ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ต้านทาน, -ต้านทาน- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ ฌาณ | (n) ฌาณ หรือ อธิจิต(supraconscious) เป็นจิตที่เป็นที่สุดของปัญญา คือความรู้ชัดธรรมชาติของมนุษย์ว่านี้ทุกข์ นี้ทุกขสมุทัย นี้ทุกขนิโรธ นี้ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทา(คือความรู้มรรค 8 การคิดปฏิบัติเพื่อดับทุกข์) เป็นจิตที่อยู่เหนือและสามารถ ควบคุมหรือข่ม ได้ทั้งจิตสำนึก(consious) และจิตใต้สำนึก(subconsious) ซึ่งเป็นความรู้ที่สูดของวิญญาณคือความรู้แจ้งของธรรมชาติของมนุษย์ว่า นี้สุข นี้ทุกข์ นี้มิใช่ทุกข์ มิใช่สุข อธิจิตใช้สำหรับดับกิเลส ซึ่งสามารถทำให้เกิดนิมิตขึ้นมาได้ เพื่อดับกิเลสในเวลาที่เกิดกิเลสขึ้น พระผู้มีพระภาค(พระพุทธเจ้า)ได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้ไว้ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๔ มัชฌิมนิกาย มูลปัณณาสก์๑๐. วิตักกสัณฐานสูตรว่าด้วย อาการแห่งวิตก การเรียกอธิจิตของตนเอง ถ้าไม่มีพรสวรรค์หรือบารมีที่สะสมมาแต่ปางก่อน จะเรียกไม่ได้ เพราะจิตยังไม่มั่นคงพอ จะต้องเรียนรู้และทำความเพียรที่ทนได้ยาก ฝึกฝน จนเกิดความชำนาญ ซึ่งข้าพเจ้ามีความสามารถที่จะให้คนทั่วไปเรียกอธิจิตของตนเองได้ เช่นให้ผู้ป่วยเรียกอธิจิตของเขาออกมารักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งทางกายและใจของเขาที่เป็นอยู่ โดยสั่งให้จิตของเขาตกอยู่ในภาวะภวังค์ ด้วยการสั่งระงับจิตหยาบที่ทำให้เขาเกิดโรคทั้งทางกายและทางใจ เพื่อเขาจะได้มีจิตที่มั่นคงถึงอธิจิตแล้วสั่งยาหรือภูมิต้านทานในตัวของเขาออกมารักษาโรค ซึ่งได้ผลดีกว่าแพทย์แผนปัจจุบัน และแพทย์ทางเลือกวิธีอื่น นี่คือประโยชน์จากการเรียกหรือฝึกเรียกอธิจิตของตนเอง ซึ่งพระพุทธเจ้าสามารถเรียก Stem cell ในพระวรกายของพระองค์ออกมารักษาโรคได้นานมาแล้วหรือมากกว่า 2554 ปี ส่วนนักวิทยาศาสตร์พึ่งจะมาค้นพบวิธีใช้ Stem cell รักษาบางโรคเมื่อ 50 ปีมานี้เอง การรักษายังมีข้อบ่กพร่องและเงื่อนไขในการรักษาเพื่อจะได้ผลลัพท์จนเป็นที่น่าพอใจของแพทย์อยู่อีกมาก แต่วิธีของพระพุทธองค์ไม่มีเงื่อนไข ถ้าคนป่วยสามารถเรียกอธิจิตของตนเองได้ ข้าพเจ้าได้ใช้อธิจิตรักษา โรคปวดตามอวัยวะและโรคหวัดป่วยของข้าพเจ้าเอง และรักษาโรคปวดและอัมพาลให้กับคนป่วยแล้วหลายราย ซึ่งได้รับผลเป็นที่น่าพอใจของข้าพเจ้าและของคนป่วย |
|
| ต้านทาน | (v) resist, See also: withstand, impede, counter, oppose, check, stop, Syn. ต้าน, ขัดขวาง, ยับยั้ง, ยัน, ทัดทาน, Example: การที่คนเราออกกำลังกายสม่ำเสมอทำให้ร่างกายแข็งแรงสามารถต้านทานโรคภัยต่างๆ ได้ระดับหนึ่ง, Thai Definition: ขัดขวางต่อสู้ยันเอาไว้ | แรงต้านทาน | (n) braking power, See also: resistance, Example: นักร่อนจะต้องนอนบังคับเครื่องบินเพื่อลดแรงต้านทานของอากาศลงให้เหลือน้อยที่สุด | ความต้านทาน | (n) resistance, See also: opposition, Example: ขดลวดทองแดงมีความต้านทานต่ำ | ภูมิต้านทาน | (n) immunity, Syn. ภูมิคุ้มกัน, Example: หญิงวัยเจริญพันธุ์ร้อยละ 8-10 ยังไม่มีภูมิต้านทานต่อโรคหัดเยอรมัน, Thai Definition: สภาพที่ร่างกายมีแรงต่อต้านเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย |
| ต้านทาน | ก. ขัดขวาง,
ยับยั้ง,
ต่อสู้ยันไว้. | เซรุ่ม | น. น้ำเลือดสีเหลืองใส มีภูมิต้านทานต่อชีวพิษหรือต่อเชื้อโรค แยกได้จากเลือดที่แข็งตัวแล้วของสัตว์เช่นม้าหรือกระต่ายที่ได้รับการกระตุ้นด้วยชีวพิษเช่นพิษงู หรือเชื้อโรคเพื่อให้เกิดภูมิต้านทาน ใช้ฉีดรักษาผู้ป่วยที่ได้รับชีวพิษหรือเชื้อโรคดังกล่าวเพื่อลดพิษหรือทำลายเชื้อโรค. | ดำนาณ | น. เครื่องห้าม,
เครื่องป้องกัน,
เครื่องต้านทาน,
ที่พึ่ง,
ที่อาศัย. | ดื้อยา | ก. ต้านทานฤทธิ์ยา (ใช้แก่เชื้อโรค เช่น แบคทีเรีย ไวรัส). | ต่อต้าน | ก. ปะทะไว้,
ต้านทานไว้,
สู้รบป้องกันไว้. | ทรุด | (ซุด) ก. จมลงหรือลดลงกว่าระดับเดิมเพราะสิ่งรองรับมีกำลังต้านทานไม่พอ เช่น กำแพงทรุด สะพานทรุด,
ยุบลง เช่น ดั้งจมูกทรุด,
มีฐานะตกตํ่ากว่าเดิม เช่น ฐานะทางเศรษฐกิจกำลังทรุดหนัก,
เรียกอาการไข้ที่หนักลงไปกว่าเดิม ว่า ไข้ทรุด. | ทาน ๒ | ก. ยันหรือรับไว้ เช่น ทานน้ำหนักไม่ไหว,
มักใช้เข้าคู่กับคำ ต้าน เป็น ต้านทาน. | นิโครม | (-โคฺรม) น. โลหะเจือชนิดหนึ่งซึ่งประกอบด้วยโครเมียมและนิกเกิล ใช้ประโยชน์นำไปทำเป็นเส้นลวดในอุปกรณ์ไฟฟ้าเพราะมีความต้านทานสูง และทนทานต่อความร้อนได้ดีมาก. | ประจญ | (ปฺระจน) ก. ต่อสู้,
สู้รบ,
ต้านทาน,
ผจญ ก็ว่า. | ปริตร ๑ | (ปะริด,
ปะหฺริด) น. ความต้านทาน,
เครื่องป้องกัน | ป้องกัน | ก. กั้นไว้เพื่อต้านทานหรือคุ้มครอง. | ฝืด | ว. เคลื่อนไหวไม่สะดวกไม่คล่องเพราะแรงต้านทานมีการเสียดสีเป็นต้น เช่น ประตูฝืด กินข้าวฝืดคอ,
โดยปริยายหมายถึงอาการคล้ายคลึงเช่นนั้น เช่น การค้าฝืด | ฟันฝ่า | ก. บุกตะลุยสิ่งที่ต้านทานเข้าไป,
ผจญสิ่งที่ขัดขวาง. | ภูมิคุ้มกัน | (พูม-) น. สภาพที่ร่างกายมีแรงต่อต้านเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย,
ภูมิต้านทาน ก็เรียก. | รอง ๑ | ต้านทานคํ้าจุนให้คงอยู่ เช่น รองหัวเข็ม,
หนุนให้สูงขึ้น เช่น เอาไม้รองโต๊ะรองตู้,
รองรับ เช่น เอาเบาะรองนั่ง เอาผ้ารองมือ. | รั้ง | ก. หน่วงเหนี่ยวไว้ เช่น รั้งตัวไว้ก่อน,
เหนี่ยว เช่น แขนเสื้อรั้ง,
ชักมา,
ใช้กำลังเต็มที่เพื่อให้สิ่งที่มีแรงต้านทานเคลื่อนเข้ามาหรือหยุดอยู่ เช่น รั้งวัวรั้งควาย | ลัดวงจร | ก. ลักษณะที่วงจรไฟฟ้าซึ่งมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่าน มีตัวนำซึ่งมีความต้านทานตํ่ากว่าความต้านทานของวงจรไฟฟ้านั้นมากมาแตะพาด เป็นเหตุให้กระแสไฟฟ้าจำนวนมากไหลผ่านตัวนำที่มาแตะพาดนั้น ทำให้เกิดความร้อนสูงมากจนเกิดไฟไหม้ได้ เรียกว่า ไฟฟ้าลัดวงจร. | วัชรยาน | น. ชื่อหนึ่งของลัทธิพุทธตันตระ ซึ่งถือว่ามีหลักปรัชญาสูงเหนือธรรมชาติ มีความแข็งเหมือนเพชร ใสเหมือนอากาศ ไม่มีใครต้านทานได้เหมือนสายฟ้า จึงเรียกหลักปรัชญานั้นว่า วัชระ และเรียกลัทธิว่า วัชรยาน. | วิตามิน | น. กลุ่มสารอินทรีย์ซึ่งเป็นสารอาหารจำเป็นที่ร่างกายต้องการแต่เพียงจำนวนน้อย ๆ และจะขาดไม่ได้ หากขาดจะทำให้อวัยวะในร่างกายทำงานผิดปรกติและเกิดโรคได้ สารกลุ่มนี้มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตของร่างกาย บำรุงผิวพรรณ เหงือก ผม ตา และช่วยต้านทานโรค แบ่งเป็น ๒ พวกใหญ่ คือ พวกที่ละลายได้ในไขมัน เช่น วิตามินเอ วิตามินดี และพวกที่ละลายได้ในน้ำ เช่น วิตามินบี วิตามินซี,
ใช้ว่า วิตะมิน หรือ ไวตามิน ก็มี. | สังสดมภ์ | น. ความแข็งทื่อ,
การต้านทาน | อนุรักษนิยม | (อะนุรักสะนิยม,
อะนุรักนิยม) น. อุดมคติทางการเมือง การเศรษฐกิจ เป็นต้น ที่มีแนวโน้มไปในทางต้านทานการเปลี่ยนแปลง โดยยึดถือสนับสนุนระเบียบที่ตั้งมั่นอยู่แล้ว. | โอห์ม | น. หน่วยวัดความต้านทาน ใช้สัญลักษณ์ Ω ความต้านทาน ๑ โอห์ม คือ ความต้านทานระหว่างจุด ๒ จุดบนตัวนำ ซึ่งเมื่อจุดคู่นี้มีความต่างศักย์ไฟฟ้า ๑ โวลต์แล้ว จะทำให้มีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านได้ ๑ แอมแปร์. | โอห์มมิเตอร์ | น. เครื่องมือไฟฟ้าที่ใช้สำหรับวัดค่าของความต้านทานเป็นโอห์ม. |
|
| | Earth resistance | ความต้านทานดิน [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Octane Number | ค่าออกเทน,
ค่าออกเทน หมายถึงหน่วยการวัดความสามารถในการต้านทานการน๊อคของเครื่องยนต์ [ปิโตรเลี่ยม] | Earthquake resistant design | การออกแบบต้านทานแผ่นดินไหว [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Electric resistance | ความต้านทานไฟฟ้า [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Radioimmunoassay | อาร์ไอเอ,
เทคนิคการหาปริมาณสารต่างๆ ในสิ่งส่งตรวจ เช่น เลือด ปัสสาวะ โดยใช้สารประกอบติดฉลากรังสีเป็นตัวติดตามผลของปฏิกิริยาจำเพาะระหว่างสารก่อภูมิต้านทาน(antigen) และสารภูมิต้านทาน(antibody) [นิวเคลียร์] | antibody | สารภูมิต้านทาน [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี] | Disease and pest resistance | การต้านทานโรคและศัตรูพืช [TU Subject Heading] | Electric resitance | ความต้านทานไฟฟ้า [TU Subject Heading] | Skid resistance | ความต้านทานการลื่นไถล [TU Subject Heading] | ออกเทน | ค่าออกเทนเป็นตัวเลขที่บอกถึงคุณภาพการต้านทานการน็อค หรือความสามารถของน้ำมันเบนซินที่จะเผาไหม้โดยปราศจากการน็อคในเครื่องยนต์ ทดสอบได้หลายวิธี อาทิ <br>Research Octane Number (RON) เป็นการวัดโดยใช้เครื่องยนต์มาตรฐาน CFR F-1 วัดที่รอบเครื่องยนต์ต่ำ 600 รอบต่อนาที และอุณหภูมิไอน้ำมันผสมต่ำประมาณ 125 องศาฟาเรนไฮต์ <br>Motor Octane Number (MON) เป็นการวัดโดยใช้เครื่องยนต์มาตรฐาน CFR F-2 วัดที่รอบเครื่องยนต์รอบสูง 900 รอบต่อนาทีและอุณหภูมิไอน้ำมันผสม 300 องศาฟาเรนไฮต์ <br>Road Octane Number ทำการวัดโดยใช้รถยนต์จริงๆ วิ่งบนถนนซึ่งความเร็วและภาระเปลี่ยแนปลงไปต่างๆ กัน เพือ่ให้ได้ใกล้เคียงกับควาเมป็นจริงมากที่สุด วิธีนี้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก [ปิโตรเลี่ยม] | Abrasion resistance | ความสามารถของพื้นผิววัสดุในการต้านทานต่อการสึกหรอเนื่องจากการสัมผัส เสียดสีกัน [เทคโนโลยียาง] | Chloroprene rubber | ยาง CR เป็นยางสังเคราะห์ที่ได้จากมอนอเมอร์ของคลอโรพรีน มีทั้งประเภทที่ใช้งานทั่วไปและประเภทใช้งานพิเศษ เช่น ทำกาวยาง ยางใช้เคลือบ และวัสดุอุดรอยรั่ว เป็นต้น เนื่องจากโมเลกุลของยาง CR สามารถจัดเรียงตัวได้อย่างเป็นระเบียบภายใต้สภาวะที่เหมาะสม ยางชนิดนี้จึงสามารถตกผลึกได้เช่นเดียวกับยางธรรมชาติ มีค่าความทนต่อแรงดึงสูง มีค่าความทนต่อการฉีกขาดและความต้านทานต่อการขัดถูสูง ยาง CR มีสมบัติทนต่อน้ำมันได้ปานกลางถึงดี และทนต่อความร้อน แสงแดด และโอโซนได้ค่อนข้างดี และยังมีสมบัติการหน่วงไฟ จึงนิยมนำไปใช้ในการผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยางที่ใช้ในงานภายนอกอาคาร เช่น ยางขอบหน้าต่าง ยางรองคอสะพาน ยางปลอกสายเคเบิล เป็นต้น [เทคโนโลยียาง] | Halobutyl rubber | ยาง XIIR เป็นยางสังเคราะห์ชนิดหนึ่งซึ่งได้จากการทำปฏิกิริยาฮาโลจิเนชัน (Halogenation) ของยาง IIR กับก๊าซคลอรีน (Cl 2) หรือก๊าซโบรมีน (Br 2) ได้เป็นยางคลอโรบิวไทล์ (CIIR) หรือยางโบรโมบิวไทล์ (BIIR) ตามลำดับ ยางฮาโลบิวไทล์นี้มีปริมาณฮาโลเจนอยู่น้อยมากจึงไม่จัดอยู่ในพวกยางที่มี ขั้ว แต่ยางชนิดนี้คงรูปได้เร็ว มีระดับการคงรูปสูง และมีความต้านทานต่อการเกิด reversion ในระหว่างการคงรูปได้ดี ดังนั้นยางฮาโลบิวไทล์จึงสามารถใช้ผสมกับยางที่ไม่อิ่มตัวชนิดอื่นๆ เช่น ยางธรรมชาติได้ดีและยังสามารถเกิดการคงรูปร่วมกับยางที่ไม่อิ่มตัวชนิดอื่นๆ ได้ สมบัติของยางชนิดนี้โดยทั่วไปดีกว่ายาง IIR เล็กน้อย คือ มีอัตราการซึมผ่านของก๊าซต่ำกว่า มีความทนทานต่อโอโซน ความร้อน สภาพอากาศ และสารเคมีต่างๆ ได้ดีกว่า แต่มี hysteresis สูงกว่า การใช้งานนิยมใช้ผลิตยางโอริงหรือปะเก็นยางชนิดที่ต้องทนต่อสารเคมี ท่อไอน้ำ ยางบุด้านในของยางล้อแบบไม่มียางใน สายพาน ยางบุต่างๆ และจุกปิดขวดยา เป็นต้น [เทคโนโลยียาง] | Hardness | ความต้านทานต่อการเปลี่ยนแปลงรูปร่างเฉพาะที่บริเวณพื้นผิว สามารถวัดได้โดยนำหัวกด (indentor) กดลงบนชิ้นทดสอบภายใต้สภาวะที่กำหนด ความลึกของการทะลุทะลวงของหัวกดจะสะท้อนถึงค่าความแข็ง สำหรับยางนิยมทดสอบด้วยเครื่อง Durometer แบบ Shore A ซึ่งมีหน่วยความแข็งเป็น Shore A (ISO 7619-1,
ASTM D2240) หรือการทดสอบแบบ IRHD มีหน่วยความแข็งเป็น IRHD (ISO 48) [เทคโนโลยียาง] | Nitrile rubber or Acrylonitrile butadiene | ยางไนไทรล์เป็นยางสังเคราะห์ชนิดหนึ่งซึ่งเป็นโคพอลิเมอร์ของอะไค รโลไนไทรล์และบิวทาไดอีน ประกอบด้วยอะไครโลไนไทรล์ตั้งแต่ร้อยละ 18-51 ซึ่งขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งาน ยางไนไทรล์เป็นยางที่มีความเป็นขั้วสูงมีสมบัติเด่น คือ ทนต่อน้ำมันปิโตรเลียมและตัวทำละลายที่ไม่มีขั้วต่างๆ ได้ดี นอกจากนี้ยังทนต่อความร้อนและต้านทานต่อการขัดถูได้ดี จึงนิยมนำไปผลิตผลิตภัณฑ์ที่ต้องสัมผัสกับน้ำมัน เช่น ปะเก็นน้ำมัน ยางโอริง ยางซีล ยางเชื่อมข้อต่อ เป็นต้น [เทคโนโลยียาง] | Plasticity retention index | อัตราส่วนของค่าพลาสติซิตี้หลังจากการให้ความร้อนในตู้อบอากาศร้อนเป็น เวลา 30 นาที ที่อุณหภูมิ 140 องศาเซลเซียส ต่อค่าพลาสติซิตี้ก่อนการให้ความร้อนในตู้อบ ซึ่งค่านี้จะบอกถึงความต้านทานต่อการเกิดออกซิเดชันของยางดิบ [เทคโนโลยียาง] | Polyurethane rubber | ยางพอลิยูรีเทนได้จากการทำปฏิกิริยาระหว่างหมู่ไอโซไซยาเนต (isocyanate,
-N-C=O) และหมู่ไฮดรอกซิล (hydroxyl,
-OH) เกิดเป็นพันธะยูรีเทน (-NH-CO-O-) ขึ้น ถ้าหมู่ R ในพอลิออลเป็นพอลิเอสเทอร์ จะเรียกว่า พอลิเอสเทอร์ยูรีเทน (AU) และถ้าหมู่ R เป็นพอลิอีเทอร์ จะเรียกว่า พอลิอีเทอร์ยูรีเทน (EU) สมบัติทั่วไปของยางพอลิยูรีเทน คือ มีความทนต่อแรงดึง ความทนต่อการฉีกขาด ความแข็ง ความต้านทานต่อการขัดถู รวมทั้งมีความทนทานต่อการเสื่อมสภาพเนื่องจากสภาพอากาศ ออกซิเจน ความร้อน และโอโซนดีมาก แต่จะเสื่อมสภาพได้ง่ายถ้าใช้งานในที่ร้อนชื้นหรือในสภาวะที่ต้องสัมผัสกับ น้ำร้อน ไอน้ำ กรด หรือด่าง (เกิดการไฮโดรไลซิส) สามารถนำไปผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ท่อยาง ข้อต่อยาง ปลอกหุ้มสายเคเบิล สายพานลำเลียง ล้อสเก็ต ยางพื้นรองเท้า ยางซีล ปะเก็น เป็นต้น [เทคโนโลยียาง] | Silicone rubber | ยางซิลิโคนเป็นยางสังเคราะห์ชนิดหนึ่งซึ่งในแกนสายโซ่หลักของโมเลกุล ประกอบด้วยอะตอมของซิลิกอน (Si) และออกซิเจน (O) มีสูตรโครงสร้างทางเคมีเป็นพอลิไซลอกเซน (polysiloxane) ยางซิลิโคนมีหลายเกรด แต่ละเกรดจะแตกต่างกันที่หมู่ R ที่เกาะอยู่บนสายโซ่หลัก ดังนี้ MQ หมู่ R เป็นหมู่เมทิล (CH 3 ) VMQ หมู่ R เป็นหมู่ไวนิล (CH 2 = CH 2) PMQ หมู่ R เป็นหมู่ฟีนิล (C 6 H 5 ) PVMQ หมู่ R มีทั้งหมู่ฟีนิล หมู่ไวนิล และหมู่เมทิล FVMQ หมู่ R มีทั้งหมู่ไตรฟลูออโรโพรพิล หมู่ไวนิล และหมู่เมทิล แต่เกรดที่ใช้กันมากที่สุดจะเป็นพอลิเมอร์ของไดเมทิลไซลอกเซน (หมู่ R คือ CH 3) หรือที่มีชื่อย่อว่า MQ สมบัติโดยทั่วไปมีค่าความทนต่อแรงดึง ความต้านทานต่อการขัดถู และความต้านทานต่อแรงกระแทกต่ำมาก ดังนั้นจึงต้องมีการเติมสารตัวเติมเสริมแรงเช่น ซิลิกาเข้าช่วย แต่ยางซิลิโคนทนต่อสภาพอากาศ ออกซิเจน โอโซน แสงแดด และความร้อนได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้ที่อุณหภูมิสูงหรือต่ำมากๆ ได้ เนื่องจากยางชนิดนี้มีราคาสูงมาก ดังนั้นการใช้งานจึงจำกัดอยู่ในผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถใช้ยางชนิดอื่นๆ ได้ เช่น การผลิตชิ้นส่วนของยานอวกาศ เครื่องบิน รถยนต์ ยางโอริง หน้ากากออกซิเจน แป้นกดของโทรศัพท์มือถือ งานทางการแพทย์และเภสัชกรรม เป็นต้น [เทคโนโลยียาง] | Viscosity | ความต้านทานการไหลของวัสดุภายใต้ความเค้น หาได้จากความเค้นเฉือนหารด้วยอัตราการเฉือน (Shear stress/shear rate) [เทคโนโลยียาง] | Acquired Immunodeficiency Syndrome | กลุ่มอาการภูมิคุ้มกันเสื่อม,
โรคภูมิต้านทานบกพร่อง,
ภูมิคุ้มกันบกพร่องภายหลัง,
โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง,
เอดส์,
โรคเอดส์,
โรคภูมิต้านทานเสื่อม [การแพทย์] | Afterload | ความต้านทานต่อการฉีดเลือด,
เลือดที่ออกจากหัวใจ,
ลดความต้านทาน [การแพทย์] | Airway Resistance | ความต้านทานในทางเดินหายใจ,
ความต้านทานในท่อทางเดินหายใจ,
ความต้านทานในหลอดลม [การแพทย์] | Anode Load | ความต้านทานสำหรับใช้งาน [การแพทย์] | Antibodies | แอนติบอดีย์จำเพาะ,
อิมมูนแอนติบอดี้,
แอนตี้บอดี้,
แอนติบอดีย์ที่ไม่คงตัว,
สิ่งต่อต้าน,
ภูมิต่อต้านโรค,
ภูมิคุ้มกัน,
แอนติบอดี,
แอนติบอดี้,
ภูมิต้านทาน,
สารต่อต้านโรค,
แอนติบอดีย์,
สารแอนติบอดีย์,
แอนติโบดี,
แอนตีบอดี,
ความต้านทาน,
แอนติบอดี้,
แอนตี้โบดี้,
สารต่อต้าน,
ภูมิคุ้มกันโรค,
แอนติบอดี,
ภูมิคุ้มกันร่างกาย,
ภูมิคุ้มกันโรค [การแพทย์] | Antibodies,
Sperm | ภูมิคุ้มกันอสุจิ,
ภูมิต้านทานต่อตัวอสุจิ [การแพทย์] | Antigens | แอนติเจน,
สารกระตุ้น,
สิ่งกระตุ้น,
แอนตีเจน,
สารแอนติเจน,
ความต้านทาน,
สารมาตรฐาน [การแพทย์] | Autoimmune Diseases | ออโตอิมมูน,
โรค; โรคภูมิต้านทานต่อตนเอง; โรคภูมิคุ้มต้านตนเอง; โรคต้านเนื้อเยื่อของตัวเอง; โรคภูมิแพ้ต่อตนเอง; โรคออโตอิมมูน; โรคต้านเนื้อเยื่อของตัวเอง; โรคออโตอิมมูน; โรคทางภูมิคุ้มกัน [การแพทย์] | Autoimmunity | การเกิดภูมิต้านทานในตนเอง,
ภูมิแพ้ต่อเนื้อเยื่อของตนเอง,
ภูมิต้านตนเอง,
ภูมิคุ้มกันต่อต้านตัวเอง,
การเกิดภูมิต้านทานต่อเนื่อเยื่อของตนเอง [การแพทย์] | Body Resistance,
Low | ร่างกายมีความต้านทานต่ำ [การแพทย์] | Breathing,
Resistance to | ความต้านทานการหายใจ [การแพทย์] | Cell Resistance | ความต้านทานของเซลล์ [การแพทย์] | Chemical Resistants | ความต้านทานทางเคมี [การแพทย์] | Countertraction | แรงดึงต้านทาน [การแพทย์] | Elastic Resistance | ต้านกับแรงยืดหยุ่น,
ความต้านทานจากความยืดหยุ่น [การแพทย์] | Electrical Resistance | ความต้านทานไฟฟ้า [การแพทย์] | Exercise,
Horizontal | ออกกำลังแบบการเขยิบขั้นแรงต้านทานในด้านนอน [การแพทย์] | Exercise,
Resistive,
Progressive | การออกกำลังเอาชนะต้านทานชนิดก้าวหน้า,
แรงต้านการทำงานของกล้ามเนื้อ [การแพทย์] | Flow Resistive Work | งานจากความต้านทานในช่องทางผ่านอากาศหายใจ [การแพทย์] | Resistance thermometer | เทอร์มอมิเตอร์ระบบ ความต้านทาน [อุตุนิยมวิทยา] | resistivity survey | resistivity survey,
การสำรวจทางธรณีฟิสิกส์โดยวิธีวัดค่าความต้านทานไฟฟ้าจำเพาะ [เทคนิคด้านการชลประทานและการระบายน้ำ] | toxoid | ทอกซอยด์,
สารที่ได้จากการนำเอาทอกซินมาทำให้หมดฤทธิ์ แต่ยังคงมีสมบัติของแอนติเจนอยู่ เช่น ทอกซินของเชื้อบาดทะยัก เมื่อทำให้หมดฤทธิ์แล้วนำมาฉีดเข้าสู่ร่างกาย ก็จะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างแอนติบอดีต้านทานโรคบาดทะยักได้ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | diabetes mellitus | โรคเบาหวาน,
โรคที่เกิดจากร่างกายขาดอินซูลิน อาการของโรคคือ ปัสสาวะบ่อย มีน้ำตาลในปัสสาวะ ร่างกายอ่อนแอ มีความต้านทานโรคต่ำ เมื่อเป็นแผลจะรักษาหายยาก [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | stainless steel | เหล็กกล้าไร้สนิม,
โลหะผสมระหว่างเหล็ก โครเมียม และธาตุบางชนิด เช่น นิกเกิล มีความต้านทานสูงต่อการเกิดสนิมโดยปกติจะมีโครเมียมผสมอยู่เกิน 12% [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | parallel connection | การต่อแบบขนาน,
การต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า(เช่นตัวต้านทาน)เข้ากับวงจรโดยที่ปลายทั้งสองของอุปกรณ์ต่อกับจุด 2 จุดร่วมกัน เพื่อแบ่งกระแสไฟฟ้าและความต่างศักย์คร่อมอุปกรณ์แต่ละอันมีค่าเท่ากัน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | series connection | การต่อแบบอนุกรม,
การต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า (เช่นตัวต้านทาน) หลาย ๆ อันเข้ากับวงจร โดยต่อปลายของอุปกรณ์เรียงกันไป กระแสไฟฟ้าที่ผ่านอุปกรณ์แต่ละอันจะมีค่าเท่ากัน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | resistance | ความต้านทาน,
สมบัติของตัวนำในการต้านการไหลกระแสไฟฟ้าที่ผ่านตัวนำนั้น มีค่าเท่ากับอัตราส่วนระหว่างความต่างศักย์ที่ปลายทั้งสองของตัวนำกับกระแสไฟฟ้าที่ผ่าน ใช้สัญลักษณ์ R แทนความต้านทาน [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | conductance [
electrical conductance
] | ความนำไฟฟ้า,
สมบัติในการนำไฟฟ้าของตัวนำ มีค่าเป็นส่วนกลับของความต้านทานไฟฟ้า หน่วยเป็น โอห์ม-1 หรือ ซีเมนส์ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | shunt | ชันต์,
ตัวต้านทานที่มีความต้านทานต่ำ ใช้ต่อขนานกับอุปกรณ์ไฟฟ้าหรือวงจรไฟฟ้าเพื่อให้กระแสไฟฟ้าส่วนหนึ่งผ่าน เช่น ต่อขนานกับแกลแวนอมิเตอร์ ชันต์จะให้กระแสส่วนเกินกระแสสูงสุดของแกลแวนอมิเตอร์ผ่าน และแกลแวนอมิเตอร์นี้จะเป็นแอมมิเตอร์ที่วัดกระแสไฟฟ้าได้มากกว่ากระแสส [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | siemens | ซีเมนส์,
หน่วยวัดความนำไฟฟ้าของตัวนำ ใช้สัญลักษณ์ S โดยกำหนดว่า 1 ซีเมนส์ คือ ความนำไฟฟ้าของตัวนำซึ่งมีความต้านทาน 1 โอห์ม [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] | rheostat | ตัวควบคุมกระแสไฟฟ้า,
อุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมกระแสไฟฟ้าในวงจรให้อยู่ในช่วงที่ต้องการและเป็นตัวต้านทานที่ปรับค่าได้ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.] |
| I сould not resist | ฉันไม่สามารถต้านทาน Snow White and the Seven Dwarfs (1937) | Our pièce de résistance. | ชิ้นของเรา de ต้านทาน Greystoke: The Legend of Tarzan,
Lord of the Apes (1984) | A trifle simple,
perhaps,
but her appeal is undeniable. | ก็นิดหน่อย แต่เสน่ห์ของเธอยากจะต้านทานเลยล่ะ The Princess Bride (1987) | Fluctuation tolerance range,
check. | ค่าความต้านทานผกผัน ตรวจสอบแล้ว Akira (1988) | Room 9,
118 degrees Kelvin. Fluctuation tolerance,
check. | ห้องที่ 9,
ค่าเคลวินระดับ 118 ค่าความต้านทานผกผัน ตรวจสอบแล้ว Akira (1988) | Room 1 is at 0.0005 degrees Kelvin. It's within tolerances. | ห้องที่ 1 ค่าเคลวินอยู่ที่ 0.0005 มันมีค่าการต้านทาน Akira (1988) | His immune system fails when there's trouble,
so an ear infection ... | แกไม่มีภูมิต้านทานโรค เป็นอะไร ก็ไม่หาย อย่างหูอักเสบ... As Good as It Gets (1997) | Isabella's dreams of worldwide glory would melt away in Toninho's irresistible embrace. | แต่ฝันของอิซาเบลล่าละลายไปหมดแล้ว จากอ้อมกอดโทนินโย่ที่สุดจะต้านทานไหว Woman on Top (2000) | A Last Alliance of Men and Elves marched against the armies of Mordor. | พันธมิตรกลุ่มสุดท้ายระหว่างมนุษย์และเอลฟ์ ร่วมกันต้านทานกองทัพมอร์ดอร์ The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001) | You did not seriously think that a Hobbit could contend with the will of Sauron? | ท่านคงไม่คิดนะว่าพวกฮ้อบบิทส์ จะต้านทานพลังของซอรอนได้ The Lord of the Rings: The Fellowship of the Ring (2001) | Not only do I understand your resistance,
I appreciate it. | ไม่เพียง แต่ผมเข้าใจความต้านทานของคุณผมเห็นคุณค่าของมัน Showtime (2002) | So I'm not immune to influenza | ชั้นเลยไม่มีภูมิต้านทานโรคไข้หวัด Oldboy (2003) | It makes the ceramic less resistant and knocks out the interior magnetic field. | ทำให้ความต้านทานของเซรามิกต่ำลง สนามแม่เหล็กก็จะแผ่ออกมา Primer (2004) | Wait,
platinum or palladium is less resistant? | เดี๋ยวนะ แพลทินัมหรือแพลเลเดียม อันไหนความต้านทานน้อยกว่ากัน Primer (2004) | -So resistance doesn't matter. | - งั้นความต้านทานก็ไม่สำคัญ Primer (2004) | No gay can resist my charm. | ไม่มีเกย์คนใด ที่จะต้านทานเสน่ห์ของฉันได้ นายห้ามนอนตรงนั้น Go Go G-Boys (2006) | It was like an accelerated mutator,
a sort of,
you know,
like an unstoppable force of destructive power that would just lay waste to everything. | เหมือนเป็นการเร่งให้เกิดการกลายพันธุ์,
อะไรประมาณนั้น พลังทำลายล้าง ที่ไม่มีใครต้านทานได้ จะทำลายทุกอย่างไม่เหลือ Mission: Impossible III (2006) | General,
the Island won't last five days without fleet support. | แม่ทัพ .. เกาะนี้ต้านทานไว้ได้ไม่เกิน 5 วันหรอก ถ้าปราศจากกองเรือสนับสนุน Letters from Iwo Jima (2006) | Mom? | ภูมิต้านทานในเลือดของฉัน จะรักษาการติดเชื้อไวรัส Chapter Twenty-One 'The Hard Part' (2007) | You see? Powerless to resist. | เห็นมั้ย ไร้แรงต้านทาน Left Turn Ahead (2007) | No Daughter Of Lily'S Could Ever Resist. | ไม่มีลูกสาวคนไหนของลิลลี่สามารถต้านทานลูกได้ Blair Waldorf Must Pie! (2007) | We haven't been up here together in a long time. | ผมเพียงแต่ไม่สามารถเอาชนะ สิ่งที่ต้านทานไม่ได้นั้น Chapter Fourteen 'Distractions' (2007) | I don't think you understand the true nature of this organization. | มันเป็นภูมิต้านทานของผมที่ช่วยเธอ ชีวิตเธอเป็นความรับผิดชอบของผม Chapter Twenty-Three 'How to Stop an Exploding Man' (2007) | It's in there. | ภูมิต้านทานในเลือดของฉัน จะรักษาการติดเชื้อไวรัส Chapter Twenty-Two 'Landslide' (2007) | Who could resist that? | สาวไหนจะต้านทานไหวจริงมะ Mine (2008) | Irresistible force. | ทนเเรงต้านทานไม่ได้หรอก The Sleep of Babies (2008) | The struggle to resist most captures is never pointless. | การดิ้นรนเพื่อต้านทานการครอบงำของคนคนๆหนึ่ง\ ไม่ไร้จุดหมาย Birthmarks (2008) | Wipes out most of her immune system,
she gets a whole lot worse. | แล้วก็ทำลายระบบภูมิต้านทานร่างกายไปด้วย,
อาการโดยรวมเธอจะแย่ลง Dying Changes Everything (2008) | - It's hard to resist. | \ N การ-มันหนักเพื่อต้านทาน. Gas Pills (2008) | I can withstand the pressure for a brief time. | ข้าคงต้านทานพวกมันได้สักพัก Rising Malevolence (2008) | For example,
this dragonfly's skin has a hard,
armor-like exoskeleton to defend against... | และนี่จะให้ดูกัน แมลงปอที่มีเกราะแข็งแรงป้องกัน เพื่อที่จะมีความต้านทานสูง Superhero Movie (2008) | Trees defy gravity. | ต้นไม้ต้านทานแรงดึงดูด Home (2009) | But in the end,
the boy couldn't resist. | แต่ในที่สุด เด็กชายก็ไม่อาจต้านทานได้ Chapter Nine 'Turn and Face the Strange' (2009) | Great play here by Marc Ellis in reading the game,
but he can't take... | มาร์ค เอลีส วางแผนได้ดีนะครับ.. แต่คงต้านทานไม่ไหว-- Invictus (2009) | The power to prevent this,
comes from inside you! | อำนาจที่จะต้านทานสิ่งนี้ สถิตอยู่ในตัวเจ้า Dragonball: Evolution (2009) | Let us see if she's immune to all our powers. | เธอมีภูมิต้านทานอำนาจทุกคนหรือเปล่า? The Twilight Saga: New Moon (2009) | But if we can withstand that weapon,
we'll draw them in. | แต่ถ้าเราต้านทานอาวุธนั่นได้ เราก็จะลากให้พวกมันเข้ามา Defenders of Peace (2009) | Sir,
even if Skywalker is successful and destroys the battleship,
how will we stand up to the combined firepower of the remaining frigates? | ถ้าสกายวอคเกอร์สำเร็จ และยานนายพลถูกทำลาย เราจะยืนหยัดต้านทานยานรบที่เหลือ ที่ระดมยิงเข้ามาได้ยังไง? Storm Over Ryloth (2009) | I got a powerful immune system. | ร่างกายฉันภูมิต้านทานสูงย่ะ Release Me (2009) | I tried to resist santana. I did. | ฉันพยายามต้านทาน ซานทาน่า แล้ว Hairography (2009) | It's been a while since anyone could resist my compulsion. | มันสักพักแล้วที่ใครบางคน ต้านทานอำนาจควบคุมจิตใจของฉันได้ Friday Night Bites (2009) | Mm-hmm. | อืมมๆ เราไม่รู้ ว่าเขาหรือเธอ มีภูมิต้านทานได้อย่างไร หรือทำไม White to Play (2009) | Luckily,
I've pinpointed the one location on Earth that has an irresistible enough force to counteract you. | แต่โชคดี ผมวางหมุดตำแหน่ง ลงบนผิวโลกไปแล้ว จึงไม่มีพละกำลังพอ ไปต้านทานแรงของคุณ Scary Monsters and Super Creeps (2009) | - Where the hell are we? | ฉันจะต้านทานได้ยังไง? เราอยู่ที่ไหนกันหะ? Changing Channels (2009) | The thing is it's hard to resist certain people,
especially when you're new. | เรื่องก็คือ มันยาก ที่จะต้านทานคนหลายคน โดยเฉพาะเมื่อคุณยังใหม่ Haunted (2009) | She might not be able to resist him,
and she could hurt him. | ไม่ใช่ตอนนี้ เธออาจจะต้านทานเขาไม่ได้ และเธออาจทำร้ายเขา Haunted (2009) | How could he resist such beauty? | เขาจะต้านทานความงามนั้นได้อย่างไร Beauty and the Beast (2009) | I resisted him easily enough. | ข้าต้านทานมันได้ Beauty and the Beast (2009) | And have been slowly building up an immunity. | ไปสกัดสร้างภูมิต้านทานจากเธอเรียบร้อยแล้ว Introduction to Statistics (2009) | If we meet with strong resistance and are forced down away from the landing zone,
hold out until we join our forces before attacking the shield generator. | ถ้าเราเจอกับการต้านทานที่แข็งแกร่ง และถูกบังคับไม่ให้เข้าใกล้พื้นที่ลงจอด ให้ถ่วงเวลาไว้จนกระทั่งทุกคนมารวมกัน ก่อนที่จะโจมตีเครื่องกำเนิดเกราะ Landing at Point Rain (2009) |
| ความต้านทาน | [khwām tānthān] (n) EN: resistance | ความต้านทานไฟฟ้า | [khwām tānthān faifā] (n, exp) EN: resistance FR: résistance électrique [
f
] | ความต้านทาน | [khwām tānthān] (n) EN: resistance | แรงต้านทาน | [raēng tānthān] (n, exp) EN: resistance ; impediment ; friction | ต้านทาน | [tānthān] (v) EN: resist ; withstand ; impede ; counter ; oppose ; check ; stop FR: repousser ; tenir | ต้านทานฤทธิ์ยา | [tānthān rit yā] (v, exp) EN: resist drug action |
| | balk | (vi) ขัดขวาง, See also: คัดค้าน, ต้านทาน, หยุดยั้ง, Syn. refuse | defensible | (adj) ซึ่งสามารถป้องกันไว้ได้, See also: ซึ่งสามารถต้านทานได้ | defensive | (n) การป้องกัน, See also: การต้านทาน | defensive | (adj) ซึ่งสามารถป้องกันไว้ได้, See also: ซึ่งสามารถต้านทานได้ | defensively | (adv) อย่างป้องกันได้, See also: อย่างต้านทานได้ | immune | (adj) ซึ่งมีภูมิคุ้มกันโรค, See also: ซึ่งมีภูมิต้านทานต่อโรค, Syn. inoculated, vaccinated | immunise | (vt) ฉีดภูมิคุ้มกันโรค, See also: ทำให้มีภูมิต้านทาน ด้วยการฉีดวัคซีน, Syn. inoculate, vaccinate | immunity | (n) ภูมิคุ้มกันโรค, See also: ภูมิต้านทานโรค, การมีภูมิคุ้มกันโรค, Syn. inoculation, vaccination | immunize | (vt) ฉีดภูมิคุ้มกันโรค, See also: ทำให้มีภูมิต้านทาน ด้วยการฉีดวัคซีน, Syn. inoculate, vaccinate | impedance | (n) การวัดความต้านทานต่อไฟฟ้ากระแสสลับ มีหน่วยคือโอห์ม (z) | indefensible | (adj) ซึ่งไม่สามารถป้องกันได้, See also: ซึ่งไม่สามารถต้านทานได้, Syn. unprotected, unguarded, unsupportable, Ant. defensible, tenable | irresistible | (adj) ที่ต้านทานไม่ได้, Syn. overwhelming, compelling | low-pressure | (adj) มีความกดดันต่ำ, See also: มีการต้านทานต่ำ | ohm | (n) หน่วยวัดความต้านทานไฟฟ้า (โอห์ม) | ohmmeter | (n) เครื่องวัดความต้านทานกระแสไฟฟ้า | Ohm's law | (n) กฎของโอห์มเกี่ยวกับเรื่องความต้านทานกระแสไฟฟ้า | photoelectric cell | (n) อุปกรณ์เปลี่ยนความต้านทานของวงจรไฟฟ้าตามความเข้มแสงที่กระทบ | proof | (adj) ซึ่งต้านทานได้, See also: ซึ่งป้องกันได้ | proof | (vt) ทำให้มีความต้านทาน | reactance | (n) ความต้านทานกระแสไฟฟ้า | resist | (vi) ต่อต้าน, See also: ต้านทาน, ต้าน, ขัดขวาง, Syn. defy, oppose | resist | (vt) ต่อต้าน, See also: ต้านทาน, ต้าน, ขัดขวาง, Syn. defy, oppose | resistance | (n) แรงต้านทาน, See also: ความต้านทาน, Syn. impediment, friction | resister | (n) ผู้ทนต่อบางสิ่ง, See also: ผู้ต้านทาน | resistible | (adj) ซึ่งสามารถต้านทานได้ | resistor | (n) ตัวต้านทานกระแสไฟฟ้า | rheostat | (n) ตัวต้านทานกระแสไฟฟ้า | strength | (n) ความต้านทาน, See also: ความทนทาน, Syn. durability, resistance, toughness | untenable | (adj) ซึ่งต้านทานไม่ได้, See also: ซึ่งป้องกันไม่ได้ | withstand | (vi) ทนต่อ, See also: อดกลั้นต่อ, ต้านทานต่อ, Syn. endure, oppose, resist | withstand | (vt) ทนต่อ, See also: อดกลั้นต่อ, อดทนต่อ, ต้านทานต่อ, Syn. endure, oppose, resist | withstood | (vt) กริยาช่องที่ 2 และ 3 ของ withstand, See also: อดทนต่อ, อดกลั้นต่อ, ต้านทานต่อ |
| ampere | (แอม' แพร์,
แอมแพร์') n. หน่วยของกำลังไฟฟ้าที่เท่ากับกระแสไฟฟ้าที่ไหลผ่านความต้านทานหนึ่งโอห์ม เมื่อมีศักยไฟฟ้าหนึ่งโวลต์ หรือมีค่าเท่ากับหนึ่งคูลอมบ์ต่อวินาที. | bolometer | n. เครื่องมือวัดความต้านทานของตัวนำไฟฟ้า | conductance | (คันดัค'เทินซฺ) n. ความสามารถในการนำไฟฟ้า,
ส่วนกลับของความต้านทานไฟฟ้ามีสัญลักษณ์ G | conductivity | (คอนดัคทิฟ'วิที) n. คุณสมบัติหรืออำนาจในการนำกระแสไฟฟ้า,
ส่วนผันกลับของความต้านทานไฟฟ้ามีสัญลักษณ์เป็น | eighty column card | บัตร 80 คอลัมน์บัตรทำด้วยกระดาษ มีไว้ใช้สำหรับบรรจุข้อมูล โดยปกติจะต้องมีรูปร่างและขนาดตามมาตรฐานที่กำหนด (71/8 นิ้ว +31/4 นิ้ว) จะต้องทำด้วยกระดาษชนิดพิเศษที่มีความต้านทานความชื้นสูง และมีความต้านทานสูงต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิในอากาศ ในการบรรจุข้อมูลนั้น ใช้วิธีเจาะรูตามคอลัมน์ของบัตรซึ่งจะมี 80 คอลัมน์ (จึงเรียกกันว่า บัตร 80 คอลัมน์) แต่ละคอลัมน์มี 12 แถว ในการเจาะนั้นรูหนึ่งรูในแต่ละคอลัมน์เป็นรหัสใช้แทนตัวเลข (0-9) และรูสองรูหรือมากกว่าในแต่ละคอลัมน์เป็นรหัสใช้แทนตัวอักษร (A-Z) หรือ อักขรพิเศษอื่น ๆ เมื่อใส่บัตรเข้าเครื่อง รูเหล่านี้จะถูกแปรงไฟฟ้าปัดผ่าน ทำให้เครื่อง สามารถอ่านข้อมูลเข้าไปได้ บัตรคอมพิวเตอร์ที่นิยมใช้กันมากคือ บัตรที่ ดร. เฮอร์แมน ฮอลเลอริท (Hermann Hollerith) แห่งบริษัทไอบีเอ็ม (IBM) เป็นผู้คิดขึ้น บางทีจึงนิยมเรียกกันว่า บัตรไอบีเอ็ม (IBM card) หรือ บัตรฮอลเลอริท (Hollerith card) ดู card ประกอบ | impedance | (อิมพีด' เดินซฺ) n. ความต้านทานต่อไฟฟ้าสลับ (มักมีหน่วยเป็นโอห์ม) | impede | (อิมพีด') vt. ต้าน,
ต้านทาน,
ขัดขวาง,
หน่วงเหนี่ยว., See also: impeder n., Syn. retard | impediment | (อิมเพด' ดะเมินทฺ) n. การต้านทาน,
การขัดขวาง,
การหน่วงเหนี่ยว,
อุปสรรค,
การพูดติดอ่าง,
ความบกพร่องในการพูด,
สิ่งที่ขัดขวางการแต่งงาน (โดยเฉพาะความสัมพันธ์ทางครอบครัว), See also: impedimental, impedimentary adj., Syn. barr | ohm | (โอห์ม) n. หน่วยความต้านทานไฟฟ้า | ohmage | (ดฮ'มิจ) n. ความต้านทานไฟฟ้าที่เป็นโอห์ม | ohmmeter | (โอม'มิเทอะ) n. เครื่องมือวัดความต้านทานไฟฟ้าเป็นโอห์ม | proof | (พรูฟ) n. หลักฐาน,
พยาน,
การพิสูจน์,
การทดสอบ,
กำลัง,
ความเข้มข้นของแอลกอฮอล,
การตรวจทาน,
การตรวจปรู๊ฟ,
การทดลองพิมพ์. adj. เข้าไม่ได้,
ต้านทาน,
กันทะลุ,
กันน้ำ,
ไม่ซึม,
ไม่หวั่นไหว,
ป้องกันไฟได้,
ซึ่งพิสูจน์แล้ว. vt. ทดสอบ,
ทดลอง,
ตรวจสอบ,
ต้านทาน | repel | (รีเพล') vt. ขับไล่,
ผลักออก,
ตีกลับ,
ต้านทาน,
โต้กลับ,
ด้านการซึมผ่าน,
ยับยั้ง,
ปฏิเสธ,
ขจัด,
ทำให้รังเกียจ vi. ขับไล่,
ผลักออก,
ทำให้รังเกียจ, See also: repellence, repelency n. repeller n., Syn. reject, refuse, Ant. accept, attract | resist | (ริซิสทฺ') vt.,
vi. ต้าน,
ต่อต้าน,
ต้านทาน,
สกัดกั้น,
ทดต่อ,
ขัดขืน,
ขัดขวาง,
อดทน, See also: resistingly adv., Syn. withstand, confront | resistable | (รีซิส'ทะเบิล) adj. ต้านทานได้, See also: resistability n. | resistance | (รีซิส'เทินซฺ) n. การต้าน,
การต่อต้าน,
การต้านทาน,
ความทน,
ความอดทน, See also: Resistance n. องค์การใต้ดินที่ต้องการโค่นล้มรัฐบาล, Syn. fight, withstand | strength | (สเทรง) n. กำลัง,
พลัง,
แรง,
ความแข็งแรง,
อำนาจจิต,
ความกล้าหาญ,
ความหนักแน่น,
กำลังทหาร,
กำลังกองทัพ,
จำนวนทหารหรือเรือ,
อำนาจความต้านทาน,
แหล่งพลัง,
อำนาจการขึ้นหรือพยุงราคา -Phr. (on the strength of ขึ้นอยู่กับบนรากแห่ง), Syn. power, forc | untenable | (อันเทน'นะเบิล) adj. ป้องกันไม่ได้,
ต้านทานไว้ไม่อยู่,
ไม่เหมาะสำหรับครอบครอง ไม่เหมาะสำหรับอย |
| defy | (vt) ท้าทาย,
ฝ่าฝืน,
ดื้อดึง,
ต้านทาน,
ขัดขืน,
เป็นปรปักษ์ | endure | (vi, vt) ทนทาน,
ทน,
คงทน,
อดทน,
ยืนยง,
ต้านทาน | impede | (vt) กีดกั้น,
ขัดขวาง,
หน่วงเหนี่ยว,
ต้านทาน | impregnable | (adj) ต้านทานได้,
กันไว้ได้,
เหนียวแน่น | irresistible | (adj) ต้านทานไม่ได้,
ต่อต้านไม่ได้ | ohm | (n) หน่วยวัดความต้านทานของไฟฟ้า | repel | (vt) ขับไล่,
ต้านทาน,
ไม่ยอมรับ,
ผลักไส,
ปฏิเสธ | repellent | (adj) ขับไล่ไป,
ต้านทานไว้,
เป็นที่รังเกียจ,
น่าเบื่อหน่าย | resist | (vt) ขัดขวาง,
ต่อต้าน,
สกัดกั้น,
ต้านทาน | resistance | (n) ความต้านทาน,
การต่อต้าน,
ความอดทน,
การสกัดกั้น,
การขัดขวาง | resistant | (adj) ต่อต้าน,
ต้านทาน,
ขัดขวาง,
สกัดกั้น | withstand | (vt) ต้านทาน,
ต่อต้าน,
อดทนต่อ,
ต่อสู้,
กลั้น,
สกัด |
| hang tough | (slang) ใจแข็ง,
ทนต่อ,
อดกลั้นต่อ,
ต้านทานต่อ,
, See also: resist, Syn. withstand | Lichen planus | เป็นสภาพผิวอักเสบที่คันแต่ไม่ติดเชื้อผื่นผิวบนแขนและขา ประกอบด้วยขนาดเล็กหลายด้านแบน-ราด,
สีชมพูหรือสีม่วงคล้ำ ผู้เชี่ยวชาญผิวหนังจํานวนมากเชื่อว่ามันอาจจะเป็นโรคภูมิต้านทาน | memristor | (n) อุปกรณ์ไฟฟ้าชนิดหนึ่งมีสมบัติในการต้านการผ่านของกระแสไฟฟ้า โดยค่าความต้านทานจะเปลี่ยนไปตามทิศทางและปริมาณกระแสที่เคยได้รับก่อนหน้า |
| |
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |