ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*ต่อกัน*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: ต่อกัน, -ต่อกัน-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
ต่อกัน(adv) each other, See also: mutually, reciprocally, one another, Syn. กัน, ซึ่งกันและกัน, กันและกัน, Example: ความสัมพันธ์ของเราที่ยืดยาวเพราะเราดีต่อกันเสมอมา
ติดต่อกัน(adv) consecutively, See also: continually, Syn. ต่อเนื่อง, Example: เขารู้สึกเมื่อยล้าเพราะขับรถติดต่อกันมาหลายชั่วโมงแล้ว, Thai Definition: อย่างต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆ ไม่ขาดสาย, ไม่ขาดตอน

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
ถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกันว. ต่างฝ่ายต่างปฏิบัติดีต่อกันในเรื่องเดียวกันหรือในทำนองเดียวกัน.
เลิกแล้วต่อกันก. ยุติการทะเลาะวิวาทบาดหมางกัน.
กรรมวิธี(กำมะวิที) น. ลักษณะอาการหรือวิธีการที่ผันแปรหรือเปลี่ยนแปลงไปตามธรรมชาติหรือที่มนุษย์ทำขึ้น อันดำเนินติดต่อกันเรื่อยไปเป็นลำดับ, กระบวนวิธีดำเนินการในประดิษฐกรรม.
กระดูกสันหลังน. กระดูกที่อยู่ในแนวกึ่งกลางทางด้านหลังของลำตัว เป็นแกนของร่างกาย มีลักษณะเป็นข้อ ๆ ต่อกันเป็นแนวตั้งแต่บริเวณคอต่อจนถึงบริเวณด้านหลังของทวารหนัก ทำหน้าที่ป้องกันอันตรายให้แก่ไขสันหลัง, โดยปริยายหมายถึงส่วนที่สำคัญ, ส่วนที่เป็นพลังคํ้าจุน, เช่น ชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของชาติ.
กระแสจิตน. กระแสความนึกคิดหรือกระบวนความนึกคิดที่เกิดดับต่อเนื่องกันไป, เรียกอาการที่ส่งความนึกคิดติดต่อกันระหว่างจิตของคนหนึ่งกับอีกคนหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างกันโดยไม่ต้องอาศัยประสาทสัมผัสทั้ง ๕ อย่างใดอย่างหนึ่ง ว่า การส่งกระแสจิต.
กลเม็ด ๒(กนละ-) น. ชื่อเทียนชนิดหนึ่ง ซึ่งตามประเพณีเดิมจุดตั้งแต่วันเกิดมาและเลี้ยงไฟต่อกันไว้จนถึงวันตาย เมื่อถึงวันเผาก็ใช้ไฟนั้นเผา เรียกว่า เทียนกลเม็ด, เทียนจุดคู่ชีพเวลาจะสิ้นใจ.
กันและกันส. คำใช้แทนชื่อในลักษณะที่มีการกระทำร่วมกันหรือต่อกันโดยมีบุรพบทประกอบหน้า เช่น รักซึ่งกันและกัน เพื่อประโยชน์ของกันและกัน.
กัน ๒ว. คำประกอบท้ายกริยาของผู้กระทำตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป แสดงการกระทำร่วมกัน อย่างเดียวกัน หรือต่อกัน เช่น คิดกัน หารือกัน.
กาบเดียว, กาบเดี่ยวน. ชื่อเรียกหอยชั้น Gastropoda เปลือกหุ้มตัวต่อกันเป็นชิ้นเดียว โดยม้วนเป็นวงซ้อนกัน และมีช่องให้หอยยื่นตีนออกมาจากเปลือกได้ เช่น หอยสังข์ หอยโข่ง หอยขม.
กามโรคน. โรคซึ่งติดต่อกันได้โดยการประกอบกามกิจหรือติดต่อกันโดยใช้สิ่งของร่วมกับคนเป็นกามโรคเป็นต้น, เรียกเป็นสามัญว่า โรคบุรุษ หรือ โรคผู้หญิง.
การจัดสรรที่ดินน. การจำหน่ายที่ดินที่ได้แบ่งเป็นแปลงย่อยรวมกันตั้งแต่สิบแปลงขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งจากที่ดินแปลงเดียวหรือแบ่งจากที่ดินหลายแปลงที่มีพื้นที่ติดต่อกัน โดยได้รับทรัพย์สินหรือประโยชน์เป็นค่าตอบแทน และให้หมายความรวมถึงการดำเนินการดังกล่าวที่ได้มีการแบ่งที่ดินเป็นแปลงย่อยไว้ไม่ถึงสิบแปลงและต่อมาได้แบ่งที่ดินแปลงเดิมเพิ่มเติมภายในสามปี เมื่อรวมกันแล้วมีจำนวนตั้งแต่สิบแปลงขึ้นไปด้วย.
กำด้นน. ท้ายทอย, ส่วนที่คอกับศีรษะต่อกัน, เช่น เหมือนกดคอยอกำด้นลูกสาวศรี (มณีพิชัย).
กินตัวริบสิ่งที่นำมาพนันขันต่อกันจากผู้แพ้.
กุแลน. ชื่อปลาทะเลหลายชนิดในสกุล <i> Sardinella</i> และ <i> Herklotsichthys</i> วงศ์ Clupeidae ลำตัวยาว แบนข้างมาก สันท้องบางคล้ายคมมีด เกล็ดบางหลุดง่าย เกล็ดในแนวสันท้องเป็นเหลี่ยมคมเรียงต่อกันคล้ายฟันเลื่อย ปากเล็กเชิดขึ้นเล็กน้อย ฟันเล็กมาก ซี่เหงือกมีจำนวนมาก ไม่มีก้านครีบแข็งหรือเงี่ยง ลำตัวสีเงิน เฉพาะด้านหลังสีนํ้าเงินเข้ม บนลำตัวที่ใกล้มุมแผ่นปิดเหงือกมักมีแต้มสีดำคลํ้า ๑ จุด ครีบหลังและครีบหางสีดำคลํ้าอมเหลือง ขนาดยาวได้ถึง ๑๘ เซนติเมตร, อกรา หรือ อกแล ก็เรียก, ส่วน กุแลกลม หรือ กุแลกล้วย หมายถึงชนิดในสกุล <i> Dussumieria</i> ซึ่งอยู่ในวงศ์เดียวกัน ลักษณะทั่วไปคล้ายกัน เว้นแต่มีลำตัวแบนข้างเล็กน้อย หัวแหลม ท้องกลม ไม่มีเกล็ดที่เรียงกันเป็นฟันเลื่อย ซี่เหงือกมีจำนวนน้อยและสั้น ขนาดยาวได้ถึง ๒๒ เซนติเมตร, อกรากล้วย หรือ อกแลกล้วย ก็เรียก
เกี่ยวเนื่องก. เกี่ยวพันติดต่อกัน เช่น โครงการนี้เกี่ยวเนื่องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
ขออโหสิก. ขอให้เลิกแล้วต่อกัน, ขอให้ยกโทษให้.
ข้อน. ส่วนที่อยู่ระหว่างปล้องของไม้ไผ่หรืออ้อยเป็นต้น, ส่วนตรงที่ของ ๒ สิ่งมาต่อกัน เช่น ข้อต่อท่อประปา
ขะแมร์กอฮอมน. ชื่อเพลงไทยสำเนียงเขมร อัตรา ๓ ชั้น หน้าทับปรบไก่ แต่งขยายจากเพลงเขมรแดง อัตรา ๒ ชั้น นิยมบรรเลงต่อกันเป็นเพลงชุด เรียกว่า สามขะแมร์ ซึ่งประกอบด้วย เพลงขะแมร์กอฮอม เพลงขะแมร์ซอ และเพลงขะแมร์ธม.
ขะแมร์ซอน. ชื่อเพลงไทยสำเนียงเขมร อัตรา ๓ ชั้น หน้าทับปรบไก่ แต่งขยายจากเพลงเขมรขาว อัตรา ๒ ชั้น นิยมบรรเลงต่อกันเป็นเพลงชุด เรียกว่า สามขะแมร์ ซึ่งประกอบด้วย เพลงขะแมร์กอฮอม เพลงขะแมร์ซอ และเพลงขะแมร์ธม.
ขะแมร์ธมน. ชื่อเพลงไทยสำเนียงเขมร อัตรา ๓ ชั้น หน้าทับปรบไก่ แต่งขยายจากเพลงเขมรใหญ่ อัตรา ๒ ชั้น นิยมบรรเลงต่อกันเป็นเพลงชุด เรียกว่า สามขะแมร์ ซึ่งประกอบด้วย เพลงขะแมร์กอฮอม เพลงขะแมร์ซอ และเพลงขะแมร์ธม.
ขาดตอนก. ขาดระยะกัน, ไม่ติดต่อกัน.
เข้าแถวก. ยืนเรียงต่อกันเป็นแนว เช่น เข้าแถวหน้ากระดาน เข้าแถวตอนเรียงหนึ่ง.
เขื่อนเพชรน. ตึกแถวมีผนังหลังตันหันออกมาข้างนอกในพระราชฐานเฉพาะตรงที่แบ่งข้างหน้ากับข้างในต่อกัน.
ครอบครองปรปักษ์ก. ครอบครองทรัพย์สินของผู้อื่นไว้โดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ถ้าเป็นอสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา ๑๐ ปี ถ้าเป็นสังหาริมทรัพย์ได้ครอบครองติดต่อกันเป็นเวลา ๕ ปี บุคคลนั้นได้กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินนั้น.
คู่อาฆาตน. ผู้ที่มีเรื่องบาดหมางกันรุนแรงและผูกพยาบาทต่อกัน.
โคก ๒น. ชื่อปลาทะเลทุกชนิดในสกุล <i> Anodontostoma</i> และ <i> Nematalosa</i> วงศ์ Clupeidae หัวเล็ก ปากเล็ก ลำตัวสั้น แบนข้าง ท้องเป็นสันแหลม เกล็ดที่สันท้องเป็นเหลี่ยมคมเรียงต่อกันคล้ายฟันเลื่อย พื้นลำตัวสีเงิน ขนาดยาวได้ถึง ๒๐ เซนติเมตร อยู่รวมกันเป็นฝูงเล็ก ๆ ตามชายฝั่งที่มีพื้นท้องทะเลเป็นโคลน, ตะเพียนนํ้าเค็ม ก็เรียก.
งัว ๔น. ชื่อปลาทะเลหลายชนิดหลายสกุล เช่น ในสกุล <i> Triacanthus</i> วงศ์ Triacanthidae, ในสกุล <i> Monacanthus</i> วงศ์ Monacanthidae, ในสกุล <i> Balistes</i> วงศ์ Balistidae, ในสกุล <i> Anacanthus</i> วงศ์ Anacanthidae มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ โดยเฉลี่ยยาว ๓๐ เซนติเมตร บางชนิดยาวได้ถึง ๗๕ เซนติเมตร ผิวหนังหยาบเหนียวหรือเป็นแผ่นกระดูกหนาเรียงติดต่อกัน ฟันเป็นแผ่น ใช้แทะเล็มหาอาหารตามแนวปะการังและพื้นท้องทะเล ก้านครีบหลังก้านแรกและครีบท้องเป็นแท่งกระดูกใหญ่คล้ายเขาสัตว์, บางชนิดมีชื่อเรียกว่า วัว หรือ กวาง.
งา ๔น. ชื่อปลานํ้ากร่อยหรือทะเลขนาดเล็กชนิด <i> Thryssa setirostris</i> (Broussonet) ในวงศ์ Engraulidae กระดูกขากรรไกรบนโค้งยื่นยาวเป็นเส้นจดครีบท้องหรือครีบก้น ลำตัวยาว แบนข้าง ปากกว้าง เกล็ดที่สันท้องเป็นเหลี่ยมคมเรียงต่อกันคล้ายฟันเลื่อย พื้นลำตัวสีเงินอมเหลืองส้ม ขนาดยาวได้ถึง ๑๕ เซนติเมตร.
จงกลนี(-กนละนี) น. บัว, บัวดอกคล้ายบัวขม มีเกสรซ้อนหลายชั้น แตกก้านต่อดอกแล้วมีดอกต่อกัน ๓ ดอกบ้าง ๔ ดอกบ้าง. (ทมิฬ เจ็ง ว่า แดง กาฬนีร ว่า บัว หมายความว่า บัวแดง).
จบ ๓ก. ต่อกัน, พบกัน, เช่น จับปลายเชือก ๒ เส้นมาจบกัน.
จารีต(-รีด) น. ประเพณีที่ถือสืบต่อกันมานาน.
จำนำก. ประจำ, เรียกผู้ซื้อขายหรือติดต่อกันเป็นประจำว่า เจ้าจำนำ.
จิ้มฟันจระเข้น. ชื่อปลาทะเลและนํ้าจืดทุกชนิดในวงศ์ Syngnathidae ปากยื่นเป็นท่อ ลำตัวยาวเรียวมาก หน้าตัดเป็นเหลี่ยม ผิวหนังเป็นแผ่นแข็งเรียงต่อกันเป็นเหลี่ยมเป็นข้อ ครีบต่าง ๆ มีขนาดเล็ก ครีบท้องไม่มี ตัวผู้ทำหน้าที่ฟักไข่โดยเก็บไข่ไว้บริเวณหน้าท้อง ลำตัวมักมีสีนํ้าตาล อาจมีลายสีเข้มพาดขวาง ที่พบในนํ้าจืดได้แก่ ชนิด <i> Doryichthys boaja</i> (Bleeker) ส่วนในทะเลได้แก่ชนิดในสกุลต่าง ๆ เช่น <i> Doryrhamphus, </i> <i> Corythoichthys, </i> <i> Trachyramphus</i> มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่.
เจ้ากรรมน. ผู้เคยมีกรรมมีเวรต่อกันมาแต่ชาติก่อน, เจ้ากรรมนายเวร ก็ว่า.
เจ้ากรรมนายเวรน. ผู้เคยมีกรรมมีเวรต่อกันมาแต่ชาติก่อน, เจ้ากรรม ก็ว่า.
เจ้าจำนำน. ผู้ซื้อขายหรือติดต่อกันเป็นประจำ.
แจ้ว, แจ้ว ๆว. มีเสียงแจ่มใส เช่น ไก่ขันแจ้ว, มีเสียงดังติดต่อกันไปเป็นระยะ ๆ เช่น พูดแจ้ว ๆ.
ชุมสายโทรศัพท์น. ศูนย์กลางคู่สายโทรศัพท์ และเป็นที่ที่สายโทรศัพท์หมายเลขต่าง ๆ เชื่อมติดต่อกัน.
เชื้อแถวน. เชื้อสายวงศ์ตระกูลที่สืบเนื่องต่อกันมา, ว่านเครือ เช่น เขาเป็นคนมีเชื้อแถวเก่าแก่.
โซ่ลานน. โซ่เหล็กกว้างประมาณ ๔ มิลลิเมตร หนา ๐.๕ มิลลิเมตร ไม่ยืดหรือหดในทุกอุณหภูมิ มี ๒ ขนาด คือ ยาว ๔๐ เมตร และ ๕๐ เมตร ทั้ง ๒ ขนาด แบ่งออกเป็น ๑๐๐ ข้อต่อกัน ใช้วัดที่ดิน.
ดอกรักน. ชื่อลวดลายชนิดหนึ่ง คล้ายดอกรักเรียงต่อกัน.
ตกทอดก. สืบต่อกันมาเป็นทอด ๆ, สืบต่อจากผู้หนึ่งไปยังอีกผู้หนึ่ง, เช่น มรดกตกทอด
ต่อ ๒ก. เพิ่มให้ยาวหรือขยายออกไป เช่น ต่อเชือก เอาตู้รถไฟมาต่อกัน ต่อชานบ้าน, เพิ่มให้ยืดออกไป เช่น ต่อเวลาออกไป ต่อหนังสือสัญญา
ต่อ ๒เชื่อมติดกันหรือประสานกัน เช่น ต่อเหล็ก ๒ ท่อนให้ติดกัน กระดูกต่อกันสนิท
ต่อแต้มน. เครื่องเล่นการพนันอย่างหนึ่ง ตัวทำเป็นรูปไม้สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ ๒ ตอน มีแต้มตั้งแต่ ๑ ถึง ๖ ใช้ด้านที่แต้มเท่ากันมาต่อกัน ตัวของใครหมดก่อนเป็นผู้ชนะ
ต่อ ๔ถัดไป, สืบไป, ติดต่อกันไป, เช่น ต่อนี้ไป ต่อไป อ่านต่อ วิ่งต่อ, เพิ่มขึ้น เช่น เรียนต่อ.
ตะลุมพุก ๒น. ชื่อปลาทะเลขนาดกลางชนิด <i> Tenualosa toli</i> (Valenciennes) ในวงศ์ Clupeidae ที่ว่ายเข้านํ้าจืดเพื่อสืบพันธุ์ ลำตัวยาวรี แบนข้างมาก ครีบหางเป็นแฉกลึก ท้องเป็นสันแหลม เกล็ดใหญ่ ขอบเรียบ เกล็ดที่สันท้องเป็นเหลี่ยมคม เรียงต่อกันคล้ายฟันเลื่อย พื้นลำตัวสีเงิน หลังสีนํ้าเงินอมเทา ขนาดยาวได้ถึง ๕๐ เซนติเมตร, กระลุมพุก หรือ ชิขัก ก็เรียก.
ตัดต่อก. ตัดฟิล์มภาพยนตร์ เทปบันทึกภาพ เป็นต้น ที่ไม่ติดต่อกัน แล้วนำมาต่อกันเพื่อให้เป็นไปตามที่ต้องการ.
ตับเพลงน. ชุดเพลงที่นำมารวมบรรเลงและขับร้องติดต่อกันโดยเสียงต่อเนื่อง ระหว่างเพลงมักมีระดับเสียงกลมกลืนกัน มีทั้งอัตราเดียวกันและอัตราผสม ตับหนึ่งบรรเลงประมาณ ๓-๑๐ เพลง เช่น ตับลาวเจริญศรี.
ตับเรื่องน. เพลงที่นำมารวมบรรเลงและขับร้องติดต่อกันโดยที่บทร้องเป็นเรื่องเดียวกันและดำเนินไปโดยลำดับ มีทั้งอัตราเดียวกันและอัตราผสม เช่น ตับนางลอย ตับนาคบาศ.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
articulate๑. ไถ(ฟัน)๒. ออกเสียงชัด๓. เรียงฟันปลอม๔. ต่อกัน [ทันตแพทยศาสตร์๑๓ มี.ค. ๒๕๔๕]
adjoining ownersบรรดาเจ้าของที่ดินที่ติดต่อกัน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
adjoining propertyทรัพย์สินที่อยู่ติดต่อกัน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
conjugal rightsสิทธิที่คู่สมรสมีต่อกัน [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
concatenateต่อกัน [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
concatenateต่อกัน [คณิตศาสตร์๑๙ ก.ค. ๒๕๔๗]
knock-for-knock agreementข้อตกลงไม่เรียกร้องต่อกัน [ประกันภัย ๒ มี.ค. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
พระเมรุมาศพระเมรุขนาดสูงใหญ่ ลักษณะเป็น กุฎาคาร คือ เรือนยอด หมายถึงเรือนซึ่งทำหลังคาต่อกันเป็นยอดแหลม [ศัพท์พระราชพิธี]
Knowledge brokerนายหน้าความรู้, นายหน้าความรู้ ทำหน้าที่เชื่อมโยงคน เพื่อสร้างความสัมพันธ์ต่อกัน อันจะก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิด ประสบการณ์อย่างแคล่วคล่องมากขึ้น ซึ่งความรู้ได้นี้จะเป็นความรู้ในคนหรือความรู้ฝังลึก (Tacit knowledge) เป็นหลัก [การจัดการความรู้]
Dose limitขีดจำกัดปริมาณรังสี, ค่ากำหนดสูงสุดของปริมาณรังสียังผลหรือปริมาณรังสีสมมูลที่บุคคลอาจได้รับจากการดำเนินกิจกรรมทางรังสี ซึ่งคณะกรรมาธิการระหว่างประเทศด้านการป้องกันรังสี (International Commission on Radiation Protection, ICRP) ได้กำหนดขีดจำกัดปริมาณรังสีไว้ดังนี้ 1. ผู้ปฏิบัติงาน -ปริมาณรังสียังผลเฉลี่ยไม่เกิน 20 มิลลิซีเวิร์ตต่อปีในระยะเวลา 5 ปีติดต่อกัน โดยในปีใดปีหนึ่งต้องได้รับปริมาณรังสียังผลไม่เกิน 50 มิลลิซีเวิร์ตต่อปี -ปริมาณรังสีสมมูลที่เลนส์ตา ไม่เกิน 150 มิลลิซีเวิร์ตต่อปี -ปริมาณรังสีสมมูลที่มือและเท้า หรือที่ผิวหนัง ไม่เกิน 500 มิลลิซีเวิร์ตต่อปี 2. บุคคลทั่วไป ปริมาณรังสียังผลไม่เกิน 1 มิลลิซีเวิร์ตต่อปี โดยไม่รวมปริมาณรังสีจากธรรมชาติและปริมาณรังสีจากการรักษาพยาบาลทางการแพทย์ ทั้งนี้ในทางปฏิบัติต้องจำกัดให้ได้รับรังสีน้อยที่สุด (ดู sievert ประกอบ) [นิวเคลียร์]
Electromagnetic radiationรังสีแม่เหล็กไฟฟ้า, คลื่นไฟฟ้าและคลื่นแม่เหล็กที่ประสาน และมีอันตรกิริยาต่อกัน เช่น คลื่นแสง คลื่นวิทยุ รังสีแกมมา และรังสีเอกซ์ รังสีเหล่านี้เคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่ากับความเร็วแสง และสามารถผ่านสุญญากาศได้ [นิวเคลียร์]
Internetอินเทอร์เน็ต, เครือข่ายของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เครือข่ายที่มีแม่ข่ายคอมพิวเตอร์ทั่วโลกมาเชื่อมต่อกันเป็นจำนวนมาก คำๆ นี้มักจะเขียนผิดเป็น "อินเตอร์เน็ต" หรือ "อินเตอร์เน็ท" [คอมพิวเตอร์]
CAD/CAMคอมพิวเตอร์ช่วยในงานออกแบบและคอมพิวเตอร์ช่วยในงานผลิต, คอมพิวเตอร์ช่วยในงานออกแบบและคอมพิวเตอร์ช่วยในงานผลิต (ระบบแคด/แคม) เมื่อสองระบบมาต่อกัน ทำให้เกิดการส่งข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ที่มีแบบของสินค้ามายังคอมพิวเตอร์ที่ต่อกับอุปกรณ์การผลิต สามารถทำให้สร้างผลิตภัณฑ์รูปทรงใหม่ได้รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำมาก [Assistive Technology]
Correspondenceการติดต่อกันทางจดหมาย [TU Subject Heading]
Coalescing Fanเนินตะกอนน้ำพารูปพัดติดต่อกัน, Example: เนินตะกอนน้ำพารูปพัดหลาย ๆ เนินที่อยู่ติดต่อกัน [สิ่งแวดล้อม]
ASEAN Vision 2020วิสัยทัศน์อาเซียน พ.ศ. 2563 เป็นเอกสารซึ่งที่ประชุมสุดยอดอาเซียนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2540 ได้ให้ความเห็นชอบ เพื่อแสดงถึงความมุ่งมั่นและพันธกรณีของอาเซียนที่จะนำประชาชนในภูมิภาคนี้ ไปสู่ (1) การเป็นภูมิภาคที่มีสันติภาพและเสถียรภาพ (2) ความเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งด้วยการรวมตัวทางเศรษฐกิจ อย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น (3) การเป็นสังคมที่เปิดกว้าง มีความเป็นปึกแผ่นและเอื้ออาทรต่อกัน และ (4) การกระชับความสัมพันธ์กับคู่เจรจาและโลกภายนอก บนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วนที่เท่าเทียมกันและมีความเคารพซึ่งกันและกัน [การทูต]
