ผลลัพธ์การค้นหาสำหรับ

*สถานภาพ*

   
ภาษา
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


ลองค้นหาคำในรูปแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์มากขึ้นหรือน้อยลง: สถานภาพ, -สถานภาพ-
มีผลลัพธ์ที่ไม่แสดงผลอยู่
ปรับการตั้งค่า
Dictionaries languages

English Phonetic Symbols




Chinese Phonetic Symbols


Longdo Dictionary ภาษา ไทย (TH) - อังกฤษ (EN) (UNAPPROVED version -- use with care )  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
สถานภาพบุคคลVital Status

Thai-English: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
สถานภาพ(n) status
สถานภาพ(n) status, Example: ชนบทบาทและสถานภาพของหญิงสูงขึ้น ทั้งในระดับครอบครัวและระดับสังคม, Count Unit: สถานภาพ, Thai Definition: ฐานะ, ตำแหน่งหรือเกียรติยศของบุคคลที่ปรากฏในสังคม
สถานภาพสมรส(n) marriage status, Example: ขณะที่เขาอยู่ในสถานภาพสมรส เขาควรต้องให้เกียรติภรรยาเขา
สถานภาพการสมรส(n) marital status
สถานภาพการทำงาน(n) work status, Example: การปฏิบัติตามบทบาทในการทำงานคือ การปฏิบัติตามสิทธิและหน้าที่ของสถานภาพการทำงานหรือตำแหน่งของตน
สถานภาพทางการศึกษา(n) educational status

ไทย-ไทย: พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔
สถานภาพน. ฐานะ เช่น ราชบัณฑิตยสถานมีสถานภาพเป็นแหล่งค้นคว้าและบำรุงสรรพวิชา
สถานภาพตำแหน่งหรือเกียรติยศของบุคคลที่ปรากฏในสังคม เช่น เขามีสถานภาพเป็นผู้เชี่ยวชาญทางโบราณคดี
สถานภาพสิทธิหน้าที่ตามบทบาทของบุคคล เช่น เขามีสถานภาพทางครอบครัวเป็นบิดา.
กฎหมายแพ่งน. กฎหมายที่วางระเบียบความเกี่ยวพันระหว่างบุคคลเกี่ยวกับสถานภาพ สิทธิ และหน้าที่ของบุคคลตามกฎหมาย เช่น กฎหมายว่าด้วยนิติกรรม ละเมิด ทรัพย์สิน ครอบครัว มรดก.
กฎหมายเอกชนน. กฎหมายที่วางระเบียบความเกี่ยวพันระหว่างเอกชนหรือระหว่างเอกชนกับรัฐ ในฐานะที่รัฐดำเนินการอย่างเอกชนเกี่ยวกับสถานภาพของบุคคลตามกฎหมาย สิทธิและหน้าที่ของเอกชน รวมทั้งวางระเบียบเกี่ยวกับทรัพย์สินของเอกชน เช่น กฎหมายแพ่ง กฎหมายพาณิชย์.
คำนำหน้าชื่อน. คำที่ใช้นำหน้าชื่อบุคคลเพื่อแสดงสถานภาพ ตำแหน่งทางวิชาการ ยศ บรรดาศักดิ์ หรือฐานันดรศักดิ์, คำนำหน้านาม ก็เรียก.
คำนำหน้านามน. คำที่ใช้นำหน้าชื่อบุคคลเพื่อแสดงสถานภาพ ตำแหน่งทางวิชาการ ยศ บรรดาศักดิ์ หรือฐานันดรศักดิ์, คำนำหน้าชื่อ ก็เรียก.
คำสั่งทางปกครองน. การใช้อำนาจตามกฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่มีผลเป็นการสร้างนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคลในอันที่จะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน ระงับ หรือมีผลกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคล ไม่ว่าจะเป็นการถาวรหรือชั่วคราว เช่น การสั่งการ การอนุญาต การอนุมัติ การวินิจฉัยอุทธรณ์ การรับรอง และการรับจดทะเบียน แต่ไม่หมายความรวมถึงการออกกฎ.
จริยศาสตร์น. ปรัชญาสาขาหนึ่งว่าด้วยการแสวงหาความดีสูงสุดของชีวิตมนุษย์ แสวงหาเกณฑ์ในการตัดสินความประพฤติของมนุษย์ว่าอย่างไหนถูกไม่ถูก ดีไม่ดี ควรไม่ควร และพิจารณาปัญหาเรื่องสถานภาพของค่าทางศีลธรรม.
ชั้นสถานภาพทางสังคมที่ไม่เสมอกัน เช่น ชนชั้นกลาง ชนชั้นกรรมาชีพ
ผู้น้อยน. คนที่มีอายุน้อย, ผู้ที่ถือกันว่ามีสถานภาพด้อยกว่า, คนที่อยู่ใต้บังคับบัญชา.
ผู้หลักผู้ใหญ่บุคคลที่วางตัวหรือมีความคิดและความประพฤติเหมาะสมกับสถานภาพ เช่น แต่งงานแล้วดูเป็นผู้หลักผู้ใหญ่มากขึ้น.
ล้มไม่ลงหักล้างหรือโค่นผู้อื่นไม่สำเร็จ, โดยปริยายหมายความว่า พยายามรักษาสถานภาพไว้ไม่ให้ซวดเซ เช่น ธนาคารล้มไม่ลง เพราะถ้าล้มประชาชนจะเดือดร้อน.
หนังสือสุทธิน. หนังสือที่พระอุปัชฌาย์ออกให้พระภิกษุหรือสามเณรเพื่อรับรองสถานภาพความเป็นภิกษุหรือสามเณร.

อังกฤษ-ไทย: ศัพท์บัญญัติราชบัณฑิตยสถาน [เชื่อมโยงจาก orst.go.th แบบอัตโนมัติและผ่านการปรับแก้]
status wordคำแสดงสถานภาพ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
status, civil serviceสถานภาพข้าราชการพลเรือน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
statusสถานภาพ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
statusสถานภาพ [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
statusสถานภาพ, สถานะ [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
status animarumสถานภาพบุคคล [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
status barแถบสถานภาพ [คอมพิวเตอร์ ๑๙ มิ.ย. ๒๕๔๔]
status barแถบสถานภาพ [เทคโนโลยีสารสนเทศ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
status in employmentสถานภาพการจ้างงาน [ ดู employment status ] [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
social mobilityการเปลี่ยนสถานภาพทางสังคม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
social status categoryประเภทตามสถานภาพทางสังคม [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
social status groupกลุ่มตามสถานภาพทางสังคม [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
orphanhood statusสถานภาพกำพร้า [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
mobility, socialการเปลี่ยนสถานภาพทางสังคม [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
marital statusสถานภาพสมรส [ ดู conjugal status ] [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
marital statusสถานภาพทางการสมรส [นิติศาสตร์ ๑๑ มี.ค. ๒๕๔๕]
civil service statusสถานภาพข้าราชการพลเรือน [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
civil statusสถานภาพพลเมือง [รัฐศาสตร์ ๑๗ ส.ค. ๒๕๔๔]
civil statusสถานภาพพลเมือง [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
conjugal statusสถานภาพสมรส [ ดู marital status ] [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
family planning statusสถานภาพการวางแผนครอบครัว [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
employment statusสถานภาพการจ้างงาน [ ดู status in employment ] [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
educational statusสถานภาพทางการศึกษา [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
industrial statusสถานภาพอุตสาหกรรม [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
widowhood statusสถานภาพเป็นม่าย [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]
work statusสถานภาพการทำงาน [ประชากรศาสตร์ ๔ ก.พ. ๒๕๔๕]

อังกฤษ-ไทย: คลังศัพท์ไทย โดย สวทช.
Economic statusสถานภาพทางเศรษฐศาสตร์ [เศรษฐศาสตร์]
Statusสถานภาพทางกฏหมายของสิทธิบัตร ทั้ง 2 ประเภท (ยื่นขอ และ อนุมัติ), สถานภาพทางกฏหมายของสิทธิบัตร ทั้ง 2 ประเภท (ยื่นขอ และ อนุมัติ), Example: เช่น แสดงถึงว่ากำลังรอคอยการพิจารณา การสิ้นสุดสิทธิ หรืออยู่ในความคุ้มครองอยู่ [ทรัพย์สินทางปัญญา]
International statusสถานภาพระหว่างประเทศ [TU Subject Heading]
Legal status, laws, etc.สถานภาพทางกฎหมาย [TU Subject Heading]
Status (Laws)สถานภาพ (กฏหมาย) [TU Subject Heading]
Social Status Groupกลุ่มสถานภาพทางสังคม, Example: ลักษณะของกลุ่มต่างๆ ที่ใช้กันในงานประชากร โดยแบ่งสังคมออกเป็นกลุ่มชั้นต่างๆ เรียกว่า การจัดช่วงชั้นทางสังคม (social stratification) ใช้เกณฑ์ของลักษณะ อาชีพ รายได้ การศึกษา หรือดัชนีอื่นๆ ทางเศรษฐกิจที่มีลักษณะคล้ายกัน [สิ่งแวดล้อม]
Employment Statusสถานภาพการจ้างงาน [สิ่งแวดล้อม]
Educational Statusสถานภาพทางการศึกษา, Example: การจำแนกกลุ่มประชากรออกเป็น กลุ่มผู้ไม่รู้หนังสือ (illiterate) คือ บุคคลที่มีอายุอยู่ในระดับที่ควรจะอ่านออกเขียนได้ แต่ไม่สามารถอ่านและเขียนได้ และกลุ่มผู้รู้หนังสือ (literate) คือ บุคคลที่สามารถอ่านออกและเขียนได้ [สิ่งแวดล้อม]
Employer Statusสถานภาพนายจ้าง, Example: เป็นการจำแนกประชากรที่ทำงานตามสถานภาพ การทำงาน ซึ่งจะแบ่งออกเป็นนายจ้างและลูกจ้าง [สิ่งแวดล้อม]
Employee Statusสถานภาพลูกจ้าง, Example: เป็นการจำแนกประชากรที่ทำงานตามสถานภาพ การทำงาน ซึ่งจะแบ่งออกเป็นนายจ้างและลูกจ้าง [สิ่งแวดล้อม]
Congress of Viennaเป็นการประชุมระหว่างประเทศที่สำคัญในยุโรป ได้จัดให้มีขึ้นหลังจากเสร็จสงครามนโปเลียน (กันยายน ค.ศ. 1814 ? มิถุนายน ค.ศ. 1815) ประเทศที่ร่วมการประชุมมี ออสเตรีย อังกฤษ ฝรั่งเศส รัฐสันตะปาปา ปรัสเซีย และรัสเซีย ภาระหน้าที่สำคัญของการประชุม คือ การปักปันเขตแดนกันใหม่ และจัดให้ราชวงศ์เก่าแก่กลับฟื้นคืนมาใหม่ ทั้งในประเทศฝรั่งเศส สเปน อิตาลี และเยอรมนี สหภาพแห่งนอร์เวย์ และสวีเดน สหภาพแห่งเบลเยี่ยม และฮอลแลนด์ พร้อมทั้งกำหนดให้สวิตเซอร์แลนด์ มีฐานะเป็นประเทศเป็นกลางถ้ามองในแง่การทูต ผลสำเร็จสำคัญที่สุดจากการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาคือ ข้อมติกำหนดลำดับอาวุโสของคณะผู้แทนทางการทูต โดยถือหลักอาวุโสไม่ว่าในตำแหน่งใด แทนที่จะถือตามสถานภาพและความสำคัญของกษัตริย์อย่างแต่ก่อน รวมทั้งจัดประเภทของนักการทูต ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 ประเภท (ตามระเบียบที่วางขึ้นใหม่ต่อมาในการประชุม ณ Aix-la-Chapelle ได้แก่1) เอกอัครราชทูต (Ambassadors) ตัวแทนขององค์สมเด็จพระสันตะปาปา (Papal legates) และหัวหน้าคณะทูตของสมเด็จพระสันตะปาปา (Papal Nuncios)2) ผู้แทนทางการทูตผู้มีอำนาจพิเศษ (Envoys Extra-ordinary) และเอกอัครราชทูตผู้มีอำนาจเต็ม (Ministers Plenipotentiary) อินเตอร์นันสิโอของสมเด็จพระสันตะปาปา3) อัครราชทูตผู้มีถิ่นประจำ (Ministers Resident)4) อุปทูต (Chargé d?affaires)คองเกรสแห่งเวียนนายังวางระเบียบเกี่ยวกับเรื่องการจัดลำดับ อาวุโสของบุคคลในคณะทูต ซึ่งชาติต่าง ๆ ได้ลงนามรับรองในสนธิสัญญาพาหุภาคีเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว [การทูต]
Commission on the Status of Womenคณะกรรมาธิการว่าด้วยสถานภาพสตรี [การทูต]
Diplomatic Pouchถุงเมล์ทางการทูตที่บรรจุหนังสือโต้ตอบทางราชการ ระหว่างกระทรวงการต่างประเทศของรัฐบาล กับสถานเอกอัครราชทูตต่าง ๆ ใน ต่างประเทศ ถุงเมล์ทูตจะถูกปิดประทับตราของทางราชการ และผู้ใดจะล่วงละเมิดมิได้ แม้แต่เจ้าหน้าที่ศุลกากรก็ขอตรวจไม่ได้ คือได้รับการละเว้นจากการแทรกแซงใด ๆ ทั้งสิ้นเรื่องถุงเมล์ทางการทูตนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูตได้บัญญัติไว้ในข้อ 27 ว่า?1. ในรัฐผู้รับจะอนุญาตและคุ้มครองการสื่อสารโดยเสรีในส่วนของคณะผู้แทน เพื่อความมุ่งประสงค์ทั้งมวลในการติดต่อกับคณะรัฐบาลและกับคณะผู้แทน และสถานกงสุลอื่นของรัฐผู้ส่งไม่ว่าตั้งอยู่ที่ใด คณะผู้แทนอาจใช้วิถีทางเหมาะสมทั้งมวลได้ รวมทั้งผู้สื่อสารทางการทูต และสารเป็นรหัสหรือประมวล อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนอาจติดตั้งและใช้เครื่องส่งวิทยุได้ด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ เท่านั้น 2. หนังสือโต้ตอบทางการทูตของคณะผู้แทนจะถูกละเมิดมิได้ หนังสือโต้ตอบทางการทูตหมายถึง หนังสือโต้ตอบทั้งมวลที่เกี่ยวกับคณะผู้แทนและภารกิจหน้าที่ของคณะผู้แทน 3. ถุงเมล์ทางการทูตจะไม่ถูกเปิดหรือถูกกักไว้ 4. หีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางการทูตจะต้องมีเครื่องหมายติดไว้ภายนอกที่เห็น ชัดเจน แสดงลักษณะของถุงทางการทูตและอาจบรรจุเอกสารหรือสิ่งของทางการทูต ซึ่งได้เจตนาเพื่อใช้ในทางการเท่านั้น 5. ผู้ถือสารทางการทูต (Diplomatic courrier) จะได้รับเอกสารทางการ แสดงสถานภาพของตนและจำนวนหีบห่อ ซึ่งรวมเป็นถุงทางทูตนั้น ให้ได้รับความคุ้มครองจากรัฐผู้รับในการปฏิบัติการตามหน้าที่ของตน ให้ผู้ถือสารทางการทูตได้อุปโภคความละเมิดมิได้ และจะต้องไม่ถูกจับกุมหรือกักในรูปใด 6. รัฐผู้ส่งหรือคณะผู้แทนอาจแต่งตั้งผู้ถือสารทางการทูตเฉพาะกรณีได้ในกรณีที่ ว่านี้ให้นำบทแห่งวรรค 5 ของข้อนี้มาใช้ด้วย เว้นแต่ว่าความคุ้มกันที่กล่าวไว้ในวรรคนั้นให้ยุติไม่ใช้ เมื่อผู้ถือสารนี้ได้ส่งถุงทางการทูตในหน้าที่ของตนให้แก่ผู้รับแล้ว 7. ถุงทางการทูตอาจจะมอบหมายไว้แก่ผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งได้มีพิกัดจะลง ณ ท่าเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาตแล้วได้ ให้ผู้บังคับบัญชาของเครื่องบินพาณิชย์รับเอกสารทางการ แสดงจำนวนหีบห่อซึ่งรวมเป็นถุง แต่ไม่ให้ถือว่าผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์เป็นผู้ถือสารทางการทูต คณะผู้แทนอาจส่งบุคคลหนึ่งในคณะผู้แทนไปรับมอบถุงทางการทูตได้โดยตรงและโดย เสรีจากผู้บังคับการของเครื่องบิน?คำว่าถุงทางการทูตนี้ กระทรวงการต่างประเทศอังกฤษเรียกว่า ?Diplomatic bag? ส่วนในภาษาฝรั่งเศสใช้คำว่า ?Valise Diplomatique? [การทูต]
Diplomatic Secretariesตำแหน่งเลขานุการทางการทูตในสถานเอกอัครราชทูต ตำแหน่งเลขานุการทางการทูตจะมีอยู่ 3 ระดับ คือ เลขานุการเอก เลขานุการโท และเลขานุการตรี ทั้งสามระดับอยู่รองลงมาจากตำแหน่งที่ปรึกษา (Counselor) ระดับทั้งหมดนี้มีฐานะทางการทูต มีเอกสิทธิ และความคุ้มกันทางการทูตทั้งมวล และชื่อจะปรากฎอยู่ในสมุดเอกสารรายชื่อบุคคลในคณะทูตตำแหน่งเลขานุการทางการ ทูตเหล่านี้ อย่าไปปนกับตำแหน่งเลขานุการส่วนตัวของเอกอัครราชทูต ซึ่งแม้จะมีฐานะสำคัญในสถานเอกอัครราชทูต แต่ไม่มีสถานภาพทางการทูตแต่อย่างใด รวมทั้งตำแหน่งเลขานุการ ซึ่งทำหน้าที่เสมียนจดชวเลขและพิมพ์ดีด [การทูต]
