ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*กลไก*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: กลไก, -กลไก-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - อังกฤษ (EN) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
กลไกProtocol

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
กลไก(n) mechanism, See also: machinery, device, Example: นาฬิกาเรือนนี้มีกลไกทำงานซับซ้อนมาก, Thai Definition: ตัวจักรต่างๆ
เครื่องกลไก(n) machinery, See also: machine, engine, motor, mechanical device, Syn. เครื่องกล, เครื่องจักร, เครื่องยนต์, เครื่องจักรกล, Example: ลักษณะพิเศษอย่างหนึ่งของละครดึกดำบรรพ์คือการจัดฉากให้สมจริงและใช้เครื่องกลไกประกอบการจัดฉากนั้น, Count Unit: เครื่อง
กลไกทางการเมือง(n) political machinery, Syn. กลยุทธ์ทางการเมือง, Example: แผนการนี้คือกลไกทางการเมืองของสภารสช.
เครื่องยนต์กลไก(n) machinery, See also: machine, engine, motor, Example: มนุษย์ใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ไปผลิตเครื่องยนต์กลไกที่จะให้ความสะดวกสบายกับตัวเอง

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
กลไก(กน-) น. ตัวจักรต่าง ๆ, โดยปริยายหมายความว่าบุคคลผู้เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในระดับต่าง ๆ, ระบบหรือองค์การที่บุคคลผู้เป็นเจ้าหน้าที่ในระดับต่าง ๆ ปฏิบัติงานร่วมกันดุจเครื่องจักร, ระบบที่จะให้งานสำเร็จตามประสงค์, เช่น กลไกการปกครอง
กลไกกระบวนการต่อเนื่องที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยา เช่น กลไกการย่อยอาหาร กลไกของการสร้างอาหารของพืชโดยการสังเคราะห์ด้วยแสง.
กล, กล-เครื่องกลไก, เครื่องจักร, เครื่องยนต์, เช่น ช่างกล.
การเปิดอภิปรายทั่วไปน. กลไกที่ฝ่ายนิติบัญญัติใช้ควบคุมฝ่ายบริหาร เช่น การเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี หรือฝ่ายบริหารจะรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายนิติบัญญัติ เช่น การเปิดอภิปรายทั่วไปที่คณะรัฐมนตรีร้องขอให้มีขึ้นเพื่อรับฟังความคิดเห็นเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากสมาชิกสภา.
ดับเครื่องก. ทำให้เครื่องยนต์เครื่องกลไกเป็นต้นหยุด, ถ้าเครื่องยนต์เครื่องกลไกเป็นต้นหยุดเอง เรียกว่า เครื่องดับ.
ปอดเหล็กน. เครื่องกลไกสร้างด้วยโลหะ ใช้ทำให้เกิดการบีบและขยายของทรวงอกในการหายใจแทนการเคลื่อนไหวตามธรรมชาติในเมื่อมีอัมพาตของกล้ามเนื้อ เช่นในโรคโปลิโอ.
ปืนกลน. ปืนที่มีกลไกยิงได้เร็วมาก.
เปิดก. ทำให้สิ่งที่ปิดอยู่เผยออก เช่น เปิดประตู, ทำให้เครื่องยนต์กลไกทำงาน เช่น เปิดวิทยุ เปิดพัดลม, ตรงข้ามกับ ปิด
พรรคกลิน(พักกะลิน) น. เหล่าของทหารเรือที่ทำหน้าที่ดูแลรักษาซ่อมบำรุงเครื่องยนต์กลไกประเภทต่าง ๆ ที่มีใช้ในกองทัพเรือ.
ยนต์, ยนตร์น. เครื่องกลไก, เครื่องจักรที่ให้กำเนิดพลังงานหรือทำให้วัตถุเคลื่อนที่.
สิ่งตีพิมพ์น. ไปรษณียภัณฑ์ประเภทข้อความ รูป หรือรอยประดิษฐ์บนกระดาษ กระดาษแข็ง หรือวัสดุที่ใช้กันทั่วไปในกิจการพิมพ์ ซึ่งทำขึ้นเป็นหลายสำเนาเหมือนกันทุกประการ ด้วยกระบวนการทางเครื่องกลไก หรือการถ่ายภาพอันเกี่ยวข้องกับการใช้แม่พิมพ์ต้นแบบ กระดาษไข เนกาทีฟ หรือสิ่งอื่น ๆ ที่ใช้กันโดยทั่วไปในกิจการพิมพ์.
หุ่นยนต์น. หุ่นที่ทำเป็นรูปคนมีเครื่องกลไกภายใน สามารถทำงานหลายอย่างแทนมนุษย์ได้, โดยปริยายหมายถึงผู้ที่ทำงานตามที่ถูกสั่งโดยไม่ต้องใช้สมองและไม่มีชีวิตจิตใจดุจเป็นเครื่องจักรกล.
อัตโนมัติ(อัดตะ-) ว. เป็นไปได้ในตัวเอง, ทำหน้าที่ได้ในตัวเอง, มีกลไกทำหน้าที่ได้เอง, เช่น นาฬิกาอัตโนมัติ.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
parallelogram linkageกลไกก้านต่อแบบขนาน [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
pulmonic airstream mechanismกลไกกระแสลมจากปอด [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕]
protection mechanismกลไกการอารักขา [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
projectionการโทษผู้อื่น (กลไกทางจิต) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
political machineryกลไกทางการเมือง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
progressive linkageกลไกก้านต่อก้าวหน้า [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
repressionการกดเก็บ (กลไกทางจิต) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
rationalisation; rationalizationการใช้เหตุผลเข้าข้างตน (กลไกทางจิต) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
rationalization; rationalisationการใช้เหตุผลเข้าข้างตน (กลไกทางจิต) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
Rayleigh mechanismกลไกเรย์ลี [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
substitution๑. การแทนที่๒. การทดแทน (กลไกทางจิต) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
suppression๑. การห้ามไหล๒. การกด๓. การพยายามลืม (กลไกทางจิต) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
spark advance mechanism; advance mechanism; ignition advance mechanismกลไกเร่งไฟ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
selector mechanismกลไกเลือกเกียร์ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
sublimation๑. การระเหิด๒. การเปลี่ยนให้เป็นที่ยอมรับ (กลไกทางจิต) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
airstream mechanismกลไกกระแสลม [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕]
access mechanismกลไกการเข้าถึง [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
advance mechanism; ignition advance mechanism; spark advance mechanismกลไกเร่งไฟ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
machinery, politicalกลไกทางการเมือง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
mechanic formรูปแบบกลไก [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
mechanicalด้วยเครื่องจักร, กลไก, เกี่ยวกับเครื่องกล [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
mental mechanismกลไกทางจิต, กลวิธานจิต [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
mechanismกลไก, กลวิธาน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
mechanismกลไก [พลังงาน ๒๖ ม.ค. ๒๕๔๕]
mechanismกลไก [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
mechanism, defenseกลไกป้องกัน, กลวิธานป้องกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
mechanism, mentalกลไกทางจิต, กลวิธานจิต [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
market socialismสังคมนิยมแบบกลไกตลาด [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
defense mechanismกลไกป้องกัน, กลวิธานป้องกัน [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
dual diaphragm vacuum advanceกลไกเร่งไฟสุญญากาศไดอะแฟรมคู่ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
glottalic airstream mechanismกลไกกระแสลมจากเส้นเสียง [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕]
identificationการเลียนแบบ (กลไกทางจิต) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
ignition advance mechanism; advance mechanism; spark advance mechanismกลไกเร่งไฟ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
velaric airstream mechanismกลไกกระแสลมจากเพดานอ่อน [สัทศาสตร์ ๘ มี.ค. ๒๕๔๕]
vacuum advance๑. กลไกเร่งไฟสุญญากาศ๒. การเร่งไฟสุญญากาศ [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
window regulatorกลไกเลื่อนกระจกขึ้นลง [ยานยนต์ ๑๒ มี.ค. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Motor abilityความสามารถทางกลไก [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Human mechanics ; Biomechanicsกลไกของมนุษย์ [TU Subject Heading]
Transmission mechanism (Monetary policy)กลไกการส่งผ่านนโยบายการเงิน [TU Subject Heading]
ASEAN Committee in Beijingคณะกรรมการอาเซียนประจำกรุงปักกิ่ง " ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกอาเซียนประจำกรุง ปักกิ่ง มีหน้าที่ในการประสานผลประโยชน์และเป็นกลไกกลางของ อาเซียนในการมีปฏิสัมพันธ์กับสาธารณรัฐประชาชนจีนที่กรุงปักกิ่ง [การทูต]
Ayeyawady - Chao Phraya - Mekong Economic Cooperation Strategyยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิระวดี ? เจ้าพระยา ? แม่โขง ACMECS หรือชื่อเดิม ยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างกัมพูชา ลาว พม่า และไทย (ECS : Economic Cooperation Strategy among Cambodia, Lao PDR, Myanmar and Thailand) คือ กรอบความร่วมมือระหว่าง 5 ประเทศ คือ กัมพูชา ลาว พม่า ไทย และเวียดนาม ACMECS เป็นแนวคิดที่ พ.ต.ท. ดร. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้หยิบยกขึ้นหารือกับผู้นำกัมพูชา ลาว และพม่า ในช่วงการประชุมผู้นำอาเซียนสมัยพิเศษว่าด้วยโรค SARS เมื่อ 29 เมษายน 2546 ที่กรุงเทพฯ และได้มีพัฒนาการอย่างรวดเร็วต่อเนื่องจนถึงการประชุมระดับผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 1 ที่เมืองพุกาม สหภาพพม่า เมื่อ 12 พฤศจิกายน 2546 โดยผู้นำทั้ง 4 ประเทศร่วมกันออกปฏิญญาพุกาม (Bagan Declaration) รวมทั้งแผนปฏิบัติการ (Plan of Action) ครอบคลุมความร่วมมือ 5 สาขา ได้แก่ การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการ ลงทุน ความร่วมมือทางด้านเกษตรและอุตสาหกรรม การเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคม การท่องเที่ยว และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ บนหลักการที่เน้นการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนและยกระดับความ เป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งเปิดกว้างให้นานาประเทศและองค์การระหว่างประเทศได้มีส่วนร่วมเป็น หุ้นส่วนเพื่อการพัฒนา (Development Partner) ในโครงการต่างๆ ของ ACMECS ด้วย * เวียดนามร่วมเป็นสมาชิก ACMECS เมื่อ 10 พฤษภาคม 2547 สถานะล่าสุด ระหว่างวันที่ 1-2 พฤศจิกายน 2547 ที่จังหวัดกระบี่ ไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสสมัยพิเศษและการประชุม รัฐมนตรี ACMECS อย่างไม่เป็นทางการ รวมทั้งการประชุมร่วมกับ Development Partners (ผู้แทนจากออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย) ซึ่งการประชุมประสบผลสำเร็จอย่างดียิ่ง สมาชิก ACMECS ทั้ง 5 ประเทศได้ร่วมกันแสดงความเป็น เอกภาพ โดยยืนยันเจตนารมณ์ที่จะดำเนินการตามกรอบความร่วมมือ ACMECS อย่าง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันต่อผู้แทนของ Development Partners รวมทั้งมีการหารือถึงความคืบหน้าของการดำเนินโครงการระหว่างกันอย่างเป็น รูปธรรม นอกจากนี้ ยังสามารถมีข้อสรุปที่สำคัญๆ เกี่ยวกับกลไกการประสานงานระหว่างกันซึ่งจะช่วยให้การดำเนินกิจกรรมความร่วม มือของ ACMECS มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป * ไทยมีกำหนดเป็นเจ้าภาพจัดประชุมระดับผู้นำ ACMECS ครั้งที่ 2 ในเดือนธันวาคม 2548 ที่กรุงเทพฯ [การทูต]
ASEAN Committee in Seoulคณะกรรมการอาเซียนประจำกรุงโซล ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกอาเซียนประจำ กรุงโซล มีหน้าที่ในการประสานผลประโยชน์และเป็นกลไกกลางของอาเซียนในการมีปฏิ สัมพันธ์กับสาธารณรัฐเกาหลีที่กรุงโซล [การทูต]
Asia-Europe Business Forumสภาธุรกิจเอเชีย-ยุโรป เป็นกลไกหนึ่งภายใต้ความร่วมมืออาเซม(ASEM) ประกอบด้วยผู้แทนจากภาคเอกชนของประเทศสมาชิกอาเซม เริ่มดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2540 [การทูต]
Asia-Europe Environmental Technology Centreศูนย์เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมเอเชีย-ยุโรป เป็นกลไกหนึ่งภายใต้อาเซม เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศสมาชิก [การทูต]
African Unionสหภาพแอฟริกา สหภาพแอฟริกาซึ่งเป็นความร่วมมือระดับภูมิภาคที่สำคัญ ของทวีป แอฟริกา ได้ก่อกำเนิดมาจากองค์การเอกภาพแอฟริกา (Organization of African Unity ? OAU) เมื่อปี พ.ศ. 2545 โดยได้ปรับปรุงกฎบัตรเดิมขององค์การเอกภาพแอฟริกา ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในการจัดตั้งกองกำลังรักษาสันติภาพและสามารถแทรกแซงกิจการของประเทศ สมาชิกโดยผ่านกองกำลังรักษาสันติภาพ กลไกที่สำคัญของสหภาพ แอฟริกาที่เพิ่มขึ้นอีกประการหนึ่งคือ ธนาคารกลาง นอกจากนี้ นโยบายสำคัญที่สหภาพแอฟริกาเน้น คือ การพัฒนาเศรษฐกิจและความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศสมาชิกด้วยกัน และได้ใช้โครงการ The New Partnership for Africa?s Development หรือ NEPAD เป็นหลักในการดำเนินการเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจของภูมิภาคแอฟริกา ซึ่งมุ่งเน้นการขจัดความยากจน [การทูต]
ASEAN-New Delhi Committeeคณะกรรมการอาเซียนประจำกรุงนิวเดลี " ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกอาเซียนประจำกรุง นิวเดลี มีหน้าที่ในการประสานผลประโยชน์และเป็นกลไกกลางของอาเซียนในการมีปฏิ สัมพันธ์กับอินเดียที่กรุงนิวเดลี " [การทูต]
ASEAN Standing Committeeคณะกรรมการประจำอาเซียน " ประกอบด้วยอธิบดีกรมอาเซียนของทุกประเทศสมาชิก มีหน้าที่ ควบคุม ดูแล ติดตามการดำเนินงานของกลไกและกิจกรรมต่าง ๆ ของอาเซียน ปกติจะประชุมปีละ 6 ครั้ง เป็นการประชุมในนามของ รัฐมนตรีต่างประเทศ ในช่วงกลางระหว่างการประชุมประจำปีของ รัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน " [การทูต]
ASEAN Council on Petroleumคณะมนตรีอาเซียนด้านปิโตรเลียม เป็นกลไกการหารือระหว่างวิสาหกิจแห่งชาติของประเทศสมาชิกอาเซียนที่ประกอบ กิจการด้านปิโตรเลียม มีการประชุมปีละ 2-3 ครั้ง เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและแสวงหาความร่วมมือระหว่างกัน [การทูต]
ASEAN Committees in Third Countriesคณะกรรมการอาเซียนในประเทศที่สาม เป็นกลไกประสานงานของอาเซียนที่จัดตั้งขึ้นในเมืองหลวงของประเทศที่สาม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นประเทศคู่เจรจาของอาเซียน คณะกรรมการดังกล่าว ประกอบด้วยเอกอัครราชทูตของประเทศสมาชิกอาเซียนประจำประเทศนั้น ๆ [การทูต]