Break of Diplomatic Relationsการตัดความสัมพันธ์ทางการทูต เมื่อสองรัฐตัดความสัมพันธ์ทางการทูตซึ่งกันและกัน เพราะมีการไม่ลงรอยกันอย่างรุนแรง หรือเพราะเกิดสงคราม จึงไม่มีหนทางติดต่อกันได้โดยตรง ดังนั้น แต่ละรัฐมักจะขอให้มิตรประเทศที่เป็นกลางแห่งใดแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ยอมรับของรัฐอีกฝ่ายหนึ่ง ช่วยทำหน้าที่พิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในอีกรัฐหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ช่วยดูแลคนชาติของรัฐนั้น ตัวอย่างเช่น ในตอนที่สหรัฐอเมริกากับคิวบาได้ตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกดัน สหรัฐอเมริกาได้ขอให้คณะผู้แทนทางการทูตของสวิส ณ กรุงฮาวานา ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ในประเทศคิวบา ในขณะเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตเช็คโกสโลวาเกียในกรุงวอชิงตัน ก็ได้รับการขอจากประเทศคิวบา ให้ช่วยพิทักษ์ดูแลผลประโยชน์ของตนในสหรัฐอเมริกาถึงสังเกตว่า การตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์ทางกงสุลจะต้องตัดขาดไปด้วย มาตรา 45 ของอนุสัญญากรุงเวียนนาได้บัญญัติว่า ?ถ้าความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองรัฐขาดลง หรือถ้าคณะผู้แทนถูกเรียกกลับเป็นการถาวรหรือชั่วคราวก. แม้ในกรณีการขัดแย้งกันด้วยอาวุธ รัฐผู้รับจะต้องเคารพและคุ้มครองสถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทนด้วยข. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการพิทักษ์สถานที่ของคณะผู้แทน รวมทั้งทรัพย์สินและบรรณสารของคณะผู้แทน ให้แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับแก่รัฐผู้รับก็ได้ค. รัฐผู้ส่งอาจมอบหมายการอารักขาผลประโยชน์ของคนและคนชาติของตน แก่รัฐที่สามซึ่งเป็นที่ยอมรับได้แก่รัฐผู้รับก็ได้ [การทูต]
Cultural Diplomacyการทูตวัฒนธรรม หมายถึง กิจกรรมด้านวัฒนธรรมในกรอบกว้าง ทั้งภาษา ความคิด อุดมการณ์ ทัศนคติ ประเพณี วิทยาการความรู้ การกีฬาและวิถีชีวิต (ไม่เพียงแต่การส่งคณะนาฏศิลป์ไปแสดงในต่างประเทศเท่านั้น) ทั้งนี้ เพื่อ ใช้สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องมือสร้างความรู้สึกที่ดีต่อกัน โดยใช้แนวทางปฏิบัติอย่างต่อเนื่องในลักษณะซึมลึกเพื่อให้เข้าถึงประชาชน [การทูต]
Diplomatic Expressionsถ้อยคำสำนวนที่ใช้ในวงการทูต กล่าวคือ ในวงการทูตจะมีการนิยมใช้ถ้อยคำสำนวนการทูต ถือกันว่าเป็นภาษาที่สุภาพ ซึ่งจะมีความหมายลึกซื้งเพียงใดนั้น บรรดาเจ้าหน้าที่ทางการทูตจะทราบกันดี อาทิเช่น?My Government views with concern หรือ with grave concern? จะแสดงถึงท่าทีที่ไม่เห็นด้วย หรือแสดงการประท้วง?My Government cannot remain indifferent to the matter? จะส่อถึงเจตนาที่จะดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปส่วนถ้อยคำสำนวนที่ว่า ?In such event my Government would feel bound to reconsider its position หรือ to consider its own interest??My Government will have to claim a free hand? หรือ ?feel obliged to formulate express reservations regarding?เหล่านี้เป็นถ้อยคำสำนวนที่เตือนให้ทราบว่า อาจเกิดการแตกร้าว หรือตัดขาดในพันธไมตรีที่มีต่อกันได้เมื่อรัฐบาลหนึ่งประกาศถือว่าการกระทำ ของอีกรัฐบาลหนึ่งเป็น ?an unfriendly act? หรือการกระทำที่ไม่เป็นมิตรเช่นนี้ ย่อมหมายถึงการเตือนให้ทราบว่า การกระทำเช่นนั้นอาจนำไปสู่สงครามได้ถ้าหากในตอนเสร็จสิ้นการประชุมกันมีการ แถลงการณ์หรือโฆษกของที่ประชุมแจ้งให้ทราบว่า ที่ประชุมได้ทำความตกลงกันโดยสมบูรณ์ (Full agreement) แต่ไม่มีการเปิดเผยให้ทราบว่ามีการตกลงอะไรกันบ้าง จะทำให้เป็นที่สงสัยกันว่าได้มีการตกลงกันโดยสมบูรณ์จริงละหรือ ถ้าหากคำประกาศนั้นใช้ถ้อยคำว่า มี ?substantial agreement? ก็พอจะอนุมานได้ว่าแท้ที่จริงยังมีเรื่องสำคัญ ๆ ที่ยังตกลงกันไม่ได้อีกบางเรื่อง อนึ่ง หากว่ามีการแถลงว่า ?there was a full exchange of views? ก็เท่ากับพูดว่า มิได้มีการตกลงกันแต่อย่างใดทั้งสิ้น [การทูต]
Exemption from Customs Duties and Inspection of Diplomatic Mission?s Articlesการยกเว้นจากอากรศุลกากร และการตรวจสิ่งของเครื่องใช้ของคณะผู้แทนทางการทูต การยกเว้นดังกล่าวนี้ไม่ถือว่าเป็นสิทธิ แต่เป็นเรื่องของการแสดงอัธยาศัยไมตรีระหว่งประเทศที่ให้ต่อกันมากกว่า กฎหมายระหว่างประเทศก็มิได้กำหนดพันธะที่จะต้องให้การยกเว้นจากอากรศุลกากร อย่างไรก็ดี รัฐส่วนมากได้แสดงอัธยาศัยไมตรีโดยให้ผู้แทนทางการทูตได้รับการยกเว้นอากร ศุลกากรแก่สินค้าและเครื่องใช้ที่นำเข้ามาใช้ในส่วนตัวเองอนุสัญญากรุง เวียนนาได้ระบุไว้ในมาตรที่ 36 ว่า1. รัฐผู้รับจะอนุญาตให้นำเข้าและอำนวยให้มีการยกเว้นจากอากรศุลกากร ภาษี ตลอดจนค่าภาระที่เกี่ยวข้องทั้งมวล นอกจากค่าภาระในการเก็บรักษา การขนส่งและบริการ ให้ทำนองเดียวกันตามกฎหมายหรือข้อบังคับ ซึ่งรัฐผู้รับอาจกำหนดไว้แก่ก. สิ่งของสำหรับใช้ในทางการของคณะผู้แทนข. สิ่งของสำหรับใช้ส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต หรือคนในครอบครัวของตัวแทนทางการทูต ซึ่งประกอบเป็นส่วนครัวเรือนของตัวแทนทางการทูต รวมทั้งสิ่งของที่แสดงเจตนาสำหรับการตั้งถิ่นฐานของตัวแทนทางการทูตด้วย2. หีบห่อส่วนบุคคลของตัวแทนทางการทูต ให้ได้รับยกเว้นจากการตรวจตรา นอกจากมีมูลเหตุอันร้ายแรงที่ทำให้สันนิษฐานได้ว่า หีบห่อส่วนตัวนั้นบรรจุสิ่งของซึ่งไม่อยู่ในข่ายแห่งการยกเว้นที่ได้ระบุไว้ ในวรรค 1 ของข้อนี้ หรือสิ่งของซึ่งการนำเข้าหรือส่งออกนั้นต้องห้ามทางกฎหมาย หรือถูกควบคุมตามข้อบังคับว่าด้วยการกักตรวจโรคของรัฐผู้รับ การตรวจตราเช่นว่านี้ให้กระทำต่อหน้าตัวแทนทางการทูต หรือต่อหน้าผู้แทนที่ได้รับมอบอำนาจของตัวแทนทางการทูตเท่านั้น [การทูต]
Extraditionการส่งผู้ร้ายข้ามแดน การที่ชาติหนึ่งยอมส่งคนในชาติของตนให้แก่อีกชาติหนึ่ง คือคนในชาติที่ถูกกล่าวหา หรือต้องโทษฐานกระทำความผิดภายนอกเขตแดนของตน และเป็นความผิดที่กระทำขึ้นในเขตอำนาจของอีกชาติหนึ่ง ซึ่งมีความสามารถที่จะตัดสินคดี รวมทั้งลงโทษบุคคลที่ถูกกล่าวหานั้นข้ออ้างว่า ในกรณีที่ชนชาติหนึ่งซึ่งถูกกล่าวหาว่าประกอบอาชญากรรมแล้วหลบหนีไปยังต่าง ประเทศนั้น รัฐของผู้ที่ประกอบอาชญากรรมมีสิทธิที่จะขอให้ต่างประเทศนั้นส่งตัวผู้กระทำ ผิดกลับคืนมา เพื่อส่งตัวขึ้นศาลเพื่อพิจารณาลงโทษได้ แต่หลายคนยังมีความเห็นแตกต่างกันอยู่ในข้อนี้ มีไม่น้อยที่สนับสนุนหลักการที่ว่า กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองหน้าที่ที่จะต้องส่งผู้ร้ายข้ามแดน กล่าวคือ นอกจากสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่มีต่อกันแล้ว กฎหมายระหว่างประเทศมิได้รับรองสิทธิที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่กัน อย่างไรก็ดี ตามสนธิสัญญาที่มีต่อกัน ผู้ร้ายที่หนีความยุติธรรมจะถูกส่งไปให้อีกประเทศหนึ่งตามสนธิสัญญานั้น จักกระทำโดยวิถีทางการทูต ส่วนผู้หลบหนีเจ้าหน้าที่เพราะเหตุผลทางการเมือง จะส่งข้ามแดนอย่างผู้ร้ายไม่ได้ และเมื่อหลบหนีไปยังอีกประเทศหนึ่งได้สำเร็จ ประเทศนั้นๆ มักจะให้อาศัยพักพิงในประเทศของตนเป็นในฐานะผู้ลี้ภัยทางการเมือง [การทูต]
General Border Committeeคณะกรรมการชายแดนทั่วไป เป็นกลไกความร่วมมือด้านความมั่นคง ชายแดน ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของไทยและประเทศเพื่อนบ้านเป็นประธานร่วม กัน ทำหน้าที่กกำหนดแนวทางและมาตรการที่เหมาะสมเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือ รักษาความสงบเรียบร้อยและเสถียรภาพในพื้นที่บริเวณชายแดน ซึ่งกลไกนี้ไทยมีกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดต่อกันทั้ง 4 ประเทศ [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
New Diplomacyการทูตแบบใหม่ ภายหลังสงครามโลกครั้งแรก หรือตั้งแต่ ค.ศ. 1918 เป็นต้นมา ได้เกิดการทูตแบบใหม่ ซึ่งแตกต่างไปจาการทูตแบบเก่า อันได้ปฏิบัติกันมาเป็นเวลาหลายร้อยปี นักวิชาการบางท่านมีความเอนเอียงที่จะตำหนิว่า การที่เกิดสงครามโลกขึ้นนั้น เป็นเพราะการทูตประสบความล้มเหลวมากกว่าอย่างไรก็ดี บางท่านเห็นว่าแม้ส่วนประกอบของการทูตจะเปลี่ยนแปลงไปบ้างตามกาลเวลา แต่เนื้อหาหรือสาระสำคัญของการทูตยังคงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง เป็นการผสมผสานเข้าด้วยกันระหว่างการทูตแบบเก่ากับการทูตแบบใหม่อาจกล่าวได้ ว่า มีปัจจัยสำคัญ ๆ อยู่สามประการ ที่มีอิทธิพลหรือบังเกิดผลโดยเฉพาะต่อวิธีการหรือทฤษฎีของการเจรจาระหว่าง ประเทศ กล่าวคือ ข้อแรก ชุมชนนานาชาติทั้งหลายเกิดการตื่นตัวมากขึ้น ข้อที่สอง ได้มีการเล็งเห็นความสำคัญของมติสาธารณะ ( Public Opinion) มากขึ้น และประการสุดท้าย เป็นเพราะการสื่อสารคมนาคมได้เจริญรุดหน้าอย่างรวดเร็วอดีตนักการทูตผู้มี ชื่อเสียงคนหนึ่งของอินเดีย ได้แสดงความไม่พอใจและรังเกียจความหยาบอย่างปราศจากหน่วยก้านของการดำเนิน การทูตแบบใหม่ เช่น การโฆษณาชวนเชื่อเข้าใส่กัน การใช้ถ้อยคำในเชิงผรุสวาทต่อกัน การเรียกร้องกันอย่างดื้อ ๆ ขาดความละมุนละไมและประณีต อาทิเช่น การเรียกร้องข้ามหัวรัฐบาลไปยังประชาชนโดยตรงในค่ายของฝ่ายตรงกันข้ามการ กระทำต่าง ๆ ที่จะให้รัฐบาลต้องเสียชื่อหรือขาดความน่าเชื่อถือ ตลอดจนการใส่ร้ายป้ายสีกันด้วยวิธีการต่าง ๆ นานา ห้ามไม่ให้ประชาชนติดต่อกันทางสังคม และอื่น ๆ เป็นต้น [การทูต]
