ, Syn. graft into | engraft upon | (phrv) ทาบกิ่งต้นไม้เข้ากับ, Syn. graft into | daub | (n) โคลนหรือดินเหนียวและกิ่งไม้ที่ใช้ก่อผนัง (ทางก่อสร้าง) | engraft | (vt) ทาบกิ่ง, See also: ต่อกิ่ง, Syn. graft | fork | (vi) แยกออกเป็นกิ่งก้านสาขา, Syn. bifurcate, branch, divaricate | graft in | (phrv) ทาบกิ่งเข้ากับ, See also: ต่อกิ่งเข้ากับ, Syn. graft on | graft on | (phrv) ทาบกิ่งเข้ากับ, See also: ต่อกิ่งเข้ากับ, Syn. graft in | graft upon | (phrv) ทาบกิ่งเข้ากับ, See also: ต่อกิ่งเข้ากับ, Syn. engraft into | ingraft into | (phrv) ทาบกิ่ง (ต้นไม้) กับ, Syn. engraft into | ingraft onto | (phrv) ทาบกิ่ง (ต้นไม้) กับ, Syn. engraft into | ingraft upon | (phrv) ทาบกิ่ง (ต้นไม้) กับ, Syn. engraft into | graft | (vt) ต่อตาต้นไม้, See also: ติดตาต้นไม้, ทาบกิ่ง, ตอนกิ่ง, Syn. engraft | layer | (n) กิ่งตอน | layer | (vt) ขยายพันธุ์โดยการตอนกิ่ง, Syn. propagate | leg | (n) สาขา, See also: กิ่งก้าน, แขนง, Syn. branch, fork | limb | (n) กิ่ง, See also: ก้าน, แขนง, Syn. branch | lop | (vt) ตัด (กิ่งไม้), See also: ลิด, เล็ม, Syn. cut | lop | (vi) ตัด (กิ่งไม้), See also: ลิด, เล็ม, Syn. cut, trim, chop | offshoot | (n) กิ่งก้าน (ที่แยกจากลำต้น), Syn. branch | Peking | (n) ปักกิ่ง (ชื่อเดิมของ Beijing), Syn. Beijing | Peking | (n) กรุงปักกิ่ง (ชื่อเดิมของ Beijing), See also: เมืองปักกิ่ง, Syn. Beijing | Peking Man | (n) โครงกระดูกมนุษย์ปักกิ่งในยุคดึกดำบรรพ์, See also: มีชีวิตอยู่ในช่วง 400, 000 ถึง 500, 000 ปีมาแล้ว, Syn. Pithecanthropus, Australopithecus | Pekingese | (n) สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง, Syn. Pekinese | Pekingese | (n) ชาวปักกิ่ง, Syn. Pekinese | Pekingese | (adj) เกี่ยวกับปักกิ่ง, Syn. Pekinese | prune away | (phrv) ตัด, See also: เล็ม ต้นไม้, กิ่งต้นไม้ | ramify | (vi) แตกกิ่งก้านสาขา, See also: ขยายสาขา, Syn. branch | reindeer | (n) กวางขนาดใหญ่แถบขั้วโลกเหนือ, See also: มีเขาเป็นกิ่งแขนงทั้งตัวผู้และตัวเมีย, Syn. caribou | scion | (n) กิ่งตอน (พืช), Syn. bud, implant, shoot, splice, sprout | spray | (n) กิ่งไม้เล็กๆ ที่มีดอกหรือผล, Syn. branch, sprig | sprig | (n) กิ่งไม้เล็กๆ, See also: ช่อดอกไม้, Syn. branch, twig, stem | sprig | (vt) ประดับด้วยกิ่งไม้เล็กๆ | spur | (n) กิ่งไม้สั้นๆ, Syn. branch, shoot | tendril | (n) ยอดไม้เลื้อย, See also: กิ่งก้านเลื้อย, Syn. fiber, filament | trimmings | (n) กิ่งไม้ที่ถูกเล็ม | twig | (n) กิ่งไม้ | twig | (n) แขนง, See also: ก้าน, กิ่ง | with | (n) กิ่งไม้ที่เหนียวที่สามารถนำมาผูก มัด หรือพันได้, Syn. withy | with | (vt) ผูก มัด หรือพันด้วยกิ่งไม้ที่เหนียว |
| antler | (แอนทฺ' เลอะ) n. กิ่งเขากวาง. -antlered adj. | axil | (แอค' ซิล) n. มุมระหว่างใบกับกิ่ง, รักแร้ | beamy | (บี'มี) adj. เปล่งแสง, เป็นคานที่กว้างใหญ่, มีเขาเป็นกิ่งก้าน, See also: beaminess n. ดูbeamy | bicameral | (ไบแคม'เมอรัล) adj. มี 2 กิ่งก้าน, มีสองห้อง, มีสองบ้าน, See also: bicameralism n. ดูbicameral bicamerist n. ดูbicameral | binary tree | ต้นไม้แบบทวิภาคโครงสร้างข้อมูล ที่แต่ละจุดต่อ (node) มีกิ่งยื่นออกไปได้ไม่เกินสองกิ่ง | bough | (เบา) n. กิ่งไม้ -Conf. branch | branch | (เบรานชฺ) { branched, branching, branches } n. กิ่งก้าน, กิ่ง, สาขา, แขนง, วิชาย่อย, ทางแยก, สายย่อย, แคว vt. แตกกิ่งก้านสาขา, , Syn. bough แยกแตกกิ่ง1. หมายถึง การแยกตัวออกไปจากโปรแกรมที่ทำอยู่ ไปทำโปรแกรมอีกอันหนึ่ง เช่น แยกออกจากโปรแกรมหลัก main program ไปทำงานที่โปรแกรมย่อย subprogram ตามคำสั่ง Go to2. ความหมายที่ใช้กับ "ต้นไม้" tree มีความหมายถึงการแตกกิ่งก้านสาขา เช่นในการแสดงแฟ้มข้อมูลในโปรแกรม Windows Explorer ของ Windows 95 | brash | (แบรช) adj. สะเพร่า, หุนหันพลันแล่น, ไม่ไตร่ตรอง, ทะลึ่ง, ก๋ากั่น, เปราะ (ไม้) -n. กองกิ่งไม้, กองขยะ, กองหิน, See also: brashness n. ดูbrash, Syn. impetuous, Ant. cautious | bronchia | (บรอง'เคีย) n. กิ่งก้านของหลอดลมใหญ่ | bronchiole | n. กิ่งก้านของหลอดลมใหญ่., See also: bronchiolar adj. ดูbronchiole | browse | (เบราซ) { browsed, browsing, browses } v. กินหญ้า, กิน, แทะ, เลี้ยงตามทุ่งหญ้า, มองเผิน, อ่านอย่างเผิน. n. หน่อไม้หรือกิ่งไม้สำหรับเป็นอาหารวัว, Syn. skim | brushwood | n. กิ่งไม้ที่ถูกตัดออก, พุ่มไม้หนา, ป่าละเมาะ | candelabrum | (แคนดะลา'บรัม) n. เชิงเทียนหลายกิ่ง | chandelier | (ชานดะเลียร์') n. โคมระย้า, โคมกิ่ง | chimera | (คิเม'ระ) n. สัตว์ประหลาดน่ากลัว, ความเพ้อผัน, พันธุ์ต่อกิ่งผสม, Syn. chimaera | cion | (ไซ'อัน) n. หน่อ, กิ่งตอน, กิ่งก้าน | clad- | Pref. "กิ่งก้าน", "สาขา" | clado- | Pref. "กิ่งก้าน", "สาขา" | compound leaf | n. ใบร่วมหลายใบจากกิ่งเดียวกัน | dendrite | n. กิ่งก้านของเซลล์ประสาท, ลายกิ่งไม้ที่ปรากฎอยู่ในหินแร่ | derivative | (ดีริฟ'วะทิฟว) adj., n. (สิ่งที่, คำ) ซึ่งได้มาจากที่อื่น, เป็นอนุพันธุ์, ซึ่งแตกกิ่งสาขามา, ไม่ใช่ต้นฉบับ, อนุพันธุ์, Syn. derived | dissect | (ดิสเซคทฺ') vt. ชำแหละเพื่อศึกษา, ผ่า (ศพ, เนื้อเยื่อ) เพื่อศึกษา, ตัดกิ่ง ต้นดอกเพื่อศึกษา, จำแนก, วิเคราะห์., See also: dissecter n. ดูdissect dissector n. ดูdissect, Syn. cut apart, analye, anatomize | divide | (ดิไวดฺ') { divided, dividing, divides } vt., vi. แบ่ง, แบ่งแยก, แตกกิ่งก้านสาขา, หาร n. ทางแยก, การแบ่งสรรปันส่วน, เส้นแบ่งเขต, ภาวะวิกฤติ, Syn. separate, part | fork | (ฟอร์ค) n. ซ่อม, ง่าม, เหล็กง่าม, คราด, กิ่งก้านสาขา, ทางแยก vt. ทำให้แยกออก, เพิ่มเสียงให้สูงขึ้น. vi. แยกออกเป็นกิ่งก้านสาขา., See also: forkless adj. -Phr. tuning fork เครื่องมือโลหะสามง่ามเมื่อเคาะแล้วจะให้เสียงดนตรีออกมา | forked | (ฟอร์คดฺ) adj. เป็นง่าม, เป็นกิ่งก้าน, คดเคี้ยว, ไม่จริงใจ, คลุมเครือ, กำกวม., See also: forkedness n. | furcate | (เฟอ'เคท) adj. เป็นง่าม, เป็นกิ่งก้านสาขา.vi. กลายเป็นง่าม, แบ่งออกเป็นกิ่งก้านสา-ขา., See also: furcation n., Syn. forked, branching | gila monster | กิ่งก่าพิษขนาดใหญ่ | graft | (กราฟทฺ) n. กิ่งตอน, ทาบกิ่ง, พืชหรือส่วนของเนื้อเยื่อที่ตอนต่อกิ่งหรือปลูกถ่าย , การกินสินบน vt., vi. ตอนกิ่ง, ทาบกิ่ง, ปลูกถ่าย, ตอนต่อ, ย้ายปะ, ย้ายเพาะ, รับสินบน, See also: grafter n. | graftage | (กราฟ'ทิจ) n. การตอนหรือทาบกิ่ง, การย้ายปะหรือปลูกถ่ายเนื้อเยื่อ | green | (กรีน) adj. สีเขียว, เขียวชอุ่ม, ประกอบด้วยผัก, ยังไม่สุก, ยังไม่โตเต็มที่, อ่อนหัด, ไร้ประสบการณ์, ใหม่, สด, เร็ว ๆ นี้, ขีด, ซึ่งถูกฆ่าใหม่ ๆ , ไม่ติดไฟ. n. สีเขียว, วัตถุสีเขียว, ทุ่งหญ้าสีเขียว, ใบไม้สด ๆ , กิ่งไม้และใบไม้ที่ใช้เป็นอาหาร., Syn. li | kinkajou | (คิง'คะจู) n. สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชอบขึ้นต้นไม้หางของมันใช้จับกิ่งไม้ได้เหมือนลิง | limb | (ลิมบฺ) n. แขน, ขา, ปีก, กิ่ง, ก้าน, แขนง, ส่วนยื่น, สมาชิก., See also: limbed adj. | offshoot | (ออฟ'ชูท) n. กิ่งก้าน, สาขา, แขนงหน่อ, เชื้อสายที่ห่างออกไป, ผลปลีกย่อย, ควันหลง | olive branch | n. กิ่งก้านของต้นโอลิฟว์ที่เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ | outgrow | (เอาทฺ'โกร) vt. เจริญเติบโตเร็วกว่า, โตพ้น. vi. โตเกิน, โตพ้น, ปะทุ, โผล่, แตกกิ่งก้านสาขา, งอก | outgrowth | (เอาทฺ'โกรธ) n. การเจริญเติบโต, การแตกกิ่งก้านสาขา, ผลเพิ่มเติม, ผลพลอยได้, เนื้องอก, ปุ่ม, ตุ่ม, กิ่งก้าน, สาขา, ส่วนงอก | passerine | adj. ที่สมารถเกาะกิ่งไม่ได้ n. นกดังกล่าว | peking | (พี'คิง) n. ปักกิ่ง., Syn. Pei-ching, Peiping, Beijing | pekingese | (พิคิงอีซ', -อีส, นีซ) n. สุนัขพันธ์ปักกิ่ง, ภาษาปักกิ่ง, ชาวปักกิ่ง. adj. เกี่ยวกับปักกิ่ง, Syn. Pekinese | prune | (พรูน) n. ลูกพลัมแห้ง, คนเง่า vt. ตัดกิ่ง, เล็มกิ่ง, สะสาง, ชำระ, ตัดลง, ตัดทอน, ขจัด, เอาทิ้งไป. vt. =preen (ดู), See also: prunable adj. | pruner | (พรูน'เนอะ) n. มีดตัดเล็มกิ่งไม้, ผู้ตัดเล็มกิ่งไม้ | pruning shears | n. กรรไกรตัดเล็มกิ่งไม้ | ramification | (แรมมิฟิเค'เชิน) n. การแตกกิ่งก้านสาขา, กิ่งก้าน, สาขา, ลักษณะหรือปัญหาที่เกี่ยวข้อง, Syn. offshoot, branch, result | ramify | (แรม'มะไฟ) vt., vi. แตกกิ่งก้านสาขา, แตกสาขา, ขยายสาขา, Syn. divide | salamander | (แซล'ละแมนเดอะ) n. สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำคล้ายกิ่งก่าชนิดหนึ่ง, See also: salamandrine adj. | sauna | (เซา'นา, ซอ'นา) n. การอาบ, อบไอน้ำและตีร่างกายเบา ๆ ด้วยกิ่งไม้ birch (มีกำเนิดจากฟินแลนด์) | scion | (ไซ'เอิน) n. ทายาท, เด็ก, หน่อ, กิ่งอ่อน (โดยเฉพาะสำหรับต่อกิ่ง), Syn. descendant | shaft | (ชาฟทฺ, แชฟทฺ) n. ด้าม, คัน, คาน, เพลา, คันศร, ด้ามหอก, ด้ามค้อน, ด้ามหลาว, คานรถ, ก้าน, กิ่ง, ที่ตั้งเทียน, ด้ามธง, ลำ, แกน, แสง, ปล่อง, เพลารถ, ก้านพืช, ก้านของขน, สิ่งที่เป็นลำ, ลำต้น, การกระทำที่ไม่ยุต'ธรรม, ช่องลิฟต์, น่อง, ขาอ่อน vt. ถ่อด้วยคานไม้, ดันด้วยไม้ยาว, กระทำอย่างไม่ | sloth | (สลอธ) n. ความขี้เกียจ, ความเกียจคร้าน, ความเฉื่อยชา, สัตว์เฉื่อยชา มีขนยาวและมีอุ้งเท้ายาวเหมือนตะขอสำหรับจับกิ่งไม้, ฝูงหมี, Syn. indolence, laziness, lethargy | sprig | (สพริก) n. กิ่งไม้เล็ก ๆ , ช่อเล็ก, ลูกหลาน, คนหนุ่ม, เด็กหนุ่ม, ทายาท, ตะปูไม่มีหัว, หมุดติดกระจก. vt. ประดับด้วยกิ่งไม้เล็ก ๆ , ตัดกิ่งไม้เล็ก ๆ, Syn. shoot, sprout, branch |