ASEAN Troikaกลุ่มผู้ประสานงานของอาเซียน " เป็นข้อเสนอของไทยในการประชุมสุดยอดอย่างไม่เป็นทางการ ณ กรุงมะนิลา เมื่อ 28 พฤศจิกายน 2542 ซึ่งได้รับความเห็นชอบจาก ผู้นำประเทศ/รัฐบาลอาเซียน เป็นกลไกเฉพาะกิจในระดับรัฐมนตรี มีวัตถุประสงค์เพื่อให้อาเซียนสามารถแก้ไขและร่วมมือกันได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ทันท่วงทีและใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ในเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อสันติภาพ และในเรื่องที่อาเซียนมีความห่วงกังวลร่วมกันว่ามี แนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค ทั้งนี้ กลุ่มผู้ประสานงานอาเซียนจะปฏิบัติงานโดยยึดหลักการที่สำคัญของอาเซียน คือ หลักฉันทามติ และการไม่แทรกแซงกิจการภายใน กลุ่มผู้ประสานงานอาเซียนประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของ ประเทศที่เป็นประธานคณะกรรมการประจำของ อาเซียนในปัจจุบัน อดีต และอนาคต " [การทูต]
ASEAN - China, Japan and the Republic of Korea Relationshipความสัมพันธ์อาเซียนกับจีน ญี่ปุ่น และสาธาณรัฐเกาหลี เป็นกลไกความร่วมมือใหม่ที่เริ่มมีขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2540 ซึ่งผู้นำของ อาเซียน จีน ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี ได้พบกันเป็นครั้งแรกที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยในปี พ.ศ. 2542 ผู้นำอาเซียน+3 ได้ออกแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยความร่วมมือในภูมิภาคเอเชียตะวันออก (Joint Statement on East Asia Cooperation) เป็นหลักการพื้นฐานของการเสริมสร้างความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง [การทูต]
Asia-Europe Foundationเป็นกลไกหนึ่งภายใต้อาเซม เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ วัฒนธรรม และประชาชนกับประชาชน ระหว่างประเทศสมาชิก [การทูต]
ASEAN Food Security Reserve Boardคณะกรรมการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงแห่งภูมิภาคอาเซียน เป็นกลไกประสานด้านการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงของภูมิภาค จัดตั้งขึ้นตามหลักการของปฏิญญาความสมานฉันท์แห่งอาเซียน 2514 [การทูต]
ASEAN Specialised Meteorology Centreศูนย์อุตุนิยมวิทยาอาเซียน ตั้งอยู่ที่สิงคโปร์ ทำหน้าที่เป็นกลไกในการติดตามสภาพภูมิอากาศและสภาวะหมอกควันอันเกิดจากไฟ ไหม้ป่า [การทูต]
Clean Development Mechanismกลไกการพัฒนาที่สะอาด [การทูต]
Common Effective Preferential Tariffอัตราภาษีพิเศษที่เท่ากัน " เป็นกลไกหลักในการลดอัตราภาษีศุลกากรระหว่างกันภายใต้กรอบ การจัดตั้งเขตการค้าเสรีอาเซียนให้อยู่ในระดับร้อยละ 0-5 โดย ครอบคลุมสินค้าทุกชนิด " [การทูต]
Commission on Human Rightsคณะกรรมาธิการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แต่งตั้งขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1946 ตามมติของคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคมของสหประชาชาติ มีหน้าที่รับผิดชอบในการเสนอข้อเสนอแนะและรายงานการสอบสวนต่าง ๆ เกี่ยวกับประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนไปยังสมัชชา (General Assembly) สหประชาชาติ โดยผ่านคณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม คณะกรรมาธิการประกอบด้วยผู้แทนประเทศสมาชิก 53 ประเทศ ซึ่งได้รับเลือกตั้งให้ปฏิบัติหน้าที่ตามวาระ 3 ปี มีการประชุมกันทุกปี ปีละ 6 สัปดาห์ ณ นครเจนีวา และเมื่อไม่นานมานี้ คณะกรรมาธิการได้จัดตั้งกลไกเพื่อให้ทำหน้าที่สอบสวนเกี่ยวกับปัญหาสิทธิ มนุษยชนเฉพาะในบางประเทศ กลไกดังกล่าวประกอบด้วยคณะทำงาน (Working Groups) ต่าง ๆ รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิเศษที่สหประชาชาติแต่งตั้งขึ้น (Rapporteurs) เพื่อให้ทำหน้าที่ศึกษาและสอบสวนประเด็นปัญหาสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในบาง ประเทศมีเรื่องน่าสนใจคือ ใน ค.ศ. 1993 ได้มีการประชุมในระดับโลกขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ซึ่งแสดงถึงความพยายามของชุมชนโลก ที่จะส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นมูลฐานไม่ว่าที่ไหน ในระเบียบวาระของการประชุมดังกล่าว มีเรื่องอุปสรรคต่างๆ ที่เห็นว่ายังขัดขวางความคืบหน้าของการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชน รวมทั้งการหาหนทางที่จะเอาชนะอุปสรรคเหล่านั้น เรื่องความเกี่ยวพันกันระหว่างการพัฒนาลัทธิประชาธิปไตย และการให้สิทธิมนุษยชนทั่วโลก เรื่องการท้าทายต่างๆ ที่เกิดขึ้นใหม่ ซึ่งทำให้ไม่อาจปฏิบัติให้บรรลุผลอย่างสมบูรณ์ในด้านสิทธิมนุษยชน เรื่องการหาหนทางที่จะกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศในด้านสิทธิมนุษยชน และการที่จะส่งเสริมศักยภาพของสหประชาชาติในการดำเนินงานในเรื่องนี้ให้ได้ ผล ตลอดจนเรื่องการหาทุนรอนและทรัพยากรต่างๆ เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานดังกล่าวในการประชุมระดับโลกครั้งนี้มีรัฐบาลของ ประเทศต่างๆ บรรดาองค์กรของสหประชาชาติ สถาบันต่างๆ ในระดับประเทศชาติ ตลอดจนองค์การที่มิใช่ของรัฐบาลเข้าร่วมรวม 841 แห่ง ซึ่งนับว่ามากเป็นประวัติการณ์ ช่วงสุดท้ายของการประชุมที่ประชุมได้พร้อมใจกันโดยมิต้องลงคะแนนเสียง (Consensus) ออกคำปฏิญญา (Declaration) แห่งกรุงเวียนนา ซึ่งมีประเทศต่าง ๆ รับรองรวม 171 ประเทศ ให้มีการปฏิบัติให้เป็นผลตามข้อเสนอแนะต่างๆ ของที่ประชุม เช่น ข้อเสนอแนะให้ตั้งข้าหลวงใหญ่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนหนึ่งตำแหน่งให้มีการรับ รู้และรับรองว่า ลัทธิประชาธิปไตยเป็นสิทธิมนุษยชนอันหนึ่ง ซี่งเป็นการเปิดโอกาสให้ลัทธิประชาธิปไตยได้รับการสนับสนุนส่งเสริมให้มั่น คงยิ่งขึ้น รวมทั้งกระชับหลักนิติธรรม (Rule of Law) นอกจากนี้ยังมีเรื่องการรับรองว่า การก่อการร้าย (Terrorism) เป็นการกระทำที่ถือว่ามุ่งทำลายสิทธิมนุษยชน ทั้งยังให้ความสนับสนุนมากขึ้นในนโยบายและแผนการที่จะกำจัดลัทธิการถือเชื้อ ชาติและเผ่าพันธุ์ การเลือกปฏิบัติเกี่ยวกับเชื้อชาติ การเกลียดคนต่างชาติอย่างไร้เหตุผล และการขาดอหิงสา (Intolerance) เป็นต้นคำปฎิญญากรุงเวียนนายังชี้ให้เห็นการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชน อย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (Genocide) และการข่มขืนชำเราอย่างเป็นระบบ (Systematic Rape) เป็นต้น [การทูต]
concert of nationsความปรองดองระหว่างชาติ หลักการและแนวคิดเรื่องความปรองดองระหว่างชาติเกิดขึ้นในยุโรป ระหว่าง พ.ศ. 2357-2358 ซึ่งเรียกว่า Concert of Europe หรือบางครั้งเรียกว่า Concert of Allies โดยการรวมตัวของกลุ่มรัฐพันธมิตรที่ต่อต้านการขยายอำนาจของฝรั่งเศส คือ รัสเซีย ออสเตรีย ปรัสเซีย และอังกฤษ ได้รวมตัวกันเป็นระบบแห่งยุโรป (European system) หรือระบบแห่งมหาอำนาจในยุโรป ซึ่งต่อมาฝรั่งเศสและสเปนได้เข้าร่วมในระบบความปรองดองแห่งยุโรปด้วย นอกจากนี้การเกิดระบบความปรองดองแห่งยุโรปซึ่งมีระบบการประชุมคองเกรส ระหว่างชาติมหาอำนาจเป็นกลไกสำคัญนั้น ยังเป็นการแสดงถึง "มหาอำนาจแห่งปฐมลำดับ" (The powers of the first order) และยังถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการเรียกชื่อที่ระบุคำว่ามหาอำนาจ (The first expression of the idea of the Great Powers) อย่างไรก็ตาม ระบบความปรองดองแห่งยุโรปได้ล่มสลายลงในปี พ.ศ. 2365 [การทูต]
Council for Security and Cooperation in the Asia-Pacificชมรมด้านความมั่นคงและความร่วมมือในเอเชียแปซิฟิก เป็นสถาบันเอกชนก่อตั้งขึ้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2536 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีสถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ (Institute of Security and International Studies : ISIS) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสถาบันก่อตั้งร่วมกับสถาบันอื่น ๆ จากประเทศอาเซียนและประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก CSCAP เป็นกลไกที่ไม่ใช่เป็นทางการ เพื่อให้นักวิชาการ เจ้าหน้าที่รัฐบาลในฐานะส่วนตัวและบุคคลอื่นได้อภิปรายปัญหาทางการเมืองและ ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก [การทูต]
Forum for Comprehensive Development of Indochinaเวทีเพื่อการพัฒนาอย่างสมบูรณ์แบบในอินโดจีน เป็นความริเริ่มโดยกระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นที่จะให้มีเวทีปรึกษาหารือ เพื่อช่วยพัฒนาประเทศลาว กัมพูชา และเวียดนาม กลไกประกอบด้วยคณะทำงานด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คณะที่ปรึกษาภาคเอกชนโดยเน้นบทบาทในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาภาค เอกชนตลอดจนการสร้างความเชื่อมโยงกับกรอบความร่วมมือ (GMS) [การทูต]
General Border Committeeคณะกรรมการชายแดนทั่วไป เป็นกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคง ชายแดน ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทยและประเทศเพื่อนบ้านเป็นประธานร่วม กัน ทำหน้าที่กกำหนดแนวทางและมาตรการที่เหมาะสมเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือ รักษาความสงบเรียบร้อยและเสถียรภาพในพื้นที่บริเวณชายแดน ซึ่งกลไกนี้ไทยมีกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดต่อกันทั้ง 4 ประเทศ [การทูต]
Greater Mekong Subregion Economic Cooperationกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง หรือ กรอบความร่วมมือหกเหลี่ยมเศรษฐกิจ " ประกอบด้วย ไทย พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และจีน (มณฑล ยูนนาน) มีธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) เป็นกลไกประสานความร่วมมือ โดยริเริ่มขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2535 ประกอบด้วยความร่วมมือ 8 สาขา ได้แก่ คมนาคมขนส่ง พลังงาน สื่อสาร โทรคมนาคม พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ท่องเที่ยว สิ่งแวดล้อม และการ จัดการทรัพยากรธรรมชาติ การค้า และการลงทุน " [การทูต]
Human Rights Committeeคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เป็นกลไกติดตามผลการอนุวัติกติการะหว่างประเทศว่าด้วย สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights : ICCPR) [การทูต]
Investment Expert Groupกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน เป็นกลไกหนึ่งภายใต้ ASEM [การทูต]
International Maritime Organizationองค์การกิจการทางทะเลระหว่างประเทศ " เป็นทบวงการชำนัญพิเศษขององค์การสหประชาชาติ ตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2502 โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะเป็นเวทีระหว่างประเทศสมาชิก ในการกำหนดมาตรฐาน และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับความปลอดภัย ในการเดินเรือ และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล รวมทั้งเป็นกลไกในการสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างประเทศสมาชิก ปัจจุบัน มีสมาชิก 155 ประเทศ สำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร " [การทูต]
Inter-Governmental Maritime Consultative Organizationองค์การที่ปรึกษาทางทะเลระหว่างรัฐบาล หมายถึงองค์การที่ปรึกษาเกี่ยวกับการเดินเรือทางทะเล ระหว่างรัฐบาล องค์การนี้มีฐานะเป็นองค์การชำนัญพิเศษแห่งหนึ่งขององค์การสหประชาชาติ ประเทศทั้งหมดรวม 35 ประเทศ ได้ประชุมร่วมกันจัดทำอนุสัญญาขององค์การนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก ในการประชุมขององค์การที่ปรึกษาการเดินเรือทางทะเล ณ กรุงเจนีวา เมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ. 1948 อนุสัญญามีผลบังคับใช้เมื่อ วันที่ 17 มีนาคม ค.ศ. 1958 เมื่อมีประเทศต่าง ๆ รวม 21 ประเทศได้ให้สัตยาบัน ซึ่งในจำนวนนี้ 7 ประเทศเป็นอย่างน้อยจะต้องมีเรือเดินทะเลของตนไม่น้อยกว่า 1 ล้านตัน (Gross tons) วัตถุประสงค์ขององค์การ IMCO คือ1. จัดวางกลไกเพื่อความร่วมมือกันระหว่างรัฐบาลประเทศสมาชิก ในด้านการวางระเบียบข้อบังคับของราชการ และการปฏิบัติซึ่งเกี่ยวข้องกับเรื่องทางวิชาการหรือเทคนิค รวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัยทางทะเล2. สนับสนุนให้มีการยกเลิกการกระทำที่เลือกที่รักมักที่ชัง และข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ไม่จำเป็นของรัฐบาล3. รับพิจารณาเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติในทำนองตั้งข้อจำกัดอย่างไม่ยุติธรรมของบริษัท หรือองค์การเดินเรือทั้งหลาย4. รับพิจารณาเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือ ที่องค์การหนึ่งใดหรือองค์การชำนัญพิเศษของสหประชาชาติส่งมาให้พิจารณา 5. จัดให้มีการแลกเปลี่ยนข่าวสารข้อสนเทศใด ๆ ระหว่างรัฐบาลเกี่ยวกับเรื่องที่องค์การ IMCO กำลังพิจารณาอยู่องค์การนี้ยังจัดให้มีการร่างอนุสัญญาและความตกลงต่าง ๆ รวมทั้งส่งข้อเสนอแนะเหล่านี้ไปให้รัฐบาล และองค์การระหว่างรัฐบาลทั้งหลาย รวมทั้งจัดการประชุมเท่าที่พิจารณาเห็นว่าจำเป็นองค์การนี้ประชุมกันทุกสอง ปี มีหน้าที่วางนโยบายเกี่ยวกับการเดินเรือทางทะเล ระหว่างสมัยประชุมจะมีคณะเจ้าหน้าที่ขององค์การ เรียกว่า คณะมนตรี (Council) ทำหน้าที่บริหารงานในองค์การ คณะมนตรีประกอบด้วยสมาชิก 16 คน ในจำนวนนี้ 8 คน เป็นผู้แทนจากประเทศที่สนใจให้การบริการเกี่ยวกับการเดินเรือระหว่างประเทศ และอีก 8 คนเป็นตัวแทนจากประเทศที่สนใจการค้าทางทะเลระหว่างประเทศ องค์การมีสำนักเลขาธิการ ประกอบด้วยตัวเลขาธิการ เลขานุการคณะกรรมการเกี่ยวกับความปลอดภัยทางทะเล และเจ้าหน้าที่ประจำตามจำนวนที่องค์การต้องการแล้วแต่กรณี สำนักงานใหญ่ขององค์การตั้งอยู่ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ [การทูต]
Joint Commissionคณะกรรมาธิการร่วม " เป็นกลไกความร่วมมือในระดับทวิภาคีระหว่างประเทศไทยกับประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก JC มีบทบาทในการดูแลและส่งเสริมความสัมพันธ์ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านการเมือง เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วัฒนธรรม และสังคม โดยแต่ละฝ่ายจะสลับกันเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม ซึ่งอาจมีขึ้นปีละครั้งหรือ 2-3 ปีต่อครั้ง ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมและความสะดวกของทั้งสองฝ่าย JC อาจมีกลไกย่อยหรือคณะกรรมการภายใต้ JC เพื่อกำกับดูแลเฉพาะเรื่องหรือมีคณะกรรมการในระดับส่วน ภูมิภาค เช่น ไทยกับมาเลเซียมีคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee - GBC) มีบทบาทในการดูแลความร่วมมือด้านการทหารและความมั่นคงบริเวณชายแดน และมีคณะกรรมการจัดทำหลักเขตแดนทางบก (Land Boundary Committee - LBC) เพื่อดูแลการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างประเทศทั้งสอง นอกจากนั้น ยังมีคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee - JTC) ระหว่างไทยกับบางประเทศ เป็นกลไกเพื่อส่งเสริมการค้าและขจัดอุปสรรคทางการค้าระหว่างกัน " [การทูต]
Japan - Thailand Joint Taks Forc on Counter Trafficking in pesonsคณะทำงานเฉพาะกิจร่วมไทย - ญี่ปุ่นว่าด้วยการต่อต้านการค้ามนุษย์ จัดตั้งเมื่อ พ.ศ.2549 เพื่อเป็นกลไกในการประสานความร่วมมือต่อต้านการค้ามนุษย์ระหว่างกัน ระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาล ครอบคลุมความร่วมมือใน 3 เรื่อง ได้แก่ (1) การป้องกันการค้ามนุษย์ ( prevention) (2) การบังคับใช้กฎหมาย (law enforcement) และ (3) การคุ้มครองเหยื่อการค้ามนุษย์ (protection) [การทูต]
Leaque of Arab States หรือ Arab Leaqueก่อตั้งเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2488 มีเป้าหมายทางการเมืองเป็นเป้าหมายหลัก คือ สร้างเอกภาพ รักษาและส่งเสริมผลประโยชน์อาหรับ รวมทั้งเป็นกลไก [การทูต]
New World Orderระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต]
Shanghai Cooperation Organizationพัฒนามาจากเวทีการประชุม Shanghai Five ซึ่งจีนเป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2539 เดิมมีสมาชิก 5 ประเทศ ได้แก่ จีน รัสเซีย คาซัคสถาน สาธารณรัฐคีร์กีซ และทาจิกิสถาน ต่อมาเมื่อเดือนมิถุนายน 2544 อุซเบกิสถาน ได้เข้าเป็นสมาชิกด้วย จึงมีการเปลี่ยนชื่อกลไกความ ร่วมมือนี้เป็น Shanghai Cooperation Organization เดิมมีวัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจและแก้ไขข้อพิพาทเกี่ยวกับพรมแดนของประเทศสมาชิก และต่อมาได้ขยายขอบเขตความร่วมมือให้ครอบคลุม ทั้งด้านการเมือง ความมั่นคง เศรษฐกิจการค้า วิทยาศาสตร์ วัฒนธรรม การศึกษา พลังงาน การคมนาคม [การทูต]
Senior Officials' Meeting on Trade and Investmentการประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านการค้าและการลงทุนของเอเชีย-ยุโรป เป็นกลไกหนึ่งภายใต้อาเซม สำหรับความสัมพันธ์ด้านการค้าและการ ลงทุนระหว่างประเทศสมาชิก เริ่มเมื่อปี พ.ศ. 2539 [การทูต]
Treaty of Amity and Cooperationสนธิสัญญาไมตรีและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ " เป็นสนธิสัญญาที่จัดทำขึ้นโดยอาเซียนเมี่อปี พ.ศ. 2519 เพื่อกำหนด หลักการดำเนินความสัมพันธ์ในภูมิภาค โดยมีหลักการที่สำคัญได้แก่ การเคารพในอำนาจอธิปไตย ความเท่าเทียมกัน บูรณภาพแห่งดินแดน การไม่แทรกแซงกิจการภายใน การแก้ไขปัญหาโดยสันติ การไม่ใช้หรือขู่ว่าจะใช้กำลัง และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน รวมทั้งมีมาตราเกี่ยวกับแนวทางยุติความขัดแย้งโดยสันติวิธี โดยอาศัยกลไกคณะอัครมนตรี (High Council) ปัจจุบันประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ทั้ง 10 ประเทศ เป็นภาคีสนธิสัญญาฯ " [การทูต]
Work of the United Nations for the Independence of Colonial Peoplesงานขององค์การสหประชาชาติ ในการช่วยให้ชาติอาณานิคมทั้งหลายได้รับความเป็นเอกราช นับตั้งแต่เริ่มตั้งองค์การสหประชาชาติเมื่อปี ค.ศ.1945 เป็นต้นมา มีชนชาติของดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเอง รวมทั้งดินแดนในภาวะทรัสตีตามส่วนต่าง ๆ ของโลก ได้รับความเป็นเอกราชไปแล้วไม่น้อยกว่า 170 ล้านคน ดินแดนที่แต่ก่อนยังไม่มีฐานะปกครองตนเองราว 50 แห่งได้กลายฐานะเป็นรัฐเอกราช มีอธิปไตยไปแล้ว ขณะนี้ยังเหลือดินแดนที่ยังมิได้ปกครองตนเองอีกไม่มาก กำลังจะได้รับฐานะเป็นประเทศเอกราชต่อไปแม้ว่าปัจจัยสำคัญที่สุดซึ่งทำให้ เกิดวิวัฒนาการอันมีความสำคคัญทางประวัติศาสตร์ จะได้แก่ความปรารถนาอย่างแรงกล้าของประชาชนในดินแดนเมืองขึ้นทั้งหลาย แต่องค์การสหประชาชาติก็ได้แสดงบทบาทสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนชนชาติ ที่ยังมิได้เป็นเอกราช และชาติที่ยังปกครองดินแดนเหล่านั้นอยู่ ให้รีบเร่งที่จะให้ชาชาติในดินแดนเหล่านั้นได้รับฐานะเป็นเอกราชโดยเร็วที่ สุดเท่าที่จะเป็นไปได้การที่องค์การสหประชาชาติมีบทบาทหน้าที่ดังกล่าวเพราะ ถือตามหลักแห่งความเชื่อศรัทธาที่ว่า มนุษย์ไม่ว่าชายหรือหญิง และชาติทั้งหลายไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก ย่อมมีสิทธิเท่าเทียมกัน และได้ยืนยันความตั้งใจอันแน่วแน่ของประเทศสมาชิกที่จะใช้กลไกระหว่างประเทศ ส่งเสริมให้ชนชาติทั้งหลายในโลกได้ประสบความก้าวหน้าทั้งในทางเศรษฐกิจและ สังคมนอกจากนั้น เพื่อเร่งรัดให้ชนชาติที่ยังอยูใต้การปกครองแบบอาณานิคมได้ก้าวหน้าไปสู่ เอกราช สมัชชาของสหประชาชาติ (General Assembly of the United Nations) ก็ได้ออกปฏิญญา (Declaration) เกี่ยวกับการให้ความเป็นเอกราชแก่ประเทศและชนชาติอาณานิคม เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ค.ศ. 1960 ซึ่งในปฏิญญานั้น ได้ประกาศยืนยันความจำเป็นที่จะให้ลัทธิอาณานิคมไม่ว่าในรูปใด สิ้นสุดลงโดยเร็วและปราศจากเงื่อนไขใด ๆ สมัชชายังได้ประกาศด้วยว่า การที่บังคับชนชาติอื่นให้ตกอยู่ใต้อำนาจการปกครอง แล้วเรียกร้องประโยชน์จากชนชาติเหล่านั้น ถือว่าเป็นการปฏิเสธไม่ยอมรับสิทธิมนุษยชนขั้นมูลฐาน เป็นการขัดกับกฎบัตรของสหประชาชาติ เป็นอุปสรรคต่อการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือของโลกสมัชชาสหประชาชาติ ยังได้ประกาศต่อไปว่า จะต้องมีการดำเนินการโดยด่วนที่สุด โดยไม่มีเงื่อนไขหรือข้อสงวนใด ๆ ตามเจตนารมณ์ ซึ่งแสดงออกอย่างเสรี โดยไม่จำกัดความแตกต่างในเรื่องเชื้อชาติ หลักความเชื่อถือ หรือผิว เพื่อให้ดินแดนทั้งหลายที่ยังไม่ได้มีการปกครองของตนเองเหล่านั้นได้รับความ เป็นเอกราชและอิสรภาพโดยสมบูรณ์ในปี ค.ศ. 1961 สมัชชาสหประชาชาติก็ได้จัดตั้งคณะกรรมการพิเศษขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อตรวจดูและให้มีการปฏิบัติให้เป็นตามคำปฏิญญาของสหประชาชาติ และถึงสิ้นปี ค.ศ. 1962 คณะกรรมการดังกล่าวได้ประชุมกันหลายต่อหลายครั้งทั้งในและนอกสำนักงานใหญ่ ขององค์การสหประชาชาติ แล้วรวบรวมเรื่องราวหลักฐานจากบรรดาตัวแทนของพรรคการเมืองทั้งหลาย จากดินแดนที่ยังไม่ได้รับการปกครองตนเอง แล้วคณะกรรมการได้ตั้งข้อเสนอแนะต่าง ๆ โดยมุ่งจะเร่งรัดให้การปกครองอาณานิคมสิ้นสุดลงโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ [การทูต]
Clean Development Mechanismกลไกการพัฒนาที่สะอาด [เศรษฐศาสตร์]
Dispersion1.ดิสเพอร์ชันหรือการแตกตัวเป็นขั้นตอนหนึ่งของกลไกการผสมสารตัวเติม เข้าไปในยางแห้ง ซึ่งจะเกิดขึ้นจากแรงเฉือนในการผสมที่ทำให้แอกโกลเมอเรตของอนุภาคสารตัวเติม แตกตัวต่อไปจนได้เป็นแอกกรีเกตซึ่งเป็นหน่วยเล็กที่สุดของสารตัวเติมที่ได้ จากการผสม ขั้นตอนนี้จะเกิดขึ้นพร้อมๆ กับการกระจายตัว เพื่อให้ได้สารตัวเติมที่มีการแตกตัวดีและการกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอในยาง 2.สารเคมีที่กระจายตัวอยู่ในน้ำยาง [เทคโนโลยียาง]
Distributionการกระจายตัวเป็นขั้นตอนหนึ่งของกลไกการผสมสารตัวเติมเข้าไปในยางแห้ง จะเกิดขึ้นหลังจากที่สารตัวเติมเข้าไปในเนื้อยาง (incorporation) กล่าวคือ การไหลของยางจะทำให้สารตัวเติมที่ถูกโอบล้อมด้วยยางเกิดการกระจายตัวในเนื้อ ยาง ซึ่งกระบวนการนี้จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาของการผสม [เทคโนโลยียาง]