Parliamentary Diplomacyการทูตแบบรัฐสภา หรือบางครั้งเรียกว่า Organization Diplomacy เช่น การทูตในองค์การสหประชาชาติ การทูตแบบนี้ต่างกับการทูตตามปกติที่ดำเนินกันในนครหลวงของประเทศ กล่าวคือ1. นักการทูตมีโอกาสติดต่อโดยใกล้ชิดกับสื่อมวลชนและกับนัการทูตด้วยกันจาก ประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจากประเทศที่ไม่เป็นมิตรภายในองค์การสหประชาติ มากกว่าในนครหลวงของประเทศ แต่มีโอกาสน้อยกว่าที่จะติดต่อกับคนชาติของตนอย่างใกล้ชิด2. การพบปะติดต่อกับบรรดานักการทูตด้วยกันในองค์การสหประชาชาติ จะเป็นไปอย่างเป็นกันเองมากกว่าในนครหลวงของประเทศ3. ในองค์การสหประชาติ ประเทศเล็ก ๆ สามารถมีอิทธิพลในการเจรจากับประเทศใหญ่ ๆ ได้มากกว่าในนครของตน เพราะตามปกติ นักการทูตในนครหลวงมักจะติดต่ออย่างเป็นทางการกับนักการทูตในระดับเดียวกัน เท่านั้น แต่ข้อนี้มิได้ปฏิบัติกันอย่างเคร่งครัดนักในสหประชาชาติ ในแง่การปรึกษาหารือกันระหว่างกลุ่ม ในสมัยก่อนที่สงครามเย็นจะสิ้นสุดในสหประชาชาติได้แบ่งออกเป็น 6 กลุ่ม (Blocs) ด้วยกัน คือกลุ่มเอเชียอัฟริกา กลุ่มเครือจักรภพ (Commonwealth) กลุ่มคอมมิวนิสต์ กลุ่มละตินอเมริกัน กลุ่มยุโรปตะวันตก กลุ่มสแกนดิเนเวีย และกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ ประเทศที่มิได้ผูกพันเป็นทางการกับกลุ่มใด ๆ ที่กล่าวมา อนึ่ง ในส่วนที่เกี่ยวกับสงครามเย็น สมาชิกประเทศในสหประชาชาติจะรวมกลุ่มกันตามแนวนี้ คือ ประเทศนิยมฝักใฝ่กับประเทศฝ่ายตะวันตก (Pro-West members) ประเทศที่นิยมค่ายประเทศคอมมิวนิสต์ (Pro-Communist members) และประเทศที่ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายใด (Non-aligned members)เกี่ยวกับเรื่องการทูตในการประชุมสหประชาชาติ ในสมัยสงครามเย็น นักการทูตชั้นนำของอินเดียผู้หนึ่งให้ข้อวิจารณ์ว่า ไม่ว่าจะเป็นการประชุมพิจารณากัน การทะเลาะเบาะแว้งด้วยคำผรุสวาทหรือการแถลงโผงผางต่อกันนั้น ล้วนเป็นลักษณะที่ตรงกันข้ามกับลักษณะวิสัยของการทูตทั้งสิ้น ดังนั้น สิ่งที่เป็นไปในการประชุมสหประชาชาติ จึงแทบจะเรียกไม่ได้เลยว่าเป็นการทูต เพราะการทูตที่แท้จริงจะกระทำกันด้วยอารมณ์สงบ ใช้ความสุขุมคัมภีรภาพ ปราศจากกามุ่งโฆษณาตนแต่อย่างใด การแสดงต่าง ๆ เช่น สุนทรพจน์และภาพยนตร์นั้นจะต้องมีผู้ฟังหรือผู้ชม แต่สำหรับการทูตจะไม่มีผู้ฟังหรือผู้ชม (Audience) หากกล่าวเพียงสั้น ๆ ก็คือ ผู้พูดในสหประชาชาติมุ่งโฆษณาหาเสียง หรือคะแนนนิยมจากโลกภายนอก แต่ในการทูตนั้น ผู้พูดมุ่งจะให้มีการตกลงกันให้ได้ในเรื่องที่เจรจากันเป็นจุดประสงค์สำคัญ [การทูต]
Presentation of Credentialsหมายถึง การยื่นสารตราตั้ง เป็นธรรมเนียมปฏิบัติทางการทูตว่า ผู้ใดได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตประจำประเทศใดประเทศหนึ่ง ก่อนที่จะปฏิบัติงานในหน้าที่ จะต้องนำสารตราตั้ง (Credentials) ไปยื่นต่อประมุขของรัฐนั้น ๆ พิธียื่นสารตราตั้งจะกระทำไม่เหมือนกันในแต่ละประเทศ แล้วแต่จะพิจารณาเห็นความเหมาะสม และความเคร่งต่อธรรมเนียมประเพณีที่ปฏิบัติติดต่อกันมาเป็นสำคัญ เช่น อังกฤษเป็นประเทศหนึ่งที่พิธียื่นสารตราตั้งของเอกอัครราชทูตต่อองค์ประมุข ของประเทศค่อนข้างวิจิตรพิสดารมาก ส่วนบางประเทศมีพิธียื่นสารอย่างง่าย ๆ แทบจะไม่มีพิธีรีตองอย่างใดในสหรัฐอเมริกา ณ กรุงวอชิงตันดีซี พิธียื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดีของสหรัฐฯ กระทำอย่างเรียบง่าย กล่าวคือ พอถึงเวลาที่กำหนดในวันยื่นสารตราตั้ง อธิบดีกรมพิธีการทูตหรือผู้แทนของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ จะนำรถยนต์ลีมูซีนสีดำไปยังทำเนียบของเอกอัครราชทูต เพื่อรับเอกอัครราชทูตและครอบครัวไปยื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดี ณ ตึกทำเนียบขาว ( White House)มีข้อน่าสนใจอันหนึ่งคือ ทางฝ่ายสหรัฐฯ จะสนับสนุนให้เอกอัครราชทูตพาภรรยาและบุตรทั้งชายหญิงไปร่วมในการยื่นสารตรา ตั้งนั้นด้วย การแต่งกายของเอกอัครราชทูตก็สวมชุดสากลผูกเน็คไทตามธรรมดา ระหว่างที่ยื่นสารมีการปฏิสันถารกันพอสมควรระหว่างเอกอัครราชทูตกับ ประธานาธิบดีสหรัฐฯมีช่างภาพของทางราชการถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึก และมอบภาพถ่ายให้แก่เอกอัครราชทูตในวันหลัง (ต่างกับพิธีของอังกฤษมาก) เอกอัครราชทูตไม่ต้องพาคณะเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตติดตามไปด้วย หลังจากพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้ว อธิบดีกรมพิธีการทูตจะนำเอกอัครราชทูตและครอบครัวกลับไปยังทำเนียบที่พักโดย รถยนต์คันเดิม เป็นอันเสร็จพิธียื่นสารตราตั้ง โดยที่ประเทศต่าง ๆ ในโลกต่างมีสถานเอกอัครราชทูตของตนตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตันดีซี ดังนั้น ในวันไหนที่มีการยื่นสารตราตั้งต่อประธานาธิบดี ทางการทำเนียบขาวมักจะกำหนดให้เอกอัครราชทูตใหม่จากประเทศต่าง ๆ เข้ายื่นสารในวันนั้นราว 4-5 ประเทศติดต่อกัน มิใช่วันละคนอย่างที่ปฏิบัติในบางประเทศทันทีที่เอกอัครราชทูตยื่นสารตรา ตั้งต่อประธานาธิบดีเรียบร้อยแล้ว เอกอัครราชทูตจะมีหนังสือเวียนไปยังหัวหน้าคณะทูตทุกแห่งในกรุงวอชิงตันดีซี แจ้งให้ทราบว่าในวันนั้น ๆ เขาได้ยื่นสารตราตั้งต่อประมุขของรัฐ ในฐานะเอกอัครราชทูตเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับแสดงความหวังในหนังสือว่าความสัมพันธ์อันดีที่มีอยู่ระหว่างคณะผู้ แทนทางการทูตทั้งสอง ทั้งในทางราชการและทางส่วนตัว จะมั่นคงเป็นปึกแผ่นยิ่งขึ้นอีก จากนั้น เอกอัครราชทูตใหม่ก็จะหาเวลาไปเยี่ยมคารวะเอกอัครราชทูตของประเทศต่าง ๆ ที่ประจำอยู่ในกรุงวอชิงตันดีซีทีละราย กว่าจะเยี่ยมหมดทุกคนก็กินเวลานานอยู่หลายเดือนทีเดียว [การทูต]
Reciprocity of Rank of Envoysหมายถึง การถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกันในเรื่องตำแหน่งของทูต กล่าวคือ ประเทศทั้งหลายถือธรรมเนียมปฏิบัติในการแลกเปลี่ยนทูตที่มีตำแหน่งเท่าเทียม กัน ดังนั้น หากประเทศหนึ่งส่งทูตไปประจำอีกประเทศหนึ่ง ในตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็ม ประเทศนั้นก็คาดว่าประเทศผู้รับย่อมจะให้ถ้อยทีถ้อยปฏิบัติต่อกัน โดยส่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มของตนไปประจำที่ประเทศผู้ส่งด้วย พึงสังเกตว่าการถ้อยทีถ้อยปฏิบัติกันเช่นนี้มิใช่เป็นระเบียบข้อบังคับของ กฏหมายระหว่างประเทศ หากเป็นการแสดงไมตรีจิตมิตรภาพต่อกันระหว่างประเทศทั้งหลายมากกว่า [การทูต]
reconciliationการปรองดองและลดความเป็นศัตรูต่อกัน [การทูต]
Thailand ? Cambodia Joint Development Study for Economic Cooperation Planโครงการจัดทำแผนความร่วมมือทางเศรษฐกิจและแผน ปฏิบัติการระหว่างไทย-กัมพูชา มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดที่ที่มีศักยภาพในการพัฒนา ตลอดจนสาขาทางเศรษฐกิจที่ควรมีความร่วมมือต่อกันเพื่อกระตุ้นให้เกิดความ ร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-กัมพูชาในระยะสั้น ระยะปานกลางและระยะยาว รวม 5 สาขา ได้แก่ โครงสร้างทางกายภาพ (ถนนและไฟฟ้า) อุตสาหกรรมการเกษตรและประมง อุตสาหกรรมเบา การพัฒนาการท่องเที่ยว และการเชื่อมโยงทางการค้า โดยจะส่งเสริมให้ภาคเอกชนเข้ามามีบทบาทและลงทุนในกิจกรรมทางเศรษฐกิจดัง กล่าว ทั้งนี้ โครงการและกิจกรรมต่าง ๆ จะใช้ระยะเวลาดำเนินการ 15 ปี เริ่ม ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 เป็นต้นไป [การทูต]
Bound rubberยางส่วนที่ติดกับอนุภาคของสารตัวเติม (เช่น เขม่าดำ) ที่ไม่สามารถสกัดหรือละลายออกมาได้โดยใช้สารละลายที่ละลายยาง ถ้ามีปริมาณของยางบาวด์มาก แสดงว่ายางกับสารตัวเติมเกิดอันตรกิริยาต่อกันได้ดี [เทคโนโลยียาง]
Anastomotic Circulationsการมีเส้นเลือดติดต่อกันในครรภ์แฝด [การแพทย์]
Anthropophilicชนิดที่อาศัยอยู่ในคน, นิสัยชอบเลือดคน, ติดต่อกันระหว่างคนด้วยกันเท่านั้น, แมลงที่ชอบกัดดูดเลือดจากคน [การแพทย์]
Arcadeโค้ง, ติดต่อซึ่งกันและกันเป็นข่ายโค้ง, ส่วนโค้งติดต่อกัน, ทางโค้ง [การแพทย์]
Arteriovenous Communicationการเชื่อมต่อกันระหว่างหลอดเลือดแดงกับดำ [การแพทย์]