| bough | (n) คาคบไม้, กิ่งไม้ | branch | (n) กิ่งไม้, สาขา, แขนง, แถว, ปลีกย่อย, แผนก, ทางแยก, วิชาย่อย | branch | (vi, vt) แบ่ง, แยกเป็นสาขา, แผ่กิ่งก้าน, แตกแขนง | candelabrum | (n) โคมระย้า, โคมกิ่ง, โคมแขวน | chandelier | (n) โคมระย้า, โคมแขวน, โคมกิ่ง, โคมช่อ | derivative | (adj) ซึ่งได้รับมา, ซึ่งแตกออกมา, ซึ่งแตกกิ่งก้านสาขามา | engraft | (vt) ผสมกัน, ต่อ, นำมาปะ, ตอน, ทาบกิ่ง | fork | (n) ส้อม, เหล็กง่าม, คราด, ทางแยก, กิ่งก้านสาขา, แคว | forked | (adj) เป็นง่าม, มีส้อม, คดเคี้ยว, เป็นกิ่งก้าน | graft | (n) กิ่งตอน, การติดสินบน, การรับสินบน, การฉ้อราษฎร์บังหลวง | graft | (vt) ตอนกิ่ง, ทาบกิ่ง, ติดสินบน, ฉ้อราฎร์บังหลวง, รับสินบน, กินสินบน | ingraft | (vt) ผสมพันธุ์, ทาบกิ่ง, ฝังแน่น, สอดใส่ | layer | (n) ผู้จัด, ชั้น, กิ่งตอน, ระดับ, ชั้นดิน | limb | (n) กิ่งไม้, กิ่งก้าน, แขนง, แขนขา, ปีก | lop | (vt) ตัดออก, ตัดกิ่ง, ลิดกิ่ง | offshoot | (n) หน่อ, แขนง, สาขา, กิ่งก้าน, ผลปลีกย่อย, ควันหลง | outgrowth | (n) การเติบโต, เนื้องอก, ปุ่ม, กิ่งก้านสาขา, ผลพลอยได้ | pendant | (n) จี้, โคมระย้า, โคมกิ่ง, ตุ้มหู, กระเช้า, ธงสามเหลี่ยม | ramification | (n) การแตกกิ่งก้าน, การแยกสาขา, การขยายสาขา | ramify | (vi, vt) ขยาย, แยกสาขา, แตกสาขา, แตกกิ่งก้าน | rod | (n) ไม้เรียว, ท่อน, ไม้วัด, กิ่งไม้, คันเบ็ด, ไม้พลอง, คทา | scion | (n) กิ่งตอน, หน่อต้นไม้, กิ่งอ่อน, ทายาท | sprawl | (vi, vt) แผ่บริเวณ, แผ่กิ่งก้านสาขา, นอนเหยียด | sprig | (n) กิ่งไม้, กิ่งก้าน, ช่อ, หน่อ, ทายาท, ลูกหลาน, เด็กหนุ่ม | sprout | (vi, vt) แตกกิ่งก้าน, งอก, โผล่, ออกดอก, แตกหน่อ | spur | (n) เดือยไก่, เดือยรองเท้า, ประตัก, กิ่งไม้, สิ่งปลูกสร้าง | stem | (n) กิ่ง, ลำต้น, ก้าน, พงศ์พันธุ์, รากคำ, หัวเรือ | stick | (n) ฟืน, ไม้เท้า, ไม้เรียว, ก้าน, กิ่งไม้, แท่ง, เสา | stipel | (n) ใบเลี้ยง, กิ่งอ่อน | tentacle | (n) สิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึก, หนวดสัตว์, กิ่งก้านสาขา | twig | (n) กิ่งไม้, ก้าน, เส้นประสาท, หลอดเลือด | withe | (n) กิ่งหวาย, กิ่งหลิว |
| | 枝 | [えだ, eda] (n) กิ่ง, ก้าน |
| ペキン | [ぺきん, pekin, pekin , pekin] (n) ปักกิ่ง |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |