ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ออกหน้า, -ออกหน้า- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ ออกหน้า | (v) show off, See also: display, Thai Definition: แสดงให้ปรากฏ, แสดงออก | ออกหน้า | (v) precede, See also: lead, come before, Syn. นำหน้า, Thai Definition: เดินนำหน้า, ทำก่อนคนอื่น | ออกหน้าออกตา | (v) act openly, Example: เขาไม่ได้คิดจะออกหน้าออกตา เพราะสภาพครอบครัวไม่อำนวย, Thai Definition: แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน | ออกหน้าออกตา | (adv) openly, See also: noticeably, Syn. เด่นชัด, Example: เขามิได้เลี้ยงดูเธออย่างออกหน้าออกตา, Thai Definition: แสดงให้ปรากฏเปิดเผย |
| ออกหน้าออกตา | ก. แสดงให้ปรากฏอย่างเปิดเผย. | ก้นครัว | ว. ไม่ได้ออกหน้าออกตา. | กระชังหน้าใหญ่ | ว. จัดจ้าน, ออกหน้ารับเสียเอง, เช่น แม่กระชังหน้าใหญ่. | เก็บ ๑ | ว. ถ้าประกอบหลังคำนามหมายความว่า ที่เก็บไว้ เช่น ของเก็บ = ของที่เก็บไว้, เงินเก็บ = เงินที่ออมเก็บไว้, เมียเก็บ = เมียที่เก็บไว้ไม่ออกหน้าออกตา, หมากเก็บ = สิ่งที่เป็นเม็ดเป็นก้อนแข็ง เด็กใช้โยนเก็บขึ้นไว้ในมือ เป็นการเล่นชนิดหนึ่งของเด็ก. | เชิด | โดยปริยายหมายความว่า ถูกใช้ให้ออกหน้าแทน ในคำว่า ถูกเชิด. | ตัวเชิด | น. ผู้ที่ถูกใช้ให้ออกหน้าแทน. | ทนายหน้าหอ | น. หัวหน้าคนรับใช้ที่ใช้ออกหน้าออกตา, ผู้รับหน้าแทนนาย. | นำ | ก. ไปข้างหน้า เช่น นำขบวน นำเสด็จ, ออกหน้า เช่น วิ่งนำ, เริ่มต้นโดยมีผู้อื่นหรือสิ่งอื่นตามหรือทำตาม เช่น นำสวด นำวิ่ง, พา เช่น นำเที่ยว นำไป นำมา. | เป็นดั้งหน้า | ว. คอยออกหน้าป้องกัน เช่น รับเป็นดั้งหน้าเข้ามาแก้ (ไชยเชฐ). | มัน ๕ | เป็นเงา, ขึ้นเงา, เช่น เหงื่อออกหน้าเป็นมัน. | แม่กระชังหน้าใหญ่ | น. ผู้ที่ชอบแสดงตัวออกหน้าเป็นหัวเรือใหญ่, มักพูดเข้าคู่กับ แม่หญิงแม่หญัง เป็น แม่หญิงแม่หญัง แม่กระชังหน้าใหญ่. | ออก ๓ | นำ เช่น ออกหน้า |
|
| partisan, offensive | ข้าราชการที่เข้าช่วยพรรคการเมืองอย่างออกหน้า (อเมริกัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | offensive partisan | ข้าราชการที่เข้าช่วยพรรคการเมืองอย่างออกหน้า (อเมริกัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] |
|
| Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] |
| He told us to take our socks out of the window. | เขาบอกให้เราใช้ถุงเท้าของเรา เขามักจะออกหน้าต่าง In the Name of the Father (1993) | Mr Darcy paid us an unexpected visit... ..and so, my dear Lizzy, Mr Darcy would brook no opposition. | โปรดให้ป้าแสดงความกระจ่างต่อหลานในคราวนี้ คุณดาร์ซี่มาเยี่ยมเราโดยไม่คาดฝัน... และเมื่อเป็นดังนั้น ลิซซี่ที่รัก คุณดาร์ซี่ได้ขอไม่ออกหน้า Episode #1.6 (1995) | Don't let them get you alive. | คุณต้องโดดออกหน้าต่าง อย่าให้มันจับคุณได้ The Pianist (2002) | They walk out the front door. | พวกเขาพากันออกหน้าประตู The Woodsman (2004) | If only you'd helped earlier, they wouldn't have to die this way. | พวกคุณเก่งขนาดนี้ ถ้าออกหน้าแต่แรกพวกเขาคงไม่ตายอย่างนี้หรอก Kung Fu Hustle (2004) | You two seemed awfully friendly. | คุณสองคนนี่ สนิทกันออกหน้าออกตาเนอะ The Game (2007) | If I can't even get through this class, then my whole career is out the