Freedom of Communicationเสรีภาพในการติดต่อและสื่อสาร ถือเป็นสิทธิทางกฎหมาย (ไม่ใช่เพียงเอกสิทธิ์เท่านั้น) ที่สำคัญอันหนึ่งของนักการทูตย่อมจะเห็นได้ชัดว่า คณะทูต จะไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างพึงพอใจ นอกจากจะมีอิสระอย่างสมบูรณ์ในการที่จะมีหนังสือหรือวิถีทางอื่นๆ เพื่อติดต่อกับรัฐบาลของตน หรือจะส่งและรับจดหมาย หรือหนังสือต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่ถือสารพิเศษ หรือโดยถุงทางการทูต (Diplomatic pouch) สำหรับเรื่องนี้ อนุสัญญากรุงเวียนนาว่าด้วยความสัมพันธ์ทางการทูต ได้บัญญัติไว้ในข้อ 27 ดังนี้?1. ให้รัฐผู้รับอนุญาตและคุ้มครองการสื่อสารโดยเสรีในส่วนของคณะผู้แทน เพื่อความมุ่งประสงค์ในทางการทั้งมวลเพื่อการติดต่อกับรัฐบาล และกับคณะผู้แทนและสถานกงสุลอื่นของรัฐผู้ส่ง ไม่ว่าตั้งอยู่ ณ ที่ใด คณะผู้แทนอาจใช้วิถีทางที่เหมาะสมทั้งมวลได้ รวมทั้งผู้ถือสารทางการทูต และสารเป็นรหัสหรือประมวล อย่างไรก็ดี คณะผู้แทนอาจติดตั้งและใช้เครื่องส่งวิทยุได้ด้วยความยินยอมของรัฐผู้รับ เท่านั้น 2. หนังสือโต้ตอบทางการของคณะผู้แทนจะถูกละเมิดมิได้ หนังสือโต้ตอบทางการ หมายถึง หนังสือโต้ตอบทั้งมวลที่เกี่ยวกับคณะผู้แทนและภารกิจหน้าที่ของคณะผู้แทน 3. ถุงทางการทูต (Diplomatic Pouch) จะไม่ถูกเปิดหรือถูกกักไว้ 4. หีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางการทูต จะต้องมีเครื่องหมายภายนอกที่เห็นได้ชัดเจน สามารถแสดงลักษณะของถุงทางการทูต ซึ่งอาจบรรจุเพียงเอกสารหรือสิ่งของทางการทูตที่เจตนาเพื่อใช้ในทางการเท่า นั้น 5. ผู้ถือสารทางการทูต (Diplomatic courrier) จะได้รับเอกสารทางการแสดงสถานภาพของตน และจำนวนหีบห่อซึ่งรวมเป็นถุงทางทูตนั้น ให้ได้รับความคุ้มครองจากรัฐผู้รับ ในการปฏิบัติการตามหน้าที่ของตน ให้ผู้ถือสารทางการทูตได้อุปโภคความละเมิดมิได้ ส่วนบุคคลจะต้องไม่ถูกจับกุมหรือกักขังในรูปใด 6. รัฐผู้ส่งหรือคณะผู้แทนอาจแต่งตั้งผู้ถือสารทางการทูตเฉพาะกรณีได้ ในกรณีที่ว่านี้ให้นำบทแห่งวรรค 5 ของข้อนี้มาใช้ด้วย เว้นแต่ว่าความคุ้มกันที่กล่าวไว้ในวรรคนั้นให้ยุติไม่ใช้ เมื่อผู้ถือสารนี้ได้ส่งถุงทางการทูตในหน้าที่ของตนให้แก่ผู้รับแล้ว 7. ถุงทางการทูตอาจจะมอบหมายไว้แก่ผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์ ซึ่งได้มีพิกัดจะลง ณ ท่าเข้าเมืองที่ได้รับอนุญาตแล้วได้ ให้ผู้บังคับบัญชาของเครื่องบินพาณิชย์รับเอกสารทางการแสดงจำนวนหีบห่อซึ่ง รวมเป็นถุง แต่ไม่ใช่ถือว่าผู้บังคับการของเครื่องบินพาณิชย์เป็นผู้ถือสารทางทูต คณะผู้แทนอาจส่งบุคคลหนึ่งในคณะผู้แทนไปรับมอบถุงทางการทูตได้โดยตรง และโดยเสรีจากผู้บังคับการของเครื่องบิน? [การทูต]
Gorbachev doctrineนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ เป็นศัพท์ที่สื่อมวลชนของประเทศฝ่ายตะวันตกบัญญัติขึ้น ในตอนที่กำลังมีการริเริ่มใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับนโยบายต่างประเทศของโซเวียตในด้านความร่วมมือระหว่างประเทศอภิมหา อำนาจตั้งแต่ ค.ศ. 1985 เป็นต้นมา ภายใต้การนำของ นายมิคาอิล กอร์บาชอฟ ในระยะนั้น โซเวียตเริ่มเปลี่ยนทิศทางของสังคมภายในประเทศใหม่ โดยยึดหลักกลาสนอสต์ (Glasnost) ซึ่งหมายความว่า การเปิดกว้าง รวมทั้งหลักเปเรสตรอยก้า (Perestroika) อันหมายถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างใหม่ในช่วงปี ค.ศ. 1985 ถึง 1986 บุคคลสำคัญชั้นนำของโซเวียตผู้มีอำนาจในการตัดสินใจนี้ ได้เล็งเห็นและสรุปว่าการที่ประเทศพยายามจะรักษาสถานภาพประเทศอภิมหาอำนาจ และครองความเป็นใหญ่ในแง่อุดมคติทางการเมืองของตนนั้นจำต้องแบกภาระทาง เศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง แต่ประโยชน์ที่จะได้จริง ๆ นั้นกลับมีเพียงเล็กน้อย เขาเห็นว่า แม้ในสมัยเบรสเนฟ ซึ่งได้เห็นความพยายามอันล้มเหลงโดยสิ้นเชิงของสหรัฐฯ ในสงครามเวียดนาม การปฏิวัติทางสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในแองโกล่า โมซัมบิค และในประเทศเอธิโอเปีย รวมทั้งกระแสการปฏิวัติทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นในแถบประเทศละตินอเมริกา ก็มิได้ทำให้สหภาพโซเวียตได้รับประโยชน์ หรือได้เปรียบอย่างเห็นทันตาแต่ประการใด แต่กลับกลายเป็นภาระหนักอย่างยิ่งเสียอีก แองโกล่ากับโมแซมบิคกลายสภาพเป็นลูกหนี้อย่างรวดเร็ว เอธิโอเปียต้องประสบกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างสาหัส และการที่โซเวียตใช้กำลังทหารเข้ารุกรานประเทศอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1979 ทำให้ระบบการทหารและเศรษฐกิจของโซเวียตต้องเครียดหนักยิ่งขึ้น และการเกิดวิกฤตด้านพลังงาน (Energy) ในยุโรปภาคตะวันออกระหว่างปี ค.ศ. 1984-1985 กลับเป็นการสะสมปัญหาที่ยุ่งยากมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกันโซเวียตตกอยู่ในฐานะต้องพึ่งพาอาศัยประเทศภาคตะวันตกมากขึ้นทุก ขณะ ทั้งในด้านวิชาการทางเทคโนโลยี และในทางโภคภัณฑ์ธัญญาหารที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิตของพลเมืองของตน ยิ่งไปกว่านั้น การที่เกิดการแข่งขันกันใหม่ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์กับสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะแผนยุทธการของสหรัฐฯ ที่เรียกว่า SDI (U.S. Strategic Defense Initiative) ทำให้ต้องแบกภาระอันหนักอึ้งทางการเงินด้วยเหตุนี้โซเวียตจึงต้องทำการ ประเมินเป้าหมายและทิศทางการป้องกันประเทศใหม่ นโยบายหลักของกอร์บาซอฟนี่เองทำให้โซเวียตต้องหันมาญาติดี รวมถึงทำความตกลงกับสหรัฐฯ ในรูปสนธิสัญญาว่าด้วยกำลังนิวเคลียร์ในรัศมีปานกลาง (Intermediate Range Force หรือ INF) ซึ่งได้ลงนามกันในกรุงวอชิงตันเมื่อปี ค.ศ. 1987เหตุการณ์นี้ถือกันว่าเป็นมาตรการที่มีความสำคัญที่สุดในด้านการควบคุม ยุทโธปกรณ์ตั้งแต่เริ่มสงครามเย็น (Cold War) ในปี ค.ศ. 1946 เป็นต้นมา และเริ่มมีผลกระทบต่อทิศทางในการที่โซเวียตเข้าไปพัวพันกับประเทศ อัฟกานิสถาน แอฟริกาภาคใต้ ภาคตะวันออกกลาง และอาณาเขตอ่าวเปอร์เซีย กอร์บาชอฟถึงกับประกาศยอมรับว่า การรุกรานประเทศอัฟกานิสถานเป็นการกระทำที่ผิดพลาด พร้อมทั้งถอนกองกำลังของตนออกไปจากอัฟกานิสถานเมื่อปี ค.ศ. 1989 อนึ่ง เชื่อกันว่าการที่ต้องถอนทหารคิวบาออกไปจากแองโกล่า ก็เป็นเพราะผลกระทบจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟ ซึ่งได้เปลี่ยนท่าทีและบทบาทใหม่ของโซเวียตในภูมิภาคตอนใต้ของแอฟริกานั้น เอง ส่วนในภูมิภาคตะวันออกกลาง นโยบายหลักของกอร์บาชอฟได้เป็นผลให้ นายเอ็ดวาร์ด ชวาดนาเซ่ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากนายกอร์บาชอฟ เริ่มแสดงสันติภาพใหม่ๆ เช่น ทำให้โซเวียตกลับไปรื้อฟื้นสัมพันธภาพทางการทูตกับประเทศอิสราเอล ทำนองเดียวกันในเขตอ่าวเปอร์เซีย โซเวียตก็พยายามคืนดีด้านการทูตกับประเทศอิหร่าน เป็นต้นการเปลี่ยนทิศทางใหม่ทั้งหลายนี้ ถือกันว่ายังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายภายในประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและ ด้านสังคมของโซเวียต อันสืบเนื่องมาจากนโยบาย Glasnost and Perestroika ที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเองในที่สุด เหตุการณ์ทั้งหลายเหล่านี้ก็ได้นำไปสู่การล่มสลายอย่างกะทันหันของสหภาพ โซเวียตเมื่อปี ค.ศ. 1991 พร้อมกันนี้ โซเวียตเริ่มพยายามปรับปรุงเปลี่ยนแปลง รวมทั้งปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจการเมืองของประเทศให้ทันสมัยอย่างขนานใหญ่ นำเอาทรัพยากรที่ใช้ในด้านการทหารกลับไปใช้ในด้านพลเรือน พฤติกรรมเหล่านี้ทำให้เกิดจิตใจ (Spirit) ของการเป็นมิตรไมตรีต่อกัน (Détente) ขึ้นใหม่ในวงการการเมืองโลก เห็นได้จากสงครามอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งโซเวียตไม่เล่นด้วยกับอิรัก และหันมาสนับสนุนอย่างไม่ออกหน้ากับนโยบายของประเทศฝ่ายสัมพันธมิตรนัก วิเคราะห์เหตุการณ์ต่างประเทศหลายคนเห็นพ้องต้องกันว่า การที่เกิดการผ่อนคลาย และแสวงความเป็นอิสระในยุโรปภาคตะวันออกอย่างกะทันหันนั้น เป็นผลจากนโยบายหลักของกอร์บาชอฟโดยตรง คือเลิกใช้นโยบายของเบรสเนฟที่ต้องการให้สหภาพโซเวียตเข้าแทรกแซงอย่างจริง จังในกิจการภายในของกลุ่มประเทศยุโรปตะวันออก กระนั้นก็ยังมีความรู้สึกห่วงใยกันไม่น้อยว่า อนาคตทางการเมืองของกอร์บาชอฟจะไปได้ไกลสักแค่ไหน รวมทั้งความผูกพันเป็นลูกโซ่ภายในสหภาพโซเวียตเอง ซึ่งยังมีพวกคอมมิวนิสต์หัวรุนแรงหลงเหลืออยู่ภายในประเทศอีกไม่น้อย เพราะแต่เดิม คณะพรรคคอมมิวนิสต์ในสหภาพโซเวียตนั้น เป็นเสมือนจุดรวมที่ทำให้คนสัญชาติต่าง ๆ กว่า 100 สัญชาติภายในสหภาพ ได้รวมกันติดภายในประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คือมีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 6 ส่วนของพื้นที่โลก และมีพลเมืองทั้งสิ้นประมาณ 280 ล้านคนจึงสังเกตได้ไม่ยากว่า หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลายไปแล้ว พวกหัวเก่าและพวกที่มีความรู้สึกชาตินิยมแรง รวมทั้งพลเมืองเผ่าพันธุ์ต่างๆ เกิดความรู้สึกไม่สงบ เพราะมีการแก่งแย่งแข่งกัน บังเกิดความไม่พอใจกับภาวะเศรษฐกิจที่ตนเองต้องเผชิญอยู่ จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้จักรวรรดิของโซเวียตต้องแตกออกเป็นส่วน ๆ เช่น มีสาธารณรัฐที่มีอำนาจ ?อัตตาธิปไตย? (Autonomous) หลายแห่ง ต้องการมีความสัมพันธ์ในรูปแบบใหม่กับรัสเซีย เช่น สาธารณรัฐยูเกรน ไบโลรัสเซีย มอลดาเวีย อาร์เมเนีย และอุสเบคิสถาน เป็นต้น แต่ก็เป็นการรวมกันอย่างหลวม ๆ มากกว่า และอธิปไตยที่เป็นอยู่ขณะนี้ดูจะเป็นอธิปไตยที่มีขอบเขตจำกัดมากกว่าเช่นกัน โดยเฉพาะสาธารณรัฐมุสลิมในสหภาพโซเวียตเดิม ซึ่งมีพลเมืองรวมกันเกือบ 50 ล้านคน ก็กำลังเป็นปัญหาต่อเชื้อชาติสลาฟ และการที่พวกมุสลิมที่เคร่งครัดต่อหลักการเดิม (Fundamentalism) ได้เปิดประตูไปมีความสัมพันธ์อันดีกับประะเทศอิหร่านและตุรกีจึงทำให้มีข้อ สงสัยและครุ่นคิดกันว่า เมื่อสหภาพโซเวียตแตกสลายออกเป็นเสี่ยง ๆ ดังนี้แล้ว นโยบายหลักของกอร์บาชอฟจะมีทางอยู่รอดต่อไปหรือไม่ ซึ่งเป็นเรื่องที่ถกเถียงและอภิปรายกันอยู่พักใหญ่และแล้ว เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 1991 ก็ได้เกิดความพยายามที่จะถอยหลังเข้าคลอง คือกลับนโยบายผ่อนเสรีของ Glasnost และ Perestroika ทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศโดยมีผุ้ที่ไม่พอใจได้พยายามจะก่อรัฐประหาร ขึ้นต่อรัฐบาลของนายกอร์บาชอฟ แม้การก่อรัฐประหารซึ่งกินเวลาอยู่เพียงไม่กี่วันจะไม่ประสบผลสำเร็จ แต่เหตุการณ์นี้ก่อให้เกิดผลสะท้อนลึกซึ้งมาก คือเป็นการแสดงว่า อำนาจของรัฐบาลกลางย้ายจากศูนย์กลางไปอยู่ตามเขตรอบนอกของประเทศ คือสาธารณรัฐต่างๆ ซึ่งก็ต้องประสบกับปัญหานานัปการ จากการที่ประเทศเป็นภาคีอยู่กับสนธิสัญญาระหว่างประเทศต่างๆ โดยเฉพาะความตกลงเกี่ยวกับการควบคุมอาวุธยุทโธปกรณ์ ซึ่งสหภาพโซเวียตเดิมได้ลงนามไว้หลายฉบับผู้นำของสาธารณรัฐที่ใหญ่ที่สุดคือ นายบอริส เยลท์ซินได้ประกาศว่า สหพันธ์รัฐรัสเซียยังถือว่า พรมแดนที่เป็นอยู่ขณะนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ ไม่ใช่เป็นสิ่งที่จะแก้ไขเสียมิได้และในสภาพการณ์ด้านต่างประทเศที่เป็นอยู่ ในขณะนี้ การที่โซเวียตหมดสภาพเป็นประเทศอภิมหาอำนาจ ทำให้โลกกลับต้องประสบปัญหายากลำบากหลายอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเศรษฐกิจระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ ที่เคยสังกัดอยู่ในสหภาพโซเวียตเดิม จึงเห็นได้ชัดว่า สหภาพโซเวียตเดิมได้ถูกแทนที่โดยการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐต่างๆ อย่างหลวมๆ ในขณะนี้ คล้ายกับการรวมตัวกันระหว่างสาธารณรัฐภายในรูปเครือจักรภพหรือภายในรูป สมาพันธรัฐมากกว่า และนโยบายหลักของกอร์บาชอฟก็ได้ทำให้สหภาพโซเวียตหมดสภาพความเป็นตัวตนใน เชิงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitics) [การทูต]
Government in Exileรัฐบาลพลัดถิ่น คือระหว่างที่สงครามยังดำเนินอยู่ ประเทศคู่สงครามหนึ่งอาจถูกกองทัพของประเทศฝ่ายศัตรูเข้ายึดครอง ในสถานการณ์เช่นนั้น ตัวหัวหน้าของรัฐบาลหรือรัฐมนตรีของประเทศที่ถูกยึดครองอำนาจอาจไปตั้ง รรัฐบาลขึ้นชั่วคราวในดินแดนของประเทศพันธมิตรหนึ่ง ซึ่งยินยอมให้ทำเช่นนั้น รัฐบาลที่ตั้งขึ้นเป็นการชั่วคราวดังกล่าวเรียกว่า รัฐบาลพลัดถิ่น ตราบใดที่รัฐบาลพลัดถิ่นได้รับการรับรองฐานะเป็นตัวแทนของประเทศตน ย่อมดำเนินกิจการหน้าที่ของประเทศในส่วนที่เกี่ยวข้องกับประเทศอื่นๆ ได้ รัฐบาลพลัดถิ่นจะยังคงสถานภาพของตนไว้ตราบเท่าที่ยังไม่มีความพยายามต่อไป ที่จะยึดเอาดินแดนของตนที่ข้าศึกครองอยู่กลับคืนมาให้ได้ ตัวอย่างของรัฐบาลพลัดถิ่นที่เคยมีมาแล้วคือ รัฐบาลของประเทศโปแลนด์ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ กรีซ และยูโกสลาเวีย ซึ่งได้ไปตั้งอยู่ในประเทศอังกฤษ เมื่อระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ตอนที่ดินแดนของประเทศเหล่านี้ได้ถูกกองทัพของเยอรมนีเข้ายึดครอง [การทูต]
Great Powersประเทศมหาอำนาจ รัฐที่พอจะเรียกได้ว่าเป็นประเทศมหาอำนาจ คือรัฐที่มีอำนาจอิทธิพลครอบงำในกิจการระหว่างประเทศ ไม่มีกฎหมายใดๆ ที่จะกำหนดว่าประเทศนั้น ประเทศนี้มีสถานภาพเป็นมหาอำนาจ หากเป็นเพียงเพราะรัฐนั้นๆ มีขนาด พละกำลัง และอำนาจอิทธิพลทางเศรษฐกิจเป็นพื้นฐาน และจะสังเกตได้ว่า สถานะของกลุ่มประเทศมหาอำนาจเช่นนี้ก็จะเปลี่ยนแปลงได้บ่อยๆ เช่น ในสมัยการประชุมคองเกรสแห่งเวียนนาในปี ค.ศ. 1815 ประเทศมหาอำนาจในสมัยนั้นได้แก่ อังกฤษ ออสเตรีย ฝรั่งเศส ปอร์ตุเกส ปรัสเซีย สเปน สวีเดน และรัสเซีย หลังจากนั้นได้เกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่เกี่ยวกับพละกำลังของประเทศมหาอำนาจ คือก่อนเกิดสงครามโลกครั้งที่ หนึ่ง ประเทศที่จัดว่าเป็นมหาอำนาจในตอนนั้นคือ อังกฤษ ฮังการี ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และรัสเซีย ซึ่งตั้งอยู่ในทวีปยุโรป รวมทั้งสหรัฐอเมริกา และญี่ปุ่น ซึ่งตั้งอยู่นอกยุโรป เมื่อตอนสิ้นสงครามโลกครั้งที่สอง ประเทศที่เป็นมหาอำนาจได้แก่ สหรัฐอเมริกา อังกฤษ โซเวียตรัสเซีย ฝรั่งเศส และจีน พึงสังเกตด้วยว่า องค์การสหประชาชาติได้ถือว่า ประเทศทั้ง 5 นี้มีอำนาจและมีความสำคัญมากที่สุดในขณะนั้น ทั้ง 5 ประเทศนี้ต่างเป็นสมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงของสหประชาชาติ ซึ่งมีอำนาจใช้สิทธิยับยั้ง (Veto) ในที่ประชุม ซึ่งในปัจจุบันก็ยังปฏิบัติเช่นนั้นอยู่ [การทูต]
Neutralization, Neutrality หรือ Neutralismคำว่า Neutraliza-tion หมายถึง กระบวนการซึ่งรัฐได้รับการค้ำประกันความเป็นเอกราชและบูรณภาพอย่างถาวรภาย ใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศ รัฐที่ได้รับการประกันรับรองให้เป็นกลาง (Neutralized State) เช่นนี้จะผูกมัดตนว่า จะละเว้นจาการใช้อาวุธโจมตีไม่ว่าประเทศใดทั้งสิ้น นอกเสียจากว่าจะถูกโจมตีก่อน ตัวอย่างอันเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในเรื่องรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความ เป็นกลางอย่างถาวร คือ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ตามปฏิญญา (Declaration) ซึ่งมีการลงนามกัน ณ กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 1815 ประเทศใหญ่ ๆ ในสมัยนั้น คือ ออสเตรีย ฝรั่งเศส อังกฤษ ปรัสเซีย และรัสเซีย ได้รับรองว่า โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม จึงเป็นการจำเป็นที่จะให้รัฐเฮลเวติก(Helvetic Swiss States) ได้รับการประกันความเป็นกลางตลอดไป ทั้งยังประกาศด้วยว่า รัฐสภาของสวิตเซอร์แลนด์ตกลงรับปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ได้ระบุไว้เมื่อไร ความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์ก็จะได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางในทันที และแล้วสมาพันธ์สวิตเซอร์แลนด์ก็ได้ประกาศยอมรับปฏิบัติตาม หรือให้ภาคยานุวัติเมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม ค.