ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*คุกคาม*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: คุกคาม, -คุกคาม-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
คุกคาม(v) threaten, See also: menace, browbeat, intimidate, bully, cow, frighten, Syn. ขู่, กดขี่, ข่มเหง, Ant. ปลอบขวัญ, Example: เขาจ้างนักเลงไว้คุกคามบุคคลที่ขัดขวางแผนการหรือผลประโยชน์ของตน, Thai Definition: แสดงอำนาจด้วยกิริยาหรือวาจาให้หวาดกลัว, ทำให้หวาดกลัว

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
คุกคามก. แสดงอำนาจด้วยกิริยาหรือวาจาให้หวาดกลัว, ทำให้หวาดกลัว เช่น ภัยคุกคาม, ในบทกลอนใช้ว่า คุก ก็มี เช่น ไป่ขู่ไป่คุก ไป่รุกรุมตี (สมุทรโฆษ).
กระเกรี้ยวว. เสียงขบฟันเกรี้ยว ๆ เช่น คุกคามขบฟันกระเกรี้ยว (ม. คำหลวง ฉกษัตริย์).
กลาโหมชื่อกระทรวงที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการป้องกันและรักษาความมั่นคงของราชอาณาจักรจากภัยคุกคามทั้งภายนอกและภายในประเทศ

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
balance of terrorดุลการคุกคาม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
terror, balance ofดุลการคุกคาม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Biological invasionการคุกคามทางชีวภาพ [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Abortion, Threatenedภาวะแท้งคุกคาม [TU Subject Heading]
Harassmentการคุกคาม [TU Subject Heading]
Sexual harassmentการคุกคามทางเพศ [TU Subject Heading]
Sexual harassment in educationการคุกคามทางเพศในการศึกษา [TU Subject Heading]
Sexual harassment in universities and collegeการคุกคามทางเพศในมหาวิทยาลัยและวิทยาลัย [TU Subject Heading]
Sexual harassment of menการคุกคามทางเพศต่อบุรุษ [TU Subject Heading]
Sexual harassment of womenการคุกคามทางเพศต่อสตรี [TU Subject Heading]
Australia-New Zealand-USสนธิสัญญาป้องกันร่วมกันระหว่างออสเตรเลีย-นิวซีแลนด์-สหรัฐอเมริกา " โดยตกลงให้มีการช่วยเหลือประเทศสมาชิกเมื่อถูกคุกคามจากประเทศนอกภาคี ปัจจุบัน ANZUS ยังคงสถานะอยู่แต่ไม่มีการดำเนินการใด ๆ (non-operational) เนื่องจากความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างสหรัฐอเมริกากับนิวซีแลนด์ยุติลง โดยนิวซีแลนด์ยังไม่ละทิ้งสนธิสัญญา ดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่าอาจจะมีการรื้อฟื้นขึ้นอีก " [การทูต]
High Level Panel on Threats, Challenges and Changeคณะผู้ทรงคุณวุฒิระดับสูงว่าด้วยภัยคุกคาม ความท้าทายและการเปลี่ยนแปลง แต่งตั้งโดยนาย Kofi Annan เลขาธิการสหประชาชาติ ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 16 คน มีนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายก - รัฐมนตรีเป็นประธาน [การทูต]
Organization of American Statesคือองค์การของรัฐในสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1947 สหรัฐอเมริกา และประเทศต่าง ๆ ในละตินอเมริกา ยกเว้นประเทศนิคารากัวและอีเควดอร์ ได้ตกลงทำสนธิสัญญาระหว่างรัฐในอเมริกาด้วยกัน ณ กรุงริโอเดจาเนโร เพื่อให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่า สนธิสัญญาริโอ ประเทศเหล่านั้นต่างมุ่งมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือกันอย่างมีประสิทธิผล ถ้าหากรัฐในอเมริกาหนึ่งใดถูกโจมตีด้วยกำลังอาวุธหรือถูกคุกคามจาการรุกราน ต่อมาในเดือนเมษายน ค.ศ. 1948 ได้มีการจัดตั้งองค์การของรัฐอเมริกัน (Organization of American States) ขึ้น ณ กรุงโบโกตา ประเทศโบลิเวีย ประกอบด้วยรัฐต่าง ๆ ในอเมริการวม 21 ประเทศ ยกเว้นประเทศแคนาดา เพื่อดำเนินการให้เป็นผลตามสนธิสัญญาริโอ และจัดวางระบบการรักษาความมั่นคงร่วมกันขึ้น กฎบัตร (Charter) ขององค์การได้มีผลบังคับให้เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ค.ศ. 1951องค์การโอเอเอสนี้ เป็นองค์การส่วนภูมิภาคแห่งหนึ่ง ภายในกรอบของสหประชาชาติ ประเทศสมาชิกต่างปฏิญาณร่วมกันที่จะทำการธำรงรักษากระชับสันติภาพ ตลอดจนความมั่นคงในทวีปอเมริกา เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุแห่งความยุ่งยากใด ๆ และต้องการระงับกรณีพิพาทที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างประเทศสมาชิกด้วยกันโดย สันติวิธี อนึ่ง ถ้าหากมีการรุกรานเกิดขึ้นก็จะมีการปฏิบัติการร่วมกัน นอกจากนี้ ยังจะหาทางระงับปัญญาหาทางการเมือง ทางการศาล และทางเศรษฐกิจ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในระหว่างประเทศสมาชิก พร้อมทั้งจะพยายามร่วมกัน ในการหาหนทางส่งเสริมพัฒนาการทางเศรษฐกิจสังคม และวัฒนธรรม สำนักงานใหญ่ขององค์การโอเอเอสตั้งอยู่ ณ กรุงวอชิงตันดีซี นครหลวงของสหรัฐอเมริกา [การทูต]
Palestine Questionปัญหาปาเลสไตน์ เมื่อวันที่ 2 เมษายน ค.ศ. 1947 ประเทศอังกฤษได้ขอให้สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ทำการประชุมสมัยพิเศษเพื่อพิจารณาปัญหาปาเลสไตน์ สมัชชาได้ประชุมกันระหว่างวันที่ 28 เมษายน ถึงวันที่ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 1947 และที่ประชุมได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษเกี่ยวกับปาเลสไตน์ขึ้น ประกอบด้วยผู้แทนจากประเทศสมาชิกรวม 11 ประเทศ ซึ่งหลังจากที่เดินทางไปตรวจสถานการณ์ในภาคตะวันออกกลาง ก็ได้เสนอรายงานเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าว รายงานนี้ได้ตั้งข้อเสนอแนะรวม 12 ข้อ รวมทั้งโครงการฝ่ายข้างมาก (Majority Plan) และโครงการฝ่ายข้างน้อย (Minority Plan) ตามโครงการข้างมาก กำหนดให้มีการแบ่งดินแดนปาเลสไตน์ออกเป็นรัฐอาหรับแห่งหนึ่ง รัฐยิวแห่งหนึ่ง และให้นครเยรูซาเล็มอยู่ภายใต้ระบบการปกครองระหว่างประเทศ รวมทั้งให้ดินแดนทั้งสามแห่งนี้มีความสัมพันธ์ร่วมกันในรูปสหภาพเศรษฐกิจ ส่วนโครงการฝ่ายข้างน้อย ได้เสนอให้ตั้งรัฐสหพันธ์ที่เป็นเอกราชขึ้น ประกอบด้วยรัฐอาหรับและรัฐยิว อันมีนครเยรูซาเล็มเป็นนครหลวงต่อมาในวันที่ 29 พฤศจิกายน ค.ศ. 1947 สมัชชาสหประชาชาติได้ประชุมลงมติรับรองข้อเสนอของโครงการฝ่ายข้างมาก ซึ่งฝ่ายยิวได้รับรองเห็นชอบด้วย แต่ได้ถูกคณะกรรมาธิการฝ่ายอาหรับปฏิเสธไม่รับรอง โดยต้องการให้มีการจัดตั้งรัฐอาหรับแต่เพียงแห่งเดียว และทำหน้าที่คุ้มครองสิทธิของคนยิวที่เป็นชนกุล่มน้อย อนึ่ง ตามข้อมติของสมัชชาสหประชาชาติได้กำหนดให้อำนาจอาณัติเหนือดินแดนปาเลสไตน์ สิ้นสุดลงและให้กองทหารอังกฤษถอนตัวออกไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และอย่างช้าไม่เกินวันที่ 1 สิงหาคม ค.ศ. 1948 นอกจากนั้นยังให้คณะมนตรีภาวะทรัสตีของสหประชาชาติจัดทำธรรมนูญการปกครองโดย ละเอียดสำหรับนครเยรูซาเล็มจากนั้น สมัชชาสหประชาชาติได้ตั้งคณะกรรมาธิการปาเลสไตน์แห่งสหประชาชาติขึ้น ประกอบด้วยประเทศโบลิเวีย เช็คโกสโลวาเกีย เดนมาร์ก ปานามา และฟิลิปปินส์ ทำหน้าที่ปฏิบัติให้เป็นไปตามข้อเสนอแนะของสมัชชา ส่วนคณะมนตรีความมั่นคงก็ได้รับการขอร้องให้วางมาตรการที่จำเป็น เพื่อวินิจฉัยว่า สถานการณ์ในปาเลสไตน์จักถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพหรือไม่ และถ้าหากมีการพยายามที่จะใช้กำลังเพื่อเปลี่ยนแปลงความตกลงตามข้อมติของ สมัชชาเมื่อใด ให้ถือว่าเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพ โดยอาศัยข้อ 39 ของกฎบัติสหประชาชาติเป็นบรรทัดฐาน [การทูต]
Political Offensesความผิดทางการเมือง หลักการข้อหนึ่งของการส่งตัวผู้กระทำความผิดไปให้อีก ประเทศหนึ่ง หรือที่เรียกว่าการส่งผู้ร้ายข้ามแดน คือ ผู้ที่กระทำผิดทางการเมืองจะถูกส่งข้ามแดนไปให้อีกประเทศหนึ่งไม่ได้เป็นอัน ขาด แต่อย่างไรก็ดี มีปัญหาในปฏิบัติคือว่า จะแยกความแตกต่างกันอย่างไรระหว่างความผิดทางการเมือง กับที่มิใช่ด้วยเหตุผลทางการเมือง นักวิชาการบางท่านนิยามความหมายของคำว่าความผิดทางการเมืองไว้ว่า คือ ความผิดฐานกบฏ (Treason) ซึ่งในกฎหมายของหลายประเทศหมายถึงการประทุษร้าย หรือพยายามประทุษร้ายต่อประมุขของประเทศ หรือช่วยฝ่ายศัตรูทำสงครามกับประเทศของตน ความผิดฐานปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบภายในประเทศ (Sedition) หรือการประกอบจารกรรม (Espionage) อันเป็นการคุกคามต่อความั่นคงหรือต่อระบบการปกครองของประเทศผู้ร้องขอ (หมายถึงประเทศที่ร้องขอให้ส่งตัวผู้กระทำผิดไปให้ในลักษณะผู้ร้ายข้ามแดน) ไม่ว่าจะกระทำโดยคนเดียวหรือหลายคนก็ตาม [การทูต]
Southeast Asia Collective Defense Treaty (Mahila Pact)สนธิสัญญาซีโต้ สนธิสัญญานี้ได้มีการลงนามกัน ณ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1954 ประเทศที่ลงนามในสนธิสัญญามีประเทศออสเตรเลีย ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ประเทศไทย อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา สนธิสัญญาได้มีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1955ในภาคอารัมภบทของสัญญานี้ บรรดาประเทศสมาชิกต่างแสดงความปรารถนาที่จะประสานความพยายามของตนที่จะ ป้องกันร่วมกัน เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคง โดยเฉพาะข้อ 4 ของสนธิสัญญาเป็นข้อสำคัญที่สุด คือ แต่ละประเทศภาคีคู่สัญญาตกลงเห็นพ้องกันว่า หากดินแดนของประเทศใดถูกรุกรานจาการโจมตีด้วยกำลังอาวุธ ประเทศภาคีทั้งหมดที่เหลือจะถือว่าเป็นอันตรายร่วมกัน และจะปฏิบัติการเพื่อเผชิญหน้ากับอันตรายร่วมกัน หรือถ้าหากพื้นที่ภายในเขตครอบคลุมของสนธิสัญญาถูกคุกคามด้วยประการใด ๆ ประเทศภาคีทั้งหมดจะปรึกษากันในทันที เพื่อตกลงในมาตรการเพื่อการป้องกันร่วมกันสำนักงานใหญ่ขององค์การซีโต้ตั้ง อยู่ในกรุงเทพมหานคร โดยที่สถานการณ์ทางการเมืองของโลกได้เปลี่ยนไปมากทำให้องค์การซีโต้หมดความ จำเป็น และได้ยุบเลิกไปนานแล้ว [การทูต]
Secretariat of the United Nationsคือสำนักเลขาธิการสหประชาชาติ ประกอบด้วยตัวเลขาธิการ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยสมัชชาตามข้อเสนอแนะของคณะมนตรีความมั่นคง พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตามที่องค์การต้องการหน้าที่สำคัญของเลขาธิการสหประชา ชาติ คือ ทำหน้าที่เป็นหัวหน้าฝ่ายบริหารขององค์การ นำเรื่องใดก็ตามเสนอต่อคณะมนตรีความมั่นคง ซี่งตามทรรศนะของเลขาธิการเห็นว่าเป็นภัยคุกคามสันติภาพและความมั่นคง ระหว่างประเทศ นอกจากนี้ ยังมีหน้าที่ทำรายงานประจำปี และรายงานเพิ่มเติมใด ๆ ที่จำเป็นเสนอต่อสมัชชาสหประชาชาติ เกี่ยวกับงานขององค์การ สหประชาชาติคณะเจ้าหน้าที่ที่ทำงานช่วยเหลือเลขาธิการนั้น ถือเป็นเจ้าหน้าที่ระหว่างประเทศ ประกอบด้วยชนชาติต่าง ๆ ในการเกณฑ์เจ้าหน้าที่เหล่านี้เข้าทำงานกับสหประชาชาติ จะคัดแต่ผู้ที่มีประสิทธิภาพ ความสามารถ และความซื่อสัตย์ในระดับสูงสุด และคำนึงถึงเขตภูมิศาสตร์ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ในการทำงานตามหน้าที่ ทั้งตัวเลขาธิการและคณะเจ้าหน้าที่ผู้ร่วมงาน จะต้องไม่แสวงหรือรับคำสั่งจากรัฐบาลใด ๆ หรือจากผู้มีอำนาจหน้าที่อื่นใดที่อยู่นอกเหนือองค์การสหประชาชาติ ขณะเดียวกัน สมาชิกของสหประชาชาติได้ตกลงยอมรับนับถือความรับผิดชอบที่มีลักษณะระหว่าง ประเทศของสำนักเลขาธิการ และจักไม่แสวงใช้อิทธิพลใด ๆ ต่อสำนักเลขาธิการ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบเหล่านั้น [การทูต]
Security Council of the United Nationsคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ คณะมนตรีนี้ประกอบด้วยสมาชิกถาวร (Permanent members) 5 ประเทศ คือ จีน ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต อังกฤษ และสหรัฐฯ และมีสมาชิกไม่ถาวร (Non-permanent members) อีก 10 ประเทศ ซึ่งสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเป็นผู้เลือกตั้ง และให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งประเทศละ 2 ปี สมาชิกประเภทนี้ไม่มีสิทธิรับเลือกตั้งใหม่ในทันที และในการเลือกตั้งจะคำนึงส่วนเกื้อกูลหรือบทบาทของประเทศผู้สมัครที่มีต่อ การธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งที่มีต่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ขององค์การสหประชาชาติด้วย ในการเลือกตั้ง จะคำนึงถึงการแบ่งกลุ่มประเทศสมาชิกดังนี้คือ ก. 5 ประเทศจากแอฟริกาและเอเชียข. 1 ประเทศจากยุโรปตะวันออกค. 