ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*อภิ*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: อภิ, -อภิ-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - ไทย (TH) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
อภิเชษฐ์[อะ-พิ-เชด] (n, vt) ความซาบซึ้ง, รู้สึกซาบซึ้ง, รู้สึกขอบคุณเป้นอย่างยิ่ง, See also: S. appreciate

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
อภิบาล(v) take care of, See also: guard, protect, look after, Syn. บำรุงรักษา, ปกครอง, Example: ข้าพเจ้าได้ท่านเจ้าคุณที่บ้าน คอยอภิบาลดูแลรักษาไม่ให้ตกไปในทางเสื่อมเสีย, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
อภิบาล(v) take care of, See also: guard, protect, look after, Syn. บำรุงรักษา, ปกครอง, Example: ข้าพเจ้าได้ท่านเจ้าคุณที่บ้าน คอยอภิบาลดูแลรักษาไม่ให้ตกไปในทางเสื่อมเสีย, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
อภิธรรม(n) excellent law, See also: higher doctrine, transcendental law, metaphysics, Example: การสวดหน้าศพมีการจัดตั้งเครื่องบูชา และจัดที่สำหรับพระสวดอภิธรรมในเวลากลางคืน, Thai Definition: ชื่อธรรมะชั้นสูง มี 7 คัมภีร์ นิยมใช้สวดในงานศพ, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
อภิธรรม(n) one book of the Tripitaka, See also: philosophic aspect of the Teaching of the Buddha, Syn. พระอภิธรรมปิฎก, Example: แนวความคิดดังกล่าวนี้อยู่ในแนวคำสอนชั้นสูงของพระพุทธเจ้า ที่เรียกกันว่า อภิธรรม, Thai Definition: ชื่อปิฎกหนึ่งในพระไตรปิฎก, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
อภิปราย(v) debate, See also: discuss, contend, Example: ถ้าครูห้ามเด็กคุยในห้องเรียน เด็กก็เลยไม่ตอบคำถามไม่อภิปรายในห้องเรียน, Thai Definition: พูดชี้แจงแสดงความคิดเห็น, Notes: (สันสกฤต)
อภินิหาร(n) miracle, See also: marvel, Syn. อิทธิฤทธิ์, ปาฏิหาริย์, Example: พระพุทธรูปองค์นี้มีอภินิหารน่าอัศจรรย์เพราะเมื่อครั้งขุดพบกลับไม่ถูกยุบทำลายแม้แต่อย่างใด, Thai Definition: อำนาจแห่งบารมี, อำนาจบุญที่สร้างสมไว้, อำนาจเหนือปกติธรรมดา
อภิปรัชญา(n) metaphysics, See also: super philosophy, Example: เรื่องลิลิตพระลอเป็นเรื่องที่แฝงอภิปรัชญาไว้, Thai Definition: สาขาหนึ่งของปรัชญา ว่าด้วยความแท้จริง ซึ่งเป็นเนื้อหาสำคัญของปรัชญา
อภิสิทธิ์(n) privilege, See also: prerogative, Syn. สิทธิพิเศษ, Example: ในการค้า ทุกคนควรมีสิทธิ์เท่ากัน ไม่ควรมีใครได้อภิสิทธิ์, Thai Definition: สิทธินอกเหนือขอบเขต, สิทธิเหนือกฎหรือระเบียบที่วางไว้, สิทธิที่ได้รับนอกเหนือไปจากกฎหรือระเบียบที่วางไว้, Notes: (บาลี/สันสกฤต)
ผู้อภิปราย(n) debater, Example: การอภิปรายเรื่องภาวะเศรษฐกิจไทยมีผู้อภิปราย 5 คน, Count Unit: คน, Thai Definition: ผู้ที่พูดชี้แจงแสดงความคิดเห็น, Notes: (สันสกฤต)
สวดอภิธรรม(v) pray for funeral, Syn. สวดพระอภิธรรม, Example: ในพิธีศพ เมื่อพระให้ศีลจบแล้วก็จะเริ่มสวดอภิธรรม, Thai Definition: สวดในงานศพ โดยใช้ธรรมะชั้นสูงมี 7 คัมภีร์
อภิมหาอำนาจ(n) superpower, Example: อภิมหาอำนาจได้เข้ามามีส่วนกระทำการอย่างเลวร้ายในกิจการภายในประเทศของเรา, Thai Definition: ประเทศที่มีอำนาจทางด้านเศรษฐกิจและทางอาวุธสูงกว่าประเทศมหาอำนาจ
ผู้ร่วมอภิปราย(n) panelist, Example: การอภิปรายเกี่ยวกับการปฎิรูปการศึกษามีผู้ร่วมอภิปราย 4 ท่าน, Count Unit: คน, ท่าน, Thai Definition: ผู้เข้าร่วมพูดชี้แจงแสดงความคิดเห็น

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
การเปิดอภิปรายทั่วไปน. กลไกที่ฝ่ายนิติบัญญัติใช้ควบคุมฝ่ายบริหาร เช่น การเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี หรือฝ่ายบริหารจะรับฟังความคิดเห็นของฝ่ายนิติบัญญัติ เช่น การเปิดอภิปรายทั่วไปที่คณะรัฐมนตรีร้องขอให้มีขึ้นเพื่อรับฟังความคิดเห็นเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากสมาชิกสภา.
ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปน. มาตรการสำคัญอย่างหนึ่งของระบบรัฐสภาที่ฝ่ายนิติบัญญัติใช้ควบคุมและตรวจสอบฝ่ายบริหาร และฝ่ายบริหารใช้ประโยชน์จากฝ่ายนิติบัญญัติในการรับฟังความคิดเห็นจากฝ่ายนิติบัญญัติ.
พระอภิบาลน. ผู้ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้มีหน้าที่ดูแลพระบรมวงศ์ชั้นสมเด็จเจ้าฟ้าและพระองค์เจ้าลูกหลวง.
อภิคำประกอบหน้าศัพท์ที่มาจากภาษาบาลีและสันสกฤต มีความหมายว่า ยิ่ง, วิเศษ, เหนือ, เช่น อภิรมย์ = ยินดียิ่ง, อภิญญาณ = ความรู้วิเศษ, อภิมนุษย์ = มนุษย์ที่เหนือมนุษย์ทั้งหลาย.
อภิฆาตก. เข่นฆ่า, ทำลายล้างให้หมดสิ้น.
อภิฆาตน. การเข่นฆ่า, การทำลายล้างให้หมดสิ้น.
อภิจฉา(อะพิดฉา) น. ความทะเยอทะยาน, ความกระวนกระวาย.
อภิชฌา(อะพิดชา) น. ความโลภ, ความอยากได้.
อภิชน, อภิชน-(อะพิชน, อะพิชะนะ-) น. ชนผู้สืบมาจากตระกูลสูง.
อภิชนาธิปไตย(-ทิปะไต, -ทิบปะไต) น. ระบอบการปกครองแบบหนึ่งที่มีอภิชนเป็นใหญ่. (ป. อภิ + ชน + อธิปเตยฺย).
อภิชนาธิปไตย<i>ดู อภิชน, อภิชน-</i>.
อภิชัยน. ความชนะ
อภิชัยการปราบปราม.
อภิชาต, อภิชาต-(อะพิชาด, อะพิชาดตะ-) ว. เกิดดี, มีตระกูล.
อภิชาตบุตรน. บุตรที่มีคุณสมบัติสูงกว่าบิดามารดา, อติชาตบุตร ก็ว่า.
อภิชิตว. มีชัย, ชนะแล้ว.
อภิญญา, อภิญญาณ(อะพินยา, อะพินยาน) น. “ความรู้ยิ่ง” ในพระพุทธศาสนามี ๖ อย่าง คือ ๑. อิทธิวิธิ การแสดงฤทธิ์ได้ ๒. ทิพโสต หูทิพย์ ๓. เจโตขปริยญาณ ญาณรู้จักกำหนดใจผู้อื่น ๔. ปุพ-เพนิวาสานุสติญาณ การระลึกชาติได้ ๕. ทิพจักขุ ตาทิพย์ ๖. อาสวักขยญาณ ญาณรู้จักทำอาสวะให้สิ้นไป.
อภิณห-(อะพินหะ-) ว. เสมอ, ทุกวัน.
อภิธรรม(อะพิทำ) น. ชื่อธรรมะชั้นสูง มี ๗ คัมภีร์ ได้แก่ ๑. สังคณี ๒. วิภังค์ ๓. ธาตุกถา ๔. ปุคคลบัญญัติ ๕. กถาวัตถุ ๖. ยมก ๗. ปัฏฐาน นิยมใช้สวดในงานศพ.
อภิธรรมปิฎกน. ชื่อปิฎก ๑ ในพระไตรปิฎก, นิยมเรียกสั้น ๆ ว่า พระอภิธรรม.
อภิธานน. หนังสืออธิบายศัพท์เฉพาะเรื่อง เช่น อภิธานประวัติศาสตร์ไทย.
อภิไธยน. ชื่อ.
อภินันท-, อภินันท์น. ความยินดียิ่ง, ความดีใจยิ่ง.
อภินันทนาการน. ความยินดียิ่ง เช่น ด้วยอภินันทนาการ หมายถึง ให้ด้วยความยินดียิ่ง.
อภินัยน. การแสดงละคร, การแสดงท่าทาง.
อภินิหารน. อำนาจแห่งบารมี, อำนาจบุญที่สร้างสมไว้, อำนาจเหนือปรกติธรรมดา.
อภิเนษกรมณ์(อะพิเนดสะกฺรม) น. การออกบวชเพื่อคุณอันยิ่งใหญ่.
อภิบาลก. บำรุงรักษา, ปกครอง.
อภิปรัชญา(อะพิปฺรัดยา, อะพิปฺรัดชะยา) น. ปรัชญาสาขาหนึ่ง ว่าด้วยความแท้จริง ซึ่งเป็นเนื้อหาสำคัญของปรัชญา.
อภิปราย(อะพิปฺราย) ก. พูดชี้แจงแสดงความคิดเห็น.
อภิมหาอำนาจว. เรียกประเทศที่มีอำนาจทางด้านเศรษฐกิจและทางทหารสูงกว่าประเทศมหาอำนาจ ว่า ประเทศอภิมหาอำนาจ.
อภิมานะน. ความเย่อหยิ่ง, ความถือตัว.
อภิมุขน. หัวหน้า เช่น เสนาภิมุข = หัวหน้าทหาร.
อภิมุขว. หันหน้าตรงไป, ตรงหน้า.
อภิรดี, อภิรติ(อะพิระ-) น. ความรื่นรมย์ยินดียิ่ง (มักใช้ในเรื่องรักใคร่).
อภิรมย์ก. รื่นเริงยิ่ง, ดีใจยิ่ง, ยินดียิ่ง
อภิรมย์พักผ่อน
อภิรมย์ใช้ว่า ภิรมย์ ก็มี.
อภิรักษ์ก. รักษา, ระวัง, ป้องกัน.
อภิรัฐมนตรีน. ที่ปรึกษาชั้นสูงของพระมหากษัตริย์.
อภิรามว. น่ายินดียิ่ง, เป็นที่พอใจยิ่ง, งดงามยิ่ง.
อภิรุตน. เสียง, เสียงร้อง.
อภิรุมน. ฉัตรเครื่องสูงอย่างหนึ่ง ใช้ในกระบวนแห่ของหลวง หรือปักเป็นเครื่องประดับเกียรติยศ, โบราณเขียนเป็น อภิรม ก็มี.
อภิรูปว. รูปงาม.
อภิลักขิต, อภิลักขิต-(อะพิลักขิด, อะพิลักขิดตะ-) ว. หมายไว้, กำหนดไว้.
อภิลักขิตกาล, อภิลักขิตสมัยน. เวลาที่กำหนดไว้, วันกำหนด, (มักนิยมใช้แก่วันทำบุญคล้ายวันเกิดหรือวันทำพิธีประจำปี).
อภิเลปน์น. การลูบไล้
อภิเลปน์เครื่องลูบไล้, ของหอม.
อภิวันท์ก. กราบไหว้.
อภิวาท, อภิวาทน์น. การกราบไหว้.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
pro forma amendmentญัตติขอให้เปิดอภิปรายต่อไป [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
panel๑. คณะผู้อภิปราย๒. องค์คณะ๓. บัญชีรายชื่อ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
panel๑. คณะผู้อภิปราย๒. องค์คณะ (ผู้พิพากษาหรือลูกขุน)๓. บัญชีรายชื่อ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
power eliteอภิชนผู้ทรงอำนาจ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
recognition๑. การรับรอง (รัฐ, รัฐบาลใหม่)๒. การอนุญาตให้อภิปราย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
rostrumแท่นอภิปราย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
RCU (unit, respiratory care)อาร์ซียู (หน่วยอภิบาลการหายใจ) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
respiratory care unit (RCU)หน่วยอภิบาลการหายใจ (อาร์ซียู) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
superegoอภิอัตตา [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
super realism; hyper realismอภิสัจนิยม [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
argument๑. สังเขปเรื่อง๒. บทอภิปราย [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
Address, Debate on theการอภิปรายเกี่ยวกับพระราชดำรัส (อังกฤษ) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
appetiteอภิจฉา, ความทะยานอยาก [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
argumentum adบทอภิปรายแบบอ้าง [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
amendment, pro formaญัตติขอให้เปิดอภิปรายต่อไป [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
adjournment of the debateการเลื่อนการอภิปราย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
aristocracyอภิชนาธิปไตย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
aristocracyอภิชนาธิปไตย [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
aristocracyอภิชนาธิปไตย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
metalanguageอภิภาษา [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
metaphysical paintingจิตรกรรมแนวอภิปรัชญา [ศิลปะ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
Metaphysical poetกวีแนวอภิปรัชญา [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
metaphysicsอภิปรัชญา [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
megalopolisอภิมหานคร [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
megalopolisอภิมหานคร [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
moderatorผู้ดำเนินการอภิปราย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
moderatorผู้ดำเนินการอภิปราย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
metaethicsอภิจริยศาสตร์ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
metalanguageอภิภาษา [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
metalogicอภิตรรกศาสตร์, อภิตรรกวิทยา [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
metamathematicsอภิคณิตศาสตร์ [ปรัชญา ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]
catching the Speaker's eyeสบตาประธานสภา (เพื่อขออภิปราย) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
closureการปิดอภิปราย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
closureการปิดอภิปราย [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
coronary care unit (CCU)หน่วยอภิบาลโรคหัวใจ (ซีซียู) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
CCU (unit, coronary care)ซีซียู (หน่วยอภิบาลโรคหัวใจ) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]
debateการอภิปราย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
Debate on the Addressการอภิปรายเกี่ยวกับพระราชดำรัส (อังกฤษ) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
debate, adjournment of theการเลื่อนการอภิปราย [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
debate, generalการเปิดอภิปรายทั่วไป [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
guillotine๑. วิธีการจำกัดเวลาอภิปรายร่างกฎหมาย (ของสภาสามัญอังกฤษ)๒. เครื่องประหารชีวิต (ของฝรั่งเศส) [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
general debateการเปิดอภิปรายทั่วไป [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
general debateการเปิดอภิปรายทั่วไป [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
glossaryอภิธาน [วรรณกรรม ๖ มี.ค. ๒๕๔๕]
floor๑. สิทธิที่จะอภิปราย (ในสภา)๒. ที่อภิปราย (ในสภา) [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
filibusterการอภิปรายประวิงเวลา [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
eliteอติชน, อภิชน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
elite theorismทฤษฎีนิยมอติชน, ทฤษฎีนิยมอภิชน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
elitismอติชนนิยม, อภิชนนิยม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
intensive care unit (ICU)หน่วยอภิบาล (ไอซียู) [แพทยศาสตร์ ๖ ส.ค. ๒๕๔๔]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Metalanguageอภิภาษา [เทคโนโลยีการศึกษา]
Glossaryอภิธานศัพท์ [เทคโนโลยีการศึกษา]
Glossaryอภิธานศัพท์, Example: <p><img src="http://thaiglossary.org/sites/default/files/20110602-glossary-1.jpg" Title="Cover" alt="Cover"> <br>ภาพที่ 1 ตัวอย่างหน้าปกหนังสือซึ่งมีอภิธานศัพท์ท้ายเล่ม <p><img src="http://thaiglossary.org/sites/default/files/20110602-glossary-2.jpg" Title="Glossary" alt="Glossary"> <br>ภาพที่ 2 ตัวอย่างอภิธานท้ายเล่ม <p>คือ บัญชีคำศัพท์เฉพาะหรือศัพท์เทคนิคซึ่งนำเสนอในหนังสือส่วนเนื้อหา/เนื้อเรื่อง โดยได้รวบรวมและเรียงตามลำดับอักษร พร้อมให้ความหมาย ทั้งนี้เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจความหมายของคำศัพท์และเนื้อหาภายในหนังสือ <p>อภิธานศัพท์นอกจากจะจัดพิมพ์ในส่วนอ้างอิงและเพิ่มเติมซึ่งอยู่ท้ายเล่มหนังสือแล้ว อาจมีการจัดพิมพ์เป็นตัวเล่ม ที่มีเฉพาะอภิธานในเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยเฉพาะ <p>ตัวอย่างหนังสืออภิธานศัพท์ <p>Hopkins, Jeanne. Glossary of astronomy and astrophysics. Chicago : Univ. of Chicago Press, [ c1976 ]. <p>The ALA glossary of library and information science. Chicago : American Library Association, 1983. <p>ศานิต รัตนภุมมะ. อภิธานศัพท์ทางกีฏวิทยา. เชียงใหม่ : ภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2543. <p>จุลทัศน์ พยาฆรานนท์. อภิธานศัพท์เรือนไทยภาคกลาง. กรุงเทพฯ : คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ, [ 2537 ]. [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
Proceedingsเอกสารเสนอหรือแถลงในการประชุม รายงานสรุปผลการอภิปราย รายงานกิจการหรือธุรกิจเกี่ยวกับการประชุม, Example: <p>Proceedings คือ เอกสารหรือหนังสือที่รวบรวมบทความวิจัย บทคัดย่อ หรือเอกสารนำเสนอในการประชุมวิชาการหรือวิชาชีพ ที่จัดขึ้นทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ โดยสมาคม หน่วยงาน หรือองค์กร จัดให้มีการประชุม เพื่อเป็นการพบปะระหว่างนักวิทยาศาสตร์ นักวิชาชีพ ในสาขาวิชาเดียวกันอย่างต่อเนื่อง วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็น และความร่วมมือกัน มีการนำเสนอผลการค้นคว้าวิจัยใหม่ในที่ประชุม <p>รายงานการประชุมที่เผยแพร่เป็นรูปเล่ม (Proceedings) ดำเนินการตีพิมพ์ผลงานฉบับสมบูรณ์เผยแพร่หลังการประชุม แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ <p>1. การประชุมวิชาการระดับนานาชาติ (International Conference) <p>2. การประชุมวิชาการระดับชาติ (National Conference) [บรรณารักษ์และสารสนเทศศาสตร์]
สังเค็ดตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ระบุว่าเป็นคำนาม หมายถึง ทานวัตถุมีตู้พระธรรมโต๊ะหมู่เป็นต้น ที่เจ้าภาพจัดถวายแก่พระสงฆ์หรือภิกษุผู้เทศน์หรือชักบังสุกุลในเวลาปลงศพ เรียกว่า เครื่องสังเค็ด [ศัพท์พระราชพิธี]
สดับปกรณ์เป็นทั้งคำกริยาและคำนามว่า สดับปกรณ์ (สะ-ดับ-ปะ-กอน) เป็นคำกริยา คือ บังสุกุล (ใช้แก่ศพเจ้านาย) ส่วนคำนามหมายถึง พิธีสวดมาติกาบังสุกุลเนื่องด้วยศพ ปัจจุับันใช้เฉพาะเจ้านาย คำในภาษาบาลีเขียน สตฺตปฺปกรณ ส่วนภาษาสันสกฤตเขียน สปฺตปฺรกรณ หมายถึงพระอภิธรรม ๗ คัมภีร์ [ศัพท์พระราชพิธี]
พระพิธีธรรมพระพิธีธรรมไม่ใช่ชื่อของพิธีกรรม แต่เป็นชื่อตำแหน่งของพระสงฆ์ที่มาสวดพระอภิธรรมในพิธีหลวง [ศัพท์พระราชพิธี]
ทับเกษตรอาคารที่ปลูกริมรั้วราชวัติ โดยสร้างเป็นอาคารโถงทรงไทยทับเกษตรนี้ใช้เป็นที่สำหรับข้าราชการที่มาในพระราชพิธีพักและฟังสวดพระอภิธรรม [ศัพท์พระราชพิธี]
ซ่าง หรือ สำซ่างสถานที่สำหรับพระสงฆ์สวดพระอภิธรรมในงานถวายพระเพลิงพระบรมศพมีจำนวน ๔ หลัง อยู่ที่มุมติดกับรั้วราชวัติ ๒ หลัง และที่มุขด้านทิศเหนือและทิศใต้อย่างละ ๑ หลัง [ศัพท์พระราชพิธี]
Meta-analysisการวิเคราะห์อภิมาน [วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี]
Discussionอภิปราย [TU Subject Heading]
Glossaries, vocabularies, etc.อภิธานศัพท์ [TU Subject Heading]
Meta-analysisการวิเคราะห์อภิมาน [TU Subject Heading]
Metaphysicsอภิปรัชญา [TU Subject Heading]
Metaphysics in literatureอภิปรัชญาในวรรณกรรม [TU Subject Heading]
No confidence motionsอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล [TU Subject Heading]
Superman (Philosophical concept)อภิมนุษย์ (แง่ปรัชญา) [TU Subject Heading]
Tripitaka, Abhidharmapitakaพระอภิธรรม [TU Subject Heading]
Council for Security and Cooperation in the Asia-Pacificชมรมด้านความมั่นคงและความร่วมมือในเอเชียแปซิฟิก เป็นสถาบันเอกชนก่อตั้งขึ้นเมื่อ 8 มิถุนายน 2536 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีสถาบันศึกษาความมั่นคงและนานาชาติ (Institute of Security and International Studies : ISIS) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสถาบันก่อตั้งร่วมกับสถาบันอื่น ๆ จากประเทศอาเซียนและประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก CSCAP เป็นกลไกที่ไม่ใช่เป็นทางการ เพื่อให้นักวิชาการ เจ้าหน้าที่รัฐบาลในฐานะส่วนตัวและบุคคลอื่นได้อภิปรายปัญหาทางการเมืองและ ความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
intervention1. การเข้าแทรกแซง 2. การเข้าร่วมอภิปราย การเข้าร่วมกล่าวถ้อยแถลง (ใช้ในกรณีการประชุมพหุภาคี) [การทูต]
New World Orderระเบียบใหม่ของโลก คำนี้มีส่วนเกี่ยวพันกับอดีตประธานาธิบดียอร์ช บุช และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางใจสมัยหลังจากที่ประเทศอิรักได้ใช้กำลัง ทหารรุกรานประเทศคูเวต เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ค.ศ. 1990 กล่าวคือ ประธานาธิบดียอร์ช บุช มีความวิตกห่วงใยว่า การที่สหรัฐอเมริกาแสดงปฏิกิริยาต่อการรุกรานของอิรักนี้ ไม่ควรจะให้โลกมองไปในแง่ที่ว่า เป็นการปฏิบัติการของสหรัฐแต่ฝ่ายเดียวหากควรจะมองว่าเป็นเรื่องของหลักความ มั่นคงร่วมกัน (Collective Security ) ที่นำออกมาใช้ใหม่ในสมัยหลังสงครามเย็นในสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสภาร่วมทั้ง สองของรัฐสภาอเมริกันเมื่อวันที่ 11 กันยายน ค.ศ. 1990 ประธานาธิบดีบุชได้วางหลักการง่าย ๆ 5 ข้อ ซึ่งประกอบเป็นโครงร่างของระเบียบใหม่ของโลก ตามระเบียบใหม่ของโลกนี้ โลกจะปลอดพ้นมากขึ้นจากการขู่เข็ญหรือการก่อการร้าย ให้ใช้มาตรการที่เข้มแข็งในการแสวงความยุติธรรม ตลอดจนให้บังเกิดความมั่นคงยิ่งขึ้นในการแสวงสันติสุข ซึ่งจะเป็นยุคที่ประชาชาติทั้งหลายในโลก ไม่ว่าจะอยู่ในภาคตะวันออก ตะวันตก ภาคเหนือหรือภาคใต้ ต่างมีโอกาสเจริญรุ่งเรืองและมีชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างกลมเกลียวแม้ว่า ระเบียบใหม่ของโลก ดูจะยังไม่หลุดพ้นจากความคิดขั้นหลักการมาเป็นขั้นปฏิบัติอย่างจริงจังก็ตาม แต่นักวิจารณ์ส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า อย่างน้อยก็เป็นการส่อให้เห็นเจตนาอันแน่วแน่ที่จะกระชับความร่วมมือระหว่าง ประเทศใหญ่ ๆ ทั้งหลายให้มากยิ่งขึ้น ส่งเสริมให้องค์การระหว่างประเทศมีฐานะเข้มแข็งขึ้น และให้กฎหมายระหว่างประเทศมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น ต่อมา เหตุการณ์ที่ได้เกิดขึ้นในด้านการเมืองของโลกระหว่างปี ค.ศ. 1989 ถึง ค.ศ. 1991 ทำให้หลายคนเชื่อกันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกำลังผันไปสู่หัวเลี้ยวหัวต่อใหม่ กล่าวคือ ความล่มสลายของลัทธิคอมมิวนิสต์ในยุโรปภาคตะวันออก อวสานของสหภาพโซเวียตในฐานะประเทศอภิมหาอำนาจ การยุติของกติกาสัญญาวอร์ซอว์และสงครามเย็น การรวมเยอรมนีเข้าเป็นประเทศเดียว และการสิ้นสุดของลัทธิอะพาไทด์ในแอฟริกาใต้ (คือลัทธิกีดกันและแบ่งแยกผิว) เหล่านี้ทำให้เกิด ?ศักราชใหม่? ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังจะเห็นได้ว่า บรรดาประเทศต่าง ๆ บัดนี้ต่างพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันมากขึ้น องค์การสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคงมีศักยภาพสูงขึ้น กำลังทหารมีประโยชน์น้อยลง เสียงที่กำลังกล่าวขวัญกันหนาหูเกี่ยวกับระเบียบใหม่ของโลกในขณะนี้ คือความพยายามที่จะปฏิรูปองค์การสหประชาติใหม่ และปรับกลไกเกี่ยวกับรักษาความมั่นคงร่วมกันให้เข้มแข็งขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้สิทธิ์ยับยั้ง (Veto) ในคณะมนตรีความมั่นคง ควรจะเปลี่ยนแปลงเสียใหม่ โดยจะให้สมาชิกที่มีอำนาจใช้สิทธิ์ยับยั้งนั้นได้แก่สมาชิกในรูปกลุ่มประเทศ (Blocs of States) แทนที่จะเป็นประเทศสมาชิกถาวร 5 ประเทศเช่นในปัจจุบันอย่างไรก็ดี การสงครามอ่าวเปอร์เซียถึงจะกระทำในนามของสหประชาชาติ แต่ฝ่ายที่รับหน้าที่มากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา แม่ว่าฝ่ายที่รับภาระทางการเงินมากที่สุดในการทำสงครามจะได้แก่ซาอุดิอาระ เบียและญี่ปุ่นก็ตาม ถึงแม้ว่าคติของระเบียบใหม่ของโลกจะผันต่อไปในรูปใดก็ดี สิ่งที่แน่นอนที่สุดก็คือ โลกจะยังคงต้องอาศัยพลังอำนาจ การเป็นผู้นำ และอิทธิพลของสหรัฐอเมริกาต่อไปอยู่นั่นเอง [การทูต]
prerogativesอำนาจพิเศษ อภิสิทธิ์ [การทูต]
Superpowerอภิมหาอำนาจ [การทูต]
Biasing the Discussionความลำเอียงในการอภิปราย [การแพทย์]
Cardiac Care Unitหน่วยอภิบาลโรคหัวใจ [การแพทย์]
Case Discussionการอภิปรายเกี่ยวกับรายตัวอย่าง [การแพทย์]
Coronary Care Unitsหอผู้ป่วยหนักโรคหัวใจ, หน่วยดูแลโรคหัวใจ, หออภิบาล, หน่วยดูแลผู้ป่วยโรคหัวใจโคโรนารี่ [การแพทย์]
Discussionการอภิปราย, อภิปราย, วิจารณ์ผล, วิจารณ์ [การแพทย์]
Discussion, Lectureการใช้วิธีอภิปราย [การแพทย์]
Discussion, Panelการอภิปรายหมู่, การอภิปรายเป็นคณะ [การแพทย์]
Favorite Playingอภิบาลพวกพ้อง [การแพทย์]
Glossary Termsอภิธานศัพท์เทคนิค [การแพทย์]
Group Discussionวิธิอภิปรายกลุ่ม, [การแพทย์]
Intensive Care Unitsหน่วยดูแลผู้ป่วยหนัก, หน่วยรักษาพยาบาลผู้ป่วยหนัก, ห้องพักผู้ป่วย, ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน, ห้องไอซียู, ห้องผู้ป่วยอาการหนัก, ห้องบำบัดพิเศษ, หน่วยบำบัดพิเศษ, หออภิบาล, ห้องอภิบาลผู้ป่วย, หอผู้ป่วยหนัก, ห้องที่มีการดูแลเป็นพิเศษ, ห้องผู้ป่วยหนัก, [การแพทย์]
Intensive Care Units, Prematureหออภิบาลทารกเกิดก่อนกำหนด [การแพทย์]
Metaphysicsเมตาฟิสิกส์, อภิปรัชญา [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
That's the one privilege I claim as the host. What will you be? Alice in Wonderland, with that ribbon around your hair?เจ้าภาพก็มีอภิสิทธิ์แบบนี้ล่ะ แล้วคุณจะเป็นอะไร เป็นอลิซในแดนมหัศจรรย์มีโบว์ผูกผมดีมั้ย Rebecca (1940)
No more meetings, discussions, or Sollozzo tricks.การประชุมไม่มีการอภิปรายหรือเทคนิค Sollozzo The Godfather (1972)
Why did you swing down to this sorry, sleazy swamp?เธอมายังที่ที่ไม่น่าอภิรมย์แบบนี้ทำไม The Little Prince (1974)
There's nothing miraculous about good sleight of hand.ไม่เอาน่า ไม่มีอภินิหารใดๆ หรอกคุณ Oh, God! (1977)
- Why, heavens, no. We seek a full meal and all the compliments of the house.พวกเราค้นหาอาหารและอภินันทนาการทั้งหมดของบ้าน The Blues Brothers (1980)
This discussion isn't over yet!การอภิปรายนี้ยังไม่จบ! Akira (1988)
The law says you...กฎบอกกับเจ้าว่า... ...ต้องอภิเษกกับเจ้าชาย Aladdin (1992)
You idiot. You goddamn idiot!ไอ้งั่งเอ๊ย ไอ้อภิมหางั่งเอ๊ย! The Lawnmower Man (1992)
Do you want to continue this theological discussion in a car... or in a jailhouse with the cops?คุณต้องการที่จะดำเนินการต่อไปนี้การอภิปรายเทววิทยาในรถ ... หรือในเรือนจำกับตำรวจได้หรือไม่ Pulp Fiction (1994)
And if you would be so kind... as to conceal the unhappy truth as long as possible.และถ้าคุณจะเมตตา... ช่วยปกปิดความจริง ที่ไม่น่าอภิรมย์นี้ให้นานเท่าที่จะนานได้ Episode #1.5 (1995)
Months of debate finally reached a conclusion last week as 10 candidates were selected by the I.M.C representing a cross section of political and religious views.ในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ เดือนของการอภิปรายถึงที่สุด สรุปสัปดาห์ที่ผ่านมาถึง 10 Contact (1997)
Compliments of Mr. Caledon Hockley.อภินันทนาการจากคุณเคลด้อน ฮ็อคลี่ย์ Titanic (1997)
I named her Icarus after you, my renegade pupil.ฉันตั้งชื่อมันว่า ไอคารัส ตามเธอไง อภิชาตศิษย์ของฉัน Pi (1998)
We're a band called Blood Pollution a Steel Dragon tribute band, the best in Pittsburgh.พวกเรามีชื่อวงว่า "บลัด โพลูชั่น" ..อภินันทนาการแด่วง "สตีล ดราก้อน" ดีที่สุดในพิตต์เบิร์ก Rock Star (2001)
There has been a fierce discussion between ruling party members... following the Prime Minister's off-color remarks... at a reception yesterday.มีการอภิปรายอย่างดุเดือด ระหว่างสมาชิก... ติดตามนายกรัฐมนตรี กล่าววิพากษ์วิจารณ์... ถึงการต้อนรับเมื่อวานนี้. Visitor Q (2001)
If you are a billionaire would it be okay just to be a half a billionaire?ถ้าคุณเป็นอภิมหาเศรษฐี จะเป็นไรไหมถ้ามีเงินแค่ครึ่งเดียวที่มีอยู่? The Corporation (2003)
Try to at least pretend that you're interested in your daughter's wedding ball.ลองแกล้งทำว่าอย่างน้อย คุณก็สนใจ ในพิธิอภิเษก ของลูกสาวเราหน่อยสิ Shrek 2 (2004)
No, I'm an extremely powerful fire demon named Calcifer!ไม่ใช่ ข้าคืออภิมหาอำนาจราชาแห่งไฟผู้เกรียงไกร นามว่า คัลซิเฟอร์! Howl's Moving Castle (2004)
"The Fantastic Four. ""4 อภินิหาร. " Fantastic Four (2005)
I appreciate you.เค้าอภิเชษฐ์ตัวนะ The Longest Yard (2005)
- A policy is not up to debate!- นโยบายไม่ใช่เรื่องต้องอภิปราย Æon Flux (2005)
I'm debating it.ผมกำลังอภิปรายมัน Æon Flux (2005)
First scout's privilege. I got a few ideas. You know I'll come up with something good.ให้อภิสิทธิ์แก่ลูกเสือคนแรกหน่อย ข้าเพิ่งได้ไอเดีย เอ็งรู้ไหม กลับขึ้นมาแล้วข้าจะเอาอะไรดีๆมาฝากให้ล่ะ The Cave (2005)
Before you send Ju-Mong to Chang'an, why don't you put on a ceremony of marriage for Ju-Mong and Yesoya?ก่อนที่องค์ชายจะส่งจูมงไปฉางอัน ทำไมท่านจึงไม่จัดงานอภิเษกให้กับองค์ชายจูมงและเยโซหยาก่อน Episode #1.41 (2006)
If Prince Ju-Mong gets married, ถ้าองค์ชายจูมงทรงอภิเษก Episode #1.41 (2006)
And, the guest list for your wedding will include all the neighboring countries' leaders and the chiefs of the various clans.และ แขกที่จะมาร่วมในงานอภิเษกของเจ้าจะมีทั้ง ผู้นำของประเทศเพื่อนบ้านทั้งหมด และหัวหน้าชนเผ่าต่างๆ Episode #1.42 (2006)
And then the whole wedding ceremony will end here.และพิธีการอภิเษกสมรสทั้งหมดจะเสร็จสิ้น Episode #1.3 (2006)
Be the best couple. Carry on the ways of our Ancestors.จงเป็นคู่อภิเษกสมรสที่ดีที่สุด สืบทอดทุกวีถีทางของบรรพบุรุษของเรา Episode #1.3 (2006)
Right now at the Eun-young palace the ceremony is taking place.ที่พระราชวัง Eun-young ในขณะนี้ กำลังมีพิธีอภิเษก Episode #1.3 (2006)
Yes, she was very anxious about the wedding.ใช่ค่ะ พระองค์ทรงกังวลใจเรื่องพิธีอภิเษกเป็นอย่างมาก Episode #1.3 (2006)
Your parents wedding is as if it just happened yesterday.พิธีอภิเษกของท่านพ่อท่านแม่ของคุณก็เหมือนกันเพียงแต่เกิดขึ้นก่อน Episode #1.3 (2006)
No, we're not looking for an advantage. We just want her to compete.ไม่ เราไม่ต้องการอภิสิทธิ์อะไร พวกเราแค่ต้องการให้เธอเข้าประกวด Little Miss Sunshine (2006)
Big Razor Sis!ซือเจ๊อภิมหามีดโกน! Dasepo Naughty Girls (2006)
Yes, Big Razor Sis.ใช่! ต้องเรียก ซือเจ้อภิมหามีดโกนนะฮ้า่ Dasepo Naughty Girls (2006)
By the way, Big Razor Sis, are you a transgender?เดี๋ยวนะคะ ซือเจ๊อภิมหามีดโกน คุณแปลงเพศหรือยังคะ? Dasepo Naughty Girls (2006)
Girl, I said call me Big Razor Sis.นี่หล่อน! ฉันให้หล่อนเรียกฉันว่า ซือเจ๊อภิมหามีดโกน Dasepo Naughty Girls (2006)
Big Razor Sis and I were dragged to this god-forsaken place, and were forced to dance all night to arouse erotic energy.*ซือเจ้อภิมหามีดโกนและฉันถูกจับตัวมา *ที่สถานที่.. ที่พระเจ้าี้ถูกทอดทิ้ง *และถูกบังคับเพื่อเต้นทั้งคืน เพื่อปลุกพลังขับทางเพศของพวกเขา* Dasepo Naughty Girls (2006)
Big Razor Sis, long time no see!ซือเจ๊อภิมหามีดโกน ไม่เจอกันนานเลยนะคะ Dasepo Naughty Girls (2006)
What is unusual is that I had the privilege to be shown it as a young man.ส่วนสิ่งที่ไม่ปกติก็คือส่วนที่ผมมีอภิสิทธิ์ที่ได้บอกเล่ามัน แทนคนหนุ่มสาว An Inconvenient Truth (2006)
THAT'S PRETTY CLASSY, S.ช่างน่าอภิรมย์มากเลย เอส. Pilot (2007)
It's exactly what he said-- the money, the drugs, the privileges.ที่เขาพูดหน่ะถูกต้องเลย ทั้งเรื่องเงิน ยา อภิสิทธิ์ต่างๆ Bad News Blair (2007)
This discussion has nothing to do with race.การอภิปรายต้องไม่เกี่ยวกับชาติพันธุ์สิ Appleseed Ex Machina (2007)
Miss Myers, this is Dr. Loomis. I took the liberty of calling him in.คุณไมเออร์ นี่หมอลูมิส ผมถืออภิสิทธิ์เชิญเขาเข้ามา Halloween (2007)
This is so wonderful for you.นี่เป็นเหมือนอภินิหารสำหรับคุณ Spider-Man 3 (2007)
You can call it Sam's happy time or...ก็อาจจะใช้คำว่า "ช่วงอภิรมย์ของแซม" Transformers (2007)
Compliments from Mr. Chang.อภินันทนาการ จาก มิสเตอร์ชางค่ะ War (2007)
Keep a visual eye on 72nd both the Declaration of Independence and the U.S. Constitution were debated and signed here.ถูกเก็บรักษาไว้ที่ชั้น 72 ทั้งแถลงการณ์เสรีภาพและ การก่อตั้งประเทศ ถูกอภิปรายและลงนามกัน ณ ที่แห่งนี้ Shooter (2007)
What you have to remember is, God gave us free will.สิ่งที่เธอต้องจำ คือ พระเจ้าให้อภิสิทธิ์กับเรา Sunday (2008)
Momma, he's so white.จะให้ปลุกมาอภิปรายมั้ย Sparks Fly Out (2008)
It is the reddest! It is the reddest of all hues!แดงที่สุด สุดยอดอภิมหาแดง Chuck Versus the Sensei (2008)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
อภิ-[aphi-] (x) FR: sur-; sus-; super-; hyper-
อภิบาล[aphibān] (v) EN: protect ; guard ; take care of ; look after  FR: protéger ; défendre ; prendre soin
อภินันทนาการ[aphinanthanākān] (n) EN: compliments  FR: compliments [ mpl ][
อภิปราย[aphiprāi] (n) EN: discussion  FR: débat [ m ] ; discussion [ f ]
อภิปราย[aphiprāi] (v) EN: debate ; discuss ; contend ; discuss ; talk over ; argue  FR: débattre ; discuter ; délibérer
อภิปรายทั่วไป[aphiprāi thūapai] (n, exp) EN: general debate  FR: débat général [ m ]
อภิปรัชญา[aphipratyā = aphipratchayā] (n) EN: metaphysics   FR: métaphysique [ f ]
อภิรักษ์ โกษะโยธิน[Aphirak Kōsayōthin] (n, prop) EN: Apirak Kosayodhin  FR: Apirak Kosayodhin
อภิเษก[aphisēk] (n) EN: lustration ; water-pouring ceremony ; abhiseka  FR: onction sainte [ f ] ; lustration [ f ]
อภิเษก[aphisēk] (n) EN: coronation ; royal wedding
อภิเษกสมรส[aphisēksomrot] (n, exp) EN: royal wedding ; wedding ceremony
อภิสิทธิ์[aphisit] (n) EN: privilege ; prerogative  FR: privilège [ m ] ; prérogative [ f ]
อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ[Aphisit Wētchāchīwa] (n, prop) EN: Abhisit Vejjajiva  FR: Abhisit Vejjajiva
อภิไธย[aphithai] (n) EN: name ; nomenclature
อภิธานศัพท์[aphithānsap] (n) EN: glossary  FR: glossaire [ m ]
การอภิปราย[kān aphiprāi] (n) EN: discussion  FR: discussion [ f ] ; débat [ m ]
การอภิปรายเจาะลึก[kān aphiprāi jǿ leuk] (n, exp) EN: in-depth discussion  FR: discussion approfondie [ f ]
การอภิปรายคู่ขนาน[kān aphiprāi khūkhanān] (n, exp) EN: parallel discussion  FR: discussions parallèles [ fpl ]
การอภิปรายไม่ไว้วางใจ[kān aphiprāi mai waiwāngjai] (n, exp) EN: debate of no-confidence ; censure debate
การอภิปรายผู้ชำนาญพิเศษ[kān aphiprāi phūchamnān phisēt] (n, exp) EN: panel discussion
การอภิปรายสาธารณะ[kān aphiprāi sāthārana] (n, exp) EN: forum  FR: débat public [ m ] ; forum [ m ]
การชุมนุมอภิปราย[kān chumnum aphiprāi] (n, exp) EN: symposium
การเลื่อนการอภิปราย[kān leūoen kān aphiprāi] (n, exp) EN: adjournment of the debate
คณะอภิปราย[khana aphiprāi] (n, exp) EN: colloquium
กลุ่มอภิปราย[klum aphiprāi] (n, exp) EN: discussion group  FR: groupe de discussion [ m ]
ผู้ร่วมอภิปราย[phū ruam aphiprāi] (n, exp) EN: panelist
ปิดอภิปราย[pit aphiprāi] (v, exp) EN: close a debate  FR: clore un débat ; terminer un débat
รายการอภิปราย[rāikān aphiprāi] (n, exp) EN: item for discussion  FR: sujet de discussion [ m ]

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
argue(vt) ให้เหตุผล, See also: อ้างเหตุผล, อภิปราย
argue against(phrv) ถกเถียงเพื่อต่อต้าน, See also: อภิปรายแย้ง, อภิปรายต่อต้าน
argue for(phrv) ถกเถียงเรื่อง, See also: อภิปรายเรื่อง
bat around(phrv) พิจารณาอย่างถี่ถ้วน (คำไม่เป็นทางการ), See also: อภิปรายอย่างละเอียด
cause(n) หัวเรื่องของการอภิปราย, Syn. subject of discussion
debate about(phrv) อภิปรายในเรื่อง, See also: พุดคุยในเรื่องอย่างเป็นทางการ, Syn. debate on
debate on(phrv) อภิปรายในเรื่อง, See also: พุดคุยในเรื่อง...อย่างเป็นทางการ, Syn. debate about
debate upon(phrv) อภิปรายในเรื่อง, See also: พุดคุยในเรื่อง...อย่างเป็นทางการ, Syn. debate about
debate with(phrv) อภิปรายกับ, Syn. debate about
discourse on(phrv) กล่าวสุนทรพจน์เรื่อง, See also: อภิปรายเรื่อง, ปราศรัยเรื่อง
discourse upon(phrv) กล่าวสุนทรพจน์เรื่อง, See also: อภิปรายเรื่อง, ปราศรัยเรื่อง
discuss with(phrv) อภิปรายกับ
debate(n) การโต้วาที, See also: การอภิปราย, การโต้แย้ง, การถกเถียง, Syn. argument, contention, controversy, discussion, dispute, disputation
debate(vt) โต้แย้ง, See also: ถกเถียง, โต้เถียง, อภิปราย, ขัดแย้ง, Syn. argue, discuss, dispute
debate(vi) โต้แย้ง, See also: ถกเถียง, โต้เถียง, อภิปราย, ขัดแย้ง, Syn. argue, discuss, dispute
debater(n) ผู้อภิปราย, See also: ผู้โต้แย้ง, Syn. arguer, talker
deliberative(adj) เกี่ยวกับการอภิปราย (ทางการเมือง), See also: เป็นผลของการอภิปราย
dialog(n) การอภิปราย, See also: การสนทนา
dialog(vi) สนทนา, See also: อภิปราย
dialogue(n) การสนทนา (คำทางการ), See also: การอภิปราย, Syn. dialog
dialogue(vi) สนทนา, See also: อภิปราย
dictionary(n) พจนานุกรม, See also: ปทานุกรม, นามานุกรม, ประมวลคำศัพท์, อภิธานคำศัพท์, Syn. glossary, wordbook, vocabulary
discuss(vt) สนทนา, See also: แลกเปลี่ยนความเห็น, ปรึกษาหารือ, อภิปราย, ถกเถียง, ถกปัญหา, Syn. consult, analyze, criticize, confabulate
discussion(n) การสนทนา, See also: การปรึกษาหารือ, การอภิปราย, การประชุม, การแลกเปลี่ยนความเห็น, การอภิปราย, Syn. consulation, argument, conference, seminar
elite(adj) ซึ่งจำกัดไว้ให้เฉพาะคนรวยหรือคนที่มีอภิสิทธิ์
elitism(n) การปกครองโดยกลุ่มคนที่ร่ำรวยและมีอภิสิทธิเหนือคนอื่น
forensic(adj) เกี่ยวกับการโต้แย้งถกเถียง, See also: เกี่ยวกับการเกี่ยวกับการอภิปราย
forum(n) ที่สำหรับอภิปราย, See also: ที่แสดงความคิดเห็น
giveaway(n) ของอภินันทนาการ, See also: ของแถม, ของแจก, Syn. free gift
glossary(n) อภิธานศัพท์, See also: ปทานุกรม, พจนานุกรม, Syn. dictionary, lexicon
interlocutory(adj) ซึ่งมีลักษณะของการสนทนา, See also: ซึ่งมีลักษณะของการอภิปราย
metaphysical(adj) เกี่ยวกับอภิปรัชญา, Syn. mystical, spiritual, transcendental
metaphysically(adv) ทางอภิปรัชญา
metaphysics(n) อภิปรัชญา, Syn. epistemology, ontology, cosmology
miracle(n) เรื่องมหัศจรรย์, See also: สิ่งประหลาด, เหตุอัศจรรย์, ปาฏิหาริย์, อภินิหาร, Syn. marvel, revelation, supernatural, occurrence
moot(vt) เสนอความคิดหรือหัวข้อเพื่อการอภิปราย (มักใช้รูป passive voice), Syn. broach, raise, propose, Ant. repress, conceal
moot(n) การอภิปราย, See also: การโต้แย้ง, การโต้เถียง, Syn. debate, argument, discussion
motion(n) ญัตติ, See also: เรื่อง, ข้อเสนอเพื่อการอภิปรายในที่ประชุม, Syn. offer, submission
Order Paper(n) รายการหัวข้อที่อภิปรายในรัฐสภาแต่ละวัน
panel(n) คณะผู้อภิปรายทางการเมือง, Syn. committee, group
panelist(n) ผู้ร่วมอภิปราย, See also: สมาชิกในกลุ่มผู้อภิปราย, Syn. discussant, participants
pleasantness(n) ความรื่นรมย์, See also: ความสบาย, ความอภิรมย์
pleased(adj) พอใจ, See also: ยินดี, อภิรมย์, มีความสุข, Syn. happy
pleasedly(adv) อย่างพอใจ, See also: อย่างยินดี, อย่างอภิรมย์, อย่างมีความสุข, Syn. happily
pleasurableness(n) ความสำราญ, See also: ความอภิรมย์
politicise(vt) อภิปรายเรื่องการเมือง
politicize(vt) อภิปรายเรื่องการเมือง
prerogative(n) สิทธิพิเศษ, See also: อภิสิทธิ์, Syn. privilege, advantage
privilege(n) ข้อได้เปรียบ, See also: สิทธิ, สิทธิพิเศษ, อภิสิทธิ์, อำนาจพิเศษ, เอกสิทธิ์, Syn. due, perquisite, right
proposition(n) ญัตติ, See also: หัวข้อที่นำมาอภิปราย, Syn. statement, theorem

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
amuse(อะมิวซ) vt. ทำให้เพลิดเพลิน, ทำให้ขบขัน, ให้ความอภิรมย์แก่, ทำให้ ขบขัน
amusement(อะมิวซ' เมินทฺ) n. สิ่งให้ความอภิรมย์, ความขบขัน, ความอภิรมย์, เครื่องหย่อนใจ , นันทนาการ, กิจกรรมที่เป็นสันทนาการ, มหรสพ
argue(อาร์'กิว) vt., vi. ถกเถียง, เถียง, โต้คารม, อ้างเหตุผล, อภิปราย, พูดให้ยอม, โต้แย้งพิสูจน์ว่า, แสดงให้เห็นว่า-arguer n., Syn. debate
argumentation(อาร์กิวเมนเท'เชิน) n. ขบวนการโต้เถียงการให้เหตุผล, การอภิปราย, การถกเถียง, บทความเชิงอภิปราย, ข้อพิสูจน์, ข้อสรุป, ข้ออนุมาน, Syn. discussion
bull sessionn. การอภิปรายกลุ่ม
canvass(แคน'เวิส) { canvassed, canvassing, canvasses } vt., vi., n. (การ) ตรวจสอบอย่างละเอียด, หาเสียง, ออกเที่ยวชักชวน, อภิปรายอย่างละเอียด, วิจารณ์อย่างรุนแรง, See also: canvasser n. ดู canvass, Syn. examine, survey
cloture(โคล'เชอะ) { clotured, cloturing, clotures } n. วิธีการปิดการอภิปรายและให้มีการลงคะแนนเสียงทันที vt., vi. ปิดการอภิปราย
colloquium(คะโล'เควียม) n. การประชุม หรือปรึกษาหารืออย่าง ๆ ไม่เป็นทางการ, การอภิปรายกลุ่ม
confabulate(คันแฟบ'บิวเลท) vi. คุยกันเล่น, สนทนา, อภิปราย, See also: confabulator n.
confabulation(คันแฟบบิวเล'เชิน) n. การคุยกันเล่น, การสนทนา, การอภิปราย., See also: confabulatory adj., Syn. conversation
controvert(คอน'ทระเวิร์ท) vt. โต้เถียง, คัดค้าน, อภิปราย., See also: controverter n. ดูcontrovert controvertible adj. ดูcontrovert, Syn. oppose, deny
debate(ดิเบท') { debated, debating, debates } vt., n. (การ) ถกเถียง, อภิปราย, พิจารณา, ชิงชัย, ต่อสู้, Syn. argue
discourse(ดิส'คอร์ส) v., n. (การ) สนทนา, บรรยาย อภิปราย., See also: discourser n. ดูdiscourse, Syn. confer
discuss(ดิสคัส') { discussed, discussing, discusses } vt. อภิปราย, โต้ตอบ, สาธยาย., See also: discusser n. ดูdiscuss, Syn. debate, argue
discussant(ดิสคัส'เซินทฺ) n. ผู้อภิปราย, ผู้ร่วมการอภิปราย
discussion(ดิสคัส'เชิน) n. การอภิปราย, การโต้แย้งหาเหตุผล
disputant(ดิสพิว'เทินทฺ) n.ผู้โต้เถียง, ผู้โต้แย้ง, ผู้อภิปราย. -adj. ซึ่งโต้เถียง, ซึ่งโต้แย้ง
disputationn. การโต้เถียง, การอภิปราย, การทะเลาะ, Syn. dispute
donate(โด'เนท) vt. บริจาค, มอบให้, ให้, อภินันทนาการ. vi. มอบของขวัญให้, บริจาค, อภินันทนาการ. n., Syn. give
flak(แฟลคฺ) n. การยิงปืนต่อสู้อากาศยาน, การวิจารณ์ที่รบกวน, การต่อต้านที่รบกวน, การโต้เถียงอย่างเผ็ดร้อน, การอภิปรายอย่างเผ็ดร้อน., Syn. flack
floor(ฟลอร์) n. พื้น, พื้นห้อง, กัน (ทะเล, ถ้ำ, น้ำ) , ชั้นอาคาร, ชั้นต่ำสุด, ชั้นพื้นฐาน vt. ปูพื้น, ทำให้ล้มลง, ทำให้สับสน, ทำให้งง. -Phr. (take the floor อภิปราย), Syn. level, stage
forum(ฟอ'รัม) n. สภา, ที่ประชุมสำหรับการอภิปราย, ศาล, ศาลกลางเมือง, วิธีการอภิปรายปัญหา, -Phr. (the Forum ตลาดหรือสนามกว้างของเมืองโบราณสมัยโบราณ), Syn. assembly, meeing -pl. forums, fora
genie(จีนี) ย่อมาจาก General Electric Network for Information Exchange เป็นบริการตามสายซึ่งจัดไว้สำหรับการคัดลอกโปรแกรม การเล่นเกม การอภิปรายปัญหาแบบรายการสัมนาโต๊ะกลมไว้ให้ แต่ไม่ฟรี จีนีมีขนาดหรือมีสมรรถนะต่ำกว่า Compuserve แต่ก็มีค่าบริการถูกกว่า ดู Compuserve, internet และ network ประกอบ
mana(มา'นา) n. อำนาจหรือแรงอาถรรพ์, อภินิหาร
miraculous(มิแรค'คิวลัส) adj. อัศจรรย์, ปาฏิหาริย์, อภินิหาร, อาเพศ., See also: miraculously adv. miraculousness n., Syn. prodigious
moot(มูท) adj. น่าสงสัย, ไม่จริง, เป็นสมมุติฐาน vt. ถกเถียง n. ศาลากลาง, การถกเถียง, การอภิปราย, Syn. debatable, academic
myth(มิธ) n. เรื่องอภินิหารที่เป็นนิยายหรือตำนานที่เล่าต่อ ๆ กันมา, Syn. story, legend, folk, tale
palatine(แพล'ทะไทน์) adj. เกี่ยวกับเพดานปาก, ใกล้ที่หรือในเพดานปาก, เกี่ยวกับอภิสิทธิ์แห่งราชสำนัก
panelist(แพน'นะลิสท) n. สมาชิกของกลุ่มผู้อภิปราย
panell discussionn. การอภิปรายหมู่ต่อหน้าชุมชน ในรายการโทรทัศน์ หรือวิทย
pas(พา) n., ก้าว, จังหวะในการเต้นรำ, การเต้นรำ, อภิสิทธิ์
prerogative(พรีรอก'กะทิฟว) n. สิทธิพิเศษ, อภิสิทธิ์, บุริมสิทธ adj. มีสิทธิดังกล่าว, Syn. privilege
privilege(พริฟ'วิลิจฺ) n. สิทธิพิเศษ, อภิสิทธิ์, เอกสิทธิ์, ประโยชน์พิเศษ, ข้อได้เปรียบ. vt. ให้สิทธิพิเศษแก่, ให้อภิสิทธิ์แก่, See also: privileger n.
privileged(พริฟ'วิลลิจดฺ) adj. มีอภิสิทธิ์, มีสิทธิพิเศษ, ไม่อยู่ภายใต้การบังคับของกฎเกณฑ์ทั่ว ๆ ไป, Syn. advantaged
question(เควส'เชิน) n. คำถาม, ประโยคคำถาม, ปัญหา, การถาม, การสอบถาม, กระทู้, เรื่องที่อภิปราย -v. ถาม, สอบถาม, See also: questioner n. questionable adj. questionably adv. -Phr. beyond all question ไม่ต้องสงสัย -Phr. out of the question เป็นไปไม่ได้
seminar(เซม'มะนาร์) n. กลุ่มสัมมนา, สัมมนา, การประชุมสัมมนา, วิชาประเภทสัมมนา, การประชุมแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและอภิปราย
sergeant at lawn. ทนายความชั้นสูงสุด (อังกฤษ) มีอภิสิทธิ์หลายอย่างในศาล
supernatural(ซูเพอแนช'เชอเริล) adj. เหนือธรรมชาติ, อภินิหาร, ศักดิ์สิทธิ์, ประหลาด, มหัศจรรย์, เกินปกติ, คาดไม่ถึง, เกี่ยวกับภูติผีปีศาจ, เทพยดานางฟ้า. n. สิ่งที่เหนือธรรมชาติ, การกระทำของเทพเจ้า, See also: supernaturalism n.
superpower(ซู'เพอเพา'เออะ) n. มหาอำนาจ, อภิมหาอำนาจ (ที่มีอิทธิพลทางการเมืองเหนือประเทศอื่น)
theme(ธีม) n. หัวข้อการอภิปราย, หัวข้อในการสนทนา, หัวข้อหนังสือ, เรื่องของหนังสือ, ใจความ, สาระสำคัญ, แก่นสาร, หัวข้อความเรียง, แกนคำศัพท์, แนวบทเพลง., Syn. topic, subject
thesaurus(ธีซอ'รัส) n. พจนานุกรมคำพ้อง (synonyms) และคำที่มีความหมายตรงกันข้าม (antonyms) , พจนานุกรม, ปทานุกรม, อภิธาน, อภิธานชุดวรรณคดี, สารานุกรม, ขุมทรัพย์, ดัชนีข้อมูลของคอมพิวเตอร์
tribune(ทริบ'บิวน์) n. ผู้พิทักษ์สิทธิของประชาชน, เจ้าหน้าที่คุ้มครองประชาชน, เวทีแสดงสุนทรพจน์, เวทีอภิปราย, ยกพื้นสำหรับการแสดงสุนทรพจน์, See also: tribuneship n.
ventilate(เวน'ทะเลท) vt. ระบายลม, ระบายอากาศ, ทำให้มีอากาศเข้าได้, เปิดเผย, เปิดให้ตรวจสอบ, เปิดอภิปราย, แสดงออก, แสดงข้อคิดเห็น., See also: ventilable adj. ventilative adj.
weird(เวียร์ด) adj. ประหลาด, อาเพท, อัศจรรย์, อภินิหาร, See also: weirdly adv. weirdness n., Syn. uncanny, eerie, wild, Ant. normal, natural

English-Thai: Nontri Dictionary
amusement(n) ความเพลิดเพลิน, ความอภิรมย์, สันทนาการ, ความขบขัน
controvert(vi, vt) แย้งกัน, โต้เถียง, คัดค้าน, อภิปราย
debate(n) การถกเถียง, การอภิปราย, การโต้แย้ง, การโต้วาที
debate(vt) ถกเถียง, โต้แย้ง, ต่อต้าน, ชิงชัย, โต้วาที, อภิปราย
debater(n) ผู้ถกเถียง, ผู้อภิปราย, ผู้โต้วาที
dictionary(n) พจนานุกรม, ปทานุกรม, หนังสือรวมคำศัพท์, อภิธานศัพท์
discourse(n) การสนทนา, การบรรยาย, การอภิปราย, การพูด, ปาฐกถา
discourse(vi) สนทนา, บรรยาย, อภิปราย, พูด, ปาฐกถา
discuss(vt) อภิปราย, สาธยาย, พิจารณา, โต้เถียง, โต้ตอบ, สนทนา
discussion(n) การอภิปราย, การพิจารณา, การสนทนา, การโต้เถียง, การโต้ตอบ
disputation(n) การโต้เถียง, การโต้แย้ง, การถกปัญหา, การอภิปราย
dispute(vt) โต้เถียง, แย้ง, ค้าน, ทะเลาะ, ต่อต้าน, อภิปราย
donate(vt) อภินันทนาการ, บริจาค, ให้, มอบให้
glossary(n) อภิธานศัพท์
miracle(n) ปาฏิหาริย์, ความมหัศจรรย์, อภินิหาร, อาเพศ
miraculous(adj) มหัศจรรย์, อัศจรรย์, แปลก, เหลือเชื่อ, อภินิหาร, ปาฏิหาริย์
myth(n) นิยายโบราณ, เทพนิยาย, เรื่องอภินิหาร, ตำนาน
prerogative(n) สิทธิพิเศษ, อภิสิทธิ์, บุริมสิทธิ์
privilege(n) อภิสิทธิ์, สิทธิพิเศษ, เอกสิทธิ์, ข้อได้เปรียบ
supernatural(adj) มหัศจรรย์, เหนือธรรมชาติ, อภินิหาร
tribune(n) ผู้พิทักษ์ประชากร, เวทีอภิปราย
tribute(n) เครื่องบรรณาการ, อภินันทนาการ, ของขวัญ

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
apilak[อภิลักษณ์] (n) [ อภิลักษณ์ ] คำนามของไทยคำหนึ่ง มักใช้ตั้งชื่อบุคคล มีความหมายคือ ผู้ซึ่งมี ลักษณะใหญ่โตมโหฬาร Name of person(Thai people) mean "Big Character"
hit the road(slang) หนีหัวซุกหัวซุน เช่น นายกอภิสิทธิ์ ตอกกลับนายใจล์เรื่องการหนีคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพในการสัมมนา ที่ oxford ประเทศอังกฤษว่า : If you are not hit the road , why do you stand here ?
lifeguard[คำอ่าน :: ชีบ-พะ-บาน] (n) lifeguard [ 1 ] - (N) - ชีพบาล คำอ่าน :: ชีบ-พะ-บาน คำหมาย :: ผู้ประกอบวิชาชีพดูแลความปลอดภัยทางน้ำ ให้แก่ผู้ทำกิจกรรมนันทนาการทางน้ำ เช่น สระว่ายน้ำ , สวนน้ำ, ชายหาด, ชายทะเล ที่ผ่านการฝึกอบรมอย่างเข็มข้น ทั้งทักษะการว่ายน้ำ ปฐมพยาบาล การกู้ชีพ กู้ภัยทางน้ำ รวมทั้งการใช้อุปกรณ์หลากหลายที่เกี่ยวข้องการทำงาน บางพื้นที่ในต่างประเทศ ยังต้องทำงานเกี่ยวข้องกับการงานฉุกเฉิน เช่น การกู้ภัยบนภูเขา การนำส่งผู้ประสพภัยฉุกเฉิน จากภัยพิบัติต่างๆ อ้างอิง :: life = ชีวิต, ชีพ guard = ยาม, ผู้ดูแล ในที่นี้ ขอใช้คำว่า บาล ซึ่งหมายถึงผู้ดูแล เช่น รัฐบาล, คชบาล, โคบาล, ทวารบาล, พยาบาล, อภิบาล, อนุบาล lifeguard [ 2 ] - (N) – ทหารรักษาพระองค์ (ทหารมหาดเล็ก) ในกองทัพ สหราชอาณาจักร (ประเทศอังกฤษ), See also: Lifesaving, Lifesaver

Japanese-Thai: Longdo Dictionary
内閣不信任案[ないかくふしんにんあん, naikakufushinnin'an] (n) ญัตติเพื่อเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรัฐมนตรี

Japanese-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
議論[ぎろん, giron] (n) การอภิปราย การโต้แย้ง การถกเถียง
言論[げんろん, genron] (n) [ N ] การสนทนา, See also: การปรึกษาหารือ, การอภิปราย, การประชุม, การแลกเปลี่ยนความเห็น, การอภิปราย, Syn. consulation, argument, conference, seminar
言論[げんろん, genron] (n) [ N ] การสนทนา, See also: การปรึกษาหารือ, การอภิปราย, การประชุม, การแลกเปลี่ยนความเห็น, การอภิปราย, Syn. consulation, argument, conference, seminar
疑問[ぎもん, gimon] (n) (เควส'เชิน) n. คำถาม, ประโยคคำถาม, ปัญหา, การถาม, การสอบถาม, กระทู้, เรื่องที่อภิปราย -v. ถาม, สอบถาม, S. . questioner n. questionable adj. questionably adv. -Phr. (beyond (all) question ไม่ต้องสงสัย) -Phr. (out of the question เป็นไปไม่ได้)
俱舎論[くしゃろん, kusharon] (n) พระอภิธรรม, See also: S. アビダルマ

German-Thai: Longdo Dictionary
Aufmerksamkeit(n) |die, pl. Aufmerksamkeiten| ความสนใจ, ความเอาใจใส่ เช่น Vielen Dank für Ihre Aufmerksamkeit! ขอบคุณมากสำหรับความสนใจของคุณ หรือ ขอบคุณมากที่คุณตั้งใจฟัง (มักใช้หลังจากผู้พูดจบการอภิปราย)
sich versprechen(vt) |versprach sich, hat sich versprochen| พูดผิด เช่น Der Redner war sehr nervös und hat sich dauernd versprochen. ผู้พูดอภิปรายตื่นเต้นเกินไป และพูดผิดตลอดเวลา
königliche Hochzeit(n) |die, pl. königliche Hochzeiten| อภิเษกสมรส
Auseinandersetzung(n) |die, pl. Auseinandersetzungen, über eine Sache| การอภิปรายถกเถียง, การโต้แย้ง, การเถียงกัน, See also: Streit, Syn. Diskussion

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top