ศ. 1815 บรรดาประเทศที่รับรองค้ำประกันความเป็นกลางของสวิตเซอร์แลนด์จึงประกาศ รับรองดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ค.ศ. 1815 อนึ่ง การค้ำประกันความเป็นกลางในลักษณะที่ครอบคลุมทั้งประเทศของรัฐใดรัฐหนึ่ง นั้น มีความแตกต่างกับการค้ำประกันเพียงดินแดนส่วนใดส่วนหนึ่งของรัฐหนึ่ง ซึ่งหมายความว่าดินแดนส่วนหนึ่งของรัฐที่ได้รับการค้ำประกันความเป็นกลางจะ ไม่ยอมให้ฝ่ายใดใช้ดินแดนส่วนที่ค้ำประกันนั้นเป็นเวทีสงครามเป็นอันขาด การค้ำประกันความเป็นกลางยังมีอีกแบบหนึ่งคือ รัฐหนึ่งจะประกาศตนแต่ฝ่ายเดียวว่าจะรักษาความเป็นกลางของตนตลอดไปโดยถาวร แต่ในกรณีเช่นนี้ ความเป็นเอกราชและบูรณภาพของรัฐที่ประกาศตนเป็นกลางเพียงฝ่ายเดียว จะไม่ได้รับการค้ำประกันร่วมกันจากรัฐอื่น ๆ แต่อย่างใดส่วนคติหรือลัทธิความเป็นกลาง (Neutralism) เป็นศัพท์ที่หมายถึงสถานภาพของรัฐต่าง ๆ ที่ไม่ต้องการน้ำประเทศของตนเข้ากับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดในสงครามเย็น ( Cold War) ที่กำลังขับเคี่ยวกันอยู่ระหว่างกลุ่มประเทศภาคตะวันออกกับกลุ่มประเทศภาค ตะวันตก นอกจากนี้ ผู้นำบางคนในกลุ่มของรัฐที่เป็นกลาง ไม่เห็นด้วยกีบการที่ใช้คำว่า ?Neutralism? เขาเหล่านี้เห็นว่าควรจะใช้คำว่า ?ไม่ฝักใฝ่กับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด? ( Uncommitted ) มากกว่าจะเห็นได้ว่า คำว่า ?ความเป็นกลาง? ( Neutrality ) นั้น หมายถึงความเป็นกลางโดยถาวร ซึ่งได้รับการค้ำประกันจากกลุ่มประเทศกลุ่มหนึ่ง เช่นในกรณีประเทศสวิตเซอร์แลนด์ก็ได้หรือหมายถึงความเป็นกลางเฉพาะในดินแดน ส่วนหนึ่งของรัฐที่ไม่ยอมให้ใครเข้าไปทำสงครามกันในดินแดนที่เป็นกลางส่วน นั้นเป็นอันขาดก็ได้ ดังนั้น พอจะเห็นได้ว่า แก่นแท้ในความหมายของความเป็นกลาง ( Neutrality) จึงอยู่ที่ท่าที หรือ ทัศนคติของประเทศที่ดำรงตนเป็นกลาง ไม่ต้องการเข้าข้างประเทศคู่สงครามใด ๆ ในสงคราม ในสมัยก่อนผู้คนยังไม่รู้จักความคิดเรื่องความเป็นกลางดังที่รู้จักเข้าใจ กันในปัจจุบัน ความเป็นกลางเป็นผลมาจากการทยอยวางหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ของความเป็นกลาง นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน [การทูต]
refugeeผู้ลี้ภัย หมายถึง บุคคลที่พึงได้รับสิทธิตามอนุสัญญาว่าด้วยสถานภาพผู้ลี้ภัย ปี พ.ศ. 2494 อาทิ สิทธิในการได้รับความคุ้มครอง การได้รับการพิจารณาให้ไปตั้งถิ่นฐานในประเทศที่สาม การทำงานและการได้รับการศึกษา เป็นต้น [การทูต]
Work of the United Nations on Human Rightsงานขององค์การสหประชาชาติว่าด้วยสิทธิมนุษยชน งานสำคัญชิ้นหนึ่งของสหประชาชาติคือ วควมมปรารถนาที่จะให้ประเทศทั้งหลายต่างเคารพและให้ความคุ้มครองแก่สิทธิ มนุษยชนตลอดทั่วโลก ดังมาตรา 1 ในกฎบัตรของสหประชาติได้บัญญัติไว้ว่า?1. เพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และมีเจตนามุ่งมั่นต่อจุดหมายปลายทางนี้ จะได้ดำเนินมาตรการร่วมกันให้บังเกิดผลจริงจัง เพื่อการป้องกันและขจัดปัดเป่าการคุกคามต่อสันติภาพ รวมทังเพื่อปราบปรามการรุกรานหรือการล่วงละเมิดอื่น ๆ ต่อสันติภาพ ตลอดจนนำมาโดยสันติวิธี และสอดคล้องกับหลักแห่งความยุติธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งการปรับปรุงหรือระงับกรณีพิพาทหรือสถานการณ์ระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การล่วงละเมิดสันติภาพได้ 2. เพื่อพัฒนาสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชาติทั้งปวงโดยยึดการเคารพต่อหลักการ แห่งสิทธิเท่าเทียมกัน และการกำหนดเจตจำนงของตนเองแห่งประชาชนทั้งปวงเป็นมูลฐานและจะได้ดำเนิน มาตรการอันเหมาะสมอย่างอื่น เพื่อเป็นกำลังแก่สันติภาพสากล 3. เพื่อทำการร่วมมือระหว่างประเทศ ในอันที่จะแก้ปัญหาระหว่างประเทศในทางเศรษฐกิจ การสังคม วัฒนธรรม และมนุษยธรรม รวมทั้งการส่งเสริมสนับสนุนการเคารพสิทธิมนุษยชนและอิสรภาพ อันเป็นหลักมูลฐานสำหรับทุก ๆ คนโดยปราศจากความแตกต่างด้านเชื้อชาติ เพศ ภาษา หรือศาสนา 4. เพื่อเป็นศูนย์กลางและประสานการดำเนินงานของประชาชาติทั้งปวงในอันที่จะ บรรลุจุดหมายปลายทางเหล่านี้ร่วมกันด้วยความกลมกลืน"ดังนั้น เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม ค.ศ. 1948 สมัชชาแห่งสหประชาชาติจึงได้ลงข้อมติรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชุมชนระหว่างประเทศ ที่ได้ยอมรับผิดชอบที่จะให้ความคุ้มครอง และเคารพปฏิบัติตามสิทธิมนุษยชนปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ประกอบด้วยข้อความรวม 30 มาตรา กล่าวถึง1. สิทธิของพลเมืองทุกคนที่จะมีเสรีภาพ และความเสมอภาค รวมทั้งสิทธิทางการเมือง2. สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม มาตรา 1 และ 2 เป็นมาตราที่กล่าวถึงหลักทั่วไป เช่น มนุษย์ปุถุชนทั้งหลายต่างเกิดมาพร้อมกับ อิสรภาพ และทรงไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและสิทธิเท่าเทียมกัน ดังนั้น ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพตามที่ระบุในปฏิญญาสากล โดยไม่คำนึงถึงความแตกต่างใด ๆ เชื้อชาติ เพศ ภาษา ศาสนา ความเห็นทางการเมือง หรืออื่น ๆ ต้นกำเนิดแห่งชาติหรือสังคม ทรัพย์สินหรือสถานภาพอื่น ๆ ส่วนสิทธิของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองนั้น ได้รับการรับรองอยู่ในมาตร 3 ถึง 21 ของปฏิญญาสากล เช่น รับรองว่าทุกคนมีสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ มีเสรีภาพและความมั่นคงปลอดภัย มีอิสรภาพจากความเป็นทาสหรือตกเป็นทาสรับใช้ มีเสรีภาพจากการถูกทรมาน หรือการถูกลงโทษอย่างโหดร้าย สิทธิที่จะได้รับการรับรองเป็นบุคคลภายใต้กฎหมาย ได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันภายใต้กฎหมาย มีเสรีภาพจากการถูกจับกุม กักขัง หรือถูกเนรเทศโดยพลการ มีสิทธิที่จะเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้ สิทธิที่จะมีสัญชาติ รวมทั้งสิทธิที่จะแต่งงานและมีครอบครัว เป็นต้นส่วนมาตรา 22 ถึง 27 กล่าวถึงสิทธิทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และทางวัฒนธรรม เช่น มีสิทธิที่จะอยู่ภายใต้การประกันสังคม สิทธิที่จะทำงาน สิทธิที่จะพักผ่อนและมีเวลาว่าง สิทธิที่จะมีมาตรฐานการครองชีพสูงพอที่จะให้มีสุขภาพอนามัย และความเป็นอยู่ที่ดี สิทธิที่จะได้รับการศึกษาและมีส่วนร่วมในชีวิตความเป็นอยู่ตามวัฒนธรรมของ ชุมชน มาตรา 28 ถึง 30 กล่าวถึงการรับรองว่า ทุกคนมีสิทธิที่จะมีขีวิตอยู่ท่ามกลางความสงบเรียบร้อยของสังคมและระหว่าง ประเทศ และขณะเดียวกันได้เน้นว่า ทุกคนต้องมีหน้าที่และความรับผิดชอบต่อชุมชนด้วยสมัชชาสหประชาชาติได้ประกาศ ให้ถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนนี้ เป็นมาตรฐานร่วมกันที่ทุกประชาชาติจะต้องปฏิบัติตามให้ได้ และเรียกร้องให้รัฐสมาชิกของสหประชาชาติช่วยกันส่งเสริมรับรองเคารพสิทธิและ เสรีภาพตามที่ปรากฎในปฏิญญาสากลโดยทั่วกัน โดยเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องสิทธิมนุษยชนนี้ สมัชชาสหประชาชาติจึงลงมติเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ. 1950 ให้ถือวันที่ 10 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันสิทธิมนุษยชนทั่วโลก [การทูต]
Marital Statusสภาวะการแต่งงาน, สถานภาพสมรส [การแพทย์]

ตัวอย่างประโยค จาก Open Subtitles  **ระวัง คำแปลอาจมีข้อผิดพลาด**
The symbol of our status is embodied in this pass which we must carry at all times but which no European even has to have.สถานภาพของเราถูกกำหนดโดยใบผ่านนี้ ซึ่งเราจะต้องนำติดตัวไปตลอด โดยที่คนยุโรปไม่ต้องทำ Gandhi (1982)
The first step towards changing our status is to eliminate this difference between us."ก้าวแรกในการเปลี่ยนสถานภาพของเรา คือขจัดความแตกต่างนี้เสีย Gandhi (1982)
- Status. - Red Queen is locked onto us.สถานภาพ เร็ด ควีน ล็อกเอาไว้ Resident Evil (2002)
Like, how can I help it if she gets turned on by sexual intimacy in places that we know we're gonna get caught?แบบนี้ ผมต้องหาวิธีช่วยเธอ ให้หายจากอาการเซ็กส์หมู่ซะแล้ว สถานภาพอย่างที่เป็นอยู่ ผมต้องจับให้ได้คาหนังคาเขามั้ย Match Point (2005)
How could I not? In this case, we're hoping you'll suspend that position.ในกรณีนี้ เราหวังว่าท่านจะระงับสถานภาพนั้นเอาไว้ก่อน Pilot (2005)
Should you find the need to clarify your status... regarding the details of that relationship... we would of course welcome any clarification you might... feel the need to share with us.คุณควรจะรู้สถานภาพของตัวเองสักที ว่าคุณมีความเกี่ยวข้องอย่างไร เรายินดีที่จะรับฟังความกระจ่าง The Last King of Scotland (2006)
Status is good.สถานภาพสมบูรณ์ The Astronaut Farmer (2006)
-How's he doing?-สถานภาพเขาเป็นยังไง Hollow Man II (2006)
Another area we'll work on is labeling.อีกเรื่องที่เราจะไม่พูดถึงกัน ก็คือ "สถานภาพ" Numb (2007)
You understand what happened, don't you?นายต้องรู้สถานภาพตัวเอง Interference (2007)
I understand your point of view.ฉันเข้าใจสถานภาพของนาย Transporter 3 (2008)
My analysis of the situation leads me to believe that black river is most likely after Charles' research in order to try to get control of Prometheus.จากการวิเคราะห์สถานภาพต่างๆ ทำให้ผมเชื่อว่าแบล็ครีฟเวอร์นั่น เหมือนคอยติดตามงานค้นคว้าของชาร์ลส์อยู่ เพื่อพยายามควบคุมโครงการโพรมิเธียส Knight Rider (2008)
What was not common, however, was the morphology of the sand.ยังไงก็ตาม ที่ไม่ธรรมดาคือสถานภาพของทราย Wrecking Crew (2008)
You get status to protect your business.ลุงจะได้รับสถานภาพการป้องกันในธุระกิจของลุง Patch Over (2008)
Even if you liked him, forget it. I must protect our family's status.ถ้าเจ้าชอบเขาหล่ะก็, ลืมมันซะ ข้าต้องการที่จะปกป้องสถานภาพตระกูลของเรา Hong Gil Dong, the Hero (2008)
Are witnesses to the saddest day in the life of Richard Nixon, his last moments as President of the United States, a moment unlike any other in the history of this country.มีสักขีพยานจำนวนมากในวัน ที่เศร้าที่สุดในชีวิตริชาร์ด นิกสัน ช่วงสุดท้ายในสถานภาพปธน. ของสหรัฐฯ Frost/Nixon (2008)
My job is to figure out how to retain some semblance of government after it falls apart.งานของฉันคือพยายามรักษา สถานภาพของรัฐบาลให้ได้ หลังจากที่โลกถล่มแล้ว 2012 (2009)
We're two people who get turned on by Elite Status. I think cheap is our starting point.เราสองคนรู้จักกันจากสถานภาพชั้นสูงแบบนี้ ฉันคิดว่าเราเริ่มต้นด้วยอะไรที่ถูกๆดีกว่า Up in the Air (2009)
I'm calling you back to active status.ผมติดต่อคุณไป ให้กลับมาดำรงสถานภาพ Fracture (2009)
Ethnographic studies of the suburbs indicate a cultural impulsion toward overt displays of status.การศึกษาด้านชาติพันธุ์วรรณา ในกลุ่มคนย่านชานเมือง พบว่ามีตื่นตัวทางวัฒนธรรม สูงกว่าการเปิดเผยตัว ด้านสถานภาพ The Beautiful Day in the Neighborhood (2009)
I mean, you two are arguing about status at a collegeอย่างคุณสองคนที่เถียงกัน เรื่องสถานภาพของตัวเองในวิทยาลัยนี้ Advanced Criminal Law (2009)
Were you aware of any, uh, marital problems?คุณรู้เรื่องสถานภาพชีวิต การแต่งงานเขามั้ย? There Is No Normal Anymore (2009)
Her situation is completely different to you.สถานภาพของนางสมบูรณ์แบบไม่ต่างจากเจ้า The Nightmare Begins (2009)
What's the status of the Chinese nationals?สถานภาพของคนจีนพวกนั่น เป็นอยางไรบ้าง? Snakehead (2009)
And I'll still have my marriage.ส่วนฉันก็ยังได้สถานภาพการแต่งงาน The Debarted (2009)
"Relationship Status." "Interested In.""สถานภาพ" "ความสนใจ" The Social Network (2010)
And a growing understanding of his place in the world.และโตขึ้นอย่างเข้าใจ สถานภาพของเขาในโลกนี้ Mosley Lane (2010)
Best to come to terms with that sooner than later.รู้สถานภาพตัวเองยิ่งเร็วยิ่งดี Chuck Versus the Tooth (2010)
The people entombed in amber are in a state of suspended animation.ประชาชนที่ถูกฝังอยู่ในผลึก จะอยู่ในสถานภาพถูกระงับการเคลื่อนไหว Amber 31422 (2010)
Oh, I made you bring the Resident Registration because...อ่อ, ฉันทำขึ้นเพื่อให้เธอได้รู้ถึงสถานภาพเนื่องจาก... .. Episode #1.16 (2010)
And I respect the institution of marriage way too much to violate it.ฉันเคารพสถานภาพแต่งงาน เกินกว่าจะทำลายมัน Horrible Bosses (2011)
Good morning, Mrs. Latham.สถานภาพทางสังคม The Benefactor Factor (2011)
Garcia, what's Shelly's marital status?การ์เซีย, เชลลี่มีสถานภาพทางสมรสเป็นอะไร? Hanley Waters (2011)
I am accepting financial and legal responsibility for the baby.ผมได้รับรองสถานภาพทางการเงิน และสภาพทางกฎหมาย เพื่อรับผิดชอบลูกในท้องคุณ Traffic (2011)
If a woman leaves the relationship status on her profile page empty, does that generally mean that she is single or that she is taken?ถ้าผู้หญิงไม่เขียนสถานภาพ ไว้มนหน้าประวัติ ปกติแล้วแปลว่าเธอโสด หรือมีแฟนแล้ว Mea Makamae (2011)
Socioeconomic breakdown's all over the map.มีสถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคม ทุกประเภท Self Fulfilling Prophecy (2011)
How do you feel about the state of this newspaper as it stands today.คุณรู้สึกยังไงกับสถานภาพของ... เดลี่ เซนติเนล อย่างที่เป็นในเวลานี้ The Green Hornet (2011)
Status of weps.สถานภาพอาวุธ Battleship (2012)
Status of turret one?สถานภาพปืนใหญ่กระบอกที่ 1 Battleship (2012)
Status of turret two?สถานภาพปืนใหญ่กระบอกที่ 2 Battleship (2012)
Status of turret three?สถานภาพปืนใหญ่กระบอกที่ 3 Battleship (2012)
Fire control, weapons status?คลังสรรพาวุธ สถานภาพอาวุธเป็นยังไง Battleship (2012)
Status of weapons?สถานภาพอาวุธเป็นยังไง Battleship (2012)
Marital status?สถานภาพการสมรสล่ะ? Stealing Home (2012)
Garcia, how are each of the couples' financials?การ์เซีย สถานภาพ ทางการเงินของทั้งคู่เป็นไง I Love You, Tommy Brown (2012)
And when you do, the state's gonna institutionalize him, and they're gonna put Jake someplace unbearably far away from the both of us.และเมื่อถึงตอนนั้น, ทางรัฐ ก็จะปรับเปลี่ยนสถานภาพเขา และพวกเขาก็จะส่งเจค ไปอยู่ที่อื่น ที่ไกลจากเราทั้งคู่ Noosphere Rising (2012)
The Code Noir, a decree that dictated the conditions of slavery, did not exist on these grounds.รหัสดำ พระราชกฤษฎีกาที่ควบคุม สถานภาพของทาส ไม่มีในพื้นที่เหล่านี้ Bitchcraft (2013)
Personally, I looked at Ennis' circumstances, ฉันมองที่สถานภาพของเอินนิส Visionary (2013)
All Fives must be cleansed of their Five filth and reduced to oneness.ระดับ 5 ทุกคนต้องถูกถอด สถานภาพอันน่ารังเกียจ แล้วลดขั้นให้เหลือระดับ 1 App Development and Condiments (2014)
Oh, great mother of Ones, mustard-faced savior, there is still a Five hiding among us that has not been cleansed.พระผู้มีมัสตาร์ดบนใบหน้า ยังเหลือระดับ 5 ที่ไม่ได้ ถูกถอดสถานภาพอีกคน App Development and Condiments (2014)

