ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: พ้อง, -พ้อง- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ พ้อง | (v) be identical, See also: be alike, coincide, be the same, Syn. ตรง, เหมือน, ซ้ำ, Ant. ต่าง, ตรงข้าม, Example: ข้อความในกระดาษหน้านี้พ้องกับอีกหน้าหนึ่ง, Thai Definition: ตรงกัน, เหมือนกัน, ซ้ำกัน | คำพ้อง | (n) homonym, See also: homophone, homograph | พวกพ้อง | (n) friends, See also: relatives, companions, gang, adherent, Syn. พรรคพวก, พวก, Example: รักในที่นี้มีหลายแบบคือ รักพ่อแม่ญาติพี่น้อง รักเพื่อน รักพวกพ้อง | พ้องกัน | (adj) synonymous, Syn. คล้องจองกัน, Example: ความหมายที่พ้องกันของเจดีย์กับสถูปทำให้คนไทยเกิดใช้ปะปนกัน, Thai Definition: ที่ตรงกันหรือประจวบเหมือนกัน, ที่ไม่ขัดกัน | พ้องกัน | (v) reach unanimity of, Syn. คล้องจองกัน, Example: ความเห็นของเราพ้องกันเลยตกลงกันง่ายขึ้น, Thai Definition: ตรงกันหรือประจวบเหมือนกัน, ไม่ขัดกัน | พ้องพาน | (v) encounter, See also: meet, confront, Syn. พบปะ, พบพาน, Example: มนุษย์โดยธรรมชาติย่อมรักตนแสวงหาประโยชน์เฉพาะตนแต่เมื่อมาเกี่ยวพ้องพานกับคนอื่นซึ่งอยู่รวมกันก็ต้องยอมเสียสละบางสิ่งบางอย่าง | เห็นพ้อง | (v) agree, See also: be in accord with, see things the same way (as), be unanimous, Syn. เห็นตาม, เห็นด้วย, เห็นพ้องต้องกัน, Ant. คัดค้าน, ค้าน, Example: บุคคลทั้งสองเห็นพ้องกันว่า พล.อ.เทียนชัยแบ่งงานอย่างเผด็จการและไม่มีหลักเกณฑ์ | เห็นพ้อง | (v) agree, See also: be in accord with, see things the same way (as), be unanimous, Syn. เห็นตาม, เห็นด้วย, เห็นพ้องต้องกัน, Ant. คัดค้าน, ค้าน, Example: บุคคลทั้งสองเห็นพ้องกันว่า พล.อ.เทียนชัยแบ่งงานอย่างเผด็จการและไม่มีหลักเกณฑ์ | คำพ้องรูป | (n) homograph | คำพ้องเสียง | (n) homophone | พ้องต้องกัน | (v) be identical, See also: be the same, Syn. พ้องกัน, ต้องกัน, ตรงกัน, Ant. ต่างกัน, แตกต่างกัน, Example: ของอย่างนี้มันพ้องต้องกันได้ เพราะใครต่างก็ซื้อมาใช้เหมือนกัน | ความเห็นพ้อง | (n) agreement, See also: consent, approval, compliance, unanimity, Syn. ความเห็นด้วย, Ant. การปฏิเสธ, การโต้แย้ง, การคัดค้าน, การท้วงติง, การติง, Example: ทั้งลักกี้และแลนสกี้มีความเห็นพ้องต้องกันว่า เบนจามินมีความผิด, Thai Definition: ความคิดเห็นไปในทำนองเดียวกัน | ผิดพวกผิดพ้อง | (adv) heterogeneously, See also: variously, Example: เขาสูงใหญ่ผิดพวกผิดพ้องคงจะเป็นเพราะเขาชอบเล่นกีฬาเป็นชีวิตจิตใจอยู่คนเดียว, Thai Definition: อย่างที่ไม่เหมือนหรือต่างออกไปจากพวกในกลุ่มเดียวกัน | คำพ้องความหมาย | (n) synonym, Example: คำพ้องความหมายแต่ละคำ ไม่สามารถใช้แทนกันได้ทุกคำ แต่จะใช้ในโอกาสต่างๆ กัน, Count Unit: คำ, Thai Definition: คำที่มีความหมายตรงกันหรือซ้ำกันแต่มีรูปเขียนหรือเสียงอ่านต่างกัน | เล่นพวกเล่นพ้อง | (v) play favoritism, See also: favour one's friends, Syn. เล่นพวก, เล่นพรรคเล่นพวก, Example: ีเขามักจะเล่นพวกเล่นพ้องเสมอ ใครๆ ก็รู้, Thai Definition: ถือเอาพวกพ้องของตนเป็นใหญ่และสำคัญ | เห็นพ้องต้องกัน | (v) all agree, See also: express approval, give consent, view favorably, Example: ประเทศส่วนใหญ่ในโลกเห็นพ้องต้องกันให้ใช้กฎหมายลิขสิทธิ์คุ้มครองโปรแกรมคอมพิวเตอร์, Thai Definition: มีความเห็นตรงกันหรือเป็นไปในแนวทางเดียวกัน |
|
| คำพ้องความ | น. คำที่เขียนต่างกันแต่มีความหมายเหมือนกันหรือใกล้เคียงกันมาก เช่น โคกับวัว ควายกับกระบือ มนุษย์กับคน, ไวพจน์ ก็ว่า. | คำพ้องรูป | น. คำที่เขียนเหมือนกันแต่มีความหมายต่างกัน เช่น ขัน (น้ำ) กับ (ไก่) ขัน คู (ร่องน้ำ) กับ (นกเขา) คู. | คำพ้องเสียง | น. คำที่ออกเสียงเหมือนกันแต่เขียนต่างกันและมีความหมายต่างกัน เช่น ใส-ไส-ไสย กาน-กาล-การ-การณ์, (โบ) ในหนังสือแบบเรียนภาษาไทยของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) เรียกคำพ้องเสียงว่า ไวพจน์. | ผิดพ้องหมองใจ | ก. ขุ่นเคืองใจ. | พวกพ้อง | น. หมู่ญาติ, เพื่อนฝูง. | พ้อง | ว. ต้องกัน, ตรงกัน, ซํ้ากัน, เช่น พ้องรูป พ้องเสียง พ้องความ เห็นพ้องด้วย ชื่อพ้องกัน. | พ้องพาน | ก. ประสบ, แตะต้อง, เช่น ขออย่าให้มีภัยอันตรายมาพ้องพาน. | เล่นพรรคเล่นพวก, เล่นพวก, เล่นพวกเล่นพ้อง | ก. ถือพวกพ้องเป็นใหญ่หรือสำคัญ. | งูกินหาง ๒ | น. การเล่นของเด็กอย่างหนึ่ง สมมุติฝ่ายหนึ่งเป็นแม่งู มีลูกงูเกาะหลังเป็นแถว อีกฝ่ายเป็นพ่องู คอยไล่จับลูกงูตัวที่อยู่ท้ายแถวเอามาเป็นพวกทีละตัว ๆ. | จ๊ะ ๒ | ก. เจอกันหรือพ้องกันโดยบังเอิญ เช่น เดินมาจ๊ะกัน แกงจ๊ะกัน. | เจ้าไทย | เขียนเป็น เจาไท ก็มี เช่น พ๋องเผ่าพรรนอนนเหงาเจาไทอนนไปสู (จารึกวัดช้างล้อม). | ตรียมก | (ตฺรียะมก) น. ชื่อกลอนกลบทชนิดหนึ่ง กำหนดบังคับวรรคละ ๙ คำ วรรคหนึ่งแบ่งออกเป็น ๓ ช่วง ให้ใช้พยัญชนะที่มีเสียงพ้องกัน ๒ เสียงในแต่ละช่วง เช่น สิ้นอาสัญในอาศรมที่อาศรัย อนาถใจอนาโถโอ้อางขนาง พระองค์เดียวพระอับเปลี่ยวพระองค์นาง ม้วยชีพวางสิ้นชีวาตม์ขาดชีวัง (ศิริวิบุลกิตติ). | ต้องกัน | ว. ตรงกัน, พ้องกัน, ถูกกัน, เช่น ฤๅวาสนาน้องจะต้องกัน (อิเหนา), พยานให้การต้องกัน. | นั่นซี, นั่นน่ะซี | คำแสดงการเห็นพ้องด้วย. | พงศ์พันธุ์ | น. พวกพ้องที่เนื่องมาแต่วงศ์. | พะพาน | ก. พ้องพาน เช่น อย่าให้ความชั่วมาพะพาน, พบปะ เช่น ไม่ได้พบปะพะพานมานาน, เกี่ยวพัน เช่น กิ่งไม้ยื่นมาระพะพาน. | พันธุ-, พันธุ์ | น. พวกพ้อง, เชื้อสาย, วงศ์วาน | มติมหาชน | น. ความคิดเห็นหรือท่าทีของประชาชนกลุ่มใหญ่ที่เห็นพ้องต้องกันในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง. | ลงเนื้อเห็นด้วย | ก. เห็นพ้องด้วย. | ลูบหน้าปะจมูก | ก. ทำอะไรเด็ดขาดจริงจังลงไปไม่ได้ เพราะเกรงจะไปกระทบกระเทือนพวกพ้องเป็นต้น. | ไวพจน์ | น. คำที่เขียนต่างกันแต่มีความหมายเหมือนกันหรือใกล้เคียงกันมาก เช่น มนุษย์กับคน โคกับวัว บ้านกับเรือน รอกับคอย ป่ากับดง, คำพ้องความ ก็ว่า, (ป. เววจน) | ไวพจน์ | ในหนังสือแบบเรียนภาษาไทยของพระยาศรีสุนทรโวหาร (น้อย อาจารยางกูร) หมายถึง คำที่ออกเสียงเหมือนกันแต่เขียนต่างกันและมีความหมายต่างกัน เช่น ใส–ไส–ไสย กาน–กาล–การ–การณ์, ปัจจุบันเรียกว่า คำพ้องเสียง. | สมานคติ | (สะมานะ-) น. การดำเนินอย่างเดียวกัน, การมีความเห็นพ้องกัน. | สมานฉันท์ | (สะมานะ-, สะหฺมานนะ-) น. ความพอใจร่วมกัน, ความเห็นพ้องกัน, เช่น มีความเห็นเป็นสมานฉันท์. | สอดคล้อง | ว. พ้อง, ประสาน, ไม่ขัดกัน, เช่น มีความเห็นสอดคล้องกัน ทำงานสอดคล้องกัน ความคิดกับการกระทำสอดคล้องกัน. | สิงคลิ้ง | ว. งามอย่างสง่า เช่น บพิตรพ่องามสิงคลิ้ง (ลอ). | เส้นสาย | น. ระบบเส้นของร่างกาย โดยปริยายหมายความว่า พวกพ้องหรือผู้ช่วยเหลือที่สามารถอำนวยประโยชน์ให้ได้. | หัวเดียวกระเทียมลีบ | น. ตัวคนเดียว โดดเดี่ยว ไม่มีพวกพ้อง, มักใช้เข้าคู่กับ กลีบเดียวกระเทียมโทน. | เอกจิต | (เอกะ-) น. ความคิดจำเพาะถึงสิ่งอย่างเดียว, ความคิดอันหนึ่งอันเดียว, ความคิดต้องกัน, ความเห็นพ้องกัน. |
|
| resonant frequency | ความถี่สั่นพ้อง [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕] | resonance | การสั่นพ้อง, การกำธร [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | resonance | การสั่นพ้อง [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕] | resonance frequency; resonant frequency | ความถี่พ้อง, ความถี่เรโซแนนซ์ [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕] | resonance, vocal | การสั่นพ้องเสียงพูด, การกำธรเสียงพูด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | resonant frequency; resonance frequency | ความถี่พ้อง, ความถี่เรโซแนนซ์ [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕] | resolution, concurrent | มติพ้อง (อเมริกัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | simulation | ๑. การแสร้งป่วย, การเลียน(อาการ)โรค [ มีความหมายเหมือนกับ malingering; pathomimesis; pathomimia; pathomimicry ]๒. อาการโรคพ้อง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | synonym | ชื่อพ้อง [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | synonymy | ชุดชื่อพ้อง [พฤกษศาสตร์ ๑๘ ก.พ. ๒๕๔๕] | opinion, concurring | ความเห็นพ้อง (ที่มีเหตุผลแตกต่างกัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | ad idem (L.) | อย่างเดียวกัน, พ้องต้องกัน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | concurrent insurance | การประกันภัยพ้อง [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] | concurrent majority | เสียงส่วนใหญ่ที่เห็นพ้อง [ ดู concurrent voice ประกอบ ] [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | consensus at idem (L.); consensus in idem (L.) | การเห็นพ้องต้องกันของคู่กรณี (ในสาระสำคัญของสัญญา) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | consensus in idem (L.); consensus at idem (L.) | การเห็นพ้องต้องกันของคู่กรณี (ในสาระสำคัญของสัญญา) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | concurrent cause | เหตุพ้องกัน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | concurrent resolution | มติพ้อง (อเมริกัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | concurrent voice | เสียงที่เห็นพ้อง [ ดู concurrent majority ประกอบ ] [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | concurring opinion | ความเห็นพ้อง (ที่มีเหตุผลแตกต่างกัน) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | dissent | ไม่เห็นพ้อง [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕] | formant | กลุ่มความถี่สั่นพ้อง(ของช่องเสียง) [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕] | formant frequency | ความถี่สั่นพ้อง(ของช่องเสียง) [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕] | voice, concurrent | เสียงที่เห็นพ้อง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔] | vocal resonance | การสั่นพ้องเสียงพูด, การกำธรเสียงพูด [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | tautomenial | -มีระดูพ้อง [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | homonym | คำพ้องรูปพ้องเสียง [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | homonymous | -ชื่อพ้องกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔] | homophone | คำพ้องเสียง [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | homograph | คำพ้องรูป [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕] | non-concurrent insurance | การประกันภัยไม่พ้องกัน [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕] |
|
| Synonyms and antonyms dictionary | พจนานุกรมคำพ้องและคำตรงข้าม [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์] | Approbation | การที่รัฐหนึ่งใดมีทัศนคติในทางพึงพอใจและเห็น พ้องด้วยกับบทบัญญัติในสนธิสัญญาหนึ่งใด ซึ่งรัฐนั้นมิได้เป็นภาคีคู่สัญญานั้นแต่อย่างใด [การทูต] | consensus | ฉันทามติ หมายถึง แนวปฏิบัติในการตัดสินใจที่จะมีมติดำเนินการหรือไม่ดำเนินการในเรื่องใด เรื่องหนึ่ง โดยแม้ทุกฝ่ายจะมิได้เห็นพ้องร่วมกัน แต่ก็ไม่มีผู้ใดคัดค้าน [การทูต] | Gorbachev doctrine | นโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต] | North Atlanitc Treaty Organization | องค์การนาโต้ หรือองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ ซึ่งได้ลงนามกันเมื่อวันที่ 4 เมษายน ค.ศ. 1949 ประเทศสมาชิกขณะเริ่มตั้งองค์การครั้งแรก ได้แก่ ประเทศเบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ฝรั่งเศส ไอซ์แลนด์ อิตาลี ลักแซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ ปอร์ตุเกส อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ต่อมาประเทศกรีซและตรุกีได้เข้าร่วมเป็นภาคีของสนธิสัญญาเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1952 และเยอรมนีตะวันตก ( ในขณะนั้น) เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1955 สนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือเริ่มมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1949ในภาคอารัมภบทของสนธิสัญญา ประเทศภาคีได้ยืนยันเจตนาและความปรารถนาของตน ที่จะอยู่ร่วมกันโดยสันติกับประเทศและรัฐบาลทั้งหลาย ที่จะปกป้องคุ้มครองเสรีภาพมรดกร่วม และอารยธรรมของประเทศสมาชิกทั้งมวล ซึ่งต่างยึดมั่นในหลักการของระบอบประชาธิปไตย เสรีภาพส่วนบุคคลหลักนิติธรรม ตลอดจนจะใช้ความพยายามร่วมกันเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อป้องกันประเทศ และเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงในสนธิสัญญาดังกล่าว บทบัญญัติที่สำคัญที่สุดคือข้อ 5 ซึ่งระบุว่า ประเทศภาคีสนธิสัญญาทั้งหลายต่างเห็นพ้องต้องกันว่า หากประเทศภาคีหนึ่งใดหรือมากกว่านั้น ในทวีปยุโรปหรือในอเมริกาเหนือ ถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธ จักถือว่าเป็นการโจมตีต่อประเทศภาคีทั้งหมด ฉะนั้น ประเทศภาคีจึงตกลงกันว่า หากมีการโจมตีด้วยกำลังอาวุธเช่นนั้นเกิดขึ้นจริง ประเทศภาคีแต่ละแห่งซึ่งจะใช้สิทธิในการป้องกันตนโดยลำพังหรือร่วมกัน อันเป็นที่รับรองตามข้อ 51 ของกฎบัตรสหประชาชาติ จะเข้าช่วยเหลือประเทศภาคีแห่งนั้นหรือหลายประเทศซึ่งถูกโจมตีด้วยกำลัง อาวุธในทันทีองค์กรสำคัญที่สุดในองค์การนาโต้เรียกว่า คณะมนตรี (Council) ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศภาคีสนธิสัญญานาโต้ คณะมนตรีนี้จะจัดตั้งองค์กรย่อยอื่น ๆ หลายแห่ง รวมทั้งกองบัญชาการทหารสูงสุดฝ่ายสัมพันธมิตรภาคพื้นยุโรปและภาคพื้น แอตแลนติก สำนักงานใหญ่ขององค์การนาโต้ตั้งอยู่ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส [การทูต] | New World Order | ระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต] | Open Diplomacy | คือการทูตแบบเปิดเผย อดีตประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน แห่งสหรัฐอเมริกา เป็นบุคคลที่สนับสนุนและเผยแพร่วิธีการทูตแบบเปิดเผยอย่างเต็มที่ หวังจะให้ชุมชนนานาชาติพร้อมใจกันสนับสนุนการทูตนี้เช่นเดียวกัน เมื่อวันที่ 8 มกราคม ค.ศ. 1918 วูดโรว์ วิลสัน ได้ประกาศให้โลกทราบนโยบายของท่าน 14 ข้อ ข้อหนึ่งในจำนวนนั้นท่านปรารถนาว่า ในอนาคตประเทศต่าง ๆ ควรจะทำความตกลงกันเกี่ยวกับเรื่องสันติภาพอย่างเปิดเผย และต่อไปไม่ควรจะมีการเจรจาทำความตกลงระหว่างประเทศแบบลับเฉพาะอย่างใดทั้ง สิ้นแม้ว่าโดยทั่วไปจะเห็นพ้องด้วยกับนโยบายข้อแรกของ วูดโรว์ วิลสัน คือ ความตกลงหรือสนธิสัญญาใด ๆ เมื่อตกลงเสร็จสิ้นแล้ว ให้ประกาศเปิดเผยให้โลกทราบ แต่สำหรับข้องสองคือการเจรจาในระหว่างทำสนธิสัญญาให้กระทำกันอย่างเปิดเผย นั้น ส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยเห็นด้วย เพราะเห็นว่าลำพังการเจรจานั้น โดยสารัตถะสำคัญแล้วควรจะถือเป็นความลับไว้ก่อนจนกว่าจะเสร็จการเจรจา ทั้งนี้ เซอร์เดวิด เคลลี่ อดีตนักการทูตอังกฤษเคยให้ทรรศนะว่า การทูตแบบเปิดเผยนั้นเป็นถ้อยคำที่ขัดกันในตัว คือหากกระทำกันอย่างเปิดเผยเสียแล้วก็ไม่ใช่การทูตเกี่ยวกับเรื่องนี้ มาตรา 102 ของกฎบัตรสหประชาชาติได้บัญญัติว่า ?1. สนธิสัญญาทุกฉบับ และความตกลงระหว่างประเทศทุกฉบับ ซึ่งสมาชิกใด ๆ แห่งสหประชาชาติได้เข้าเป็นภาคี ภายหลังที่กฎบัตรปัจจุบันได้ใช้บังคับ จักต้องจดทะเบียนไว้กับสำนักเลขาธิการโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และจักได้พิมพ์ขึ้นโดยสำนักงานนี้ 2. ภาคีแห่งสนธิสัญญา หรือความตกลงระหว่างประเทศเช่นว่าใด ซึ่งมิได้จดทะเบียนไว้ตามบทบัญญัติในวรรคหนึ่งข้อนี้ ไม่อาจยกเอาสนธิสัญญาหรือความตกลงนั้น ๆ ขึ้นกล่าวอ้างต่อองค์กรใด ๆ ของสหประชาชาติ? [การทูต] | Southeast Asia Collective Defense Treaty (Mahila Pact) | สนธิสัญญาซีโต้ สนธิสัญญานี้ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1954 ประเทศที่ลงนามในสนธิสัญญามีประเทศออสเตรเลีย ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ประเทศไทย อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา สนธิสัญญาได้มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1955ในภาคอารัมภบทของสัญญานี้ บรรดาประเทศสมาชิกต่างแสดงความปรารถนาที่จะประสานความพยายามของตนที่จะ ป้องกันร่วมกัน เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคง โดยเฉพาะข้อ 4 ของสนธิสัญญาเป็นข้อสำคัญที่สุด คือ แต่ละประเทศภาคีคู่สัญญาตกลงเห็นพ้องกันว่า หากดินแดนของประเทศใดถูกรุกรานจาการโจมตีด้วยกำลังอาวุธ ประเทศภาคีทั้งหมดที่เหลือจะถือว่าเป็นอันตรายร่วมกัน และจะปฏิบัติการเพื่อเผชิญหน้ากับอันตรายร่วมกัน หรือถ้าหากพื้นที่ภายในเขตครอบคลุมของสนธิสัญญาถูกคุกคามด้วยประการใด ๆ ประเทศภาคีทั้งหมดจะปรึกษากันในทันที เพื่อตกลงในมาตรการเพื่อการป้องกันร่วมกันสำนักงานใหญ่ขององค์การซีโต้ตั้ง อยู่ในกรุงเทพมหานคร โดยที่สถานการณ์ทางการเมืองของโลกได้เปลี่ยนไปมากทำให้องค์การซีโต้หมดความ จำเป็น และได้ยุบเลิกไปนานแล้ว [การทูต] | Compet | พ้อง [การแพทย์] | Crossed | พ้องกัน [การแพทย์] | Favorite Playing | อภิบาลพวกพ้อง [การแพทย์] | resonance | การสั่นพ้อง, เรโซแนนซ์, ปรากฎการณ์เมื่อระบบถูกทำให้สั่นด้วยความถี่เท่ากับความถี่ธรรมชาติของระบบเองแล้ว การสั่นนั้นจะสั่นได้รุนแรงหรือมีช่วงกว้างของการสั่นกว้างมากที่สุด [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | resonance tube | หลอดเรโซแนนซ์, อุปกรณ์ทดลองเกี่ยวกับการเกิดการสั่นพ้องของเสียง [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
| That sounds fair. Everyone agreed? | ที่ฟังดูยุติธรรม ทุกคนเห็นพ้องกัน? 12 Angry Men (1957) | Mr. Landers, it is the consensus of this group that you are a person of little or no theological knowledge. | คุณแลนเดอร์ส เราทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่า คุณเป็นคนที่มีความรู้ ด้านศาสนศาสตร์น้อย ไม่ก็ไม่มีเลย Oh, God! (1977) | These guys aren't helping you do anything. | ถ้าไม่มีเพื่อนพ้องคอยช่วยกัน Casualties of War (1989) | I have a loyalty to the men I was out there with. | เพราะผมจงรัก ต่อพวกพ้องที่ออกทำงานร่วมกัน Casualties of War (1989) | French Algerians may feel divided, but do the Algerians exist for you? | ชาวฝรั่งเศสที่เกิดในแอลจีเรียอาจไม่เห็นพ้องให้คืนประเทศ แต่ชาวแอลจีเรียที่เหลือล่ะ? Wild Reeds (1994) | Louisa and I were agreeing that we should hardly know her. What do you say, Mr Darcy? | หลุยซ่ากับฉันเห็นพ้องต้องกันว่าพวกเรา ไม่น่ารู้จักหล่อนเลย คุณคิดยังไงล่ะคุณดาร์ซี่ Episode #1.5 (1995) | I like hot dogs but I love hot frogs and surely you'll agree | ฉันชอบไส้หรอกแต่ฉันรักกบทอด แน่นอนว่าเธอจะเห็นพ้อง James and the Giant Peach (1996) | Thesaurus recklessness the mad recklessness... | คำพ้อง "ไม่ยั้งคิด" "ไม่ยั้งคิดอย่างบ้าคลั่ง" Pola X (1999) | It's what was agreed upon. | มันคือสิ่งที่ทุกคนเห็นพ้อง. Anna and the King (1999) | Why do you need their approval? | ทำไมคุณถึงต้องการคำเห็นพ้องของเขาล่ะ Bicentennial Man (1999) | To rise above the height of all your fathers since the days of EIendil or to fall into darkness with all that is left of your kin. | จะกลับไปยิ่งใหญ่ เหมือนพ่อของเจ้า ครั้งในวันแห่งเอเลนดิล หรือจะย่อยยับดับแสง ไปพร้อมกับพวกพ้องของเจ้า The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001) | My friend Nicholas and I have had a little chat and agreed it was best all around. | เพื่อนฉัน นิโคลัสกับฉันได้คุยกัน เห็นพ้องกันว่าวิธีนั้นดีที่สุด Harry Potter and the Sorcerer's Stone (2001) | Who is your associate? | เพื่อนพ้องคุณนั่นใคร Bringing Down the House (2003) | Study the idioms and synonyms I wrote down before your test. | เรียนคำพ้องกับการใช้ภาษา ฉันจะเขียนให้ลองทำดู My Tutor Friend (2003) | There's not a single scientific peer reviewed paper published in the last 25 years that would contradict this scenario | ข้อเขียนทางวิทยาศาสตร์ที่มีผู้เชี่ยวชาญรับรอง ทุกชิ้นที่ตีพิมพ์ออกมาในช่วง 25 ปีนี้ เห็นพ้องต้องกันเป็นเสียงเดียวว่า The Corporation (2003) | An inmate, on the other hand... pulls the pin on his fellow man. | แต่ว่าโจรทำตรงกันข้าม ไม่เห็นหัวพวกพ้อง เอาแต่ตัวรอด The Chronicles of Riddick (2004) | What they all agree on is that the smooth side is definitively Egyptian. | แต่ทั้งหมดเห็นพ้องกัน ด้านเรียบนั่นเป็นของชาวอิยิปต์แน่นอน AVP: Alien vs. Predator (2004) | Well, the Ninth Circuit Court of Appeals upheld a lawsuit by the ACLU on behalf of the families. | ศาลอุทธรณ์ เห็นพ้องกับการยื้นฟ้อง ของ เอซีแอลยู ซึ่่งเป็นตัวแทนของครอบครัว Pilot (2004) | Company. | เพื่อนพ้อง Robots (2005) | Now, try to imagine... these Knights Templar entering the cave, and according to the local legend, fighting these winged demons. | ตอนนี้ พยายามจินตนาการดูนะ.. มีบรรดาอัศวิน เป็นแม่แบบกำลังเข้าถ้ำนี้ และเป็นที่พ้องกันในตำนานชาวพื้นเมือง The Cave (2005) | All right, now. What, you want to let Beechwood tittie-fuck us? I didn't think so. | เอาหละ มึงอยากให้พวกสวะบีซวู้ดนำเราหรือไง กูไม่เห็นพ้องด้วยเป็นแน่แท้ American Pie Presents: Band Camp (2005) | Magneto's a fugitive, we've a mutant in the cabinet, a president who understands us - why hide? | เรามีพวกพ้องอยู่ในสภา ประธานาธิบดีก็เข้าข้างเรา ทำไมเรายังต้องหลบซ่อน X-Men: The Last Stand (2006) | You men cover the doors! | ไอ้คนทรยศพวกพ้อง X-Men: The Last Stand (2006) | It was his initiation his time in the wild for he would return to his people a Spartan or not at all. | ใช้เวลาในพงไพร เพื่อเติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ แล้วกลับคืนสู่พวกพ้อง ในฐานะชาวสปาร์เทิน หรือไม่กลับมาอีกเลย 300 (2006) | Yield, Leonidas. | ฟังเสียงพวกพ้องชาวกรีก 300 (2006) | Quite a little racket you've got going for yourself here. | คุณทำอะไรก็เพื่อพวกพ้องผู้หญิง.. The Wicker Man (2006) | We don't condone what Beagle's done, or the horrible way in which he botched it. | เราไม่เห็นพ้องกับสิ่งที่บีเกิลทำ หรือวิธีการปล้นเฟอะฟะ Flyboys (2006) | They agree with my recommendation completely. | ทุกคนเห็นพ้อง กับความเห็นที่ฉันเสนอไป Flyboys (2006) | And you know the number of those that disagreed with the scientific consensus that we're causing global warming and that it's a serious problem? | จำนวนของบทความที่ไม่เห็นด้วยกับ การเห็นพ้องกันทางวิทยาศาสตร์ ว่าเราเป็นต้นเหตุของภาวะเรือนกระจก และมันเป็นปัญหาที่จริงจังมากมีอยู่เท่าใด An Inconvenient Truth (2006) | Zero percent disagreed with the consensus. | ศูนย์เปอร์เซ็นต์ไม่เห็นด้วยกับความเห็นพ้องต้องกันนั้น An Inconvenient Truth (2006) | I'm glad to be going back to Japan... but I'm a bit sad to leave my friends behind. | ดีใจที่จะได้กลับมาญี่ปุ่นอีก... แต่ก็เศร้าหน่อย ๆ ที่ต้องจากเพื่อนพ้องมา Letters from Iwo Jima (2006) | She'd have a baggy heart. | Echo ก็พ้องกัน Alone (2007) | For what? | พ้องร้องเรื่องอะไร The Right Stuff (2007) | We come in peace for cats and mice everywhere. | เรามาโดยสันติ/เพื่อเพื่อนพ้องเหล่าแมวและหนุ The Simpsons Movie (2007) | In memory of Laura and Simon... and of the orphans... | ด้วยความรำลึกถึงลอร่าและไซมอน... และเหล่าเพื่อนพ้องเด็กกำพร้า... The Orphanage (2007) | We offer you the band, a family that very view oil men can understand. | เราเสนอพวกคุณให้เป็นพวกพ้อง, เป็นครอบครัว ซึ่งเป็นแนวคิดแบบที่ คนทำน้ำมันเข้าใจ There Will Be Blood (2007) | The Brotherhood'll get him no matter what prison yard he ends up on | พวกพ้องหมอนั่นจะเก็บมันอย่างไม่ต้องสงสัยเลย มันจะมีจุดจบในคุก Bobby Z (2007) | Shit, Brotherhood'll kill you no matter where you end up, period | ใช่ พวกพ้องพวกมันจะฆ่าแกในที่สุด แกตายแน่ ๆ Bobby Z (2007) | You protect your own. | ปกป้องพวกพ้องสิ Cassandra's Dream (2007) | That nothing, no matter how horrible, ever really happens without the approval of the government. | ไม่มีอะไร แย่ไปกว่านั้น ไม่มีเรื่องไหนที่ไม่ผ่าน ความเห็นพ้องจากรัฐบาล Shooter (2007) | The sky really became a little higher, the contours of the clouds became gentler, and the classmates whom Kabu jumped on ended up looking like they'd put on thin jumpers. | ราวกับท้องฟ้าอยู่สูงขึ้นไป ความงดงามของมวลหมู่เมฆ เหล่าเพื่อนพ้องที่ต่างเริ่มรื้อเอาเสื้อกันหนาวบางๆออกมาสวมใส่ 5 Centimeters Per Second (2007) | So we are all in agreement then? | งั้นเราเห็นพ้องกันแล้วใช่มั้ย Chuck Versus the Sensei (2008) | Oh, that rhymed, didn't it? | โอ้.. เสียงพ้องกันใช่ไหม Chapter Eight 'Villains' (2008) | We're not changing in midstream, hotch. I have a rapport. This is my interview. | เราไม่เปลี่ยนใจกลางคันหรอกฮอตช์ ผมรักเพื่อนพ้อง นี่คือการสอบสวนของผม Masterpiece (2008) | I Will Work With Whatever Budget You See Fit. | ฉันจะทำงานไม่ว่าจะงบแค่ไหนที่คุณเห็นพ้อง The Manhattan Project (2008) | "Honor, valor, sacrifice, duty, commitment, bravery, justice, integrity, brotherhood, self-esteem, low prices, affordable housing, loose-fitting pants, cheap internet porn." | เกียรติยศ กล้าหาญ เสียสละ หน้าที่ พันธะ กล้าหาญ ยุติธรรม ถูกต้อง เพื่อนพ้อง Superhero Movie (2008) | Not for the sake of your dignity, but for the love of your people. | ไม่ใช่เพี่อเกียรติของพวกเจ้า, แต่เพื่อความรักของพวกพ้องของเจ้า. The Chronicles of Narnia: Prince Caspian (2008) | The city council has also agreed to look into this, starting immediately; | สภาเทศบาลเมืองก็เห็นพ้องด้วย ที่จะดำเนินการทันที Changeling (2008) | Our lawyers want us to agree on a definition of the word. | ทนายความต้องการให้เราเห็นพ้องกันในคำนิยาม Frost/Nixon (2008) | So suppose I like your looks, but I'm really much more interested in the real you because I get a sense from looking at your picture- | หมายถึงเราเห็นพ้องใช่มั้ย ถ้าอย่างงั้น สมมุติ... The Girlfriend Experience (2009) |