Incorporationขั้นตอนหนึ่งของกลไกการผสมสารตัวเติมเข้าไปในยางแห้ง โดยจะเกิดจากการที่สารตัวเติมถูกรวมเข้าไปในเนื้อยางซึ่งเกิดผ่านกลไก 2 แบบ ได้แก่ กลไกที่หนึ่ง แรงเฉือนจะทำให้ยางเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่าง ซึ่งทำให้ยางมีพื้นที่สัมผัสกับสารตัวเติมได้มากขึ้น เมื่อแรงเฉือนหมดไป ยางจะคลายตัวกลับคืนสู่สภาพที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างและโอบล้อมเอาสาร ตัวเติมไว้ภายในยาง และกลไกที่สอง ยางชิ้นใหญ่ที่ได้รับแรงเฉือนสูงๆ จะเกิดการฉีกขาดจนได้ยางที่มีขนาดเล็กลง ซึ่งเหล่านี้จะเข้าไปโอบล้อมสารตัวเติมไว้ภายในยางเช่นกัน [เทคโนโลยียาง]
Antibody-Producting Mechanismกลไกปฎิกิริยาในการสร้างภูมิคุ้มกัน [การแพทย์]
Autoimmune Mechanismกลไกในระบบอัตตะอิมมิว, การขัดขวางภูมิต่อต้านตัวเอง [การแพทย์]
Autonomic Reflex Mechanismsระบบกลไกรีเฟล็กซ์ออโตโนมิค [การแพทย์]
Barriers, Mechanicalกันชนเครื่องกั้นกลไกการต้านเชื้อ [การแพทย์]
Biocatalysisการเร่งปฏิกิริยาเคมีโดยกลไกทางชีวภาพ [การแพทย์]
Biological Variationการผันแปรทางชีวภาพ, กลไกทางเมตาบอลิสมของร่างกายในแต่ละบุคคล [การแพทย์]
Body Defence Mechanismกลไกการต่อต้านเชื้อโรคของร่างกายมนุษย์ [การแพทย์]
Buffering Mechanism, Biologicalกลไกบัฟเฟอร์ทางชีวะ [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Don't give yourselves to these men, machine men with machine minds and machine hearts.ไม่ใช่เพื่อคุณเองแต่เพื่อประชาชน กลไกของมนุษย์ประกอบด้วย การทำงานของจิตใจ ผนวกกับหัวใจ The Great Dictator (1940)
The firing mechanism. It's intact, isn't it?ระบบกลไกยิงยังสมบูรณ์ดีใช่มั้ย Beneath the Planet of the Apes (1970)
-Do you know the range of their city? -Yes.- รู้จักกลไกหัวรบใช่มั้ย Beneath the Planet of the Apes (1970)
-Set in the mechanism and wait for me.- รู้ ปรับตั้งกลไกเเล้วรอคอยฉัน Beneath the Planet of the Apes (1970)
It's my defense mechanism.มันเป็นกลไกการป้องกันของฉัน Clue (1985)
Spare parts with intelligence.เป็นชิ้นส่วนที่มีปัญญา กลไกที่มีชีวิต *batteries not included (1987)
And if we would have got picked up, they would've worked in a gimmick... where every show I would've told another joke.และถ้าเราจะได้มีการหยิบขึ้นมาพวกเขาก็จะได้ทำงานในกลไก ... ที่ทุกการแสดงที่ผมจะได้บอกเรื่องตลกอีก Pulp Fiction (1994)
Consider all the neuro-med devices the machining cell crammed into that body.ดูจากสายระบบประสาทและกลไกที่อัดอยู่ตามตัวนั่นสิ Ghost in the Shell (1995)
Which I think would interest the I.R.S., since it technically constitutes fraud.ผมว่าผมสน I.R.S. ที่เป็นกลไกเปิดโปงการฉ้อฉล American Beauty (1999)
None of your internal mechanisms will be changed.จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงกลไกภายใน Bicentennial Man (1999)
I need you to fill in the mechanical gaps.ผมจึงต้องการให้คุณเติมระบบกลไกให้ Bicentennial Man (1999)
The Hive has its own defense mechanisms... all computer-controlled.เป็นกลไกป้องกันตัวของรังผึ้งเอง ทั้งหมดถูกควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ Resident Evil (2002)
Some kind of dormant defense mechanism.มีบางอย่างนิดหน่อย กลไกป้องกันการรุกราน Resident Evil (2002)
The upshot of the whole thing was that I was supposed to lead an organization of 500000 men which would be able to take over the functions of government...บทสรุปของเรื่องทั้งหมดก็คือ ผมได้รับการจ้างวานให้จัดตั้ง องค์กรที่มีสมาชิกราว 500, 000 คน ซึ่งสามารถเข้าควบคุมกลไกของรัฐบาลได้... The Corporation (2003)
He's mastered the cable steering system.ระบบกลไกเวิร์คมากเลยนะ Around the World in 80 Days (2004)
All that stuff you said about mastering... That's-that's exactly what I say.ไอ้ระบบกลไกอะไรนั่นน่ะ ผมก็พูดแบบเนี๊ยะ Around the World in 80 Days (2004)
We simply follow the laws of physics mastered by the birds millennia ago and combine it with the Wright Brothers' ingenious cable steering system.กฎฟิสิกส์ที่นกใช้มานับพันปี ร่วมกับระบบกลไกของพี่น้องตระกูลไรท์ Around the World in 80 Days (2004)
I'll start actually taking pieces out of it. It's just a gimmick.ฉันก็จะแอบแกะเอาชิ้นส่วนออกมาจากกล่อง แค่กลไกสักชิ้น Primer (2004)
Tuesday, 1: 1 8 p.m.ข้อสำคัญคือ, เป็นกลไกที่เปลี่ยนเรือเฟอร์รี่ทั้งลำให้กลายเป็นระเบิด Deja Vu (2006)
It looks like it works around a swivel, so the centre pieces never move.กลไกมันเป็นเดือย อย่าให้ตรงกลางขยับ The Pursuit of Happyness (2006)
I just don't know if these gadgets are gonna work until I launch, you know.ผมแค่ไม่รู้ว่าถ้าเกิดกลไกเล็ก ๆ ไม่ทำงานก่อนผมปล่อยล่ะ The Astronaut Farmer (2006)
Just a talent I have for the way things work...แค่ปราดเปรื่องเกี่ยวกับกลไกต่างๆ Chapter Ten 'Six Months Ago' (2006)
The mechanism inside it.กลไกข้างใน Saw IV (2007)
My boner? Well, a lot of times, at this age, ข้างในกลไกนี้ ฉันใส่พัดลมตัวเล็ก ๆ ลงไป Harold (2008)
Everything you see here, controls the mechanics ofthe Rainbow device.ทุกอย่างที่พวกคุณเห็น ควบคุมกลไกของ อุปกรณ์สายรุ้ง 100 Million BC (2008)
Allow the Jedi their small victory, my friend for the engines of this war turn in our favor.ปล่อยให้เจไดลำพองกับชัยชนะเล็กๆ สหายข้า เพราะว่ากลไกแห่งสงครามนี้ จะเข้าข้างพวกเรา Star Wars: The Clone Wars (2008)
People aren't so hot on gimmicks-- zip it, Stewie.คนไม่ค่อยสนในกลไกแบบนั้น เงียบไปซะ สตู Back in Business (2008)
That is the mechanism of control, the lies that brought us here under false pretenses.นัั้นเป็นการควบคุมแบบกลไก สิ่งมีชีวิตที่ให้เรามาที่นี้ มันหลอกเรา Dead Space: Downfall (2008)
All this moisture is corroding my servo-motors.พวกความชื้นนี่กำลังทำลายระบบกลไกข้า Duel of the Droids (2008)
Like clockwork.อย่างกับกลไกนาฬิกา The Lazarus Project (2008)
Inside this mechanism, I have actually made a little tiny, tiny fan... and some disinfectant powder, OK, it works sort of like a deodorizer... so that anything it expunges smells like Lysol.ข้างในกลไกนี้ ฉันใส่พัดลมตัวเล็ก ๆ ลงไป แล้วก็ผงยาฆ่าเชื้อ มันก็จะทำงานเหมือนยาดับกลิ่น ซึ่งถ้ามีกลิ่นอะไร มันก็จะถูกทำกลิ่นให้เหมือนกับไลซอล Harold & Kumar Escape from Guantanamo Bay (2008)
I don't want to see the innards of the subway system.ไม่อยากจะเห็นกลไกของระบบรถไฟใต้ดินเลย New York, I Love You (2008)
-I'II disassemble the trigger mechanism. -It's got an anti-tamper system.ฉันจะลองพยายามถอดกลไกสลักดู มันมีระบบป้องกันการถอดอยู่ 24: Redemption (2008)
It's a horticultural mechanism. One of our sponsors.มันคือกลไกการปลูกพืชในเรือนกระจก Frost/Nixon (2008)
Well, our brains come equipped with a self-preservation mechanism to stop us from harmful actions.สมองของคนเรามาพร้อมกับ กลไกที่ปกป้องตัวเอง เพื่อหยุดเราจากการกระทำที่เป็นอันตราย The Happening (2008)
- "Mechanism clockwise. " - "Clockwise."กลไก ตามเข็มนาฬิกา City of Ember (2008)
The nanomites join together as a fighting mechanism, first blocking, then expelling the cobra's venom.นาโนไมต์รวมตัวกันเหมือนกับกลไกการต่อสู้ อย่างแรกสกัดกั้น แล้วขับพิษงูออก G.I. Joe: The Rise of Cobra (2009)
Trigger mechanism's working.ระบบกลไกจุดชนวนทำงานแล้ว Day 7: 5:00 a.m.-6:00 a.m. (2009)
The dispersal mechanism is set to go off while the train is stopped at Washington Center.กลไกปล่อยสารพิษ ถูกตั้งให้ทำงานแล้ว รถไฟนี้จะหยุด ที่สถานีวอชิงตัน เซนเตอร์ Day 7: 5:00 a.m.-6:00 a.m. (2009)
All manner of government vehicle are converging on subjects.กลไกทุกรูปแบบของรัฐ กำลังมุ่งหน้าเข้าหาเป้าหมาย 2012 (2009)
Engage the support mechanisms.เปิดใช้กลไกรองรับการกระแทก 2012 (2009)
Is this a genetic thing with you?มันเป็นความผิด ความผิดของกลไกเครื่องยนต์ 4 Days Out (2009)
French bassoons are tricky to use in an orchestra.บาสซูนฝรั่งเศสมันกลไกซับซ้อนแถมไม่นิยมใช้ในออร์เคสตร้านะ Nodame Cantabile: The Movie I (2009)
It's a start. Look for men who are employed as mechanics, body shops, นั่นแค่เริ่มต้น มองหาผู้ชายที่ทำงานด้านเครื่องยนต์กลไก หรือทำงานในอู่ซ่อมรถ Roadkill (2009)
Second trimester like clockwork.ไตรมาสที่สอง .. เหมือนกลไกเวลา บึ้ม ! The God-Why-Don't-You-Love-Me Blues (2009)
When left to his own devices, เมื่อถูกทิ้งให้อยู่กับกลไกจิตใจของตัวเอง Debate 109 (2009)
Human memory is sensory based.ความจำของมนุษย์ คือกลไกการรับรู้หลัก Grey Matters (2009)
I mean, it's all quantum mechanics and parallel realities with him.มันเป็นเรื่องกลไกควอนตั้มฟิสิกส์ เรื่องมิติคู่ขนาน Watchmen (2009)
We all got our coping mechanisms. I'm trying to whup him back into shape.พวกเราใช้กลไกการรับมือทั้งหมดแล้ว ฉันกำลังพยายามเคี่ยวเข็ญให้เค้ากลับมารูปร่างเหมือนเดิม X-Men Origins: Wolverine (2009)
The machine uses a principle of hydro-genetic mutation.เครื่องนี้ใช้หลักกลไก... การกลายพันธุ์โมเลกุลของน้ำ Cloudy with a Chance of Meatballs (2009)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
เครื่องกลไก[khreūangkonkai] (n) EN: machinery
กลไก[konkai] (n) EN: mechanism ; machinery ; device ; movement  FR: mécanisme [ m ]
กลไก[konkai] (n) EN: office ; organ
กลไกการตรวจสอบอิสระ[konkai kān trūatsøp itsara] (n, exp) EN: independant auditing mechanism
กลไกป้องกันตน[konkai pǿngkan ton] (n, exp) EN: defense mechanism
กลไกทางการเมือง[konkai thāng kānmeūang] (n, exp) EN: political machinery

English-Thai: Longdo Dictionary
genetically(adv) ด้วยกลไกทางพันธุกรรม เช่น scientific and consumer concerns about genetically engineered and modified foods
homoeopathy[โฮมีโอพาธี] (n) การบำบัดแบบโฮมีโอพาธีมีแนวคิดหรือปรัชญาพื้นฐานในการทำความเข้าใจร่างกายมนุษย์ที่แตกต่างจากระบบการแพทย์แผนปัจจุบันโดยสิ้นเชิง การมองร่างกายและจิตใจของ ผู้ป่วยจะไม่ได้มองเป็นอวัยวะที่แยกส่วนออกจากกัน แต่จะมองร่างกายและจิตใจของผู้ป่วยเป็นภาพรวมเดียวกัน ดังนั้นก่อนที่จะบำบัดผู้ป่วยจะต้องมีการสัมภาษณ์และคุยกับผู้ป่วยในเรื่องของลักษณะทั่วไป บุคลิกภาพ ประวัติทางการแพทย์ของครอบครัว อารมณ์ ความรู้สึกส่วนบุคคลต่อสิ่งแวดล้อม อาหาร อากาศ ฯลฯ รวมทั้งอาการของโรคด้วย นักบำบัด (practitioner) จะต้องนำคำตอบทั้งหมดมาประมวลและสรุปเป็นภาพรวมโดยเรียกว่า “ภาพของอาการ” (symtom picture)ดังนั้นการประเมินประสิทธิภาพของการบำบัดจึงไม่ควรใช้กรอบและแนวคิดของระบบการแพทย์แผนปัจจุบันประเมินแต่เพียงอย่างเดียว ควรมีการศึกษาและทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐานของการบำบัดแบบโฮมีโอพาธีด้วย โดยสรุปแล้วการบำบัดแบบโฮมีโอพาธีจัดเป็นศาสตร์การรักษาสุขภาพแบบองค์รวมที่เน้นเรื่องการปรับสมดุลสารชีวเคมีและพลังไหลเวียนภายในร่างกาย การให้ยาเป็นไปเพียงเพื่อกระตุ้นให้ร่างกายเกิดการปรับสมดุลด้วยกลไกตามธรรมชาติของร่างกายเอง ไม่ได้มุ่งหมายให้ยาไปขจัดหรือทำลายกลไกของร่างกายหรือสารที่ก่อให้เกิดอาการป่วย รวมทั้งไม่ได้มุ่งหมายที่จะขจัดสิ่งมีชีวิตใด ๆ ออกจากร่างกายด้วย
Amyotrophic Lateral Sclerosis (ALS)(n, name) โรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง เป็นโรคที่เกิดจากการเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทที่ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ พยาธิสภาพของโรคเอแอลเอสอยู่ที่บริเวณแกนสมอง และไขสันหลัง ทำให้ผู้ป่วยมีกล้ามเนื้อแขนขา และลำตัวอ่อนแรง กลืนลำบาก และพูดไม่ชัด คำว่า “Amyotrophic” หมายถึง กล้ามเนื้ออ่อนแรง ฝ่อลีบและเต้นพลิ้ว (fasciculation) ส่วนคำว่า “Lateral sclerosis” หมายถึงรอยโรคในทางเดินของกระแสประสาทซึ่งควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อในไขสันหลัง โรคเอแอลเอสพบน้อยมาก โดยพบได้เพียง 4 ถึง 6 ต่อประชากร 100, 000 คน และโอกาสที่จะพบผู้ป่วยรายใหม่มีเพียง 1.5 ถึง 2.5 ต่อประชากร 100, 000 คนต่อปี โรคนี้เป็นกับผู้ใหญ่วัยใดก็ได้ แต่จะพบบ่อยขึ้นตามอายุ อายุเฉลี่ยของผู้ป่วยโรคนี้ประมาณ 65 ปี โดยมักเป็นในเพศชายมากกว่าเพศหญิง จนถึงปัจจุบัน ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าโรคเอแอลเอสเกิดขึ้นได้อย่างไร ผู้ป่วยราวร้อยละ 5 (โดยเฉพาะผู้ป่วยอายุน้อย) อาจมีประวัติโรคนี้ในครอบครัว สิ่งแวดล้อมหรือสารพิษบางชนิด อาจมีผลกับการเกิดโรคนี้ เนื่องจากพบว่าในบางพื้นที่ของโลก เช่นที่เกาะกวม พบโรคนี้มากกว่าที่อื่น นอกจากนั้นการศึกษาทางระบาดวิทยายังพบว่า นักกีฬาบางประเภท โดยเฉพาะนักฟุตบอลอาชีพมีโอกาสเป็นโรคนี้สูงกว่าประชากรทั่วไป ปัจจุบันเชื่อว่าสาเหตุของโรคนี้อาจเกิดจาก กลไกภูมิคุ้มกันต่อตนเองผิดปกติ (Autoimmune attack) หรือเกิดจากกลไกอนุมูลอิสระ (Free radicals) ทำลายเซลล์ประสาทของตนเอง ส่วนอีกทฤษฎีหนึ่งเชื่อว่า การเสื่อมสลายของเซลล์ประสาทในสมองและไขสันหลังเกิดจากสารสื่อนำกระแสประสาท (neurotransmitter) ที่เรียกว่ากลูตาเมต (glutamate) กระตุ้นให้เกิดการทำลายเซลล์ (ข้อมูลจาก ผศ.นพ.รุ่งนิรันดร์ ประดิษฐสุวรรณ สาขาวิชาอายุรศาสตร์ปัจฉิมวัย : http://www.thonburihospital.com/th/tip_detail.asp?id=22 , http://www.inf.ku.ac.th/article/diag/520506/alsmnd.html)

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
apparatus(n) ระบบ, See also: กลไก, Syn. device
choke(n) กลไกชนิดหนึ่งที่ควบคุมเครื่องยนต์
clockwork(n) กลไกของนาฬิกา
commutator(n) กลไกในการสับเปลี่ยนกระแสไฟฟ้า
device(n) อุปกรณ์, See also: เครื่องประดิษฐ์, เครื่องใช้, กลไก, Syn. expedient, gadget, gismo
engine(n) เครื่องจักร, See also: เครื่องกล, เครื่องจักรกล, เครื่องยนต์กลไก, เครื่องยนต์, Syn. generator, machine, motor
gadget(n) อุปกรณ์ขนาดเล็ก, See also: กลไกขนาดเล็ก, Syn. engine, gismo, device
gadgetry(n) อุปกรณ์ขนาดเล็ก, See also: กลไกขนาดเล็ก
gismo(n) กลไก, See also: เครื่องกลไก, Syn. gadget, gizmo
gizmo(n) กลไก, See also: เครื่องกลไก, Syn. gadget, gismo
gunlock(n) ไกปืน, See also: กลไกที่ทำให้กระสุนปืนระเบิด, Syn. trigger
innards(n) กลไกภายในเครื่องยนต์, See also: อุปกรณ์ภายในเครื่องยนต์
locomotive(adj) ซึ่งเคลื่อนไหวด้วยกลไกหรือพลังของตัวเอง
machine(n) เครื่องจักร, See also: เครื่องยนต์, กลไก, Syn. device, engine
machine(n) คณะหรือกลุ่มที่ทำหน้าที่ควบคุมโดยตรง (โดยเฉพาะทางการเมือง), See also: องค์กรที่เป็นกลไกสำคัญ, Syn. party, gang, system
mechanism(n) ชิ้นส่วนของเครื่องจักร, See also: ส่วนประกอบของเครื่องจักร, ชิ้นส่วนของเครื่องกลไก, Syn. appliance, apparatus, gadget
mechanism(n) กลไก, See also: วิธีการทำงาน, วิธีการ, หนทาง
movement(n) ส่วนที่เคลื่อนไหวของระบบกลไก
multiengine(adj) ี่ประกอบด้วยหลากหลายกลไก
physiology(n) กลไกชีวภาพ
piezoelectricity(n) ไฟฟ้าที่เกิดจากการกดดันทางกลไกที่มีต่อผลึกที่ไม่นำไฟฟ้า
baby(sl) เครื่องยนต์กลไก
servo(n) กลไกควบคุมกลไกอื่นเช่น สัญญาณวิทยุ (คำไม่เป็นทางการ), Syn. servomechanism, servomotor
servomechanism(n) กลไกควบคุมกลไกอื่นเช่น สัญญาณวิทยุ, Syn. servo
servomotor(n) อุปกรณ์ไฟฟ้าควบคุมกลไกการทำงานของ servomechanism, Syn. servo
striker(n) เครื่องกลไกส่วนที่ยิงลูกปืนไปข้างหน้า
tone(n) เสียงที่เกิดจากเครื่องยนต์กลไก
universal coupling(n) ส่วนที่เป็นข้อต่อของเครื่องกลไก, Syn. universal joint
universal joint(n) ส่วนที่เป็นข้อต่อของเครื่องกลไก, Syn. universal coupling

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
access mechanismกลไกการเข้าถึง <คำแปล>หมายถึง กลไกของอุปกรณ์ที่ใช้รองรับ และเคลื่อนย้ายก้านเข้าถึง (access arm) ของหน่วยจานบันทึก (disk drive) ไปบนพื้นผิวของจาน เพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูล หรือดึงข้อมูลออกมา หรือบันทึกข้อมูลลงจานบันทึก
apparatus(แอพพะแรท'เทิส) n., (pl. -us, -uses) เครื่องมือ, เครื่องไม้, อุปกรณ์, สิ่งช่วย, เครื่องจักร, เครื่องยนต์กลไก, กลไกของรัฐหรือหน่วยงาน, องค์การ, หมายเหตุ, เครื่องสำเร็จ
automatic(ออโทแมท'ทิค) adj. อัตโนมัติ, เกิดขึ้นอย่างอิสระ, เป็นกลไก, ไร้จิตสำนึก. -n. เครื่องมืออัตโนมัติ. -automaticity n., Syn. involuntary, spontaneous, reflex
card feedส่วนป้อนบัตรหมายถึง กลไกของเครื่องเจาะบัตร (keypunch) ที่ทำหน้าที่เลื่อนหรือป้อนบัตรเข้าสู่ตำแหน่งที่ต้องการ เช่น เพื่อให้เจาะรูดู keypunch ประกอบ
clockworkn. เครื่องกลไกของนาฬิกา, เครื่องกลไกที่คล้ายของนาฬิกา -Phr. (like clockwork ด้วยความเที่ยงตรงสม่ำเสมอ)
device(ดิไวซฺ') n. อุปกรณ์, เครื่องประดิษฐ์, เครื่องกลไก, แผนการ, หลักในใจ, เครื่องหมาย, Syn. contrivance อุปกรณ์หมายถึง อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ เช่น จอภาพ เครื่องพิมพ์ เมาส์ หน่วยจานบันทึก หรือโมเด็ม ซึ่งสามารถรับและแสดงผลข้อมูลได้ อุปกรณ์บางชนิดต้องมีโปรแกรมช่วย โปรแกรมนี้เรียกว่า device driverดู device driver ประกอบ
disk driveหน่วยจานบันทึกหน่วยขับจานบันทึกหน่วยขับแผ่นบันทึกหมายถึง กลไกส่วนที่ใช้หมุนจานบันทึกให้ผ่านหัวอ่านหรือหัวบันทึก (read/write head) ทำให้ สามารถนำข้อมูลที่บันทึกอยู่ในจานบันทึกมาประมวลผลได้ หากต้องการจะบันทึกข้อมูลใหม่ลงไป ก็ สามารถบันทึกได้เช่นเดียวกัน
drive(ไดรฟว) { drove, driving, drives } vt. ขับ, ขับไล่, ไล่, ผลัก, ไส, ผลักดัน, ขับขี่, ต้อน (สัตว์เลี้ยง) , ลอย (ซุง) vi. แล่น, พุ่ง, ขับรถ, ตี (ลูกกอล์ฟ, ตะปู) , มุ่งหมาย n. การขับ, การขับขี่, ทางรถ, สัตว์ที่ไล่ตาม, สัตว์ (ที่ต้อน) , การรุกทางทหาร, พลังงาน, แรงกระตุ้น, กลไกในการขับ, หน่วยขับหน่วยบันทึกไดร์ฟ <คำอ่าน>อุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่มีหน้าที่อ่านและบันทึกข้อมูล เช่น หน่วยขับแถบบันทึก (tape drive) หน่วยขับจานบันทึก (disk drive)
erase headหัวลบเป็นกลไกส่วนหนึ่งในหน่วยบันทึกข้อมูล (drive) อยู่ติดกับก้านเข้าถึง (access arm) ใช้ลบข้อมูล หรือแฟ้มข้อมูลออกจากจานบันทึก ดู read/write head
gimmick(จิม'มิค) n. กลไก, กล, กลลับ, ของเล่นเล็ก ๆ น้อย ๆ , เงื่อนงำ, See also: gimmicky adj. gimmickry n.
gunlock(กัน'ลอค) n. ไกปืน, กลไก ที่ทำให้กระสุนปืนระเบิด
hardwaren. เครื่องโลหะ. , เครื่องกลไกที่ใช้ปฏิบัติการ, อาวุธ, ยุทโธปกรณ์, อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องกลไกของคอมพิวเตอร์, หมายถึง ส่วนกายภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ แบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ คือ 1. หน่วยรับข้อมูล เช่น แป้นพิมพ์ หน่วยบันทึก 2. หน่วยความจำ เช่น ชิป (chip) หรือหน่วยความจำรอง เช่น จานบันทึก 3. หน่วยแสดงผล เช่น จอภาพ เครื่องพิมพ์ ฯลฯ นอกจากนั้นยังรวมถึงอุปกรณ์ ประกอบอื่น ๆ เช่น โมเด็ม ดู software เปรียบ เทียบ
locomobile(โลคะโม'บิล) n. รถที่ขับเคลื่อนด้วยกลไกของมันเอง, รถเครื่องอัตโนมัติ. adj. ซึ่งขับเคลื่อนด้วยกลไกหรืออำนาจของมันเอง
locomotive(โลคะโม'ทิฟว) n. หัวรถจักร, หัวรถไฟ, การส่งเสียงเชียร์หมู่จากจังหวะช้าที่ค่อย ๆ เร็วขึ้น adj. ซึ่งขับเคลื่อนด้วยกลไก หรืออำนาจของมันเอง, เกี่ยวกับหัวรถจักร., See also: locomotivity n. ดูlocomotive
manhandle(แมน'แฮนเดิล) vt. ปฏิบัติต่ออย่างไม่ดี, ผลักไส, กระทำโดยแรงมนุษย์ (ไม่ได้ใช้เครื่องกลไก)
manifold(แมน'นะโฟลด์) adj. หลายชนิด, หลากหลาย, มากมาย, นานา, หลาย n. สิ่งที่มีหลายส่วนหลายลักษณะ, สิ่งจำลอง, (เครื่องกลไก) ห้องที่มีทางออกหลายทาง. vt. ถ่ายสำเนา, อัดสำเนา., See also: manifoldness n.
mechanise(เมค'คะไนซ) vt. ทำให้เป็นเครื่องกลไก, เคลื่อนด้วยเครื่องกลไก, See also: machanisation n. mechaniser n.
mechanism(เมค'คะนิสซึม) n. ระบบเครื่องกลไก, เครื่องกลไก, กลวิธาน, วิธีการ, โครงสร้าง, ลัทธิวัตถุนิยม, กระบวนการและปฏิกิริยาของแรงจิต., See also: mechanismic adj. mechanist n. mechanistic adj.

English-Thai: Nontri Dictionary
machinery(n) เครื่องจักรกล, เครื่องยนต์กลไก, เครื่องมือ, อุปกรณ์
mechanical(adj) เหมือนเครื่องจักร, ในทางกลไก, เกี่ยวกับเครื่องจักรกล
mechanics(n) กลศาสตร์, ระบบเครื่องยนต์กลไก
mechanism(n) กลไก, เครื่องจักร, ตัวจักร, กลวิธาน, วิธีการ

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
CDM[ซี ดี เอ็ม] (n) กลไกการพัฒนาที่สะอาด (Clean Development Mechanism : CDM) เป็นกลไกที่กำหนดขึ้นภายใต้พิธีสารเกียวโต เพื่อช่วยให้ประเทศอุตสาหกรรมที่มีพันธกรณีในการลดก๊าซเรือนกระจกสามารถบรรลุพันธกรณีได้ และเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศกำลังพัฒนา แนวความคิดของกลไกการพัฒนาที่สะอาดคือ โครงการที่เกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนาและสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ ผู้ดำเนินโครงการจะได้รับ Certified Emission Reduction (CERs) จากหน่วยงานที่เรียกว่า CDM Executive Board (CDM EB) และ CERs ที่ผู้ดำเนินโครงการได้รับนี้ สามารถนำไปขายให้กับประเทศอุตสาหกรรม ที่สามารถใช้ CERs ในการบรรลุถึงพันธกรณี่ตามพิธีสารเกียวโตได้
replicant(n, slang) สิ่งที่คล้ายมนุษย์, หุ่นยนต์ที่คล้ายมนุษย์ , สิ่งที่ถูกสร้างโดยกลไกทางพันธุ์กรรมให้ดูเหมือนมนุษย์ ( * w *m Power by iiiita also RYUTAZA), See also: robot, Syn. android
Special Procedures(n, org) กลไกพิเศษ

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top