Arthrosporeสปอร์รูปร่างรีเรียงต่อกันเป็นแนวยาว [การแพทย์]
Atrium-Ventricular Junctionบริเวณติดต่อกันระหว่างหัวใจห้องบนและล่าง [การแพทย์]
Beads-Likeคล้ายเป็นเม็ดต่อกัน [การแพทย์]
Bony Unionติดต่อกันด้วยกระดูก [การแพทย์]
Bridges, Crossการเชื่อมต่อกัน [การแพทย์]
Carbide, Discontinuousชนิดตกตะกอนไม่ติดต่อกัน [การแพทย์]
Cells, Chords ofเซลล์ต่อกันเป็นสาย [การแพทย์]
Constantอย่างติดต่อกันไป, มีมาตลอด, คงที่, ค่าคงที่ [การแพทย์]
Continuous Methodแบบกินยาติดต่อกันไป [การแพทย์]
Contraction, Tetanicการหดกระตุกของกล้ามเนื้อ, กระตุ้นกล้ามเนื้อให้หดตัวติดต่อกัน, การหดรัดตัวโดยไม่คลายอย่างสมบูรณ์ [การแพทย์]
Craniosynostosesรอยต่อกระดูกกะโหลกศีรษะต่อกัน, การปิดของรอยแยกสมองเร็วเกินไป [การแพทย์]
Decerebrationความผิดปกติรุนแรงของก้านสมองทำให้ขาดการติดต่อกัน, การตัดสมองซีรีบรัม [การแพทย์]
Diarrhea, Prolongedท้องเดินติดต่อกันนานๆ [การแพทย์]
Disulfide Bridgeสะพานเชื่อมไดซัลไฟด์, สะพานไดซัลไฟด์, เชื่อมต่อกันด้วยพันธะไดซัลไฟด์ [การแพทย์]
Drug Interactionsปฎิกิริยาต่อกันของยา, ปฎิกิริยาระหว่างกันของยา, ปฏิกิริยาระหว่างยา, อันตรกิริยาระหว่างยา, ฤทธิ์ระหว่างตัวยาด้วยกัน, ยา, การออกฤทธิ์ระหว่าง, ปฏิกิริยาสัมพันธ์กับยาอื่น, ยา, การออกฤทธิ์ระหว่างกัน [การแพทย์]
Epileptic Fits, Repeatedอาการชักติดต่อกัน [การแพทย์]
Exercise, Rhythmical Enduranceออกกำลังเป็นจังหวะติดต่อกัน [การแพทย์]
Family Transactionการปฏิบัติต่อกันระหว่างบุคคลในครอบครัว [การแพทย์]
Fibrous Unionเอ็นยึดติดกัน, ติดต่อกันด้วยพังผืด [การแพทย์]
Floating Fragmentชิ้นกระดูกแยกตัวหลุดออกจากตำแหน่งที่เคยต่อกัน [การแพทย์]
nucleic acidกรดนิวคลิอิก, สารอินทรีย์ที่มีอยู่ในเซลล์ของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ประกอบด้วยหน่วยย่อยคือ นิวคลีโอไทด์ต่อกันเป็นสาย  กรดนิวคลีอิกมี 2 ชนิด คือ DNA และ RNA [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
cardiac muscleกล้ามเนื้อหัวใจ, เนื้อเยื่อกล้ามเนื้อที่ประกอบด้วยเซลล์รูปทรงกระบอก  มีลายตอนปลายของเซลล์  มีการแตกแขนงและเชื่อมโยงติดต่อกันกับเซลล์ข้างเคียง  ทำงานนอกอำนาจจิตใจ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]
conditioningการเรียนรู้แบบมีเงื่อนไข, พฤติกรรมของสัตว์ที่ตอบสนองต่อสิ่งเร้า 2 ชนิดอย่างมีเงื่อนไข คือเมื่อมีสิ่งเร้าแท้จริงและสิ่งเร้าไม่แท้จริง เร้าติดต่อกันเป็นเวลานาน จนกระทั่งแม้จะไม่มีสิ่งเร้าแท้จริงอยู่ด้วย สิ่งเร้าไม่แท้จริงก็สามารถกระตุ้นให้สัตว์นั้น ๆ ตอบสนองได้ [พจนานุกรมศัพท์ สสวท.]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
Let's mush on.เราตอบต่อกันดีกว่า Oh, God! (1977)
I doubt if anybody's talked to anybody on this entire continent, and you want me to reach somebody !จนผมสงสัยว่าทวีปนี้... แม่ง ไม่มีใครคุยติดต่อกัน บ้างรึไง? แล้วจะให้ผม ติดต่อใครสักคนเนี่ยนะ The Thing (1982)
These folks are just having a good time.พวกเขาก็แค่ใช้ช่วงเวลาดีๆ ต่อกัน Clue (1985)
ok. start sending the launch sequence in reverse order. yes, sir.เราจะสลับวงจรการบิน ป้อนวงจรการบินย้อนกลับ Fitz-Hume ถือสายนี้ไว้ ให้สายต่อกันตลอด Spies Like Us (1985)
All right. All right.เอาล่ะ เอาล่ะ ต่อกันเลย The Princess Bride (1987)
Trees and people used to be good friendsต้นไม้กับคนเคยเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน My Neighbor Totoro (1988)
You're a good kid. We've been good to each other.นายนิสัยดี เราดีต่อกันมาตลอด Goodfellas (1990)
I know you didn't like him, but, for my sake, you must be friends now.ฉันรู้ว่าคุณไม่ชอบเขา แต่ขอเถอะคะ เห็นแก่ฉัน คุณสองคนต้องเป็นมิตรต่อกัน Wuthering Heights (1992)
You almost missed... my all-time, world record seventh derby in a row. Easy, Rasta.- การทำสถิติโลกตลอดกาลของฉัน 7 ครั้งติดต่อกัน Cool Runnings (1993)
If you could feel for one minute the sense of absolute joy and connection... that carrying your baby brings, you would understand.ถ้านายได้รู้สึกถึงห่วงที่มีต่อกันสักนาทีนึง ว่าการมีเด็กมันเป็นอย่างไร นายก็คงจะเข้าใจ Junior (1994)
You know, we're in this together, now. We have a contract.เราทำงานร่วมกันนะ เรามีสัญญาต่อกันอยู่ Junior (1994)
We'll start from scratch and plow ahead.เราจะเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน Wild Reeds (1994)
Put the pieces together, find the town... win a Sutter Cane lunchbox.เราเอาชิ้นส่วนต่างๆมาต่อกันแล้วหาเมือง ผู้ชนะจะได้กล่องข้าวเที่ยงของซัทเตอร์ เคน In the Mouth of Madness (1994)
Let's go set it up in the living room.ไปเล่นต่อกันที่ห้องนั่งเล่นเถอะ Jumanji (1995)
'Cause we're gonna go in here, and together... we're gonna sit down, we're gonna finish that game... no matter what.เพราะเราจะเข้าไปในนี้ นั่งลงเล่นต่อกันให้จบ ไม่ว่าจะยังไง... Jumanji (1995)
I should be sorry if it were. You and I were always good friends.ผมต้องขอโทษถ้ามันเป็นอย่างนั้น คุณและผมยังเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอ Episode #1.6 (1995)
Having contact between the generations.มีการติดต่อกันระหว่างรุ่น The Birdcage (1996)
It's been a very long day. Let's try to treat each other nicely.มันเป็นวันที่ยาวนานมาก ลองปฏิบัติต่อกันอย่างสวยงาม Dante's Peak (1997)
So, you know, I hope we keep in touch, you know.คือว่า เราคงได้ติดต่อกันนะ Good Will Hunting (1997)
"we must not break our bonds of affection."เราจะต้องไม่เลิกล้ม/ความสัมพันธ์ที่เรามีต่อกัน American History X (1998)
I know this isn't as much fun as the boat house but life isn't all cowboys and Indians, is it?แน่ล่ะ คงไม่สนุกเท่าที่บ้านเก็บเรือสินะ แต่ชีวิตคนเรา มันไม่ได้เป็นมิตร ต่อกันและกันไปหมดนี่ ใช่ไหม? Dark Harbor (1998)
I admit we've been too aggressive.ฉันยอมรับว่าที่แล้วมา เราก้าวร้าวต่อกันไปบ้าง Pi (1998)
Can't I come round so we can lick each other or something?ฉันคงหยุดไม่ได้แล้ว\ เรามาทำอะไรต่อกันเถอะ Show Me Love (1998)
Hey, a bunch of us are going to Jarrett's.เฮ้ พวกเราจะไปต่อกัน ที่บ้านแจเร็ด พร้อมยัง? 10 Things I Hate About You (1999)
I was stupid to think love shouldn't keep secrets.ผมโง่ไปเองที่คิดว่า คนรักกันไม่ควรมีความลับต่อกัน Pola X (1999)
Don't be coy. I've always known about your feelings for each other.อย่าทำเหนียมเลย ฉันรู้ว่าเธอสองคน รู้สึกยังไงต่อกัน Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000)
Neither of you is brave enough to admit the truth to the other.เธอสองคน ไม่มีใครกล้าสารภาพความในใจต่อกัน Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000)
Our feelings for each other grew stronger.ความรู้สึกของเราทั้งสองที่มีต่อกันแรงกล้าขึ้น Crouching Tiger, Hidden Dragon (2000)
Yes, well, must be going now. Lots to buy.ใช่ ต้องไปต่อกันแล้ว มีของต้องซื้ออีกมาก Harry Potter and the Sorcerer's Stone (2001)
You can tell us everything there.สิ่งที่ฉันอยากรู้ทั้งหมด. เราจะไปต่อกันที่สถานี. Millennium Actress (2001)
Shall we continue?เราจะต่อกันเลยมั้ยคะ ? Millennium Actress (2001)
Who'd you think the school board was gonna believe some cheating little brat who's just trying to cover his own ass or the man who's been leading this school to victory for 25 years?นายคิดว่าพวกบอร์ดบริหารนั้นจะเชื่อใครมากกว่ากัน ระหว่างพวกที่แค่ต้องการรักษาตัวรอด กับคนที่ทำให้โรงเรียนนี้ชนะเลิศติดต่อกันมาได้ 25 ปี? Hothead (2001)
It's a tradition we hand down.มันเป็นประเพณีสืบต่อกัน The Time Machine (2002)
Another link in the chain.เชื่อมต่อกันดังลูกโซ่ The Matrix Reloaded (2003)
Some cross-synaptic firing, as well as signs of recent trauma with fresh fibrotic scarring throughout the cortex.การติดต่อกันระหว่างเซลล์สมอง เเละร่องรอยการกระทบกระเทือน พร้อมรอยแผลเป็นใหม่ๆ ทั่วทั้งสมองส่วนนอก The Matrix Revolutions (2003)
- I thought we had something special.-ฉันคิดว่าเรามีอะไรพิเศษต่อกันซะอีก Hope Springs (2003)
It'll just be a little fun between buddies, you know. And you'll never have to call me.นายนี่ขำดีว่ะ ผมไม่ผูกมัด ไม่ต้องติดต่อกันอีก Latter Days (2003)
Let's move along then.ดีมาก ต่อกันเลย The Girl Next Door (2004)
So, what are we doing, man?แล้ว เราจะทำอะไรต่อกันดี? The Girl Next Door (2004)
All right, here we go, people.เอาหล่ะ ลุยกันต่อเลย พักพวก ตั้งกล้อง ต่อกันเลย The Girl Next Door (2004)
When'd you lose yours, April? - When I was 10.ตอน 10 ขวบหน่ะ มาต่อกันเลย The Girl Next Door (2004)
You know, relationships are easy when everything runs nice and smooth.- เจ้ารู้มั๊ย มิตรภาพนั้นเกิดขึ้นได้ง่าย เมื่ออยู่ภายใต้ความความสัมพันธ์อันดี และมีใจต่อกัน - มู่หลาน Mulan 2: The Final War (2004)
Nice and smooth just ran out of camp.ความสัมพันธ์อันดี และมีใจต่อกัน ถึงได้พากันออกไปนอกแค้มป์ Mulan 2: The Final War (2004)
The movie in your head is broken.ความทรงจำของเธอ มันไม่ปะติดปะต่อกัน The Butterfly Effect (2004)
The two of you showed such promise, but we had to see you in action.คุณทั้งสองแสดงสัญญาต่อกัน แต่เราอยากเห็นคุณสู้ Resident Evil: Apocalypse (2004)
The central portion of the city is blacked out from radio communication due to damaged power lines and electrical failure.โดยเฉพาะพื้นที่ใจกลางเมืองนั้น วิทยุสื่อสารไม่สามารถใช้ติดต่อกันได้ เนื่องจากระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าเกิดการขัดข้อง Sky Captain and the World of Tomorrow (2004)
So keep together, maintain radio contact.ดังนั้น รวมกลุ่มกันไว้ เราจะติดต่อกันทางวิทยุ Ladder 49 (2004)
What's the difference?ที่นี่ทุกอย่างเชื่อมต่อกันเหมือนผ้าห่ม I Heart Huckabees (2004)
Here, they say everything's connected in the blanket.แต่วอบานว่าไม่มีอะไรเชื่อมต่อกัน I Heart Huckabees (2004)
- Continue.- ต่อกันเถอะ Shaun of the Dead (2004)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
การมีปฏิกิริยาต่อกัน[kān mī patikiriyā tø kan] (n, exp) EN: interaction
ปฏิบัติต่อกัน[patibat tø kan] (v, exp) EN: treat one another with
ติดต่อกัน[tittø kan] (v, exp) EN: see each other
ติดต่อกัน[tittø kan] (x) EN: succesive ; consecutive  FR: successif ; consécutif
ติดต่อกันไป[tittø kan pai] (x) FR: suivi ; continu

English-Thai: Longdo Dictionary
adjoining room[แอดจอยนิ่ง รูมส์] (n) ห้องพักสองห้องที่เชื่อมต่อกัน
blockchain(n) บล็อกเชน, วิธีการเก็บข้อมูลรายการเปลี่ยนแปลงตามหลักการทางบัญชี โดยการเข้ารหัสและจัดเรียงข้อมูลเหล่านี้ต่อกันตามลำดับเวลาที่ข้อมูลเข้ามา กลุ่มข้อมูลดังกล่าวจะเผยแพร่ไปให้ผู้ใช้ในเครือข่ายที่กำหนดได้ทราบทั่วกัน ทั้งนี้ ผู้ใช้ทุกคนจะทราบการแก้ไขเพิ่มเติมรายการเปลี่ยนแปลงในบล็อกเชนทุกรายการตลอดเวลา [ ศัพท์คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับราชบัณฑิตยสภา ]

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
abrupt(adj) ซึ่งขาดตอน, See also: ซึ่งไม่ติดต่อกัน
ankylose(vi) เชื่อมต่อกัน
ankylose(vt) เชื่อมต่อกัน
append(vt) ทำให้เชื่อมต่อกัน, Syn. attach, fasten, fix
bad blood(n) ความเกลียดชัง, See also: ความไม่พอใจ, ความรู้สึกไม่ดีต่อกัน, Syn. hatred, Ant. affection
bad feeling(n) ความเกลียดชัง, See also: ความไม่พอใจ, ความรู้สึกไม่ดีต่อกัน, Syn. bad blood
batter(vt) ทุบตีติดต่อกัน, See also: ตีติดต่อกัน, โจมตีติดต่อกัน, Syn. beat
block(n) ช่วงตึก, [ แถวติดต่อกันของอาคาร ]
batter down(phrv) ทุบตีติดต่อกัน, See also: ทำร้ายหรือทำลายอย่างต่อเนื่อง
chronic(adj) เรื้อรัง, See also: ติดต่อกันเป็นเวลานาน, Syn. continuing, lasting, persisting
coherently(adv) อย่างปะติดปะต่อกัน, See also: อย่างต่อเนื่องกัน, Syn. tenaciously
collage(n) ศิลปการสร้างภาพจากชิ้นส่วนเล็กๆ ที่นำมาปะติดปะต่อกัน
conjunctive(adj) ที่เชื่อมต่อกัน, Syn. connective
connected(adj) ที่ทำให้เชื่อมต่อกัน
connecting(adj) ที่เชื่อมต่อกัน
connective(adj) ที่เชื่อมต่อกัน
continuation(n) การต่อเนื่องกัน, See also: การดำเนินต่อไป, การติดต่อกัน, Syn. continuance, prolongation
continuous(adj) ซึ่งติดต่อกัน, See also: ซึ่งต่อเนื่องกัน, Syn. uninterrupted
correspond(vi) ติดต่อกันทางจดหมาย, See also: โต้ตอบจดหมาย
correspondence(n) การติดต่อกันทางจดหมาย
cursive(adj) ที่เขียนแบบตัวอักษรต่อกันไป
couple together(phrv) เชื่อมต่อกัน (โดยเฉพาะสองสิ่ง), See also: รวมกัน
couple up(phrv) เชื่อมต่อกัน (โดยเฉพาะสองสิ่ง), See also: รวมกัน
expose to(phrv) เผยต่อ, See also: เปิดเผยต่อ เพื่อให้สิ่งนั้นมีผลต่อกัน
day after day(adv) วันแล้ววันเล่า, See also: หลายวันติดต่อกัน
day in day out(adv) ทุกวันติดต่อกันเป็นเวลานาน, See also: ไม่หยุดหย่อน, ไม่เว้นแต่ละวัน, Syn. every day
disjointed(adj) ไม่ต่อเนื่อง, See also: ไม่เชื่อมต่อกัน, แยกกัน, Syn. disconnected, Ant. unified, joined
endless(adj) ทำให้ต่อเนื่องโดยนำปลายมาต่อกัน
enmity(n) ความเป็นศัตรู, See also: ความเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน, ความเป็นปรปักษ์ต่อกัน, Syn. antagonism, hatred, hostility
play one's cards close to one's chest(idm) ทำอย่างลับ, See also: ติดต่อกันอย่างลับๆ, ติดต่อกันอย่างไม่เป็นทางการ ไม่เปิดเผย
infectious(adj) ซึ่งติดเชื้อ, See also: ติดต่อกันได้, Syn. contagious, spreading, Ant. uninfectious
inosculate(vi) เชื่อมต่อโดยรูปเปิด, See also: เชื่อมต่อกัน
interact(vi) มีปฏิกิริยาต่อกัน, See also: มีผลกระทบต่อกัน, Syn. coact, socialize
interconnect(vi) เชื่อมต่อกัน, See also: ต่อเข้าด้วยกัน, Syn. connect, join
interconnect(vt) เชื่อมต่อกัน, See also: ต่อเข้าด้วยกัน, Syn. connect, join
intercourse(n) การติดต่อกัน, See also: การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น, การพูดคุยกัน, การปฏิสัมพันธ์กัน, Syn. communication, contact
interlink(vt) เชื่อมต่อกัน, See also: เชื่อมกัน, โยงใยเข้าด้วยกัน, Syn. interconnect
interlink(vi) เชื่อมต่อกัน, See also: เชื่อมกัน, โยงใยเข้าด้วยกัน, Syn. interconnect
interlock(vt) ประสานกัน, See also: เชื่อมต่อกัน, Syn. engage, match
interlock(vi) ประสานกัน, See also: เชื่อมต่อกัน, Syn. engage, match
interlock(n) อุปกรณ์เชื่อมต่อกัน, See also: การเชื่อมต่อกัน
interplay(n) การมีปฏิกิริยาต่อกันและกัน, See also: การมีผลกระทบซึ่งกันและกัน, Syn. interaction
join up(phrv) ทำให้เข้าใกล้กันมากขึ้น, See also: เกือบติดกัน, เกือบต่อกันมากขึ้น, Syn. close up
join up(phrv) รวมกัน, See also: เชื่อมต่อกัน, รวมตัวกัน, Syn. link up, marry up
knit up(phrv) ถัก, See also: ทอ, ทำให้ต่อกัน
lock on(phrv) เชื่อมต่อกันกับ, See also: เชื่อมต่อกันแน่น, ล๊อคต่อกันแน่น, Syn. lock onto
lock onto(phrv) เชื่อมต่อกันแน่น, See also: ล๊อคต่อกันแน่น, Syn. lock on
lock together(phrv) ล็อกติดกันแน่น, See also: เชื่อมต่อกันแน่น, ติดไว้ด้วยกัน
joinder(n) การเชื่อมต่อกัน, See also: การร่วมกัน, Syn. joining
linked(adj) ที่เชื่อมต่อกัน, See also: ที่เชื่อมโยงกัน, Syn. connected, combined, Ant. disconnected, separated

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
abrupt(อะบรัพทฺ') adj. ทันใด, ทันที, ปัจจุบันทันด่วน, ฉุกเฉิน, คับขัน, ฉับพลัน, หยาบ, หยาบคาย, ไม่ติดต่อกัน, ขาดตอนกัน, Syn. precipitate, sudden, Ant. expected, smooth
adjacency(อะเจ' เซินซี) n., (pl. -cies) ภาวะที่อยู่ชิดกัน, ภาวะประชิดกัน, การอยู่ติดต่อกัน, ของที่ติดต่อกัน., Syn. juxtaposition
adjacent(อะเจ' เซินทฺ) adj. ใกล้, ชิด, ติดต่อกัน, ซึ่งมียอดและด้านเดียวกัน, Syn. adjoining
alphabetic stringสายตัวอักษรหมายถึงตัวอักขระหลาย ๆ ตัวที่เมื่อนำมาต่อกันแล้วสื่อความหมายบางอย่างและสามารถนำไปเก็บในหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือสื่อชนิดต่าง ๆ ได้มีความหมายเหมือน character string
anastomose(อะแนส' ทะโมส) vt., vi. เชื่อมต่อ, ทำให้เชื่อมต่อกัน (connect by anastomosis)
articulate(อาร์ทิค'คิวเลท) adj. เป็นข้อ, เป็นปล้อง, ออกเสียงชัดเจน, สามารถพูดได้, ชัดเจน, มีความหมาย. -vt. ออกเสียงชัดเจน, พูดอย่างชัดเจน, ต่อกัน, ประกบ. -articulability, articulateness, articulacy n., Syn. clear, enunciate, Ant. indistinct, confused
articulation(อาร์ทิคคิวเล'เชิน) n. การต่อกัน, การเชื่อมประกบ, กระบวนการพูดได้อย่างชัดเจน, ข้อต่อ, ปล้อง, ระดับที่ชัดเจน. -articulatory adj., Syn. joint
batter { batteredvt. ทุบติดต่อกัน, ตีติดต่อกัน, โจมตีติดต่อกัน, ใช้จนเสีย, นวด - n. ผู้ตี, ผู้นวด, มือตีเบสบอล (หรือคริกเก็ต)
batteringvt. ทุบติดต่อกัน, ตีติดต่อกัน, โจมตีติดต่อกัน, ใช้จนเสีย, นวด - n. ผู้ตี, ผู้นวด, มือตีเบสบอล (หรือคริกเก็ต)
batters }vt. ทุบติดต่อกัน, ตีติดต่อกัน, โจมตีติดต่อกัน, ใช้จนเสีย, นวด - n. ผู้ตี, ผู้นวด, มือตีเบสบอล (หรือคริกเก็ต)
cascade(แคส'เคด) { cascaded, cascading, cascades } n. น้ำตกเล็กที่ตกจากหน้าผาที่สูงชัน, น้ำตกเป็นหลั่น ๆ , การต่อไฟฟ้าเป็นหลั่น ๆ , การเชื่อมโยง, ใบพะเนียด vt., vi. ตกลงมาเหมือนน้ำตก, ต่อเนื่องกันเป็นขั้นบันได, Syn. cataract แบบต่อเรียงการจัดเรียงวินโดว์บนจอภาพนั้น สามารถทำได้ 2 แบบ คือให้เป็นแบบต่อเรียง ซึ่งจะทำให้สามารถมองเห็นชื่อของแต่ละวินโดว์ที่เรียงต่อกัน หรือแบบแผ่เรียง tile ซึ่งจะทำให้มองเห็นทุกวินโดว์บนจอพร้อม ๆ กันในขนาดเล็ก ๆ ก็ได้ ทั้งนี้แล้วแต่คำสั่งของผู้ใช้เครื่อง คอมพิวเตอร์ ว่าจะสั่งให้เป็นแบบ cascade หรือ tileดู tile เปรียบเทียบ
catena(คะท''นะ) n. อนุกรมที่ติดต่อกัน, สายโซ่ -pl. catenae
character stringหมายถึง ตัวอักขระหลาย ๆ ตัวที่เมื่อนำมาต่อกันแล้ว สื่อความหมายบางอย่าง และสามารถนำไปเก็บในหน่วยความจำของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือสื่อ (media) ชนิดต่าง ๆ ได้ นอกจากนั้น จะต้องทำให้คอมพิวเตอร์สามารถแยกออกว่าไม่ใช่คำสั่งในภาษามีความหมายเหมือน alphabetic string หรือ string
circuit switchingการสลับวงจรในด้านการสื่อสารข้อมูล (data communications) หมายถึงเทคนิคในการสื่อสารข้อมูลจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง เมื่อมีการเชื่อมต่อกันแล้วจะติดต่อกันได้ตลอดเวลา ผู้อื่นจะแทรกเข้ามาไม่ได้เลย จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะปลดวงจรออก ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น การติดต่อทางสายโทรศัพท์ เมื่อเริ่มพูดกันได้แล้ว คนอื่นจะต่อสายแทรกเข้ามาไม่ได้ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะวางหูลง (ปลดวงจร) ดู packet switching เปรียบเทียบ
coalesce(โคอะเลส') { coalesced, coalescing, coalesces } v. รวมกัน, เชื่อมกัน, ต่อกัน, See also: coalescence n. ดูcoalesce coalescent adj. ดูcoalesce, Syn. unite-A. separate
comity(คอม'มะ) n มารยาทที่มีต่อกัน, ไมตรีจิตที่มีต่อกัน
communicable(คะมูน'นะคะเบิล) adj. ซึ่งสามารถติดต่อกันได้, ช่างพูด., See also: communicability n. -S...
concatenate(คอนแคท 'ทะเนท) vt, เชื่อมเข้าด้วยกัน ต่อกันหมายถึง การเชื่อมโยงสายอักขระ (string) สองสายเข้าเป็นสายเดียวกัน เช่น เชื่อม "ABC" และ "DEF" เป็น "ABCDEF" เป็นต้น เราอาจนำมาใช้กับการนำแฟ้มข้อมูลมาต่อกันก็ได้
correspond(คอรีสฺพอนดฺ') { corresponded, corresponding, corresponds } vi. ตรงกัน, ลงรอยกัน, เหมือนกับ, มีลักษณะเช่นเดียวกัน, ติดต่อกันทางจดหมาย, Syn. agree, Ant. differ
correspondence(คอริสพอน'เดินซฺ) n. การติดต่อกันทางจดหมาย, ความตรงกัน, ความลงรอยกัน, ความสอดคล้องกัน, ความเหมือนกัน, Syn. agreement, conformity
correspondent(คอริสพอน'เดินทฺ) n. ผู้ติดต่อกันทางจดหมาย, ผู้ส่งจดหมาย, นักข่าว, สิ่งที่เป็นคู่กัน, สิ่งตรงกัน, บุคคลหรือบริษัทที่ติดต่อกัน, ลูกค้า adj. ซึ่งตรงกัน, ซึ่งลงรอยกัน, ซึ่งเหมือนกัน, Syn. corresponding
cursive(เคอ'ซิฟว) adj. ติดต่อกันไป (เหมือนคัดลายมือ) n. อักษรคัดลายมือ, See also: cursiveness n.
dbase(ดีเบส) เป็นชื่อโปรแกรมสำเร็จที่ได้รับความนิยมมากสมัยหนึ่งในด้านการจัดการฐานข้อมูล (database management) ได้รับการพัฒนาติดต่อกันมาหลายรุ่น (version)
ddp(ดีดีพี) ย่อมาจาก distributed data processing (แปลว่า การประมวลผลข้อมูลแบบกระจาย) หมายถึง การประมวลข้อมูลในหน่วยงานที่มีหลายสาขา และ การทำงานเป็นแบบต่างคนต่างทำ ต่างคนต่างมีข้อมูล แต่อาจมีการเชื่อมติดต่อกันโดยการสื่อสารข้อมูล (data communications) <คำย่อ> ดีดีพี ย่อมาจาก Drug Data for Pharmacist
defragนำ (แฟ้มข้อมูล) มาต่อกันในฮาร์ดดิสก์นั้น เมื่อมีการสั่งบันทึกข้อมูลลงไปแล้วมาสั่งลบภายหลัง จะทำให้มีที่ว่างเกิดขึ้นเป็นหย่อม ๆ ฉะนั้น เมื่อมีการนำแฟ้มข้อมูลใหม่บันทึกลงไป คอมพิวเตอร์ก็จะจัดการแบ่งข้อมูลใหม่นี้ให้ได้สัดส่วนพอดีกับช่องที่ว่างอยู่ก่อน ทำให้แฟ้มข้อมูลเดียวถูกเก็บเป็นหย่อม ๆ การเก็บแฟ้มข้อมูลในลักษณะนี้ เรียกว่า เป็นการกระจาย (fragmentation) โปรแกรมระบบดอสรุ่น 6.0 จึงมีคำสั่ง "defrag" ซึ่งจะช่วยจัดการนำแฟ้มข้อมูลเดียวกันมาเรียงให้ติดต่อกัน เพื่อให้การค้นคืนแฟ้มทำได้รวดเร็วขึ้น ในระบบวินโดว์ ก็จะต้องสั่งให้มีการนำแฟ้มมาต่อกันนี้เป็นครั้งคราวเสมอ
deuce(ดูซฺ) n. ไพ่ 2 แต้ม, เต๋า2แต้ม, คะแนนเสมอกันที่ชนะได้ด้วยการทำคะแนนนำติดต่อกัน2เกม, ปีศาจ, ผี, ผีสาง adj., Syn. devil, dickens
disconnectedadj. ซึ่งแยกออก, ไม่ปะติดปะต่อ, ไม่เชื่อมติดกัน, ไม่ต่อกัน, ซึ่งไร้เหตุผล, ไม่เป็นระเบียบ., Syn. rambling
disconnectionn. การแยกออก, การไม่ต่อกัน, การไร้เหตุผล, การไม่เป็นระเบียบ, Syn. disconnexion
even parityภาวะคู่หมายถึง การตรวจสอบความผิดพลาดของข้อมูล โดยการเพิ่มบิตต่อกันเข้ากับข้อมูล (concate nate) เพื่อให้จำนวนบิตที่มีค่าเป็น 1 เปลี่ยนเป็นเลขคู่ ดู odd parity เปรียบเทียบ
first generation computerคอมพิวเตอร์ยุคที่หนึ่งนับตั้งแต่เริ่มมีเครื่องคอมพิวเตอร์ใช้ มนุษย์ได้พัฒนาเครื่องมือนี้ติดต่อกันมาตลอด ทำให้มีการแบ่งวิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ออกเป็นยุค (generation) พัฒนาการของคอมพิวเตอร์ยุคแรกถือว่าเริ่มตั้งแต่ ค.ศ.1951 ถึงต้น ค.ศ.1960 คอมพิวเตอร์สมัยนั้นสามารถเก็บโปรแกรมได้ ใช้หลอดสุญญากาศเป็นหน่วยความจำ ทำให้มีขนาดใหญ่ กินเนื้อที่มาก ระหว่างทำงาน จะทำให้เกิดความร้อนสูงตลอดเวลา การทำงานจะทำได้ทีละอย่าง และจะเรียงกันไปตามลำดับคำสั่งอย่างเคร่งครัด ภาษาที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมก็มีแต่ภาษาแอสเซมบลี (assembly language) ดู generation ประกอบ
flow(โฟล) vi. ไหล, ไหลเวียน, ออกจาก, หลั่ง, มีประจำเดือน, ดำเนินไปอย่างราบรื่นและติดต่อกัน, เต็มไปด้วย, ขึ้น, ปลิว, ปลิวสะบัด, โบกสะบัด vt. ทำให้ไหล, ท่วม, ไหลบ่า. n. การไหล, การไหลเวียน, สิ่งที่ไหล, กระแสน้ำ, การไหลบ่า, การหลั่ง, การมีประจำเดือน, การเคลื่อนตัวของพลังงาน, ลูกศรช
form feedป้อนกระดาษหมายถึงอุปกรณ์ส่วนที่ใช้ป้อนกระดาษเข้าสู่จุดสัมผัสของเครื่องพิมพ์ มักใช้กับกระดาษที่ต่อกันเป็นม้วนหรือพับ เช่นกระดาษต่อเนื่อง (continuous paper)
fourth generation computeคอมพิวเตอร์ยุคที่สี่คอมพิวเตอร์ในยุคที่สี่นี้มีขนาดของหน่วยความจำเล็กกว่ายุคที่สามลงไปอีก มีการนำไอซี (IC หรือ integrated circuit) หรือวงจรเบ็ดเสร็จมารวมกันเป็นแผงใหญ่ ๆ เรียกว่าแผงวงจรรวมความจุสูง (large scale integrated circuit) หรือบางทีเรียกกันว่าชิป (chip) ทำให้สร้างคอมพิวเตอร์ได้เล็กลงมาก จึงทำให้เกิดมีไมโครคอมพิวเตอร์ (microcomputer) หรือคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (personal computer) หรือพีซีขึ้น ราคาขายในท้องตลาดก็ลดลงได้มาก ทำให้เป็นที่นิยมอย่างรวดเร็วในหมู่คนทั่วไป ไม่เฉพาะแต่นักคอมพิวเตอร์ ต่อมาปลายยุคที่สี่นี้ มีการนำพีซีหลาย ๆ เครื่องมาเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่าย (network) ทำให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นไปอีกดู generation ประกอบ
fragmental(แฟรกเมน'เทิล) adj. เป็นเศษ, เป็นชิ้น, เป็นสะเก็ด, ขาด ๆ วิ่น ๆ , ไม่ปะติดปะต่อกัน, ไม่สมบูรณ์. -fragmentally adv.
fusilade(ฟิว'ซะเลด, -ลาด) n. การระดมยิงพร้อมกัน, การปล่อยออกมาอย่างโหมระดม. vt. ระดมยิง, โหมระดม, โหมโจมตีติดต่อกัน
inarticulate(อินอาร์ทิค' คิวเลท) adj. พูดไม่เก่ง, พูดไม่เป็น, นิ่งเฉย, น้ำท่วมปาก, พูดไม่ออก, ไม่เชื่อมต่อกัน., See also: inarticulately adv. inarticulateness n., Syn. unintelligble
incessant(อินเซส' เซินทฺ) adj. ต่อเนื่อง, ไม่หยุดยั้ง, ติดต่อกัน., See also: incessantly adv.
incommunicable(อินคะมิว' นะคะเบิล) adj. ติดต่อกันไม่ได้, ถ่ายทอดออกเป็นคำพูดไม่ได้, ไม่ชอบพูดจา., See also: incommunicability, incommunicableness n. incommunicably adv.
intercommunicate(อินเทอคะมิว'นิเคท) vi. เชื่อมสัมพันธ์กัน, ติดต่อกัน. vi. แลกเปลี่ยนข่าวสารกัน, แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกัน., See also: intercommunicability, intercommunicable adj. intercommunication n. intercommunicative adj. intercommunicator n.
intercourse(อิน'เทอคอร์ส) n. การติดต่อกัน, การไปมาหาสู่กัน, การแลกเปลี่ยนความคิดกัน, การร่วมประเวณี., Syn. intercommunication
interdict(อินเทอไดทฺ') n. คำสั่งห้าม, กฎหมายที่เป็นคำสั่งห้าม, ข้อห้าม, การห้าม. vt. ห้ามขัดขวางโดยการทิ้งระเบิดติดต่อกัน., See also: interdictor n., Syn. prohibit
joinder(จอย'เดอะ) n. การร่วมกัน, การร่วมมือกัน, การร่วมฟ้อง, การเชื่อมต่อกัน
joint(จอยทฺ) { jointed, jointing, joints } n. ข้อต่อ, รอยต่อ, หัวต่อ, เดือย, ปล้อง, ข้อ, ตาไม้, ส่วนตอ, ตะเข็บ, ที่บรรจบ adj. ร่วมกัน, สัมพันธ์กัน, ในเวลาเดียวกัน, เชื่อม vt., vi. เชื่อมกัน, ต่อกัน, Syn. juncture
metastasis(มะแทส'ทะซิส) n. การย้ายของโรคหรือเชื้อหรือเซลล์จากส่วนหนึ่งหรืออวัยวะหนึ่งไปยังอีกส่วนหนึ่งหรืออวัยวะหนึ่งที่ไม่ติดต่อกันโดยตรง., See also: metastatic adj. pl. metastases
noncommunicable(นอนคะมิว'นิคะเบิล) adj. ไม่ติดต่อกันได้
ogee(โอจี', โอ'จี) n. เส้นโค้งคล้ายอักษรSที่เกิดจากการต่อกันของเส้นนูนกับเส้นเว้า, เส้นโค้งรูปหัวหอม
parasymapsisn. การเชื่อมต่อกันแบบกระหนาบข้างของโครโมโซม
parityภาวะคู่หรือคี่หมายถึง กรรมวิธีของการทดสอบความผิดพลาดของข้อมูลโดยการเพิ่มบิตต่อกันเข้ากับข้อมูล โดยวิธีการเพิ่มบิตที่มีจำนวนค่าเป็นคี่ (1) ให้เปลี่ยนเป็นเลขคู่ (0) เรียกว่า ภาวะเสริมคู่ (even parity) หรือ เพิ่มบิตที่มีจำนวนค่าเป็นคู่ (0) ให้เปลี่ยนเป็นเลขคี่ (1) เรียกว่า ภาวะเสริมคี่ (odd parity)
patch workn. สิ่งที่เกิดจากการปะติดปะต่อกัน, ของผสมผเส
plug and playต่อแล้วใช้หมายถึงเทคโนโลยีในการนำอุปกรณ์บางอย่างมาใช้ร่วมกับเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยเพียงแต่เสียบต่อกัน ก็ใช้ได้เลย ไม่ต้องมีการติดตั้งให้ลำบากอย่างเครื่องพิมพ์

English-Thai: Nontri Dictionary
affix(vt) ติดต่อกัน, ประทับ(ตรา), ใส่ความ
articulate(adj) ที่ติดต่อกัน, ที่เป็นข้อ, ที่เป็นปล้อง
articulate(vi, vt) ต่อกัน, เรียง, ประกบ, เป็นข้อ, เป็นปล้อง, ออกเสียงชัด
coalesce(vi) รวมกัน, เชื่อมต่อกัน
coalescence(n) การรวมกัน, การเชื่อมต่อกัน
cohere(vi) ติดกัน, ต่อกัน, เกาะกัน, เชื่อมโยง
coherence(n) การติดต่อกัน, การเชื่อมโยง, การเกี่ยวพัน
coherent(adj) ติดต่อกัน, เชื่อมโยงกัน, เกี่ยวข้องกัน, สอดคล้องกัน
communicable(adj) ซึ่งสามารถติดต่อกันได้
conjoin(vt) ประสานกัน, เชื่อมกัน, รวมกัน, ต่อกัน
conjugate(adj) เชื่อมต่อกัน, ผัน
conjugation(n) การผันคำกริยา, การเชื่อมต่อกัน, การรวมกัน
connect(vi, vt) ติดต่อกัน, เกี่ยวข้อง, เกี่ยวดอง, ต่อเนื่อง, สัมพันธ์
connective(adj) ซึ่งติดต่อกัน, ซึ่งเกี่ยวดองกัน, ซึ่งเกี่ยวข้องกัน
consecutive(adj) เป็นลำดับ, ติดต่อกัน, ซึ่งต่อเนื่องมา, ซึ่งตามกันมา
contagious(adj) แพร่หลายง่าย, เป็นโรคติดต่อ, ติดต่อกันได้
contiguity(n) ความใกล้ชิด, การประชิด, การเชื่อมติด, การติดต่อกัน
contiguous(adj) ใกล้ชิด, ติดกัน, ติดต่อกัน, เชื่อมติด, ประชิด
continuous(adj) ติดต่อกัน, สืบเนื่องกัน, ต่อเนื่องกัน, ไม่ขาดสาย
cursive(adj) ติดต่อกันไป, ติดกันไป
desultory(adj) ไม่ปะติดปะต่อ, ไม่ต่อเนื่อง, ไม่ติดต่อกัน, ข้ามๆไป
endways(adv) ปลายทาง, ปลายสุด, ตามยาว, เรียงกัน, ต่อกัน
incoherence(n) ความไม่ติดต่อกัน, ความไม่เกาะกัน, ความร่วน
incoherent(adj) ไม่ติดต่อกัน, ไม่ต่อเนื่องกัน, ไม่เกาะกัน, ซึ่งร่วนซุย
incommunicable(adj) ติดต่อกันไม่ได้, สื่อสารกันไม่ได้
infectious(adj) ติดต่อกัน, ระบาดถึงกัน, แพร่เชื้อ, ลาม
interact(vt) มีปฏิกิริยาต่อกัน, มีผลกระทบต่อกัน
interlock(vt) ร้อยต่อกัน, ผูกเข้าด้วยกัน, ประสาน
join(vt) รวม, เข้าร่วม, ต่อกัน, พบ, บรรจุ, เข้าเป็นสมาชิก
patchwork(n) การเย็บปะติดปะต่อกัน
septic(adj) ซึ่งติดเชื้อ, ซึ่งติดต่อกัน
sequent(adj) ซึ่งติดต่อกัน, ตามลำดับ, ซึ่งต่อเนื่องกัน
serial(adj) เป็นตอน, เป็นอันดับ, ต่อเนื่องกัน, ติดต่อกัน
splice(vt) ต่อเข้ากับ, ผูกต่อกัน, ประกบ, ทำให้ติดกัน
telepathy(n) การติดต่อกันทางจิต
transact(vt) ติดต่อกัน, จัดการ, ทำการค้า, ทำธุรกิจ
transaction(n) การติดต่อกัน, ธุรกิจ, การซื้อขาย
unbroken(adj) ไม่แตก, เป็นทิว, ติดต่อกัน, ไม่เสียหาย

English-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
concatenation(n) การเชื่อมเข้าด้วยกัน, การเชื่อมต่อกัน, การต่อกัน, Syn. concatenate
interlocking[れんけつする] (aux, verb) เชื่อมต่อกัน
panel painting[แพเนล เพ้นทิง] (n) จิตรกรรมแผง เป็นจิตรกรรมที่เขียนบนแผงที่ทำด้วยไม้ที่อาจจะเป็นแผ่นเดียวหรือหลายแผ่นเชื่อมต่อกัน เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเขียนภาพมาจนถึงราวคริสต์ศตวรรษที่ 16 ก่อนที่การเขียนบนผ้าใบจะกลายมาเป็นที่นิยมกัน (Wikipedia.org)
spectrum(n) ความคิด วิธีการซึ่งมีหลากหลายและสัมพันธ์หรือมีผลกระทบต่อกัน (ที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่ง เช่นวิธีแก้ปัญหาคนไร้ที่อยู่อาศัย)

Japanese-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
丁目[ちょうめ, choume] ช่วงตึก (แถวติดต่อกันของอาคาร)
連休[れんきゅう, renkyuu] วันหยุดติดต่อกันหลายวัน
連休[れんきゅう, renkyuu] วันหยุดติดต่อกันหลายวัน

Japanese-Thai-English: Saikam Dictionary
繋がる[つながる, tsunagaru] TH: เชื่อมต่อกันกับ  EN: connected to

German-Thai: Longdo Dictionary
kommunizieren(vi) |kommunizierte, hat kommuniziert| ติดต่อสื่อสาร, เชื่อมต่อ เช่น Wie kommunizieren Zellen? พวกเซลล์ติดต่อกันอย่างไร, Syn. mitteilen
Trennfläche(n) |die, pl. Trennflächen| พื้นผิวสองผิวที่ต่อกัน รอยต่อระหว่างผิวสองผิวที่อาจเป็นคนละชนิดก็ได้ เช่น An der Trennfläche zwischen der Alu-Platte und der Stahlplatte wird zusammengeschweißt. ตรงแนวต่อระหว่างแผ่นอะลูมิเนียมกับแผ่นเหล็กจะถูกเชื่อมเข้าด้วยกัน

German-Thai: Longdo Dictionary (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
zueinander(adj) ต่อกัน, Syn. gegenseitig

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top