| เห็นพ้องต้องกัน | [hen phøng tǿng kan] (v, exp) EN: all agree ; express approval ; give consent ; view favorably | การเห็นพ้องต้องกัน | [kān hen phøng tǿng kan] (n, exp) EN: consensus FR: consensus [ m ] | คำพ้อง | [kham phøng] (n) EN: synonym FR: synonyme [ m ] | คำพ้องเสียง | [kham phøng sīeng] (n) EN: homophone FR: homophone [ m ] | เล่นพวกเล่นพ้อง | [lenphūak len phøng] (v, exp) EN: play favoritism ; favour one's friends | ไม่เห็นพ้อง | [mai hen phøng] (v, exp) EN: disagree | ผิดพ้องหมองใจ | [phitphøng-møngjai] (v) EN: have a difference ; have dissensions ; have differences of opinion ; be estranged ; be at odds ; offend ; be discordant ; displease ; estrange ; be gloomy | ผิดพวกผิดพ้อง | [phit phūak phit phøng] (adv) EN: heterogeneously ; variously | พ้อง | [phøng] (v) EN: be identical ; agree ; clash FR: coïncider ; être identique ; tomber en même temps ; être d'accord ; s'accorder | พ้อง | [phøng] (adj) EN: same ; identical ; alike ; unanimous ; consistent ; synonymous FR: identique ; semblable ; pareil ; synonyme | พ้องกัน | [phøng kan] (v) EN: reach unanimity of | พ้องกัน | [phøng kan] (adj) EN: synonymous | พ้องพาน | [phøngphān] (v) EN: encounter ; meet ; confront | พ้องต้องกัน | [phøng tǿng kan] (v, exp) EN: be identical ; be the same | พ้องต้องกัน | [phøng tǿng kan] (x) EN: ad item | พวกพ้อง | [phūakphøng] (n) EN: friends ; relatives ; companions ; gang ; adherent FR: proches [ mpl ] ; siens [ mpl ] | ศัพท์พ้อง | [sap phøng] (n) EN: synonym FR: synonyme [ m ] | ศัพท์เสียงพ้อง | [sap sīeng phøng] (n) EN: homonym ; homophone FR: homonyme [ m ] ; homophone [ m ] |
| MRI | (n, abbrev) ระบบสร้างภาพจากการสั่นพ้องของคลื่นสนามแม่เหล็ก (Magnetic Resonance Imaging) |
| acceptance | (n) การเห็นพ้องกับ, See also: การเห็นด้วยกับ, Syn. agreement | accordance | (n) การยอมรับร่วมกัน, See also: การเห็นพ้องต้องกัน, Syn. agreement, conformity, harmony | according | (adj) ที่ยอมรับร่วมกัน, See also: ที่เห็นด้วย, ที่เห็นพ้องต้องกัน, Syn. agreeing | acquiescence | (n) การยอมตาม, See also: การยอมรับ, ความเห็นพ้อง, Syn. submission, resignation | affirmative | (n) ข้อความที่แสดงการยินยอม, See also: ข้อความที่แสดงการเห็นพ้อง | affirmative | (adj) ซึ่งแสดงถึงการยินยอม, See also: ซึ่งเห็นพ้อง, Syn. agreeing, affirming, Ant. negative | agree | (vt) เห็นด้วย, See also: เห็นพ้อง | agree | (vi) เห็นด้วย, See also: เห็นพ้อง, Syn. harmonize, coincide, concur, accord, conform, Ant. differ, disagree, refuse | agreement | (n) การเห็นพ้อง, See also: การเห็นด้วย, การเห็นชอบร่วมกัน, การยอมรับร่วมกัน, Syn. complying, accession, agreeing, Ant. disagreeing, disrupting | agreement | (n) ข้อตกลง, See also: ความตกลง, ความยินยอม, ความเห็นพ้อง, Syn. recognition, approval | approval | (n) ความเห็นพ้อง, See also: ความยินยอมพร้อมใจ, ความเห็นชอบด้วย | approve | (vt) เห็นด้วย, See also: เห็นควร, เห็นสมควร, เห็นพ้อง, เห็นชอบ, เห็นดีเห็นชอบ, Syn. affirm, support, ratify, Ant. refect, veto | accord with | (phrv) เข้ากันกับ, See also: เข้ากับ, เห็นพ้องกับ | acquiesce in | (phrv) เห็นพ้องกับ, See also: เห็นด้วยกับ, เห็นด้วย, Syn. agree to | acquiesce to | (phrv) เห็นพ้องกับ, See also: เห็นด้วยกับ, เห็นด้วย, Syn. agree to | against someone's will | (idm) ปราศจากความเห็นพ้อง | agree about | (phrv) เห็นพ้องกับ, See also: เห็นด้วย, Syn. agree on | agree on | (phrv) เห็นพ้องกับ, See also: เห็นด้วยใน, ตกลง เรื่อง, Syn. agree about | agree upon | (phrv) เห็นพ้องกับ, See also: เห็นด้วยใน, ตกลง เรื่อง, Syn. agree about, agree on | agree with | (phrv) เห็นพ้องกับ, See also: เห็นด้วยใน, ตกลง เรื่อง, Ant. disagree with | align with | (phrv) ทำให้เห็นพ้องกัน | assent to | (phrv) เห็นด้วยกับ (มักใช้รูป simple tenses), See also: เห็นพ้องกับ, Syn. agree to | blitz | (vt) พยายามที่จะครอบงำผู้อื่นเพื่อให้เห็นพ้อง | brotherhood | (n) พวกพ้องเดียวกัน, Syn. fellowship, Ant. hostility | be in collusion with | (idm) เห็นพ้องกันอย่างลับๆ กับ (เพื่อทำสิ่งผิด), See also: สมคบคิด, สมรู้ร่วมคิด | bring together | (phrv) ทำให้เห็นพ้องกัน, See also: ทำให้เห็นด้วย, Syn. come together | clannish | (adj) ที่รักแต่พวกพ้องตัวเอง, Syn. select, cliquish | coherent | (adj) ซึ่งสอดคล้อง, See also: ซึ่งเห็นพ้องตรงกัน, ไม่ขัดแย้งในตัวเอง, ซึ่งมีเหตุผล, Syn. consistent, harmonious | coincide | (vi) พ้องกัน (ความคิด), See also: ตรงกัน, เหมือนกัน, ต้องกัน, Syn. correspond, agree, accord, match, tally, jibe, square, concur, harmonise, harmonize, admit, resemble, Ant. differ, contradict | coincident | (adj) พ้องกัน, See also: ต้องกัน, สอดคล้องกัน, Syn. coinciding | coincidently | (adv) อย่างพ้องกัน, See also: อย่างตรงกัน, อย่างสอดคล้องกัน | concert | (n) การเห็นพ้องร่วมกัน, Syn. agreement, harmony | concurrence | (n) การเห็นพ้องด้วย, Syn. agreement, concurrency | concurrency | (n) การเห็นพ้องด้วย, Syn. agreement, concurrence | concurrent | (adj) ที่เห็นพ้องต้องกัน, Syn. agreeing, harmonious | compound with | (phrv) เห็นพ้องกับ | conform to | (phrv) สอดคล้องกับ, See also: เห็นพ้องกับ, เข้ากันได้กับ, Syn. comply with | conform with | (phrv) สอดคล้องกับ, See also: เห็นพ้องกับ, เข้ากันได้กับ, Syn. comply with | cow someone into submission | (idm) บังคับให้เห็นด้วย, See also: เห็นพ้องด้วยเพราะว่ากลัว | differ from | (phrv) ไม่เห็นด้วยกับ, See also: ไม่ลงรอยกับ, ไม่เห็นพ้องกับ, Syn. differ with | differ with | (phrv) ไม่เห็นด้วยกับ, See also: ไม่เห็นพ้องกับ, Syn. differ from | deviation | (n) ความไม่เห็นพ้อง, See also: ความคิดแตกต่าง, การเข้ากันไม่ได้, Syn. disagreement, Ant. accord, correspondence | differ | (vi) ไม่เห็นด้วย, See also: ไม่เห็นพ้อง, ขัดแย้ง, Syn. disagree, discord, conflict, Ant. agree | dissent | (vi) ขัดแย้ง, See also: ไม่เห็นด้วย, ไม่เห็นพ้อง, Syn. disagree, discord, Ant. agree | friend | (n) มิตร, See also: เพื่อน, สหาย, เกลอ, มิตรสหาย, พวกพ้อง, Syn. companion, comrade, Ant. anemy, foe | friendless | (adj) ซึ่งไร้เพื่อน, See also: ซึ่งไม่มีเพื่อน, ซึ่งหัวเดียวกระเทียมลีบ, ซึ่งไม่มีพวกพ้อง, Syn. companionless, forlorn, lonely | get together | (phrv) เห็นพ้องกัน | homograph | (n) คำพ้องรูป | homonym | (n) คำพ้องรูปหรือคำพ้องเสียง | homophone | (n) คำพ้องเสียง |
| affirm | (อะเฟิร์ม') vt. ยืนยัน, เห็นพ้อง, อนุมัติ, พิสูจน์เป็นความจริง, รับรอง, Syn. state, assert | agree | (อะกรี') vt., vi. ตกลง, เห็นพ้อง, ยอมรับ, เห็นด้วย, ยินยอม, สนับสนุน, ตกลงกำหนด, เข้ากันได้, ลงรอย, เหมือน, เหมาะ สมกับ. -agreeingly adv., Syn. concur, comply, assent | clan | (แคลน) n. เผ่า, เผ่าพันธุ์, วงศ์, วงศ์ตะกูล, ชาติวงศ์, ครอบครัว, กลุ่มคน, พวก, พ้อง | clansman | n. สมาชิกของเผ่าพันธ์, พรรคพวก, พวกพ้อง, See also: clansmanship n. ดูclansman | coincident | (โคอิน'ซิเดนทฺ) adj. บังเอิญ, พ้องกัน, ต้องกัน, สอดคล้องกัน, ประจวบกัน | coincidental | adj. บังเอิญ, พ้องกัน, ประจวบกัน, พร้อมกัน | concent | (คันเซนทฺ') n. ความเห็นพ้อง, ความลงรอยกัน, Syn. harmony | concur | (คันเคอร์') { concurred, concurring, concurs } vi. เกิดขึ้นพร้อมกัน อย่างบังเอิญ, ประจวบกัน, เห็นด้วย, เห็นพ้อง, ทำงานร่วมกัน, ให้ความร่วมมือ, สนับสนุน, รวมกัน, Syn. assent, Ant. contend, deny | concurrence | (คันเคอ'เรินซฺ) n. การบังเกิดขึ้นพร้อมกัน, การประจวบกัน, การเห็นด้วย, การเห็นพ้อง, การให้ความร่วมมือ, การสนับสนุน, จุดบนเส้น 'เส้นหรือมากกว่านั้น, อำนาจร่วมหรือเท่ากัน, Syn. agreement | consentaneous | (คอยเซนเท'เนียส) adj. ซึ่งเห็นพ้อง, เป็นเอกฉันท์., See also: consentaneousness n. ดูconsentaneous consentaneity n. ดูconsentaneous | consentient | (คันเซน'เชินทฺ) adj. ซึ่งเห็นพ้อง, ซึ่งเห็นด้วย, | consistent | (คันซิส'เทินทฺ) adj. มั่นคง, ซึ่งยึดมั่นเหนียวแน่น, เห็นพ้อง, ลงรอยกัน., Syn. according, Ant. inconsistent -Conf. constant | consonance | (คอน'ซะเนินซฺ) n. ความเห็นพ้อง, ความลงรอยกัน, เสียงประสาน., Syn. consonancy, Ant. dissonance | disagree | (ดิสอะกรี') { disagreed, disagreeing, disagrees } vi. ไม่เห็นด้วย, ไม่เห็นพ้อง, โต้แย้ง, ทะเลาะ, ไม่เหมาะ, ทำความเสียหายแก่, Syn. dissent, quarrel | disagreement | (ดิสอะกรี'เมินทฺ) n. ความไม่เห็นด้วย, ความไม่ลงรอยกัน, ความไม่เห็นพ้อง, การทะเลาะ, การโต้แย้ง, Syn. rift | dissidence | (ดิส'ซิเดินซฺ) n. ความไม่เห็นด้วย, ความไม่ลงรอยกัน, ความไม่เห็นพ้อง, ข้อเสนอที่แตกต่างหรือขัดแย้ง, Syn. dissent | dissident | (ดิส'ซิเดินทฺ) n. ซึ่งไม่เห็นด้วย, ซึ่งไม่ลงรอยกัน, ซึ่งมีความเห็นไม่พ้องกัน. n. ผู้ที่ไม่เห็นด้วย, ผู้ที่มีความเห็นไม่พ้องกัน, Syn. protestor, dissenter, nonconformist | factional | (แฟค'เชินเนิล) adj. เกี่ยวกับหมู่ (เหล่า, ก๊ก, พวก, ฝ่าย) , เห็นแก่ตัว, ซึ่งถือพวกถือพ้อง | fadge | (เฟดจฺ) vt. เหมาะกัน, พ้องกับ, ประสบความสำเร็จ, เจริญ, | favor | (ฟะ'เวอะ) n. ความกรุณา, การกระทำที่กรุณา, ความสงเคราะห์, ความประทับใจ, ความนิยม, ความเข้าข้าง, ไมตรีจิต, บุญคุณ, การสนับสนุน, ความเห็นพ้อง, ของขวัญ, ของระลึก, เครื่องหมาย, โบ, สิทธิพิเศษ. -Phr. (in favo (u) r of สนับสนุน, เข้าข้าง) . -Phr. (in one's favo (u) r เพื่อผลประโยชน | favour | (ฟะ'เวอะ) n. ความกรุณา, การกระทำที่กรุณา, ความสงเคราะห์, ความประทับใจ, ความนิยม, ความเข้าข้าง, ไมตรีจิต, บุญคุณ, การสนับสนุน, ความเห็นพ้อง, ของขวัญ, ของระลึก, เครื่องหมาย, โบ, สิทธิพิเศษ. -Phr. (in favo (u) r of สนับสนุน, เข้าข้าง) . -Phr. (in one's favo (u) r เพื่อผลประโยชน | friend | (เฟรนดฺ) n. เพื่อน, สหาย, มิตร, พวกพ้อง, ผู้สนับสนุน, ผู้ช่วยเหลือ, คนคุ้นเคย, สมาชิกของกลุ่มหรือสมาคมเดียวกัน. -Phr. (make