window. | ก็เขวี้ยงอาชีพฉันออกหน้าต่างไปได้เลย Grin and Bear It (2007) | Now, people are just too afraid to come forward. | ตอนนี้ คนก็กลัวที่จะออกหน้าแล้ว It's Alive! (2007) | Good riddance to white trash, that's all I got to say. | ออกหน้าแทนเดนมนุษย์ผิวขาว นั่นหล่ะที่ผมจะบอก To Love Is to Bury (2008) | Nobody wants to even this out more than me. | ไม่มีใครอยากออกหน้า มากกว่าฉัน The Revelator (2008) | - Why don't the Vegas boys head up? | -ทำไมเราถึงไม่ให้พวกไอ้หนูเวกัสออกหน้าช่วย Patch Over (2008) | He's greasing the palms of the Port Authority contacts. | เขาไปจ่ายสินบน ให้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายออกหน้าการให้ความช่วยเหลือ AK-51 (2008) | To give to georg in front of us. | ให้จอร์จ ออกหน้า แทนพวกเรา There's No 'I' in Team (2008) | Last thing we need is P.I.'s and lawyers camping out out front. | สิ่งสุดท้ายเราต้องการคือคนมีอิทธิพลและทนาย ออกหน้าแทน Pilot (2008) | But you are going to be the face of this class action. | แต่คุณจะเป็นคนออกหน้าแทนพวกเขา Burn It, Shred It, I Don't Care. (2009) | How did she even show her face after everthing she's done. | เธอกล้าออกหน้าออกตาหลังจากที่เธอทำแบบนั้นได้ยังไงนะ The Age of Dissonance (2009) | You in my corner, I got a shot. | นายออกหน้าให้ฉัน ฉันเป็นฝ่านสนับสนุน Potlatch (2009) | We offer her protection, a space, front her a little cash for the shit the feds took, split the profits. | - เราคุ้มกันเธอ สถานที่ เธอออกหน้าช่วยเงินสดเล็กน้อย จนกว่าเรื่องระยำกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางจะจางไป - แบ่งผลกำไร Fa Guan (2009) | So, you're like a trophy wife? | เป็นเมียที่เอาไว้ออกหน้าออกตา ว่างั้น? Seep (2009) | Hey, I'm on TV. | เฮ้ ฉันออกหน้าจอนะ I Will Rise Up (2009) | - The boxing arena's at the next off ramp, | สังเวียนมวยอยู่ ถนนทางออกหน้า Remains to Be Seen (2009) | And then throws themself out a window? | และจากนั้นก็โดออกหน้าต่าง Chapter One 'Orientation/Jump, Push, Fall' (2009) | Your brain just flies right out the window. | สมองนายบินออกหน้าต่างไปแล้ว The Curious Case of Dean Winchester (2009) | I'll be on the row by the time you guys are arraigned. | ฉันจะออกหน้าให้ ในระหว่างที่พวกนายถูกนำตัวมาขึ้นศาล NS (2010) | When there's a face behind it | ถ้าเรามีใครคอยออกหน้าออกตา.. Melbourne (2010) | That's why I covered for Tyler and said it was an accident. | เพราะงั้นฉันเลยออกหน้าแทนไทเลอร์ แล้วบอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ Rose (2010) | I thought I was doing a good thing by covering for you. | ฉันนึกว่าทำดีแล้ว ที่ออกหน้าแทนเธอ Rose (2010) | I would never leave a card. It's way too brazen. Would you? | ฉันคงไม่ทิ้งบัตรอะไรไว้ มันออกหน้าหนาไปนิด นายจะทิ้งเหรอ? Withdrawal (2010) | So not a great time to get cocky. | ดังนั้นอย่าเพิ่งดีใจออกหน้าเลยนะ Pascal's Triangle Revisited (2010) | The other girls won't be able to come forward so easily. | คนอื่นไม่กล้า ออกหน้ามาง่ายๆหรอก Dong Yi (2010) | Hello? Are you listening to