Thai-English-French: Volubilis Dictionary 1.0
สถานภาพ[sathānnaphāp] (n) EN: status ; condition  FR: statut [ m ] ; condition [ f ]
สถานภาพการทำงาน[sathānnaphāp kān thamngān] (n, exp) EN: work status
สถานภาพปัจจุบัน[sathānnaphāp patjuban] (n, exp) EN: status quo
สถานภาพสมรส[sathānnaphāp somrot] (n, exp) EN: marriage status
สถานภาพทางการศึกษา[sathānnaphāp thāng kānseuksā] (n, exp) EN: educational status
สถานภาพทางกฎหมาย[sathānnaphāp thāng kotmāi] (n, exp) EN: legal status
สถานภาพทางสังคม[sathānnaphāp thāng sangkhom] (n, exp) EN: social status  FR: statut social [ m ]

English-Thai: NECTEC's Lexitron-2 Dictionary [with local updates]
be better off without(phrv) (สถานภาพหรือตำแหน่ง) แย่ลงกับ (การกระทำบางสิ่ง)
be of(phrv) มี (ความรู้สึก, คุณภาพ, สถานภาพฯลฯ)
be out of(phrv) เป็นอิสระจาก, See also: เลิก สถานภาพหรือการมีสภาพบางอย่าง, Syn. get into
bring down(phrv) ทำให้สถานภาพลดลง, See also: ทำให้ตกต่ำลง, Syn. hand down
character(n) สถานภาพ, See also: สถานะ, ตำแหน่ง, Syn. status
know one's place(idm) รู้จักสถานภาพหรือตำแหน่งฐานะ
out of the frying-pan into the fire(idm) มีสภาพแย่ยิ่งกว่าเดิม, See also: เปลี่ยนสถานภาพจากเดิมที่แย่อยู่แล้วให้แย่ลงไปอีก
marital status(n) สถานภาพ (โสด ม่ายหรือแต่งงาน)
neutrality(n) ความเป็นกลาง, See also: สถานภาพเป็นกลาง, สถานะที่เป็นกลาง, Syn. impartiality
outrank(vt) มีตำแหน่งหรือสถานภาพสูงกว่า
peer(n) ผู้เท่าเทียมกัน (ด้านความสามารถ คุณสมบัติ อายุ สถานภาพ), Syn. associate, colleague, comrade
position(n) ระดับทางสังคม, See also: สถานภาพ, สภาพ, Syn. status, condition
silver spoon(n) สังคมชั้นสูง, See also: สถานภาพสังคมชั้นสูง
situation(n) สถานการณ์, See also: สภาพ, สถานภาพ, ตำแหน่งที่ตั้ง, สถานที่ตั้ง, Syn. condition, state, affairs, position, place
status(n) สถานภาพ, See also: สภาพ, สถานะ
status quo(n) สถานภาพปัจจุบัน, See also: สถานภาพที่เป็นอยู่, ฐานะที่เป็นอยู่, สภานการณ์ที่เป็นอยู่
throw(vt) ทำให้ออกไปจาก, See also: ไล่ออก, ทำให้หมดสถานภาพจาก
upgrade(vi) ยกระดับ, See also: ยกฐานะ, ยกสถานภาพ, Syn. improve, update

English-Thai: HOPE Dictionary [with local updates]
statehood(สเทท'ฮูด) n. ความเป็นมลรัฐ, สถานภาพที่เป็นมลรัฐ

German-Thai: Longdo Dictionary
Lage(n) |die, pl. Lagen| สถานการณ์, สถานะ, สถานภาพ
Bonität(n) |die| สถานภาพทางการเงิน, ประวัติด้านการเงิน
alsในฐานะ (ใช่บ่งสถานภาพ) เช่น ich als Chemiker ฉันในฐานะนักเคมี
Studienbescheinigung(n) |die, pl. Studienbescheinigungen| ใบรับรองสถานภาพการศึกษา (ในนี้ จะบอกถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการศึกษาของนักศึกษา เช่น สถาบัน, คณะ, ภาคการศึกษาที่กำลังศึกษาอยู่ปัจจุบัน และรายละเอียดที่สำคัญเกี่ยวกับเจ้าตัวเองด้วย, โดยส่วนมากแล้ว ทางสถาบันจะออกใบรับรองนี้เป็นรายเทอม)
verheiratet[แฟ ไฮ รา เท็ท] (adj) แต่งงานแล้ว, มีสถานภาพสมรส เช่น Sind Sie verheiratet oder ledig?, See also: A. ledig

French-Thai: Longdo Dictionary
citoyenneté(n) |f| สถานภาพการเป็นพลเมือง
marié(adj) |f. mariée| แต่งงานแล้ว, มีสถานภาพสมรส, Ant. célibataire

เพิ่มคำศัพท์


ทราบความหมายของคำศัพท์นี้? กด [เพิ่มคำศัพท์] เพื่อใส่คำนี้พร้อมความหมาย เพื่อเป็นวิทยาทานแก่ผู้ใช้ท่านอื่น ๆ


Are you satisfied with the result?



Discussions

ว่าด้วยโฆษณา
เราทราบดีว่าท่านผู้ใช้คงไม่ได้อยากให้มีโฆษณาเท่าใดนัก แต่โฆษณาช่วยให้ทาง Longdo เรามีรายรับเพียงพอที่จะให้บริการพจนานุกรมได้แบบฟรีๆ ต่อไป ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
Go to Top