friends with คบเป็นเพื่อนกับ) . vt. ทำให้เป็นเพื่อน, See also: friendless adj. friendlessness n. -S... | synonym | (ซิน'นะนิม) n. คำพ้อง (ในภาษาเดียวกัน) คำที่มีความหมายเหมือนกันหรือใกล้เคียงกัน, คำหรือถ้อยคำที่เป็นอีกชื่อหนึ่งของบางสิ่งบางอย่าง., See also: synonymic adj. synonymical adj. synonymity n. | synonymous | (ซินอน'นิมัส) adj. มีลักษณะเป็นคำพ้อง, มีความหมายเหมือนกัน., See also: synonymousness n., Syn. like | synonymy | (ซินอน'นิมี) n. ลักษณะคำพ้อง, ลักษณะที่มีความหมายเหมือนกัน, การมีความหมายเหมือนกัน | thesaurus | (ธีซอ'รัส) n. พจนานุกรมคำพ้อง (synonyms) และคำที่มีความหมายตรงกันข้าม (antonyms) , พจนานุกรม, ปทานุกรม, อภิธาน, อภิธานชุดวรรณคดี, สารานุกรม, ขุมทรัพย์, ดัชนีข้อมูลของคอมพิวเตอร์ | thumbstall | n. ปลอกหุ้มนิ้วหัวแม่มือ thumbs-up (ธัมซฺ'อัพ) n. การเห็นด้วย, การเห็นพ้อง } |
| accede | (vi) ยอม, ยอมจำนน, เห็นพ้อง, ยอมตาม, บรรลุ | affirm | (vi, vt) รับว่าจริง, ยืนยัน, รับรอง, เห็นพ้อง | ally | (n) พันธมิตร, พรรคพวก, พวกพ้อง | apostasy | (n) การปลีกตัวออกจากพวกพ้อง, การละทิ้งศาสนา | apostate | (n) ผู้ปลีกตัวจากพวกพ้อง, ผู้ละทิ้งศาสนา | assent | (n) การยินยอม, การเห็นพ้องต้องกัน, การยอมรับ, การตกลง | clansman | (n) พี่น้องร่วมสกุล, พี่น้องร่วมแซ่, พวกพ้อง | coincide | (vi) ร่วมกัน, พ้องกัน, เกิดขึ้นพร้อมกัน, ลงรอยกัน, เข้ากัน, สอดคล้องกัน, กันตรงกัน | coincidence | (n) เหตุบังเอิญ, การพ้องกัน, การเกิดขึ้นพร้อมกัน | coincident | (adj) พ้องกัน, เกิดขึ้นเวลาเดียวกัน, ประจวบกัน, บังเอิญ | concert | (n) การแสดงดนตรี, มโหรี, สังคีต, คอนเสิร์ต, การเห็นพ้องต้องกัน, ความร่วมมือ | concur | (vi) รวมกัน, เห็นด้วย, เห็นพ้อง, พร้อมกัน, ประจวบกัน | concurrent | (adj) รวมกัน, ประจวบกัน, พร้อมกัน, พ้องกัน | disagreement | (n) ความไม่เห็นด้วย, ความไม่ลงรอยกัน, ความไม่เห็นพ้อง | friendless | (adj) ไม่มีเพื่อน, ไม่มีพวกพ้อง, ไม่มีพรรคพวก | homonym | (n) คำพ้องเสียง | nepotism | (n) การแบ่งพรรคพวก, การถือพวกพ้อง, การเลือกที่รักมักที่ชัง | partisan | (adj) ซึ่งแบ่งพวกพ้อง, ซึ่งถือพรรคถือพวก, ซึ่งเข้าข้าง | partisan | (n) ผู้เข้าข้าง, พรรคพวก, พวกพ้อง, พลพรรค | partizan | (n) ผู้เข้าข้าง, พรรคพวก, พวกพ้อง, พลพรรค | sustain | (vt) ค้ำจุน, ได้รับ, เห็นพ้อง, สนับสนุน, ผดุงไว้ | synonym | (n) คำพ้อง | synonymous | (adj) ตรงกัน, มีความหมายเหมือนกัน, พ้องกัน | tautology | (n) การพูดซ้ำซาก, การใช้คำพ้องความหมาย |
| cronyism | (n) ระบบพวกพ้อง การเล่นพรรคเล่นพวก หรือ การเอื้อประโยชน์ให้แก่คนใกล้ชิดของตน | Doctrine of Signature | [doc-trin of sik-na-tur] (n) การบำบัดรักษาโรคด้วยส่วนของพืชที่มีลักษณะพ้องจองกับอวัยวะหรืออาการนั้นๆ, สัญลักษณาการบำบัด (สญฺญลกฺษณ+อาการฺ+ขจดฺ), Syn. สัญลักษณ์บำบัด | homophony | (n) คำพ้องเสียง, คำที่มีเสียงเหมือน, See also: A. polyphony, homophonous | MRI | (n, abbrev) (Magnetic Resonance Imaging) ระบบสร้างภาพจากการสั่นพ้องของคลื่นสนามแม่เหล็ก ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นการสร้างภาพตัดขวางทางการแพทย์ | tomography | (n) การสร้างภาพตัดขวางของรูปทรงโดยใช้เทคนิคต่างๆ ดังเช่น จากการสั่นพ้องของคลื่นสนามแม่เหล็ก หรือ จากรังสีเอกซ์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ |
| 一致 | [いっち, itchi] (vi, adj) เหมือนกัน, พ้องกัน, เห็นด้วย, เป็นเอกฉันท์, See also: A. 反対 | 厨房 ; 中坊 ; 中に病 | [จูโบ จูนิเบียว จูนิบโย chuubou chuububyou ちゅうにびょう ちゅうぼう] (n, slang) ความหมายโดยแท้จริง แปลว่า ครัว แต่เนื่องจากไปพ้องเสียงกับอีกคำแสลงอีกคำที่มีความหมายว่า เกรียน (ทำตัวเป็นเด็กไม่รู้จักโต ก่อกวน หรือสร้างความรำคาญให้ผู้อื่น) คือ 中坊 (เด็กมัธยมต้น หรือ เด็กที่ไม่รู้จักโต) และในขั้นตอนเวลาพิมพ์คำว่า 中坊 มักจะไม่ออกมาให้เลือก ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จึงใช้คำ 厨房 ในเชิงคำแสลงว่า "เกรียน" แทนคำเดิมไปโดยปริยาย นอกจากนี้ยังมีคำว่า 中に病 (ちゅうにびょう)ซึ่งแปลว่า "โรคเด็กม.ต้น" ก็มีใช้ในความหมายเชิงว่า เกรียน ได้ด้วยเ่ช่นกัน (ขอบคุณข้อมูลจากเพจ "เรียนภาษาญี่ปุ่นกับโอมเซนเซ" ด้วยค่ะ) | 同義語 | [どうぎご, dougigo] (n) คำพ้องความหมาย |
| 合意 | [ごうい, goui] TH: เห็นพ้องด้วย EN: consent |
| einverstanden | (adj, pp) ที่เห็นด้วย, เห็นพ้องต้องกัน เช่น Sie sind damit nicht einverstanden. (= Sie sind nicht dafür.) พวกเขา/คุณไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้, See also: Related: zustimmen | Konsens | (n) |der, pl. Konsense| มติเอกฉันท์, การเห็นพ้อง | Tomografie | (n) |die, pl. Tomografien| การสร้างภาพตัดขวางของรูปทรงโดยใช้เทคนิคต่างๆ ดังเช่น จากการสั่นพ้องของคลื่นสนามแม่เหล็ก หรือ จากรังสีเอกซ์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ | Magnetresonanztomografie | (n) |die, pl. Magnetresonanztomografien| ระบบสร้างภาพตัดขวางจากการสั่นพ้องของคลื่นสนามแม่เหล็ก |
| | d'accord | (phrase) ตกลง, เห็นด้วย, โอเค (เป็นวลีที่ใช้บ่งแสดงความเห็นพ้องหรือความเข้าใจ) |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |