ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: การตกลง, -การตกลง- |
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่ |
| | Currency swaps | การตกลงแลกเปลี่ยนเงินตรา [TU Subject Heading] | Amendments to the Charter of the United Nations | การแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติ
กฎบัตรของสหประชาชาตินั้น เปิดโอกาสให้มีการแก้ไขได้โดยสมัชชาสหประชาชาติหรือโดยที่ประชุมใหญ่ (General Conference) ของสมาชิกสหประชาชาติ ซึ่งอาจจะประชุมกัน ณ วันเวลาและสถานที่ตามแต่จะมีการตกลงกัน โดยคะแนนเสียง 2 ใน 3 ส่วนของสมัชชาใหญ่ และโดยคะแนนเสียงของสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงใด ๆ 7 เสียง ในที่ประชุมใหญ่นั้น สมาชิกแต่ละประเทศของสหประชาชาติจะมีเสียงลงคะแนน 1 เสียงการที่จะแก้ไขกฎบัตรสหประชาชาติให้เป็นผลสำเร็จ จะต้องได้เสียงสนับสนุนจากสมาชิกเป็นจำนวน 2 ใน 3 ส่วนของสมาชิกทั้งหมดในสมัชชาหรือจากที่ประชุมใหญ่ เมื่อการแก้ไขกฎบัตรเป็นที่รับรองแล้ว จะมีผลบังคับต่อสมาชิกทั้งหมดของสหประชาชาติ ก็ต่อเมื่อได้รับการสัตยาบันจากสมาชิก 2 ใน 3 ส่วนของจำนวนทั้งหมด รวมทั้งการรับรองจากสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงด้วยอาทิเช่น ในสมัยประชุมที่ 18 ของสมัชชาใหญ่ การแก้ไขกฎบัตรได้รับการรับรองเห็นชอบด้วย โดยผ่านข้อมติที่ 1991 (XVII) ในการแก้ไขครั้งนี้ได้เพิ่มจำนวนสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงจาก 11 เป็น 15 คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมจาก 18 เป็น 27 ประเทศ การแก้ไขดังกล่าวได้รับการลงมติรับรองเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1963 ในปัจจุบันนี้ ประเทศสมาชิกเป็นจำนวนมากกำลังเรียกร้องให้มีการปรับจำนวนสมาชิกถาวรของคณะ มนตรีความมั่นคงเสียใหม่ [การทูต] | Conduct of Diplomatic Mission Towards the Receiving State | ในการปฏิบัติของคณะผู้แทนทางการทูตต่อรัฐผู้รับ นั้นหน้าที่สำคัญที่สุดอันหนึ่งของนักการทูตคือ จะต้องละเว้นจากการเข้าแทรกแซงใด ๆ ในกิจการภายในของรัฐผู้รับ
อนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติเรื่องนี้ไว้ในมาตราที่ 41 ว่า1. โดยไม่เสื่อมเสียแก่เอกสิทธิ์และความคุ้มกันของตน เป็นหน้าที่ของบุคคลทั้งมวลซึ่งอุปโภคเอกสิทธิ์และความคุ้มกันเช่นนี้ ที่จะเคารพกฎหมายรวมทั้งข้อบังคับของรัฐผู้รับ บุคคลเหล่านี้มีหน้าที่ที่จะไม่แทรกสอดในกิจการภายในของรัฐนั้นด้วย2. ธุรกิจในทางการทั้งมวลกับรัฐผู้รับ ซึ่งรัฐผู้ส่งได้มอบหมายแก่คณะผู้แทนให้กระทำกัน โดยผ่านกระทรวงการต่างประเทศของรัฐผู้รับ หรือกระทรวงอื่นเช่นที่อาจจะตกลงกัน3. สถานที่ของคณะผู้แทนต้องไม่ใช้ไปในทางที่ไม่ต้องด้วยกับการหน้าที่ของคณะผู้ แทน ดังที่ได้กำหนดลงไว้ในอนุสัญญานี้ หรือโดยกฎเกณฑ์อื่นของกฎหมายระหว่างประเทศทั่วไป หรือด้วยการตกลงพิเศษอื่นใดที่ใช้บังคับอยู่ระหว่างรัฐผู้ส่งกับรัฐผู้รับ ข้อ 42 ของอนุสัญญากรุงเวียนนายังได้บัญญัติด้วยว่า ตัวแทนทางการทูตจะต้องไม่ปฏิบัติกิจกรรมใดทางวิชาชีพหรือพาณิชย์เพื่อ ประโยชน์ส่วนตัวในรัฐผู้รับตามบทบัญญัติข้างต้นของอนุสัญญากรุงเวียนนา พอจะตีความหมายได้ว่า ผู้แทนทางการทูตจะต้องเคารพกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ เพื่อที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งความสงบเรียบร้อยของประชาชน รวมทั้งความปลอดภัยในรัฐผู้รับ การปฏิบัติใดๆ ที่ถูกต้องของผู้แทนทางการทูตนั้นย่อมเป็นเครื่องประกันอย่างดีที่สุด ที่ตัวบุคคลของผู้แทนทางการทูตนั้นจะถูกล่วงละเมิดมิได้ตามที่กล่าวอ้าง [การทูต] | Diplomatic Expressions | ถ้อยคำสำนวนที่ใช้ในวงการทูต
กล่าวคือ ในวงการทูตจะมีการนิยมใช้ถ้อยคำสำนวนการทูต ถือกันว่าเป็นภาษาที่สุภาพ ซึ่งจะมีความหมายลึกซื้งเพียงใดนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะทราบกันดี อาทิเช่น?My Government views with concern หรือ with grave concern? จะแสดงถึงท่าทีที่ไม่เห็นด้วย หรือแสดงการประท้วง?My Government cannot remain indifferent to the matter? จะส่อถึงเจตนาที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปส่วนถ้อยคำสำนวนที่ว่า ?In such event my Government would feel bound to reconsider its position หรือ to consider its own interest??My Government will have to claim a free hand? หรือ ?feel obliged to formulate express reservations regarding?เหล่านี้เป็นถ้อยคำสำนวนที่เตือนให้ทราบว่า อาจเกิดการแตกร้าว หรือตัดขาดในพันธไมตรีที่มีต่อกันได้เมื่อรัฐบาลหนึ่งประกาศถือว่าการกระทำ ของอีกรัฐบาลหนึ่งเป็น ?an unfriendly act? หรือการกระทำที่ไม่เป็นมิตรเช่นนี้ ย่อมหมายถึงการเตือนให้ทราบว่า การกระทำเช่นนั้นอาจนำไปสู่สงครามได้ถ้าหากในตอนเสร็จสิ้นการประชุมกันมีการ แถลงการณ์หรือโฆษกของที่ประชุมแจ้งให้ทราบว่า ที่ประชุมได้ทำความตกลงกันโดยสมบูรณ์ (Full agreement) แต่ไม่มีการเปิดเผยให้ทราบว่ามีการตกลงอะไรกันบ้าง จะทำให้เป็นที่สงสัยกันว่าได้มีการตกลงกันโดยสมบูรณ์จริงละหรือ ถ้าหากคำประกาศนั้นใช้ถ้อยคำว่า มี ?substantial agreement? ก็พอจะอนุมานได้ว่าแท้ที่จริงยังมีเรื่องสำคัญ ๆ ที่ยังตกลงกันไม่ได้อีกบางเรื่อง อนึ่ง หากว่ามีการแถลงว่า ?there was a full exchange of views? ก็เท่ากับพูดว่า มิได้มีการตกลงกันแต่อย่างใดทั้งสิ้น [การทูต] | Nuclear Test Ban | หมายถึง สนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ ทั้งในบรรยากาศ ในอวกาศ และใต้น้ำ
สนธิสัญญาฉบับนี้ได้มีผลบังคับเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ค.ศ. 1963 ประเทศที่ลงนามเริ่มแรกในสนธิสัญญาได้แก่ อังกฤษ สหภาพโซเวียต และ สหรัฐอเมริกา รวมสามประเทศจุดมุ่งหมายสำคัญของสนธิสัญญาคือ รัฐบาลของประเทศทั้งสาม ต้องการให้มีการทำความตกลงกันเป็นผลสำเร็จเกี่ยวกับการลดอาวุธ หรือปลดกำลังอาวุธทั้งหมดโดยสิ้นเชิง ภายใต้การควบคุมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ตามความมุ่งประสงค์ขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งต้องการให้ยุติหรือเลิกการแข่งขันกันสะสมอาวุธ และกำจัดมิให้มีเหตุจูงใจที่จะผลิตและทดสอบอาวุธไม่ว่าชนิดใดทั้งหมด รวมทั้งอาวุธนิวเคลียร์ด้วย นอกจากนี้ ยังเสาะแสวงหาที่จะให้หยุดการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ไปตลอดชั่วกาลนานสนธิ สัญญานี้มีข้อความอยู่ 5 มาตรา และไม่จำกัดอายุเวลา ทั้งยังเปิดโอกาสให้ประเทศอื่น ๆ ทั้งหลายเข้าร่วมลงนามเป็นภาคีได้ ในทางตรงกันข้าม ประเทศภาคีก็มีสิทธิใช้อธิปไตยแห่งชาติได้เพื่อถอนตัวจากสนธิสัญญา ถ้าหากประเทศนั้น ๆ เห็นว่า ประโยชน์อันสูงสุดของประเทศตนต้องตกอยู่ในอันตราย และแจ้งล่วงหน้าสามเดือนให้ประเทศภาคีอื่น ๆ ทั้งหมดทราบการตกลงใจนั้น [การทูต] | Pacific Charter | คือกฎบัตรแปซิฟิค
ซึ่งประกาศ ณ กรุงมะนิลา เมื่อวันที่ 8 กันยายน ค.ศ. 1954 ในโอกาสที่มีการตกลงกันทำสนธิสัญญาป้องกันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( Southeast Asia Defense Treaty-SEATO ) ประเทศที่ลงนามเป็นภาคีในสนธิสัญญา คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ไทย อังกฤษ และสหรัฐอเมริกาสาระสำคัญในสนธิสัญญาดังกล่าว หรือที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า SEATO (ซีโต้) นั้นคือ ทุกประเทศภาคีจะร่วมมือกันในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม เพื่อส่งเสริมให้พลเมืองในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีมาตรฐานการครอง ชีพสูงขึ้น มีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ และมีสวัสดิภาพสังคมที่ดี แต่จุดมุ่งหมายที่สำคัญที่สุดคามสนธิสัญญาคือ บรรดาประเทศภาคีตกลงที่จะป้องกันหรือตอบโต้ความพยายามใด ๆ ที่จะล้มล้างเสรีภาพที่มีอยู่ในเขตสนธิสัญญา หรือทำลายอธิปไตยหรือบูรณภาพแห่งเขตแดนของประเทศภาคี พูดอย่างสั้น ๆ ก็คือฝ่ายโลกเสรีอันมีสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำ ต้องการกีดกันมิให้ประเทศฝ่ายคอมมิวนิสต์เข้าไปมีอำนาจครอบงำดินแดนเขต เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ระหว่างสงครามเย็น (Cold War ) โดยวิธีรุกรานหรือวิธีอื่นใดก็ตาม [การทูต] | Pacific Settlement of International Disputes | หมายถึง การระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี
คงจะจำกันได้ว่า ในตอนเสร็จสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศในโลกฝ่ายเสรีซึ่งเป็นผู้ชนะ ต่างมีเจตนาอันแน่วแน่ที่จะหาทางมิให้เกิดสงครามขึ้นอีกในโลก จึงตกลงร่วมกันก่อตั้งองค์การสหประชาชาติ (Charter of the United Nations)ดังนั้น ข้อ 2 ของกฎบัตรสหประชาชาติจึงได้กำหนดให้ประเทศสมาชิกมีพันธกรณีที่จะต้องหาทางระ งังกรณีพิพาทระหว่างประเทศโดยสันติวิธี และข้อ 33 ของกฎบัตรก็ได้บัญญัติไว้ว่า ?1. ผู้เป็นคู่กรณีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในกรณีพิพาทใด ๆ ซึ่งหากดำเนินอยู่ต่อไป น่าจะเป็นอันตรายแก่การธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ ก่อนอื่นจักต้องแสวงหาการแก้ไขโดยการเจรจา ไต่สวน ไกล่เกลี่ย ประนีประนอม อนุญาโตตุลาการ การระงับโดยทางศาล การหันเข้าอาศัยทบวงการตัวแทน การตกลงส่วนภูมิภาค หรือสันติวิธีประการอื่นใดที่คู่กรณีจะพึงเลือก 2. เมื่อเห็นว่าจำเป็น คณะมนตรีความมั่นคงจักเรียกร้องให้คู่พิพาทระงับกรณีพิพาทของตนโดยวิธีเช่น ว่านั้น? [การทูต] | Parliamentary Diplomacy | การทูตแบบรัฐสภา
หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ [การทูต] | Security Council of the United Nations | คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ
คณะมนตรีนี้ประกอบด้วยสมาชิกถาวร (Permanent members) 5 ประเทศ คือ จีน ฝรั่งเศส สหภาพโซเวียต อังกฤษ และสหรัฐฯ และมีสมาชิกไม่ถาวร (Non-permanent members) อีก 10 ประเทศ ซึ่งสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติเป็นผู้เลือกตั้ง และให้ดำรงอยู่ในตำแหน่งประเทศละ 2 ปี สมาชิกประเภทนี้ไม่มีสิทธิรับเลือกตั้งใหม่ในทันที และในการเลือกตั้งจะคำนึงส่วนเกื้อกูลหรือบทบาทของประเทศผู้สมัครที่มีต่อ การธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ รวมทั้งที่มีต่อวัตถุประสงค์อื่น ๆ ขององค์การสหประชาชาติด้วย ในการเลือกตั้ง จะคำนึงถึงการแบ่งกลุ่มประเทศสมาชิกดังนี้คือ ก. 5 ประเทศจากแอฟริกาและเอเชียข. 1 ประเทศจากยุโรปตะวันออกค. 2 ประเทศจากละตินอเมริกาง. 2 ประเทศจากยุโรปตะวันตก และประเทศอื่น ๆหน้าที่ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติมีดังนี้1. ธำรงรักษาสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศตามวัตถุประสงค์และหลักการของสหประชาชาติ2. สอบสวนเกี่ยวกับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ใด ๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การกระทบกระทั่งระหว่างประเทศ3. เสนอแนะวิธีที่จะใช้กรณีพิพาทเช่นว่านั้น หรือ เงื่อนไขที่ให้มีการตกลงปรองดองกัน4. วางแผนเพื่อสถาปนาระบบการควบคุมกำลังอาวุธ5. ค้นหาและวินิจฉัยว่ามีภัยคุกคามต่อสันติภาพ หรือ เป็นการกระทำที่รุกรานหรือไม่ แล้วเสนอแนะว่าควรจะปฏิบัติอย่างไร 6. เรียกร้องให้สมาชิกประเทศที่ทำการลงโทษในทางเศรษฐกิจ และใช้มาตรการอื่น ๆ ที่ไม่ถึงขั้นทำสงคราม เพื่อป้องกันมิให้เกิดหรือหยุดยั้งการรุกราน7. ดำเนินการทางทหารตอบโต้ฝ่ายที่รุกราน8. เสนอให้รับประเทศสมาชิกใหม่ รวมทั้งเงื่อนไขหรือกฎเกณฑ์ ในการที่จะเข้าเป็นภาคีตามกฎหมายของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ 9. ทำหน้าที่ให้ภาวะทรัสตีของสหประชาชาติ ในเขตที่ถือว่ามีความสำคัญทางยุทธศาสตร์10. เสนอแนะให้สมัชชาสหประชาชาติ แต่งตั้งตัวเลขาธิการและร่วมกับสมัชชาในการเลือกตั้งผู้พิพากษาศาลโลก11. ส่งรายงานประจำปีและรายงานพิเศษต่อสมัชชาสหประชาชาติบรรดาประเทศสมาชิกของสห ประชาชาติ ต่างตกลงยินยอมที่จะปฏิบัติตามข้อมติใด ๆ ของคณะมนตรีความมั่นคง ทั้งยังรับรองที่จะจัดกำลังกองทัพของตนให้แก่คณะมนตรีความมั่นคงหากขอร้อง รวมทั้งความช่วยเหลือและและอุปกรณ์อื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการธำรงรักษาไว้ซึ่งสันติภาพ และความมั่นคงระหว่างประเทศ [การทูต] | Joint Development Area | แหล่งก๊าซ JDA, แหล่งก๊าซ JDA เป็นแหล่งก๊าซฯ ในพื้นที่เหลื่อมล้ำบริเวณไหล่ทวีปของสองประเทศ ทั้งนี้ ปัจจุบันแหล่งก๊าซฯ JDA ซึ่งครอบคลุมประเทศไทยและได้มีการตกลงที่จะพัฒนาร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน แล้ว คือพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (Malaysia-Thai Joint Development Area) [ปิโตรเลี่ยม] | Equilibrium Method, Sedimentation | วิธีสมดุลย์แห่งการตกลงล่าง [การแพทย์] |
|
| การตกลง | [kān toklong] (n) EN: agreement ; booking FR: accord [m] | การตกลงใจ | [kān toklongjai] (x) EN: making a decision ; determination ; resolution ; choosing ; deciding | การตกลงกัน | [kān toklong kan] (n, exp) EN: accommodation ; agreement FR: accordement [m] (vx) | การตกลงกันฉันมิตร | [kān toklong kan chan mit] (n, exp) EN: amicable agreement ; entente cordiale |
| accommodation | (n) การตกลงกัน, See also: การยินยอม, การพยายามประนีประนอมกัน | accord | (n) การตกลงร่วมกัน, See also: การยอมรับร่วมกัน, Syn. harmony | assent | (n) การตกลง, See also: การยินยอม, การยอมรับ, Syn. concent, agreement | cease-fire | (n) การหยุดรบ, See also: การยุติการสู้รบ, การตกลงหยุดสู้รบเพื่อการเจรจาหาสันติ, Syn. truce, armistece, cease-fire | contractual | (adj) ที่เกี่ยวกับสัญญา, See also: ที่เกี่ยวกับการตกลงกัน | deal | (n) การซื้อขาย, See also: การตกลงซื้อขาย, ข้อตกลง, การตกลง, การตกลงราคา, การทำความตกลง, ข้อสัญญา, สัญญา, การติดต่อธุรก, Syn. agreement, bargain, trade, business transaction, business agreement | decision | (n) การตัดสินใจ, See also: การตกลงใจ, การกำหนด, การสรุป, Syn. detemination | decrease | (n) การลดลง, See also: การตกลง, การน้อยลง, Syn. decline, diminution, fall-off, lessening, reduction, Ant. expansion, growth | descent | (n) การเคลื่อนลงมา, See also: การตกลงมา, Syn. falling, dropping, Ant. rise, ascent | determination | (n) การตัดสินใจ, See also: การตกลงใจ, การลงความเห็น, การสรุป, Syn. judgement, conclusion | dip | (n) การตกลง, See also: การลดลง, Syn. drop, sag, slip | gentleman's agreement | (n) สัญญาเกียรติยศ, See also: การตกลงกันอย่างไม่ได้ทำสัญญาเป็นหลักฐาน | go-ahead | (n) การอนุญาต, See also: การยินยอม, การตกลงให้ทำต่อไป, Syn. permission, assent, consent, authorization | moral fiber | (n) การตกลงใจ, See also: ความตั้งใจ, Syn. moral fibre | moral fibre | (n) การตกลงใจ, See also: ความตั้งใจ, Syn. moral fiber | multilateralism | (n) นโยบายการตกลงร่วมกันจากหลายฝ่ายหรือหลายด้าน | plump | (n) การตกลงฮวบ | resolve | (n) การตัดสินใจ, See also: การตกลงใจแน่วแน่, Syn. decision, intention | trade | (vi) ค้าขาย, See also: ทำการตกลงซื้อขาย |
| acceptance | (แอคเซพ' เทินซฺ) n. การยอมรับ, การรับ, การตรวจรับ,การตกลงด้วย (approval) | accession | (แอคเซส' เชิน) n. การเข้าครอบครอง, การเพิ่มขึ้น, สิ่งที่เพิ่มหรือใส่เข้า, การพิมพ์ขึ้นของทรัพย์สิน, การตกลง, ลงบัญชี, สรรหา, Syn. succession | agreement | (อะกรี' เมินทฺ) n. การตกลง, การยินยอม, การเห็นด้วย, ข้อตกลง, สัญญา, ความเห็น ตรงกัน, Syn. pact, consent, alliance | assent | (อะเซนทฺ') vi. ตกลง, ยินยอม,ยอมรับ. -n. การตกลง,การยินยอม. -assentation n. -assentive adj., Syn. concur, agree, allow, Ant. dissent, disagree, denial | atonement | (อะโทน'เมินทฺ) n. การชดเชย,การไถ่คืน,การคืนดีของพระเจ้าและมนุษย์โดยพระเยซูคริสต์,การตกลง,การคืนดี, Syn. amends, reparation | booking | (บุค'คิง) n. สัญญา,การตกลง,การจอง | character code | รหัสอักขระหมายถึงสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่กำหนดให้ใช้เป็นรหัสแทนอักขระ หรือมีความหมายอย่างใดอย่างหนึ่งตามที่มีการตกลงกันไว้ เป็นต้นว่า ตารางรหัสแอสกี (ASCII table) และรหัสเอ็บซีดิก (EBCDIC) โปรแกรมสำเร็จบางโปรแกรมใช้รหัสเหล่านี้ผสมกับตัวอักขระบางตัวเป็นรหัสคำสั่งให้เป็นการขีดเส้นใต้ , ทำตัวเอน ฯ | composition | (คอมพะซิซ'เชิน) n. การประกอบเป็นส่วนต่าง ๆ ทั้งหมด,ผลิตผล,ส่วนประกอบ,องค์ประกอบ,ภาพประกอบ,ของผสม,การประพันธ์,การแต่งเพลง,การเกิดเป็นสารประกอบ,การตกลงกัน,การประนีประนอม,ข้อตกลง,การจัดเรียงตัวพิมพ์,คุณสมบัติ,อุปนิสัย | compromise | (คอม'พระไมซ) n. การประนีประนอม,การยอมรับ,การตกลงกันได้,สิ่งที่เป็นครึ่ง ๆ กลาง ๆ vt. ประนีประนอม,ยอม,เป็นอันตราย,เป็นภัยต่อ,พัวพัน. vi. ประนีประนอม,อ่อนข้อให้อย่างเสียเกียรติ, See also: compromiser n. ดูcompromise, Syn. arra | conclusion | (คันคลู'เชิน) n. การลงเอย,การสิ้นสุดลง,การสรุป,บทสรุป,ผล,การตกลงขั้นสุดท้าย,การตัดสินใจครั้งสุดท้าย, Syn. inference | concordance | (คอนคอร์'เดินซฺ) n. การตกลงกัน,ความสอดคล้องกัน,ดรรชนีเรื่องตามอักษร | conformity | (คันฟอร์'มิที) n. ความลงรอยกัน,การปรับตัวให้ลงรอยกัน,การตกลงกัน, Syn. agreement, compliance | consort | (คอน'ซอร์ทฺ) {consorted,consorting,consorts} n. สามีหรือภรรยา,คู่สมรส,กลุ่มนักดนตรีหรือนักร้อง,เพื่อน,คู่หู,การสอดคล้องกัน,การตกลง vt. คบค้า,ตกลง,เป็นเพื่อน,สอดคล้อง. vt. ร่วม,คบหาสมาคม, See also: corsorter n. consortion n. -Conf. concert | deal | (ดีล) {dealt,dealing,deals} v. จัดการ,จัดสรร,แจกไพ่,ติดต่อธุรกิจ,ค้าขาย,ประพฤติ. n. การติดต่อธุรกิจ,การตกลงลับ,การซื้อขาย,จำนวนมาก,ปริมาณมาก,การแจกไพ่,สัญญา,นโยบาย | descent | (ดิเซนทฺ') การตกลงมา,การเคลื่อนต่ำลงมา,การเอียงลาดลงมา,ทางลง,ทางเนิน,การโจมตีอย่างกะทันหัน,สายโลหิต,การสืบเชื้อสาย,การถ่อมตัว,การลดเกียรติ, Syn. slope, fall | determination | (ดิเทอร์มิเน'เชิน) n. การกำหนดความแน่นอน,การตกลงใจ,ความตั้งใจ,การยุติ,การสิ้นสุด -S.decision, Ant. uncertainty | dive | (ไดฟว) {dived,diving,dives} vi. ดำน้ำ,กระโดดลงน้ำ,พุ่งเอาหัวลง,เข้าเกี่ยวข้องด้วยอย่างเต็มที่. vt. ทำให้กระโดดลงน้ำ,ทำให้ลดต่ำลงอย่างกะทันหัน n. การดำน้ำ,การกระโดดลงน้ำ,การพุ่งเอาหัวลง,การตกลงอย่างรวดเร็ว, Syn. dump, joint, pad, hol | downcome | n. การลงต่ำ,การตกลงมา, Syn. comedown, humiliation | downfall | n. ความหายนะ,ความฉิบหาย,ความตกต่ำ,การตกลงมาอย่างแรงหรืออย่างกะทันหัน, See also: downfallen adj. ดูdownfall, Syn. overthrow | drop | (ดรอพ) {dropped,dropping,drops} n. หยด,หยาด,จำนวนเล็กน้อย,หยดยา,ลูกตุ้ม,การตกลง vi.,vt. (ทำให้) หยดลง,หย่อนลง,ตก,จมลง,สิ้นสุด,ถอน,ยุติ,หายไป,หมอบ,ตกต่ำลง,ถอยหลัง,เคลื่อนต่ำลง -Phr. (drop behind ล้าหลัง,ไม่ครบ,ไม่ถึง) | fallout | n. การตกลงมา,เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน, Syn. fall-out | gentleman's agreement | n. การตกลงกันด้วยเกียรติยศ | handfast | n. การตกลงด้วยการจับมือ | lapse | (แลพซฺ) {lapsed,lapsing,lapses} n. การพลาดพลั้ง,การละเลย,การผิดพลาด,การตกลงมา,การลดลงมา,ระยะเวลาที่ผ่านไป,การสิ้นสุดของสิทธิหรือสิทธิพิเศษ (เนื่องจากการละเลยหรือการพลาดพลั้ง) ,การสิ้นสุดการประกันภัย (เนื่องจากการไม่จ่ายเงินค่าประกันภัยหรือการหมดอายุสัญญา) vi | mise | (มิซ,ไมซ) n. การตกลง,ข้อความในคำสั่ง | nose dive | n. การจิกหัว (เครื่องบิน) ลง,การตกลงหรือบินลงมาอย่างรวดเร็ว, Syn. plunge | o.k. | (โอ'เค) adj.,adv.,vt.,n. ถูกต้อง,ถูก,ใช้ได้,ดีแล้ว,เรียบร้อย,อนุมัติ,รับรองว่าถูก,ตกลง,ครับ n. การตกลง, Syn. OK, okay | plop | (พลอพ) n.,v..adv. (ทำให้เกิด) เสียงดังป๋อมหรือแปะ,การตกลงไปดังป๋อมหรือแปะ. | plump | (พลัมพฺ) adj.,v. (กลายเป็น,ทำให้) จ้ำม่ำ,มีเนื้อ,ค่อนข้างอ้วน, See also: plumpness n. vi. ตกลงมาฮวบ, พูดโพล่ง, โผล่พรวด, n. การตกลงฮวบ, เสียงตกลงมาฮวบ adj. โดยตรง, ทื่อ ๆ, โผงผาง | resolve | (รีซอลว') vt.,vi.,n. (การ) ตกลงใจ,ตัดสินใจ,มีมติ,แยกออก,แยกวิเคราะห์ แยกสลาย n. การตกลงใจ,การตัดสินใจ,ความแน่วแน่,มต', Syn. determine | self-determination | n. การตัดสินใจ,การตกลงใจด้วย ตนเอง,ลัทธิของประชาชนในการตัดสินใจเองว่าจะให้มีการปกครอง ในรูปใด., See also: self-determined adj. self-determining adj. | shower | (เชา'เออะ) n. ฝนหรือลูกเห็บหรือหิมะที่ตกลงมาปรอย ๆ ,การตกลงมาเป็นจำนวนมาก,การอาบน้ำโดยการใช้ฝักบัว ,ฝักบัว,ผู้แสดง,สิ่งที่แสดง vt. อาบน้ำด้วยฝักบัว,สาด,ราด,ให้อย่างมากมาย. vi. ฝนตกปรอย ๆ ,หิมะตกปรอย ๆ ,อาบน้ำฝัก-บัว., See also: showery n. | tumble | (ทัม'เบิล) vi.,vt. (ทำให้) ล้ม,ล้มลง,ตกลง,หกคะเมน,ตีลังกา,ถลา,พังลง,กลิ้งไปมา,พลิกไปมา,ทำให้ยุ่งเหยิง,รีบเร่ง,กระทำอย่างรีบร้อน,เข้าใจข้อเท็จจริง n. การล้มลง,การตกลง,การพังลง,การแสดงกายกรรม,การหมดอำนาจ,ความสนใจ,ความยุ่งเหยิง,กองที่ซ้อนกันยุ่งเหยิง,ความสับสน |
| agreement | (n) การเห็นด้วย,การตกลง,ความยินยอม,ข้อตกลง,สัญญา | assent | (n) การยินยอม,การเห็นพ้องต้องกัน,การยอมรับ,การตกลง | booking | (n) การจอง,การสำรองที่นั่ง,การตกลง,สัญญา | concordance | (n) ความสอดคล้อง,ความกลมกลืน,การตกลงกัน | convention | (n) การประชุม,สนธิสัญญา,การตกลง,จารีตประเพณี,ประเพณีนิยม,แบบแผน | deal | (n) การซื้อขาย,การตกลง,การติดต่อ,การจัดการ,ส่วนใหญ่ | decision | (n) การตกลงใจ,การตัดสินใจ,การปลงใจ,คำตัดสิน | determination | (n) การตกลงใจ,ความตั้งใจ,ความแน่นอน,การกำหนด | incidence | (n) การตกลงมา,แสงตกกระทบ,ขอบเขต,การบังเกิด,เหตุการณ์ | parley | (n) การตกลง,การเจรจาข้อพิพาท,การประชุม | resolve | (n) การลงมติ,การตกลงใจ,การตัดสินใจ,ความแน่วแน่ | settlement | (n) การจัดการ,การตกลงกัน,ถิ่นฐาน,การชำระเงิน,กองทุน,ทรัพย์สิน |
| 内定 | [ないてい, naitei] TH: การตกลงกันเป็นการภายใน |
|
เพิ่มคำศัพท์
ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ
Are you satisfied with the result?
Discussions | | |