2 ประเทศจากละตินอเมริกาง. 2 ประเทศจากยุโรปตะวันตก และประเทศอื่น ๆหน้าที่ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีดังนี้1. ธำรงรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ2. สอบสวนเกี่ยวกับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งระหว่างประเทศ3. เสนอแนะวิธีที่จะใช้กรณีพิพาทเช่นว่านั้น หรือ เงื่อนไขที่ให้มีการตกลงปรองดองกัน4. วางแผนเพื่อสถาปนาระบบการควบคุมกำลังอาวุธ5. ค้นหาและวินิจฉัยว่ามีภัยคุกคามต่อสันติภาพ หรือ เป็นการกระทำที่รุกรานหรือไม่ แล้วเสนอแนะว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร 6. เรียกร้องให้สมาชิกประเทศที่ทำการลงโทษในทางเศรษฐกิจ และใช้มาตรการอื่น ๆ ที่ไม่ถึงขั้นทำสงคราม เพื่อป้องกันมิให้เกิดหรือหยุดยั้งการรุกราน7. ดำเนินการทางทหารตอบโต้ฝ่ายที่รุกราน8. เสนอให้รับประเทศสมาชิกใหม่ รวมทั้งเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ ในการที่จะเข้าเป็นภาคีตามกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ 9. ทำหน้าที่ให้ภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ ในเขตที่ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์10. เสนอแนะให้สมัชชาสหประชาชาติ แต่งตั้งตัวเลขาธิการและร่วมกับสมัชชาในการเลือกตั้งผู้พิพากษาศาลโลก11. ส่งรายงานประจำปีและรายงานพิเศษต่อสมัชชาสหประชาชาติบรรดาประเทศสมาชิกของสห ประชาชาติ ต่างตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อมติใด ๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง ทั้งยังรับรองที่จะจัดกำลังกองทัพของตนให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงหากขอร้อง รวมทั้งความช่วยเหลือและและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ [การทูต]
Work of the United Nations on Human Rightsงานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต]
Abortion, Threatenedการแท้งคุกคาม, แท้งคุกคาม, สภาวะที่คุกคามต่อการแท้งบุตร [การแพทย์]
Concentration, Maximum Allowableขนาดมาตรฐานของสิ่งคุกคามสุขภาพอนามัย [การแพทย์]
กลไกป้องกันทางจิตกลไกป้องกันทางจิต, วิธีการปรับตัวและปรับจิตใจเพื่อให้ผ่านพ้นจากผลกระทบที่ก่อให้เกิดความ สับสน ความอึดอัดใจ ความคับข้องใจ ความขัดแย้ง จนเป็นความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในจิตใจของบุคคล อันเนื่องมาจากสถานการณ์ที่ปรารถนาหรือถูกคุกคามอย่างที่สุด เพื่อป้องกันตนเองในระดับจิตไร้สำนึก ให้ [สุขภาพจิต]
Infection, Activeกำลังเป็นโรค, ก่อให้เกิดโรคด้วยตนเอง, ระยะที่โรคคุกคาม [การแพทย์]
Limit Value, Thresholdขนาดมาตรฐานของสิ่งคุกคามสุขภาพอนามัย [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
I've been crying, telling you.อย่าถามไม่คุกคาม How I Won the War (1967)
Well, I'll add it to my threat collection.ก็ฉันจะเพิ่มเข้าไปใน คอลเลกชันภัยคุกคามของฉัน Mad Max (1979)
The United States is threatening a naval blockade.ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นที่ คุกคาม ด่านทหารเรือ 2010: The Year We Make Contact (1984)
Threat level to facility integrity has passed level 7..ระดับการคุกคามความมั่นคง ถูกผ่านไประดับ 7 .. Akira (1988)
Threat level to facility integrity has passed level 7..ระดับการคุกคามความมั่นคง ถูกผ่านไประดับ 7 .. Akira (1988)
The Soviet threat's one big lie?ภัยคุกคามโซเวียตหนึ่งโกหกใหญ่? The Russia House (1990)
If you tell the courts that she's made a direct threat against someone....ถ้าคุณบอกศาลว่าเธอ คุกคามใครบางคน... Basic Instinct (1992)
We're talking about a frightened lady with an 8-year-old son.เรากำลังพูดถึงผู้หญิงที่ถูกคุกคาม กับลูกชายอายุ 8 ขวบของเธอ The Bodyguard (1992)
They beat me... and then they threatened to kill my father.พวกเขาชนะฉัน ... แล้วพวกเขาถูกคุกคาม ที่จะฆ่าพ่อของฉัน In the Name of the Father (1993)
Threaten my family and I'll cut your fucking head off.คุกคามครอบครัวของฉัน และฉันจะตัดหัวของคุณปิดการร่ว? In the Name of the Father (1993)
I don't make threats.ฉันจะไม่ให้ภัยคุกคาม In the Name of the Father (1993)
I love you because you'll never be my enemy, whatever you do.ฉันรักเธอเพราะเธอ ไม่ทำให้ฉันรู้สึกถูกคุกคามทางเพศ Wild Reeds (1994)
Using terrorism and threats, it has stopped all airport and shipyard employees from working.การใช้ก่อการร้าย และภัยคุกคาม ได้หยุดทุกสนามบิน และท่าเรือจากการทำงาน Wild Reeds (1994)
"that you can't walk out on in 30 seconds if you spot the heat around the corner.""เพื่อจะได้หนีตำรวจได้ใน 30 วินาที" "... หากว่ามีอะไรมาคุกคาม" Heat (1995)
"if you feel the heat around the corner."หากว่ามีภัยมาคุกคาม Heat (1995)
I protect the galaxy from the threat of invasion... from the evil Emperor Zurg, sworn enemy of the Galactic Alliance.ฉันปกป้องกาแลกซี่เมื่อถูกคุกคาม... จากเจ้าปีศาจจักพรรดิ์ เซิร์ก ศัตรูของชาวกาแลกติก Toy Story (1995)
Is there a renewed assessment of security threat?ขอบคุณ มีการประเมินการต่ออายุของ ภัยคุกคามความปลอดภัย? Contact (1997)
We pose no threat to them.เราเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขา Contact (1997)
American lives from any threat so I am obligated to assume the worst.แต่งานของฉันคือการปกป้อง ชีวิตของชาวอเมริกันจาก ภัยคุกคามใด ๆ ดังนั้นฉันผูกพันที่จะ ต้องถือว่าเลวร้ายที่สุด Contact (1997)
In response to the potential volcanic threat to Dante's Peak, ในการตอบสนองที่มีศักยภาพ ภูเขาไฟภัยคุกคามที่จะพีคของดันเต้, Dante's Peak (1997)
Just a few years ago, II Duce promised that the Nazis would never occupy Sicily.เมื่อสองสามปีที่แล้วอิลดูซสัญญาว่า... สัมพันธมิตรจะไม่มีทางคุกคามซิซิลี Malèna (2000)
But Swinney was a one-time sperm donor... and our defendant was an habitual sperm donor... who also happens to be harassing the parents... in his quest for visitation.แต่สวีนนี่เป็นแค่คนที่บริจาคแค่ครั้งเดียวนะ ในขณะที่จำเลยเป็นผู้บริจาคประจำ ซึ่งบังเอิญเป็นการคุกคามผู้ปกครอง Legally Blonde (2001)
The problem is, if you let me explain, your employee that girl who I was just speaking with, has been threatening me.ปัญหาก็คือ ถ้าคุณให้ฉันอธิบาย เจ้าหน้าที่ของคุณ... ผู้หญิงที่ผมเพิ่งคุยด้วย ได้คุกคามผม Punch-Drunk Love (2002)
Are you threatening me, dick?นายกำลังคุกคามฉัน? Punch-Drunk Love (2002)
If this system moves south we could see a wind-driven storm surge threaten the entire Eastern Seaboard.หากพายุเคลื่อนตัวลงใต้... ... แรงพายุจะเป็นภัยคุกคาม... ... ต่ออีสเทิร์น ซีบอร์ด... The Day After Tomorrow (2004)
Taekwondo is a sport that uses hand to hand fighting... in order to protect oneself when being threatened or attacked.เทควันโดเป็นกีฬาที่ใช้ มือเปล่าในการต่อสู้... เพื่อป้องกันตัวจากการถูกคุกคามหรือจู่โจม Spin Kick (2004)
Did they attack or threaten you?แล้วพวกนั้นจู่โจมหรือคุกคามเธอหรือเปล่า Spin Kick (2004)
She's betrayed the resistance and must be considered a threat.เธอทรยศต่อกลุ่มต่อต้าน เธอถือเป็นภัยคุกคาม Æon Flux (2005)
However, this valorous visitation of a bygone vexation stands vivified and has vowed to vanquish these venal and virulent vermin vanguarding vice and vouchsafing the violently vicious and voracious violation of volition.อย่างไรก็ตาม บัดนี้ความโกรธเกรี้ยว ได้หายไป คงเหลือไว้แต่ความเบิกบาน ...และสาบานที่จะปราบปราม ความเลวทราม ฉ้อฉล ที่คุกคาม... ...รวมทั้งการเพิกเฉยต่อสิ่งเลวร้าย และการแย่งชิงอย่างไร้ศีลธรรม. V for Vendetta (2005)
Cruelty and injustice, intolerance and oppression.คุกคาม ลำเอียง, ปิดกั้น และกดขี่. V for Vendetta (2005)
- A man does not threaten innocent civilians.- ลูกผู้ชายเค้าไม่คุกคามผู้บริสุทธิ์หรอก. V for Vendetta (2005)
Unfortunately, unless there's some evidence of violence or sexual predation between cellmates, those kinds of requests fall on deaf ears around here.คงแย่หน่อยนะ ถ้าไม่มีหลักฐานแสดงถึงความรุนแรง หรือการคุกคามทางเพศ ระหว่างเพื่อนร่วมห้อง คำขอร้องแบบนี้ ฟังไม่ขึ้นแน่ Cute Poison (2005)
Han is BuYeo's biggest threat.ฮั่นเป็นชาติที่ใหญ่ที่สุดที่คุกคามพูยอ Episode #1.41 (2006)
the Church has rained oppression and atrocity upon mankind..ที่คริสตจักร กดขี่ข่มเหงและคุกคามมวลมนุษย์ The Da Vinci Code (2006)
I know that you'd never put me in a position that would compromise my honour.รู้ด้วยว่า.. คุณจะไม่มีวันปล่อยให้ฉัน ถูกคุกคาม หรือหยามเกียรติ Pirates of the Caribbean: Dead Man's Chest (2006)
At what point does it become sexual harassment?จุดนั้นแหละมันจะกลายเป็นการ คุกคามทางเพศ? Firewall (2006)
I'm stalking the prey. Claw, kick.ฉันคุกคามเหยื่อ เล็บ, เตะ Ice Age: The Meltdown (2006)
And I'm stalking and I'm stalking and I'm...และฉันคุกคาม และฉันคุกคาม และฉัน... Ice Age: The Meltdown (2006)
With this Patriot Act, the way they've twisted the laws up so much they can do whatever they please as long as they feel you're a threat to homeland security.ว่าด้วยกฎหมายรักชาติแล้ว พวกเขาพลิกแพลงกฎหมายได้อย่างมาก... ...พวกเขาทำอะไรก็ได้ที่พวกเขา... ...รู้สึกว่าคุณกำลังคุกคาม ความปลอดภัยของผืนแผ่นดินนี้ The Astronaut Farmer (2006)
Is it possible that we should prepare against other threats besides terrorists?เป็นไปได้ไหมที่เราจะเตรียมรับมือ กับการคุกคามอื่นนอกเหนือจากการก่อการร้าย An Inconvenient Truth (2006)
Help! I'm being recruited!ช่วยด้วย ฉันกำลังโดนคุกคาม Eating Out 2: Sloppy Seconds (2006)
"... save those living under Kira's terrorist acts"..เพือ่ช่วยชีวิตของคนเหล่านั้นจากการคุกคามของคิระ. Death Note: The Last Name (2006)
Any one of them makes a threatening move, put a hole in 'em.ถ้าหนึ่งในพวกเขา ทำการคุกคามใดๆ ยิงมันเลย Manhunt (2006)
If you threaten our son again, ถ้าแกมาคุกคามลูกเราอีกล่ะก็ Chapter Four 'Collision' (2006)
My client's been repeatedly harassed by this department.ลูกความผมถูกคนในหน่วยนี้คุกคาม Waiting to Exhale (2007)
He-he-he. Do you have any idea how violated i feel right now?ผมรู้สึกว่ากำลังถูกคุกคามอยู่ Chuck Versus the Sandworm (2007)
You feel violated? No, no, no, my ears feel violated.ถูกคุกคามเหรอ หูฉันสิที่ถูกคุกคาม Chuck Versus the Sandworm (2007)
This is Glass Castle, reporting hostile contact.นี่กลาสคาสเซิ่ลกำลังโดนคุกคาม Chuck Versus the Alma Mater (2007)
This is Glass Castle reporting hostile contact.นี่กลาสคาสเซิ่ลกำลังโดนคุกคาม Chuck Versus the Alma Mater (2007)
It's a threat to our secrecy. What is this, the 1720s?มันเป็นการคุกคามความลับของพวกเรา อะไรปี1720รึ? No Such Thing as Vampires (2007)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
การคุกคาม[kān khukkhām] (n) EN: menace ; threat ; intimidation ; peril
การคุกคามทางเพศ[kān khukkhām thāng phēt] (n, exp) EN: sexual harassment
คุกคาม[khukkhām] (v) EN: threaten ; menace ; browbeat ; intimidate ; bully ; cow ; frighten  FR: menacer ; intimider ; inquiéter

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
bulldoze(vt) พาล, See also: ขู่เข็ญ, คุกคาม, Syn. coerce
cow(vt) ขู่, See also: ทำให้กลัว, ทำให้ตื่นตระหนก, คุกคาม, Syn. overawe
menace(vt) คุกคาม, See also: ทำให้ตกอยู่ในอันตราย, ขู่เข็ญ, ข่มขู่, Syn. endanger, imperil, Ant. protect, safeguard
menacing(adj) ซึ่งคุกคาม, Syn. approaching, threatening, dangerous
minatory(adj) ซึ่งคุกคาม, Syn. threatening, menacing
ramp(vt) ขู่เข็ญ, See also: คุกคาม, Syn. threaten
threat(n) การคุกคาม, See also: การขู่เข็ญ, Syn. menace, peril, intimidation
threaten(vt) คุกคาม, See also: ขู่เข็ญ, Syn. menace, torment
threaten(vi) คุกคาม, See also: ขู่เข็ญ, Syn. menace, torment

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
bulldoze(บูล'โดซ) { bulldozed, bulldozing, bulldozes } vt. ทำให้กลัว, ขู่, ขู่เข็ญ, คุกคาม, ใช้รถแทรกเตอร์ไถพื้นที่ให้เรียบ
bully(บูล'ลี) { bullied, bullying, bullies } n. คนพาล, แมงดา, คนลวง, เนื้อวัวกระป๋อง vt. ขู่, ขู่เข็ญ, คุกคาม, ทำให้กลัว vt. เป็นอันธพาล, รังแก. adj. ดีมาก, ดีเลิศ, ร่าเริง. interj. ดี, ทำได้ดี, เอาเลย
forbidding(ฟอร์บิด'ดิง) adj. ไม่เป็นมิตร, น่ากลัว, อันตราย, มีภัยคุกคาม., See also: forbiddingly adv. forbiddingness n.
impend(อิมเพนดฺ') vi. ใกล้, ใกล้ชิด, ใกล้เข้ามา, คุกคาม, แขวนอยู่, Syn. threaten
impendent(อิมเพน' เดินทฺ) adj. ใกล้เข้ามา, ใกล้ชิด, ใกล้จะบังเกิดขึ้น, ใกล้จะถึง, คุกคาม., See also: impendence, impendency n.
impending(อิมเพน' ดิง) adj. ใกล้เข้ามา, ใกล้จะบังเกิดขึ้น, คุกคาม., Syn. imminent, above
intimidate(อินทิม'มิเดท) vt. ทำให้กลัว, ขู่ขวัญ, ขู่, คุกคาม., See also: intimidation n. intimidator n., Syn. frighten, scare, daunt
lower(โล'เออะ) { lowered, lowering, lowers } vt. ทำให้ต่ำลง, ลดลง, ลดเสียง, ทำให้ต่ำต้อย, ลดเกียรติ, ทำให้ระดับเสียงต่ำลง. vi. ลดลง, น้อยลง, จมลง, (ท้องฟ้า) มืดลง, มืดมน, ขมวดคิ้ว, บูดบึ้ง. n. ท้องฟ้ามืดลง, ลักษณะอาการที่คุกคาม, การขมวดคิ้ว, หน้าตาบูดบึ้, ฟันล่าง, ขากรรไกรล่าง.
menace(เมน'นิสฺ) n. สิ่งที่คุกคาม, การคุกคาม, อันตราย, ภยันตราย. v. คุกคาม, ขู่, เป็นภัย, เป็นอันตราย., See also: menacer n. menacingly adv.
minatory(มิน'นะโทรี่, -ทอรี่) adj. คุกคาม, ขู่เข็ญ, ข่มขู่, เป็นลางร้าย
overhang(โอ'เวอะแฮง) v. ห้อยอยู่เหนือ, แขวนอยู่เหนือ, เงื้อม, ยื่นออก, โผล่ออก, (ภัย) ใกล้เข้ามา, คุกคาม, แผ่คลุม. n. สิ่งที่ชะโงกเงื่อม, ส่วนเกิน
shadow(แชด'โด) n. เงา, เงาร่ม, ร่ม, ระยะเวลาแห่งความน่าสงสัย, ความทุกข์, ความไม่ไว้วางใจ, ความอำพราง, การปิดบัง, การคุกคาม, ผู้ติดตามเฝ้าดู, คนผิวดำ vt. ทอดเงาลงบน, ทำให้สลัว, อำพราง, บังร่ม, บังแดด, ให้ที่หลบภัย, ป้องกัน, ระบายเงา, แลเงา, บอกเป็นนัย, See also: shadower n
squally(สควอล'ลี) adj. มีลมพายุที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน (มักมีฝน หิมะหรือลูกเห็บ) , มีมรสุม, คุกคาม, มีความยุ่งยาก, ไม่ราบรื่น
terrorise(เท'เรอไรซ) vt. ทำให้น่ากลัวมาก, ทำให้สยองขวัญ, คุกคาม, ข่มขวัญ., See also: terrorisation n. terrorization n.
terrorize(เท'เรอไรซ) vt. ทำให้น่ากลัวมาก, ทำให้สยองขวัญ, คุกคาม, ข่มขวัญ., See also: terrorisation n. terrorization n.
threat(เธรท) n. การคุกคาม, การขู่เข็ญ, ลางร้าย, ลางเตือนภัย, อาการน่ากลัว. vt., vi., คุกคาม, ขู่เข็ญ, เตือนภัย, เป็นลางร้าย., See also: threatful adj. threatfully adv., Syn. danger, menace
threaten(เธรท'เทิน) vt., vi. คุกคาม, ขู่เข็ญ, เตือนภัย, เป็นลางร้าย., See also: threatener n. threateningly adv.
united frontn. กลุ่มรวมกันของหน่วยต่าง ๆ เพื่อต่อต้านกองกำลังข้าศึกที่คุกคามอยู่, แนวร่วม
wicked(วิค'คิด) adj. โหดร้าย, ชั่วช้า, เลวทราม, มีเจตนาร้าย, คุกคาม, น่ารังเกียจ, ไร้เหตุผล, ชั้นหนึ่ง, ยอดเยี่ยม, See also: wickedly adv.

English-Thai: Nontri Dictionary
bully(vt) ข่มเหง, แกล้ง, ข่มขี่, คุกคาม
impend(vi) แขวน, ใกล้จะมาถึง, คุกคาม, ใกล้ชิด
intimidate(vt) ขู่ขวัญ, ทำให้กลัว, ข่มขู่, คุกคาม
intimidation(n) การขู่ขวัญ, การทำให้กลัว, การข่มขู่, การคุกคาม
menace(n) การขู่, ห้วงอันตราย, ภัยอันตราย, การคุกคาม
menace(vt) ขู่, เป็นอันตราย, คุกคาม
terrorize(vt) ทำให้ตกใจกลัว, ทำให้สยองขวัญ, คุกคาม, ข่มขวัญ
threat(n) คำขู่, การคุกคาม, การขู่เข็ญ, ลางร้าย
threaten(vt) คุกคาม, ขู่, เป็นลางร้าย

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Clostridium difficile[คลอสตริเดียม ดิฟฟิไซล] แบคทีเรียหนึ่งในสาเหตุที่พบมากที่สุดของการติดเชื้อของลำไส้ใหญ่ ในสหรัฐอเมริกามีผลต่อผู้คนนับล้านต่อปี ผู้ป่วยที่ใช้ยาปฏิชีวนะอยู่ในความเสี่ยงของการกลายเป็นติดเชื้อกับการรักษาได้ยาก. ยาปฏิชีวนะจะรบกวนแบคทีเรียปกติของลำไส้, ช่วยให้ดื้อยาแบคทีเรียที่จะกลายเป็นตัวต้านที่อยู่ภายในลำไส้ใหญ่. หลายคนติดเชื้อแบคทีเรียรักษาลำบากเพราะไม่มีอาการ. คนเหล่านี้กลายเป็นผู้ให้บริการของเชื้อแบคทีเรียและสามารถติดเชื้อผู้อื่น ในคนอื่นๆ, สารพิษที่มีผลก่อให้เกิดโรคอุจจาระร่วง, อาการปวดท้อง, การอักเสบอย่างรุนแรงของลำไส้ใหญ่ (ไส้ใหญ่), ไข้, การตรวจนับเม็ดเลือดขาว, อาเจียนและการคายน้ำ. ในผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง, เยื่อบุภายในของลำไส้ใหญ่จะกลายเป็นที่รุนแรงอักเสบ (สภาพที่เรียกว่าเยื่อแผ่นบาง ๆ รอบเซลล์ผิดปกติ). ไม่ค่อยมีผนังและหลุมพัฒนา (ลำไส้ใหญ่จะไม่ค่อยมีผนังกั้นแต่จะเป็นรูพรุน) ซึ่งสามารถนำไปสู่การติดเชื้อที่คุกคามชีวิตของช่องท้อง
cyber securityความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์, ภาวะที่เครือข่าย ระบบคอมพิวเตอร์ โปรแกรม และข้อมูล พ้นจากภัยคุกคาม มีลักษณะสำคัญ ๓ ประการ คือ คงความลับ คงความถูกต้องครบถ้วน และคงความพร้อมใช้งาน ภาวะดังกล่าวจะเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยบุคลากร กระบวนการทำงาน และเครื่องมือ ที่เหมาะสม [ ศัพท์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับราชบัณฑิตยสภา ]
endangered(adj) เป็นอันตราย, ถูกคุกคาม
non-refoulement(n) หลักการไม่ส่งผู้ลี้ภัยกลับไปยังดินแดนหรือถิ่นที่ชีวิตและเสรีภาพของพวกเขาจะถูกคุกคาม Non-refoulement is a principle in international law, specifically, refugee law, which protects refugees from being returned to places where their lives and freedoms would be threatened.[ Google ] Art.33(1) of the 1951 UN Convention on the Status of Refugees, and its 1967 protocol.
S.W.O.Tการวิเคราะห์ จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส และภัยคุกคาม S = Strengths W = Weaknesses O = Oppoortunities T = Threats หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ใน website ด้วยคำว่า "SWOT Analysis" ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?passTo=3f7fd969a12ed4fdee7b1181c449fb60&bookID=292&read=true&count=true
swotการวิเคราะห์ จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส และภัยคุกคาม S = Strengths W = Weaknesses O = Oppoortunities T = Threats หาข้อมูลเพิ่มเติมได้ ใน website ด้วยคำว่า "SWOT Analysis" ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?passTo=3f7fd969a12ed4fdee7b1181c449fb60&bookID=292&read=true&count=true

Japanese-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
脅威[きょうい, kyoui] (n) อันตราย, ภัยคุกคาม (มักเจอในประโยคเกี่ยวกับ Security)
脅威[きょうい, kyoui] (n) อันตราย, ภัยคุกคาม (มักเจอในประโยคเกี่ยวกับ Security)

German-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
bedrohend { adj } | bedrohlicher | am bedrohlichsten(vt) 1.คุกคาม / ขู่ 2.เป็นอันตรายต่อ / ภัยต่อ

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top