อาศัย | (n) habitat, See also: natural environment, Syn. ที่พัก, ที่อยู่, Example: ป่าไม้เป็นแหล่งพักอาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด, Notes: (สันสกฤต) |
อาศัย | (v) use, See also: employ, Syn. พึ่ง, Example: ขบวนรถไฟต้องอาศัยรถจักรทำหน้าที่ฉุดลากรถคันอื่นๆ ที่พ่วงอยู่ให้เคลื่อนที่ไปขบวน, Notes: (สันสกฤต) |
อาศัย | (v) settle, See also: reside, dwell, Syn. พักพิง, อยู่, พักอาศัย, Example: ชาวพื้นเมืองพวกอบอริจินได้อพยพเข้ามาอาศัยในออสเตรเลียเป็นเวลานับหมื่นๆปีตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์, Notes: (สันสกฤต) |
อาศัย | (v) apply, Syn. อ้างถึง, Example: บาลอาศัยรัฐธรรมนูญมาตรา 89 จัดตั้งสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ, Notes: (สันสกฤต) |
พักอาศัย | (v) stay, See also: live, reside, Syn. พัก, อาศัย, อยู่อาศัย, อาศัยอยู่, Example: ภารโรงพักอาศัยอยู่ภายในบริเวณโรงเรียนเพื่อดูแลทรัพย์สินของทางราชการ, Thai Definition: พักพิงอยู่ที่ตรงนั้น |
พืชอาศัย | (n) epiphyte, Syn. กาฝาก, Count Unit: ต้น, ชนิด, Thai Definition: พืชที่อาศัยเกาะดูดน้ำและแร่ธาตุ หรือสารอาหารที่สังเคราะห์แล้วจากพรรณไม้อื่น ซึ่งอาจทำให้พืชนั้นเสียหายหรือตายได้ |
อยู่อาศัย | (v) live, See also: settle, inhabit, Syn. พักอาศัย, อาศัย, Example: รัฐบาลจัดที่ดินป่าสงวนที่เสื่อมโทรมให้ราษฎรได้เข้าอยู่อาศัยในรูปหมู่บ้านป่าไม้เพื่อให้มีที่ทำกินและได้แรงงานปลูกป่าขึ้น |
พึ่งพาอาศัย | (v) depend on, See also: rely on, lean on, count on, Syn. พึ่งพากัน, Example: ประเทศอุตสาหกรรมที่พัฒนาแล้วนั้นต้องพึ่งพาอาศัยทรัพยากรจากประเทศอื่นๆ ด้วย, Thai Definition: ช่วยซึ่งกันและกัน, เป็นที่พึ่งให้กัน |
การอยู่อาศัย | (n) dwelling, See also: residence, Syn. การพำนัก, การอาศัย, การพักอาศัย, Example: การอยู่อาศัยของผู้สูงอายุภายหลังเกษียณอายุ ควรได้รับความสะดวกสบายและได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ |
บ้านพักอาศัย | (n) residence, See also: domicile, habitation, home, house, Syn. บ้าน, ที่อยู่อาศัย, ที่พัก, Example: เขาไม่มีบ้านพักอาศัย ต้องอาศัยสวนสาธารณะเป็นที่พักพิง |
ผู้อยู่อาศัย | (n) occupant, See also: tenant, resident, dweller, lessee, occupier, Syn. ผู้อาศัย, Example: สมาร์ตเฮาส์เป็นบ้านที่มีระบบอัจฉริยะ ที่ช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยได้หลายด้าน อาทิ การควบคุมอุณหภูมิภายในห้องให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม |
อาศัยไหว้วาน | (v) ask for, See also: beg, Syn. ไหว้วาน, Example: เมื่อเป็นเพื่อนเป็นมิตรกันแล้ว จะอาศัยไหว้วานอะไร มันก็สะดวกขึ้น, Thai Definition: ขอร้องให้ช่วยเหลือ |
โดยอาศัยอำนาจ | (adv) by virtue of, Example: ข้อบังคับดังกล่าวเป็นข้อบังคับที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย |
ถ้อยทีถ้อยอาศัย | (v) mutually depend on each other, Syn. ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน, พึ่งพาอาศัยกัน, Example: ทั้งคู่ต่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ทำคะแนนตีคู่กันมาตลอดจนวินาทีสุดท้าย, Thai Definition: ต่างฝ่ายต่างพึ่งพาอาศัยกัน |
การพึ่งพาอาศัยกัน | (n) dependence, See also: reliance, being based on, complementing, Example: การพึ่งพาอาศัยกันเป็นนิสัยของคนไทย |
คู่อาศัย | น. คู่ผัวเมียที่ไม่ใช่คู่สร้างกัน จะอยู่ด้วยกันชั่วคราวแล้วเลิกร้างกันไป. |
ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน | ว. ต่างฝ่ายต่างพึ่งพาอาศัยกัน. |
พออาศัย | ว. พออยู่ได้, พอไปได้. |
สิทธิอาศัย | น. ทรัพยสิทธิอย่างหนึ่งที่เจ้าของโรงเรือนให้บุคคลอื่น เรียกว่า ผู้อาศัย อยู่ในโรงเรือนของตนได้โดยไม่ต้องเสียค่าเช่า. |
สืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ | ก. สืบพันธุ์โดยไม่ต้องมีการรวมตัวของเซลล์สืบพันธุ์ เช่น การแบ่งตัวของแบคทีเรีย. |
สืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ | ก. สืบพันธุ์โดยการผสมของเซลล์สืบพันธุ์ เช่น การผสมของเชื้ออสุจิกับไข่ของเพศหญิง. |
อาศัย | ก. พักพิง, พักผ่อน |
อาศัย | พึ่ง |
อาศัย | อ้างถึง เช่น อาศัยความตามมาตราที่ … (ส.). |
อาศัยที่, อาศัยว่า | สัน. เนื่องจาก, โดยเหตุที่. |
อาศัยลำแข้งตัวเอง | ก. ช่วยตัวเอง, พึ่งลำแข้งตัวเอง ก็ว่า. |
กฎกระทรวง | น. ข้อกำหนดที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงออกโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายที่ให้ออกกฎกระทรวง, เดิมเรียกว่า กฎเสนาบดี ถ้าเป็นข้อกำหนดที่นายกรัฐมนตรีออก เรียกว่า กฎสำนักนายกรัฐมนตรี. |
กฎทบวง | น. ข้อกำหนดที่รัฐมนตรีว่าการทบวงออกโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายที่ให้ออกกฎทบวง. |
กบ ๒ | น. ชื่อสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบกหลายชนิด ในสกุล <i> Rana</i> วงศ์ Ranidae ลำตัวสั้นป้อมมีขนาดต่าง ๆ กัน ขาคู่หลังใหญ่และยาวกว่าขาคู่หน้า ตีนแบนมีพังผืดติดเป็นพืด เมื่อโตเต็มที่ไม่มีหาง กระโดดได้ไกล ว่ายน้ำ ดำน้ำได้เร็ว เมื่อยังเป็นตัวอ่อนมีหาง อยู่ในน้ำเรียกว่า ลูกอ๊อด ภายหลังจึงงอกขา หางหดหายไป แล้วขึ้นอาศัยบนบก หน้าแล้งอยู่แต่ในรู ไม่ออกหาอาหารชั่วคราว เรียกว่า กบจำศีล เช่น กบนา [ <i> Hoplobatrachus rugulosus</i> (Wiegmann) หรือ <i> R. rugulosus</i> (Wiegmann) ]. |
กบทูด | น. ชื่อกบภูเขาขนาดใหญ่ที่สุดชนิด <i> Rana blythii</i> Boulenger ในวงศ์ Ranidae ปากค่อนข้างแหลมเมื่อเทียบกับชนิดอื่น กระดูกขากรรไกรบนยาวแหลมออกมาคล้ายเขี้ยว ขนาดลำตัวอาจยาวถึง ๓๐ เซนติเมตร อาศัยในป่าดงดิบชื้นตามลำธารบนภูเขา, พายัพเรียก เขียดแลว. |
กบบัว | น. ชื่อกบขนาดเล็กชนิด <i> Rana erythraea</i> (Schlegel) ในวงศ์ Ranidae ตัวสีเขียวมีแถบสีขาวพาดตามยาวลำตัว อาศัยอยู่ตามกอบัว จึงมีผู้เรียกว่า เขียดบัว และร้องเสียง “จิ๊ก ๆ ” บางครั้งจึงเรียกว่า เขียดจิก. |
กระจอก ๑ | น. ชื่อนกขนาดเล็ก วงศ์ย่อย Passerinae ในวงศ์ Passeridae ปากหนารูปกรวย ขนตัวลาย ปลายหางเว้าตื้น มี ๔ ชนิด ชนิดที่มีชุกชุมอาศัยตามชายคาบ้านเรือน คือ กระจอกบ้าน [ <i> Passer</i><i> montanus</i> (Linn.) ] และกระจอกใหญ่ [ <i> P. domesticus</i> (Linn.) ] อีก ๒ ชนิดอาศัยอยู่ตามป่า คือ กระจอกตาล (<i> P. flaveolus</i>Blyth) และกระจอกป่าท้องเหลือง[ <i> P. rutilans</i> (Temminck) ]. |
กระจับ ๑ | น. ชื่อไม้นํ้าหลายชนิดในสกุล <i> Trapa</i> วงศ์ Trapaceae ขึ้นลอยอยู่ในนํ้าโดยอาศัยก้านใบเป็นทุ่น ฝักแก่สีดำแข็ง มี ๒ เขา คล้ายเขาควาย เนื้อในขาว รสหวานมัน |
กระเจี้ยง | น. ชื่อกล้วยไม้อิงอาศัยชนิด <i> Epigeneium amplum</i> (Lindl.) Summerh. ในวงศ์ Orchidaceae ดอกใหญ่ ทั้งกลีบนอกและกลีบในสีเหลืองประแดง, เอื้องศรีเที่ยง ก็เรียก. |
กระชอน ๒ | น. ชื่อแมลงหลายชนิด ในวงศ์ Gryllotalpidae ลำตัวสีน้ำตาล ยาวประมาณ ๓ เซนติเมตร ปีกสั้น บินได้ในระยะใกล้ ขาคู่หน้าสั้นป้อมและแบนทางข้าง คล้ายอุ้งมือ ปลายมีหนามแข็งใช้ขุดดิน อาศัยอยู่ในดิน กินรากพืชและแมลงเล็ก ๆ ที่พบบ่อย เช่น ชนิด <i> Gryllotalpa orientalis</i> Burmeister. |
กระเช้าผีมด | ชื่อไม้พุ่มอิงอาศัยชนิด <i> Hydnophytum</i><i> formicarum</i> Jack ในวงศ์ Rubiaceae ชอบเกาะไม้ต้นในป่าดิบชื้นใกล้ฝั่งทะเล ลำต้นทรงกลมอวบนํ้า มีรูพรุนภายในเป็นที่อาศัยของมด ส่วนที่เป็นรูพรุนใช้ทำยาได้, หัวร้อยรู ก็เรียก. |
กระซู่ | น. ชื่อแรดชนิด <i> Dicerorhinus sumatrensis</i> (Fischer) ในวงศ์ Rhinocerotidae เป็นแรดขนาดเล็กที่สุด มี ๒ นอ ขนดกกว่าแรดชนิดอื่น อาศัยอยู่ในแถบเอเชีย เป็นสัตว์ป่าสงวนของไทย. |
กระด้าง ๒ | น. ชื่องูนํ้าขนาดเล็กชนิด <i> Erpeton</i><i> tentaculatum</i> Lacepède ในวงศ์ Colubridae ลำตัวสีนํ้าตาลหรือดำ มีเส้นหุ้มด้วยเกล็ดเล็ก ๆ ๒ เส้นคล้ายหนวด อาศัยตามแหล่งนํ้าจืดทั่วไป มีพิษอ่อนมาก ปรกติมีนิสัยทำตัวแข็งทื่อ จึงเรียกว่า งูกระด้าง. |
กระดาน ๒ | น. ชื่อกุ้งทะเลชนิด <i> Thenus orientalis</i> (Lund) ในวงศ์ Scyllaridae ขนาดยาวได้ถึง ๒๕ เซนติเมตร หัวและลำตัวหุ้มด้วยเปลือกแข็งสีนํ้าตาล ส่วนหัวและหนวดคู่ที่ ๒ แบน แพนหางแผ่ราบได้กว้าง งอพับเข้าใต้ท้องเมื่อดีดตัวถอยหลังหนีศัตรู อาศัยคืบคลานอยู่ตามพื้นทะเล พบทั่วไป มักเรียกกันว่า กั้งกระดาน. |
กระโดดร่ม | ก. กระโดดออกจากอากาศยานในขณะอยู่ในอากาศเพื่อลงสู่พื้นดินโดยอาศัยร่มชูชีพ, โดดร่ม ก็ว่า. |
กระต่าย ๑ | น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในวงศ์ Leporidae หูและขนยาว ในประเทศไทยมีเพียงชนิดเดียวที่อาศัยอยู่ในป่า คือ กระต่ายป่า ชนิด <i> Lepus peguensis</i> Blyth ขนสีนํ้าตาล ใต้หางสีขาว อาศัยอยู่ในโพรงดินเหมือนกระต่ายต่างประเทศ ที่นำมาเลี้ยงตามบ้านซึ่งมีหลายชนิดและหลายสี เช่น ชนิด <i> Oryctolagus</i><i> cuniculus</i> (Linn). |
กระแตไต่ไม้ ๒ | น. ชื่อเฟินอิงอาศัยชนิด <i> Drynaria quercifolia</i> (L.) J. Sm. ในวงศ์ Polypodiaceae ขึ้นเกาะตามต้นไม้ใหญ่ในป่าที่ชุ่มชื้น เหง้ามีขนเป็นปุยสีนํ้าตาลแก่คล้ายกระแต ใบมี ๒ ชนิด คือ ใบสร้างอับสปอร์ ยาวประมาณ ๑ เมตร เว้าเป็นแฉกลึกเกือบถึงเส้นกลางใบ และมีอับสปอร์เป็นจุด ๆ สีนํ้าตาลเข้มใต้ใบ ใบไม่สร้างอับสปอร์ ขนาดประมาณฝ่ามือ ขอบจักหยาบ ๆ สีนํ้าตาล แข็งติดอยู่กับเหง้าจนผุ ไม่หล่นเหมือนใบสร้างอับสปอร์ ทำหน้าที่กักปุ๋ย, กระปรอกว่าว ใบหูช้าง สไบนาง สะโมง หรือ หัวว่าว ก็เรียก. |
กระถิก, กระถึก | น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ในวงศ์ Sciuridae เป็นกระรอกขนาดเล็ก ขนสีนํ้าตาล มีแถบสีน้ำตาลเข้ม ๓ แถบพาดตามยาวลำตัว สลับกับแถบสีน้ำตาลจาง ๆ ๔ แถบ ตั้งแต่สันหลังลงไปถึงข้างลำตัว อาศัยอยู่ตามต้นไม้สูง ๆ กินแมลงและผลไม้ ในประเทศไทยมี ๒ ชนิด คือ กระถิกขนปลายหูยาว [ <i> Tamiops</i><i> rodolphe</i><i> i</i> (Milne-Edwards) ] และกระถิกขนปลายหูสั้น [ <i> T. mxcclellandi</i> (Horsfield) ], กระเล็น ก็เรียก. |
กระทิง ๓ | น. ชื่อปลานํ้าจืดในสกุล <i> Mastacembelus</i> วงศ์ Mastacembelidae ลำตัวยาว แบนข้างเล็กน้อย ปลายจะงอยปากบนเรียวแหลมคล้ายปลาหลด แต่มีครีบหลังและครีบก้นยาวต่อเนื่องกับครีบหาง สีสดสวยกว่าและมีขนาดใหญ่กว่า อาศัยอยู่ในแม่นํ้าลำคลองและที่ลุ่ม ที่พบทั่วไปในประเทศไทย เช่น ชนิด <i> M</i>.<i> armatus</i> (Lacepéde), M. favus Hora, และกระทิงไฟ (<i> M. erythrotaenia</i>Bleeker) ซึ่งมีขนาดยาวได้ถึง ๘๐ เซนติเมตร. |
กระทุง | น. ชื่อนกนํ้าขนาดใหญ่ชนิด <i> Pelecanus</i><i> philip-pensis</i> Gmelin ในวงศ์ Pelecanidae ตัวขนาดห่าน ขนสีขาวหรือสีเทา ปากยาวใหญ่ ระหว่างขากรรไกรล่างมีลักษณะเป็นถุงขนาดใหญ่สำหรับจับปลาทีละมาก ๆ อาศัยอยู่ตามแม่นํ้าลำคลองและชายทะเล. |
กระทุงเหว | น. ชื่อปลาผิวนํ้าทุกชนิด ในวงศ์ Belonidae และ Hemiramphidae ลำตัวกลมยาวคล้ายปลาเข็ม กระดูกปากทั้งตอนบนและล่างหรือเฉพาะตอนล่างยื่นยาวแหลม หางเป็นแฉก บ้างก็ตัดเฉียงลงมากน้อยหรือกลมแล้วแต่ชนิดหรือสกุล ส่วนใหญ่พบในเขตนํ้ากร่อยหรือชายทะเล เช่น ชนิดในสกุล <i> Hemiramphus, Hyporhamphus, Rhynchorhamphus, Tylosurus, Strongylura</i>และ<i> Zenarchopterus</i>ชนิดที่พบในทะเลห่างฝั่งและบริเวณรอบเกาะ คือ กระทุงเหวบั้ง [ <i> Ablennes hians</i> (Valenciennes) ] ซึ่งมีชุกชุมที่สุด บางชนิดพบอาศัยอยู่ในนํ้าจืด เช่น กระทุงเหวเมือง [ <i> Xenentodon cancila</i> (Hamilton) ] ขนาดยาวได้ถึง ๑.๒๕ เมตร, เข็ม ก็เรียก. |
กระปรอก ๓ | น. ชื่อเรียกเฟินอิงอาศัยหลายชนิดในสกุล <i> Drynaria</i> และ <i> Platycerium</i> วงศ์ Polypodiaceae. |
กระแสจิต | น. กระแสความนึกคิดหรือกระบวนความนึกคิดที่เกิดดับต่อเนื่องกันไป, เรียกอาการที่ส่งความนึกคิดติดต่อกันระหว่างจิตของคนหนึ่งกับอีกคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างกันโดยไม่ต้องอาศัยประสาทสัมผัสทั้ง ๕ อย่างใดอย่างหนึ่ง ว่า การส่งกระแสจิต. |
กลวิธี | (กนละ-, กน-) น. วิธีพลิกแพลง โดยอาศัยความรู้ความชำนาญ. |
กลาบาต ๒ | กองเพลิงในค่ายทหารสมัยโบราณ เพื่ออาศัยแสงไฟนั่งยามรักษาการณ์ |
กวัก ๑ | (กฺวัก) น. ชื่อนกขนาดกลางชนิด <i> Amaurornis phoenicurus</i> (Pennant) ในวงศ์ Rallidae ลำตัวสั้น รูปร่างป้อม ขาและนิ้วยาว หน้าผากและด้านล่างลำตัวสีขาว อาศัยอยู่ตามหนองนํ้า เดินหากินบนพื้นดินหรือบนใบพืชนํ้า เช่น บัว จอก แหน ขณะเดินหางมักกระดกขึ้นกระดกลง ในตอนเช้าหรือพลบคํ่าร้องเสียงดัง “กวัก ๆ ”. |
กวางผา | (กฺวาง-) น. ชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิด <i> Naemorhedus goral</i> (Hardwicke) ในวงศ์ Bovidae ลักษณะคล้ายแพะและเลียงผา แต่มีขนาดเล็กกว่า เขาตัวผู้ยาวกว่าตัวเมีย ขนสีเทาหรือน้ำตาลปนเทา มีแถบขนสีดำตลอดแนวสันหลัง อาศัยอยู่บนภูเขาสูงชัน กินพืช เป็นสัตว์ป่าสงวนของไทย. |
กสิณ | (กะสิน) น. สมถกรรมฐานหมวดหนึ่งที่กำหนดอารมณ์โดยอาศัยธาตุ ๔ คือ ปฐวี (ดิน) อาโป (นํ้า) เตโช (ไฟ) วาโย (ลม), วรรณะ (สี) ๔ คือ นีล (สีเขียวคราม) ปีต (สีเหลือง) โลหิต (สีแดง) โอทาต (สีขาว), อากาศ (ที่ว่าง) และ อาโลก (แสงสว่าง) รวมเป็น ๑๐ อย่าง โดยเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งในการกำหนดอารมณ์ให้เหมาะกับจริตของผู้ที่จะเจริญกรรมฐาน. |
กะต่อม | น. ชื่อกุ้งขนาดกลางชนิด <i> Macrobrachium equidens</i> (Dana) ในวงศ์ Palaemonidae ก้ามมีปื้นสีเข้ม อาศัยอยู่ในย่านน้ำกร่อย และพบบ้างในน้ำจืดหรือชายทะเล, กุ้งแห ก็เรียก. |
กะพง ๒ | น. ชื่อหอยทะเลกาบคู่ชนิด <i> Musculista</i><i> senhousia</i> (Benson) ในวงศ์ Mytilidae เปลือกบางรูปยาวรี สีเขียวหรือเขียวอมเหลือง มีลายเป็นเส้นสีนํ้าตาล อาศัยอยู่ตามพื้นท้องทะเลที่เป็นเลนปนทราย โดยยึดติดกันเองเป็นกระจุกหรือแผ่เป็นแผ่นใหญ่. |
กะรัง ๒ | น. ชื่อปลาทะเลขนาดกลางและขนาดใหญ่หลายชนิดในสกุล <i> Epinephelus, Cephalopholis</i> และ <i> Plectopomus</i> วงศ์ Serranidae หัวโต รูปร่างป้อม เรียวยาวไปทางหาง แบนข้างเล็กน้อย เกล็ดเล็ก สีตามตัวและครีบเป็นดอกดวง แต้ม หรือบั้ง ฉูดฉาดหรือคลํ้าทึบแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิดและขนาด พบอาศัยอยู่ตามบริเวณหมู่ปะการัง โขดหินใกล้ฝั่งหรือเกาะ. |
กะเรกะร่อน | น. ชื่อกล้วยไม้หลายชนิดในสกุล <i> Cymbidium</i> วงศ์ Orchidaceae อิงอาศัยตามต้นไม้ ใบเขียวหนา ยาว ๒๐-๖๐ เซนติเมตร เช่น กะเรกะร่อนด้ามข้าว (<i> C. bicolor</i> Lindl.) ดอกสีขาว กะเรกะร่อนปากเป็ด (<i> C. finlaysonianum</i> Lindl.) ดอกสีเหลือง ปากสีแดงคลํ้า. |
กะเหรี่ยง | น. ชื่อชนชาวเขาเผ่าหนึ่ง ปรกติอาศัยอยู่ทางพรมแดนทิศตะวันตกของประเทศไทย, โซ่ หรือ ยาง ก็เรียก, (โบ) เรียกว่า กั้ง ก็มี. |
กัปปิยการก | (-การก) น. ผู้ปฏิบัติภิกษุในเรื่องปัจจัย ๔ คือ จีวร อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค. |
กัปปิยภัณฑ์ | น. สิ่งของที่ควรแก่ภิกษุ ได้แก่ ปัจจัย ๔ คือ จีวร อาหาร ที่อยู่อาศัย ยารักษาโรค และสิ่งอื่น ๆ เช่น ร่ม รองเท้า. |
กาลักน้ำ | น. เครื่องมืออย่างง่ายซึ่งอาศัยความดันของอากาศเพื่อใช้ถ่ายเทของเหลวออกจากภาชนะ โดยใช้หลอดหรือท่อที่ใช้ถ่ายเทของเหลวจากระดับหนึ่งไปสู่ระดับที่ตํ่ากว่า โดยไหลผ่านระดับที่สูงกว่าระดับทั้ง ๒ นั้น. |
กาน้ำ | น. ชื่อนกน้ำขนาดกลางถึงขนาดใหญ่หลายชนิด ในวงศ์ Phalacrocoracidae คอยาว ตัวสีดำ ตีนมีพังผืด นิ้วแบบตีนพัดเต็ม ว่ายนํ้าเหมือนเป็ด ดำนํ้าจับปลากิน อาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง ในประเทศไทยมี ๓ ชนิด คือ กานํ้าใหญ่ [ <i> Phalacrocorax carbo</i> (Linn.) ] กานํ้าปากยาว (<i> P. fuscicollis</i>Stephens) และกานํ้าเล็ก <i> [ P. niger</i> (Vieillot) ]<i> </i>. |
กาบบัว | น. ชื่อนกขนาดใหญ่ชนิด <i> Mycteria</i><i> leucocephala</i> (Pennant) ในวงศ์ Ciconiidae คอและขายาว ปากยาวสีเหลือง หัว คอ และลำตัวสีขาว มีแถบดำคาดขวางอก ขนคลุมขนปีกตอนปลายสีชมพู อาศัยอยู่ตามบึงและหนองนํ้า กินปลาและสัตว์น้ำ. |
กาฝาก ๑ | น. ชื่อพืชเบียนหลายชนิดในหลายวงศ์ที่อาศัยเกาะดูดนํ้าและแร่ธาตุ หรือสารอาหารที่สังเคราะห์แล้วจากพรรณไม้ที่อาศัย ส่วนใหญ่มักใช้เรียกไม้พุ่มที่อาศัยเกาะเบียนไม้ต้นชนิดต่าง ๆ ในวงศ์ Loranthaceae, Santalaceae และ Viscaceae. |
กามภพ | น. ที่เกิดของผู้ที่ยังเกี่ยวด้วยกาม, โลกเป็นที่อยู่อาศัยของผู้เสพกาม ได้แก่ อบายภูมิ ๔ (นรกภูมิ ติรัจฉานภูมิ เปรตวิสัยภูมิ อสุรกายภูมิ) มนุษยโลก ๑ และสวรรค์ ๖ ชั้น (จาตุมหาราชิกหรือจาตุมหาราชิกา ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานนรดี ปรนิมมิตวสวัตดี) รวมเป็น ๑๑, กามภูมิ ก็ว่า. |
persons not living in households | บุคคลที่ไม่ได้อาศัยอยู่ในครัวเรือน [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] |
phototrophic | -อาศัยพลังแสง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
peaceful habitation | การอยู่อาศัยโดยปรกติสุข [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
parasitifer | ตัวให้อาศัย [ มีความหมายเหมือนกับ host ๒ ] [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
possessory lien | การครอบครองโดยอาศัยสิทธิยึดหน่วง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
piggyback | อาศัยไปด้วย [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
lodger | ผู้อาศัย [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] |
legislation, delegated | บทบัญญัติที่อาศัยอำนาจกฎหมายอื่น [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
living quarters | ส่วนที่อยู่อาศัย [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] |
laparoscopic cholecystectomy | การตัดถุงน้ำดีอาศัยกล้อง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
right of habitation | สิทธิอาศัย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
recall a judgment | กลับคำพิพากษา, พิพากษากลับ (โดยอาศัยข้อเท็จจริง) [ ดู reverse a judgment ประกอบ ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
reside | อยู่อาศัย [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] |
reverse a judgment | กลับคำพิพากษา, พิพากษากลับ (โดยอาศัยข้อกฎหมาย) [ ดู recall a judgment ประกอบ ] [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
saprophage | สิ่งมีชีวิตอาศัยซาก [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] |
sexual reproduction; gametic reproduction; gamogony | การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] |
shelter | ที่อยู่อาศัย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
sanguicolous | -อาศัยในเลือด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
surgery, arthroscopic | ศัลยกรรมอาศัยกล้องสันธิทรรศน์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
syngamy | ๑. การสืบพันธุ์อาศัยเพศ๒. การรวมของสองเซลล์สืบพันธุ์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
stereotactic surgery; surgery, stereotaxic | ศัลยกรรมอาศัยภาพสามมิติ (สมอง) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
stereotaxic surgery; surgery, stereotactic | ศัลยกรรมอาศัยภาพสามมิติ (สมอง) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
surgery, stereotactic; surgery, stereotaxic | ศัลยกรรมอาศัยภาพสามมิติ (สมอง) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
surgery, stereotaxic; surgery, stereotactic | ศัลยกรรมอาศัยภาพสามมิติ (สมอง) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
saprobic | อาศัยซาก [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] |
saprogen | สิ่งมีชีวิตอาศัยสารอินทรีย์ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] |
overcrowded dwelling | ที่อยู่อาศัยแออัดยัดเยียด [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] |
analogy, argument by | การให้เหตุผลโดยอาศัยแนวเทียบ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
accidental host | ตัวให้อาศัยโดยบังเอิญ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
argument by analogy | การให้เหตุผลโดยอาศัยแนวเทียบ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
arthroscopic surgery | ศัลยกรรมอาศัยกล้องสันธิทรรศน์ [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
asexual reproduction; vegetative reproduction | การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] |
asexual | ไม่อาศัยเพศ [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] |
autoecious; homoecious | ครบวัฏจักรชีวิตบนตัวให้อาศัยเดียว [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] |
anemophilous | -ถ่ายเรณูอาศัยลม [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] |
quartering | ๑. การกำหนดย่านให้พักอาศัย๒. การจัดที่พักให้ทหาร [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
quartering | ๑. การกำหนดย่านให้พักอาศัย๒. การจัดที่พักให้ทหาร [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
by virtue of | โดยอาศัยอำนาจ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
by virtue of office | โดยอาศัยอำนาจแห่งตำแหน่งหน้าที่ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
mediate | -อาศัยสื่อกลาง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
megalospheric | -ภาวะไม่อาศัยเพศ [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] |
microspheric | -ภาวะอาศัยเพศ [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] |
cholecystectomy, laparoscopic | การตัดถุงน้ำดีอาศัยกล้อง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] |
coattails | ผู้อาศัยบารมีนักการเมือง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
commensalism | ภาวะอิงอาศัย [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] |
commensalism | ภาวะอิงอาศัย [ธรณีวิทยา๑๔ ม.ค. ๒๕๔๖] |
chiropterophilous | -ถ่ายเรณูอาศัยค้างคาว [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] |
carpogenous | อาศัยผล [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] |
cohabit | อยู่อาศัยร่วมกัน [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕] |
caravan | ยานพาหนะที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] |
พสกนิกร | [ พะสกกะนิกอน, พะสกนิกอน ] คนที่อยู่ในประเทศไม่ว่าจะเป็นพลเมืองของประเทศนั้นหรือคนต่างด้าวที่มาอาศัยอยู่ก็ตาม [ศัพท์พระราชพิธี] |
จตุปัจจัย | เครื่องอาศัยเลี้ยงชีวิตของบรรพชิตในพระพุทธศาสนา ๔ อย่าง คือ จีวร (ผ้านุ่งห่ม) บิณฑบาต (อาหาร) เสนาสนะ (ที่อยู่) คิลานเภสัช (ยา) [ศัพท์พระราชพิธี] |
Living Quarter Platform | แท่นที่พักอาศัย, Example: เป็นแท่นที่ใช้สำหรับพักผ่อน โดยมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น ห้องนอน ห้องอาหาร ห้องนั่งเล่น ห้องออกกำลังกาย เป็นต้น [ปิโตรเลี่ยม] |
Insider trading | การซื้อขายหลักทรัพย์โดยอาศัยข้อมูลวงใน [เศรษฐศาสตร์] |
Thermoluminescence dating | การหาอายุโดยเทคนิคเทอร์โมลูมิเนสเซนซ์, วิธีหาอายุโบราณวัตถุประเภทเครื่องปั้นดินเผา โบราณสถานที่ก่อสร้างด้วยอิฐและตะกอนดิน โดยอาศัยปรากฏการณ์เทอร์โมลูมิเนสเซนซ์ วิธีที่นิยมใช้มี 2 วิธี คือ Quartz and Feldspar Inclusion Method สามารถหาอายุตัวอย่างที่มีหินเขี้ยวหนุมานประกอบอยู่ได้ในช่วง 50 ถึง 100, 000 ปี และถ้ามีหินฟันม้าประกอบอยู่ สามารถหาอายุได้ในช่วง 500 ถึง 500, 000 ปี อีกวิธีหนึ่งได้แก่ Pre-dose Method สามารถหาอายุตัวอย่างที่มีหินเขี้ยวหนุมานประกอบอยู่ได้ในช่วงไม่เกิน 1, 000 ปี (ดู thermoluminescence ประกอบ), Example: [นิวเคลียร์] |
Radiography | การถ่ายภาพรังสี, การใช้รังสีชนิดก่อไอออน เช่น รังสีเอกซ์ หรือ รังสีแกมมา ถ่ายภาพวัตถุบนแผ่นฟิล์มโดยอาศัยหลักการดูดกลืนรังสี ส่วนของวัตถุที่ดูดกลืนรังสีไว้น้อยกว่าจะปรากฏภาพเงาบนฟิล์มทึบกว่าส่วนของวัตถุที่ดูดกลืนรังสีไว้มากกว่า [นิวเคลียร์] |
Isotope separation | การแยกไอโซโทป, กระบวนการแยกไอโซโทปออกจากกัน โดยอาศัยความแตกต่างของมวลไอโซโทป ด้วยวิธีการแยกด้วยแม่เหล็กไฟฟ้า หรือวิธีการแพร่แก๊ส การแยกไอโซโทปเป็นขั้นตอนหนึ่งของกระบวนการการเสริมสมรรถนะไอโซโทป, Example: [นิวเคลียร์] |
กะเหรี่ยง | ชื่อชนชาวเขาเผ่าหนึ่ง ปกติอาศัยอยู่ทางพรมแดนทิศตะวันตกของประเทศไทย, Example: คำที่มักเขียนผิด กระเหรี่ยง [คำที่มักเขียนผิด] |
Embedded system | ระบบ (คอมพิวเตอร์) ขนาดเล็กที่อยู่ในเครื่องใช้ต่างๆ เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นส่วนหนึ่งของเครื่องมือ อุปกรณ์ เครื่องใช้ต่างๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ โทรศัพท์เคลื่อนที่ หม้อหุงข้าว เตาอบ รถยนต์ ระบบแบบฝังตัวนี้ภายในทำงานโดยอาศัยไมโครโพรเซสเซอร์และตัวรับสัญญาณ ระบบสื่อสาร และระบบควบคุมที่เชื่อมต่อ และทำงานโดยการควบคุมโดยโปรแกรม [Assistive Technology] |
Architecture, Domestic | สถาปัตยกรรมที่อยู่อาศัย [TU Subject Heading] |
Convention on Wetlands of International Importance Especially as Waterfowl Habitat, 1971 | อนุสัญญาว่าด้วยพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระหว่างประเทศโดยเฉพาะเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของนกน้ำ (ค.ศ. 1971) [TU Subject Heading] |
Dwellings | ที่อยู่อาศัย [TU Subject Heading] |
Habitations | ที่อยู่อาศัย [TU Subject Heading] |
Homes and haunts | บ้านและที่อยู่อาศัย [TU Subject Heading] |
Homesites | เขตที่อยู่อาศัย [TU Subject Heading] |
Mortgage guarantee insurance | ประกันสินเชื่อที่อยู่อาศัย [TU Subject Heading] |
Mortgage-backed securities | ตราสารหนี้หนุนโดยสินเชื่อที่อยู่อาศัย [TU Subject Heading] |
Reproduction, Asexual | การขยายพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ [TU Subject Heading] |
Resident satisfaction | ความพอใจของผู้อยู่อาศัย [TU Subject Heading] |
Room layout (Dwellings) | การวางผังห้อง (ที่อยู่อาศัย) [TU Subject Heading] |
Savings and loan associations | สถาบันการเงินเพื่อที่อยู่อาศัย [TU Subject Heading] |
De Jure Population | ประชากรนิตินัย หรือ ประชากรอาศัย (resident population), Example: ประชากรที่มีชื่อว่าอาศัยอยู่ในเขตนั้นในวันทำ สำมะโน [สิ่งแวดล้อม] |
Inhabitants | ผู้อยู่อาศัย, Example: ลักษณะของการครอบครองที่อยู่ [สิ่งแวดล้อม] |
Pelagic Organism | สิ่งมีชีวิตที่อาศัยในมวลน้ำในระบบนิเวศทะเล, Example: ประกอบด้วยสิ่งมีชีวิตจำนวนมาก ที่สำคัญได้แก่ กลุ่มของแพลงก์ตอน (Plankton) ตลอดจนพวกที่ว่ายน้ำเป็นอิสระ (Nekton) [สิ่งแวดล้อม] |
Benthic Organism | สิ่งมีชีวิตที่อาศัยตามพื้นท้องทะเล, Example: ประกอบด้วยแบคทีเรีย พืช และสัตว์เกือบทุกไฟลัม ในเขตที่มีน้ำขึ้นลง หรือเขตที่มีแสงส่องถึง พื้นท้องน้ำจะมีพืชขนาดใหญ่และเล็กเจริญอยู่มาก และโดยเฉพาะพื้นที่เป็นหินแข็งมักมีสาหร่ายทะเลขนาดใหญ่เกาะติดเป็น จำนวนมาก สาหร่ายเหล่านี้เป็นผู้ผลิตที่สำคัญของชายฝั่ง ส่วนในพื้นที่ทะเลที่ระดับลึกมักไม่มีแสงจึงไม่มีสิ่งมีชีวิตที่สังเคราะห์ แสงได้ แต่จะมีแบคทีเรียที่สังเคราะห์อาหารโดยกระบวนการทางเคมีซึ่งจะเป็นผู้ผลิต ที่สำคัญในทะเลลึกมาก ๆ ส่วนผู้บริโภคในเขตพื้นท้องทะเลประกอบด้วยสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเป็นส่วนมาก [สิ่งแวดล้อม] |
Pleustic Organism | สิ่งมีชีวิตที่อาศัยที่ผิวหน้าน้ำทะเล, Example: สิ่งมีชีวิตพวกนี้มักมีโครงสร้างที่ใช้ลอยตัว ได้อย่างดี โดยอาจมีถุงลม มีองค์ประกอบของอิออนในของเหลวในตัวที่เป็นธาตุมีน้ำหนักเบา หรือ มีการปรับตัวอื่นๆ เช่น กระพรุนไฟ จะมีทุ่นลอยซึ่งภายในมีอากาศช่วย ให้ลอยตัวได้ และหอยทากทะเลมีฟองอากาศในกระเพาะช่วยให้ตัวเบา นอกจากนี้ยังมีจิงโจ้น้ำเค็มซึ่งจะพักตัวบนผิวน้ำทะเลช่วยทำให้ไม่จม สัตว์ที่อาศัยที่ผิวหน้าน้ำเหล่านี้มักเป็นพวกที่กินสัตว์เป็นอาหาร [สิ่งแวดล้อม] |
Dwelling | หน่วยที่อาศัย, Example: หน่วยทางสถิติของอาคารสถานที่ที่ซึ่งครัวเรือน หนึ่งเป็นผู้ครอบครอง [สิ่งแวดล้อม] |
House | อาคารที่พักอาศัย, Example: หมวดกฎหมายสิ่งแวดล้อม หมายถึง อาคารที่โดยปกติบุคคลใช้อยู่อาศัยได้ทั้งกลาง วันและกลางคืน ไม่ว่าจะเป็นการอยู่อาศัยอย่างถาวรหรือชั่วคราวและให้หมายรวมถึง โรงเรือน บ้านพักอาศัย โรงแรม หอพัก อาคารชุด หรืออาคารอื่นใดที่มีลักษณะเดียวกันที่สร้างขึ้นตามกฏหมายควบคุมอาคาร [สิ่งแวดล้อม] |
Asia Cooperation Dialogue | ความร่วมมือเอเชีย เวทีความร่วมมือในระดับทวีปเอเชีย โดยเป็นความคิดริเริ่มของไทยในการสร้างกรอบความร่วมมือที่ครอบคลุมทุกอนุ ภูมิภาคของเอเชีย มีวัตถุประสงค์ที่จะเชื่อมโยงจุดแข็งและต่อยอดความร่วมมือต่าง ๆ ของประเทศเอเชีย โดยอาศัยความแตกต่างหลากหลายและทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งเอเชียมีอยู่มา ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและมุ่งสร้างความร่วมมือในวงกว้างทั้งทวีปเอเชีย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ซึ่งจะทำให้ภูมิภาคเอเชียแข็งแกร่งและเป็นหุ้นส่วนที่เข้มแข็งสำหรับภูมิภาค อื่น ๆ เอซีดีได้มีการประชุมครั้งแรกเมื่อ 18-19 มิถุนายน 2545 โดยมีผู้แทนระดับรัฐมนตรีจาก 18 ประเทศเข้าร่วม ที่ประชุมได้แบ่งกรอบความร่วมมือเป็น 2 มิติ ได้แก่ มิติการหารือ (dialogue dimension) และมิติโครงการความร่วมมือ (project dimension) เช่น การท่องเที่ยว ความมั่นคงทางพลังงาน และการพัฒนาตลาดพันธบัตรเอเชีย (Asian Bond Market) [การทูต] |
apartheid | การปกครองประเทศแบบแบ่งแยกผิวพันธุ์ เป็นระบบปกครองที่ใช้ในสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งโดยไม่ แบ่งแยกผิวพันธุ์ครั้งแรกขึ้นระหว่างวันที่ 26-29 เมษายน 2537 ในระบบการปกครองดังกล่าว ประชาชนแอฟริกาใต้ผิวดำถูกจำกัดสิทธิต่าง ๆ เช่น สิทธิทางด้านการเมือง สิทธิการออกเสียงเลือกตั้ง สิทธิรับสมัครเลือกตั้ง การเป็นสมาชิกรัฐสภา การมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินบางพื้นที่ การเลือกที่อยู่อาศัย การใช้สถานที่พักผ่อน การรับราชการ การเข้ารับการศึกษา การประกอบอาชีพ และการใช้บริการสาธารณูปโภคจากรัฐบาล เป็นต้น [การทูต] |
Diplomatic Privilege of Accommodation | มาตรา 21 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตบัญญัติไว้ว่า ?1. รัฐผู้ต้อนรับจะต้องอำนวยความสะดวกตามบทกฎหมายของประเทศของตน ในการจัดการให้ได้มาซึ่งดินแดนของตนให้แก่รัฐผู้ส่ง ซึ่งจำเป็นแก่การปฏิบัติภาระหน้าที่ของรัฐนั้น หรือช่วยเหลือให้รัฐผู้ส่งได้รับอาคารที่พำนักด้วยวิธีการหนึ่งใด 2. ในกรณีจำเป็น รัฐผู้รับจะต้องช่วยให้คณะเจ้าหน้าที่ทางการทูต ได้มีสถานที่อยู่อาศัยอย่างเหมาะสม?เมื่อตัวแทนทางการทูตที่เพิ่งได้รับแต่ง ตั้งได้เดินทางไปถึงประเทศที่เขาจะเข้าดำรงตำแหน่ง ซึ่ง ณ ที่นั้นมีคณะผู้แทนทางการทูตของรัฐบาลของเขาประจำทำงานอยู่แล้ว ตามปกติตัวแทนทูตดังกล่าวจะมีสำนักงานทางการทูตตั้งอยู่แล้วในสถานที่เหมาะ สม มีอุปกรณ์เครื่องใช้ไม้สอยสำหรับการปฏิบัติงานโดยครบครัน และผู้ที่ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าเขาหรืออุปทูตชั่วคราวมักจะเตรียมการไว้ก่อน แล้วเกี่ยวกับที่พักอาศัย เรียกว่าทำเนียบ นอกจากว่าจะมีทำเนียบตั้งอยู่ภายในบริเวณตึกสถานเอกอัครราชทูตซึ่งรัฐบาลของ เขาเป็นเจ้าของเองแต่ถ้าหากตัวแทนทางการทูตที่เพิ่งได้รับแต่งตั้งใหม่ จะต้องตั้งคณะผู้แทนทางการทูตในประเทศที่เขาเข้าดำรงตำแหน่งเป็นครั้งแรก ก็จะต้องประสบกับปัญหาเรื่องหาสถานที่สำหรับใช้เป็นที่ตั้งสถานเอกอัคร ราชทูตขึ้น ในกรณีเช่นนี้จึงจำเป็นจะต้องอาศัยคำแนะนำและความช่วยเหลือจากกระทรวงการ ต่างประเทศของรัฐผู้รับ กระทรวงการต่างประเทศของบางประเทศจะมีแผนกหนึ่งทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกแก่คณะทูตต่างประเทศโดยเฉพาะ เป็นแผนกหนึ่งในกรมพิธีการทูต ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับเรื่องทำนองนี้อยู่แล้ว [การทูต] |
Exemption from Taxation of Diplomatic Agent | การยกเว้นภาษีอากรให้แก่ตัวแทนทางการทูต ในเรื่องนี้ข้อ 34 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติไว้ว่า?ให้ตัวแทนทางการทูตได้รับยกเว้นจากภาระผูกพันและภาษีทั้ง ปวงของชาติท้องถิ่นหรือเทศบาล ในส่วนบุคคลหรือในทรัพย์สิน เว้นแต่ก. ภาษีทางอ้อม ชนิดที่ตามปกติรวมอยู่ในราคาของสินค้าหรือบริการแล้วข. ภาระผูกพันและภาษีจากอสังหาริมทรัพย์ส่วนตัว ซึ่งตั้งอยู่ในอาณาเขตของรัฐผู้รับ นอกจากว่า ตัวแทนทางการทูตครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นไว้ในนามของรัฐผู้ส่ง เพื่อความมุ่งประสงค์ของคณะผู้แทนค. อากรกองมรดก การสืบมรดก หรือการรับมรดก ซึ่งรัฐผู้รับเรียกเก็บภายในบังคับแห่งบทของวรรค 4 ข้อ 39 ง. ภาระผูกพันและภาษีจากเงินได้ส่วนตัว ซึ่งมีแหล่งกำเนิดในรัฐผู้รับ และภาษีเก็บจากเงินทุนซึ่งได้ลงทุนในการประกอบการพาณิชย์ในรัฐผู้รับจ. ค่าภาระซึ่งเรียกเก็บสำหรับบริการจำเพาะที่ได้ให้ฉ. ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน ค่าธรรมเนียมศาล หรือสำนวนความ ภาระผูกพันในการจำนอง และอากรแสตมป์ในส่วนที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ภายในบังคับแห่งบทของข้อ 23?นอกจากนี้ ข้อ 35 ของอนุสัญญากรุงเวียนนายังได้บัญญัติไว้ด้วยว่า ?ให้รัฐผู้รับให้ตัวแทนทางการทูตได้รับการยกเว้นจากการบริการส่วนบุคคลทั้ง มวล จากบริการส่วนสาธารณะทั้งมวล และจากข้อผูกพันทางทหาร เช่น ส่วนที่เกี่ยวกับการเรียกเกณฑ์ ส่วนบำรุง หรือเรียกคืนที่พักอาศัยเพื่อปฏิบัติการทางทหาร? [การทูต] |
Extradition | การส่งผู้ร้ายข้ามแดน การที่ชาติหนึ่งยอมส่งคนในชาติของตนให้แก่อีกชาติหนึ่ง คือคนในชาติที่ถูกกล่าวหา หรือต้องโทษฐานกระทำความผิดภายนอกเขตแดนของตน และเป็นความผิดที่กระทำขึ้นในเขตอำนาจของอีกชาติหนึ่ง ซึ่งมีความสามารถที่จะตัดสินคดี รวมทั้งลงโทษบุคคลที่ถูกกล่าวหานั้นข้ออ้างว่า ในกรณีที่ชนชาติหนึ่งซึ่งถูกกล่าวหาว่าประกอบอาชญากรรมแล้วหลบหนีไปยังต่าง ประเทศนั้น รัฐของผู้ที่ประกอบอาชญากรรมมีสิทธิที่จะขอให้ต่างประเทศนั้นส่งตัวผู้กระทำ ผิดกลับคืนมา เพื่อส่งตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาลงโทษได้ แต่หลายคนยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ในข้อนี้ มีไม่น้อยที่สนับสนุนหลักการที่ว่า กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองหน้าที่ที่จะต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดน กล่าวคือ นอกจากสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่มีต่อกันแล้ว กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองสิทธิที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กัน อย่างไรก็ดี ตามสนธิสัญญาที่มีต่อกัน ผู้ร้ายที่หนีความยุติธรรมจะถูกส่งไปให้อีกประเทศหนึ่งตามสนธิสัญญานั้น จักกระทำโดยวิถีทางการทูต ส่วนผู้หลบหนีเจ้าหน้าที่เพราะเหตุผลทางการเมือง จะส่งข้ามแดนอย่างผู้ร้ายไม่ได้ และเมื่อหลบหนีไปยังอีกประเทศหนึ่งได้สำเร็จ ประเทศนั้นๆ มักจะให้อาศัยพักพิงในประเทศของตนเป็นในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง [การทูต] |
Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] |
International Court of Justice | ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือที่เรียกกันอย่างไม่เป็นทางการว่า ศาลโลก ตั้งขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1945 ตามกฎบัตรขององค์การสหประชาชาติ กฎข้อบังคับ (Statute) ของศาลโลกนั้นได้ผนวกอยู่ท้ายกฎบัตรของสหประชาชาติ และถือเป็นส่วนสำคัญอย่างแยกจากกันมิได้ของกฎบัตร ศาลนี้ตั้งอยู่ ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ถือเป็นองค์กรแห่งศาลหรือแห่งตุลาการสำคัญที่สุดขององค์การสหประชาชาติ ประเทศใดที่เข้าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลก ย่อมมีสิทธิที่จะส่งคดีใดก็ตามไปให้ศาลโลกพิจารณาได้ ภายใต้เงื่อนไขที่คณะมนตรีความมั่นคงได้จัดวางไว้ นอกจากนั้น คณะมนตรีความมั่นคงก็อาจจะส่งกรณีพิพาททางกฎหมายไปให้ศาลพิจารณาได้ทั้ง สมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงสามารถขอคำปรึกษาหรือความเห็นจากศาลเกี่ยวกับ ปัญหาข้อกฎหมายใดๆ และองค์กรอื่น ๆ ของสหประชาชาติ อันรวมถึงองค์การชำนัญพิเศษ ก็สามารถขอคำปรึกษา หรือความเห็นเกี่ยวกับประเด็นปัญหาทางกฎหมายใดๆ ที่อยู่ภายในกรอบของงานที่ปฏิบัติอยู่ แต่ทั้งนี้ ต้องได้รับอนุมัติเห็นชอบจากสมัชชาสหประชาชาติก่อน สมัชชาเคยมอบอำนาจเช่นนี้แก่คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะมนตรีภาวะทรัสตี คณะกรรมาธิการระหว่างกาล (Interim Committee) ของสมัชชา รวมทั้งองค์กรระหว่างรัฐบาลบางแห่งด้วยรัฐทั้งหมดที่เป็นสมาชิกของสหประชา ชาติถือว่าเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกไปในตัว ส่วนประเทศใดที่มิใช่เป็นสมาชิกของสหประชาชาติ ก็อาจเป็นภาคีของกฎข้อบังคับของศาลโลกได้ ตามเงื่อนไขที่สมัชชาสหประชาชาติเป็นผู้กำหนดเป็นราย ๆ ไป ตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง ศาลโลกมีอำนาจที่จะพิจารณาปัญหาทั้งหลายที่รัฐสมาชิกขอให้พิจารณา รวมทั้งเรื่องอื่น ๆ ทั้งหลายที่ระบุอยู่ในกฎบัตรสหประชาชาติ และตามสนธิสัญญาหรืออนุสัญญาที่ใช้บังคับอยู่ รัฐสมาชิกย่อมยอมผูกพันตนล่วงหน้าได้ที่จะยอมรับอำนาจศาลในกรณีพิเศษต่าง ๆ โดยจะต้องลงนามในสนธิสัญญา หรืออนุสัญญาซึ่งยอมให้ส่งเรื่องไปที่ศาลได้ หรือออกประกาศเป็นพิเศษว่าจะปฏิบัติเช่นนั้น ในคำประกาศเช่นนั้นจะต้องระบุว่ายอมรับอำนาจบังคับของศาลโลก และอาจจะยกเว้นคดีบางประเภทมิให้อยู่ในอำนาจของศาลได้ ในการวินิจฉัยลงมติ ศาลโลกจะอาศัยแหล่งที่มาของกฎหมายต่าง ๆ ดังนี้ คือ- สัญญาหรืออนุสัญญาระห่างประเทศซึ่งวางกฎข้อบังคับที่รัฐคู่กรณียอมรับ- ขนบธรรมเนียมระหว่างประเทศซึ่งมีหลักฐานแสดงว่าเป็นหลักปฏิบัติทั่วไปตามที่ กฎหมายรับรองศาลโลกอาจจะตัดสินชี้ขาดว่าสิ่งใดยุติธรรมและดี โดยรัฐภาคีที่เกี่ยวข้องตกลงเห็นชอบด้วยคณะมนตรีความมั่นคงอาจจะรับการขอ ร้องจากรัฐภาคีหนึ่งใดในกรณีพิพาท ให้กำหนดมาตรการที่จะใช้เพื่อให้คำตัดสินของศาลมีผลบังคับ ถ้าคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่งไม่ยอมปฏิบัติตามข้อผูกพันภายใต้อำนาจศาลศาลโลก ประกอบด้วยผู้พิพากษารวม 15 ท่าน ซึ่งถือกันว่าเป็น ?สมาชิก? ของศาล และได้รับเลือกตั้งจากสมัชชาและคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ผู้พิพากษาเหล่านี้จะมีอำนาจออกเสียงลงคะแนนอย่างอิสระเสรีหลักเกณฑ์การคัด เลือกผู้พิพากษาศาลโลกจะถือตามคุณสมบัติขอผู้พิพากษานั้น ๆ มิใช่ถือตามสัญชาติของบุคคลดังกล่าว อย่างไรก็ดี จะมีการระมัดระวังด้วยว่า กฎหมายที่นำมาใช้ในศาลจะต้องมาจากระบบกฎหมายที่สำคัญ ๆ ของโลก ในศาลโลกจะมีผู้พิพากษาที่เป็นชาติเดียวกันมากกว่าหนึ่งคนไม่ได้ ผู้พิพากษาทั้งหลายจะมีสิทธิ์ดำรงอยู่ในตำแหน่งได้ เป็นเวลา 9 ปี มีสิทธิ์ได้รับเลือกตั้งซ้ำได้ และระหว่างที่ดำรงอยู่ในตำแหน่ง จะต้องไม่ประกอบอาชีพการงานอื่นใดทั้งสิ้น [การทูต] |
Mekong - Ganga Cooperation | ความร่วมมือแม่นำโขง - คงคา ริเริ่มขึ้นเมื่อกรกฎาคม พ.ศ.2543 ที่กรุงเทพฯ มีสมาชิก 6 ประเทศ คือกัมพูชา อินเดีย ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจและสร้างความเชื่อมโยง ระหว่างประเทศในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงกับประเทศในลุ่มแม่น้ำคงคาในด้านการ ท่องเที่ยว การศึกษาวัฒนธรรม และคมนาคมขนส่งโดยอาศัยปัจจัยทางเศรษฐกิจที่เกื้อกูลกันและความสัมพันธ์ที่ ดีระหว่างกัน และเป็นยุทธศาสตร์เชื่อมโยง GMS (จีน) ไปสู่อินเดีย [การทูต] |
National Holiday | วันชาติ คือสถานเอกอัครราชทูตทีมีอยู่ทั่วโลก จะนิยมฉลองวันชาติของประเทศของตน ส่วนมากจะถือเอาวันครบรอบปีแห่งการประกาศเอกราช หรือวันครบรอบปีของเหตุการณ์ที่ทรงความสำคัญอย่างยิ่งในประวัติศาสตร์ของ ประเทศตนเป็นวันชาติ ส่วนในประเทศที่มีระบอบกษัตริย์ ก็จะยึดเอาวันพระราชสมภพชองกษัตริย์หรือราชินีเป็นวันชาติของประเทศ ในวันชาติ สถานเอกอัครราชทูตจะมีธรรมเนียมจัดงานเลี้ยงรับรอง (Reception) ขึ้นในสถานเอกอัครราชทูตของตนหรือหากเป็นการไม่สะดวกที่จัดงานดังกล่าวขึ้น ในสถานทูต ก็มักไปจัดกัน ณ โรงแรมที่เหมาะสม ในงานเลี้ยงรับรองนี้จะเชิญข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในกระทรวงการต่างประทเศ หัวหน้าคณะทูตข้าราชการในสถานเอกอัครราชทูตอื่น ๆ นักหนังสือพิมพ์ เจ้าหน้าที่สื่อมวลชน บุคคลชั้นนำด้านธุรกิจและอุตสาหกรรม บรรดาคนชาติเดียวกับเอกอัครราชทูตที่กำลังอาศัยอยู่ในประเทศนั้น ตลอดจนบุคคลสำคัญในสังคม รวมทั้งมิตรสหายของสถานเอกอัครราชทูต และบุคคลอื่น ๆ ที่สมควรเชิญ [การทูต] |
New World Order | ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต] |
Pacific Settlement of International Disputes | หมายถึง การระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี คงจะจำกันได้ว่า ในตอนเสร็จสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศในโลกฝ่ายเสรีซึ่งเป็นผู้ชนะ ต่างมีเจตนาอันแน่วแน่ที่จะหาทางมิให้เกิดสงครามขึ้นอีกในโลก จึงตกลงร่วมกันก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ (Charter of the United Nations)ดังนั้น ข้อ 2 ของกฎบัตรสหประชาชาติจึงได้กำหนดให้ประเทศสมาชิกมีพันธกรณีที่จะต้องหาทางระ งังกรณีพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี และข้อ 33 ของกฎบัตรก็ได้บัญญัติไว้ว่า ?1. ผู้เป็นคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในกรณีพิพาทใด ๆ ซึ่งหากดำเนินอยู่ต่อไป น่าจะเป็นอันตรายแก่การธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ก่อนอื่นจักต้องแสวงหาการแก้ไขโดยการเจรจา ไต่สวน ไกล่เกลี่ย ประนีประนอม อนุญาโตตุลาการ การระงับโดยทางศาล การหันเข้าอาศัยทบวงการตัวแทน การตกลงส่วนภูมิภาค หรือสันติวิธีประการอื่นใดที่คู่กรณีจะพึงเลือก 2. เมื่อเห็นว่าจำเป็น คณะมนตรีความมั่นคงจักเรียกร้องให้คู่พิพาทระงับกรณีพิพาทของตนโดยวิธีเช่น ว่านั้น? [การทูต] |
Palestine Question | ปัญหาปาเลสไตน์ เมื่อวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1947 ประเทศอังกฤษได้ขอให้สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ทำการประชุมสมัยพิเศษเพื่อพิจารณาปัญหาปาเลสไตน์ สมัชชาได้ประชุมกันระหว่างวันที่ 28 เมษายน ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1947 และที่ประชุมได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษเกี่ยวกับปาเลสไตน์ขึ้น ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศสมาชิกรวม 11 ประเทศ ซึ่งหลังจากที่เดินทางไปตรวจสถานการณ์ในภาคตะวันออกกลาง ก็ได้เสนอรายงานเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว รายงานนี้ได้ตั้งข้อเสนอแนะรวม 12 ข้อ รวมทั้งโครงการฝ่ายข้างมาก (Majority Plan) และโครงการฝ่ายข้างน้อย (Minority Plan) ตามโครงการข้างมาก กำหนดให้มีการแบ่งดินแดนปาเลสไตน์ออกเป็นรัฐอาหรับแห่งหนึ่ง รัฐยิวแห่งหนึ่ง และให้นครเยรูซาเล็มอยู่ภายใต้ระบบการปกครองระหว่างประเทศ รวมทั้งให้ดินแดนทั้งสามแห่งนี้มีความสัมพันธ์ร่วมกันในรูปสหภาพเศรษฐกิจ ส่วนโครงการฝ่ายข้างน้อย ได้เสนอให้ตั้งรัฐสหพันธ์ที่เป็นเอกราชขึ้น ประกอบด้วยรัฐอาหรับและรัฐยิว อันมีนครเยรูซาเล็มเป็นนครหลวงต่อมาในวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1947 สมัชชาสหประชาชาติได้ประชุมลงมติรับรองข้อเสนอของโครงการฝ่ายข้างมาก ซึ่งฝ่ายยิวได้รับรองเห็นชอบด้วย แต่ได้ถูกคณะกรรมาธิการฝ่ายอาหรับปฏิเสธไม่รับรอง โดยต้องการให้มีการจัดตั้งรัฐอาหรับแต่เพียงแห่งเดียว และทำหน้าที่คุ้มครองสิทธิของคนยิวที่เป็นชนกุล่มน้อย อนึ่ง ตามข้อมติของสมัชชาสหประชาชาติได้กำหนดให้อำนาจอาณัติเหนือดินแดนปาเลสไตน์ สิ้นสุดลงและให้กองทหารอังกฤษถอนตัวออกไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และอย่างช้าไม่เกินวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1948 นอกจากนั้นยังให้คณะมนตรีภาวะทรัสตีของสหประชาชาติจัดทำธรรมนูญการปกครองโดย ละเอียดสำหรับนครเยรูซาเล็มจากนั้น สมัชชาสหประชาชาติได้ตั้งคณะกรรมาธิการปาเลสไตน์แห่งสหประชาชาติขึ้น ประกอบด้วยประเทศโบลิเวีย เช็คโกสโลวาเกีย เดนมาร์ก ปานามา และฟิลิปปินส์ ทำหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะของสมัชชา ส่วนคณะมนตรีความมั่นคงก็ได้รับการขอร้องให้วางมาตรการที่จำเป็น เพื่อวินิจฉัยว่า สถานการณ์ในปาเลสไตน์จักถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพหรือไม่ และถ้าหากมีการพยายามที่จะใช้กำลังเพื่อเปลี่ยนแปลงความตกลงตามข้อมติของ สมัชชาเมื่อใด ให้ถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพ โดยอาศัยข้อ 39 ของกฎบัติสหประชาชาติเป็นบรรทัดฐาน [การทูต] |
Regional Organizations | คือองค์การส่วนภูมิภาค ในเรื่องนี้ ข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติไว้ว่า ?ไม่มีข้อความใดในกฎบัตรฉบับปัจจุบัน อันจักริดรอนสิทธิประจำตัวในการป้องกันตนเองโดยลำพังหรือโดยร่วมกัน หากการโจมตีโดยกำลังอาวุธบังเกิดแก่สมาชิกของสหประชาชาติ จนกว่าคณะมนตรีความมั่นคงจะได้ดำเนินมาตรการที่จำเป็น เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ มาตรการที่สมาชิกได้ดำเนินไปในการใช้สิทธิป้องกันตนเองนี้ จักต้องรายงานให้คณะมนตรีความมั่นคงทราบโดยทันที และจักไม่กระทบกระเทือนอำนาจและความรับผิดชอบของคณะมนตรีความมั่นคงภายใต้กฎ บัตรฉบับปัจจุบันแต่ทางหนึ่งทางใด ในอันที่จักดำเนินการเช่นที่เห็นจำเป็น เพื่อธำรงไว้หรือสถาปนากลับคืนมา ซึ่งสันติภาพความมั่นคงระหว่างประเทศ?จะเห็นได้ว่า ประเทศต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคเดียวกันมักจะทำข้อตกลงกันในส่วนภูมิภาค โดยอาศัยสนธิสัญญา และโดยที่อาศัยอยู่ในเขตภูมิศาสตร์ใกล้เคียงกัน ( Geographical Propinquity ) หรือมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด และมีวัตถุประสงค์ที่จะอำนวยความร่วมมือและความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเมืององค์การส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่งที่พอจะหยิบยก มาเป็นตัวอย่างได้ คือ องค์การสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEATO) ซึ่งบัดนี้ได้ยุบเลิกไปแล้วเพราะหมดความจำเป็น องค์การรัฐอเมริกัน (Organization of American States-OAS) องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือนาโต้ (NATO) องค์การร่วมมือระหว่างออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา (ANZUS) เป็นต้น องค์การภูมิภาคเหล่านี้ตั้งขึ้นโดยอาศัยข้อ 51 ของกฎบัตร สหประชาชาติ ซึ่งกล่าวถึงสิทธิของประเทศสมาชิกที่จะทำการป้องกันตนเองโดนลำพังหรือโดย ร่วมกัน หากถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธ [การทูต] |
Stalemate | ภาวะจนมุม เป็นคำที่ยืมมาจากเกมหมากรุกและใช้ในความหมายที่ว่า ตกอยู่ในสภาพชะงักงันหรือทางตัน คำนี้จะใช้กันแพร่หลายในด้านการทูต และในด้านการเจรจาระหว่างประเทศ คือ ทั้งสองฝ่ายต่างยึดมั่นในหลักการของแต่ละฝ่าย ซึ่งแตกต่างกันได้ก็ด้วยอาศัยมือที่สาม หรือประเทศที่สามเข้ามาแทรกแซงแก้ไขให้ [การทูต] |
Treaty of Amity and Cooperation | สนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ " เป็นสนธิสัญญาที่จัดทำขึ้นโดยอาเซียนเมี่อปี พ.ศ. 2519 เพื่อกำหนด หลักการดำเนินความสัมพันธ์ในภูมิภาค โดยมีหลักการที่สำคัญได้แก่ การเคารพในอำนาจอธิปไตย ความเท่าเทียมกัน บูรณภาพแห่งดินแดน การไม่แทรกแซงกิจการภายใน การแก้ไขปัญหาโดยสันติ การไม่ใช้หรือขู่ว่าจะใช้กำลัง และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน รวมทั้งมีมาตราเกี่ยวกับแนวทางยุติความขัดแย้งโดยสันติวิธี โดยอาศัยกลไกคณะอัครมนตรี (High Council) ปัจจุบันประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้ง 10 ประเทศ เป็นภาคีสนธิสัญญาฯ " [การทูต] |
Voting Procedure in the United Nations | วิธีการลงคะแนนเสียงในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ในเรื่องนี้ สมาชิกแต่ละประเทศมีคะแนนเสียง 1 คะแนน ข้อมติของสมัชชาในปัญหาสำคัญ (Important Questions) จะกระทำโดยถือคะแนนเสียงข้างมาก 2 ใน 3 ของสมาชิกที่มาประชุมและออกเสียง ที่เรียกว่าปัญหาสำคัญนั้นได้แก่ ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ การเลือกตั้งสมาชิกไม่ประจำของคณะมนตรีความมั่นคง การเลือกตั้งสมาชิกของคณะมนตรีเศรษฐกิจและการสังคม การเลือกตั้งสมาชิกของคณะมนตรีภาวะทรัสตี การรับสมาชิกใหม่ของสหประชาชาติ การงดใช้สิทธิและเอกสิทธิแห่งสมาชิกภาพ การขับไล่สมาชิก ปัญหาการดำเนินงานของระบบภาวะทรัสตี และปัญหางบประมาณ คำวินิจฉัยปัญหาอื่น ๆ รวมทั้งการกำหนดประเภทแห่งปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยด้วยคะแนนเสียงข้างมาก 2 ใน 3 เพิ่มเติมนั้น จัดกระทำโดยอาศัยคะแนนเสียงข้างมากของสมาชิกที่มาประชุมและออกเสียงอนึ่ง ในการเลือกตั้งผู้พิพากษาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ผู้ที่ได้รับเลือกตั้งจักต้องได้รับคะแนนเสียงข้างมากเด็ดขาด (Absolute majority) ในที่ประชุมของสมัชชาและในที่ประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงด้วย นอกจากนี้สมาชิกสหประชาชาติที่ค้างชำระค่าบำรุงแก่องค์การ ย่อมไม่มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในสมัชชา ถ้าหากจำนวนเงินที่ค้างชำระเท่าหรือมากกว่าจำนวนเงินค่าบำรุงที่ถึงกำหนด ชำระสำหรับ 2 ปีเต็มที่ล่วงมา อย่างไรก็ตาม สมัชชาอาจอนุญาตให้สมาชิกเช่นว่านั้นลงคะแนนเสียงก็ได้ ถ้าทำให้เป็นที่พอใจได้ว่า การไม่ชำระนั้น เนื่องมาจากภาวะอันอยู่นอกเหนืออำนาจควบคุมของสมาชิกนั้น [การทูต] |
ก๊าซธรรมชาติ | สารประกอบไฮโดรคาร์บอนชนิดหนึ่ง เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติประกอบด้วยธาตุไฮโดรเจนและคาร์บอนทีเกิดจากการทับถาม ของซากพืชและสัตว์ จำพวกจุลินทรีย์ที่อาศัยในโลกมานานนับร้อยล้านปี สามารถผลิตได้จากแหล่งใต้พื้นพิภพโดยตรงหรือติดมากับน้ำมันดิบจากหลุมน้ำมัน ดิบ โดยส่วนใหญ่จะมีก๊าซมีเทนตั้งแต่ 70% ขึ้นไป [ปิโตรเลี่ยม] |
Biosensor | ไบโอเซ็นเซอร์, อุปกรณ์ตรวจจับ บันทึก แสดง หรือส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา โดยที่อุปกรณ์ดังกล่าวทำงานโดยอาศัยสารชีวภาพ ในขั้ตอนใดขั้นตอนหนึ่งของการตรวจวัดสารเคมีหรือชีวโมเลกุลจำเพาะชนิดใดชนิดหนึ่ง [เทคโนโลยีชีวภาพ] |
Extruder | เครื่องอัดผ่านดาย คือ เครื่องมือที่ใช้สำหรับขึ้นรูปยางที่อาศัยการอัดยางผ่านดาย (die) ที่มีรูปร่างต่างๆ ตามลักษณะของผลิตภัณฑ์ ตัวเครื่องประกอบด้วยกระบอกที่ให้ความร้อนได้ และมีสกรูหมุนอยู่ภายใน เมื่อใส่ยางคอมพาวด์เข้าไป สกรูจะทำหน้าที่บดยางและอัดยางให้ไหลออกผ่านดาย ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ยางที่ขึ้นรูปโดยใช้เทคนิคนี้ได้แก่ ท่อยาง ยางหุ้มสายเคเบิ้ล ยางขอบกระจก และยางรัดของ เป็นต้น [เทคโนโลยียาง] |
Mixer | เครื่องมือที่ใช้ในการบดผสมยางให้เข้ากับสารเคมีโดยอาศัยแรงทางกล (แรงเฉือน) [เทคโนโลยียาง] |
Anaerobic Culture | การเลี้ยงเชื้อโรคโดยไม่อาศัยออกซิเจน [การแพทย์] |
Anatomic Staging | การจัดระยะของโรคโดยอาศัยกายวิภาค [การแพทย์] |
อาศัย | [āsai] (n) EN: dwelling ; residence ; quarters ; habitat ; natural environment FR: résidence [ f ] ; lieu d'habitation [ m ] ; habitat [ m ] |
อาศัย | [āsai] (v) EN: dwell ; inhabit ; live ; lodge ; reside ; settle ; rest ; abide ; stay FR: habiter ; vivre ; résider ; loger ; gîter |
อาศัย | [āsai] (v) EN: rely on ; live on ; depend on ; cling to ; rest on ; resort to ; be based on FR: dépendre de |
อาศัยอยู่ | [āsai yū] (v, exp) EN: reside ; stay at ; stay in ; stay overnight FR: loger ; demeurer |
บ้านพักอาศัย | [bānphak āsai] (n, exp) EN: residence ; domicile ; habitation ; home ; house FR: résidence [ f ] ; domicile [ m ] ; habitation [ f ] |
โดยอาศัย | [dōi āsai] (x) EN: by means of ; relying on ; with the aid of ; using ; through ; by virtue of ; by resorting to FR: à l'aide de ; à force de |
โดยอาศัยอำนาจ | [dōi āsai amnāt] (x) EN: by virtue of |
ให้อาศัยอยู่ | [hai āsai yū] (v) EN: house FR: abriter ; s'abriter |
ให้ที่พักอาศัย | [hai thīphak āsai] (v, exp) EN: house FR: abriter ; s'abriter |
การสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ | [kān seūpphan baēp āsai phēt] (n, exp) EN: sexual reproduction FR: reproduction sexuée [ f ] |
การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศ | [kān seūpphan baēp mai āsai phēt] (n, exp) EN: asexual reproduction |
การอยู่อาศัย | [kān yū āsai] (n, exp) EN: dwelling ; residence FR: résidence [ f ] |
แหล่งที่อยู่อาศัย | [laeng thīyū-āsai] (n, exp) FR: habitat [ m ] ; milieu [ m ] |
ไม้อิงอาศัย | [māi ing āsai] (n, exp) EN: epiphytic plant |
พักอาศัย | [phak-āsai] (v, exp) EN: stay ; live ; reside FR: loger ; demeurer ; gîter (vx - litt.) |
ภาวะอิงอาศัย | [phāwa ing āsai] (n, exp) EN: commensalism FR: commensalisme [ m ] |
พึ่งพาอาศัย | [pheungphā āsai] (v, exp) EN: depend on ; rely on ; lean on ; count on FR: avoir recours à |
พึ่งพาอาศัยกัน | [pheungphā āsai kan] (v, exp) EN: mutually depend on each other |
พืชอาศัย | [pheūt āsai] (n, exp) EN: epiphyte FR: épiphyte [ m ] |
ผู้อาศัย | [phū-āsai] (n) EN: inhabitant ; tenant ; occupant |
ผู้อาศัย | [phū-āsai] (n) EN: member of the family ; dependent |
ผู้พักอาศัย | [phū phak-āsai] (n) EN: occupant FR: occupant [ m ] |
ผู้ที่อาศัยอยู่ตามภูเขา | [phū thī āsai yū tām phūkhao] (n, exp) EN: mountain man ; mountain-dweller FR: montagnard [ m ] ; montagnarde [ f ] ; habitant des montagnes [ m ] |
ผู้อยู่อาศัย | [phūyū-āsai] (n) EN: inhabitant ; resident ; occupant ; dweller FR: habitant [ m ] |
ปกครองประเทศโดยอาศัยอำนาจกฎอัยการศึก | [pokkhrøng prathēt dōi āsai amnāt kot aiyakānseuk] (v, exp) EN: rule the country by resorting to martial law |
ปราศจากที่อยู่อาศัย | [prātsajāk thīyū āsai] (v, exp) EN: be homeless FR: être sans domicile |
สำหรับใช้ในที่อยู่อาศัย | [samrap chai nai thīyū-āsai] (xp) EN: for household use FR: pour usage domestique |
สิทธิอาศัย | [sitthi āsai] (n, exp) EN: right of abode |
ที่อาศัย | [thī āsai] (n) EN: shelter FR: logement [ m ] ; logis [ m ] ; abri [ m ] |
ถิ่นอาศัย | [thin āsai] (n, exp) EN: habitat ; natural environment FR: habitat naturel [ m ] |
ที่อยู่อาศัย | [thīyū-āsai] (n) EN: residence ; place of residence ; domicile ; dwelling FR: résidence [ f ] ; domicile [ m ] |
ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน | [thøithīthøi āsai kan] (v, exp) EN: be mutually dependent ; mutually depend on each other ; be interdependent |
ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน | [thøithīthøi āsai kan] (adj) EN: reciprocal ; mutually dependent ; dependent upon one another |
อยู่อาศัย | [yū-āsai] (v, exp) EN: live ; settle ; inhabit FR: vivre ; évoluer |
abide | (vi) อยู่, See also: อาศัย, พักอาศัย, อาศัยอยู่, Syn. bide, stay, live |
abode | (n) บ้าน, See also: ที่พัก, ที่อยู่อาศัย, Syn. house, dwelling, residence |
address | (n) หลักแหล่ง, See also: ที่พัก, ที่อยู่อาศัย, ที่อยู่, Syn. residence, dwelling, home |
aerobe | (n) สิ่งมีชีวิต, See also: สิ่งที่มีชีวิตอยู่ได้โดยต้องอาศัยออกซิเจน |
African American | (n) คนผิวดำที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา |
Afro-American | (adj) เกี่ยวกับคนผิวดำที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา |
Afro-American | (n) คนผิวดำที่อาศัยอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา |
amphibious | (adj) ซึ่งอาศัยอยู่ได้ทั้งในน้ำและบนบก |
aquatic | (adj) เกี่ยวกับน้ำ, See also: ซึ่งอาศัยน้ำ, Syn. watery, aqueous |
abide at | (phrv) พัก, See also: อาศัย, อยู่, Syn. abide in |
abide in | (phrv) พัก (คำเก่า), See also: อาศัย, อยู่, Syn. abide at |
backwoodsman | (n) คนที่อาศัยอยู่ในบริเวณห่างไกล, See also: คนชนบท, Syn. countryman |
bedsit | (n) ห้องที่ให้เช่าและพักอาศัย, Syn. bedsitter, bed sitting room |
bedsitter | (n) ห้องที่ให้เช่าและพักอาศัย |
biosphere | (n) ส่วนของพื้นผิวและบรรยากาศของโลกที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่, Syn. ecosphere |
batten on | (phrv) กินดีอยู่ดี (โดยอาศัยผู้อื่น), Syn. fatten on |
batten upon | (phrv) กินดีอยู่ดี (โดยอาศัยผู้อื่น), See also: สมบูรณ์ดี, Syn. fatten on |
bomb out | (phrv) ระเบิดทำให้ไร้ที่อยู่อาศัย |
build on | (phrv) มั่นใจในการทำบางสิ่ง, See also: อาศัย, พึ่งพา บางสิ่งหรือบางคน, Syn. depend on |
build upon | (phrv) มั่นใจในการทำบางสิ่ง, See also: อาศัย, พึ่งพา, Syn. depend on |
burn out | (phrv) ทำให้ไร้ที่อยู่อาศัยเพราะไฟไหม้ |
capsule | (n) ส่วนของยานอวกาศที่นักบินอวกาศอาศัยอยู่และใช้เดินทางกลับสู่พื้นโลก, Syn. satellite, spaceship |
cave man | (n) มนุษย์ในยุคหินที่อาศัยอยู่ในถ้ำ, Syn. cave dweller, caveman |
caveman | (n) มนุษย์ในยุคหินที่อาศัยอยู่ในถ้ำ, Syn. cave dweller, cave man |
cell | (vi) อาศัยอยู่ในห้องเล็กๆ |
chamber | (vt) จัดห้องให้, See also: พำนัก, อาศัย, Syn. harbor, haven, house |
chamberlain | (n) ผู้ที่มีหน้าที่ควบคุมดูแลงานภายในพระราชวังหรือที่อาศัยของชนชั้นสูง |
colonist | (n) ผู้ที่ไปอาศัยในอาณานิคม |
commensal | (adj) ที่อยู่แบบพึ่งพาอาศัยกัน |
coyote | (n) สุนัขป่าชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ทางตอนเหนือของทวีปอเมริกา |
dwell at | (phrv) อาศัยอยู่ที่ |
dwell in | (phrv) อาศัยอยู่ใน |
dwell on | (phrv) อาศัย (คำโบราณ), Syn. dwell upon |
dwell upon | (phrv) อาศัย (คำโบราณ), Syn. dwell upon |
flood out | (phrv) ทำให้ไร้ที่อยู่อาศัยเพราะน้ำท่วม, Syn. drown out |
freeze out | (phrv) ทำให้ไร้ที่อยู่อาศัยเพราะหนาวเย็น |
denizen | (vt) ผู้อาศัย, See also: ผู้พักพิง |
denizen | (n) ให้สิทธิในการพักอาศัย, See also: ย้ายที่อยู่, Syn. inhabitant |
denizen | (n) ผู้อาศัย, See also: ผู้พักพิง, ผู้อยู่ |
denizen | (vt) ให้สิทธิในการพักอาศัย, See also: ให้สิทธิพักพิง |
depend | (vi) ขึ้นอยู่กับ, See also: พึ่งพิง, อาศัย, พึ่งพา, Syn. to be contingent on hang upon, centeron |
dependence | (n) การพึ่งพาอาศัย, See also: การไว้เนื้อเชื่อใจ |
dependency | (n) การพึ่งพาอาศัย, See also: การไว้เนื้อเชื่อใจ |
deserted | (adj) ซึ่งรกร้าง, See also: ซึ่งถูกทอดทิ้ง, ซึ่งไม่มีคนอาศัยอยู่, ซึ่งว่างเปล่า, Syn. abandoned, heglected |
diggings | (n) พื้นที่ที่มีการขุด, See also: ที่อยู่อาศัย |
dwell | (vi) อาศัย, See also: อยู่พัก, พำนัก, อาศัยอยู่, Syn. reside, live, lodge, Ant. leave, go, depart |
dweller | (n) ผู้อยู่อาศัย, See also: ผู้อาศัย, Syn. inhabitant, indweller |
dwelling | (n) บ้าน, See also: ที่อยู่, ที่พักอาศัย, Syn. house, residence |
earth | (n) มนุษย์, See also: มวลมนุษย์, คนที่อาศัยอยู่บนโลก |
Eden | (n) สวนอีเดน, See also: สวนที่อาดัมกับอีฟอาศัยอยู่ |
abide | (อะไบดฺ') vi. รักษาหรือ ปฏิบัติตาม, อาศัยอยู่, ทน, ยืดถือ, รอคอย. -abidance n., Syn. stay, bear, live, Ant. evade |
abode 1 | (อะโบด') n. ที่พักอาศัย, Syn. home |
abri | (เอบรี') n. (pl. abris) ที่พักอาศัยของผู้อพยพ (place of refuge) |
aerobe | (แอ' โรบ) n. สิ่งมีชีวิต (โดยเฉพาะแบคทีเรีย) ที่ต้องอาศัยออกซิเจนในการดำรงชีพ |
aid | (เอด) vt., n. ช่วยเหลือ, สงเคราะห์, อนุเคราะห์, ช่วยฉุกเฉิน, ผู้ช่วย, ผู้อุปถัมภ์, การอาศัย, แรงช่วย, สิ่งช่วย. -aider n. -aidful adj. |
allemande | (แอล' ลิมานดฺ) n., (pl. -mandes) การเต้นรำในศตวรรษที่ 17-18 ที่มีจังหวะคู่ที่ช้า, ดนตรีที่อาศัยหลักการเต้นรำดังกล่าว |
altricial | (แอลทริซ' เชียล) adj. ซึ่งช่วยตัวเองไม่ได้ตอนฝักออกมา ต้องอาศัยแม่หรือพ่อคอยดูแล |
apish | (เอ'พิช) adj. คล้ายมนุษย์วานรหรือลิงไม่มีหาง, เลียนแบบคน, โง่เง่า. -apishness n.apivorous (เอฟีฟ'เวอรัส) adj. อาศัยผึ้งเป็นอาหารในการยังชีพ (feeding on bees) |
appeal | (อะพีล') n., vi. อุทธรณ์, ร้องขอ, อ้อนวอน, เรียกร้อง, ใช้, อาศัย, ดึงดูดใจ, ซาบซึ้ง. -appealer n., Syn. request, call |
aquatic | (อะควอท'ทิค) adj.อาศัยหรือมีชีวิตอยู่ใต้น้ำ, ปฏิบัติการในหรือบนน้ำ. -aquatics กีฬาบนหรือในน้ำ (of water) |
autotroph | (ออ'โททรอฟ) n. สิ่งมีชีวิตที่อาศัยอนินทรีย์สารเป็นอาหาร. -autotrophic adj. -autotrophy n. (Cf. heterotroph) |
bank switching | การสลับชิปไปมาหมายถึง การสลับไปมาของการใช้ชิปในหน่วยความจำเดิมที่ติดมากับเครื่อง กับหน่วยความจำที่เพิ่มภายหลัง ที่สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว จนกระทั่งทำให้รู้สึกเสมือนว่า หน่วยความจำทั้งสองนั้นเป็นหน่วยความจำเดียวกัน เช่น บริษัทไอบีเอ็มผลิตไมโครคอมพิวเตอร์ออกมาขายในตลาดโดยมีหน่วยความจำติดมาภายในตัวเครื่องเพียง 640 เคไบต์ แต่เรานำไปเพิ่มหน่วยความจำเป็นถึง 16 เมกกะไบต์ การที่จะทำให้หน่วยความจำเดิมกับหน่วยความจำที่เพิ่มมาใหม่ทำงานสลับกันไปมาได้ ก็จะต้องอาศัยการสลับชิปไปมานี้ อย่างไรก็ตาม หากเราเป็นเพียงผู้ใช้เครื่อง (user) ก็ไม่จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องนี้เท่าไรนัก เป็นหน้าที่ของช่างฝ่ายเทคนิคที่จะต้องติดตั้งหรือจัดการทำให้ |
box | (บอคซฺ) { boxed, boxing, boxes } n. คล่อง, ลัง, หีบ, กล่อง, กลัก, คอก, สิ่งที่บรรจุอยู่, บ้านเล็ก, กระท่อม, ที่นั่งคนขับรถม้า, ที่พักอาศัยเล็ก, ตู้จดหมาย, ตู้โทรศัพท์, ตู้รถม้า, ตู้ไปรษณีย์ช่องคลอด, การต่อย, การตบ vt. ใส่ในกล่อง (หีบ, ลัง) , ตบ, ต่อย, ตบที่หู, ต่อยที่หู |
burgess | n. ประชากร, พลเมือง, ผู้อยู่อาศัย |
bushman | (บ?ช'เมิน) n. คนที่ชอบอาศัยอยู่ในป่า, คนป่า |
bushranger | n. คนที่อาศัยอยู่ในป่า, พราน, โจรที่อาศัยอยู่ในป่า, See also: bushranging n. |
by | (บาย) prep. โดย, ไปยัง, ข้าง, อยู่ข้าง, ใกล้, ติดตัว, ไปทาง, ทาง, หันไปทาง, จาก, ผ่าน, ผ่านไป, ผ่านข้าง, ของ, อาศัย, ใช้, ที่, ทีละ, ต่อ adj. อยู่ใกล้, ใกล้ -Conf. with |
cae | (ซีเออี) ย่อมาจาก computer-aided engineering (งานวิศวกรรมใช้คอมพิวเตอร์ช่วย) หมายถึง การออกแบบคำนวณเชิงวิศวกรรมนั้น สามารถทำได้โดยอาศัยคอมพิวเตอร์กำหนดสูตรสำเร็จ และจะเปลี่ยนแปลงความต้องการได้เมื่อเปลี่ยนข้อมูล |
cockney | n., adj. (เกี่ยวกับ) ชาวลอนดอนทางด้านตะวันออกที่เป็นที่อยู่อาศัยของคนจน, See also: cockneyish adj. ดูcockney cockneyism n. ดูcockney |
commensal | (คะเมน'เซิล) adj. ซึ่งอาศัยอยู่ด้วยกันโดยไม่ทำอันตรายแก่กัน, ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวและไม่แข่งขันหรือแย่งกัน., See also: commensalism n. ดูcommensal -commensality n. ดูcommensal |
computer aided engineerin | งานวิศวกรรมใช้คอมพิวเตอร์ช่วยใช้ตัวย่อว่า CAE (อ่านว่า ซีเออี) หมายถึง การออกแบบคำนวณเชิงวิศวกรรมนั้น สามารถทำได้โดยอาศัยคอมพิวเตอร์กำหนดสูตรสำเร็จ และจะเปลี่ยนแปลงความต้องการได้เมื่อเปลี่ยนข้อมูล |
computer aided system eng | วิศวกรรมระบบใช้คอมพิวเตอร์ช่วยใช้ตัวย่อว่า CASE (อ่านว่าเคส) หมายความถึง การสร้างโปรแกรมระบบโดอาศัยคอมพิวเตอร์ช่วย |
continental | (คอนทิเนน'เทิล) adj. เกี่ยวกับทวีป n. ผู้อาศัยอยู่บนผืนแผ่นดินใหญ่ |
corody | (คอ'ระดี) n. สิทธิในการับอาหาร, เสื้อผ้าและการพักอาศัย, อาหาร ที่อยู่และเสื้อผ้าที่ได้รับดังกล่าว. |
corrody | (คอ'ระดี) n. สิทธิในการับอาหาร, เสื้อผ้าและการพักอาศัย, อาหาร ที่อยู่และเสื้อผ้าที่ได้รับดังกล่าว. |
cubit | (คิว'บิท) n. หน่วยเส้นตรงโบราณที่อาศัยความยาวของแขนเป็นหลัก (17-21 นิ้ว) |
decentralized data proces | การประมวลผลข้อมูลแบบแยกจากศูนย์หมายถึงการประมวลผลข้อมูลที่มีการเก็บข้อมูลไว้ที่หน่วยงานแต่ละหน่วย ต่างฝ่ายต่างประมวลผลไปได้เองโดยไม่ต้องอาศัยข้อมูลจากกัน |
demersal | (ดีเมอ'ซัล) adj. ซึ่งอาศัยอยู่ใต้น้ำ |
den | (เดน) { denned, denning, dens } n. ถ้ำสัตว์, รัง, กรงสัตว์, ซ่องโจร, ห้องสกปรกเล็ก ๆ , ห้องส่วนตัว vi. อาศัยอยู่ในถ้ำ vt. ไล่เข้าถ้ำ |
denizen | n. ผู้อาศัย, ผู้พำนัก, ชาวต่างด้าวที่ได้รับสิทธิบางอย่างของพลเมือง, สัตว์หรือพืชที่ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมใหม่, Syn. inhabitant, Ant. outsider |
depend | (ดีเพนดฺ') { depended, depending, depends } vi. ขึ้นอยู่กับ, อาศัย, อยู่ที่, สุดแล้วแต่, พึ่งพา, แขวนหรือห้อยอยู่, เชื่อถือ |
dependant | (ดีเพน'เดินทฺ) n. ผู้อาศัย, ผู้อยู่ภายใต้การอุปถัมภ์, ผู้รับใช้ ดูdependent |
dependent | (ดิเพน'เดินทฺ) adj. ขึ้นอยู่กับ, แล้วแต่, ซึ่งห้อยอยู่. n. ผู้อาศัย, ผู้อยู่ในความอุปถัมภ์, Syn. dependant |
diggings | (ดิก'กิงซ) n. พื้นที่ที่มีการขุด, สถานที่อยู่อาศัย |
dwell | (ดเวล) vi. อาศัยอยู่, พักอยู่, อยู่, ลังเล, รีรอ., See also: dweller n., Syn. inhabit, stay |
dwelling | (ดเวล'ลิง) n. ที่อาศัย, ที่อยู่, ที่พำนัก |
ectozoa | n., pl. ปรสิตที่เป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่บนร่างกายเช่นเหา., See also: ectozoan adj., n. -Sing. -zoon |
electrothermal printer | เครื่องพิมพ์แบบใช้ความร้อนเป็นเครื่องพิมพ์หรืออุปกรณ์แสดงผลของคอมพิวเตอร์ชนิดหนึ่ง ที่จัดอยู่ในประเภทเครื่องพิมพ์แบบไม่กระทบ (non impact printer) กล่าวคือจะพิมพ์ออกมาในลักษณะเป็นจุด ๆ (dot matrix) ทีละจุด โดยอาศัยความร้อนที่ปลายเส้นลวด แล้วทำให้เกิดเป็นรูปแบบตัวอักษรในลักษณะต่าง ๆ บนกระดาษมีความหมายเหมือน thermal printer |
elf | (เอลฟฺ) n., เทพดานางไม้, ภูติหรือเทพดา (ของฝรั่ง) ที่มีรูปร่างเล็กอาศัยอยู่ตามป่าไม้, คนรูปร่างเล็ก, เด็กดื้อ, เด็กซน, คนเลว, See also: elifish adj. ดูelf -pl. elves |
empiric | (เอมเพอ'ริค) n. ผู้ที่อาศัยความชำนาญหรือประสบการณ์ (ไม่ใช่ความรู้) . ผู้อาศัยความสังเกต (ไม่ใช่อาศัยเหตุผล) หมอเถื่อน, หมอกำมะลอ. adj. ดูempirical, See also: empiricism n. ดูempiric empiricist n. ดูempiric |
empirical | (เอมพี'ริเคิล) adj. ซึ่งได้จากประสบการณ์หรือการทดลองหรือการสังเกต (โดยไม่อาศัยวิทยาศาสตร์หรือทฤษฎี), See also: empiricalness n. ดูempirical |
error correcting code | รหัสแก้ความผิดพลาดหมายถึง รหัสที่สามารถช่วยแก้ไขข้อผิดพลาด ซึ่งอาจเกิดขึ้นในขณะอ่านข้อมูล ส่งข้อมูล และพิมพ์ผลลัพธ์ การค้นพบนี้จะอาศัยการใช้บิตเสริม (parity bit) พิเศษในข้อมูลนั้น ๆ ซึ่งจะชี้ไปที่บิตที่มี ความผิดพลาด และจะเปลี่ยนค่าจาก 0 เป็น 1 หรือ 1 เป็น 0 ให้ |
from | (ฟรอม) prep. จาก, นับจาก, ห่างจาก, เนื่องจาก, มาจาก, ตั้งแต่, เนื่องด้วย, เนื่องแต่, โดยอาศัย |
groundling | (เกราดฺ'ลิง) n. พืชหรือสัตว์ที่อาศัยอยู่บนพื้นดิน, ปลาที่อาศัยอยู่ใต้น้ำ, คนที่หยาบคาย, คนป่า, คนชั้นต่ำ |
guest | (เกสทฺ) n. แขก, ลูกค้า, ผู้มาพักอาศัย vt. ต้อนรับแขก. vi. เป็นแขก, Syn. caller, visitor |
gynaeceum | n. ที่อยู่อาศัยของผู้หญิง, เกสรตัวเมียของดอกไม้ -pl. gynaecea |
habit | (แฮบ'บิท) n. นิสัย, ความเคยชิน vt. การแต่งตัว, สวมเสื้อผ้า, อาศัยอยู่ใน, Syn. custom, fashion |
habitable | (แฮบ'บิทะเบิล) adj. ซึ่งอาศัยอยู่ได้ |
habitant | (แฮบ'บิทันทฺ) n. ผู้อาศัย, ผู้พำนัก |
habitat | (แฮบ'บิแทท) n. ถิ่นที่อยู่ของพืชหรือสัตว์, สิ่งแวดล้อมของถิ่นที่อยู่ของพืชหรือสัตว์. ที่อยู่อาศัย, Syn. habitation |
abide | (vi) อาศัยอยู่ |
abode | (n) ที่อาศัย, ที่อยู่, ที่พัก |
asylum | (n) ที่พักอาศัย, ที่ลี้ภัย, โรงพยาบาลบ้า |
cottager | (n) ชาวชนบท, ผู้อาศัยอยู่ในกระท่อม |
denizen | (n) พลเมือง, ผู้พักพิง, ผู้อยู่อาศัย, ผู้พำนัก |
depend | (vi) เชื่อถือ, ไว้ใจ, พึ่งพิง, อาศัย, ขึ้นอยู่กับ |
dependence | (n) ความเชื่อใจ, ความไว้ใจ, การพึ่งพาอาศัย, เมืองขึ้น |
dependency | (n) ประเทศราช, เมืองขึ้น, การอาศัย, การพึ่งพา |
dependent | (adj) เป็นผลมาแต่, ขึ้นอยู่กับ, ต้องอาศัย, ต้องพึ่งพา |
dependent | (n) คนที่คอยพึ่งผู้อื่น, ผู้อาศัย, คนรับใช้ |
domicile | (n) บ้านเกิด, ที่อยู่อาศัย, ที่พัก, ภูมิลำเนา, บ้าน, ถิ่นที่อยู่ |
domicile | (vi) พักอาศัย, พักพิง, ตั้งภูมิลำเนา |
dwell | (vi) พำนัก, พักพิง, อาศัย, พักอยู่ |
dweller | (n) ผู้พำนัก, ผู้อยู่อาศัย, ผู้พำนักพักพิง, ผู้อาศัย |
dwelling | (n) ที่พำนัก, ที่พักพิง, ที่อาศัย, ที่อยู่อาศัย |
empirical | (adj) เกี่ยวกับการทดลอง, ชัดเจน, โดยอาศัยการสังเกต, ซึ่งได้จากประสบการณ์คี |
habit | (vt) แต่งกาย, แต่งตัว, สวมเสื้อผ้า, อาศัยอยู่ใน |
habitable | (adj) พออยู่ได้, พออาศัยได้, ซึ่งพำนักได้ |
habitat | (n) ถิ่นที่อยู่, เคหสถาน, ที่พักอาศัย, ที่พำนัก, ที่อยู่อาศัย |
habitation | (n) การพักพิง, การอยู่, ที่อยู่, ที่อาศัย, ที่พำนัก, ที่สิงสู่ |
home | (n) บ้านเรือน, ที่อยู่อาศัย, ถิ่นกำเนิด |
homestead | (n) เคหสถาน, นิวาสถาน, ที่อยู่อาศัย |
inhabit | (vt) อยู่, อาศัยอยู่, มีอยู่ใน |
inhabitable | (adj) อยู่ได้, อาศัยอยู่ได้ |
inhabitant | (n) ประชากร, พลเมือง, ชาวบ้าน, ผู้อาศัย |
inmate | (n) คนอยู่บ้านเดียวกัน, ผู้อยู่อาศัย |
interdependence | (n) การพึ่งพาอาศัยกัน |
interdependent | (adj) พึ่งพาอาศัยกัน |
live | (vi) อยู่, มีชีวิต, ดำเนินชีวิต, มีอายุ, อาศัยอยู่ |
liver | (vt) ตับ, ผู้อาศัย |
lodge | (n) ที่อยู่, ที่อาศัย, ที่พัก, บ้าน, เคหสถาน, หอ, กระท่อม |
lodge | (vi) อยู่, อาศัย, พักอาศัยอยู่, พักชั่วคราว |
lodge | (vt) ให้ที่อาศัย, ให้อยู่, ฝาก, มอบ, เสนอ, รับรอง, พำนัก |
lodger | (n) ผู้เช่าห้อง, ผู้พักอาศัย |
nestle | (vi, vt) เบียด, ซบ, อิงแอบ, อุ้ม, อาศัยอยู่, ตั้งรกราก, ทำรัง |
occupancy | (n) การครอบครอง, การยึดครอง, การพักอาศัย |
occupant | (n) ผู้ครอบครอง, ผู้ยึดครอง, ผู้เช่า, ผู้พักอาศัย |
people | (vt) ตั้งรกราก, เข้าไปอาศัย, บรรจุคน |
populate | (vt) พำนักอยู่, ตั้งบ้านเรือนอยู่, ตั้งถิ่นฐาน, อาศัยอยู่ |
refuge | (n) ที่พักอาศัย, ที่พำนัก, ที่พึ่ง, ร่มโพธิ์ร่มไทร |
rely | (vi) วางใจ, ไว้ใจ, เชื่อมั่น, อาศัย, พี่งพา |
reside | (vi) อยู่อาศัย, อาศัยอยู่, อยู่ประจำ |
residence | (n) ถิ่นที่อยู่, ที่อยู่, ที่อาศัย, การอยู่อาศัย |
resident | (n) จวน, ที่อาศัย, ทำเนียบ, ชาวเมือง, ผู้อยู่อาศัย, แพทย์ฝึกหัด |
residential | (adj) สำหรับอยู่อาศัย, เกี่ยวกับถิ่นที่อยู่ |
resort | (vt) ใช้วิธี, พึ่ง, อาศัย, พึ่ง |
roomer | (n) ผู้อาศัย, คนเช่าห้อง |
statistical | (adj) เกี่ยวกับตัวเลข, เกี่ยวกับสถิติ, ที่อาศัยข้อมูล |
stay | (vi) หยุดอยู่, พักอยู่, อาศัยอยู่, ยืนหยัด, ทน, ค้างอยู่ |
tenancy | (n) การเช่าอาศัย, การครอบครอง, สถานที่เช่า, ระยะเวลาเช่า |
abider | (n) ผู้อาศัย, See also: inhabitant, resident, Syn. dweller |
addax | (n) ละมั่งแอฟริกาขนาดใหญ่จำพวกหนึ่ง มีเขาเป็นเกลียว อาศัยอยู่ในทะเลทราย |
Biotrophs | (n) เชื้อโรคที่ตามธรรมชาติ ได้รับอาหารจากเนื้อเยื่อ และดำรงชีวิตอยู่จนครบชีพจักรบนพืชอาศัยที่มีชีวิตอยู่ |
centrifugal pump | (n) ปั้มหอยโข่ง ปั้มน้ำที่อาศัยหลักการหมุนเหวี่ยง |
cyber security | ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์, ภาวะที่เครือข่าย ระบบคอมพิวเตอร์ โปรแกรม และข้อมูล พ้นจากภัยคุกคาม มีลักษณะสำคัญ ๓ ประการ คือ คงความลับ คงความถูกต้องครบถ้วน และคงความพร้อมใช้งาน ภาวะดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยบุคลากร กระบวนการทำงาน และเครื่องมือ ที่เหมาะสม [ ศัพท์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับราชบัณฑิตยสภา ] |
eusociality | (n) ระบบสังคมแบบพึ่งพาอาศัย |
Facultative parasitism | (n) เป็นปรสิตที่สามาถเจริญอยู่ได้โดยได้รับอาหารจากสิ่งมีชีวิตที่มันอาศัยอยู่ โดยไม่จำเป็นต้องอยู่ในพืชเพื่อให้ครบวงจรชีวิต สามารถเจริญหรือเพาะเลี้ยงในอาหารเลี้ยงเชื้อได้ |
Hematopoietic System | การก่อตัวของเลือดหรือเซลล์เม็ดเลือดในร่างกายที่อยู่อาศัย |
Hemibiotrophs | (n) เชื้อโรคที่เป็นปรสิตโดยได้รับอาหารจากเนื้อเยื่อพืชอาศัยซึ่งยังมีชีวิตอยู่ เมื่อเนื้อเยื่อส่วนนั้นตาย เชื้อจะสามารถเจริญต่อไปและเกิดสปอร์ในภายหลังได้ |
Hitchhiker | (n) คนโบกรถขออาศัยโดยสารไปด้วย |
hitching | การโบกรถขออาศัยโดยสารไปด้วย |
homelessness | (n) ไร้ซึ่งที่อยู่อาศัย |
Hypersensitivity | แพ้ (หรือที่เรียกว่าปฏิกิริยาแพ้หรือแพ้) หมายถึงปฏิกิริยาที่ไม่พึงประสงค์ที่ผลิตโดยระบบภูมิคุ้มกันปกติรวมถึงโรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกันอัตโนมัติ ปฏิกิริยาแพ้ต้องมีสถานะก่อนไวต่อความรู้สึก (ภูมิคุ้มกัน) ของโฮสต์ (สัตว์หรือพืชที่เป็นที่อาศัยของปรสิต) |
inhabited | [อินฮาบิเดดท] (n, vt) ที่อาศัยอยู่ |
inhabited | [อินฮาบิเดดท] (n, vt) ที่อาศัยอยู่ |
inhabited | [อินฮาบิเดดท] (n, vt) ที่อาศัยอยู่ |
inhabited | [อินฮาบิเดดท] (n, vt) ที่อาศัยอยู่ |
interbeing | สิ่งอิงอาศัยกันเกิด |
mayfly | (n, name, uniq) ชีปะขาว หรือชีผะขาวก็เรียก ชีผ้าขาวก็เรียก หรือเมย์ฟลายส์ (mayflies) ชื่อวิทยาศาสตร์ เอพฮีมีรอบเทอรา (Ephemeroptera) ตัวขนาดเล็กถึงกลาง ปีกบางมีเส้นมากมาย ปีกคู่แรกใหญ่กว่าคู่หลัง ตัวเมียวางไข่ในน้ำ ตัวอ่อนรูปร่างเรียวยาวอาศัยในน้ำนาน 1-2 ปี ลอกคราบหลายครั้งจนเป็นแมลงโตเต็มวัย มีปีก ชอบเล่นไฟ มันมีอายุเพียง 1-2 วันเท่านั้น ไม่กินอาหาร ผสมพันธุ์แล้วตาย ฤดูกาลวางไข่อยู่ในราวกลางเดือนเมษายน พบใกล้แหล่งน้ำ บ่อน้ำ ลำธาร ตัวแก่เต็มที่จะลอกคราบออกพร้อมบินขึ้นจากผิวน้ำไปยังแสงสว่าง เป็นการบินขึ้นมาดูโลกครั้งแรกและครั้งสุดท้ายในชีวิต |
Molecular Gastronomy | (n, name) การทำอาหารโดยอาศัยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ และอาศัยวิธีการศึกษาองค์ประกอบของเครื่องปรุงอย่างวิทยาศาสตร์ศึกษาปฏิกิริยาทางเคมีที่ทำให้เครื่องปรุงเปลี่ยนรสหรือเปลี่ยนสี เพื่อให้เกิดการสร้างสรรค์ที่ได้ทั้งรูปทรงใหม่ๆ และรสชาติที่แตกต่างจากของเดิม |
Obligate parasitism | (n) เป็นปรสิตที่เจริญได้โดยได้รับอาหารจากสิ่งมีชีวิตที่มันอาศัยอยู่ ไม่สามาถเจริญหรือเพาะเลี้ยงได้ในอาหารเลี้ยงเชื้อ |
puppet government | (n) รัรัฐบาลหุ่นเชิด รัฐบาลที่ทำงานโดยมีผู้อื่นบางการอยู่ข้างหลัง เช่น คุณสมัครดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยมีคุณทักษิณเป็นคนคอยสั่งการ แต่งตั้ง โยกย้ายตำแหน่งต่างๆและกำหนดนโยบายต่างๆเพื่อเอื้อประโยชน์แก่ตนและญาติพี่น้อง แม้จะพักอาศัยอยู่ไกลถึงลอนดอนก็ตาม |
resiant | (n) ผู้พักอาศัย, Syn. resident |
Silverman | [ซิล-เวอร์-แมน] (org) Silverman เป็นแพลตฟอร์มด้านการบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์, ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 ได้สร้างและพัฒนาระบบแบบ all-in-1 ที่ดีที่สุด ที่พร้อมรองรับทุกความต้องการทั้งการจัดการอสังหาริมทรัพย์และการจัดการที่อยู่อาศัยสำหรับโครงการอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภท ได้แก่ บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ หอพักและอาคารสำนักงาน |
spectrum | (n) ความคิด วิธีการซึ่งมีหลากหลายและสัมพันธ์หรือมีผลกระทบต่อกัน (ที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เช่นวิธีแก้ปัญหาคนไร้ที่อยู่อาศัย) |
Stoneflies | (n) สโตนฟลาย เป็นแมลงใน อันดับ พลีคอปเทอร่า (Order Plecoptera: Class Insecta) ลักษณะตัวเต็มวัย (adult) แบ่งออกเป็น ส่วนหัว ส่วนอก และส่วนท้อง ชัดเจน; ส่วนหัว (head) มีหนวด (antennae) ยาว 1 คู่ มีตารวม (compound eyes) 1 คู่ มีตาเดี่ยว (ocelli) 0-3 ตา มีปากแบบกัดกิน (Chewing mouthpart), ส่วนอก (thorax) มีขา 3 คู่ มีปีก 2 คู่เป็นแผ่นบางใส (membranous wings) ปีกคู่หลัง (hind wings) จะซ้อนพับอยู่ใต้ปีกคู่หน้า (fore wings), ส่วนท้อง (abdomen) ยาวแบ่งเป็นปล้อง; มีการเจริญเติบโตแบบไม่สมบูรณ์ (Incomplete metamorphosis) คือเจริญเติบโตจากไข่ ฟักออกมาเป็นตัวอ่อน ลอกคราบหลายครั้งจนเป็นตัวเต็มวัย โดยไม่มีระยะดักแด้; ในระยะตัวอ่อน (nymph) มีลักษณะคล้ายตัวเต็มวัยแต่ไม่มีปีก อาจพบเหงือก (gills) รูปร่างต่าง ๆ ตามลำตัวเป็นอวัยวะช่วยในการหายใจ อาศัยอยู่ในแหล่งน้ำไหล (Lotic habitat, running water) บางชนิดมีนิสัยการกินแบบผู้ล่า (predator) กินสัตว์อื่นที่มีขนาดเล็กกว่าเป็นอาหาร แต่บางชนิดกินเศษซากตะกอนในแหล่งน้ำเป็นอาหาร (detritivore) และเมื่อลอกคราบครั้งสุดท้ายเป็นตัวเต็มวัยจะอาศัยอยู่บนบกใกล้แหล่งน้ำ สโตนฟลายบางชนิดที่มีวงจรชีวิตระยะตัวอ่อนเป็นเวลายาวนาน เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะจับคู่ผสมพันธุ์ทันทีโดยไม่กินอาหาร แต่ในบางชนิดที่มีวงจรชีวิตใช้เวลาในระยะตัวอ่อนน้อย เมื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยแล้วจะกินน้ำหรือเศษซากพืชหรือซากตะกอนเพียงเล็กน้อย เพื่อพัฒนาระบบสืบพันธุ์ให้เจริญเต็มที่ ก่อนจับคู่ผสมพันธุ์ เมื่อผสมพันธุ์แล้วตัวเต็มวัยเพศเมียจะวางไข่ลงในแหล่งน้ำไหลเพื่อให้ไข่ฟักออกมาเป็นตัวอ่อนอาศัยเจริญเติบโตในแหล่งน้ำไหลนั้นต่อไป; จากลักษณะการดำรงชีวิตโดยอาศัยพึ่งพาแหล่งน้ำอยู่เกือบตลอดทั้งวงจรของชีวิต แมลงชนิดนี้จึงจัดอยู่ในกลุ่มของแมลงน้ำ (Aquatic insect), See also: Stonefly, Plecoptera, Stonefly, Syn. Plecoptera |
terraforming | (n) เป็นการปรับสภาพดวงดาวให้มีลักษณะที่มนุษย์หรือสิ่งมีชีวิตจะอาศัยอยู่ได้ด้วยการปรับบรรยากาศ อุณหภูมิ สภาพพื้นผิว ระบบนิเวศน์ ให้มีลักษณะคล้ายโลก |
troll | [โทรล] (n) สัตว์ประหลาดในเทพนิยายของยุโรปเหนือ รูปร่างคล้ายคนแต่ตัวใหญ่กว่ามาก อาศัยอยู่ในถ้ำ ว่ากันว่า ถ้าถูกแสงแดดจะกลายเป็นหิน |
ทุกขอริยสัจ | [ทุก-อะ-ริ-ยะ-สัต] (n) ทุกขอริยสัจ คือความรู้สึกจากสภาพธรรมชาติ 3 อย่างของมนุษยชาติวิญญูชนคือรู้สึกว่าเกิดมาแล้วจะต้องแสวงหาปัจจัยเครื่องค้ำจุนให้มีชีวิตอยู่รอด รู้สึกร่างกายของตนจะต้องแก่เพื่อพัฒนาไปวัยต่าง ๆ ตามสภาพธรรมชาติ 3 อย่างคือเกิด แก่ และตายของมนุษยชาติ และรู้สึกว่าในที่สุดจะต้องตาย ซึ่งพุทธะศาสดาของศาสนาพุทธเรียกโดยย่อว่า อุปาทานขันธ์ 5 หรือตัวทุกข์หรือตัวปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษยชาติวิญญูชนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ทุก ๆ คนเหมือนกันเป็นตัวทุกข์ในอริยสัจ 4 เมื่อมนุษยชาติวิญญูชนใช้วิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ 4 |
ทุกขอริยสัจ | [ทุก-อะ-ริ-ยะ-สัต] (n) ทุกขอริยสัจ คือความรู้สึกจากสภาพธรรมชาติ 3 อย่างของมนุษยชาติวิญญูชนคือรู้สึกว่าเกิดมาแล้วจะต้องแสวงหาปัจจัยเครื่องค้ำจุนให้มีชีวิตอยู่รอด รู้สึกร่างกายของตนจะต้องแก่เพื่อพัฒนาไปวัยต่าง ๆ ตามสภาพธรรมชาติ 3 อย่างคือเกิด แก่ และตายของมนุษยชาติ และรู้สึกว่าในที่สุดจะต้องตาย ซึ่งพุทธะศาสดาของศาสนาพุทธเรียกโดยย่อว่า อุปาทานขันธ์ 5 หรือตัวทุกข์หรือตัวปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษยชาติวิญญูชนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ทุก ๆ คนเหมือนกันเป็นตัวทุกข์ในอริยสัจ 4 เมื่อมนุษยชาติวิญญูชนใช้วิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ 4 |
ทุกขอริยสัจ | [ทุก-อะ-ริ-ยะ-สัต] (n) ทุกขอริยสัจ คือความรู้สึกจากสภาพธรรมชาติ 3 อย่างของมนุษยชาติวิญญูชนคือรู้สึกว่าเกิดมาแล้วจะต้องแสวงหาปัจจัยเครื่องค้ำจุนให้มีชีวิตอยู่รอด รู้สึกร่างกายของตนจะต้องแก่เพื่อพัฒนาไปวัยต่าง ๆ ตามสภาพธรรมชาติ 3 อย่างคือเกิด แก่ และตายของมนุษยชาติ และรู้สึกว่าในที่สุดจะต้องตาย ซึ่งพุทธะศาสดาของศาสนาพุทธเรียกโดยย่อว่า อุปาทานขันธ์ 5 หรือตัวทุกข์หรือตัวปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษยชาติวิญญูชนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ทุก ๆ คนเหมือนกันเป็นตัวทุกข์ในอริยสัจ 4 เมื่อมนุษยชาติวิญญูชนใช้วิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ 4 |
ทุกขอริยสัจ | [ทุก-อะ-ริ-ยะ-สัต] (n) ทุกขอริยสัจ คือความรู้สึกจากสภาพธรรมชาติ 3 อย่างของมนุษยชาติวิญญูชนคือรู้สึกว่าเกิดมาแล้วจะต้องแสวงหาปัจจัยเครื่องค้ำจุนให้มีชีวิตอยู่รอด รู้สึกร่างกายของตนจะต้องแก่เพื่อพัฒนาไปวัยต่าง ๆ ตามสภาพธรรมชาติ 3 อย่างคือเกิด แก่ และตายของมนุษยชาติ และรู้สึกว่าในที่สุดจะต้องตาย ซึ่งพุทธะศาสดาของศาสนาพุทธเรียกโดยย่อว่า อุปาทานขันธ์ 5 หรือตัวทุกข์หรือตัวปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวันของมนุษยชาติวิญญูชนที่อาศัยอยู่บนโลกใบนี้ทุก ๆ คนเหมือนกันเป็นตัวทุกข์ในอริยสัจ 4 เมื่อมนุษยชาติวิญญูชนใช้วิธีแก้ปัญหาแบบอริยสัจ 4 |