me? | มาฟังเธอด่าตอนผมหลอนๆนี่ มันทำให้ผมอยากโดดออกหน้าต่างจริงๆ Limitless (2011) | The gods fight on their behalf, sire. | พวกเทพเจ้าออกหน้าแทน Immortals (2011) | Just say the word, and we will climb out that window right now. | แค่พูดมาคำเดียว เราจะปีนออกหน้าต่างเดี๋ยวนี้ Fall from Grace (2011) | I'd be throwing you out the window. | ฉันคงโยนคุณออกหน้าต่างไปแล้ว Pilot (2011) | We can't risk outing you in the process. | เราให้นายออกหน้า ไปเสี่ยงในแผนไม่ได้ Masked (2011) | They were the students that went in front of the cameras after the bombing. | พวกเขาเป็นนักเรียน ที่ได้ออกหน้ากล้อง หลังจากเหตุระเบิด Painless (2011) | You're brave to speak out, Merlin. | เจ้าช่างกล้าที่ออกหน้าแทนนาง เมอลิน Lancelot du Lac (2011) | Well, at least creepy Kate didn't get to show off at the reception. | ก็ดี อย่างน้อยยัยเคทก็ไม่ได้ \ ยืนออกหน้าออกตาที่แผนกต้อนรับ Through Many Dangers, Toils, and Snares (2012) | I'd take care of it myself, but that would be obstruction. | ฉันออกหน้าทำด้วยตัวเองก็ได้ แต่นั่นมันจะเป็นการขัดขวาง Turn! Turn! Turn! (2012) | An arsonist who works for the fire department. It's almost too easy. What else? | เขาแสดงออกว่า ไม่ชอบผมออกหน้าออกตา The Dark... Whatever (2012) | Yeah, he worships Hawking. | ใช่ นายนั่นน่ะชื่นชอบฮอร์คิงออกหน้ามาก The Hawking Excitation (2012) | I covered for you, told them he was safe with you for the night, but he needs to come back. | ฉันออกหน้าให้คุณ บอกพวกนั้นว่า เขาปลอดภัยที่จะอยู่กับคุณคืนนี้ แต่เขาต้องกลับไป 1+1=3 (2012) | She on the warpath? | เธอต้องออกหน้าเองเลยเหรอ Carbon Copy (2013) | It didn't land on a number. | มันไม่ออกหน้าเลข Advanced Introduction to Finality (2013) | I'm going to save everyone with the antidote that is made from the mutagen that is oozing through your blood. | ฉันจะออกหน้า ไปปกป้องทุกคน มากับยาถอนพิษ -ที่ได้มาจาก มิวเทเจน ที่ไหลเวียนอยู่ในเลือดของพวกแก Teenage Mutant Ninja Turtles (2014) | You scream and I will tase you and throw you out the back window. | ถ้าแกส่งเสียง ฉันจะช๊อตแก แล้วก็โยนแกออกหน้าต่าง, เข้าใจไหม The Cobbler (2014) | He jumped out the window. | เขากระโดดออกหน้าต่าง Clear and Wesen Danger (2015) | And where are the doors? There's one in the front, one in the back, and there's an old loading dock right here. | แล้วไหนประตูล่ะ? มีทางเข้าออกหน้าหลัง อย่างละทาง Wesen Nacht (2015) | Guys, you know we couldn't take credit for bringing down Shredder. | รู้อยู่เราไม่ออกหน้าเรื่องล้มเชร็ดเดอร์ Teenage Mutant Ninja Turtles: Out of the Shadows (2016) | You're the one who told me to take credit for Shredder in the first place. | นายขอให้ฉันออกหน้าเรื่องเชร็ดเดอร์ Teenage Mutant Ninja Turtles: Out of the Shadows (2016) |
| | ticker | (ทิค'เคอะ) n. เครื่องรับโทรเลข ที่เป็นเครื่องบันทึกอัตโนมัติ, เสียงดังติ๊ก ๆ , หัวใจ, แถบกระดาษสีที่ใช้โยนออกหน้าต่างเพื่อการต้อนรับหรือการเฉลิมฉลอง, เครื่องพิมพ์ราคาหุ้นอัตโนมัติ |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |